4
หลังจากต่างฝ่ายต่างเงียบกันอยู่พักใหญ่ นนทกรก็ขอแยกตัวออกมาจากหญิงสาวเพื่อไปรับสายสำคัญ คริษฐาจึงมองไปรอบๆ เพื่อสำรวจความเรียบร้อยอีกครั้ง ก่อนจะเดินไปยังจุดที่ต้องสนใจเป็นพิเศษ เนื่องจากหญิงสาวเคยทำงานที่ NTK อยู่ช่วงหนึ่งทำให้หลายคนในที่นี้คุ้นหน้าคุ้นตาและรู้จักหญิงสาวกันอยู่บ้าง จึงไม่มีฝ่ายไหนต้องเกร็งหรือเคอะเขินในการพูดคุยและทำงาน ยิ่งได้ร่วมงานกันมาก่อนกว่าสัปดาห์ก็ยิ่งทำให้หลายคนสนิทใจที่จะคุยกับสถาปนิกคนใหม่โดยไม่ต้องกังวลใดๆ
และหนึ่งในคนที่รู้จักกับคริษฐามาตั้งแต่ช่วงก่อนที่เธอจะลาออกก็คือพิมพ์จันทร์ สาวหล่อจอมกวนหนึ่งในทีมวิศวกรควบคุมการก่อสร้าง ในอดีตพิมพ์จันทร์เคยตามจีบคริษฐา แต่หลังจากที่คริษฐาแต่งงาน พิมพ์จันทร์ก็กลายมาเป็นเพื่อนอีกคนของหญิงสาวที่ไปมาหาสู่กันจนสนิทสนมกับครอบครัว แม้แต่เด็กชายคีรกรยังสนิทกับพิมพ์จันทร์จนบางครั้งคีรินทร์ยังรู้สึกอิจฉา เป็นเหมือนคู่ปรับของคีรินทร์ตลอดเมื่อเจอหน้ากัน
ลำแขนแข็งแรงที่พาดลงบนไหล่จากด้านหลังทำให้คริษฐาที่กำลังมองดูการทำงานของคนงานก่อสร้างอยู่ต้องเหลือบมอง
“อะไร”
“อยากกอด ไม่ได้เหรอ” พิมพ์จันทร์ยื่นหน้าเข้ามาใกล้ สถาปนิกสาวเบือนหน้าหนีพร้อมกับยิ้มขำ
“อย่ามาอ่อย ไม่หลงหรอก”
“ใครอ่อย...ไม่ได้อ่อยเว้ย ช่วยอยู่ต่างหาก” คนโดนหาว่าอ่อยแย้งพร้อมกับส่งเสียงกระซิบ “มีคนมองแกอยู่ ไม่รู้ตัวบ้างเหรอคุณนาย”
“มอง?” คริษฐาลอบสังเกตรอบๆ ข้างก่อนจะเลิกคิ้ว...มีหลายคนมองเธออย่างสนใจจริงๆ แฮะ
“ไอ้ผู้ชายไซต์นี้มันชอบสาวสวย เก่ง เท่ ที่ไม่ใช่ทอม และไม่มึงมาพาโวยแบบไอ้เจี๊ยบ มันเลยสนใจคุณนายกันใหญ่”
“แล้วไง”
“ก็ถ้าทวงผัวคืนมันยาก หาใหม่ก็ได้นะเว้ย พวกเขาสนใจแกอยู่ เปิดใจบ้างก็ได้” พิมพ์จันทร์พูดพลางส่งสายตาให้อีกฝ่ายมองตาม
“ไม่เอาละ ขี้เกียจวุ่นวาย ณ ตอนนี้ฉันต้องการความโสด”
“พวกนี้อาจหล่อไม่พอ งั้นนำเสนอคนนี้เลย...ทางซ้าย” พิมพ์จันทร์บอกพิกัด ก่อนจะอธิบาย “รู้สึกว่าเขามองแกอยู่ตลอดเลย หล่ออยู่นะ”
คริษฐามองตามก่อนจะรีบส่ายหน้าเมื่อคนที่พิมพ์จันทร์หมายถึงนั้นก็คือนนทกรที่ยืนคุยโทรศัพท์อยู่ “ไปกันใหญ่แล้วจันทร์ ที่เขามองๆ น่ะ ไม่ใช่ว่าอยากหาทางจับผิดไล่เด็กเส้นออกเหรอ”
“ก็ไม่แน่ เขาอาจจะมองไปมองมาแล้วชอบก็ได้”
“เพ้อเจ้อ”
