3

3

3

สัปดาห์ต่อมา

เพราะความช่วยเหลือของปวิน และผลงานซึ่งเป็นที่ประจักษ์จากการควบคุมและจัดการคนงานในไซต์งานได้อยู่หมัดทั้งที่เป็นเพียงผู้หญิงตัวเล็กๆ คริษฐาจึงได้เซ็นสัญญากับบริษัทอีกครั้ง

ร่างสูงโปร่งสวมเสื้อยืดกางเกงยีนดูคล่องตัวก้าวเข้ามาภายในบริษัท NTK Interior Architect ซึ่งเป็นสถานที่ทำงานด้วยใบหน้ามุ่งมั่น

บริษัทแห่งนี้เป็นบริษัทก่อสร้างครบวงจร ไม่ว่าจะบ้าน คอนโดมิเนียม หรือสถาปัตยกรรมต่างๆ ภายในบริษัทมีทั้งสถาปนิก มัณฑนากร วิศวกร และทีมงานก่อสร้าง โครงการในความรับผิดชอบของบริษัทมีทั้งในและนอกประเทศ จึงเป็นบริษัทออกแบบและก่อสร้างซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีในวงกว้าง คริษฐานึกย้อนถึงความจริงข้อนี้แล้วก็อดภูมิใจไม่ได้

ในที่สุดก็ได้กลับมาทำงานที่นี่อีกครั้งทั้งที่ไม่เคยวาดฝันว่าจะได้กลับมา...จะไม่ให้ดีใจได้อย่างไรล่ะ

สองวันก่อน

‘ที่นี่มีสถาปนิกมากมาย ไม่ขาดแคลน...’ หลังจากที่เงียบมานานนริศหรือบอสนิคของทุกคนในบริษัทก็เอ่ยขึ้น

ประโยคนั้นของนริศทำเอาคนฟังใจแป้วไม่น้อย ไม่ต่างจากปวินที่นั่งอยู่ข้างๆ เพื่อนสาว ทว่าเพียงไม่กี่นาทีทั้งคู่ก็ต้องอุทานด้วยความตกใจกับคำพูดต่อจากนั้นของนริศ

‘เราไม่ขาดแคลนสถาปนิกฝีมือดี แต่สถาปนิกหญิงที่มีประสบการณ์และสามารถจัดการกับปัญหาของพวกผู้ชายในไซต์ได้อย่างเคทเรามีน้อยมาก ยินดีที่ได้ร่วมงานกันอีกครั้ง’ 

‘เฮ้ย...พี่นิคพูดจริงนะ’ 

‘ก็จริงน่ะสิ พวกนายเล่นไปสร้างผลงานกันไว้แล้วแบบนี้พี่จะไม่รับได้ยังไงล่ะ’ นริศชี้แจงก่อนจะส่งยิ้มให้เพื่อนสนิทของน้องชายภรรยา 

ไม่รู้จะพูดว่าปวินเตรียมการมาดี หรือเพราะคุณสมบัติและนิสัยใจคอของคริษฐากันแน่ที่ทำให้เขายอมรับ แต่จากรายงานการทำงานของคริษฐาที่ปวินพามาช่วยงานที่ไซต์งานก็ทำให้เขารู้สึกได้ว่าคริษฐาเหมาะกับการเป็นสถาปนิกของบริษัทนี้

คริษฐายิ้มอย่างยินดี เธอไม่คิดเลยว่าการที่เธอจัดการกำราบคนงานที่คิดจะมาคุกคามเธอจะทำให้เธอได้กลับมาทำงานที่บริษัทนี้อีกครั้ง

‘ความจริงแค่เห็นเราที่ไซต์งานวันแรกพี่ก็จะรับแล้วนะ เพราะพี่เห็นพวกเธอมาตั้งแต่สมัยเรียน พี่รู้ถึงความสามารถและศักยภาพของพวกเธอ แต่พี่กำลังจะเปลี่ยนมือให้น้องชายมาบริหาร การจะรับใครเข้ามาพี่ต้องหาเหตุผลก่อน ไม่อย่างนั้นเขาจะหาว่าพี่รับเด็กเส้นเข้ามา พี่ก็เลยให้ลองทำงานก่อนเป็นอาทิตย์ไง’ 

