5

บทที่ 5



5

 

มนตร์ขลังคลายลงเมื่อลลิษาปล่อยมือซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่พวกเขาเดินมาถึงบ้าน ปราณธรรู้สึกใจโหวงแปลกๆ ตัดใจเดินนำเข้าไปในห้องรับแขก เธอจับจองโซฟาตัวหนึ่ง เขาทรุดตัวนั่งตรงข้าม เริ่มต้นบทสนทนา

“ฉันอยากรู้ประวัติเธอ เริ่มต้นจากเบอร์โทร. แล้วกัน ฉันยังไม่มีเบอร์เธอ เวลามีธุระด่วนฉันไม่รู้จะติดต่อยังไง”

ลลิษาเบิกตาโต “งั้นเอามือถือมาค่ะ เดี๋ยวหนูเมมเบอร์ให้”

ปราณธรล้วงโทรศัพท์มือถือจากกระเป๋ากางเกงส่งให้เด็กสาว ซึ่งรับไปจัดการเงียบๆ แล้วส่งคืนเขา

“หนูเมมให้แล้ว หนูใช้มือถือคุณยิงเข้าเครื่องหนูด้วย เพราะงั้นเราต่างมีเบอร์กันและกันแล้ว อ้อ...เบอร์หนูไม่ได้ตั้งค่าไอดี เพราะงั้นจะขึ้นไลน์หนูอัตโนมัติเมื่อเมมเบอร์” ลลิษายิ้มหน้าเป็นให้เขาอย่างเด็กขี้เล่น

ปราณธรรับมาเปิดดู ไล่หมายเลขล่าสุดที่ลลิษาโทร. ออก เธอบันทึกชื่อตัวเองว่า ลิซที่รัก เขาไม่ได้แย้ง เงยหน้าถามไปอีกเรื่อง “เธอชื่อเล่นว่าลิซหรือ” ถามพลางวางโทรศัพท์มือถือบนโต๊ะ

“ค่ะ พ่อตั้งให้ พ่อชอบนักร้องต่างชาติอยู่คนชื่อว่าลิซ่า ชื่อเล่นลิซ พ่อเลยเอามาตั้งให้หนู”

“คุณพ่อเธอดูแลเธอกับคุณแม่ดีอยู่หรือ”

“ดีมากค่ะ พ่อรักหนูกับแม่มาก คนดีๆ สวรรค์มักรับตัวไปเร็ว” หางเสียงแผ่วเบา

ปราณธรเบือนหน้าจากเด็กสาว ซ่อนแววตาสะเทือนใจมิดชิดเมื่อถามเปลี่ยนเรื่องว่า “เธอรู้เรื่องฉันกับแม่เธอมากน้อยแค่ไหน ลักษณ์เล่าอะไรให้ฟังบ้าง”

“เยอะอยู่ค่ะ แม่เล่าว่าคุณเป็นแฟนเก่าสมัยเรียน ป.ตรี ที่...” ลลิษาเอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยชื่อดัง “อย่างที่หนูเคยเล่าให้ฟังเมื่อสามปีก่อน แม่รักคุณ แต่เพราะต้องชดใช้หนี้ให้ที่บ้านเลยต้องแต่งกับพ่อ พ่อแอบชอบแม่ พอตายายไม่มีเงินใช้หนี้ที่กู้มาจากปู่ย่า พ่อเลยเสนอให้แม่แต่งงานเพื่อใช้หนี้ เลยเป็นเหตุให้ปู่ย่าตัดขาดกับพ่อ แต่ตอนพ่อเสียพวกท่านก็มาขออโหสินะคะ พ่อเคยเล่าให้ฟังว่าที่ปู่ย่าไม่ยอมรับการแต่งงาน เพราะมองว่าฝ่ายพ่อขาดทุน ปู่ย่าเป็นนักลงทุนประเภทไม่ยอมเสียอะไรฟรีๆ พอปู่ย่าตัดขาด พ่อเลยต้องดิ้นรน แต่ก็ยังไม่ลำบากนัก เพราะตอนนั้นพ่อยังมีเงินเก็บ เพิ่งจะมาลำบากจริงๆ ตอนพ่อประสบอุบัติเหตุ” น้ำเสียงแผ่วต่ำ ลลิษายิ้มเพลียๆ ให้เขาแล้วเล่าต่อว่า

“ตลอดเวลาที่แม่แต่งกับพ่อ แม่ยังรักคุณ ถึงได้เป็นสาเหตุให้พ่อตามหึงอยู่บ่อยๆ เวลาพ่อเมามักเอามาระบายกับหนู แต่พ่อไม่เคยทำร้ายหนูกับแม่นะคะ ถึงจะเมาแค่ไหนก็ไม่เคยมาลงที่พวกเรา บางทีหนูก็สงสัย พ่อรักแม่ขนาดนั้นทำไมแม่ยังไม่ลืมคุณ เอาแต่ชมคุณให้หนูฟังบ่อยๆ ว่าคุณเป็นคนดี ตลอดเวลาที่คบกันไม่เคยแตะต้องแม่ แม่บอกว่าคุณไม่ต่างจากนักบวช ถ้าจะหาผู้ชายดีๆ สักคนที่ผู้หญิงอยู่ด้วยแล้วปลอดภัยก็ต้องเป็นคุณ”

