10

บทที่ 10



 10

 

            เสน่ห์ต้องห้ามของเด็กสาวๆ เป็นแบบนี้นี่เอง ปราณธรเพิ่งเข้าใจ ด้วยว่าพวกเธอสดใส ไร้เดียงสา มีชีวิตชีวาจนผู้ชายอย่างเขาถึงกับหลงใหลเจียนคลั่งเอาได้ง่ายๆ ปราณธรนึกพลางแหงนศีรษะพิงกับหมอนสปา หลับตาพริ้ม ปล่อยกายใจตามแต่เด็กสาวจะชักพาอารมณ์ วูบหนึ่งเขาอยากรู้เหมือนกันว่าลลิษาจะหมายความแค่ไหนกับคำว่าอยากชิมเขา

            เขาไม่มั่นใจ เพราะเธอดูมีความเป็นเด็กอยู่ในตัวสูงมาก อย่างตอนนี้เธอนำบิกินีที่เขาแอบกระตุกออกมารัดข้อมือเขาทั้งสองข้างที่ไพล่อยู่ข้างหลังอย่างหลวมๆ พร้อมขอคำสัญญาจากเขาว่าห้ามลืมตา ห้ามขยับตัว และห้ามเคลื่อนไหวร่างกาย ตอนที่เธอโน้มตัวมาจับมือเขาไปไพล่หลังนั้นก็ทำให้เขาเร่าร้อนไปทีแล้วด้วยว่าอกอวบอิ่มเสียดสีกับอกเขาเต็มๆ ลลิษาไม่ได้ระมัดระวังตัวเมื่ออยู่กับเขา ไม่รู้ว่าเธอตั้งใจยั่วเขาหรือไม่ หรือเป็นความไม่ประสีประสาของความเป็นเด็กจริงๆ แต่อีกไม่นานเขาก็น่าจะได้คำตอบ

ลลิษาชะโงกหน้าไปจูบหน้าผาก ไล่มายังเปลือกตาทั้งสองข้าง แก้มซ้ายขวา จมูกโด่งเป็นสัน ระเรื่อยไปยังปลายคาง โดยเว้นริมฝีปากไว้ เธอซุกไซ้ซอกคอ สูดกลิ่นหอมแห่งบุรุษเพศ พรมจูบผะแผ่วทั่วอกกว้างที่ปกคลุมไปด้วยไรขนอ่อนๆ แล้วหยอกล้อกับหัวนมเขาด้วยการใช้ปลายลิ้น และใช้ฟันงับครูดก่อนดูดกลืน

ถึงตอนนี้เธอขมวดคิ้วเมื่อเขายังคงกึ่งนั่งกึ่งนอนนิ่งๆ ไม่ไหวติง ดูเหมือนกำลังเคลิ้มหลับหรือไม่ก็เข้าฌานไปแล้ว เธออยากคิดอย่างนั้น ด้วยว่าลมหายใจที่ผ่อนช้าลงเป็นจังหวะสม่ำเสมอ ไร้ซึ่งเสียงครางซี้ดซ้าดหรือเสียงลมหายใจฟืดฟาดเหมือนอย่างในหนังปลุกใจเสือป่าที่เธอเคยดู

“คุณปราณ?” เธอเงยหน้า เรียกเขาด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

“ฮือ” เขาครางรับในลำคอ

“หลับหรือ”

“ฮือ”

ปราณธรยังคงครางรับในลำคอราวกับคนกำลังตกในภวังค์ หรือไม่ก็กำลังใช้ความคิดอย่างหนัก ภาพนั้นทำให้ลลิษาฉุนกึก

“ร้ายจริง” เธอฟาดไปที่แผงอกเขาป้าบใหญ่

ปราณธรลืมตา กะพริบตาถี่ๆ ด้วยความงง “ร้ายอะไร” เขาจ้องเด็กสาว คิ้วขมวดมุ่นอย่างไม่เข้าใจนัก

ลลิษากำลังนั่งทิ้งตัวไปข้างหลัง เท้าเหยียดตรงมาทางเขา ผิวน้ำอยู่ในระดับไหปลาร้า กระแสน้ำวนหยอกล้อทรวงอก ลลิษาช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี ทำให้ทิวทัศน์แถวนี้ชวนมองขึ้นเยอะ

“คุณไม่รู้สึกอะไรเลยหรือ”

“จะให้รู้สึกอะไร” ถามพลางสลัดบิกินีที่พันข้อมืออยู่ออกอย่างง่ายดาย แล้ววางลงบนขอบสระ ยื่นมือไปนวดคลึงปลายเท้าของเด็กสาว

เธอรีบชักเท้ากลับ เปลี่ยนมานั่งชันขากอดเข่า “ก็สยิว หรืออะไรก็แล้วแต่ที่ทำให้เกิดอารมณ์ทางเพศ”

ปราณธรยิ้มขำ “เธอเล่นเป็นเด็กแบบนั้นใครจะไปรู้สึกอะไร”

“นี่” ลลิษาพูดไม่ออก

“อยากเห็นของจริงมั้ยล่ะว่าเขาทำกันยังไง”

