6

กรงทอง


 

6

กรงทอง

ตัวติดกันเหมือนปาท่องโก๋ ความรู้สึกมันน่าอึดอัดแบบนี้นี่เอง ยิ่งต้องตัวติดกับผู้ชายเลวๆ อย่างโลเวลก็ยิ่งทำให้หยาดอรุณอยากจะกรีดร้องออกมาวันละหลายร้อยรอบ ที่สำคัญเขายังคงพยายามจะตักตวงความสุขจากเธออยู่เสมอ แบบเอาแต่ใจที่สุดในโลกด้วย ถ้าจะมีเรื่องที่ดีอยู่บ้างก็คงมีเรื่องเดียว คือเขาพาเธอไปเยี่ยมครองขวัญบ่อยๆ และเธอก็เห็นอาการของพี่สาวค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ คงเพราะได้หมอรักษาเก่งๆ และพยาบาลพิเศษที่โลเวลจ้างให้มาดูแล ซึ่งก็ดูแลครองขวัญดีมากชนิดที่ว่าคนเป็นญาติอย่างเธอสบายใจมากทีเดียว แต่ที่เธอไม่ชอบก็คือการต้องมาอยู่กับเขาราวเป็นนางบำเรอนี่สิ

หยาดอรุณถูกบังคับขืนใจให้อยู่ที่คอนโดของโลเวลต่อเข้าวันที่สี่แล้ว และทุกวันเขาก็หนีบเอาเธอติดไปที่ทำงานของเขาด้วย จนบรรดาพนักงานต่างพากันมองหน้าเธอแปลกๆ เหมือนกับว่าเธอเป็นอีหนูของเขา ทำเอาหญิงสาวนึกอยากจะเอาปี๊บมาคลุมหัวเสียให้ได้

“เมื่อไหร่คุณจะปล่อยฉันกลับไปอยู่บ้านสักที” อดไม่ได้ที่จะถามโลเวลขึ้นมากลางโต๊ะอาหารเช้า

ชายหนุ่มที่นั่งตรงกันข้ามเงยหน้ามองนิ่งๆ แต่แววตาฉายความไม่พอใจ

“จะกลับไปบ้านหรืออยากจะกลับไปที่เลานจ์นั่น อยากไปหาไอ้พวกผู้ชายหน้าโง่พวกนั้นใจจะขาดแล้วหรือไง” เขาขบกรามแน่นอย่างลืมตัว ไม่รู้ว่าการอยู่กับเขามันน่าเบื่อสำหรับเธอมากนักหรือไง แม่คุณเธอถึงอยากจะไปจากเขาท่าเดียว “ฟังนะผมรู้ว่าคุณกลับไปที่บ้านของคุณไม่ได้แล้วเพราะป้าของคุณถูกเจ้าหนี้ตามตัว ตอนนี้ป้าคุณหายตัวไปไหนยังไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำ และถ้าคิดจะกลับไปอยู่กับไอ้เพื่อนสาวแตกนั่น บอกเลยว่าผมไม่ยอมให้คุณไปแน่ๆ”

คนถูกขัดขวางทุกทางวางช้อนกับมีดที่ใช้สำหรับกินอาหารเช้าแบบอเมริกันเบรกฟาสต์ลง เชิดหน้าขึ้นสบตากับคนนั่งตรงกันข้ามอย่างไม่สบอารมณ์เช่นกัน เขาทำเกินไปแล้ว

“แล้วคุณจะให้ฉันอยู่แบบนี้ ตัวติดกับคุณตลอดชีวิตเลยหรือไงคะ ฉันไม่ต้องทำมาหากินอะไรเลยใช่ไหม”

“ก็ไม่เห็นต้องทำอะไร อยู่กับผมมีกินมีใช้สบายๆ อยากได้อะไรล่ะ บอกผมสิน้ำค้าง ผมให้คุณได้อยู่แล้ว” เขาตอบหน้าตาเฉย หญิงสาวขมวดคิ้วมุ่นอย่างหงุดหงิด

“อย่ามาพูดบ้าๆ ได้ไหม คนอย่างคุณไม่มีทางทนอยู่กับผู้หญิงคนเดียวตลอดชีวิตได้อยู่แล้ว” เธอต่อว่าเขาโดยไม่สนใจนัยน์ตาคมกริบที่มองมาอย่างเอาเรื่องสักนิด หากพูดต่อด้วยความโมโห “คุณจะเอาอะไรจากฉันอีก แค่นี้ยังไม่พอหรือยังไง ร่างกายของฉันแลกกับความลับที่คุณสัญญาไว้ว่าจะไม่บอกพี่ขวัญ พรหมจรรย์ของฉันแลกกับค่ารักษาพยาบาลของพี่ขวัญ”

“ยังไม่หนำใจ”

“ยังไม่หนำใจงั้นเหรอ คุณทำ...เอ่อ...” เธอกระดากปากเหลือเกินที่จะพูด แต่ที่สุดก็จำใจต้องพูดเพื่อทุกอย่างจะได้จบๆ ไป “คุณบังคับขืนใจ มีอะไรกับฉันไปกี่ครั้งแล้ว มันยังไม่พอสำหรับคุณอีกหรือไง ที่จริงคุณน่าจะเบื่อฉันแล้วด้วยซ้ำไม่ใช่เหรอ”

ใช่...ที่จริงเขาควรจะเบื่อผู้หญิงที่เขานอนด้วยเกินสองครั้งแล้วด้วยซ้ำ แต่เขาแทบจะจำไม่ได้ว่ามีอะไรกับเธอไปกี่ครั้ง เอาจริงๆ เขาไม่ได้นับครั้งที่นอนกับเธอเลยด้วยซ้ำ ทุกครั้งที่ได้จูบ กอด และร่วมรักพาเธอไปสวรรค์พร้อมๆ กันมันให้ความพึงพอใจราวกับนอนกับเธอครั้งแรกเสมอ นี่เขากำลังหลงใหลร่างกายของคนสวยตรงหน้า แม่กระต่ายเนื้อหวานที่ชิมลิ้มลองสักกี่ครั้งก็ไม่อาจทำให้คนอย่างโลเวลเบื่อได้