ปราณธรเบือนหน้า “ฉันไม่ใช่คนดีอย่างที่แม่เธอว่าหรอกนะ อย่างน้อยก็ไม่ใช่อีกแล้วในตอนนี้”

“หมายความว่าไง คุณจะบอกว่าตอนนี้คุณเป็นเสือผู้หญิง ใครอยู่ใกล้ก็ไม่ปลอดภัยอย่างนั้นหรือ”

ปราณธรไม่ตอบ

ลลิษาไหวไหล่ “ไม่เห็นคุณเป็นงั้นเลย หนูปลอดภัยเมื่ออยู่ใกล้คุณ ไม่เห็นคุณแตะต้องหนู”

“นั่นเพราะเธอเป็นลูกสาวลักษณ์”

“ถ้าไม่ใช่ลูกสาวแม่ หนูก็เสร็จไปแล้วอย่างนั้นหรือคะ”

ปราณธรนิ่วหน้า ไม่ว่าอย่างไรเขาก็ไม่ชินกับคำพูดขวานผ่าซากของลลิษา เขายังคงเมินหน้าจากใบหน้างามผุดผาด และไม่ตอบ

“ไม่แฟร์เลย”

“อะไรไม่แฟร์”

“ไม่ต้องเว้นหนูได้ไหม คิดซะว่าหนูกับแม่ไม่เกี่ยวกัน”

ปราณธรซ่อนยิ้มขำ ตีหน้าเคร่ง “คงไม่ได้ เพราะยังไงเราก็หนีความจริงไม่ได้”

“ไม่แฟร์ หนูกับแม่เป็นคนละคนกัน ไม่เกี่ยวกันสักนิด”

“ทำไมถึงอยากให้ฉันแตะต้องเธอนัก”

“ก็แล้วทำไมถึงไม่อยากแตะต้องหนูนัก”

“ฉันเคยบอกไปแล้ว เธอเด็กเกินไปสำหรับฉันแถมเป็นลูกของลักษณ์”

“หนูก็เพิ่งบอกหยกๆ ขอให้แยกกันระหว่างหนูกับแม่ แล้วหนูก็บอกหลายครั้งแล้วว่าหนูโตแล้ว หนูขึ้นเตียงกับคุณได้สบายๆ”

ปราณธรหน้าแดงก่ำ “หยุดพูดเรื่องนี้เถอะ เรากำลังพายเรือในอ่าง”

ลลิษายักไหล่

ปราณธรผ่อนลมหายใจ เอ่ยว่า “มาคุยเรื่องส่วนตัวเธอเถอะ เล่าให้ฉันฟังหน่อยว่าเธอมีชีวิตความเป็นอยู่ไงบ้าง”

“หนูเล่าให้คุณฟังไปแล้ว”

“ละเอียดกว่านั้นได้ไหม ฉันอยากรู้ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเธอ ชีวิตวัยเด็ก ความสามารถ ความฝัน แฟน หรืออะไรก็แล้วแต่ที่เธออยากให้ฉันรู้”

“ทำไมถึงอยากรู้”

“เธอกำลังเป็นเด็กในปกครองฉันนะ เธอมาอยู่ในบ้านฉัน ฉันไม่ควรรู้เรื่องของเธอหรือ”

ลลิษาไหวไหล่ เริ่มต้นเล่าอย่างง่ายๆ ว่า “หนูโสดไม่มีแฟน มีแค่เพื่อนสนิทชื่อว่าพิมพ์ใจ หนูจบ ม.6 จากโรงเรียนแถวๆ บ้าน ตั้งใจจะเข้าเรียนมหา’ลัย ตอนนี้ทำงานพาร์ตไทม์หาเงินค่าเทอม หนูชอบเดินทาง ฝันอยากเที่ยวรอบโลก หนูชอบวิชาภาษาอังกฤษ เกลียดวิชาวิทยาศาสตร์ ชอบไอศกรีม เกลียดแมลงสาบ หนู จิ้งจก ตุ๊กแก”

ปราณธรยิ้มกับการพูดเป็นต่อยหอยของเธอ “เธอทำงานพาร์ตไทม์ด้วยหรือ”

“ค่ะ ทำตั้งแต่เกรดเก้า เอ้ย...ม.3”

“ตอนที่เราเจอกันเมื่อสามปีก่อนเธอก็ทำแล้วหรือ”

“ไม่ค่ะ หลังจากนั้นนิดหน่อย”

“เงินที่ฉันให้ไม่พอหรือ ถึงต้องไปทำ”