“เฮ้ย อาจจะไม่เพ้อเว้ย แกไม่เหมือนใคร ไม่หวานแต่ก็ไม่ห้าวเป้งมึงมาพาโวยแบบไอ้เจี๊ยบ ผู้ชายส่วนใหญ่ชอบแบบนี้ อ่อนแอน่ะเขาไม่ค่อยชอบกันแล้ว เขาชอบแบบแกนี่ อีกอย่างนะเขาว่าสาวรัสเซียสวยติดอันดับโลก หน้าตาได้แม่มาแบบนี้ใครมองก็หลง”
“มโนเก่ง นั่นประธานคนใหม่ อยากโดนไล่ออกรึไง”
“ประธานแล้วไงวะ ฉันเห็นเขามองแกตลอด ไม่มองธรรมดาด้วยนะบอกให้”
“เงาหัวแกเริ่มไม่มีแล้วจันทร์ เลิกไร้สาระแล้วไปทำงานดีกว่ามั้ย”
“ไปก็ได้ แต่ถามก่อน...ถ้าเขาสนใจแก แกจะสนกลับมั้ย หล่อ รวย ไฮโซด้วยนะ”
“ไม่”
“เฮ้ย ไม่สนเลยเหรอคุณนาย”
“ไม่สน แล้วก็ไม่ใช่คุณนายแล้วด้วย” คริษฐาย้ำช้าๆ ชัดๆ กับพิมพ์จันทร์ ก่อนจะเดินเลี่ยงไปในจุดที่สายตาของใครคนหนึ่งจะตามไปไม่ถึง
พิมพ์จันทร์ถอนใจพรืดก่อนจะลอบมองประธานหนุ่ม...มีหนุ่มหล่อมาสนใจคุณนายแบบนี้ สามี เอ๊ย อดีตสามีรู้เข้าจะเป็นไงน้า
“เรื่องนี้มันต้องขยาย มาดูกันซิ ไอ้ผู้กองจะทำยังไง” คนมีแผนการยิ้มก่อนจะแอบถ่ายรูปประธานหนุ่มและเดินตามคริษฐาไป
ขณะที่คริษฐากำลังสนใจงาน นนทกรกำลังจับตาดูหญิงสาว และพิมพ์จันทร์กำลังมีแผนการยั่วโมโหคนที่เธอไม่ถูกชะตา คนที่พิมพ์จันทร์อยากให้รู้ว่ามีคนมาสนใจคริษฐานั้นกำลังนั่งนิ่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลจากหญิงสาวนัก...เรียกว่าใกล้จนไม่อยากจะเชื่อว่าบังเอิญเลยละ
ดวงตาคู่คมมองผ่านแว่นดำไปยังไซต์งานก่อสร้างที่อยู่ไม่ไกล ก่อนจะผินหน้าไปมองเจ้าของร้านปั่นรัก ร้านเครื่องดื่มที่ตนกำลังนั่งรอโกโก้ปั่นอยู่กับใครอีกคนที่นั่งหลับตาพักสายตาอยู่
ดวงตาหลายคู่กำลังเมียงมองมาและพากันซุบซิบ ทว่าคีรินทร์กลับไม่ได้สนใจ แม้จะรู้อยู่แก่ใจถึงเหตุผลที่ผู้คนต่างมองมา...ไม่แปลกที่พวกเขาจะสนใจ ก็ผู้ชายหุ่นกำยำสองคนมานั่งด้วยกันกลางร้านเครื่องดื่มแบบนี้ใครๆ ก็ต้องมองละ
“โกโก้กับชาเขียวปั่นพร้อมขนมได้แล้วค่ะคุณลูกค้า” เสียงที่ดัดให้หวานกว่าปกติดังขึ้น ก่อนที่โกโก้และชาเขียวปั่นกับขนมจะถูกนำมาเสิร์ฟ
คีรินทร์ยื่นมือไปหยิบแก้วก่อนจะจับหลอดดูดโดยไม่สนใจพนักงานเสิร์ฟสาวที่พยายามทอดสายตาหวานเชื่อมมาให้ ร้อนถึงคนที่ลืมตาจากการพักสายตาต้องเอ่ยขอบคุณพนักงานสาวเพื่อบอกเป็นนัยให้หญิงสาวถอยออกไป
“ผู้หญิงสมัยนี้นี่ยังไง ไม่สงวนท่าทีซะบ้างเลย” เสียงทุ้มบ่นชัดถ้อยชัดคำแตกต่างจากใบหน้าที่คล้ายชาวต่างชาติ ก่อนจะหยิบแก้วชาเขียวปั่นขึ้นมาดื่มบ้าง
