7

ท้องไม่รับ


 

7

ท้องไม่รับ

            คอนโดมิเนียมหรูของของโลเวลยังเป็นกรงทองกักขังหญิงสาวไร้หนทางสู้และต่อกรอย่างหยาดอรุณต่อไป แม้เธอไม่อยากมากับเขา หาข้ออ้างสารพัดก็ตามที แต่ถ้าเขาไม่ยอมก็ไม่ได้หมายความว่าเธอจะชนะเขาได้ เพราะแค่เขาสบตาอย่างมีนัยบางอย่างมาข่มขู่ คนมีชนักติดหลังก็ต้องยอมตามน้ำมากับเขาอย่างจำนน

            “กลับมาในที่ของเราแบบนี้ค่อยสะดวกใจหน่อย อยากจะกอดจะจูบคุณตอนไหนก็ไม่ต้องเกรงใจใคร” เขาบอกขณะปิดประตูห้องนอน แล้วเข้ามาสวมกอดหยาดอรุณไว้แน่นเต็มแรงโหยหา

            หญิงสาวยืนตัวแข็งทื่อขณะที่มือเรียวกระชับสายกระเป๋าสะพายข้างที่เธอยังไม่ยอมทิ้งห่างกาย

            “ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เพิ่งกลับมาถึงเหนียวเนื้อเหนียวตัวจะแย่ ขออาบน้ำก่อนเถอะค่ะ” เธอบ่ายเบี่ยง เพราะตอนนี้จิตใจจดจ่ออยู่กับสิ่งที่อยู่ในกระเป๋าของเธอมากกว่า คนกังวลเรื่องท้องอยากจะใช้ที่ทดสอบการตั้งครรภ์ให้ทราบผลเสียตอนนี้เร็วๆ

            “เสร็จแล้วเดี๋ยวค่อยอาบพร้อมกันก็ได้ ขอผมรักคุณเถอะนะน้ำค้าง ผมคิดถึงคุณจะแย่แล้ว ถ้าไม่เชื่อลองจับดูสิครับ” เสียงนั้นอ้อนเสียจนหยาดอรุณไม่คิดว่าจะได้รับฟังจากคนชอบเอาแต่ใจและชอบขู่บังคับคนอื่นอย่างเขา

            ทันทีที่เขาอ้อนจบก็คว้ากระเป๋าสะพายบนไหล่ของเธอโยนไปยังโซฟาตัวยาวในห้องนอน แล้วดึงมือเรียวของหญิงสาวมากุมสิ่งที่อยู่ภายใต้กางเกงของเขาทันที

หยาดอรุณสะดุ้งจนไหล่ไหว หน้าแดงก่ำ สิ่งที่ร้อนผ่าวใต้กางเกงของชายหนุ่มในมือเธอที่ถูกเขาบังคับให้จับกำลังขยายตัว

            “ใจเย็นสิคะ ขออาบน้ำก่อนเถอะ ฉันเหนียวตัว” เธอยังอ้างพลางขยับมือออกจากน้องชายจอมหื่นของเขา ที่ตอนนี้พองตัวใหญ่จนเธอต้องเบือนหน้าหนี

            ไม่ใช่ว่าครั้งแรก ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นอะไรๆ ของเขา แต่เธอไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไรกับเขาในเวลานี้เลย ไม่มีสักนิด

            “อย่าขัดใจสิ” เขาเริ่มทำเสียงคำรามในลำคอ แล้วลดปากกับจมูกลงมาหาแก้มและขมับเล็กของหยาดอรุณอย่างคนใจร้อน “คุณก็รู้ตัวเองดีนี่น้ำค้าง ว่าคุณจะพยายามปฏิเสธผมสักกี่ครั้ง สุดท้ายคุณก็แพ้ผมอยู่ดี”

            ไม่ปล่อยให้เสียเวลา เขายกร่างบางขึ้นอุ้มแล้วเดินอาดๆ ตรงไปวางเธอลงบนเตียงกว้างนุ่ม แล้วขึ้นคร่อมร่างบาง ก้มหน้าบดจูบปากนิ่มสีหวานอย่างคนกระหายหิว แต่ก็ยังเจือความอ่อนละมุนคละเคล้าสลับกัน กระทั่งหนำใจในรสจูบ เขาจึงยอมถอนริมฝีปากออกแต่ก็ไม่ยอมปลดปล่อยร่างอ่อนระทวยเบื้องล่างให้เป็นอิสระ โลเวลซุกหน้าลงกับร่องทรวงอิ่มของสาวเจ้า ที่แม้จะอยู่ภายใต้อาภรณ์ก็ยังน่ามองและน่าชิม เขาไม่รอช้าที่จะหยอกเย้าขบเม้มยอดอกหวานนั้นผ่านผิวผ้าที่ปิดกั้นอยู่ แต่แค่นั้นก็เรียกขนอ่อนบนกายสาวให้ลุกเกรียวพร้อมเสียงคราง

            “อ่า...คุณวูล์ฟ ปล่อยน้ำ...อะ...ปล่อยฉันก่อนได้ไหมคะ อย่าเอาแต่ใจแบบนี้สิ” เธอบอกเสียงสะท้าน จากที่ปฏิเสธว่าไม่มีอารมณ์หรือกะจิตกะใจจะปรนเปรอสวาทให้เขา แต่เพียงแค่เขาเริ่มลงมือปลุกเร้า กำหนัดในกายก็เริ่มพรั่งพรู

โอ้! เธอเผลอครางเสียแล้ว น่าอายที่สุด

            นาทีต่อมาหยาดอรุณก็รู้สึกเย็นวาบตรงช่วงล่างของร่างกาย เมื่อมือซุกซนของคนเอาแต่ใจถลกกระโปรงของเธอขึ้นมากองเหนือเอว และเกี่ยวเจ้ากางเกงตัวเล็กให้เลื่อนลงผ่านปลีน่องเรียวขาวก่อนจะหลุดพ้นออกจากข้อเท้าเล็ก

            “ให้ผมช่วยคุณก่อนนะน้ำค้าง คุณมีความสุขแล้วจะได้ไม่งอแงปฏิเสธผมอีก” เขากระซิบบอกเสียงกระเส่า ก่อนจะเคลื่อนร่างใหญ่ของตัวเองลงมาอยู่ปลายขาเรียวพลางจับสองขาของเธอแยกห่างจากกัน

            “ไม่เอานะคะ ไม่ใช่เวลานี้ ฉันยังไม่ได้อาบน้ำ ไม่สะอาด”