เธอเป็นคนพิเศษจริงๆ

“ทำไม อยากให้ผมเบื่อคุณนักเหรอ มีไอ้หมาตัวไหนมันรอจะกินคุณต่อจากผมหรือไง คุณถึงดิ้นรนอยากจะไปจากที่นี่นัก” เขาย้อนถาม นัยน์ตาวาววับเมื่อนึกถึงบรรดาแฟนคลับของเธอ ที่ป่านนี้คงตามหาตัวน้องกระต่าย ดาวประจำเลานจ์กันให้วุ่น

“คนหยาบคาย ไม่มีใครคิดเรื่องทุเรศๆ ได้มากเท่าคุณหรอก และหมาตัวเดียวที่มันชอบรังแกฉันจนไม่เหลือศักดิ์ศรีอะไรในตอนนี้ก็คงมีแต่หมาป่าบ้าอำนาจอย่างคุณเท่านั้นแหละ” เธอแหวใส่ หน้าแดงก่ำด้วยความโกรธ แล้วสะบัดก้นงอนๆ ลุกพรวดจากเก้าอี้ตรงโต๊ะอาหาร เดินจ้ำอ้าอ้าวตรงไปยังประตูคอนโด

โลเวลบีบช้อนและมีดหั่นอาหารในมือแน่นจนเกร็ง พยายามเหลือเกินที่จะข่มอารมณ์ที่ลุกโชนราวไฟให้ลดลงมากที่สุดเท่าที่จะทำได้ ก่อนจะรีบทิ้งทุกสิ่งตรงหน้าแล้ววิ่งตามคนตัวเล็กไป ตวัดร่างบางสมส่วนขึ้นอุ้มได้ทันก่อนที่เธอจะเปิดประตูห้องเดินออกไปจากชีวิตเขา

“ทำแบบนี้กับผัวไม่ดีนะที่รัก คุณมาตะโกนใส่หน้าผัวปาวๆ แล้วลุกหนีแบบนี้ เป็นเรื่องเสียมารยาทที่สุดที่เมียไม่ควรทำ” เขากระซิบเสียงเข้มข้างหูคนที่ดิ้นรนในวงแขน

“ปล่อยฉันลงนะ ปล่อยสิ...ฉันอยากไปจากที่นี่”

“คุณจะไปได้ก็ต่อเมื่อผมอนุญาตเท่านั้น” เขาเค้นเสียงลอดไรฟันพร้อมกับโยนร่างบางลงบนโซฟานุ่มตัวยาวเต็มแรง

หยาดอรุณนอนขดตัวงอ รีบคว้าชายกระโปรงเดรสสีครีมที่ถลกขึ้นมาจนเห็นขาอ่อนลง ก่อนตั้งท่าจะลุก ทว่าถูกอีกฝ่ายที่ยืนอยู่เหนือศีรษะกดหัวไหล่เล็กชิดกับพนักพิงโซฟาไว้แน่น

“ฉันเจ็บนะ คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย ชอบรังแกผู้หญิงไม่มีทางสู้” เธอยังไม่ยอม ตะคอกใส่หน้าเขาสีหน้าเดือดดาลเต็มกำลัง

โลเวลบดกรามดังกรอด บีบหัวไหล่เล็กจนหญิงสาวนิ่วหน้า “อย่ามาดื้อกับผม อย่าพยศ จำเอาไว้ เพราะถ้าคุณทำให้ผมไม่พอใจจนเหลืออด ผมก็ไม่รับปากหรอกนะว่าจะปกปิดความลับอะไรของคุณได้อีก”

“คุณวูล์ฟ! คุณกำลังขู่ฉัน”

“ก็ช่วยไม่ได้ ถ้ายังร้องหาอิสรภาพ อยากจะไปจากผมโดยที่ผมไม่เต็มใจปล่อยคุณไปอีก ไม่แน่ ผมอาจจะไม่ทน”

“แต่วันนั้นที่ฉันยอมออกมากับคุณจนถูกคุณปู้ยี่ปู้ยำก็แลกกับเรื่องที่คุณจะไม่บอกพี่ขวัญแล้วนี่ คุณไม่มีสัจจะ”

“ผมทำได้ทุกอย่างที่ผมอยากทำนั่นแหละ จะด่าอะไรก็เชิญ แต่ถ้าคุณยังดื้อรั้นมากๆ ผมจะเดินไปบอกคุณขวัญให้รู้แล้วรู้รอดว่าคุณกับผมเป็นอะไรกัน ดูสิว่าพี่สาวคุณจะทำยังไง”

คำขู่ของเขาทำให้เธอผงะ เขามันใจร้ายจริงๆ พี่สาวของเธอยังรักษาตัวอยู่นะ ถ้ามีเรื่องไม่สบายใจจะยิ่งอาการทรุด พอคิดได้ว่ายิ่งเธอโวยวายตีโพยตีพายไปก็มีแต่เสียเปรียบ หยาดอรุณจึงต้องยอมเก็บกลืนความขมขื่นไว้ในใจ

หญิงสาวกัดริมฝีปากแน่น น้ำตาคลอด้วยความโกรธที่ไม่อาจระบายอะไรออกมาได้ เธอต้องยอมเป็นเมียบำเรอของเขาแบบนี้ไปอีกนานเท่าไหร่กันนะ...แปลกจริงๆ ที่เคยได้ยินว่าเขาจะไม่นอนกับผู้หญิงคนไหนซ้ำซาก แล้วทำไมกับเธอถึงไม่เป็นเช่นนั้นล่ะ

“ผมให้เวลาคุณปรับอารมณ์ห้านาที แล้วเลิกทำหน้าบูดได้ละ จะพาไปเยี่ยมคุณขวัญตอนเช้าก่อนเข้าไปทำงาน” เหมือนเขารู้ใจเธอ เพราะแค่เอ่ยเรื่องครองขวัญ สีหน้ากับสายตากระเง้ากระงอดก่อนหน้าก็เปลี่ยนเป็นวาววับขึ้นนิดหนึ่ง

