4

บทที่ 4


 4

            “คุณเรียกหาหนูหรือคะ”

            ปราณธรซึ่งกำลังคิดอะไรอยู่เพลินๆ นอนหงาย กายเหยียดยาวไปตามความยาวของแพยางกลางสระ เหลียวมามองเมื่อได้ยินเสียงเรียก พลันที่เห็นว่าเป็นลลิษา เขาตกใจเผลอพลิกกายหนีด้วยว่านุ่งกางเกงตัวเดียว เลยเกิดเสียงตูมใหญ่ตามด้วยน้ำกระเพื่อมเป็นวงกว้าง

            ปราณธรสำลักน้ำ เด็กสาวหัวเราะอย่างชอบใจ

“ขอโทษที่ทำให้ตกใจค่ะ”

ปราณธรเหลียวมองอย่างเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน ปากบอกว่าขอโทษ แต่สีหน้าคนพูดกลับยิ้มละไม แล้วหัวใจเขาก็แทบหล่นลงตาตุ่มเมื่อเห็นว่าเธอนั่งยองๆ อยู่ริมสระ กระโปรงถกเหนือต้นขา เห็นกางเกงในสีดำตัดกับขาขาวนวลเนียนผุดผาด ปราณธรเมินหลบ หัวใจเต้นไม่เป็นส่ำ หน้าแดงระเรื่อ

“เธอเข้ามาทำไม ไม่รู้หรือว่านี่เป็นเขตหวงห้าม ไม่มีใครเข้ามาได้ทั้งนั้นถ้าฉันไม่เรียก” ปราณธรหันข้างคุย ไม่กล้ามองตรงๆ เลยไม่เห็นแววตาพราวระริกของลลิษา เด็กสาวกวนประสาทได้ดีแท้ วันนี้ทั้งวันเขาไม่มีสมาธิเดินตรวจตราโรงแรม ก็ด้วยนวลเนื้อกลางลำตัวที่ขาวผุดผาดเป็นยองใยนั่นละ ด้วยว่าใจคอยแต่กระหวัดนึกถึงภาพวันก่อน เขาเลยกลับบ้านแต่หัววัน

“ก็คุณเรียกหนูไม่ใช่หรือ ป้ารำไพบอกว่ากลับมาถึงบ้านให้รีบมาหาคุณ”

“ก็ใช่ แต่ไม่ใช่ที่นี่ เห็นอยู่ฉันนุ่งผ้าไม่เรียบร้อย ไปรอที่ห้องรับแขกเดี๋ยวฉันตามไป”

“กางเกงว่ายน้ำนี่เขาเรียกว่าไม่เรียบร้อยหรือคะ หนูเพิ่งรู้ว่าเวลาลงน้ำ เขาให้ลงทั้งชุดอย่างนี้”

เสียงตูมดังขึ้นทันทีที่เธอพูดจบ เขาเหลียวขวับไปมองอย่างตกใจ ลลิษาทิ้งตัวลงสระและเธอกำลังว่ายตรงมา แรงต้านจากน้ำทำให้กระโปรงพันรอบต้นขาจนร่นขึ้นมาถึงเอว เห็นแก้มก้นที่โผล่พ้นกางเกงใน ต้นขาเรียวยาวขาวผุดผาดกำลังตีขาว่ายเข้ามา เห็นได้ชัดว่าขาวอมชมพูด้วยเลือดฝาด

“เธอนี่กวนประสาทดีแท้” ปราณธรพูดอย่างใจคิด เด็กสาวใช้มือตีน้ำวนรอบตัวเขาไม่ต่างจากมัจฉา ก่อนพลิกตัวนอนหงาย และขยับวงล้อมใกล้เข้ามาทุกขณะ

ใจเขาเต้นแรง เชิ้ตขาวบางจ๋อยตอนนี้ชุ่มน้ำ เห็นทะลุไปถึงไหนๆ จนเห็นบราเซียร์ลายลูกไม้น่ารัก ใจกระหวัดนึกไปถึงบราเซียร์ที่เขายังเก็บไว้ในลิ้นชักข้างหัวเตียงในห้องนอน ปราณธรยกมือแตะจมูก กลัวว่าเลือดกำเดาจะพุ่งจริงๆ