“หมดยุคนั่งเหนียมอายแล้วมั้ง” คีรินทร์แสดงความคิดเห็นแล้วก็มองโกโก้ปั่นที่พร่องไปไม่น้อยก่อนจมไปกับภวังค์ความหลังที่ไม่มีใครรู้ว่าเรื่องอะไร นอกจากตัวเขาเอง
“เป็นเอามากนะ คิดถึงเมียจนอาการหนักเข้าไปทุกวัน” พันตำรวจตรีคเชนทร์ มัคซิม อัศรากุล เอ่ยอย่างเอือมระอาพร้อมกับส่ายหน้าอย่างเหนื่อยหน่าย
“เรื่องของผมเถอะเฮีย”
“เออ เรื่องของแก เฮียไม่ยุ่งก็ได้ แต่เฮียถามนิดเถอะ ทำไมไม่บอกยัยเคทว่าทำไมต้องหย่า แล้วไอ้ใบหย่านั่นก็ของปลอม” คเชนทร์ผู้เป็นทั้งผู้บังคับบัญชาของคีรินทร์และพี่ชายแท้ๆ ของคริษฐาถามในสิ่งที่เขาสงสัยมาหลายสัปดาห์ ไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอถามสักทีเถอะ เก็บมานานแล้ว
“บอกก็ไม่เนียนดิ” คีรินทร์แย้ง
ใช่ ใบหย่าที่คริษฐาเซ็นไปนั่นเป็นของปลอมที่เขาเตี๊ยมกับเจ้าหน้าที่ที่เขตไว้แล้วอันเนื่องมาจากเหตุผลบางอย่าง
“เออ พ่อเจ้าประคุณ เนียนมาก เนียนจนเมียออกจากบ้านไปแล้ว เหอะ ฉันเตือนเลยนะ น้องฉันน่ะถ้าได้โกรธเนี่ยใจแข็งยิ่งกว่าหินอีก”
“อย่าพูดดิวะ เฮียไม่พูด ผมไม่พูด เจ้าหน้าที่ที่เขตไม่พูด เคทก็ไม่รู้ เท่านั้นก็จบ ไว้จบเรื่องผมเคลียร์เองแหละ”
“เหอะ” คเชนทร์ส่งเสียงอย่างหมั่นไส้ก่อนที่ทั้งคู่จะนั่งดื่มเครื่องดื่มของตนไปโดยไม่เอ่ยอะไรต่อ
เพราะไม่ทันได้สังเกต คีรินทร์และคเชนทร์จึงไม่ได้เห็นใครบางคนที่นั่งอยู่ที่โต๊ะข้างๆ...จิรชามองหน้าจอสมาร์ตโฟนที่บันทึกเสียงสนทนาของทั้งคู่ก่อนจะกดบันทึกและเรียกพนักงานมาคิดเงินและลุกออกไป โดยที่คีรินทร์และคเชนทร์ไม่ทันได้เห็น
หลายนาทีต่อมา
“อ้าวเฮียคิว เฮียคีย์ หวัดดีครับ” เสียงทักทายคุ้นเคยที่ดังขึ้นทำให้คีรินทร์และคเชนทร์ต้องหยุดปลายเท้าที่กำลังจะก้าวออกจากร้านและหันไปมอง
“อ้าวไอ้ปราน มาทำอะไรแถวนี้ล่ะ อย่าบอกนะว่ามาจีบสาว” คเชนทร์ที่มีชื่อเล่นว่าคิวรับไหว้คนมาใหม่ที่เข้ามาทักซึ่งไม่ใช่ใครที่ไหน เป็นปวินที่เพิ่งกลับมาจากบริษัทและเข้ามาซื้อโกโก้ปั่นให้เพื่อนสาวนั่นเอง
“เปล่าๆ ผมคุมงานอยู่ไซต์งานตรงนั้นต่างหากล่ะ แล้วเฮียสองคนล่ะ”
“พอดีมาธุระแถวนี้ เลยแวะกินน้ำกินขนมกันน่ะ แล้วนี่จะมาซื้อน้ำปั่นเหรอ ไม่ชอบอะไรแบบนี้ไม่ใช่เหรอ”
“ครับเฮีย ถ้าเป็นเหล้าเพียวๆ พอว่า แต่น้ำปั่นนี่ขอบาย ดื่มไม่ลงอะ แต่จำต้องมาซื้อให้ยัยคุณนาย เพราะติดรถมันมา” ปวินอธิบายพร้อมกับถอนใจ