โลเวลรู้ว่าหญิงสาวแคร์ญาติผู้พี่มากแค่ไหน และนี่คงเป็นจุดอ่อนที่เขาจะขู่เธอให้ยอมอยู่กับเขาต่อไปได้ จนกว่าจะถึงวันหนึ่งที่เขามีคำตอบแน่ชัดให้ใจของตัวเอง

 

โลเวลพาหยาดอรุณมาที่โรงพยาบาลเอกชนเพื่อเยี่ยมครองขวัญจริงๆ อย่างที่เขาบอกเธอไว้ เขายอมเข้างานสายเพื่อจะเอาใจผู้หญิงข้างกายให้หายโกรธ ทั้งๆ ที่ปกติเขาไม่เคยสนใจความรู้สึกของผู้หญิงคนไหนสักนิด แต่กับหยาดอรุณผิดไปจากคนอื่นๆ โดยสิ้นเชิง

ทั้งสองคนเดินเข้ามาในตึกหน้าโรงพยาบาล และขณะที่จะตรงไปขึ้นลิฟต์ เสียงหวานจัดของใครคนหนึ่งก็ร้องเรียกชายหนุ่มไว้เสียก่อน

“คุณวูล์ฟขา...จีดีใจจังเลย ไม่คิดว่าจะเจอคุณวูล์ฟที่นี่นะคะ” รุ่งรุจีถลันเข้ามาแทบจะกอดเขาให้ได้ ถ้าหากไม่สะดุดสายตาที่ผู้หญิงข้างกายชายหนุ่มเสียก่อน

เชอะ! นี่ก็คงเป็นแค่ผู้หญิงคนใหม่ที่โลเวลนอนด้วย แล้วเขาก็เฉดหัวทิ้งเหมือนคนอื่นๆ ทั่วไป แต่เอ๊ะ...ปกติที่เคยได้ฟังๆ มา โลเวลไม่เคยควงคู่นอนคนไหนออกไปข้างนอกด้วยนี่นา แล้วยัยคนนี้เป็นใครกัน

“ไม่ทราบว่ามากับใครหรือคะ” รุ่งรุจีถามออกมาอย่างอดไม่ได้ จิกมองหยาดอรุณด้วยสายตาอิจฉาจนคนถูกมองต้องเบือนหน้าหนีไปทางอื่นอย่างเซ็งๆ

“โทษนะครับ ผมคิดว่าผมไม่เคยรู้จักคุณนะ” เขาไม่ตอบคำถาม แต่ย้อนกลับมาจนคนที่เข้ามาทักหน้าหงาย

“อะไรกันคะคุณวูล์ฟ จีไงคะ จีที่เราเคยเจอกันที่โรงแรม” เธอจีบปากจีบคอกระซิบบอกเขา แต่ก็ดังพอให้ผู้หญิงข้างกายโลเวลได้ยิน แถมยังส่งสายตายั่วยวนสุดๆ ให้ชายหนุ่ม เผื่อว่าเขาจะนึกถึงบทสวาทกับเธอที่เคยเกิดขึ้นครั้งหนึ่งได้บ้าง “คุณวูล์ฟจำไม่ได้จริงๆ หรือคะว่าจีกับคุณ เราเคย...”

“จำไม่ได้ก็คือจำไม่ได้ สมองของผมมีไว้จำแต่เรื่องดีๆ มีประโยชน์” เขามองรุ่งรุจีด้วยสายตากร้าวและเหยียดหยัน เหมือนกำลังจะบอกเธอว่าคนไร้ประโยชน์อย่างเธอ เขาไม่จำให้เปลืองสมอง

คนไร้ประโยชน์หน้าร้อนผ่าว กัดฟันแน่นอย่างขุ่นเคือง สะบัดหน้าพรืดค้อนผู้ชายใจร้าย แต่ก็ไม่วายหย่อนระเบิดทิ้งไว้ให้ชายหนุ่มร้อนใจ

“จีลืมไปค่ะ คุณเป็นผู้ชายจำพวกไม่มีความรับผิดชอบ ฟันแล้วทิ้งพร้อมเอาเงินฟาดหัว” รุ่งรุจีหันไปมองหน้าหยาดอรุณด้วยสายตาหยันๆ แวบหนึ่ง ทำให้คนที่ถูกมองหน้าร้อนด้วยความอายจับใจ

สักวันเธอคงเหมือนผู้หญิงคนนี้ ถูกเขามองว่าไร้ค่าไร้ความหมายสินะ หยาดอรุณคิดอย่างเจ็บช้ำใจก่อนจะรีบเดินผละห่างจากโลเวลไป

ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างหนักอก แล้วรีบวิ่งตามหยาดอรุณไปอย่างรวดเร็ว ประจวบเหมาะกับที่หญิงสาวกดลิฟต์และประตูลิฟต์เปิดรับพอดี ทำให้โลเวลก้าวเข้ามาด้านในทันเธอ เขารีบกดปิดประตูลิฟต์ทันทีโดยไม่รอคนอื่น เพราะหวังจะใช้ที่แคบๆ ในการพูดจากับคนข้างกายอย่างสะดวก

“ยัยผู้หญิงบ้านั่น ผมไม่ได้รู้จักเธอจริงๆ” เขาจำไม่ได้ เพราะไม่เคยคิดจะจำหน้าผู้หญิงคนไหนที่นอนด้วยสักครั้ง นอกจากคนตัวเล็กข้างๆ กายตอนนี้เท่านั้นที่จำจนลืมไม่ลง

หยาดอรุณวางหน้าเฉย เมินมองทางอื่นเหมือนไม่ใส่ใจ แต่เหน็บชายหนุ่มในใจ...ไม่แปลกที่เขาจะจำหล่อนคนนั้นไม่ได้ ก็คงนอนกับผู้หญิงมากหน้าหลายตาจนลืมน่ะสิว่าเคยนอนกับใครมาบ้าง

ผู้ชายมักมาก!