“เรา...หนูหมายถึงหนูกับแม่มีหนี้ที่กู้มารักษาพ่อก่อนหน้านั้น หนูเลยต้องกันเงินส่วนหนึ่งไว้ใช้หนี้ เงินคุณเลยเอามาเป็นค่าใช้จ่ายในบ้านไม่ได้ หนูเลยต้องหางานพิเศษทำ”

“เธอทำงานพาร์ตไทม์อะไร”

“เมื่อก่อนล้างแก้ว แต่ตอนนี้ขยับมาเป็นพนักงานเสิร์ฟแล้ว”

ปราณธรอึ้ง ลลิษาสู้ชีวิต และน่าหวั่นว่าหน้าตาสะสวยและรูปร่างที่ชวนสะดุดตาไม่แคล้วถูกลูกค้าแจกขนมจีบแหงๆ แค่คิดเขาก็ทนไม่ได้แล้ว เขาต้องทำอะไรสักอย่าง

“แล้วชีวิตมหา’ลัยล่ะ เธอวางแผนยังไงในเรื่องค่าใช้จ่าย”

“หนูตั้งใจเรียนที่...” เธอเอ่ยชื่อมหาวิทยาลัยชื่อดังที่เขากับแม่เธอเรียน “หนูไปสัมภาษณ์เรียบร้อยแล้ว ส่วนค่าใช้จ่าย หนูตั้งใจขอทุนมหา’ลัย กู้กองทุน แล้วก็ทำงานพาร์ตไทม์ไปด้วย ก็น่าจะพอที่จะเรียนจบได้”

“ถ้าต้องทำงานไปด้วยจะเอาสมาธิที่ไหนไปเรียน ฉันส่งเสียเธอเอามั้ย เธอจะเรียนสูงแค่ไหนก็ได้ตราบเท่าที่ต้องการ ถึง ป.เอก เลยก็ได้ ฉันส่งเสียให้เอง”

“แล้วคุณจะได้อะไรตอบแทน หนูไม่มีปัญญาหาเงินมากมายมาจ่ายคืนหรอกนะ”

“ฉันเต็มใจช่วยโดยไม่หวังผล”

“แม้แต่ตัวหนู คุณก็ไม่หวังเลยหรือ”

“ไม่”

“งั้นหนูก็ไม่รับความช่วยเหลือจากคุณ ลำพังที่คุณช่วยเมื่อสามปีก่อนหนูก็ไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว”

“ฉันบอกแล้วฉันยกให้ ฉันช่วยโดยไม่หวังอะไร เธอเป็นลูกสาวลักษณ์ ก็ไม่ต่างจากลูกหลานฉัน”

“คุณคงรักแม่มาก ถึงได้เผื่อแผ่มาถึงหนูด้วย”

“ไม่เกี่ยวกันหรอก ตกลงว่าไง จะรับข้อเสนอฉันมั้ย” ปราณธรจ้องใบหน้าสะสวย เธอเยาว์วัยสดใสและงดงามอย่างเหลือเชื่อ แล้วใจก็พลันสั่นไหวเมื่อกระหวัดนึกถึงเหตุการณ์เมื่อช่วงหัวค่ำที่เธอปีนขึ้นมาบนตัวเขาเพื่อจูบเขา ลลิษาทะลึ่ง แก่น เซี้ยว แต่ก็มีเสน่ห์ชวนหลงใหลอย่างน่าเหลือเชื่อ

ลลิษาส่ายหน้า “ไม่ค่ะ ไม่อยากรับเงินคุณฟรีๆ”

“ถ้าไม่อยากรับเงินฟรีๆ งั้นก็มาช่วยเป็นเลขาฯ ฉันไหม ใช้แรงงานตอบแทน ถือว่าแลกเปลี่ยนกัน”

“คะ?”

“ฉันขาดเลขาฯ ทุกวันนี้เวลาไปไหนมาไหนก็ต้องชวนมิญชยาไปเป็นเพื่อน”

เพื่อนนอนอย่างไม่ต้องสงสัย...ลลิษานึกในใจ

“ว่าไง สนใจไหม”

“หนูต้องทำอะไรบ้าง”

“หลักๆ ใช้เวลาส่วนใหญ่ไปกับการเรียน ว่างเมื่อไหร่ก็มาตามฉัน จัดตารางนัดหมาย โทร. ประสานงานให้ฉัน แล้วก็จดบันทึกเวลาฉันมีแขก มีงานออกต่างจังหวัดหรือไม่ก็ต่างประเทศบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่ต้องห่วง ถ้าช่วงนั้นติดเรียนก็ไม่ต้องไป อย่างที่บอกยึดเรื่องเรียนเป็นหลัก”

“แล้วหนูจะได้อะไรบ้าง”

“เงินเดือน 25,000 พอไหม ไม่รวมค่าเบี้ยเลี้ยง ค่ารถ ค่าโทรศัพท์ ส่วนค่าเทอมเบิกได้ต่างหาก”