เพียงแค่ได้ยินว่ายัยคุณนาย คนที่จะไม่ทักทายอะไรญาติผู้น้องให้มากความก็เลิกคิ้วพร้อมกับเอ่ยถามทันที ด้วยคำว่ายัยคุณนาย หรือคุณนายนั้นเป็นคำเรียกติดปากที่บรรดาเพื่อนของคริษฐาใช้เรียกหญิงสาว เพราะมีผู้ใต้บังคับบัญชาหรือตำรวจที่เขารู้จักให้เกียรติเรียกเธอที่เป็นภรรยาของเขาว่าคุณนาย
“เคทก็อยู่เหรอ”
“ครับเฮีย ผมขอให้เคทมาช่วยงานจนกว่าจะมีงานใหม่เข้ามาน่ะ ก็เฮียคีย์บอกให้ดูแลให้ดี เลยพามาด้วยซะเลยจะได้ดูได้ไง”
“หัวคิดดี เออ เฮียไปก่อนละ มีธุระต่อ ไว้ค่อยคุยกัน”
“ครับเฮีย โชคดีครับ” ปวินเอ่ยพร้อมกับยกมือไหว้พี่ชายของเพื่อน
คเชนทร์รับไหว้ก่อนจะหันมาเอ่ยกับคีรินทร์ในน้ำเสียงเชิงสั่ง “แกก็ไปนั่งรอมันต่อละกัน พอลูกค้าในร้านเริ่มน้อยมันคงยอมออกไปคุย”
“เออๆ ไปเถอะ”
ดวงตาทั้งสองคู่มองส่งคเชนทร์จนลับตาก่อนที่คนมีศักดิ์เป็นน้องจะสะกิดพี่ “เฮียคีย์คร้าบ”
“อะไร”
“ค่าโกโก้ปั่นของไอ้เคทไง จ่ายมาเลย ของเมียผัวต้องจ่าย” ไม่เพียงคำพูดที่บ่งบอกว่ากำลังจะให้เขาออกเงินจ่ายค่าโกโก้ แต่มือหนายังแบมาพร้อมกับกระดิกรอรับเงินอีกด้วย
“ไอ้งก โกโก้ปั่นแก้วเดียวก็ซื้อให้เพื่อนไม่ได้”
“ขอบคุณคร้าบ”
ถึงแม้จะบ่น แต่คีรินทร์ก็ยื่นธนบัตรสีเทาให้และออกจากร้านไปโดยไม่รอรับเงินทอน โดยส่วนที่เหลือนั้นให้ปวินเก็บไว้ซื้อในคราวหน้า
ชายหนุ่มออกจากร้านปั่นรักไป แต่ก็ไม่ได้ออกไปจากสถานที่ตรงนั้นแต่อย่างใด นายตำรวจหนุ่มยังคงหลบสายตาผู้คน รอคอยเจ้าของร้านปั่นรักซึ่งเป็นอดีตลูกน้องในทีมที่อยู่ๆ ก็ลาออกมาเปิดร้านเครื่องดื่มแห่งนี้หลังจากที่สูญเสียแฟนสาวไปเมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งอาจจะยอมใจอ่อนออกมาพูดคุยกัน
นัยน์ตาคู่คมมองไปยังรถคันคุ้นตาที่จอดอยู่ด้านหน้าของไซต์งานอย่างใช้ความคิด ก่อนจะก้าวออกไปด้วยรอยยิ้มมีแผนการและกลับมาอีกครั้งพร้อมกับของที่ต้องการ
หลายชั่วโมงผ่านไป
“เออ เคท ฉันบอกแกรึยัง” เสียงชวนคุยของปวินดังขึ้นขณะที่ก้าวเดินออกจากไซต์งานก่อสร้าง
คริษฐาที่เดินนำหน้าพร้อมกับล้วงกระเป๋าหากุญแจรถเลิกคิ้วก่อนจะถาม
“อะไร”
“วันนี้ฉันเจอเฮียคิวกับเฮียคีย์ด้วยนะ ที่ร้านน้ำปั่นข้างๆ ไซต์งานเนี่ย”
มือที่กำลังค้นหากุญแจรถชะงักไปชั่วครู่ ก่อนเจ้าตัวจะยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ “แล้วไง ไม่สนเว้ย”