ตลอดเวลาในลิฟต์หยาดอรุณไม่ได้มองหน้าหรือพูดคุยกับโลเวลเลย ทำให้คนที่น้ำท่วมปากเริ่มไม่แน่ใจว่าจะแก้ตัวกับหญิงสาวยังไง เขาจึงเงียบบ้าง เพราะเอาเข้าจริงๆ เขาก็เป็นจำพวกนอนกับผู้หญิงไม่ซ้ำหน้า แต่ส่วนมากก็ไม่เคยมีผู้หญิงคนไหนกล้ามาพูดจาให้เขาเสียหายเหมือนยัยคนเมื่อกี้เลย

ทั้งสองพากันขึ้นไปเยี่ยมครองขวัญเหมือนเช่นทุกวัน และได้ถามอาการของเลขาฯ สาวกับหมอผู้ดูแลแล้ว หมอบอกว่าอาการของครองขวัญเริ่มทรงตัว ถ้าไม่มีอาการอะไรแทรกซ้อนคงอนุญาตให้คนป่วยไปพักฟื้นต่อที่บ้านได้ คำบอกกล่าวของหมอทำให้หยาดอรุณรู้สึกเบาใจได้เปลาะหนึ่งก็จริง แต่อีกครึ่งหนึ่งเธอกำลังหนักใจมาก ซึ่งก็คงไม่ต่างจากพี่สาวที่สบตามองมาอย่างรู้เหตุผลของกันและกัน

โลเวลซึ่งลอบสังเกตหญิงสาวทั้งสองแล้วเห็นความหนักใจที่สื่อทางแววตานั้นก็คิดว่าถ้าเดาไม่ผิด ลูกพี่ลูกน้องคู่นี้คงกำลังหนักใจที่ต้องกลับไปรักษาตัวต่อที่บ้าน ซึ่งแน่นอนว่าบ้านหลังเก่าของพวกหล่อนตอนนี้มีแต่เจ้าหนี้ไปตามตัวนางทิพย์ผู้เป็นแม่และป้าของสองสาว จนตอนนี้นางทิพย์หนีหายไป สาวๆ ก็ยังไม่ทราบข่าวคราวเลย

“ผมว่าถ้าคุณขวัญออกโรงพยาบาลน่าจะหาบ้านเช่าใกล้ๆ แถวนี้ดีไหม อยู่ใกล้ๆ หมอ ใกล้โรงพยาบาลน่าจะดีกว่า เผื่อมีอะไรจะได้ไปมาสะดวก” จู่ๆ โลเวลก็เสนอ

สองสาวพี่น้องมองหน้ากันตาปริบๆ ก่อนคนเป็นพี่จะบอกเสียงเพลียๆ “บ้านเช่าแถวนี้ค่าเช่าน่าจะแพงนะคะ ฉันกับน้ำค้างขอไปดูที่อื่นดีกว่า”

“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้นหรอก คุณเป็นพนักงานของบริษัทผมนะ เรื่องที่อยู่แค่นี้ถือว่าผมจัดให้เป็นสวัสดิการของพนักงานอย่างคุณแล้วกัน” เขาบอกอย่างใจดี แววตาก็อ่อนโยนลงอย่างเหลือเชื่อ

หยาดอรุณมองหน้าชายหนุ่มอย่างไม่อยากไว้ใจนัก เธอไม่เชื่อว่าเขาจะใจดีโดยไม่หวังผลตอบแทน แต่ถึงเขาจะเรียกร้อง ตอนนี้พวกเธอก็ไม่มีอะไรตอบแทนเขาอีกแล้ว ในเมื่อสิ่งที่เธอมีและหวงแหนมาตลอดทั้งชีวิต เขาก็ได้ไปครอบครองแล้วนี่

เขายังต้องการอะไรจากเธออีกกันแน่!

“จ้องหน้าผมจังเลยนะครับน้ำค้าง มีอะไรติดใจสงสัยงั้นเหรอ” คนที่ถูกมองอย่างไม่ไว้ใจถาม

“เปล่านี่คะ” หยาดอรุณรีบเสมองทางอื่น

“แน่ใจนะ”

“เอ่อ...ฉันก็แค่คิดว่าฉันกับพี่ขวัญไม่อยากรบกวนคุณไปมากกว่านี้ คุณไม่ต้องมาเป็นธุระอะไรให้พวกเราแล้วละค่ะ แค่นี้ก็เกรงใจจะแย่ ฉันจะหาบ้านพักกันเอง” ท้ายประโยคฟังดูตัดสัมพันธ์พิกล ซึ่งโลเวลก็อ่านออก

เธออยากจะไปหาบ้านพักเอง แล้วจะได้หนีไปไกลๆ เขาด้วยสินะ

“ไม่ต้องเกรงใจหรอก ยังไงผมให้คีรีจัดการเรื่องนี้เลยแล้วกัน ถ้าได้เร็วยิ่งดี อาทิตย์หน้าจะได้พร้อมเข้าอยู่ไง อ้อ...แล้วผมจะจ้างพยาบาลพิเศษไปดูแลคุณขวัญด้วยเลยดีกว่า เพราะถ้าน้องสาวคุณออกไปทำงาน เธอจะได้ไม่ต้องห่วงคุณขวัญไง” เขากระตุกยิ้ม ดวงตาคมกริบมองหน้าเรียวใสที่หันขวับมามองเขาอย่างคนเหนือชั้นกว่า พร้อมกันนั้นความหมายในแววตากำลังบอกหยาดอรุณว่า...