ลลิษาคำนวณตัวเลขในหัวอย่างรวดเร็ว เงินเยอะขนาดนั้นเธอไม่ต้องทำงานพาร์ตไทม์ตลอดสี่ปีก็สามารถเรียนจบมหาวิทยาลัยได้ แถมยังมีโอกาสได้ใกล้ชิดสนิทสนมเขา กันผู้หญิงทุกคนออกไปจากชีวิตเขา ข้อเสนอน่าสนใจไม่หยอก ใจตอบรับ แต่ยังต้องทำไว้เชิง

ลลิษาตีหน้าเคร่ง “ถ้าหนูจะเป็นเลขาฯ ให้คุณ หนูมีข้อแลกเปลี่ยน”

“อะไร” ปราณธรจ้องเด็กสาว

“คุณต้องอนุญาตให้หนูเรียกคุณว่าพี่ แล้วคุณต้องเรียกหนูว่าลิซ”

ปราณธรชะงัก “เรียกลิซยังพอทำเนา แต่ให้เธอเรียกฉันว่าพี่ไม่ไหวมั้ง ใครได้ยินคงหัวเราะขำกลิ้ง ฉันแก่คราวแม่เธอนะ”

“ทีคุณยังให้หนูเรียกป้ารำไพว่าป้าเหมือนคุณเลย ทั้งที่มนุษย์ป้านั่นแก่คราวยายหนูได้”

ปราณธรโบกมือว่อน เขาไม่อยากเริ่มต้นเถียงกับเด็กสาว ยังไม่อยากปวดหัวตอนนี้ “ตามใจๆ อยากเรียกฉันว่าอะไรก็เชิญ”

ลลิษายิ้มแก้มปริอย่างชอบใจ “ขอบคุณค่ะพี่ปราณ”

ปราณธรขมวดคิ้วมุ่น ไม่คุ้นหูกับการที่เด็กวัยละอ่อนคราวลูกมาเรียกเขาว่าพี่ เขาคงต้องใช้เวลาอีกสักพักกว่าจะทำใจให้ชิน “หมดแล้วใช่ไหม ข้อแลกเปลี่ยนของเธอ”

“เปล่าค่ะ ยังมีอีกข้อ”

“อะไร”

“พี่ปราณต้องอนุญาตให้หนูขึ้นมาอยู่บนบ้านหลังนี้”

“อะไรนะ”

“พี่ปราณได้ยินแล้ว หนูจะขึ้นมาอยู่บนนี้กับพี่ปราณ” ลลิษาฉีกยิ้มกว้าง

ปราณธรอึ้ง “เหตุผลล่ะ”

“หนูจะได้ตามดูแลพี่ปราณตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมงให้สมกับเลขาฯ ส่วนตัวจริงๆ ไง”

ลลิษาตอบแล้วยิ้มยิงฟันจนตาหยี เห็นลักยิ้มสองข้าง ไม่รู้ตัวเลยว่าทำให้หนุ่มใหญ่มองตาค้าง

ปราณธรจ้องภาพตรงหน้าราวกับตกอยู่ในภวังค์ รอยยิ้มเด็กสาวสดใส เป็นธรรมชาติ ไร้ซึ่งการปรุงแต่ง ไม่ต่างจากแสงแดดยามเช้า ลลิษาสดใสร่าเริง มีชีวิตชีวาจนผู้ชายที่คร่ำเคร่งจริงจังกับชีวิตอย่างเขาต้องนิ่งอึ้งราวกับถูกหมัดฮุก

ปราณธรกระแอมแล้วว่า “ถ้าเธอจะมาอยู่บ้านนี้ เราต้องมาตกลงกัน”

“อะไรคะ ได้เลยทุกอย่าง” เธอตอบอย่างคนใจป้ำ

ปราณธรอยากยื่นมือไปขยี้ศีรษะเด็กสาวเหลือเกิน เพราะแววตาลลิษาสดใสสุกสกาวเสียจนดาวบนฟ้ายังต้องอาย เขาผ่อนลมหายใจ ซ่อนความรู้สึกในหน้า ตอบด้วยน้ำเสียงราบเรียบ เป็นงานเป็นการว่า

“เวลาสำหรับอาหารเช้า 6.00-6.30 น. เธอต้องตื่นลงมากินให้ตรงเวลา ส่วนวันเสาร์อาทิตย์ไม่ค่อยเป็นเวลา เพราะฉันไม่ค่อยอยู่บ้าน แต่หลักๆ คือ อาหารเช้า 7.00-7.30 น. กลางวัน 11.00 น. และเย็น 18.00 น. ถ้าเสาร์อาทิตย์ไหน ฉันไม่อยู่บ้าน เธอสะดวกจะกินเวลาไหน ก็อินเตอร์คอมแจ้งป้ารำไพได้เลย”

“โอเคค่ะ”