            “เมียผมสะอาดที่สุด แล้วก็หอมที่สุดด้วย อย่ากังวลไปเลยครับ” เขาบอกอย่างเอาใจ แล้วลดใบหน้าเข้าหากลางกายสาวที่แสนหอมหวานและน่าหลงใหลเป็นที่สุด

            ลมหายใจอุ่นร้อนที่รดรินตรงกลางเนินสวรรค์สร้างความสั่นสะท้านซ่านหวิวให้แก่หญิงสาวไปแล้วกว่าครึ่ง เธอพยายามจะหุบเรียวขาเข้าหากันเมื่อแน่ใจว่าชายหนุ่มกำลังจะทำอะไร แต่คงไม่ไวเท่ากับคนตัวใหญ่ที่แทรกตัวอยู่กลางระหว่างสองขา และเขากำลังส่งปลายลิ้นสากเติมเต็มความสุขให้แก่เธอ

            “อย่า...อย่าคุณวูล์ฟ”

            เหมือนโลเวลจะไม่ได้ยินอะไรอีกแล้ว เขาบรรจงปล่อยไฟพิศวาสโลมเลียไปทั่วกายสาว ซอนไซ้ปลายลิ้นดำดิ่งควานหาน้ำผึ้งแสนหวานมากขึ้น หญิงสาวก็ร้องครวญครางราวกำลังทรมานเหลือเกิน สะโพกผายยกร่อนไปตามแรงกดเน้นของลิ้นแสนชำนาญการ และนั่นทำให้เธอตาพร่าไปหมด

            นิ้วเรียวทั้งสิบจิกทึ้งลงบนที่นอนนุ่มเมื่อรู้สึกว่ากำลังเคลื่อนตัวเข้าใกล้ปลายทางสีรุ้งที่โลเวลเคยพาเธอไปพบบ่อยครั้งเต็มที เธอครางกระเส่าเพราะความเร่าร้อนที่ถูกมอบให้ ไม่นานร่างบางก็กระตุกเมื่อลิ้นร้ายกาจของชายหนุ่มส่งเธอจนแตะสายรุ้งสีงามสำเร็จ

            “คุณโอเคใช่ไหมเมียรัก คุณมีความสุขใช่ไหม บอกผมสิ”

            “อื้ม...” หญิงสาวคราง ต้องการจะบอกว่าไม่ แต่เธอไม่แน่ใจว่านั่นจะใช่คำปฏิเสธไหม ในเมื่อเสียงครางในลำคอนั้นราวกับยอมรับว่าเธอสุขเสียมากกว่า

            “ถ้าอย่างนั้นอย่างอแงกับผมอีกเลยนะ ให้ผมรักคุณนะน้ำค้าง ผมทรมานจะตายอยู่แล้ว...ผมต้องการคุณ” เขาเคลื่อนใบหน้าคมคล้ามเข้ามากระซิบข้างหูบอกคนที่นอนอ่อนระทวยบนเตียง แต่จังหวะที่กำลังจะปลดเปลื้องเสื้อผ้าตัวเองออกแล้วปลดปล่อยความทรมานที่ว่า โทรศัพท์มือถือที่เขาใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็ดันดังขึ้นขัดจังหวะที่จะได้กินเนื้อหวานๆ ของเธออย่างใจหวัง

            โลเวลถอนหายใจอย่างฉุนๆ นึกอยากจะด่าพวกที่โทร. มาไม่รู้จักกาลเทศะให้หนักๆ และเมื่อเห็นว่าเป็นเบอร์ของไอ้เพื่อนสนิทตัวแสบอย่างจิรายุ เขาก็สบถออกมาอย่างขัดใจ

            “ไอ้บ้ายุ มีธุระอะไรของมัน” เขาทำท่าจะไม่รับโทรศัพท์ในมือ แถมทำทีจะโยนมันไปไกลๆ ตาเสียอีก แต่มือเรียวของหญิงสาวที่หยัดตัวลุกจากเตียงได้รั้งแขนใหญ่ของเขาไว้เสียก่อน

            “พี่ยุโทร. มาเหรอคะ งั้นคุณวูล์ฟก็คุยกับพี่ยุไปก่อนก็ได้นะคะ ฉันขอตัวไปอาบน้ำแป๊บเดียว” เธอบอกอย่างใจเย็น แต่กลับได้รับสายตาแข็งกระด้างจากโลเวลที่จ้องเอาๆ อย่างไม่ชอบใจ

            คนบ้า จะทำตาดุใส่เธอทำไมกัน ก็แค่บอกให้ไปคุยโทรศัพท์กับจิรายุเฉยๆ

            “ทีกับไอ้ยุเรียกพี่เสียงอ่อนเสียงหวานเชียวนะ ทีกับผัวตัวเองทำเหมือนกับเป็นคนอื่น เรียกคุณทุกคำ” เขาประชด น้ำเสียงติดจะน้อยใจด้วยซ้ำ ทว่าหยาดอรุณไม่อาจเข้าใจหรือแยกออกได้ แต่กลับคิดว่าเขาก็เป็นคนนิสัยพาลเกเรแบบนี้ตลอดนั่นละ

            “ฉันไม่อยากทะเลาะกับคุณนะคะ ขอตัวไปอาบน้ำดีกว่า” หญิงสาวลอบถอนหายใจเบื่อหน่าย ไม่อยากต่อกรกับเขาให้มากไปกว่านี้ เลยเลือกจะเลี่ยง เธอรีบจัดเสื้อผ้าตัวเองให้เข้าที่ ก้าวลงจากเตียงแล้วเดินไปคว้ากระเป๋าสะพายที่ถูกโลเวลโยนไว้ตรงโซฟา ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ

            ด้านคนน้อยใจแต่ผู้หญิงไม่แคร์แถมไม่รู้อีกต่างหากหน้าบูดหัวเสีย ยิ่งเห็นชื่อไอ้เพื่อนตัวดีโชว์ติดๆ กันบนหน้าจอโทรศัพท์ราวกับมีเรื่องร้อนใจก็ยิ่งทำให้โลเวลหงุดหงิด

            “โทร. มาทำไมนักหนาวะไอ้ยุ มีธุระอะไร” เขาถามเสียงแข็งใส่อีกฝ่ายหลังจากตัดสินใจรับสายของจิรายุ แต่เมื่อได้ยินเพื่อนสนิทตอบกลับมาเท่านั้น ก็ทำให้คนที่อารมณ์เสียอยู่แล้วยิ่งหน้าแดงก่ำด้วยความโกรธจัดกว่าเดิม

 