“ขึ้นจากสระไปซะ เธอแต่งตัวไม่เรียบร้อยนะ” ขณะที่พูดปลายเท้าเรียวเล็กขาวนวลเนียนกำลังตีขาใกล้อกเขา

พระเจ้า...แค่เห็นเท้าเปลือยของลลิษา เขาก็เกิดอารมณ์ น้องชายเขาครัดเคร่งจนปวดหนึบ อยากสำเร็จโทษตัวเอง แต่ต้องไม่ใช่ต่อหน้าแม่ตัวแสบ

“สรุปเอาไง นุ่งกางเกงตัวเดียวก็ว่าไม่เรียบร้อย นี่ลงทั้งชุดก็ว่าไม่เรียบร้อยอีก”

ปราณธรกัดฟันกรอด พูดเสียงต่ำแทบไม่ลอดไรฟัน “อย่ายั่วโทสะฉันให้มากนัก ฉันมีขีดจำกัดในความอดทน”

ไม่ใช่โทสะ แต่เป็นความอดทนที่จะไม่คว้าแม่ตัวยุ่งมาบดขยี้ใต้น้ำ ลลิษาพลิกตัวลอยคอ แรงดันของน้ำดันกระโปรงขึ้นมาปิดหน้า เธอต้องคอยกดลง นี่แม่ตัวแสบคิดว่ากำลังเล่นระบำใต้น้ำอยู่รึไง เขามองฝ่าน้ำที่กำลังหมุนวนรอบตัว คราใดที่ลดแรงกระเพื่อมจากการตีน้ำ เขาเห็นบราเซียร์ลายลูกไม้และกางเกงใน คงไม่ต่างจากเธอที่เห็นกางเกงว่ายน้ำตัวเดียวของเขา ซึ่งตอนนี้มีบางอย่างกำลังขยายขนาดได้ที่

เขาต้องการลลิษามากชนิดที่ไม่เคยต้องการใครมากเท่าครั้งนี้มาก่อน แม้กับลักษณาเขายังอดเปรี้ยวไว้กินหวานได้ แม้ต้องรอนานจนกินแห้ว เขาก็ยังไม่ทรมานเท่าครั้งนี้ บางทีอาจเพราะตระหนักชัดแจ้งว่าอาหารโอชะอยู่ตรงหน้า แต่ไม่อาจแตะต้องได้ด้วยว่าเป็นของต้องห้าม

ลลิษาอ่อนคราวลูก แถมเป็นลูกสาวของอดีตคนรักซึ่งเปรียบไม่ต่างจากลูกสาวเขา เขาไม่อาจล่อลวงเธอขึ้นเตียงแม้ว่าเธอเป็นฝ่ายเสนอและเต็มใจเอง ฉะนั้นยิ่งสะกดใจ เลยยิ่งกลายเป็นความต้องการและความทรมานรวดร้าว

“คุณเป็นผู้ชายที่ปากกับใจไม่ตรงกันที่สุดรู้มั้ย คุณต้องการหนู แต่คุณปากแข็ง”

ลลิษาเหลือบมองประจักษ์พยานเบื้องล่าง แล้วเลื่อนสายตาสบตาเขา ทิ้งสายตาอ้อยอิ่งมากด้วยความหมายที่ใบหน้าคมคายราวสาวเจนเซ็กซ์

ปราณธรขบกรามแน่น เมินหน้า

“อย่ามองฉันด้วยสายตานั้นลลิษา” เขากัดฟัน เธอกำลังส่งสายตาเชิญชวนและปัญหาอยู่ที่เขารักใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพรานั่น รักแววตาใสๆ ที่กำลังจ้องมองมาอย่างเปิดเผยความรู้สึก

“แบบนั้นน่ะแบบไหนคะ”

สวรรค์...ลลิษาไปเลียนเสียงเซ็กซี่นั่นมาจากไหน เธอทำให้เขานึกถึงลูกแมวยั่วสวาทที่กำลังตวัดเลียขนให้ชู้รักหลังเสร็จกิจ

“แบบที่เธอทำอยู่นั่นแหละ” เสียงปราณธรดุดัน แต่กลับแหบพร่าอย่างยากจะควบคุม เขาบดกรามอย่างไม่ชอบใจตัวเอง