ปราณธรถามไปอีกทางด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล เขาเกี่ยวเอวเด็กสาวแล้วยกตัวขึ้นจากสระ ได้ยินเสียงลลิษาหวีดร้องเบาๆ อย่างตกใจ เขาวางเธอนั่งบนขอบสระให้ขาหย่อนน้ำ ก่อนตามไปแทรกกลางหว่างขา ลูบไล้ขาอ่อนทั้งสองข้าง ส่งแววตาขี้เล่นกึ่งแทะโลมให้

ลมเย็นพัดมากรูใหญ่จนเธอห่อไหล่ กอดอกด้วยความขัดเขินด้วยว่าศีรษะเขาอยู่ในระดับหน้าอกเธอพอดี และตอนนี้เขากำลังจ้องมาที่หน้าอกอิ่มเต็มตึง

ปราณธรดึงมือเธอข้างหนึ่งมาจูบ กวาดตามองทั่วเรือนร่างขาวโพลนเซ็กซี่ หุ่นเด็กสาวบาดตาบาดใจด้วยว่าเห็นส่วนเว้าส่วนโค้งชัดเจน เขาชอบทุกสัดส่วนที่ประกอบขึ้นเป็นเธอ โดยเฉพาะทรวงอก หน้าท้องแบนราบที่เห็นกล้ามเนื้อขึ้นเป็นริ้วๆ ยามเธอแขม่วจากความเสียวซ่าน ระเรื่อยไปจนถึงสะโพกผายกลมกลึง ลลิษาคือนิยามของหุ่นยั่วกิเลสชาย เป็นนิยามของบาปที่แสนหวาน ถ้าเขาต้องตกนรกเพราะพรากพรหมจรรย์ไปจากเด็กสาววัยกำดัด อย่างเธอ ซึ่งมันจะเกิดขึ้นแน่ในสัปดาห์หน้านี้เพราะเขาตั้งใจแล้ว เขาก็ยินดีที่จะชดใช้บาปนั้น

ปราณธรเลื่อนสายตาขึ้นสบเจ้าของวงหน้าหวานที่กำลังขวยเขิน เธอไม่กล้ามองเขาตรงๆ เขาจึงได้คำตอบว่าลลิษาไม่ใช่สาวก๋ากั่นดั่งท่าทีที่เธอแสดงออกภายนอก อย่างน้อยก็ไม่ได้เจนโลกอย่างที่เธอพยายามตบตาเขาให้หลงเชื่อ เธออ่อนต่อโลกและยังต้องเรียนรู้อีกมาก โดยเฉพาะเรื่องเพศซึ่งเขาจะสอนเธอเอง

ปราณธรถามด้วยเสียงอ่อนโยน “อยากเรียนรู้เรื่องเซ็กซ์ที่แท้จริงไหม”

ลลิษาหน้าแดงระเรื่อ เธอไม่อาจให้คำตอบเขาได้ จึงได้แต่ก้มหน้างุด

ปราณธรเชยปลายคางให้เงยหน้าสบตา “คนเก่งที่เคยทำตัวก๋ากั่นหายไปไหน ไหนบอกฉันว่าเคยผ่านเรื่องนี้มาแล้ว” ปราณธรกระเซ้าด้วยน้ำเสียงเอ็นดู

ลลิษากัดริมฝีปาก ได้แต่ส่ายหน้า หน้าแดงก่ำจดลำคอแม้แต่เนื้อตัวก็แดงระเรื่อ ปราณธรมองภาพนั้นด้วยแววตาเข้มข้นด้วยแรงแห่งปรารถนา

“มาเรียนรักกับฉันเถอะนะ” ชายหนุ่มเอ่ยชวนด้วยเสียงแหบห้าวอย่างไม่อาจสะกดกลั้นความรู้สึกได้อีกต่อไป เขาสาธิตบทเรียนแรกด้วยการยื่นหน้าไปจูบเด็กสาว แตะริมฝีปากเธอแผ่วเบาก่อนเพิ่มแรงกดกระชับจนกลายเป็นการบดขยี้ เขาสอดลิ้นเข้าไปไล้รอบไรฟัน เกี่ยวกระหวัดกับปลายลิ้นเล็กๆ หลอกล่อให้เด็กสาวตามเข้ามา ดูดกลืนซับเสียงครางกระเส่าที่กำลังร้องครางด้วยความเสียวซ่านแกมรัญจวน เป็นเสียงที่น่ารักน่าฟัง

ลลิษายกมือขึ้นโอบรอบคอเขาด้วยมือทั้งสองข้าง รั้งให้เขาบดเบียดร่างเธอแนบชิดขึ้น

ปราณธรจูบเด็กสาวอย่างเร่าร้อน หิวกระหาย เขาขบเม้มดูดกลืนกลีบปากนุ่มสลับกับเวียนดูดกลืนปลายลิ้นเล็กๆ อาศัยจังหวะที่เธอเพลิดเพลินกับจูบเขา เลื่อนมือลงไปลูบไล้เรือนร่างอรชร โอบประคองทรวงอกอิ่มด้วยมือทั้งสองข้าง บีบเคล้นนวดคลึง รู้สึกได้ถึงอาการขนลุกชันของเธอในทันทีที่เขาสัมผัสแตะต้อง ปราณธรยังคงบีบเคล้นอย่างใจเย็น ใช้ปลายนิ้วสะกิดยอดปทุมถันสีทับทิมที่ผลิขยายอย่างมีชีวิตชีวา