‘พี่นิคไม่โกรธเหรอคะ ที่ครั้งก่อนเคทเลือกลาออก’ 

‘ทุกคนมีเหตุผลของตัวเอง เหตุผลของเคทก็ไม่ใช่เรื่องไม่ดี พี่เห็นด้วยด้วยซ้ำกับการตัดสินใจครั้งนั้นของเคท แต่รอบนี้น่ะ ไม่ว่ามีอะไรเกิดขึ้น อย่าลาออกจนกว่าจะหมดสัญญานะ มีหลายโครงการเลยที่พี่คิดว่าเหมาะกับสไตล์ของเธอ’ 

‘ค่ะ เคทจะไม่ลาออก จะตั้งใจทำงานค่ะบอส’ หญิงสาวรับคำก่อนจะอมยิ้ม ในที่สุดเธอก็มีงานทำและได้ทำงานตามที่เคยวาดฝันมาแล้ว...สุขใดเล่าจะเท่าได้ทำในสิ่งที่ชอบ

‘พี่เชื่อว่าเรื่องงานเคทจัดการได้ดี ส่วนเรื่องเพื่อนร่วมงานพี่ก็หวังว่าเคทจะจัดการได้ดีเช่นกันนะ’ 

‘ทำไมล่ะคะ’ 

‘ก็เพื่อนเราเขาเสน่ห์แรง สาวๆ ติดตรึม วันนี้เราเข้ามากับปราน เดี๋ยวต้องมีคนที่คิดว่าเราเป็นกิ๊กเป็นกั๊กกับปราน...พี่หวังว่าเคทจะจัดการได้นะ’ จบคำพูดนริศก็เลี่ยงไปคุยโทรศัพท์ 

ปวินยิ้มแหยส่งให้ เพียงแค่นั้นคริษฐาก็เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร

...ไอ้เพื่อนบ้านี่ ที่เสนอตัวช่วยให้เธอได้งานและให้เธอไปช่วยงานก็เพื่อสร้างข่าวลือให้เธอเป็นตัวหลอกรับหน้าสาวๆ แทนแฟนตัวจริงนี่เอง

 

ปัจจุบัน

“แกๆ ดูนั่นสิ นั่นไงสถาปนิกคนใหม่ที่เขาว่าเป็นกิ๊กพี่ปรานน่ะ”

“ใช่เหรอแก”

เสียงกระซิบกระซากที่ดังเข้ามาในโสตประสาททำให้คนที่เผลอย้อนคิดถึงเรื่องที่เธอเสียรู้เพื่อนเข้าอย่างจังต้องตื่นจากภวังค์...นี่คือสิ่งที่เธอจะต้องเจอเพราะการเสียรู้เพื่อนในวันนั้นอย่างไรล่ะ

“ฉันว่าใช่”

“แน่เหรอ”

เสียงกระซิบกระซาบยังคงดังให้ได้ยิน คริษฐาลอบกลอกตาก่อนจะหันหน้าไปหาสองสาวที่กำลังกระซิบกันอยู่ “สงสัยอะไรไม่ต้องกระซิบกระซาบกันก็ได้นะคะ ถามเจ้าตัวได้ ไม่กัดค่ะ”

“เอ่อ...”