ขีดสีแดงสองขีดที่โชว์เด่นชัดบนแท่งทดสอบการตั้งครรภ์ทำให้เจ้าของผลตรวจเนื้อตัวสั่นไปหมด มือเรียวที่จับเจ้าแท่งสีขาวๆ นั่นก็ด้วย มันสั่นระริกจนทำเอาของที่อยู่ในมือตกลงพื้นในห้องน้ำ สิ่งที่เธอกลัวและหวั่นมาตลอดกำลังเกิดขึ้น ความอัปยศที่มารดาของเธอเคยก่อไว้ให้ครอบครัวในอดีต ตอนนี้เธอกำลังทำให้มันเกิดซ้ำรอย

ป้าทิพย์ต้องโกรธมากแน่ๆ ถ้ารู้ว่าเธอท้อง ท้องทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้ไม่เคยมีแฟน ท้องโดยที่ไม่ได้ตกแต่งประกาศให้ชาวบ้านรับรู้มาก่อนเลย ไหนจะครองขวัญที่เคยรักและมองเธอเหมือนเด็กดีแสนใสซื่อมาตลอด พี่สาวของเธอจะเสียใจและเสียความรู้สึกมากแค่ไหน ถ้ารู้ว่าน้องสาวคนนี้ไม่ได้ใสซื่อบริสุทธิ์อีกต่อไป

“ป้าทิพย์ พี่ขวัญ น้ำขอโทษ...น้ำขอโทษ...” หญิงสาวสะอื้นในลำคอ น้ำตาไหลอาบสองแก้มด้วยความรู้สึกผิดและเสียใจอย่างที่สุด เธอเคยบอกตัวเองเสมอว่าจะไม่ทำเรื่องน่าขายหน้าอย่างที่คนเป็นป้าชี้หน้าคาดโทษเอาไว้เด็ดขาด แต่แล้วเธอก็พลาด พลาดเพราะผู้ชายเห็นแก่ตัวอย่างโลเวล

ร่างบางค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งยองๆ เมื่อขาสั่นจนไม่มีแรงยืนพร้อมกับเก็บเจ้าแท่งทดสอบการตั้งครรภ์นั้นขึ้นมาเพ่งดูทั้งน้ำตาเอ่อคลออีกคราว...เธอจะทำอย่างไรดี เรื่องนี้เธอควรจะหาทางออกแบบไหนที่ดีที่สุดสำหรับทุกคน

หยาดอรุณฟูมฟายเพราะความผิดพลาดที่เกิดขึ้นไม่นานนัก เธอก็รีบปาดน้ำตาแสนอ่อนแอทิ้งแล้วเริ่มตั้งสติ หญิงสาวตัดสินใจเผชิญหน้ากับความจริง มาถึงจุดนี้แล้วเธอไม่มีอะไรต้องเสียอีกแล้ว เธอคงต้องบอกเรื่องนี้กับโลเวล ถ้าเขาจะปฏิเสธไม่ยอมรับเป็นพ่อของลูกในท้องเธอและไม่รับผิดชอบ ถึงตอนนั้นเธอค่อยหาทางออกใหม่ที่จะไม่ทำร้ายความรู้สึกของคนที่เธอรักแล้วก็รักเธอ

เมื่อคิดได้ดังนั้นหยาดอรุณจึงหยัดตัวลุกขึ้นบนลำแข้งสั่นๆ ทั้งสองข้าง กระชับสิ่งเล็กๆ ในมือไว้แน่น สิ่งนี้ที่เธอจะเอาไปให้โลเวลดู เพื่อยืนยันว่าเธอไม่ได้อ้างเพราะต้องการจะแต่งงานกับเขาหรือเรียกร้องค่าเสียหายเป็นเงินมหาศาล แต่สิ่งที่เธอต้องการคือความรับผิดชอบเพื่อให้เธอ ป้าทิพย์ และครองขวัญไม่ต้องอับอายชาวบ้านเท่านั้น เธอไม่ได้หวังจะให้ชายหนุ่มรับผิดชอบตัวเธอและลูกตลอดชีวิต แต่จะบอกเขาว่าขอแค่เพียงการแต่งงานเล็กๆ ประกาศว่าเธอมีสามีตามขนบธรรมเนียมไทย และหลังจากเธอคลอดค่อยปล่อยข่าวว่าเขากับเธอเลิกรากันแล้ว ถึงตอนนั้นก็คงไม่มีใครจะใส่ใจอะไรมากนักหรอก เพราะสมัยนี้คนแต่งงานและเลิกก็มีเยอะแยะไป

หญิงสาวค่อยๆ แง้มประตูห้องน้ำซึ่งอยู่ในห้องนอนออกช้าๆ พลางชะเง้อมองหาคนที่คิดว่าจะอยู่ในห้อง แต่กลับไม่เจอโลเวล หยาดอรุณจึงเดินออกมาจากห้องนอนมาตามหาเขา และเธอก็เห็นชายหนุ่มยืนอยู่ตรงมุมนั่งเล่น เขาหันหลังให้เธอ มือข้างหนึ่งถือโทรศัพท์มือถือแนบข้างหูแน่น ท่าทางฮึดฮัด น้ำเสียงกร้าวกระด้างขณะเอ่ยกับใครบางคนในสาย ส่งผลให้หญิงสาวที่กำลังรวบรวมความกล้าเผชิญหน้ากับความจริงอยู่ตัวสั่นงันงก

“คุณท้องกับผมงั้นเหรอ นอนกับผมแค่ครั้งเดียวเนี่ยนะจะท้อง ตลกแล้วมั้งแม่คุณ คนอย่างผม วูล์ฟ โลเวล ไม่เคยพลาด ผมป้องกันตัวเองอย่างดีเสมอ อย่าคิดจะมาจับผู้ชายด้วยแผนตื้นๆ” เขาหน้าดำหน้าแดงด้วยความโกรธจัดตอนเค้นเสียงห้วนๆ บอกปลายสาย ยัยผู้หญิงคนหนึ่งเคยนอนกับเขาและดันรู้จักกับจิรายุ เจ้าหล่อนจึงไปร้องห่มร้องไห้กับเพื่อนของเขา แถมยังขอร้องให้จิรายุติดต่อมาหาเขาอีกต่างหาก

จะบอกว่าโลเวลชินแล้วที่ต้องสู้รบตบมือกับผู้หญิงหัวหมอที่ต้องการจะจับเขาก็ไม่เชิง แต่เมื่อนี่ไม่ใช่ครั้งแรก ดังนั้นเขาจึงมีวิธีปราบพวกหล่อนได้แบบเผ็ดร้อนเช่นกัน

กล้าอ้างว่าท้องกับเขา คิดจะจับเขาน่ะเหรอ ฝันไปเถอะ!