ลลิษาครางกระเส่า กายรวดร้าวด้วยความทรมานซึ่งเกิดจากความซ่านสยิว “คุณทรมานฉัน”

“เป็นการเรียนรู้ทำความรู้จักกับร่างกายเธอวิธีหนึ่งต่างหาก” ปราณธรแก้คำพูดของเด็กสาว ยังคงคลอเคลียกลีบปากนุ่มเมื่อกล่าวต่อว่า “หน้าอกเป็นจุดอ่อนของผู้หญิงร้อยทั้งร้อย แต่สำหรับผู้ชายแทบไม่รู้สึกเมื่อถูกปลุกเร้าบริเวณนี้” ปราณธรผละจากริมฝีปากนุ่มอย่างไม่เต็มใจนัก ยิ้มใส่ตาเด็กสาวอย่างล้อเลียน เลื่อนใบหน้าไปซุกไซ้อ้อยอิ่งแถวซอกคอ เชยชมกลิ่นกายหอมกรุ่นแห่งวัยสาว โดยมีเธอแหงนหน้าให้ความร่วมมือ

ลลิษาจิกบ่าแกร่งแน่น เมื่อเขาซุกไซ้ระเรื่อยไปจนพบเนินอกอวบอิ่ม

“เธอมีหน้าอกที่สวยลิซ ใหญ่พอดีกับมือฉัน กลมกลึง เต่งตึง” ปราณธรย้ำด้วยเสียงอ่อนโยน ครอบครองทรวงอกเปลือยข้างหนึ่งด้วยริมฝีปาก ก่อเกิดเสียงครางผะแผ่วคละเคล้าลมหายใจหอบกระชั้นเมื่อเขาและเล็ม ก่อนดูดกลืนยอดปทุมถันสีทับทิมซึ่งผลิขยาย มืออีกข้างเลื่อนไปกอบกุมบีบเคล้นทรวงอกเปลือยไปพร้อมกัน แล้วจึงตามไปครอบครองด้วยริมฝีปาก ใช้ฟันงับครูด เรียกเสียงครางกระเส่าไม่ขาดระยะจากเด็กสาวที่แหงนหน้าไปด้านหลังพลางกุมศีรษะเขาไว้

“คุณปราณ” เธอรู้สึกร้อนวูบวาบทั่วสรรพางค์ ตัวเบาหวิวราวกับปุยนุ่นที่กำลังลอยเคว้งคว้างอยู่กลางเวหา รอการปลดปล่อย ประสบการณ์ที่เคยเกิดขึ้นในห้องน้ำบอกเธอว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา เธอรอคอยด้วยความตื่นเต้น คาดหวัง และเสียวซ่าน

“ฮื่อ” เขาครางรับในลำคอชิดนวลเนื้อขาวผ่อง ยังคงดูดกลืนและเล็มยอดทรวงอย่างหิวกระหาย ตะกละตะกลามไม่ต่างจากทารกน้อยที่กำลังดูดกลืนน้ำนมจากมารดา ลลิษาให้รสชาติหวานล้ำยิ่งกว่าไวน์รสเลิศ เธอทำให้เขามึนเมาด้วยความสุขสมยิ่งกว่าแอลกอฮอล์ชนิดใด เขาสามารถดื่มกินเธอทั่วตัวได้ไม่รู้หน่าย

“คุณทำให้ฉันคิดอะไรไม่ออก”

“ไม่ต้องคิดอะไรหนูน้อย แค่รับความสุขจากฉันก็พอ” เขาบอกด้วยเสียงนุ่มนวล ยังคงครอบครองทรวงอกทั้งสองสลับกันไปมาอย่างหลงใหลคลั่งไคล้ ครู่ใหญ่เขาจึงเลื่อนใบหน้าลงไปคลุกเคล้าหน้าท้องแบนราบไร้ซึ่งไขมัน สองมือเกาะกุมเอวคอดกิ่วที่บางจนเขาแทบกำได้รอบ ปลายนิ้วเลื่อนไปบีบกระชับสะโพก ตวัดลิ้นทั่วแอ่งสะดือ พาให้เธอเสียวซ่านจนเกือบซวนซบลงมาซุกบ่าเขา

“เอนตัวแม่หนูน้อย” ปราณธรบอกด้วยน้ำเสียงทอดอ่อนนุ่ม ยื่นมือไปทาบหน้าอกเด็กสาว ดันให้เอนราบไปกับพื้น

ลลิษาทำตามโดยไม่รู้ตัว เธอนอนราบไปกับพื้นหญ้าเทียม หลับตาพริ้ม สองมือยึดขอบสระแน่นขณะที่สองขายังคงห้อยอยู่ริมขอบสระ โดยมีเขาแทรกกลางหว่างขา