“คุณเป็นอะไรกับพี่ปรานคะ” หนึ่งสาวตกใจ แต่อีกหนึ่งสาวใจกล้าถามออกมาตรงๆ 

...โอเค เธอบอกว่าถามได้ อีกฝ่ายกล้าถามมาก็ไม่ใช่เรื่องแปลก

“นะ...นั่นสิ คุณเป็นอะไรกับพี่ปราน”

“เป็น...” หญิงสาวลากเสียงยาวก่อนจะยักไหลอย่างยียวน “เป็นอะไรดีล่ะ”

สองสาวผู้กล้าถึงกับอ้าปากค้าง สถาปนิกสาวแอบขำกับท่าทีนั้นของสาวๆ ก่อนจะบอกด้วยน้ำเสียงยียวน “ขอโทษนะคะ ฉันยังนึกไม่ออกว่าจะเป็นอะไรดี ไว้นึกออกแล้วจะมาตอบนะคะ ขอตัวค่ะ”

คริษฐาไม่อยากสร้างศัตรู แต่หญิงสาวก็ขี้เกียจที่จะทำตัวใสๆ กับสองสาวที่ท่าทางดูเกรงใจ แต่สายตาไม่ได้เป็นมิตรเลยแม้แต่น้อย ก็เนื้อแท้แล้วเธอไสยๆ ไม่ใช่ใสๆ นี่นา

หญิงสาวไม่สนใจว่าสองสาวพนักงานจะมีท่าทีอย่างไร เธอยังคงเดินตรงไปยังเส้นทางที่เธอมาดหมายจะไปก่อนจะต้องหยุดนิ่งหันกลับไปมองด้านหลังเมื่อเห็นว่าสายตาหลายคู่มองไปยังด้านหลังเธอ

สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือร่างสูงในชุดสูทเนี้ยบตั้งแต่หัวจดเท้า รูปหน้ารวมๆ คล้ายกับนริศ...หรือนี่จะเป็นท่านประธานคนใหม่

ชายร่างสูงก้าวผ่านหน้าคริษฐาและพนักงานที่อยู่แถวนั้นไปโดยไม่ได้สนใจ ทว่ากลับทำให้หลายคนตกหลุมเสน่ห์จนต้องเอี้ยวคอมองตาม รวมถึงคริษฐาที่มองตามร่างสูงไปจนสุดสายตาก่อนจะกลอกตา...หล่อเหลือเกินละพ่อคุณ

เธอละเบื่อคนที่มีบุคลิกแบบผู้ชายที่เพิ่งเดินผ่านไปนี่เสียจริง ขรึมๆ ลึกลับๆ...ไม่ปลื้มเลยสักนิด

เช้านี้สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือการแนะนำตัวท่านประธานคนใหม่ที่เข้ามารับช่วงแทนนริศ บอสคนใหม่ของ NTK Interior Architect มีชื่อว่านนทกร หรือนนท์ ชายหนุ่มอาศัยอยู่ต่างประเทศมาโดยตลอดและจบปริญญาโทด้านการบริหารมาจากสถาบันการศึกษาชั้นนำของโลก สาวๆ ในบริษัทต่างก็มีความเห็นตรงกันว่าบอสคนใหม่เป็นหนุ่มหล่อเพียบพร้อมที่สาวๆ พร้อมจะยกหัวใจให้ครอบครอง ทำเอาปวินที่เคยถูกยกให้เป็นหนุ่มหล่อในฝันประจำบริษัทถึงกับโดนลดขั้นลงมาเป็นที่สองไปโดยปริยาย

“หล่อขนาดนั้นเชียว เหอะ ไม่เห็นหล่ออะ” จิรชาพูดด้วยน้ำเสียงหมั่นไส้ในความนิยมของบอสคนใหม่ก่อนจะเบ้ปากมองบน...เธอไม่เห็นว่าบอสคนใหม่จะหล่อตรงไหนเลย สู้ผู้ชายหล่อๆ หลายคนที่เธอรู้จักก็ไม่ได้

“เออ ฉันก็ว่า ไม่เห็นจะหล่อเลย” คริษฐาแทรกเสียงขึ้น เธอเห็นด้วยกับจิรชาและรู้สึกได้ว่าที่สาวๆ ในบริษัทพูดกันนั้นมันเกินความจริงไปเยอะ