“คุณต้องการหนู คุณจะปฏิเสธตัวเองไปทำไม”

“อย่าสู่รู้กับเรื่องคนอื่นไปหน่อยเลย เธอยังเด็กเกินกว่าจะมาทำตัวก๋ากั่นแบบนี้”

“แบบนี้ยังเด็กมั้ย”

ปราณธรสะดุ้งเมื่อเธอพุ่งตัวเข้าหา เธอจับมือเขา คงกะเล่นพิเรนทร์แต่พลาดด้วยเท้าหยั่งไม่ถึงพื้น เลยเสียหลักหน้าคะมำ เขารีบเอื้อมมือไปคว้าเอวช่วยพยุง แต่เด็กสาวกลับไถลเข้าอ้อมแขนกว้างแล้วยืดตัวขึ้นโอบรัดรอบคอเพื่อเป็นหลักยึด สองขาเกี่ยวกระหวัดรอบเอวเขา ปราณธรหน้าแดงก่ำกับท่าลิงอุ้มแตง เธอคงไม่ตั้งใจ แต่การที่น้องสาวเธอบดเบียดกายเขาก็ยากที่จะทำให้ลืมเลือนความจริงข้อนั้น

“เธอจะทำอะไร” ปราณธรกระซิบถามดุๆ จ้องใบหน้าเยาว์วัยที่ห่างแค่คืบ ใกล้กระทั่งเขาเห็นเงาตัวเองเล็กกระจิดเดียวในดวงตาสีนิล

แล้วพลันปราณธรก็ใจเต้นแรง ครางอื้ออึงในใจ ถามตัวเองว่าเกิดขึ้นได้อย่างไร เป็นไปได้อย่างไรที่ลลิษาจะรักเขาในเมื่อเธอแทบไม่รู้จักเขา อย่าว่าแต่รู้จัก เจอหน้ากันยังไม่ถึงสามครั้งแล้วเธอจะรักเขาได้อย่างไร

ปราณธรถามตัวเองกลับไปกลับมาอย่างตกใจแกมคาดไม่ถึง จ้องไปในดวงตาสีนิลอย่างงงๆ แต่ประจักษ์พยานตรงหน้าทำให้เขาต้องยอมรับความจริง

ลลิษารักเขา แววตาที่เห็นไม่ใช่การเสแสร้ง เขาผ่านผู้หญิงมามากพอจึงอ่านสายตาคู่นี้ได้ไม่ยาก แถมเธอไม่ประสีประสาจึงซ่อนความรู้สึกไม่เก่ง เหลือแค่ว่าความรู้สึกที่เห็นจะแค่วูบวาบชั่วครั้งชั่วคราว ไม่ต่างจากการหลงใหลได้ปลื้มดาราสักคน หรือว่าจะเป็นความรู้สึกลึกซึ้งจริงจัง เขายังหาคำตอบไม่ได้

ลลิษาไม่ตอบ แต่ใช้มือทั้งสองข้างกดบ่าเขาเพื่อดันตัวเองขึ้นสูง หน้าอกแตะสัมผัสครูดไปตามแผงอกเปลือยที่เต็มไปด้วยไรขนอ่อนๆ ใต้น้ำ กระทั่งโผล่พ้นเหนือศีรษะเขา ใบหน้าหล่อเหลาแดงจัดด้วยความขัดเขินจากกิริยาแนบชิด ลลิษาจ้องเขาไม่คลาดสายตา ซ่อนความเคอะเขินอย่างมิดชิด

ปราณธรยกมือโอบรัดเอวเธอโดยอัตโนมัติเพื่อช่วยประคอง แววตาเขาฉายคำถาม “แม่ตัวแสบจะทำอะไร” เขากัดฟันถาม

ลลิษาวางศอกทั้งสองข้างลงบนบ่าเขา กวาดตามองทั่วใบหน้าหล่อเหลาปานเทพบุตรอย่างหลงใหลคลั่งไคล้ซึ่งตอนนี้กำลังเงยมองเธอด้วยความรู้สึกฉงนฉงาย จมูกโด่งรับกับริมฝีปากอิ่มได้รูปสวยราวอิสตรี เธอชอบใบหน้าและรูปร่างเขา โดยเฉพาะกล้ามแขนเป็นมัดๆ ที่กำลังโอบรัดรอบกาย