ปราณธรกระตุกสายรัดบิกีนี่ที่สะโพก กวาดตามองภาพงดงามตรงหน้าด้วยสายตาหลงใหล กายอรชรนอนราบไปกับพื้นหญ้าเทียม สะท้อนความเปราะบางน่าทะนุถนอม ชายหนุ่มไล่สายตาตั้งแต่ทรวงอกอวบอิ่ม เอวคอดกิ่ว หน้าท้องแบนราบไปจนจดแกนกายกลางลำตัวที่มีไหมสีนิลปกคลุมอยู่บางๆ เรือนร่างเด็กสาวเป็นสีแดงระเรื่อทั่วสรรพางค์ เขาไม่แน่ใจว่าเกิดจากความขัดเขินหรือเกิดจากความเร่าร้อนที่เขาเป็นผู้จุดกันแน่ แต่ไม่ว่าจะเกิดจากสาเหตุอะไร มันเป็นภาพงดงามที่เขาไม่อาจละสายตาไปได้ เสี้ยววินาทีต่อมาเขาก็ต้องขมวดคิ้ว เมื่อลลิษาเลื่อนมือมาปิดบังเนื้อตัว

“อย่าบอกนะว่าเธอจะเปลี่ยนใจเอาตอนนี้แม่หนูน้อย เรามาไกลเกินกว่าจะถอยกลับแล้ว” เขาเย้าเด็กสาว พลางเงยหน้าสบตาเธอ แต่ลลิษาหลับตาปี๋

“ฉันเขิน” ลลิษาบอกเสียงผะแผ่ว มันเบาเสียจนเขาต้องเงี่ยหูฟัง

ปราณธรคลี่ยิ้มอ่อนโยน ดึงมือเธอข้างหนึ่งขึ้นมาจูบหลังมือ “ไม่ต้องเขิน ฉันเคยจับ เคยสัมผัสมาแล้วอย่างน้อยก็...” เขาทำหน้านิ่งอย่างใช้ความคิด ก่อนพูดต่อ “ไม่ต่ำกว่าสามครั้งจำได้ไหม” น้ำเสียงหยอกล้อระคนเกลี้ยกล่อมอยู่ในที

“บ้า คุณนี่ปลอบคนได้แย่เป็นบ้า” ลลิษาขัดเขินมากขึ้น ถ้าเขาคิดว่าปลอบแบบนั้นแล้วจะช่วยให้เธอรู้สึกดีขึ้นละก็ เปล่าเลย มันยิ่งทำให้เธอรู้สึกแย่

ปราณธรหัวเราะ ลลิษามีแง่มุมน่ารักๆ ให้เขายิ้มขำได้ “แม่หนูน้อยเธอหลับตาได้” เขาแนะพลางดึงมือทั้งสองข้างของเด็กสาวเลื่อนไปปิดหน้าให้

“นี่ ทำยังกับฉันเป็นเด็กหลอกได้ง่ายๆ นะ”

ปราณธรหัวเราะ “ก็เธอเด็กจริงๆ นี่”

“คุณปราณ”

คราวนี้ปราณธรไม่ตอบอะไรอีก เขาก้มลงไปพรมจูบต้นขาของเด็กสาว ไล่ตั้งแต่ปลายเท้า หน้าขา ระเรื่อยไปยังต้นขาอ่อนด้านใน ปราณธรมองส่วนเร้นลับสีชมพูระเรื่อด้วยความรู้สึกเร่าร้อนเข้มข้น เขาเคยจับส่วนนั้นเพื่อพิสูจน์ความสาวของลลิษามาแล้ว มันบ่งบอกว่าเธอยังไม่เคยมือชายใดมาจริงๆ เธอยังบริสุทธิ์ผุดผ่อง เขาจำไม่ได้ว่าเขานอนกับสาวเวอร์จินครั้งสุดท้ายเมื่อไร เพราะผู้หญิงที่ผ่านมาของเขาส่วนใหญ่เป็นสาวที่มากด้วยประสบการณ์ ซึ่งมีตั้งแต่สาวแก่ไปถึงสาวรุ่นที่อายุน้อยกว่าเขาเป็นสิบปีอย่างมิญชยา แต่ก็ยังไม่เคยเจอใครที่อายุน้อยกว่าเกือบสองรอบอย่างลลิษาแถมยังบริสุทธิ์อีกด้วย

ก็อย่างว่าหลังจบมหาวิทยาลัยในไทยเขาก็บินไปเรียนต่ออเมริกาทันที จึงเจอแต่แหม่มซึ่งเกือบทั้งหมดไม่มีใครเก็บความสาวไว้อยู่แล้ว ฉะนั้นลลิษาอาจเป็นสาวเวอร์จินคนแรกในรอบหลายปีที่เขากำลังจะมีประสบการณ์รักด้วย

ปราณธรให้ความสนใจนวลเนื้อที่ไวต่อประสาทสัมผัส จดปลายลิ้นเข้าไปเชยชมส่วนเร้นลับอย่างรวดเร็วและแนบแน่น เด็กสาวสะดุ้งก่อนเกร็งตัวบิดสะโพก ร้องครวญครางอย่างไม่อาจสะกดกลั้นความรู้สึกได้อีกต่อไป ลมหายใจหอบกระชั้น