งานที่เธอทำช่วงนี้อาจเหนื่อยนิดหนึ่ง และบางทีก็อาจจะไม่ได้กลับมานอนที่บ้าน แต่เธอต้องนอนกับเขาแทน

 

ช่วงเวลาหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมาชีวิตของหยาดอรุณไม่ต่างจากที่เธอคิดไว้สักนิด โลเวลคงกักขังเธอให้อยู่กับเขาตลอด กระทั่งวันที่มารับครองขวัญกลับไปอยู่บ้านเช่าหลังใหม่ที่โลเวลให้คนของเขาไปจัดการหามาให้ ซึ่งเมื่อสองสาวพี่น้องเห็นบ้านที่ชายหนุ่มหาไว้รอรับคนป่วยก็ประทับใจในความสวยและน่ารักของบ้าน ที่สำคัญมันดูกว้างขวาง สะอาด และสะดวกสบายกว่าบ้านหลังเก่าของพวกเธอเป็นเท่าตัว

บ้านชั้นเดียวขนาดกะทัดรัดสีครีมนวลตา สองห้องนอน สามห้องน้ำ หน้าบ้านมีสนามหญ้า สวนหย่อมเล็กๆ ม้านั่งหินอ่อนสีสด พร้อมการตกแต่งที่ดูสบายตา แม้จะอยู่ในพื้นที่จำกัด แต่ก็ถือว่าสร้างความผ่อนคลายให้คนป่วยได้มากโข ส่วนด้านในตัวบ้านเฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าจำเป็นครบครัน การตกแต่งบ้านด้วยผ้าม่านลายดอกไม้สีอ่อนกับแจกันพุ่มไม้พลาสติกสีเขียวเล็กๆ หลายมุมในบ้านให้ความรู้สึกอบอุ่น

“ขอบคุณมากนะคะคุณวูล์ฟ ฉันไม่รู้จะตอบแทนน้ำใจของคุณยังไงหมด” ครองขวัญซึ่งนั่งบนวีลแชร์สำหรับคนป่วยที่มีพยาบาลสาวเข็นให้รีบหันมายกมือไหว้อีกฝ่าย

โลเวลส่ายหน้าเบาๆ แล้วจับมือของเลขาฯ สาวลง “ไม่ต้องคิดมากหรอก ผมบอกแล้วไงว่าถือเป็นสวัสดิการของพนักงาน”

“แต่ค่ารักษาพยาบาลที่ออกให้ฉันทั้งหมดมันก็มากมายจนฉันเกรงใจแล้วค่ะ ยังไงค่าเช่าบ้าน ฉันกับน้ำค้างคงขอรับผิดชอบกันเองจะดีกว่านะคะ” เลขาฯ สาวเอ่ยบอกเสียงผะแผ่วอย่างเกรงใจเต็มที่

โลเวลนิ่งไปอย่างใช้ความคิดครู่หนึ่ง ก่อนจะเผยยิ้มมุมปากที่ใครก็ไม่ทันได้มองตามว่ามันเป็นรอยยิ้มมีแผน

“ถ้าแบบนั้นทำให้คุณขวัญสบายใจกว่า ก็ได้ครับ ผมให้คุณขวัญกับน้องสาวจัดการเรื่องค่าเช่าบ้านกันเองก็แล้วกัน” ชายหนุ่มส่งสายตาเจ้าเล่ห์มองหยาดอรุณที่เกาะติดข้างรถเข็นพี่สาวไม่ห่าง เธอก็มองมาทางเขาพอดี “แต่ว่าช่วงนี้คุณขวัญต้องพักรักษาตัว น่าจะอีกหลายเดือน แล้วแบบนี้น้องสาวของคุณขวัญก็คงจะเหนื่อยแย่ ทำงานที่โรงงานผมก็ไม่ทราบหรอกนะว่าได้เงินเดือนเท่าไหร่ ไหนจะค่าเช่าบ้าน ไหนจะค่ากิน ค่าใช้จ่ายอีกจิปาถะ จะหนักไปไหม”

คำพูดของโลเวลทำให้ครองขวัญมีสีหน้าเป็นกังวลเมื่อครุ่นคิดตามและเห็นว่าเป็นจริง ลำพังเงินเดือนหยาดอรุณคนเดียวจะพอค่าเช้าบ้านหลังนี้ไหมก็ไม่ทราบได้ เพราะเธอยังไม่ได้ถามเขาเลยว่าค่าเช่าบ้านหลังนี้เดือนละเท่าไร แต่ไม่ทันที่ใครจะพูดอะไรออกมา โลเวลก็รีบเสนอทางเลือกให้เสียก่อน

“เอาอย่างนี้ไหมครับ ช่วงที่คุณขวัญพักรักษาตัว ผมก็ขาดผู้ช่วยไปเหมือนกัน ผมว่าผมจะจ้างน้ำค้างไปทำงานแทนตำแหน่งคุณขวัญไปพลางๆ ก่อน แล้วจะจ่ายเงินเดือนตามที่เคยจ่ายให้คุณขวัญแบบเต็มเดือน คุณสองคนน่าจะพอใช้อยู่”

ครองขวัญเบิกตาโต แต่คงโตไม่เท่ากับคนที่กำลังจะกลายเป็นเลขาฯ คนใหม่ของโลเวล แน่นอนว่าเงินเดือนของครองขวัญก็มากอยู่ในระดับหนึ่ง ซึ่งถ้าเทียบกับเงินเดือนสาวโรงงานกำมะลอที่หยาดอรุณเคยโกหกพี่สาวไว้ คนเป็นน้องก็คิดว่าเริ่มจะเห็นชะตาชีวิตของตัวเองรำไรเสียแล้ว

“แต่...เกรงว่าฉันคงจะช่วยอะไรคุณวูล์ฟไม่ได้เหมือนพี่ขวัญหรอกค่ะ ฉันไม่เคยทำงานแบบนั้น อีกอย่างก็ยังเรียนไม่จบเป็นเรื่องเป็นราวเลย เพิ่งจะสอบเสร็จ ผลสอบยังไม่ออกเลยด้วยซ้ำค่ะ” หยาดอรุณเริ่มหาทางหนีทีไล่ แต่เหมือนจะยากเมื่อพ่อหมาป่าสบสายตาข่มขู่กลายๆ