ปราณธรอึ้งกับสายตาลลิษา เขาเลิกคิ้วขึ้นน้อยๆ เชิงถาม เธอกวาดตามองแล้วหยุดที่ปาก ชีพจรลำคอเต้นตุ้บๆ ก่อนกลืนน้ำลาย เขาอึ้งกับกิริยานั้นของเธอ กลั้นหายใจรอคอยโดยไม่รู้ตัว ไม่กี่อึดใจความสงสัยของเขาก็สิ้นสุดลงเมื่อลลิษาก้มหน้าลงมา ริมฝีปากจิ้มลิ้มแตะปากเขาแผ่วเบาจนแนบสนิท ก่อนค่อยๆ เพิ่มแรงกดกระชับจนกลายเป็นการบดขยี้ เขาแหงนหน้ารับจูบเธอ เด็กสาวจงใจทิ้งน้ำหนักทั้งตัวลงมาที่เขาจนเขารู้สึกได้ถึงทรวงอกอวบอัดที่กำลังบดเบียดตัว ปราณธรคราง ยากจะแยกแยะว่าไม่ถูกใจหรือสุขสมกันแน่

อย่างไม่รู้ตัวเขากอดกระชับเอวบางแน่นขึ้น เอวเธอบางและคอดกิ่วจนแขนเขาโอบได้เกือบมิด เขาขยับมือนัวเนียอยู่แถวๆ แก้มก้น กระโปรงรัดรึงเหนือเอว เปิดโอกาสให้เขาลูบไล้ได้สะดวก เขาสอดมือเข้าไปในกางเกงใน บีบเคล้นแก้มก้นนุ่มเนียนมือ ปราณธรครางอย่างถูกใจ

“จูบตอบสิคนบ้า” น้ำเสียงลลิษาดุดัน หงุดหงิด

เมื่อเขายังเฉยไม่จูบตอบ เธอก็ใช้ฟันคมๆ งับกลีบปากล่าง ปราณธรสะดุ้ง

“อ้าปากสิ” ลลิษาสั่งด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

แม่ตัวดีดุเอาเรื่อง ปราณธรคิดอย่างขำๆ เผยอริมฝีปากให้เล็กน้อย ปลายลิ้นเล็กร้อนๆ จึงสอดเข้ามาเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นเขา ปราณธรคราง ลลิษาให้รสชาติหวานล้ำไม่ต่างจากน้ำผึ้งเดือนห้า เขาเผลอบดขยี้ริมฝีปากนุ่มตอบอยู่อึดใจ แต่พอนึกได้ก็ชะงัก รีบดันตัวเองออกห่าง พยายามสะกดกลั้นก่อนที่ทุกอย่างจะเลยเถิด

“ทำไม...” น้ำเสียงเด็กสาวเบาหวิว แววตาผิดหวัง มึนงง ไม่เข้าใจ

ปราณธรกวาดตามองทั่วใบหน้าจิ้มลิ้ม เขาอยากจูบไล่ความผิดหวังออกจากดวงตาคู่สวย แต่ก็ทำไม่ได้ เขาควรหยุดตัวเองตอนที่ยังพอหักห้ามใจได้

ชายหนุ่มลดร่างที่เบาหวิวราววัตถุไร้น้ำหนักลงบนพื้นสระ “ฉันบอกไปแล้ว ฉันไม่พิสมัยเด็กๆ แล้วจูบของเธอแสนจืดชืด ไม่เป็นสับปะรด” พูดพลางวางมือลงบนศีรษะทุย สำทับว่า “รีบขึ้นจากสระแล้วไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้า ไปรอฉันที่ห้องรับแขก”

กล่าวจบก็ว่ายน้ำผละห่างจากเด็กสาว ยันตัวเองขึ้นจากสระ คว้าผ้าขนหนูบนเก้าอี้นอนอาบแดดมาพันรอบเอวหลวมๆ แล้วเดินเข้าไปในบ้าน ทิ้งลลิษาที่อ้าปากค้างมองตามอย่างไม่เข้าใจไว้ข้างหลัง บอกตัวเองว่าแบบนี้ดีแล้ว ขืนปล่อยตัวเองให้เลยเถิดไปกว่านี้ เขาเป็นได้ทำลายความตั้งใจ ไม่สำเร็จโทษตัวเองก็สำเร็จโทษเด็กสาวกลางสระน้ำนี่ละ