“คุณปราณ” เสียงเด็กสาวแหบพร่า จิกปลายเท้ากับขอบสระ กายสั่นระริก ประสบการณ์กับพิมพ์ใจเป็นแค่เรื่องเด็กเล่นขายของเมื่อเจอของจริง เธอเลื่อนมือไปกุมศีรษะเขา ไม่แน่ใจว่าจะผลักไสหรือกดให้บดเบียดแนบชิดยิ่งขึ้น กายร้อนผ่าว ศีรษะส่ายไปมาอย่างทุรนทุรายราวกับหาทางปลดปล่อยไม่ได้

ปราณธรเหลือบมองเด็กสาว ใบหน้าตลอดจนเรือนร่างแดงระเรื่ออย่างน่าดูชม เขายื่นมือไปบีบเคล้นทรวงอกอูม สะกิดยอดปทุมถันด้วยปลายนิ้ว ก่อนส่งนิ้วหนึ่งเข้าไปในปากให้เธอขบเม้มดูดกลืนสะท้อนถึงภาวะปั่นป่วนภายใน ปราณธรครางกับกิริยาแสนเซ็กซี่เร้าใจนั้น เธอแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติ ตรงไปตรงมา เขาจวนเจียนคลั่งด้วยความปรารถนาแกมหลงใหล อยากให้เป็นน้องชายเขาที่เธอกำลังดูดกลืน

ปราณธรจ้องริมฝีปากนุ่มพลางรัวปลายลิ้นสลับกับดูดกลืน ไม่กี่อึดใจลลิษาก็ส่งเสียงครางกระเส่ารุนแรง พร้อมกับลมหายใจที่หอบกระชั้นถี่ขึ้น กายนุ่มยกขึ้นบดเบียดใบหน้าเขา ตัวเธอสั่นเทิ้มราวกับลูกนกต้องลมหนาวก่อนกระตุกเกร็งอย่างรุนแรง เธอหดขา พยายามดันศีรษะเขาออก แต่ปราณธรกดขาเรียวแยกออกพลางลิ้มชิมรสชาติหวานล้ำของเด็กสาว ไม่ต่างจากลูกแมวที่กำลังกินอาหารอันโอชะ เขาสามารถดื่มกินเธอได้เรื่อยๆ

ร่างบางสั่นระริก ลลิษานอนเอามือกุมหน้า ใบหน้าและทั่วทั้งตัวแดงซ่าน มีรอยแดงเป็นปื้นแถวอกอวบอิ่มทั้งสองข้างซึ่งเกิดจากรอยคิสมาร์กที่เขาฝากไว้

เขารั้งร่างบางขึ้นมาโอบแนบอก ใช้มือข้างหนึ่งลูบแผ่นหลังเปลือยขึ้นลงราวกับเห่กล่อมเด็ก กระทั่งร่างบางสงบนิ่งในที่สุด

“ฉันเสร็จเร็วไปใช่ไหม ไม่สมราคาคุย” ผ่านไปพักใหญ่ๆ ลลิษาจึงเอ่ยเสียงอู้อี้กับซอกคอเขา

“หือ? เธอพูดเรื่องอะไร” เขาดันร่างบางออกห่างเพื่อมองหน้า ถามเสียงอ่อนโยน แต่เด็กสาวเอาแต่ก้มหน้างุด สองมือกอดคอเขาแน่นราวกับลูกลิงติดแม่ ปราณธรหัวเราะแผ่วเบากับกิริยานั้น

“ฉัน ไม่กี่วินาทีก็เอ่อ...ฉัน เอ่อ...เสร็จเร็ว คงเทียบไม่ติดกับผู้หญิงทุกคนของคุณ”

เสียงหวานอู้อี้ตะกุกตะกักจนเขาต้องเงี่ยหูฟัง เมื่อจับใจความได้ทั้งหมดแล้ว ปราณธรก็หัวเราะอย่างเอ็นดู เขาแกล้งรัดเธอแน่นขึ้นแล้วตอบว่า

“เธอเสร็จเร็วเพราะยังเวอร์จินต่างหาก”

เธอผละมามองหน้าเขา คิ้วขมวดมุ่น

พระเจ้า...ลลิษาสวยเหลือเกิน ปราณธรมองเด็กสาวราวกับตกในภวังค์ด้วยว่าแก้มนวลแดงก่ำ แววตาที่มองเขาฉ่ำหวาน บอกถึงความรัก ความเชื่อใจ และเต็มไปด้วยความสนใจใคร่รู้ ลลิษาไม่ต่างจากนางฟ้าตัวน้อยๆ ปราณธรยื่นหน้าไปจุ๊บปลายจมูกโด่งอย่างอดใจไม่อยู่ ก่อนเอ่ยด้วยเสียงอ่อนโยน

“ฉันอยากให้เธอมีความสุข อยากให้รู้ว่าประสบการณ์ทางเพศจากผู้ชายเป็นยังไง เพราะเธอคงคุ้นเคยแต่กับทอมใช่ไหม”