“ไม่สนจริงดิ”
“ไม่สน” สถาปนิกสาวบอกก่อนจะรีบสาวเท้านำไปที่รถ
ปวินมองตามพลางส่ายหน้า บางทีเพื่อนเขาก็ปากไม่ตรงกับใจไปหน่อยนะ
“สนหน่อยดิวะ โกโก้ที่เอามาฝากอะ เฮียคีย์เป็นคนจ่ายนะ”
“แล้วไง บอกว่าไม่สนก็คือไม่สน หยุดพูดเลยนะ พูดมากเดี๋ยวทิ้งไว้นี่ซะหรอก” เธอขู่ก่อนจะที่จะเดินมาถึงรถและเปิดประตูฝั่งคนขับ
ร่างสูงโปร่งก้าวเข้ามานั่งประจำตำแหน่งที่นั่งคนขับก่อนจะเอี้ยวตัวไปด้านหลังเพื่อเอาแบบแปลนโครงการไปเก็บไว้ที่นั่งด้านหลัง โดยพยายามไม่สนใจสิ่งที่ปวินพูด แต่ก็ต้องชะงักกับสิ่งที่วางอยู่
“ปราน...แกซื้อเค้กมาเหรอ”
“เค้กอะไร ไม่ได้ซื้อ” ปวินที่เข้ามานั่งข้างคนขับมองไปด้านหลังตามสายตาของเพื่อนสาวด้วยความงุนงง “ไม่ใช่ของฉันนะเว้ย”
“แล้วของใคร” ดวงตาคู่หวานมองไปยังกล่องเค้กร้านโปรดก่อนจะเลื่อนสายตามองไปที่กล่องน้ำผลไม้ยี่ห้อที่เธอมักจะดื่มคู่กับเค้กเป็นประจำ ข้างๆ น้ำผลไม้และกล่องเค้กก็มีถุงร้านสะดวกซื้อชื่อดัง มือบางเอื้อมไปเปิดถุง เป็นขนมปังแซนด์วิชไส้ปูอัดและทูน่าของโปรดกับเครื่องดื่มวิตามินซีหนึ่งขวด
คริษฐามองของทั้งหมดที่โผล่มาอยู่ในรถ ก่อนจะเอื้อมไปหยิบดอกกุหลาบขาวหนึ่งดอกที่วางอยู่บนกล่องเค้กมาดูใกล้ๆ
“มีการ์ดด้วยนี่หว่า” เสียงของปวินที่เอ่ยขึ้นทำให้ลูกเสี้ยวสาวสังเกตเห็นการ์ดเล็กๆ ที่ห้อยอยู่ มือบางจึงคลี่การ์ดออกก่อนจะขมวดคิ้วด้วยความสงสัย
“ของใครวะ”
“ไม่รู้ เขียนแต่ตัว K”
“K...เอ ชื่อย่อใครหรือเปล่า” ปวินแสดงความคิดเห็นก่อนจะมองของด้านหลังอีกครั้งและยกยิ้ม “เค้กร้านโปรดน้ำผลไม้ที่แกดื่มประจำ ขนมปังของโปรดยามเย็นกับซีวิท เอ...คนเอามาต้องรู้จักแกดีมากๆ เลยว่ะถึงหามาครบได้ขนาดนี้”
“ใครเล่นบ้าอะไรเนี่ย”
“ก็ K ไง”
“แล้ว K คือใคร” ริมฝีปากเรียวเล็กพึมพำก่อนจะครุ่นคิด
“เอ...K คีย์รึเปล่าวะ”
“เพ้อเจ้อ”
“ไม่เพ้อเว้ย ก็บอกแล้วว่าวันนี้ฉันเจอเฮียแถวนี้ แล้วอีกอย่างนะใครจะเอาของมาไว้ในรถแกได้วะ มีแต่เจ้าของแบบแกกับเฮียคีย์ที่มีกุญแจคนละดอกนั่นละที่จะทำได้ ฟันธงเลยนะ เฮียคีย์ชัวร์”
“เหรอ” เสียงหวานเอ่ยสั้นๆ ก่อนจะมองพิจารณาดอกกุหลาบขาวอย่างเขินอาย...นอกจากเขาจะเป็นใครได้อีกล่ะ
เป็นเขาจริงๆ นั่นละ...แต่ที่ปฏิเสธ เธอแค่ต้องการแน่ใจว่าไม่ได้คิดไปเองคนเดียว ‘โผล่หัวได้สักทีนะตาบ้า’
ความคิดเห็น |
---|