“คนขี้ขลาด” ลลิษาพึมพำแล้วตวัดมือปาดผิวน้ำอย่างขัดใจจนน้ำกระเพื่อมเป็นวงกว้าง แล้วทิ้งตัวนอนหงาย น้ำกระเพื่อมอีกรอบในจังหวะเดียวกับที่ร่างจมลงไปในสระ ก่อนค่อยๆ ลอยขึ้นเหนือผิวน้ำราวกับวัตถุไร้น้ำหนัก เธอใช้ฝ่ามือและปลายเท้าตีน้ำพยุงตัว ตามองท้องฟ้าที่เริ่มสลัว เรื่องอะไรจะขึ้นจากสระ ว่ายน้ำเล่นสบายใจออก แถมรอบสระเต็มไปด้วยไม้ยืนต้นหลบสายตาคนภายนอกได้ดี

คิดถึงวัยเยาว์ เธอชอบว่ายน้ำ สมัยที่ยังอยู่บ้านหลังโตมีสระว่ายน้ำแถมด้วยสปาน้ำวนขนาดใหญ่ไม่ต่างจากที่นี่ แม้จะไม่ใหญ่เท่า แต่ก็สะดวกสบายไม่แพ้กัน

ลลิษารีบปัดความคิดทิ้ง เธอไม่ควรอาลัยอาวรณ์กับอดีตที่ไม่มีวันหวนกลับ ชีวิตต้องเดินไปข้างหน้า แล้วลลิษาก็นึกถึงผู้ชายตัวโตที่เพิ่งผละไป ปราณธรขี้ขลาดหรือเขาไม่สนใจเธอจริงๆ เป็นคำถามที่ชวนสงสัย เพราะเธอไม่เชื่อว่าเขาไม่รับรู้ถึงสัญญาณที่เธอเพียรส่งให้ เธอพร้อมขึ้นเตียงกับเขา ทุกที่ทุกเวลาขอแค่เขาบอก แต่เขาไม่ต้องการ เขาเมินเฉยกับข้อเสนอเธอ หรือว่าเธอจืดชืดไร้เสน่ห์อย่างที่เขาว่าจริงๆ

ลลิษาหน้ามุ่ย ผ่อนลมหายใจยาวเหยียด ตีน้ำเล่นรอบสระ ไม่รู้เลยว่าตลอดเวลานั้นตกอยู่ในสายตาของใครคนหนึ่ง

 

ปราณธรแหวกผ้าม่าน มองจากหน้าต่างห้องนอนฟากที่ติดกับสระว่ายน้ำ เห็นลลิษายังคงนอนหงายลอยตัวอยู่กลางสระ เขายกไวน์ขึ้นจิบ มองภาพนั้นเงียบๆ

กระโปรงรัดรึงถึงเอว เชิ้ตบางจ๋อยถลกขึ้นเหนือบราเซียร์ เห็นได้ชัดจากหน้าต่างห้องนอนชั้นสามว่าเธอมีรูปร่างที่ดึงดูดสายตาเพียงไร ผิวขาวผุดผาดอมเลือดฝาดแม้กระทั่งแสงสลัวยามโพล้เพล้ก็ไม่อาจกลบภาพชวนมองนั้นได้ เมื่อกี้เขา เกือบจะคว้าตัวเธอมาบดขยี้ใต้น้ำ ถ้าไม่ยับยั้งชั่งใจเสียก่อน เขาเป็นได้เสียความตั้งใจแน่ๆ