ลลิษาหน้าแดงก่ำ พยักหน้าแล้วซุกหน้าเบียดกับซอกคอพลางกอดคอเขาแน่น รักของพิมพ์ใจกับของปราณธรให้ความรู้สึกต่างกันจริงๆ เธอได้รับการพิสูจน์แล้ว

“กลัวหรือ เธอตัวสั่น”

ลลิษาส่ายหน้ากับซอกคอเขา ตอบอู้อี้ แผ่วต่ำ “บอกไม่ถูกค่ะ”

“ยังมีอะไรอีกหลายอย่าง เอาไว้เราค่อยเรียนรู้ไปด้วยกัน ฉันเองไม่ได้ขึ้นเตียงกับเด็กสาวๆ มานานแล้ว ฉันจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าครั้งสุดท้ายนอนกับสาวบริสุทธิ์เมื่อไหร่ น่าจะเป็นสมัยมหา’ลัย หรือไม่ก็อาจนานกว่านั้น เพราะงั้นเราจะเรียนรู้ไปด้วยกัน และฉันสัญญาว่าจะอ่อนโยนกับเธอให้มาก”

ลลิษาพยักหน้า

ปราณธรเอียงหน้าจุ๊บหน้าผากมนแล้วเอ่ยชวนว่า “แยกย้ายไปอาบน้ำกันเถอะ”

“คุณล่ะคะ” เธอผละห่าง มองหน้าเขา ถามด้วยเสียงห่วงใย

“ก็เพราะเหตุผลนั้นแหละ ฉันถึงต้องไปอาบน้ำ ฉันต้องไปจัดการบางอย่างกับตัวเอง”

ลลิษาหน้าแดงก่ำ “ให้ฉันช่วยไหม”

“ยังไง?”

“ก็เอ่อ...โม้ค”

“เธอเคยหรือ” ปราณธรขมวดคิ้วมุ่น แทบกลั้นใจรอฟังคำตอบ เขาอยากรู้ว่าเธอมีประสบการณ์กับเรื่องพวกนี้แค่ไหน และพระเจ้า...เขากำลังริษยาผู้ชายคนไหนก็แล้วแต่ที่เธอเคยทำออรัลเซ็กซ์ให้

ลลิษาส่ายหน้า หน้าแดงก่ำ “ฉันเคยดูคลิปมา”

ปราณธรหัวเราะ รู้สึกโล่งใจอย่างบอกไม่ถูก เขายื่นหน้าไปงับปลายจมูกโด่งอย่างมันเขี้ยว “ขอบคุณมากเด็กน้อย เอาไว้เราค่อยลองกันที่ฝรั่งเศส แล้วฉันจะสอนให้ ถ้าเธอลองตอนนี้ ฉันไม่รู้ว่ามันจะเลยเถิดเกินกว่าที่ฉันจะควบคุมได้มั้ย” ปราณธรจบประโยคด้วยการจุ๊บหน้าผากอีกรอบ บอกด้วยเสียงนุ่มนวล “ขยับตัวให้ฉันนิด ฉันจะได้ช่วยเธอใส่บิกินี”

ลลิษาขยับถอยห่างให้ ปราณธรช่วยสวมบิกินีให้ เธอยืดแขน ขยับตัวนั่งตรงให้ความร่วมมือ

ชายหนุ่มขยับบิกินีใต้ราวนม ก่อนชะโงกหน้า เอื้อมมือไปผูกสายรัดบิกินีทางด้านหลัง ขณะที่เด็กสาวผูกสายรัดที่สะโพกเองทั้งสองข้าง ตลอดเวลาลลิษาหน้าแดงก่ำ ปราณธรยื่นหน้าไปจุ๊บเนินอกอวบอิ่มที่โผล่พ้นบิกินีอย่างอดใจไม่อยู่ ก่อนจุ๊บหน้าผาก ผละห่าง ยืดตัวตรง

“เธอจะว่ายน้ำต่อก็ได้นะ ฉันขอตัวขึ้นก่อน พรุ่งนี้เจอกันที่สนามหญ้าตีสี่ครึ่ง เธอตื่นมาวิ่งเวลานั้นใช่ไหม” เมื่อเห็นลลิษาพยักหน้า เขากล่าวต่อว่า “ฉันจะพยายามตื่นให้ทัน ราตรีสวัสดิ์แม่หนูน้อย” เขาฉกริมฝีปากนุ่มเร็วๆ ทีหนึ่งแล้วผละห่าง

ลลิษาหน้าแดงระเรื่อ มองตามเขาที่เดินฝ่ากระแสน้ำวนของสระสปาไปยังอีกฟากของสระ ฉวยผ้าขนหนูพันรอบเอวหลวมๆ แล้วเดินหายเข้าไปในบ้าน

พระเจ้า...ลลิษาพ่นลมหายใจ ทิ้งตัวนอนแผ่หลากับพื้นหญ้าเทียมอย่างหมดสภาพ เธอกดหัวใจที่ยังคงเต้นโครมครามอย่างต้องการบังคับให้ผ่อนจังหวะการเต้นให้ช้าลง เธอรักเขา...สวรรค์ช่วยด้วยเถอะ เธอรักเขามากเหลือเกิน เขาทำให้โลกของเธอเปลี่ยนแปลงไปแล้วตลอดกาล