“ไม่เป็นไรหรอก เรื่องแบบนี้ไม่มีใครเป็นจากในท้อง คนของผมจะสอนคุณเอง ไม่ต้องห่วง” เขากระตุกยิ้ม ก่อนจะรีบหันไปพูดกับครองขวัญ “เอาตามนี้นะคุณขวัญ แล้วก็บางทีถ้าช่วงไหนงานที่บริษัทเยอะ ผมก็อาจจะใช้งานน้องสาวคุณขวัญหนักนิดหนึ่ง ถ้าวันไหนเลิกดึกผมจะให้เธอไปนอนที่คอนโดของผม เพราะใกล้ที่ทำงาน คุณขวัญจะได้ไม่ต้องห่วง ดีไหม”

“ขอบคุณมากนะคะที่กรุณาพวกเราสองคนพี่น้อง คุณวูล์ฟใจดีมีเมตตาจริงๆ แต่ว่าจะให้น้ำค้างไปนอนที่คอนโดคุณ เกรงว่าจะไม่งาม”

“ไม่งามตรงไหนครับ ปกติเรา...” เขาเว้นจังหวะนิดหนึ่ง หันไปมองหน้าคนตัวเล็กที่ตอนนี้หน้าซีดเผือดไม่ต่างจากไก่ต้ม “ปกติผมไม่ค่อยได้นอนที่นั่นหรอก ยกให้น้ำค้างไปนอนบ้างบางคืนคงไม่มีปัญหาอะไร”

“น้ำค้างว่าไง จะไปช่วยงานคุณวูล์ฟแทนพี่ได้ไหม ถ้าพี่หายดีแล้วจะรีบกลับไปทำนะ งานคุณวูล์ฟเยอะมาก ขาดเลขาฯ ไปแบบนี้คงยุ่ง” คราวนี้ครองขวัญหันมาคุยกับน้องสาว เธอไม่อยากบังคับจิตใจน้องจึงอยากให้อีกฝ่ายสมัครใจด้วยตัวเอง

ฟังจากน้ำเสียงของพี่สาว หยาดอรุณก็รู้สึกได้ว่าครองขวัญทั้งเกรงใจและอยากตอบแทนผู้มีพระคุณ และเธอเองก็กลัวว่าถ้าตอบปฏิเสธไปก็ไม่รู้ว่าโลเวลจะโพล่งพูดเรื่องความลับอะไรของเธอให้ครองขวัญฟังหรือเปล่า และแน่นอนว่าเธอไม่อยากให้พี่สาวต้องมารับรู้เรื่องแย่ๆ ของเธอที่อาจจะพลอยทำให้ครองขวัญล้มป่วยหนักกว่าเดิมก็เป็นได้

“ค่ะ น้ำจะลองไปทำดูก็ได้” เธอตอบอ้อมแอ้ม แต่ตาที่เหลือบมองไปยังคนตัวโตที่ยืนกอดอกยิ้มอย่างเป็นต่ออยู่นั้นวาววับไปด้วยความกรุ่นโกรธ

นายหมาป่าบ้า...เขาต้องการจะจับเธอใส่กรงทองของเขาไปอีกนานแค่ไหนกัน!

 

หยาดอรุณขออนุญาต หรือจะเรียกว่าอ้อนวอนโลเวลแทบกราบกรานเลยก็ว่าได้ ให้เธอได้มีโอกาสกลับมานอนกับครองขวัญเพื่อดูแลพี่สาวอย่างใกล้ชิดบ้าง ถึงแม้เขาจะจ้างพยาบาลพิเศษไว้ให้แล้วก็ตามที แต่เธอก็อยากมีเวลาอยู่กับครอบครัวอย่างที่เคย ชายหนุ่มอนุญาตให้เธอนอนกับพี่สาวในช่วงเวลาสองสามวันนี้ได้ แต่เขาจะแวะมารับไปทำงานด้วยกันที่บริษัทในตอนเช้า และมาส่งเธอที่บ้านในตอนเย็น เด็ดกว่านั้นเขายังขอกินมื้อเย็นร่วมกับเธอและพี่สาวก่อนจะกลับด้วย

เช้าวันที่สี่ในการทำงาน หลังจากโลเวลไปรับหยาดอรุณมายังบริษัทกับเขาได้ เมื่อเข้ามาภายในห้องท่านรองประธานบริษัทซึ่งถือว่าเป็นโลกส่วนตัวของโลเวลกับหยาดอรุณ ที่ระยะหลังๆ มานี้พนักงานคนไหนจะเข้าออกต้องผ่านการรายงานจากคีรีตลอดเวลา เนื่องจากเขาห่วงว่าถ้าเผลอปล่อยใครบุ่มบ่ามเข้าไปอาจพบกับภาพที่ชวนให้สยิวก็เป็นได้ แต่ในความเป็นจริงแล้วโลเวลก็ไม่มีทางให้คนนอกเข้ามาภายในห้องทำงานก่อนได้รับอนุญาตอยู่แล้ว ที่สำคัญช่วงนี้เขาล็อกประตูห้องทำงานแน่นหนาเสมอ

“คิดถึงจังเลย” ชายหนุ่มที่หวงแหนพื้นที่ส่วนตัวมากเพราะต้องการจะหวานกับหยาดอรุณสองต่อสองเดินมารวบกอดหญิงสาวจากด้านหลัง

“เจอกันทุกวัน คุณน่าจะเบื่อขี้หน้าฉันมากกว่า” หญิงสาวแบะปาก ไม่อยากเชื่อคำหวานรื่นหูของผู้ชายเอาแต่ได้อย่างเขา เธอสะบัดตัวหลบ แต่ก็ไม่พ้นถูกกักขังในวงแขนแกร่ง

“ทำไมคิดแบบนั้น ผมเจอคุณทุกวันก็จริง แต่หลายวันมานี้ไม่ได้นอนกอดคุณเลยนะ ก็ต้องคิดถึงเป็นธรรมดา” ไม่พูดเปล่า ยังซุกไซ้จมูกโด่งกับต้นคอขาวระหงอย่างเอาแต่ใจ ขณะที่มือไม้ใหญ่ช่ำชองไม่อยู่นิ่ง ลูบไล้ส่วนเว้าโค้ง จับตรงนั้น บีบตรงนี้บนกายสาวเจ้าเป็นพัลวัน