ลลิษามีเสน่ห์เย้ายวนทางเพศ มีหน้าอกหน้าใจที่ดึงดูดสายตา มีทุกอย่างที่เขาต้องการ อกเอวสะโพกรับกันเหมาะเจาะชนิดที่นางแบบที่เขาเคยขึ้นเตียงด้วยยังต้องอาย ขนาดมองไกลๆ ยังเห็นรูปร่างอรชร อกอวบอิ่มน่าดูดน่าซุกไซ้คลอเคลีย แถมเธอยังเยาว์วัยไร้เดียงสา สดใส ไม่ประสีประสา คิดอย่างไรก็แสดงออกตรงๆ เป็นข้อได้เปรียบผู้หญิงทุกคนที่เขาเคยขึ้นเตียงด้วย พวกเธอเหล่านั้นล้วนรอบจัด ขณะที่ลลิษาใสๆ เป็นธรรมชาติ แต่ความไร้เดียงสาของลลิษาก็สร้างปัญหาให้แก่เขาเช่นกัน เขาไม่เคยรับมือกับเด็กวัยรุ่นมาก่อน ไม่เคยเจอเด็กเฮี้ยว แสบสัน ก๋ากั่น ไม่กลัวใครอย่างเธอ แต่ขณะเดียวกันก็สดใสร่าเริงไม่ต่างจากแสงแดดยามเช้า มันเลยทำให้เขาไปไม่เป็น ไม่รู้ว่าจะจัดการและรับมืออย่างไร แล้วปัญหาที่เกิดตามมาคือ เมื่อรู้อยู่เต็มอกว่าเธอเยาว์วัยและไร้เดียงสา ถ้าเขายังคิดจะพาขึ้นเตียงและหาความสุขจากร่างกายสวยๆ นั่น เขาก็คงไม่ต่างจากสัตว์เดรัจฉาน ถึงเธอจะเต็มใจก็เถอะ

ปราณธรผ่อนลมหายใจ ตัดใจผละจากหน้าต่าง เดินเข้าห้องน้ำ เขาต้องการน้ำเย็นจัดเพื่อช่วยคลายความร้อนรุ่มที่เกาะกินหัวใจอยู่ในขณะนี้

 

ปราณธรพับหนังสือพิมพ์วางบนโต๊ะ ก้มมองนาฬิกาข้อมืออย่างหงุดหงิด เขามองนาฬิกาเป็นครั้งที่สิบที่ร้อยก็จำไม่ได้แล้วด้วย เวลาผ่านไปจากนาทีเคลื่อนคล้อยเป็นหลายนาที เป็นชั่วโมง และกำลังจะเข้าสู่ชั่วโมงที่สอง แต่ลลิษาก็ยังไม่โผล่หน้ามา เขาอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาเป็นชุดนอนปาจามา สวมชุดคลุมทับ อ่านหนังสือพิมพ์รออยู่ที่ห้องรับแขก ชาเบื้องหน้าหมดไปกว่าสามถ้วยแล้ว แต่เธอยังไม่ย้ายก้นสวยๆ มาที่นี่ ปราณธรพ่นลมหายใจพรืดใหญ่ ตัดสินใจเดินไปกดอินเตอร์คอม

“ป้ารำไพเห็นลลิษาบ้างไหมครับ” เขาถามขึ้นทันทีที่ฝ่ายนั้นกดรับ

“เห็นเอาข้าวเข้าไปกินในห้อง เด็กคนนี้เหลือเกินค่ะ ไม่มีมารยาท พ่อแม่ไม่สั่งสอน ไม่สิ...หนูลักษณ์คงอบรมลูกดี แต่อีลูกคงไม่เอาถ่าน ป้าบอกให้นั่งกินในครัวให้เรียบร้อย ไม่ต้องเอาไปกินในห้อง แต่แม่นี่สะบัดตูดเดินเข้าห้องไปเฉย แถมปิดประตูปังใหญ่”

ปราณธรกุมขมับ นวดคลึงไปมา เขากำลังปวดหัว แค่ลำพังเรื่องลลิษา เขาก็ปวดหัวมากพอแล้ว นี่ต้องมาฟังรำไพบ่นอีก แถมบ่นกึ่งฟ้องทุกครั้งที่เขาถามหาลลิษา

“คุณปราณมีอะไรกับเด็กนั่นหรือคะ” ชะรอยรำไพจะรู้ตัวว่าชักบ่นมากไป เลยถามกลับมาเสียงอ่อนๆ

“เธอยังไม่มาหาผม”