“ห้ามเอาอาหารไปกินในห้องนอนเด็ดขาด”

“รับทราบค่ะ” ลลิษาพยักหน้า

“เธอจะพักอยู่ชั้นล่างสุด ไม่ได้รับอนุญาตให้ขึ้นไปเดินเพ่นพ่านบนชั้นสองชั้นสาม โดยเฉพาะชั้นสามซึ่งเป็นชั้นที่พักของฉัน ห้ามขึ้นไป สระว่ายน้ำกับฟิตเนสเป็นสถานที่หวงห้าม ถ้าเธอจำเป็นต้องใช้ ต้องแจ้งให้ฉันรู้ทุกครั้ง พื้นที่ในบ้านที่เธอใช้ได้โดยไม่ต้องแจ้งฉัน มีครัว ห้องสมุด แล้วก็ห้องนอนของเธอเอง”

“เท่ากับหนูไม่มีโอกาสเจอพี่ปราณเลยใช่ไหมนอกจากเวลาอาหารเช้า”

“ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น มีอะไรสงสัยอีกไหม”

“ไม่ค่ะ”

“เงื่อนไขข้อต่อไป ทุกครั้งที่เพื่อนฉันมาหา ห้ามเธอปรากฏตัว เธอต้องอยู่แต่ในห้องของตัวเองเท่านั้น ย้ำว่าห้ามออกมาโดยเด็ดขาด ไม่ว่าจะได้ยินเสียงอะไรก็แล้วแต่ ยกเว้นว่าฉันกดอินเตอร์คอมเรียก”

“แบบนี้ก็เท่ากับพี่ปราณต้องการซ่อนหนูไม่ให้พวกผู้หญิงรู้สิคะ”

“แล้วแต่เธอจะคิด ถ้าเธอยอมรับไม่ได้ จะกลับไปอยู่เรือนคนใช้ก็ได้นะ ที่นั่นสะดวกสบายแล้วก็อิสระกว่านี้แน่”

ลลิษาอึ้ง ตอบด้วยน้ำเสียงสงบเสงี่ยม “โอเคค่ะ หนูรับทราบแล้ว”

“ดี ข้อต่อไปห้ามกลับบ้านเกินสามทุ่ม ถ้าจำเป็นต้องกลับดึก ต้องโทร. รายงานฉันทุกครั้ง แล้วก็ห้ามไปไหนมาไหนโดยไม่บอกฉัน ถ้าจะเถลไถลไม่กลับบ้าน อย่างไปค้างบ้านเพื่อนเพื่อติวหรือทำรายงาน เธอต้องขออนุญาตฉันทุกครั้ง”

“รับทราบค่ะ”

“ห้ามพาเพื่อนมามั่วสุมที่นี่เด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนชายหรือเพื่อนหญิง ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็แล้วแต่ แล้วก็ห้ามใช้สารเสพติดทุกชนิดในบ้านนี้ แม้แต่บุหรี่หรือเหล้าก็ห้าม”

“โอเคค่ะ”

“ส่วนเรื่องเสื้อผ้า ฉันไม่อยากเพิ่มภาระให้เด็กรับใช้คนอื่นๆ เพราะงั้นเธอควรดูแลเสื้อผ้าของตัวเอง เครื่องซักผ้า ที่รีดผ้าก็อยู่ในห้องครัว”

“รับทราบค่ะ”

“เงื่อนไขทั้งหมดมีแค่นี้ มีอะไรอยากถามฉันไหม”

“ถ้าหนูทำผิดเงื่อนไขล่ะคะ”

“ถ้าผิดเกินสามครั้ง เธอก็ต้องกลับไปอยู่เรือนคนใช้อย่างไม่มีข้อแม้ ตกลงหรือเปล่า”

“โอเคค่ะ แล้วพี่ปราณห้ามหนูเข้าใกล้พี่ด้วยหรือเปล่า”

“อะไรนะ” ปราณธรย่นหัวคิ้ว

ลลิษาไม่ตอบ แต่เดินอ้อมโต๊ะที่กั้นกลางระหว่างพวกเธอ เด็กสาวนั่งคร่อมหน้าขาเขาพร้อมกับยื่นหน้าไปจูบ ทุกอย่างเกิดขึ้นรวดเร็วในชั่วพริบตา ลลิษาจู่โจมรวดเร็วปานงูฉกเหยื่อโดยไม่เปิดโอกาสให้เขาได้ตั้งตัว มึนงงด้วยความคาดไม่ถึง ฉะนั้นกว่าจะรู้ตัว เธอก็ครอบครองปากเขาเป็นผลสำเร็จแล้ว