 

“มอร์นิง”

ปราณธรทักขึ้นในทันทีที่เธอเปิดประตูออกมา เขายืนยิ้มแฉ่งรออยู่ ท้องฟ้ายังไม่สว่างดีนัก กระนั้นเธอกลับเห็นรอยยิ้มสดใสในดวงตาเขาชัดเจน ลลิษาหน้าแดงระเรื่อ ภาพที่พวกเธอมีช่วงเวลาหวานที่ริมสระด้วยกันย้อนกลับมาในความทรงจำซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เธอตื่นสายในเช้าวันนี้ ด้วยว่าเธอเอาแต่ครุ่นคิดถึงมันตลอดทั้งคืน กว่าจะข่มตาหลับก็ปาไปเกือบรุ่งสาง

“มอร์นิงค่ะ คุณตื่นนานแล้วหรือคะ” ลลิษาถอดหูฟังเอ็มพีสามพาดไหล่ เธอชอบฟังเพลงระหว่างวิ่ง เด็กสาวเสสะบัดแขนขาเพื่อวอร์มร่างกาย ไม่กล้ามองเขาตรงๆ ด้วยว่ายังเขินๆ จึงวางหน้าได้ไม่สนิทนัก

“ก่อนเธอออกมาแป๊บเดียว” ปราณธรตอบแล้วมองเด็กสาวยิ้มๆ อย่างรู้ทัน

เขาปรายตามองร่างบางที่ออกเดินนำเงียบๆ ไปอย่างเขินๆ ลลิษาอยู่ในชุดเสื้อกล้ามกางเกงผ้ายืดขายาวกระชับตัว มีผ้าขนหนูผืนเล็กพาดไหล่ เสื้อกล้ามคว้านต่ำเห็นเนินอกอวบอิ่ม ลลิษาทำให้อากาศสดชื่นและทิวทัศน์แถบนี้ชวนมองเป็นกอง เขาเร่งฝีเท้าจนตามทันเด็กสาว

“เมื่อคืนหลับสบายหรือเปล่า” ปราณธรถามเมื่อเธอเอาแต่เงียบ ไม่พูดไม่จา ตอนนี้พวกเขาเดินรอบสนามหญ้า

“โอเคค่ะ” เธอตอบเสียงเบาหวิว

“แต่ฉันนอนไม่หลับ” ปราณธรตอบหน้าตาเฉย

“คะ?” เธอผงะ มองเขาอย่างตกใจ

“คิดถึงเธอ อยากให้ถึงวันอังคารเร็วๆ” เขาหมายถึงวันเดินทางไปฝรั่งเศส

ลลิษาหน้าแดงระเรื่อ เบือนหน้ากลับไปมองทาง “ถ้าฉันไม่มีวีซาเชงเก้นทำไงคะ” เธอถามด้วยเสียงอ่อนๆ หวังเบี่ยงหัวข้อที่ชวนให้อึดอัดขัดเขิน

“ก็ต้องหาทริปอื่น ทริปฝรั่งเศสฉันเลื่อนไม่ได้ เพราะนัดกับลูกค้ามาเป็นเดือนแล้ว นัดกันเป็นมั่นเป็นเหมาะ ขืนจู่ๆ เลื่อนฉันคงเสียคน แต่โชคดีที่วีซาเธอยังไม่หมดอายุ ว่าแต่เธอไปทำอะไรที่ยุโรปถึงได้วีซาเชงเก้นหลายปี”

“แคมป์ภาษาที่เยอรมันค่ะ แต่ก็แค่ห้าปี สิ้นปีนี้ก็หมดอายุแล้วค่ะ”

“เธอพูดได้กี่ภาษากันนี่” ปราณธรถามอย่างทึ่ง

“งูๆ ปลาๆ ทั้งนั้นแหละค่ะ”

“เธอจบโรงเรียนอะไร”

“โรงเรียนนานาชาติธรรมดาๆ นี่แหละค่ะ”

ปราณธรพยักหน้า “เธออายุเท่าน้องฉันรู้หรือเปล่า น้องฉันจะเข้ามหา’ลัยปีนี้ เขาเรียนโรงเรียนนานาชาติเหมือนเธอนี่แหละ”

ลลิษาไม่พูดอะไรอีก เอามือล้วงกระเป๋ากางเกงทั้งสองข้าง ตามองไปยังสนามหญ้าเบื้องหน้า พวกเธอกำลังเดินเคียงคู่กันไปช้าๆ

“ทำไมเดี๋ยวนี้เธอไม่เปิดหน้าต่างนอนแล้วล่ะ”

“คะ?” เธอหันขวับมามองเขาเมื่อจู่ๆ เขาเปลี่ยนเรื่อง

“เปิดหน้าต่างเหมือนเดิมสิ มันเป็นความเคยชินของฉันไปแล้วที่ต้องมองเธอจากหน้าต่างห้องนอนฉัน”

ลลิษาหน้าแดงระเรื่อ “คุณแอบมองฉันนานแค่ไหนแล้ว”

“ตั้งแต่คืนแรกที่เธอย้ายเข้ามาอยู่”