“พอแล้วคุณวูล์ฟ คุณจะรังแกฉันทุกที่เลยหรือไง นี่มันที่ทำงานนะคะ”

“ก็บอกว่าคิดถึง” เขายังคงดันทุรัง ไม่สนใจคนที่กำลังดิ้นรนเอาตัวรอดจากเงื้อมมือสักนิด

“นี่จะให้ฉันมาช่วยงานแทนพี่ขวัญจริงหรือเปล่าคะ ตั้งแต่มาที่นี่ไม่เคยได้แตะงานเลย นอกจากทำหน้าที่เป็นนางบำเรอสนองตัณหาของคุณ” ที่สุดเธอก็โพล่งพูดอย่างเหลืออด ทำให้โลเวลชะงักไป

ชายหนุ่มสูดหายใจลึกที่ถูกขัดใจ ก่อนจะค่อยๆ ผละออกจากร่างบางช้าๆ ประสานนัยน์ตาคมกริบกับดวงตาฉายแววตัดพ้อกึ่งโกรธของเธอ

“ก็แค่ขอจูบ ขอหอมนิด ไม่ได้จะอึ๊บคุณตอนนี้สักหน่อยน้ำค้าง” เขาพ่นลมหายใจระบายความงุ่นง่านที่เกิดขึ้นทิ้ง ก่อนจะเลิกตอแยเอาแต่ใจกับเธอ “โอเค ไม่ทำอะไรคุณที่ทำงานก็ได้ เอาไว้เย็นนี้คุณกลับไปนอนกับผมที่คอนโดค่อยจัดหนักทีเดียว”

“คนบ้า คุณมันคิดแต่เรื่องพรรค์นั้น พนักงานของคุณทุกคนก็มองฉันด้วยสายตาดูถูกดูแคลน เพราะพวกเขาคงรู้ว่าฉันมากับคุณในฐานะอะไร” เธอสะบัดหน้าค้อนเขาวงใหญ่

อีกฝ่ายไหวไหล่อย่างไม่ยี่หระหรือสำนึกสักนิด ประจวบเหมาะกับที่คีรีโทร. เข้ามาเตือนว่าวันนี้มีประชุมสำคัญตอนเก้าโมงครึ่ง ทำให้โลเวลต้องตัดปัญหาเบื้องหน้าเรื่องคนตัวเล็กทิ้ง

“เดี๋ยววันนี้ผมมีประชุม เอาเป็นว่าคุณเข้าไปฟังพร้อมผมแล้วกัน ส่วนเรื่องจดรายงานการประชุม ผู้ช่วยเลขาฯ เขาจะช่วยจัดการให้ คุณก็ไปนั่งๆ ดูเธอว่าทำยังไง แล้วผมจะให้คีรีกับผู้ช่วยเลขาฯ ช่วยสอนงานคุณทีหลัง”

เลขาฯ ประจำตัวจำเป็นได้แต่พยักหน้าอย่างขอไปที เอาตามจริงเธอมาที่บริษัทของโลเวลในตำแหน่งอะไรก็ไม่ทราบได้ แต่พนักงานที่นี่ก็คงซุบซิบนินทาอย่างรู้กันนั่นละว่าเธอมาอยู่ในฐานะผู้หญิงบำบัดความใคร่ของเขา เพราะตอนนี้เธอจะเดินไปไหนมาไหนภายในบริษัทก็มีสายตาจับจ้องอย่างเหยียดหยัน จนรู้สึกสมเพชตัวเองมากขึ้นทุกวัน

หลังจากได้เวลาเข้าประชุม หยาดอรุณก็ตามโลเวลเข้าไปในห้องประชุมใหญ่ที่มีแต่ผู้บริหารระดับสูงของบริษัท หญิงสาวปั้นหน้าไม่ถูกนักเมื่อทุกคนมองมายังเธอราวกับเป็นตัวประหลาด

โลเวลเห็นทุกสายตาที่เต็มไปด้วยคำถามมองไปยังผู้หญิงของตัวเอง และพบว่าสีหน้าของเธอดูเจื่อนจางแปลกๆ ก็ชะงักชั่วขณะอย่างลังเล ใจหนึ่งเขาอยากจะเดินไปโอบประคองไหล่เธอแล้วแนะนำกับทุกคนไปเลยว่า เธอคือแฟนของเขาและกำลังจะมาช่วยแบ่งเบางาน แต่เพราะเขาไม่เคยยกย่องผู้หญิงคนไหนขึ้นมาในระดับที่เรียกว่าแฟนสักครั้ง และสถานการณ์ตอนนี้อาจดูรวดเร็วไปและคงไม่เหมาะสมถ้าจะพูดเรื่องส่วนตัว หรือบางทีหยาดอรุณอาจจะรับไม่ทัน และเกิดเธอปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นอะไรกับเขาขึ้นมาต่อหน้าคนอื่นๆ ล่ะ มีหวังเขาเสียหน้าแย่

เมื่อคิดได้ดังนั้นเขาจึงเลือกจะเดินต่อ ไปนั่งตรงเก้าอี้สำหรับรองประธาน และเป็นประธานในการประชุมในครั้งนี้ ก่อนจะบอกคนอื่นๆ ว่า

“ผู้หญิงคนนี้ชื่อหยาดอรุณ จะมาเป็นผู้ช่วยอีกคนของผมแทนเลขาฯ ที่ลาป่วยไป วันนี้ขออนุญาตให้เธอมานั่งฟังการประชุมไปพลางๆ ก่อนนะครับ รับรองว่าเธอเชื่อใจได้ ไม่เอาความลับของบริษัทเราไปแพร่งพรายให้คู่แข่งรู้แน่นอน” โลเวลแนะนำหญิงสาวพลางย้ำให้ความมั่นใจแก่ผู้บริหารคนอื่นๆ เกี่ยวกับหญิงสาวที่เขาพาเข้ามาด้วย แล้วพยักหน้าให้เธอทำความเคารพทุกคนในที่ประชุม