รสจูบเด็กสาวให้ความรู้สึกหวานซาบซ่านและสุขล้ำปนกัน มึนเมายิ่งกว่าไวน์รสเลิศ ชายหนุ่มเผยอริมฝีปากอย่างเผลอไผล เปิดโอกาสให้เด็กสาวใช้จังหวะนั้นสอดปลายลิ้นเข้ามาเกี่ยวกระหวัด พลางใช้สองมือกุมข้างศีรษะเพื่อบังคับให้เขาแหงนหน้ารับจูบอย่างถนัดถนี่ คอเขาแหงนพาดไปกับพนักโซฟา เธอตามมาบดขยี้อย่างดุดันราวกับโกรธขึ้งเขามาแต่ชาติปางไหน เขารับรู้ได้ถึงอารมณ์ของเด็กสาวผ่านจูบที่ร้อนแรงดุดันนั่น

เขาส่งเสียงคราง กำหมัดข้างลำตัวเพื่อบังคับไม่ให้ยื่นมือออกไปสัมผัสแตะต้องตัวเธอ ริมฝีปากล่างถูกลลิษาขบกัดราวกับมันเขี้ยว เขาสะดุ้งเมื่อรับรู้ได้ถึงรสเฝื่อนของเลือดในปากตัวเอง เสี้ยววินาทีต่อมาลมหายใจพานสะดุด สติแทบขาดผึง เมื่อลลิษาสอดมือเข้าไปในกางเกง เกาะกุมทักทายแก่นกายที่กำลังครัดเคร่ง

“แม่ตัวแสบเธอจะทำอะไร” ปราณธรถามเสียงแหบห้าว

ลลิษาผละห่างเล็กน้อยเพื่อกวาดตามองทั่วใบหน้าแกร่งที่กำลังแหงนเงย สบดวงตาสีสนิมที่กำลังแปรเปลี่ยนจากความว่างเปล่ามาเป็นหิวกระหายในจังหวะที่เธอนวดคลึงไปทั่วกายแกร่ง เธอได้ยินเสียงเขากัดฟันกรอด แววตาเขาเข้มข้นไปด้วยดำฤษณา

“ทำให้พี่ปราณหมดความอดกลั้นจนอยากได้หนู” เธอตอบด้วยเสียงแหบพร่า ใบหน้าแดงก่ำ เธอต้องใช้ความกล้าแค่ไหนในการจับกายแกร่งที่มีขนาดใหญ่จนน่าตกใจ และต้องแสร้งทำเป็นว่าไม่สะทกสะท้าน ทั้งที่ภายในใจกำลังสั่นไหว โลกของเธอกำลังสั่นสะเทือน

แก่นกายกลางลำตัวเขาตอบรับคำพูดลุ่นๆ ของลลิษาจนเขารวดร้าวไปด้วยความปรารถนา

พระเจ้าช่วย...ลลิษาไม่ต่างจากลูกแมวยั่วสวาท เขาเริ่มคิดอะไรไม่ออกเมื่อเธอลูบไล้สัมผัสน้องชายเขาอย่างปลุกเร้า ร่ายมนตร์ใส่จนเขารวดร้าวไปหมด ปราณธรกะพริบตาถี่ๆ พยายามขับไล่ความมึนงงแห่งอารมณ์กำหนัด ความสามารถในการยับยั้งชั่งใจลดน้อยลงไปในทุกขณะ

“หนูชอบมัน หนูอยากชิมรสชาติมัน”

ปราณธรหลับตาลงอย่างยอกแสยงพลางคำรามราวกับเสือบาดเจ็บกับเสียงแหบพร่าเซ็กซี่นั่น เขายอมแพ้แล้ว ถ้าเขาจะต้องตกนรกหมกไหม้เพราะแตะต้องลูกสาวของลักษณาก็ช่างหัวมันเถอะ ปราณธรบอกตัวเอง เมื่อลืมตามองเด็กสาวเต็มตา แววตาจึงเต็มไปด้วยรอยมุ่งมาดปรารถนา เขาจ้องใบหน้าสะสวยที่กำลังจ้องมองมาด้วยแววตาอบอุ่น ฉายรอยรักใคร่ไม่ปิดบัง

สวรรค์ช่วย...เธอสวยเหลือเกิน ลลิษาไม่ต่างจากภาพวาดมีชีวิต เธอสวยราวกับนางฟ้านางสวรรค์ เขาเลื่อนมือไปเกาะกุมแก้มข้างหนึ่ง จ้องไปในนัยน์ตาเธอราวกับละเมอ โดยมีลลิษาจ้องตอบราวกับตกอยู่ในภวังค์ไม่ต่างกัน

ปราณธรดื่มด่ำกับใบหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราแล้วเป็นฝ่ายรุก เขายืดตัวนั่งหลังตรง ยื่นหน้าไปจูบเธอ เด็กสาวเผยอเรียวปากให้เขาสอดปลายลิ้นเข้าไปในโพรงปากอย่างเต็มใจ