“ไม่ต้องแสดง ไม่ต้องบีบน้ำตา ผมไม่มีทางเชื่อว่าคุณท้อง แล้วถ้าคุณท้องจริงๆ ผมก็มั่นใจว่าในท้องคุณไม่ใช่ลูกของผมแน่ๆ”

คำพูดของเขาทุกคำ หยาดอรุณได้ยินชัดเจน เธอรีบเก็บที่ทดสอบการตั้งครรภ์ในมือซ่อนไว้ข้างหลัง และถอยเท้าห่างออกมาจากโลเวลช้าๆ เขามัวแต่โกรธจนหูอื้อจึงไม่ได้ยินฝีเท้าเล็กๆ ของเธอ ตรงข้ามกับหญิงสาว เธอได้ยินประโยคถัดมาของเขาทุกคำ และมันกำลังตอกย้ำความหวาดหวั่นให้เธอ

“ยังยืนยันว่าท้องกับผมแน่ๆ ใช่ไหม โอเค...ได้ ถ้ามั่นใจอย่างนั้นพรุ่งนี้ให้ไอ้ยุพาคุณมาหาผมเลย”

 เขากัดฟันกรอด การจะจัดการผู้หญิงที่ชอบอ้างเหตุผลงี่เง่าแบบนี้เพราะต้องการจะจับเขาไม่ได้ยากเลยสำหรับคนอย่างโลเวล แต่เขาเกลียดที่พวกหล่อนคิดว่าคนอย่างเขาโง่ ถึงได้ใช้ข้ออ้างว่าท้องแบบนี้ เพราะฉะนั้นเขาจะทำให้พวกหล่อนสะอึกและไม่กล้ามายุ่งกับเขาอีกด้วยคำพูดแรงๆ เลวๆ นี่ละ

“แต่บอกไว้ก่อนนะว่าผมไม่ได้คิดจะชดใช้ค่าเสียหายหรือค่าเลี้ยงดูให้คุณหรอก ก่อนจะนอนกับผม ผมก็ให้คนของผมคุยกับผู้หญิงทุกคนดีอยู่แล้วว่าผมไม่ชอบให้ใครมาผูกมัดหรือโกหก เพราะฉะนั้นผมจะพาคุณไปพิสูจน์ที่โรงพยาบาล ผมรับรองจะเลือกโรงพยาบาลที่ดีที่สุดที่จะช่วยพิสูจน์เรื่องนี้ ให้หมอช่วยเอาลูกของคุณออกมาให้ผมดูกับตาเองเป็นไง และถ้าพิสูจน์ออกมาแล้วเด็กในท้องคุณไม่ใช่ลูกผม คุณก็เตรียมตัวรับชะตากรรมได้เลย” เขาขู่ตบท้าย ก่อนจะตัดสายทิ้งอย่างหัวเสียเต็มกำลัง

โลเวลถอนหายใจฟืดฟาด ปรับอารมณ์กรุ่นๆ อยู่พักใหญ่ แต่ก็ไม่ได้ช่วยทำให้ใจเย็นลงได้เลย และเมื่อเขาเดินมาหยุดยืนหน้าประตูห้องนอนที่ปิดสนิทอยู่ ชายหนุ่มก็นึกถึงคนที่อยู่ในห้อง แน่นอนว่าเธอคือคนเดียวเท่านั้นที่จะทำให้ความร้อนที่เดือดปุดๆ ในอกเขายามนี้คลายลงได้

เสียงประตูห้องที่เปิดออกโดยที่คนเปิดไม่ได้เคาะประตู ทำให้คนที่เข้ามาในห้องก่อนหน้านี้แล้วยืนเนื้อตัวสั่นอย่างวิตกกังวล ตกใจจนทำที่ตรวจครรภ์ในมือตกพื้น หญิงสาวมองตามเจ้าสิ่งนั้นอย่างใจหาย กลัวเหลือเกินว่าโลเวลจะรู้ แต่เธอก็ไวพอจะใช้เท้าเตะเจ้าตัวปัญหาชิ้นเล็กเข้าไปอยู่ใต้เตียงนอนก่อนที่ชายหนุ่มจะสังเกตเห็น และโชคดีที่เตียงของโลเวลเป็นเตียงที่สูงจากพื้นแค่เล็กน้อยเท่านั้น เรียกได้ว่าถ้าทำอะไรตกเข้าไปข้างใต้ จะต้องยกเตียงออกเพื่อหากันเลยทีเดียว แต่หยาดอรุณไม่คิดว่าเธอจะทำแบบนั้นในตอนนี้แน่ๆ

“น้ำค้าง ไหนบอกผมว่าจะอาบน้ำไง” เขากวาดตามองเสื้อผ้าของหญิงสาวที่ยังเป็นชุดเดิมไม่ผิดเพี้ยน แต่นั่นก็ไม่ใช่สิ่งที่เขาให้ความสำคัญเท่ากับตัวเธอ

โลเวลเดินมาสวมกอดหญิงสาวอีกครั้งอย่างโหยหาพร้อมกับปัดเรื่องบ้าๆ เมื่อครู่ทิ้งไป เขาต้องการมีความสุขกับผู้หญิงที่เขาพึงพอใจคนนี้

“คุณวูล์ฟ อย่าค่ะ เอ่อ...ฉันยังไม่ได้อาบน้ำเลย” คนที่กำลังเครียดและกดดันเพราะปัญหาในยามนี้อึกอัก พยายามบ่ายเบี่ยง ยิ่งรู้ว่าตัวเองท้อง เธอก็ยิ่งห่วงว่าจะเป็นอันตรายกับลูก

ใช่...เธอมีลูกแล้ว ลูกของโลเวลอยู่ในท้องของเธอ และแม้ว่าเธอจะไม่ได้รักผู้ชายคนนี้ เช่นเดียวกับเขาก็คงไม่ได้คิดรักเธอแม้แต่น้อย นอกจากความหลงใหลชั่วขณะที่มีต่อเธอเท่านั้น แต่อย่างไรเสียเด็กที่กำลังก่อเกิดในท้องของเธอก็คือลูกของเธอ และเธอต้องปกป้องเขาให้ปลอดภัย เหมือนที่ครั้งหนึ่งแม่ของเธอเคยปกป้องเธอไว้ แม้ว่าท่านจะต้องแบกหน้ารับความอับอายมากแค่ไหนก็ตาม