“ใช่ซี้ ชีวิตพวกแกห้อมล้อมด้วยผู้ชายหล่อนี่ พวกแกเลยเห็นว่าธรรมดา แต่จะบอกให้นะชะนี...” กรินยกรแย้งก่อนจะสาธยายตามความรู้สึก “บอสนนท์น่ะอย่างหล่ออะแก ฉันไม่เคยเห็นใครดูลึกลับน่าค้นหาแบบบอสนนท์มาก่อนเลย แบบว่า...อยากเข้าไปค้นหาใกล้ๆ เลยว่ะ”

“ตุ๊ดแรด” สองสาวเอ่ยพร้อมกันก่อนจะส่ายหน้า เจอผู้ชายคนไหนกล้ามใหญ่ๆ หน้าตาดีๆ หน่อยกรินยกรก็เป็นอย่างนี้ตลอดนั่นละ ทำไมพวกเธอจะไม่รู้

“แหม...เรื่องด่าฉันนี่สามัคคีกันจังนะยะ แต่ช่างเถอะ ฉันยอมเป็นตุ๊ดแรดเพื่อบอสนนท์คนหล่อ”

“จ้ะ” สองสาวที่ไม่ได้มองว่านนทกรหล่อเหลาอย่างที่สาวๆ พูดถึงกันตอบรับอย่างประชดก่อนจะมองบน...กรินยกรเป็นเอามากเสมอเมื่อเจอผู้ชายหล่อ

“เชอะ พวกแกมันตาถั่ว บอสนนท์นะหล่อเหมาะสมจะเป็นพ่อของลูก”

“เพ้อเจ้อแล้วเกรซซี่ แกมีมดลูกเหรอ”

“นี่ๆ ไอ้ผู้ชายขี้อิจฉา แกไม่ต้องแสดงความเห็น ฉันรู้ว่าแกอิจฉาที่ทุกคนเห็นว่าบอสนนท์เหมาะจะเป็นสามีแห่งชาติของบริษัท แกไม่ต้องแสดง”

“เออๆ ไอ้ปรานมันขี้อิจฉา เหอะ ไปทำงานกันเถอะเคท ปล่อยไอ้กรินทร์มันปลื้มของมันไป” ปวินส่ายหน้าประชดใส่กรินยกรด้วยชื่อแรกเกิดของเพื่อนชายใจสาว ก่อนจะลุกขึ้นชวนคริษฐาไปยังไซต์งานโดยไม่สนใจเสียงโวยวายของกรินยกร หรือกรินทร์ที่ไม่ค่อยชอบให้เรียกชื่อเก่าที่มีความหมายว่าพญาช้างสักเท่าไหร่

เพราะยังไม่มีโครงการใหม่เข้ามาปวินจึงขอให้คริษฐามาช่วยงานตนไปก่อน เวลาที่เขาจะไปไซต์งานจึงต้องชวนคริษฐาไปด้วย ซึ่งหญิงสาวก็ไม่ได้ปฏิเสธแต่อย่างใด...

“จริงๆ เล้ย เกรซซี่ก็ยังเป็นเกรซซี่ เพ้อแต่เรื่องผู้” ไปทำงานดีกว่ามานั่งฟังกรินยกรเพ้อถึงท่านประธานคนใหม่

“ก็คุณนนท์เขาหล่อจริงนี่หว่า ไม่คิดอย่างนั้นเหรอ?”

“หล่อตรงไหน ขี้เก๊กซะมากกว่า เห็นแล้วเฉยๆ อะ” หญิงสาวส่ายหน้าพร้อมกับยักไหล่ 

ปวินฟังจบไม่วายส่งเสียงล้อเลียนขึ้นทันใด

“ฮั่นแน่ หล่อสู้เฮียคีย์ไม่ได้อะดิ แกถึงว่าไม่หล่อ หลงผัวนะเราเนี่ย”

“ไม่ได้หลง และอีกอย่าง...ไม่ใช่ผัวด้วย อดีตย่ะ อดีตผัว ไม่ใช่ผัว” เธอแย้ง ก่อนจะพยายามตีหน้าดุใส่ปวินให้หยุดพูด แต่ปวินก็ยังไม่วายล้อต่อ