“อ้าว...ก็ป้าบอกให้ไปเจอคุณปราณ แหม...เด็กคนนี้นี่เหลือเกินจริงเชียว ป้าบอกว่าคุณปราณรอคุยธุระอยู่ แล้วดู คงโอ้เอ้เถลไถลที่ไหนถึงได้กลับมาตัวเปียกมะล่อกมะแล่ก ป้าถามก็ไม่ยอมตอบ เอาแต่เดินหนีเข้าห้องท่าเดียว ป้าก็ว่าแล้วว่าต้องไปก่อเรื่องมา เดี๋ยวป้าเข้าไปจัดการให้ค่ะ ผู้หลักผู้ใหญ่ถามหาจะห่วงเล่นได้ไง”

“ไม่ต้อง เดี๋ยวผมไปหาเธอเอง ที่ถามป้านี่เพราะอยากให้แน่ใจว่าเธออยู่ที่นั่น”

 

“มีอะไรป้า” ช่อเอื้อง เด็กรับใช้ถามทันทีที่รำไพวางหูอินเตอร์คอมบนแป้นแล้วทำหน้ายุ่ง แววตาวิตกกังวลแปลกๆ ที่นี่เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่ ด้วยเหตุนี้ปราณธรจึงว่าจ้างเด็กรับใช้หลายคนมาช่วยงานบ้าน “คุณปราณจะมาที่เรือนนี้” รำไพตอบด้วยแววตาครุ่นคิด

“หา!…อะไรนะ คุณปราณนี่นะจะมา” แอบจันทร์เด็กรับใช้อีกคนอุทาน “ร้อยวันพันปีไม่เคยมา ตั้งแต่หนูมาทำงานที่นี่สามปีเข้าไปแล้ว ไม่เคยเห็นคุณปราณมา” เธอกำลังปอกเปลือกหัวหอมเพื่อเตรียมทำกับข้าววันพรุ่งนี้ เลยนั่งจับเจ่าล้อมวงกันในครัว มีแต่ลลิษาที่ได้รับอภิสิทธิ์ไม่ต้องช่วยงานบ้าน ในกลุ่มเธอจึงไม่มีใครชอบลลิษาสักคน

“นั่นสิ ฉันก็ว่าแปลก” สร้อยระย้าเสริม

ช่อเอื้องถามต่อ “แล้วคุณปราณมาทำไม”

“มาหาลลิษา” รำไพตอบ

“ตายห่า คุย? ตามมาถึงที่นี่นี่นะ ฉันว่าแปลกๆ ไปละ ชักทะแม่งๆ แล้วแม่นั่นก็สวยซะด้วย” หางเสียงช่อเอื้องริษยาอยู่ในที

รำไพไม่ตอบ รู้สึกตงิดๆ ในใจเหมือนกัน นับแต่ลลิษาโผล่มาในบ้านนี้ ปราณธรก็มีท่าทีเปลี่ยนไป จากที่ไม่เคยอยู่ติดบ้านเสาร์อาทิตย์ก็อยู่ติดบ้าน ไม่เคยมาเรือนคนใช้ก็มา เธอจะคอยจับตาดู ถ้ามีอะไรทะแม่งๆ จะรีบรายงานคุณท่าน        ภาวนาขออย่าให้เป็นอย่างที่คิด เพราะไม่อย่างนั้นเธอก็ไม่รู้ว่าปราณธรจะพูดกับลักษณาอย่างไรในปรโลก เพราะสมัยก่อนที่ปราณธรคบหาเป็นแฟนกับลักษณานั้น ทุกคนในบ้านรวมถึงแม่บ้านคนรับใช้รู้กันดีว่าพวกเขารักกันมาก ปราณธรวางแผนจะแต่งงานกับแฟนสาวในทันทีที่รับปริญญา เพียงแต่เกิดเหตุขึ้นเสียก่อนทำให้รักแรกของเขาต้องอับปางลง

 

ปราณธรในเสื้อยืดกางเกงขาสามส่วนลัดเลาะไปยังเรือนคนใช้ซึ่งอยู่ติดกัน แม้เรือนสองหลังจะมีห้องครัวที่เชื่อมถึงกันได้ แต่เขาชอบเดินนอกบ้านเพื่อสูดอากาศบริสุทธิ์มากกว่า