ปราณธรสำรวจทั่วปากนุ่มก่อนเกี่ยวกระหวัดปลายลิ้นเล็กๆ ได้ยินเสียงหอบหายใจกระชั้น เขาใช้ปลายลิ้นไล้ไปทั่วไรฟัน หยอกล้อและหลอกล่อจนลิ้นเล็กๆ ตามเข้ามาในปาก ดูดกลืนลิ้มรสชาติความทะเล้นจากปลายลิ้นเล็กๆ ก่อนเลื่อนใบหน้าไปคลุกเคล้าทั่วใบหน้าจิ้มลิ้ม ไล่ตั้งแต่เปลือกตา จมูกโด่งปลายงอน แก้มนวลทั้งสองข้าง ระเรื่อยไปยังปลายคางที่มีรอยบุ๋มเซ็กซี่ เขาฝังจูบนิ่งนานที่ซอกคอหอมกรุ่นโดยมีเด็กสาวแหงนหน้าให้ความร่วมมือ สองมือสัมผัสลูบไล้ไปทั่วกายนุ่มผ่านชุดเอี๊ยม เนื้อตัวเด็กสาวสั่นระริกราวกับลูกนกผลัดขน ถึงตอนนี้เธอหยุดการเคลื่อนไหวบนเนื้อตัวเขา เปลี่ยนมายึดหัวไหล่เขา เล็บคมๆ จิกลงมาบนบ่า อากัปกิริยาเด็กสาวเป็นสิ่งแปลกใหม่ไม่คุ้นชินสำหรับเขา ด้วยว่าเธอสั่นสะท้านทั่วสรรพางค์ เขาแตะต้องส่วนไหน เนื้อตัวส่วนนั้นดูจะสั่นระริก อ่อนระทวยราวกับขี้ผึ้งถูกไฟลน

อย่างว่าเขาไม่เคยมีประสบการณ์กับเด็กสาวไร้เดียงสาที่อายุอ่อนคราวลูกมาก่อน ความเยาว์วัย ความอ่อนไหว และไวต่อทุกสัมผัสแบบนี้จึงเป็นสิ่งแปลกใหม่สำหรับเขา

เขาเลื่อนมือไปแกะกระดุมชุดเอี๊ยมด้านหน้า ตวัดสายเอี๊ยมไปด้านหลัง เอี๊ยมหล่นลงมากองที่เอว เขาจ้องภาพตรงหน้าด้วยแววตาเข้มข้นด้วยแรงแห่งดำฤษณา ยอดอกหลังบราเซียร์ดันเสื้อยืดเนื้อบางที่รัดรึงจนเห็นความกลมกลึงของทรวงอกอวบอิ่มชัดเจน เขาอยากฝังจูบไปบนอกนั่น อยากทำอย่างที่ใจปรารถนานับแต่เจอเธอครั้งแรกเมื่อหลายวันก่อน ปราณธรรั้งชายเสื้อยืดแล้วถอดออกทางศีรษะโดยมีเด็กสาวยืดแขนให้ความร่วมมือ เขาโยนเสื้อยืดลงบนโซฟาข้างตัว เอื้อมมือไปปลดตะขอบราเซียร์ ตลอดเวลาสายตาไม่คลาดจากวงหน้างามที่แดงระเรื่อจากความขัดเขิน กระนั้นเธอก็ช่วยรูดสายบราเซียร์ออกจากแขนให้เขา

“สวยเหลือเกิน” ปราณธรเลื่อนสายตามาจับจ้องทรวงอกงาม ลมหายใจขาดเป็นห้วงๆ อุทานราวกับละเมอพลางจ้องนวลเนื้อขาวผ่องอมเลือดฝาดที่กำลังเปลือยอวดสายตา ทั้งที่เคยเห็นมาแล้ว กระนั้นไม่อาจทำให้เขาหายตกตะลึงได้

ทรวงอกอวบอิ่มกลมกลึงและคล้อยนิดๆ ด้วยน้ำหนักที่หนักอึ้ง ยอดอกสีทับทิมผลิขยายราวกับมีชีวิต เขายกเอวขึ้นสูงจนยอดอกอยู่ในระดับสายตา เอี๊ยมหลุดลุ่ยลงมากองอยู่ที่หน้าขา เด็กสาวหวีดร้อง เกาะบ่าเขาแน่น

“นั่งคุกเข่าบนขาฉัน” ปราณธรบอกเสียงนุ่ม ยิ้มใส่ตาเด็กสาวเมื่อเห็นแววเคอะเขินระคนหวาดหวั่นในดวงตาสีนิล เขารอจนเธอนั่งเรียบร้อยแล้วจึงคลายน้ำหนักมือ แต่ยังกุมเอวหลวมๆ เพื่อช่วยประคอง ฝ่ามือข้างหนึ่งลูบไล้ไปทั่วเอวบางคอดกิ่วระเรื่อยไปยังแผ่นหลังเปลือยจดสะโพกผายกลมกลึง เขาสอดปลายนิ้วเข้าไปในกางเกงในเพื่อบีบกระชับแก้มก้น เขาชอบผิวเธอ มันนุ่มเนียนมือและอบอุ่นราวกับผ้าไหมกลางแดดอ่อนๆ แล้วเอวเธอก็เล็กบอบบางจนเขาแทบโอบได้มิด