“อดีตแน่เร้อ”

“สักเปรี้ยงมั้ยจะได้มั่นใจว่าแน่”

“กลัวแล้วจ้า ฮ่าๆๆ”

“ปากหมา” ริมฝีปากจิ้มลิ้มว่าเข้าให้ ก่อนคริษฐาจะก้าวนำร่างสูงไปราวกับคนรู้ทาง ปวินหัวเราะน้อยๆ แล้วจึงเดินตามไป

ขณะที่สถาปนิกทั้งสองคนของ NTK กำลังเดินตามกันไปอยู่นั้น ทั้งคู่ไม่รู้เลยว่าตลอดทางมีคนที่เดินตามมาและได้ยินสิ่งที่ทั้งคู่คุยกันตั้งแต่ต้น

คนร่างสูงหยุดเดิน ทว่าสายตายังคงจับจ้องไปยังคู่หนุ่มสาวที่เขารู้จักแค่ฝ่ายชาย ก่อนจะเอ่ยถามคนที่เดินตามมา “ผู้หญิงที่คุยกับคุณปรานเป็นใคร”

“สถาปนิกที่คุณนิคเพิ่งรับเข้ามาทำงานน่ะค่ะคุณนนท์ ชื่อคริษฐา” เลขานุการส่วนตัวที่เคยทำงานกับนริศมาก่อนตอบตามความเข้าใจของตน “ได้ยินว่าวันนี้เริ่มงานวันแรกด้วยนะคะ ไล่ออกเลยดีมั้ยคะ”

“ทำไมต้องไล่ออก”

“ก็หล่อนนินทาคุณนะ...”

“ผมไม่ได้วัดคนที่ฝีปาก ผมวัดที่ฝีมือ ผมจะไม่ไล่ใครออกถ้าเขามีฝีมือ ต่อให้ฝีปากเขาจะร้ายแค่ไหนก็ตาม คุณเข้าใจที่ผมพูดมั้ย” นนทกรแย้งขึ้นก่อนที่ริสาจะเอ่ยจบแล้วก้าวเดินต่อ

ริสาไม่พอใจกับคำตอบที่ได้ รีบก้าวตามไปก่อนจะเอ่ยตามความเข้าใจของตน “แต่ยัยคนนี้ไม่ได้เข้ามาด้วยฝีมือนะคะ นางเข้ามาเพราะเส้น”

“เพราะเส้น?”

“ค่ะ คุณปรานเป็นคนพาเข้ามา คุณนิคน่ะรักภรรยาจะตายจะขัดใจน้องเมียได้ยังไง ฝีมือก็ไม่รู้ว่ามีมั้ย เด็กฝากเด็กเส้นแบบนั้นจะได้สักกี่น้ำกันคะ”

นนทกรคิดตามคำบอกเล่าแต่ยังไม่ปักใจเชื่อเสียทีเดียว เพียงครู่เดียวก็ถามออกไป “คุณคิดว่าสองคนนั้นจะไปไหนกัน”

“คุณปรานคงไปดูงานที่โครงการสร้างคอนโดแถวรัชดาค่ะ เธอคนนั้นก็คงตามไปเพราะคุณปรานขอคุณนิคไว้ให้มาช่วยงานจนกว่าจะมีโครงการใหม่เข้ามา”

“ผมจะไปที่นั่น ไม่ต้องแจ้งล่วงหน้า”

“ค่ะ” ริสาตอบรับก่อนจะลอบยิ้ม นนทกรไปดูงาน ถ้าเห็นแม่นั่นอู้งานหรือทำงานไม่เป็น คราวนี้ละแม่นั่นจะต้องถูกไล่ออกแน่นอน

ริสาไม่เคยมีเรื่องบาดหมางกับคริษฐา แต่เธอหลงรักปวินมานาน อยู่ดีๆ ก็มีคริษฐาเข้ามาแบบนี้ มีหรือเธอจะยอม...เธอจะทำให้ยายนั่นโดนไล่ออกให้ได้

 