บ้านเขากินอาณาเขตเกือบยี่สิบไร่ รอบบ้านปลูกไม้ดอกไม้ประดับซึ่งกำลังส่งกลิ่นหอมอบอวล ปราณธรคิดถึงความหลัง หลังพลาดรักจากลักษณา เขาไม่เคยกลับมาเมืองไทย ยกเว้นตอนงานศพแม่ และตอนที่พ่อโทร. ตามให้มารับช่วงกิจการต่อ ตอนนั้นเขากำลังคบหาดูใจกับสาวอเมริกัน อยู่ในช่วงข้าวใหม่ปลามัน เลยปฏิเสธอย่างไม่ไยดี เขาขอให้ปิยบุตรกับธราธรรับช่วงกิจการแทน แต่พ่อไม่ยอม อ้างว่าแม่ขอไว้ พ่อทั้งปลอบทั้งขู่ เขาเลยต้องจำยอม แต่ยื่นเงื่อนไขไปว่าขอไม่อยู่บ้านใหญ่ เขาไม่ได้ต่อต้านกับการที่พ่อเอาเด็กรับใช้ทำเมียและอุ้มชูออกนอกหน้าในทันทีที่แม่ตาย เพียงแต่เขาสบายใจที่แยกออกมาใช้ชีวิตข้างนอกลำพังมากกว่า อาจเพราะติดชีวิตสันโดษจากสมัยอยู่อเมริกา พ่อยอมรับเงื่อนไขนี้ได้ นับแต่นั้นมาเขาเลยไม่กลับไปบ้านใหญ่นอกจากเสาร์อาทิตย์ซึ่งก็นานๆ ครั้ง

“อุ้ย...”

ปราณธรชะงักเมื่อเกือบชนกับลลิษาที่เดินสวนออกมาในจังหวะที่เขาเข้าไปในเรือนคนใช้ เขาพยุงแขนเธอก่อนปล่อยเป็นอิสระ ได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ของแป้งเด็กโชยมาจากตัวเธอ ชายหนุ่มกวาดตามองทั่วตัว เธออยู่ในชุดเอี๊ยมยีน มีกระเป๋าเล็กๆ สะพายเฉียงอย่างที่ดูออกว่าจะออกไปข้างนอก

“จะไปไหน”

“ขึ้นไปหาคุณนั่นแหละ”

ปราณธรเลิกคิ้วเมื่อเธอตอบกลับมาคล่องแคล่ว เขารู้สึกว่าลลิษาเป็นเด็กพลิ้วเก่ง ถ้าจับไม่ได้ ไม่มีวันไล่ทัน “ถ้าไม่ได้ออกไปไหน งั้นไปคุยกันบนบ้าน”

ลลิษากะพริบตา “นี่อย่าบอกนะว่าคุณมาที่นี่เพื่อตามหาหนู”

“เห็นชัดๆ อยู่แล้ว ในเมื่อเธอไม่ขึ้นไปหาฉัน ฉันก็ต้องมาตามเธอ”

“หนูไปหาแล้วนะ จำได้ไหม”

“แล้วฉันก็จำได้ว่า ฉันไล่ให้เธอไปรอที่ห้องรับแขก จำได้ไหม” เขาเลียนคำตอบเด็กสาว

ลลิษานิ่วหน้า “พนันได้เลย เรื่องที่คุณจะคุยต้องสำคัญมากๆ ชนิดคอขาดบาดตายรอพรุ่งนี้เช้าก็ไม่ได้”

“ไม่ต้องมาเหน็บ” ปราณธรเขกศีรษะเด็กสาวไปที

“อะไรเล่า” ลลิษาหน้ามุ่ย คลำศีรษะป้อยๆ  

“ฉันอยากคุยตอนไหน ฉันก็จะคุย”

“เผด็จการชะมัด โอเคๆ คุยก็คุย งั้นเราไปคุยกัน จะได้จบๆ”

ปราณธรอึ้งเมื่อลลิษาพูดจบก็ฉวยมือเขาหมับ กึ่งลากกึ่งจูงออกจากเรือนคนใช้ เขาเดินตามแรงจูง มองมือเล็กที่กำลังกุมมือเขา พลันเกิดความรู้สึกอุ่นวาบ ใจเต้นจังหวะแปลกๆ เขาอยากกุมมือตอบ แต่ไม่กล้า

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น