ปราณธรไล้ปลายนิ้วจากหน้าท้องแบนราบขึ้นมาวนรอบทรวงอกอูม เด็กสาวคู้ตัว ผงะถอยหลังราวกับจะหนีสัมผัส เขาจึงดึงมือกลับ เลื่อนสายตาขึ้นสบตาเธอ

“อยากให้ฉันหยุดไหม”

“มะ...ไม่ หนูแค่ตกใจ” ลลิษาปฏิเสธเสียงผะแผ่วแหบพร่า ได้แต่มองคางเขาเมื่อจับมือเขามาวางบนหน้าอกตามเดิม กดมือหนาให้เกาะกุมทรวงอกตัวเอง

ปราณธรอึ้งกับกิริยาเชิญชวนนั้น เธอส่งภาษากายชัดเจน

“ร่างนี้เป็นของพี่ หนูเป็นของพี่ พี่จะทำอะไรกับหนูก็ได้”

ลลิษาบอกด้วยน้ำเสียงแผ่วต่ำแทบไม่ได้ยินจนเขาต้องเงี่ยหูฟัง ปราณธรกำลังแพ้ทางเด็ก นึกสงสัยว่าหรือนี่คือเสน่ห์ของสาววัยกำดัด เธอใสซื่อ ตรงไปตรงมา และซื่อสัตย์กับความรู้สึกตัวเอง นับวันเขายิ่งหลงรักร่างขาวๆ เล็กๆ บอบบางนี่

ปราณธรยื่นหน้าไปจูบริมฝีปากนุ่มดูดดื่มขณะที่มือบีบเคล้นทรวงอกงาม ไม่ต้องอาศัยการนำทางของเด็กสาวอีกต่อไป เขาหยอกล้อกับยอดปทุมถันจนรู้สึกได้ถึงอาการขนลุกชันและยอดอกที่แข็งเป็นไตภายใต้ฝ่ามือ

“สัญญาว่าฉันจะอ่อนโยนกับเธอให้มาก แล้วก็จะให้ความสุขแก่เธอให้สมกับที่เธอมอบตัวเองให้ฉัน” ปราณธรบอกด้วยเสียงนุ่มนวลชิดริมฝีปากนุ่ม เขาให้สัญญากับตัวเองว่าจะปรนเปรอเด็กสาว จะทำให้เธอสุขสมจนลืมเลือนผู้ชายทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิต

ชายหนุ่มเลื่อนใบหน้าฝังจูบซอกคอหอมกรุ่น สองมือโอบประคองสองเต้าให้เบียดชิดกันก่อนฝังหน้าคลุกเคล้าอย่างที่ใจปรารถนา เขาและเล็ม ขบเม้มและดูดกลืนสลับกันไปมาทั้งสองข้าง ลลิษาให้รสชาติหวานล้ำยิ่งกว่าผู้หญิงทุกคน เขาสามารถดื่มกินได้ไม่รู้เบื่อ เหลือเชื่อว่าเด็กอายุเฉียดสิบแปดจะเป็นเจ้าของเรือนร่างที่แสนเซ็กซี่เย้ายวนใจนี้

ลลิษาสั่นระริก เนื้อตัวอ่อนระทวยทิ้งน้ำหนักตัวลงมาที่เขาทั้งตัว เขาโอบประคองเอวบางเพื่อไม่ให้เธอซวนเซ ยังคงชิมนวลเนื้ออย่างใจเย็น เขาไม่อยากให้เธอตื่นกลัว ถึงเธอจะเคยผ่านมือชาย แต่เขาเชื่อว่าน่าจะเป็นเพื่อนวัยเดียวกันที่ยังอ่อนประสบการณ์ ซึ่งไม่น่าจะสร้างความประทับใจให้เธอได้มากนัก เขาอยากสร้างความแปลกใหม่ให้เธอ

แม้จะบอกตัวเองอย่างนั้น กระนั้นรสโอชะที่อยู่ตรงหน้าก็ทำให้เขายากจะสะกดใจได้ นวลเนื้อแห่งวัยกำดัดให้ความรู้สึกหอมหวานน่าลุ่มหลงด้วยว่าทั้งหอมกรุ่นและหวานล้ำ ฉะนั้นอากัปกิริยาที่เริ่มต้นจากนุ่มนวลอ่อนโยนจึงแปรเปลี่ยนเป็นหนักหน่วง หิวกระหาย ไม่ต่างจากคนตายอดตายอยาก ปราณธรดูดกลืนทรวงอกงามหนักหน่วงรุนแรงกระทั่งเด็กสาวบิดกายเร่า ร้องครางด้วยความเสียวซ่านแกมสุขสมอย่างยากจะควบคุม

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น