“ก็ผมให้เวลาคุณแล้วไง แต่คุณไม่อาบเอง เพราะฉะนั้นหมดเวลาแล้ว เอาไว้เราเสร็จค่อยไปอาบด้วยกันก็ได้” เขาจู่โจมทันทีอย่างไม่สนใจแรงขัดขืนของอีกฝ่าย ซุกไซ้จมูกและปากคลอเคลียบนแก้มขาวๆ ไล่ลามลงไปถึงต้นคอ ขณะที่มือใหญ่ปลดแขนเสื้อเดรสของเธอออกจากต้นแขน แหวกคอเสื้อแหลมๆ ให้เผยความงดงามของทรวงอกสาวที่ดูอวบอัดและหนั่นแน่นขึ้นกว่าทุกๆ วันที่เคยได้สัมผัส

“มะ...ไม่นะคะ ปล่อยก่อนสิ” หยาดอรุณร้องบอกปากคอสั่นระริกเมื่อเขาลดริมฝีปากลงมาแตะแต้มบนเนินอกอวบขาวทั้งสองข้างอย่างบ้าคลั่ง

“โธ่...เห็นใจผมเถอะน้ำค้าง ผมคิดถึงคุณจะแย่”

คำคิดถึงของเขาไม่ได้ทำให้หญิงสาวซาบซึ้ง เพราะเธอรู้ดีแก่ใจว่าสิ่งที่เขาต้องการก็คือการปลดปล่อยราคะของตัวเองกับร่างกายเธอเท่านั้น เขาไม่เคยรักเธอและคงไม่ได้คิดถึงเพราะความรู้สึกลึกๆ ของหัวใจ

“อืม...” หญิงสาวเผลอร้องครางในลำคอเมื่อการต่อต้านของเธอเป็นรองแรงของคนตัวใหญ่ เมื่อเขาอ้าปากโอบรัดยอดถันที่ชูชันอย่างไม่อายเข้าไปดูดกลืน เธอก็หัวหมุนติ้ว

ไม่ได้นะน้ำค้าง เธออย่าปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปแบบนี้ ลูกของเธอต้องเป็นอันตรายแน่ๆ ถ้ายังปล่อยให้เขาดันทุรังรุกรานเธอต่อไป เมื่อหญิงสาวคิดได้เช่นนั้นจึงขยับปากตั้งใจจะหาข้ออ้างปฏิเสธเขาเอาตัวรอด แต่ประจวบเหมาะกับที่โทรศัพท์มือถือของโลเวลดังขึ้นอีกครั้ง และมันคล้ายเป็นระฆังช่วยชีวิตเธอ

“บ้าเอ๊ย! ใครโทร. มาอีกวะ นี่จะไม่ให้มีเวลาส่วนตัวเลยหรือไง” เขาสบถเสียงเดือดดาลไม่ต่างจากตอนรับสายแรกก่อนหน้านี้ แต่เมื่อล้วงเจ้าเครื่องมือสื่อสารที่กรีดร้องในกระเป๋ากางเกงขึ้นมาดูให้เต็มตา หนุ่มลูกครึ่งที่กำลังขัดใจก็เลิกคิ้วสูงด้วยความฉงน

เบอร์โทร. ทางไกล!

ชายหนุ่มรีบรับสายทันทีเมื่อนึกไปถึงว่าคนที่โทร. มาอาจเป็นน้องชายของตนเองที่เพิ่งจะประสบอุบัติเหตุไปไม่นานมานี้ และแม้จะรู้ดีว่าอีกฝ่ายไม่ได้เป็นอะไรมาก แต่เขาก็ห่วงใยธีราทร ทว่าพอรับสายกลับได้ยินเสียงผู้หญิงจากทางนั้น

“พี่วูล์ฟคะ นี่หว่าหวานะคะ” เสียงของเธอสั่นเครือเจือความตื่นเต้น

“มีอะไรหรือเปล่าหว่าหวา” ลางสังหรณ์บอกเขาว่าคู่หมั้นของน้องชายกำลังมีเรื่องไม่สู้ดีนักที่จะบอก และก็เป็นจริงอย่างที่คิด

“พี่ธีร์ค่ะ พี่ธีร์หายตัวไป...”

 

การหายตัวไปของธีราทรทำให้คนเป็นพี่ชายพร้อมคนสนิทอย่างคีรีต้องบินข้ามฟ้ามาช่วยตามหาตัวเขาอย่างเร่งด่วน โดยที่เขาให้หยาดอรุณกลับไปอยู่กับครองขวัญที่บ้านเช่าในช่วงเวลาที่เขาไม่อยู่

โลเวลขมวดคิ้วมุ่นขณะอ่านจดหมายฉบับหนึ่งที่ธีราทรเขียนทิ้งไว้ให้ปัญชิกา ก่อนที่น้องชายจะหายตัวไป แต่เนื้อหาในจดหมายบอกเจตนาชัดเจนถึงความต้องการของธีราทร ซึ่งแน่นอนจะเรียกว่าชายหนุ่มหายตัวไปก็คงไม่ถูก แต่เขาตั้งใจเดินจากไปจากคู่หมั้นสาวต่างหาก

ถึงหว่าหวา

พี่ต้องขอโทษที่จดหมายฉบับนี้อาจทำให้หว่าหวาเสียใจ แต่หลังจากพี่ลองทบทวนบางอย่างแล้ว พี่ถึงรู้ว่าจริงๆ พี่ต้องการอะไรมากกว่ากัน พี่อยากจะเป็นอิสระ ได้เที่ยวเล่นตามความฝันของตัวเองไปเรื่อยๆ และชีวิตแบบนี้คงไม่มีอนาคตให้แก่หว่าหวานัก พี่จึงอยากจะขอให้เราถอนหมั้นกัน และให้หว่าหวามองหาผู้ชายที่ดีและคู่ควรกับหว่าหวา คนที่ดีกว่าผู้ชายเห็นแก่ตัวคนนี้ ส่วนเรื่องถอนหมั้นของเรา พี่ขอเวลาอีกสักพัก แล้วพี่จะเข้าไปกราบขอขมาครอบครัวของหว่าหวาด้วยตัวเอง

 

ลาก่อน

จากพี่ธีร์

           

ลายเซ็นที่ธีราทรลงไว้ท้ายสุดของบรรทัดบ่งบอกได้ดีว่าจดหมายฉบับนี้เป็นของชายหนุ่มอย่างแท้จริง

            หนุ่มลูกครึ่งมองหน้าว่าที่น้องสะใภ้ที่ร้องไห้ฟูมฟายสะอึกสะอื้นอย่างเห็นอกเห็นใจ เขาก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าธีราทรทำแบบนี้ทำไม ทั้งๆ ที่น้องชายของเขาทั้งรักทั้งบูชาแฟนสาวคนนี้มากมายเหลือเกิน