หลายนาทีต่อมา

ดวงตาคู่คมจ้องมองร่างบางสูงโปร่งที่ยืนพูดคุยอยู่กับวิศวกรที่ควบคุมการก่อสร้างอย่างพิจารณาก่อนจะขมวดคิ้ว...นี่น่ะหรือเด็กเส้น

เด็กเส้นที่ทำงานวันแรกก็พูดคุยกับวิศวกรราวกับเป็นสถาปนิกเจ้าของแบบแปลนเอง แบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ

“เคทมีความสามารถมากพอที่จะเป็นสถาปนิกของ NTK คุณนนท์ไม่ต้องกังวลไปหรอก ผมไม่ได้เอาคนไม่เป็นโล้เป็นพายเข้ามาหรอกนะ” ปวินที่ยืนอยู่ข้างๆ เอ่ยเมื่อเห็นว่าสายตาของเจ้านายที่อยู่ๆ ก็มาดูความเรียบร้อยของโครงการจับไปที่เพื่อนสาวของเขา...

เดาได้ไม่ยากว่าอีกฝ่ายมาที่นี่เพราะมีใครเป่าหูเรื่องเคทอย่างแน่นอน

“ถ้าคุณมั่นใจ ผมก็คงทำได้แค่รอดู” นนทกรตอบกลับ ทว่าสายตายังคงไม่ละไปจากสาวร่างบางที่ยังคงพูดคุยอยู่กับวิศวกรอย่างจริงจัง 

คริษฐาไม่เหมือนกับผู้หญิงหลายๆ คนที่เขาเคยพบเจอ หญิงสาวไม่ถึงกับห้าว แต่ก็ไม่ได้อ่อนหวานเหมือนกับผู้หญิงคนอื่นๆ คนงานที่เดินผ่านไปผ่านมานอกจากแอบมองเธออย่างหลงใหลแล้วยังมีความเคารพอยู่ในที บ่งบอกว่าก่อนหน้านี้เธอทำให้พวกเขาเหล่านั้นได้เห็นแล้วว่าเธอไม่ใช่ผู้หญิงอ่อนแอที่รังแกกันได้ง่ายๆ...

ยิ่งมอง ก็ยิ่งรู้สึกว่าน่าสนใจ

“รอดูได้ แต่อย่าดูนาน เดี๋ยวตำรวจจับ” ปวินบอกคนที่ยังคงมองเพื่อนของเขาอย่างสนใจ ก่อนจะเดินผละออกไปโดยไม่อธิบายในประโยคท้าย

ปวินก้าวไปหาเพื่อนสาวก่อนจะแบมือให้ “ขอกุญแจรถหน่อย จะกลับไปเอาของที่บริษัท”

หญิงสาวหยิบกุญแจรถยื่นให้ แต่ก็ชักมือกลับเมื่อนึกขึ้นได้ “ขากลับเอาโกโก้ปั่นมาฝากด้วย รับปากก่อนแล้วจะให้”

“เออ เดี๋ยวจัดแก้วใหญ่ๆ ให้เลย” ปวินรับคำอย่างจนใจ เพราะไม่อยากเปลืองน้ำมันเขาเลยติดรถคริษฐามาที่ไซต์งาน แต่ดูแล้วการติดรถยัยคนนี้มาก็ไม่ได้ทำให้เขาประหยัดเท่าที่ควรจะเป็น 

ปวินเดินจากไปแล้ว คริษฐาก็เดินดูสิ่งก่อสร้างต่อโดยไม่ได้สนใจว่าใครจะมองมา

 

ขณะที่คริษฐากำลังสนใจงาน นนทกรที่คิดว่าตัวเองควรเลิกมองสถาปนิกสาวได้แล้วก็ถอนสายตาจากเธอและเดินไปอีกทาง เขาบอกปวินว่าจะมาตรวจดูความคืบหน้าของโครงการ เขาก็ต้องมาดูจริงๆ จะมัวแต่มามองเด็กเส้นที่ดูจะมีฝีมือพอตัวคงไม่ได้