หยาดอรุณยกมือไหว้อ่อนช้อยกับผู้บริหาร แต่ยังมีความเก้ๆ กังๆ อยู่ไม่น้อยเช่นกัน

จากนั้นโลเวลก็พยักหน้าให้เธอตามผู้ช่วยเลขาฯ และคีรีไปนั่งตรงเก้าอี้ที่ตั้งเรียงติดผนังฝั่งหนึ่ง สำหรับนั่งรอเตรียมจดรายละเอียดในการประชุมครั้งนี้

ตลอดระยะเวลาการประชุม หยาดอรุณไม่ค่อยเข้าใจสิ่งที่คนในที่ประชุมพูดสักเท่าไร ก็อย่างที่รู้ๆ ว่าเธอไม่เคยทำงานแบบนี้และไม่เคยทำงานกับบริษัทของโลเวลมาก่อน หญิงสาวจึงเผลอนั่งใจลอยคิดอะไรไปเรื่อย คิดถึงเรื่องป้าของตนเองที่หายไปและยังไม่ทราบข่าวคราว แม้คนของโลเวลจะช่วยไปตามดูให้แถวบ้านเก่าแล้วก็ยังไม่พบนางทิพย์ กระทั่งเธอนึกไปถึงเรื่องที่กลัวจับใจตั้งแต่วันที่เธอมีอะไรกับโลเวล

ใช่แล้ว...เดือนนี้ประจำเดือนเธอยังไม่มาเลย นี่มันนานแค่ไหนแล้วนะ ปกติประจำเดือนของเธอต้องมาตรงเวลาทุกเดือน แต่เดือนนี้เหมือนมันจะเคลื่อนมาเกือบสัปดาห์แล้ว

จู่ๆ ความกังวลก็ทำให้หยาดอรุณรู้สึกร้อนวาบที่หน้าท้อง หญิงสาวลดมือไปกุมหน้าท้องโดยอัตโนมัติ ไพล่คิดถึงบทรักของเธอกับโลเวลที่นับครั้งแทบไม่ถ้วนแล้วก็ใจหาย ผู้ชายเอาแต่ใจอย่างเขาป้องกันบ้าง ไม่ป้องกันบ้าง ยิ่งระยะหลังๆ เขาแทบไม่ป้องกันเลย เธอจะกินยาคุม เขาก็ห้ามแล้วบอกว่าเขาเก่ง มีความสามารถมากพอที่จะไม่ปล่อยให้พลาดมีลูกยามที่ไม่พร้อม

เธออยากมั่นใจว่าเขาเก่งในเรื่องอย่างว่า แต่ตอนนี้ความกลัวและกังวลทำให้เธออยากจะไปตรวจให้แน่ใจมากกว่า

 

หยาดอรุณยืนกล้าๆ กลัวๆ อยู่หน้าร้านขายยาใกล้กับบริษัทของโลเวล เมื่อครู่ตอนเขายุ่งกับการเคลียร์เอกสารกองโตบนโต๊ะ เธอก็ขออนุญาตเขาลงมาหาอะไรกินเล่น ตอนแรกชายหนุ่มบอกให้เธอรอจนเขาเสร็จงานก่อนแล้วจะลงไปเป็นเพื่อน แต่เธอก็ใช้ลูกอ้อนที่คิดว่าเขาจะเชื่อใจขอลงมาซื้อขนม จนในที่สุดโลเวลก็ยอม

มาหาอะไรกินคือข้ออ้าง เพราะจุดประสงค์จริงๆ ตอนนี้ของเธออยู่ในร้านขายต่างหาก หญิงสาวรวบรวมความกล้าเดินเข้าไปในร้านที่ว่า และโชคดีที่เภสัชกรเป็นผู้หญิงจึงทำให้เธอพอจะอ้อมแอ้มกล้าพูดได้บ้างว่าสิ่งที่ต้องการซื้อในตอนนี้คืออะไร

“คือ...เอ่อ...ขอซื้อที่เทสต์ตั้งครรภ์ค่ะ” พูดไปก็ก้มหน้าแก้มแดงด้วยความกระดากอาย

เภสัชหญิงเข้าใจดีจึงรีบหยิบสินค้าใส่ถุงให้อย่างดี และคิดเงินโดยไม่ถามไถ่อะไรจากหญิงสาวให้ต้องขัดเขินไปมากกว่านี้ นอกจากแนะนำให้เธออ่านวิธีการใช้ที่ติดไปกับกล่องชุดทดสอบตั้งครรภ์ให้ละเอียดก่อนใช้เท่านั้น

หญิงสาวรีบเก็บของสำคัญที่ได้มาลงในกระเป๋าช่องซิปด้านในสุดแล้วรูดซิบปิดอย่างดี ก่อนจะแสร้งเดินไปซื้อขนมที่ร้านเบเกอรีใกล้ๆ ร้านขายยา แล้วเดินกลับมาที่บริษัท ตลอดเวลาหลังจากเธอกลับมาในห้องทำงานของโลเวล หยาดอรุณก็ไม่มีโอกาสได้ใช้ที่ตรวจการตั้งครรภ์อย่างใจคิด เพราะโอกาสอยู่ตามลำพังในที่ทำงานเรียกว่าไม่มีเลย

เย็นนั้นหลังเลิกงานแล้วโลเวลพาเธอกลับไปกินข้าวกับครองขวัญที่บ้านเช่าเช่นวันก่อน แต่คืนนี้เขากลับบอกครองขวัญว่าพรุ่งนี้มีงานสำคัญแต่เช้า ดังนั้นอยากจะขอให้หยาดอรุณไปนอนที่คอนโดของเขาเพื่อความสะดวกในการเดินทางมาบริษัทแต่เช้า ครองขวัญที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบางในแผนของเจ้านาย และด้วยความเกรงใจที่เขาแสนดีและมีน้ำใจกับเธอและน้องสาว จึงยอมอนุญาตไปอย่างไม่ตะขิดตะขวงใจเลย

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น