“พี่ว่านายธีร์มันอาจมีเหตุผลอะไรมากกว่านี้ นายธีร์รักหว่าหวามากแค่ไหน ใครๆ ก็รู้ จู่ๆ จะมาอ้างเหตุผลแบบนี้แล้วขอถอนหมั้น มันไม่น่าเป็นไปได้” เขาไม่รู้จะเอ่ยปลอบเธอเช่นไรดี นอกจากลูบแผ่นหลังบางที่สั่นสะท้านเบาๆ

“ชะ...ใช่ค่ะ แต่...แต่พี่ธีร์ดูเปลี่ยนไป ตั้งแต่หลังประสบอุบัติเหตุคราวนั้น เขาเปลี่ยนไปมากเลยนะคะ พี่ธีร์ดูมึนตึงใส่หว่าหวา เหมือนว่าโกรธเกลียดอะไรหว่าหวาเลย หรือเขาเบื่อหว่าหวาแล้วคะ ถึงได้ทิ้งหว่าหวาออกไปตามหาความฝัน...”

“ไม่ใช่หรอกน่า พี่เชื่อว่านายธีร์ยังรักหว่าหวา”

“ถ้ารักทำไมต้องขอเลิกล่ะคะ...” หญิงสาวปล่อยโฮ ปากคอสั่นด้วยความเสียใจ “พี่ธีร์เกลียดหว่าหวาแล้วต่างหาก...ตอนพี่วูล์ฟบอกให้เขารักษาตัวอยู่ที่นี่ เขาอยู่เพราะไม่กล้าขัดคำสั่งเท่านั้นเอง แต่ใจจริงคงอยากจะหนีไปจากหว่าหวา ฮือๆๆ...”

หญิงสาวร้องไห้หนักกว่าเดิม ส่งผลให้โลเวลสงสารจับใจจนต้องดึงเธอเข้ามากอดปลอบ ในความรู้สึกของหนุ่มลูกครึ่ง สำหรับปัญชิกาเป็นน้องสาวคนหนึ่งที่เขาเอ็นดู หญิงสาวเพียบพร้อมทั้งชาติตระกูล รูปร่างหน้าตา แถมการศึกษาก็ดี มารยาทอ่อนหวานสมอยู่ในตระกูลดีที่ได้รับการอบรมบ่มนิสัย ไม่มีอะไรเสียหายสักอย่าง แล้วเหตุผลใดเล่าที่ธีราทรจะทิ้งขว้างเพชรเม็ดงามนี้ไปเสียได้

เกิดอะไรขึ้นกับชีวิตน้องชายของเขากันแน่

 

ด้านคนที่ทิ้งจดหมายล่ำลาไว้ ปล่อยให้คนข้างหลังเป็นห่วงและกังวลเรื่องของเขา บินหนีกลับมาเมืองไทยเรียบร้อยแล้ว ทว่าชายหนุ่มไม่ได้กลับบ้าน เขาแวะไปนั่งดื่มกับนายแพทย์เจตน์ เพื่อนรุ่นพี่ที่ทั้งธีราทรและโลเวลสนิทและนับถือมากๆ คนหนึ่ง เจตน์ไว้ใจได้และเป็นคนที่คุยด้วยแล้วสบายใจทุกๆ เรื่อง

หลังคุยกับนายแพทย์เจตน์ได้พักใหญ่ ธีราทรก็ขอตัวออกจากโรงพยาบาลเอกชนที่แพทย์หนุ่มทำงานอยู่ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่ครอบครัวกิตติเดชาธรใช้บริการเป็นประจำ ก่อนจะกลับเมื่อครู่เจตน์ยังเล่าให้ฟังอยู่เลยว่าโลเวลพาเลขาฯ ประจำตัวมาผ่าตัดเนื้องอกสมองที่นี่ แต่พอดีเจตน์ไม่ได้เป็นคุณหมอเจ้าของไข้ กับงานที่ยุ่งจนรัดตัวแล้วด้วย เลยไม่มีโอกาสไปเยี่ยมคนไข้พิเศษที่โลเวลพามา และตอนนี้เลขาฯ สาวได้กลับไปพักฟื้นที่บ้านของหล่อนเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

ธีราทรไม่ได้ติดใจอะไรที่พี่ชายพาเลขาฯ ประจำตัวมารักษาตัว เพราะเขาก็พอรู้จักครองขวัญอยู่บ้าง และก็รู้ดีว่าครองขวัญไม่ใช่ผู้หญิงที่โลเวลจะแตะต้องให้มัวหมอง หรือพูดง่ายๆ คือโลเวลไม่นิยมทำตัวเป็นสมภารกินไก่วัด และการที่พี่ชายพาเลขาฯ สาวมารักษาที่โรงพยาบาลมีชื่อแห่งนี้ พร้อมออกค่าใช้จ่ายแสนแพงให้ทุกบาททุกสตางค์ คงเพราะเห็นอีกฝ่ายทำงานกับตนเองจึงอยากจะช่วยเหลือก็เท่านั้น

ชายหนุ่มปัดเรื่องของพี่ชายออกจากสมองทันที เขาเดินมาโบกรถแท็กซี่ด้านหน้าตึกของโรงพยาบาลซึ่งมีเข้ามาให้บริการลูกค้าอยู่สม่ำเสมอ และเมื่อเข้าไปนั่งที่เบาะหลังของแท็กซี่คันดังกล่าวได้ เขาก็ปล่อยความคิดเลื่อนเปื้อนไปไกล และเพราะเขายังไม่อยากกลับบ้านยามนี้ เลยบอกให้แท็กซี่ขับรถไปยังสวนสาธารณะแห่งหนึ่งที่อยู่ติดแม่น้ำเจ้าพระยาแทน

 

หลังจากโลเวลไม่อยู่ หยาดอรุณก็พยายามคิดหาทางออกที่ดีให้แก่ตัวเองและลูกในท้อง ก่อนที่ชายหนุ่มจะกลับมาถึงเมืองไทย พร้อมกันนั้นทางออกครั้งนี้จะต้องไม่สร้างความเสื่อมเสียให้ครองขวัญและทำให้ป้าทิพย์ขายหน้าด้วย แต่ขณะที่หยาดอรุณยังคิดหาทางที่ดีไม่ออก เธอก็ได้แต่หลบหน้าครองขวัญออกมานอกบ้าน