“คุณนี่โรคจิต เป็นพวกถ้ำมองรึไง ชอบแอบดูคนอื่นแก้ผ้า”

“แก้ผ้าน่ะบังเอิญเห็นจริงๆ แล้วก็เพิ่งเห็นเมื่อวานเอง ไม่ได้ตั้งใจจะจ้องรอเธอแก้ผ้าหรอก”

ลลิษาเบือนหน้ามามอง ทำหน้าระแวง

ปราณธรหัวเราะ อดใจไม่อยู่จนต้องกระตุกร่างบางเข้ามากอดแน่นๆ อย่างมันเขี้ยว ลลิษาดิ้นขลุกขลัก

“อยู่นิ่งๆ ได้ไหม ฉันอยากกอดเธอ”

“ไม่ค่ะ เดี๋ยวใครเห็น พี่ รปภ.ก็อยู่ตรงป้อม”

“ทำไมต้องสนใจคนอื่น ไหนตอนแรกตั้งใจจะมาเป็นอีหนูฉัน ถ้าเป็นอีหนูแล้ว ฉันจะกอดเธอตรงไหน เวลาไหนก็ไม่แปลกหรอกนะ”

            “นั่นเป็นเมื่อก่อน แต่ตอนนี้ไม่ใช่แล้ว ฉันตั้งใจแล้วว่าจะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง”

            ปราณธรชะงัก ดันตัวเองออกห่าง กวาดตามองทั่วใบหน้าสะสวย ฟ้าเริ่มสว่างจึงเห็นใบหน้าเรียบเฉยของเด็กสาวชัดเจน “หมายความว่าไงที่ว่าจะกลับมาเป็นตัวของตัวเอง”

“ฉันจะย้ายออกจากบ้านนี้ทันทีที่เรากลับมาจากฝรั่งเศสแล้ว”

“ทำไม” น้ำเสียงปราณธรแหบห้าว

“เราคบกัน ถ้าฉันยังอยู่ในบ้านนี้ก็คงเลี่ยงสภาพกินบนเรือนขี้บนหลังคาไม่ได้ เพราะงั้นเพื่อความสบายใจของตัวเอง ฉันจะออกไปอยู่ข้างนอก อีกไม่กี่เดือนฉันจะเข้ามหา’ลัยอยู่แล้ว เพราะงั้นหาที่พักที่ใกล้มหา’ลัยแต่เนิ่นๆ ก็ดีค่ะ”

ปราณธรหน้าซีดเผือด “ไม่...ถ้าฉันไม่ให้เธอย้ายออกไปล่ะ”

“ถ้าฉันยังอยู่ในบ้านนี้ ฉันก็จะอยู่ในสภาพอีหนูจริงๆ”

“ก็นั่นคือสิ่งที่เธอตั้งใจแต่ต้นไม่ใช่หรือ”

ลลิษาเบือนหน้ากลับ หน้าซีดเผือด

“ฉันไม่ได้ตั้งใจจะหยาม แต่ฉันสงสัยจริงๆ ลิซ เธอกำลังปั่นหัวฉันอยู่ใช่ไหม”

“ไม่ใช่อย่างที่คุณเข้าใจ เราตกลงคบหากันแล้ว ความหมายคือคบกันจริงๆ เพราะงั้นเราไม่ควรอยู่บ้านเดียวกัน คุณไม่เข้าใจหรือคะ ฉันจะกลายเป็นเด็กอกตัญญูถ้ายังอยู่ในบ้านนี้โดยที่เราคบกัน”

ปราณธรยกมือเสยผมอย่างหงุดหงิดแกมว้าวุ่นใจ ลลิษาเหมือนหนังสือที่เขียนด้วยภาษาต่างดาว นาทีหนึ่งเขาเข้าใจเธอดี แต่นาทีต่อมาเธอกลายเป็นอีกคนที่เขาไม่รู้จัก เธอเหมือนหลุดมาจากอีกโลกหนึ่ง เขาจะคุมเด็กสาวอยู่ไหม แล้วถ้าเธอไปมีชีวิตอิสระอยู่ข้างนอก เจอเพื่อนนักศึกษาชายมากหน้าหลายตา แล้วถ้าถึงตอนนั้นเธอตระหนักว่าเพื่อนรุ่นราวคราวเดียวกันน่าสนใจกว่าเขาซึ่งแก่กว่าคราวพ่อ เขาจะทำอย่างไร ปราณธรกำลังหวั่นไหวอย่างรุนแรง ใจร้อนรุ่มอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน

“ยังไงเธอก็จะออกไปจากบ้านหลังนี้ให้ได้ใช่ไหม” เขาคาดคั้นกับเด็กสาว

“ค่ะ”

“ก็ได้ ฉันจะให้เธอออกไป แต่เธอต้องอยู่ในที่ที่ฉันจัดหาให้เท่านั้น ฉันอาจจะซื้อคอนโดให้เธอสักห้อง หรือไม่ก็บ้านสักหลัง อะไรก็แล้วแต่ที่เธอต้องการลิซ ถ้าเธอตกลงตามนี้ ฉันถึงจะโอเคที่จะให้เธอออกไปอยู่ข้างนอก”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น