นนทกรก้าวช้าๆ มองความคืบหน้าของสิ่งก่อสร้าง ก่อนจะหยุดฟังเมื่อได้ยินเสียงพูดคุยของคนงานที่แอบนั่งอู้กันอยู่

“สถาปนิกผู้หญิงนั่นโคตรแจ่มเลยว่ะ หน้าก็สวย อกเป็นอก เอวเป็นเอว ข้างนอกดูเท่ๆ ลุยๆ ไม่รู้ข้างในจะเป็นยังไง”

“จะเป็นยังไงล่ะวะ ก็คงจะขาวน่าฟัดน่ะสิ”

“พวกเอ็งอย่าทะลึ่งสิวะ จำกันไม่ได้เหรอที่โดนจับทุ่มกันมาหลังแทบหักเมื่อวันก่อนน่ะ”

“เหอะ ก็แค่ผู้หญิงที่รู้ศิลปะป้องกันตัวนิดหน่อยจะไปกลัวทำไมวะ ถ้ามีโอกาสนะพ่อจะฟัดให้ร้องขอชีวิตเลย”

“อย่าพูดดังไปไอ้ทิม เดี๋ยวมีใครมาได้ยินเข้ามันจะเป็นเรื่อง”

“เหอะ ไอ้ขี้ขลาดเอ๊ย”

นนทกรยืนฟังบทสนทนาของคนงานวัยฉกรรจ์เพียงเท่านั้นก็หันหลังกลับ และก้าวไปหาคริษฐาซึ่งยืนคุยงานอยู่กับวิศวกรหนุ่ม ก่อนจะหยุดยืนด้านหน้าของทั้งสองคน นิ่งไปครู่หนึ่งแล้วจึงเอ่ยถาม “พวกคุณสองคนเห็นคุณปรานรึเปล่า”

“ปรานไปเอาของที่บริษัทน่ะค่ะ มีอะไรรึเปล่าคะ”

“ผมอยากดูความคืบหน้าของโครงการ ในเมื่อคุณปรานไม่อยู่ คุณสองคนก็นำทางแล้วก็อธิบายแทนหน่อยก็แล้วกัน” คำของเขาไม่ใช่คำขอร้อง แต่เป็นคำสั่งที่คริษฐาและวิศวกรหนุ่มไม่สามารถขัดได้ หนึ่งสถาปนิกและหนึ่งวิศวกรจึงต้องพานนทกรชมความคืบหน้าของการก่อสร้างอย่างเลี่ยงไม่ได้

วิศวกรหนุ่มแปลกใจไม่น้อยที่คนที่เพิ่งเข้ามาเป็นประธานดูกระตือรือร้นแปลกๆ แต่นนทกรรู้ดีว่าตัวเขากำลังทำอะไรอยู่ การที่เขาให้ความสนใจสถาปนิกคนใหม่อาจจะทำให้คนที่คิดร้ายกับหญิงสาวหยุดความคิดเลวๆ ไปได้บ้าง

การเดินดูพื้นที่ก่อสร้างดำเนินไปสักพักก็ต้องหยุดลงเมื่อวิศวกรหนุ่มขอตัวไปรับโทรศัพท์ด้วยท่าทีรีบร้อน ทิ้งให้สถาปนิกสาวและประธานหนุ่มอยู่กันเพียงลำพัง

เมื่อเหลือกันเพียงสองคนคริษฐาที่เห็นสมควรว่าควรจะรอวิศวกรของงานกลับมาก่อนจึงเอ่ยขึ้น “เอ่อ พักตรงนี้ก่อนมั้ยคะ”

“ก็ดี”

เมื่อไม่มีวิศวกรหนุ่มต่างฝ่ายก็ต่างเงียบราวกับไม่รู้ว่าควรจะคุยอะไร นนทกรไม่รู้จะพูดอะไร ส่วนคริษฐานั้นเป็นคนพูดน้อยอยู่แล้ว ระหว่างทั้งคู่จึงไร้บทสนทนาไปโดยปริยาย

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น