หญิงสาวหย่อนกายลงนั่งบนม้านั่งสนามใต้ต้นไม้ใหญ่ต้นหนึ่งในสวนสาธารณะ มุมนี้ที่เธอเลือกแล้วว่าห่างไกลจากผู้คนและสงบที่สุด หยาดอรุณคิดสะระตะหาหนทางออกให้ปัญหาของตัวเอง กระทั่งตัดสินใจว่าจะปรึกษาปัญหาใหญ่ครั้งนี้ที่เธอไม่กล้าบอกใครในครอบครัวกับเพื่อนคนหนึ่ง ซึ่งแน่นอนว่าเพื่อนสนิทเพียงคนเดียวที่เธอมีอยู่และคอยให้ความช่วยเหลือเธอมาตลอดนั้นก็คือ เพื่อนที่เรียนมหาวิทยาลัยด้วยกัน กีกี้...เพื่อนชายหัวใจสาวของเธอนั่นเอง

ทว่าเมื่อหยาดอรุณโทร. หาอีกฝ่ายจริงๆ กีกี้ก็กลับมีปัญหาครอบครัว และเป็นเขาที่ฟูมฟายหนักกว่าหญิงสาว เพราะเรื่องที่บิดาจับได้ว่าเขาไม่แมนสมเป็นลูกผู้ชายที่ท่านวาดหวังให้เป็นผู้สืบสกุล จึงมีเรื่องทะเลาะกับบิดา และตอนนี้ก็หนีออกจากบ้านไปพักร้อนที่ทะเลภูเก็ต

“ทำไมถึงเป็นแบบนี้นะ” หยาดอรุณมองหน้าจอโทรศัพท์ของตนเองที่เพิ่งวางสายจากเพื่อนชายใจหญิงไปเมื่อครู่แล้วก็ขอบตาแดงเรื่อ ตอนนี้เพื่อนของเธอก็มีปัญหาหนักใจไม่แพ้เธอเช่นกัน แล้วแบบนี้มีหรือที่เธอจะกล้าปรึกษาหรือเอาปัญหาของตัวเองไปให้เพื่อนต้องปวดหัวเพิ่มอีก

มาถึงตรงนี้แล้วไม่มีใครช่วยเธอได้ เธอคงต้องช่วยเหลือตัวเองสินะ แต่ว่าจะเริ่มจากตรงไหน หยาดอรุณยกมือขึ้นกุมหน้าสะอื้นไห้เมื่อทางออกของตนเองช่างมืดมนเหลือเกิน

“โธ่เว้ย! ทำไมถึงเป็นแบบนี้ ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับชีวิตฉันด้วย ทำไม...!”

เสียงตะโกนของใครคนหนึ่งดังมาจากหลังพุ่มไม้ไม่ไกลกับที่หยาดอรุณนั่งนัก ทำให้หญิงสาวสะดุ้งตกใจไม่น้อย เธอเงยหน้าขึ้น รีบปาดน้ำตาแล้วหันซ้ายหันขวามองหาเจ้าของเสียงดังกล่าว

จ๋อม! ของบางสิ่งตกลงในน้ำจนผิวน้ำกระเพื่อม หยาดอรุณมองตามจึงเห็นว่าเป็นก้อนหินที่ใครบางคนโยนลงไปในแม่น้ำติดๆ กัน ราวกับว่าเขาอยากจะระบายอารมณ์หรือโยนความทุกข์ใจทิ้งไปเหมือนก้อนหินก็ไม่ปาน

หญิงสาวจ้องมองผิวน้ำที่ก้อนหินตกลงไปกระทบครั้งแล้วครั้งเล่า กระทั่งเธอลุกจากเก้าอี้แล้วเดินไปมองหาที่มาของมัน

ผู้ชายคนหนึ่งรูปร่างหน้าตาดี แต่งตัวสะอาด สุภาพ เห็นแล้วนึกถึงลูกหลานผู้ลากมากดีคนมีเงิน แล้วจู่ๆ สิ่งที่หญิงสาวหวาดกลัวและไม่คาดคิดก็กำลังจะเกิดตรงหน้า เมื่อชายคนดังกล่าวขึ้นไปยืนบนเก้าอี้สนามซึ่งตั้งใกล้กับที่กั้นระหว่างสวนสาธารณะกับแม่น้ำเจ้าพระยา

นั่นเขากำลังจะทำอะไร ฆ่าตัวตายอย่างนั้นเหรอ ไม่นะ!

“อย่านะคุณ!” ไวเท่าความคิด หยาดอรุณวิ่งตรงไปฉุดแขนชายคนดังกล่าวไว้จนร่างสูงโปร่งร่วงจากเก้าอี้มายืนบนพื้น

ธีราทรกะพริบตาปริบๆ สบตากับหญิงสาวที่เกาะแขนเขาไว้แน่นอย่างงุนงง กระนั้นเขาก็พอเห็นเงาความบอบช้ำและความโศกศัลย์ในดวงตาคู่สวยของเธอ

 

“ตลกดีนะครับ อยู่ๆ เราก็มานั่งปรับทุกข์กับคนที่ไม่เคยรู้จักมาก่อน ทั้งๆ ที่มันเป็นเรื่องน่าอาย แม้แต่คนที่เรารักและสนิทที่สุด เรายังไม่อาจจะเล่าให้พวกเขาฟังได้เลย แต่ผมกลับเล่าให้คุณฟัง และผมสบายใจมากขึ้นเยอะเลยนะครับที่ได้ระบายความอึดอัดในใจออกมา” ธีราทรพูดพลางกระดกเบียร์ในกระป๋อง ทั้งๆ ที่โดยปกติชายหนุ่มแทบจะไม่แตะต้องของมึนเมาพวกนี้เลย ทว่าในอารมณ์นี้เขาอยากจะเมาแล้วหลับตาลง พร้อมกับโยนความทุกข์ในใจไปทิ้ง แม้จะเพียงเสี้ยวนาทีหนึ่งก็ยังดี

หยาดอรุณยิ้มขื่นๆ ก่อนตอบชายหนุ่มข้างกายไปด้วยความรู้สึกที่ไม่ได้แตกต่างจากอีกฝ่ายมากนัก

“ฉันก็เหมือนกันค่ะ การได้คุยกับคุณทำให้ฉันเห็นอีกมุมหนึ่ง พอคิดว่าโลกนี้ไม่ได้มีเราคนเดียวที่เป็นทุกข์ ไม่ได้มีเราคนเดียวที่กำลังแบกความเจ็บปวด ฉันก็มีกำลังใจที่จะสู้ สู้เพื่อลูกในท้องต่อไป” เธอลูบหน้าท้องที่ยังคงแบนราบเบาๆ เมื่อไม่จำเป็นต้องปิดบังคนแปลกหน้าคนนี้อีกแล้ว ในเมื่อเธอเล่าเรื่องส่วนตัวของตัวเองให้ผู้ชายแปลกหน้าคนนี้ฟัง หลังจากเขายอมระบายความปวดร้าวของตนเองให้เธอฟังจนหมดเช่นกัน

เมื่อครู่ที่เธอคิดว่าเขากำลังจะกระโดดน้ำหนีปัญหาชีวิต ทว่าไม่ใช่เลย พอเธอฉุดแขนเขาลงมายืนที่พื้นได้ ชายหนุ่มก็บอกว่าเขาแค่ต้องการยืนรับลม และตะโกนให้สุดเสียงระบายความเก็บกดที่อยู่ในใจ และนั่นคือจุดเริ่มต้นที่หญิงสาวและชายหนุ่มได้มานั่งจับเข่าคุยกัน

ต่างฝ่ายต่างเล่าความทุกข์ใจของตนเองพร้อมๆ กับเหตุผลที่ไม่อาจบอกให้คนใกล้ตัวรับรู้ได้ และทั้งธีราทรและหยาดอรุณก็ต่างเห็นใจอีกฝ่าย

“เรื่องของคุณน่าเห็นใจมากนะครับ ผู้ชายเลวๆ ที่ไล่ให้ผู้หญิงไปทำแท้งเพื่อพิสูจน์ว่าลูกในท้องใช่ลูกของตัวเองหรือเปล่านี่จิตใจของเขาทำด้วยอะไร ทำไมเขาไม่คิดบ้างนะว่าการที่เขามีความเป็นลูกผู้ชายอย่างสมบูรณ์แบบ สามารถมีทายาทได้ เป็นเรื่องที่วิเศษที่สุดในชีวิตแล้ว” ธีราทรเอ่ยขึ้นอย่างเห็นอกเห็นใจหญิงสาวที่น้ำตาหลั่งไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว

เธอบอกว่าพ่อของลูกเธอมีผู้หญิงเยอะ และผู้หญิงที่มาเรียกร้องขอความรับผิดชอบจากเขาก็ถูกชายหนุ่มปัดความรับผิดชอบอย่างเลือดเย็นด้วยคำพูดแรงๆ แถมเขายังใจร้ายขนาดขู่ทำร้ายชีวิตเล็กๆ ได้ลงคอ นั่นจึงทำให้เธอต้องหอบลูกหนีมาจากเขามา เพราะกลัวว่าวันหนึ่งถ้าเขารู้ว่าเธอท้อง เขาอาจจะให้เธอทำแท้ง ที่สำคัญครอบครัวของเธอต้องเสียใจแน่ๆ ที่เธอถูกข่มเหงจนท้อง แถมลูกยังไม่มีพ่อ

“ช่างเขาเถอะค่ะ คนอย่างเขาคงรักใครไม่เป็นหรอก ฉันเองก็พลาดที่ถูกเขาขืนใจ ฉันพลาดเอง” หยาดอรุณบอกเสียงเครือ “แต่เรื่องคุณนี่สิคะ แน่ใจหรือคะว่าอยากจะให้เป็นแบบนี้ คุณไม่สงสารคู่หมั้นเหรอคะ ไหนบอกว่าเธอแสนดีมากไงคะ”

“ก็เพราะเธอแสนดีมากไงครับ และเพราะผมรักเธอมาก ผมถึงไม่อยากทำร้ายเธอด้วยการให้เธอมาตกนรกทั้งเป็นกับผู้ชายที่ไม่สามารถมอบความสุขให้เธอได้”

หยาดอรุณหันมองเสี้ยวหน้าคมเข้มของหนุ่มข้างกายแล้วก็ให้สงสารเขาจับหัวใจ เรื่องของชายหนุ่มจะว่าไปมันก็ละเอียดอ่อนพอๆ กับเรื่องของเธอเลยทีเดียว ถ้าใครไม่มาตกอยู่ในสภาพนี้คงไม่เข้าใจหรอก

“แล้วแบบนี้คุณจะหนีเธอไปตลอดชีวิตเลยหรือคะ”

ธีราทรถอนหายใจยาว กระดกเบียร์จนหมดกระป๋องก่อนตอบ “ผมรู้ว่าเธอจะไม่มีทางยอมเดินจากผมไปง่ายๆ แน่ครับถ้าผมบอกความจริง เพราะเหตุผลนี้ไงครับผมถึงต้องหนีมา แต่จะหนีตลอดชีวิตได้ไหมก็ไม่แน่ใจหรอกครับ แต่ถ้าเธอเจอคนที่ดีพร้อม แล้วยอมตกลงแต่งงานกับผู้ชายคนนั้นไปเสีย เรื่องของเราก็น่าจะจบ”

“แต่ตอนนี้เธออาจกำลังเจ็บปวดไม่ต่างจากคุณนะคะ แล้วถ้าเธอกลับมาหาคุณอีกล่ะ ถ้าเธอหมั้นกับคุณและสนิทกับครอบครัวคุณขนาดนั้น คุณคงหนีเธอไปตลอดไม่ได้หรอกค่ะ”

ชายหนุ่มเงียบไปนานราวกำลังชั่งใจ กระทั่งหันไปสบตาหญิงสาว

“เอ่อ...ขอโทษนะครับ อย่าโกรธผมหรือคิดว่าผมดูถูกอะไรคุณเลยนะครับ แต่จะเป็นไรไหมถ้าเราสองคนที่ยังต้องหาทางออกของปัญหาให้ตัวเองอยู่แล้วจะร่วมมือกัน” เขาอึกอักเมื่อเห็นหญิงสาวเบิกตาโต “ลองคิดดูนะครับ จู่ๆ เราสองคนจะมาเจอกันแล้วเล่าเรื่องของตัวเองให้อีกฝ่ายฟังอย่างไว้ใจได้อย่างไร ถ้าไม่เพราะเราถูกชะตากัน”

“คุณอยากให้ฉันร่วมมือยังไงหรือคะ” เธออยากรู้เหมือนกันว่าเขาจะเสนอทางแก้ปัญหาสำหรับเขาและเธอเช่นไร

“คุณต้องการคนรับผิดชอบลูกในท้องให้ครอบครัวสบายใจ ขณะที่ผมก็อยากหาวิธีที่จะเลิกกับคู่หมั้น โดยที่เธอจะตัดใจจากผมได้อย่างจริงๆ ไม่ต้องมีอะไรมาผูกพันกันอีก”

หญิงสาวกะพริบตาปริบๆ มองอีกฝ่าย แต่สมองกำลังทบทวนคำพูดของชายหนุ่มอย่างหนัก


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น