15

บทที่ 15


 

15

 

หลังจากกินยาหลังอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว บัวบูชาก็ช่วยประคองกฤตนัยให้นอนราบลง จัดแขนและขาของชายหนุ่มให้อยู่ในท่าที่สบายที่สุด หยิบผ้าห่มขึ้นมาคลุมถึงอก จากนั้นจึงเดินไปหยิบหนังสือในห้องทำงานมาอ่านออกเสียงตามคำสั่งของคนเจ็บขี้อ้อน อ่านได้สักระยะหนึ่งคนขี้อ้อนก็หมดฤทธิ์ หลับตาพริ้ม ลมหายใจสม่ำเสมอ

บัวบูชารอดูจนมั่นใจว่าชายหนุ่มหลับสนิทแล้วจริงๆ จึงขยับตัวลุกออกมาจากห้อง ที่ต้องรอให้เขาหลับสนิทก่อนนั้นเพราะคนป่วยจอมเผด็จการสั่งไว้ว่าอยากเห็นหน้าพยาบาลส่วนตัวตลอดเวลา ดังนั้นเธอจะออกไปไหนได้ก็ต่อเมื่อเขาหลับแล้วเท่านั้น

บัวบูชาเดินออกไปยังห้องรับรอง ซึ่งกฤตนัยบอกว่าคุณน้ำเพชรจัดไว้ให้เธอพักระหว่างอยู่ในบ้านหลังนี้ เมื่อเปิดประตูห้องรับรองเข้าไปก็พบว่าเจ้าสัวก้องภพ คุณน้ำเพชร คุณรอง คุณกลาง และคุณเล็กนั่งอยู่บนโซฟาในห้องก่อนแล้ว บัวบูชาจึงค่อยๆ เดินเข้าไปนั่งกับพื้นข้างๆ คุณน้ำเพชร ยังผลให้ตาห้าคู่ของคนในห้องทอดมองกิริยานั้นด้วยความชื่นชม

“ไอ้เสือหลับแล้วหรือหนู” ท่านเจ้าสัวเอ่ยถามอย่างใจดี

“เพิ่งหลับค่ะคุณท่าน” บัวบูชาตอบอย่างนอบน้อม

“เอาอีกแล้วนะหนูบัว นี่คุณพ่อค่ะ เรียกใหม่สิคะ” คุณน้ำเพชรแย้ง

บัวบูชาเงยหน้ามองเจ้าสัวก้องภพก็พบว่าท่านกำลังยิ้มให้ เธอจึงยิ้มตอบอย่างอ่อนหวาน

“ค่ะคุณพ่อ” บัวบูชาทำตามอย่างว่าง่าย

“แล้วนี่ก็พี่รอง พี่กลาง พี่เล็ก ห้ามเรียกคุณอีกนะครับ” คุณรองพูดต่อ

บัวบูชาเงยหน้าขึ้นสบตาทุกคนด้วยรอยยิ้มหวานพร้อมกับพยักหน้ารับช้าๆ “ค่ะพี่รอง พี่กลาง พี่เล็ก”

“ดีมากครับ” สามหนุ่มเอ่ยขึ้นพร้อมกัน

ถือว่าได้กำไรสองต่อ นอกจากจะได้ว่าที่พี่สะใภ้แล้ว สามเสือยังได้น้องสาวที่น่ารักอ่อนหวานพ่วงมาด้วย

“ช่วงที่ดูแลพี่ใหญ่ หนูบัวมาพักที่ห้องนี้นะลูก แม่จะให้แววขึ้นมานอนเป็นเพื่อน”

“แล้วมีอะไรก็อย่าเก็บไว้คนเดียว ถ้าหากไม่กล้าคุยกับเจ้าใหญ่ ก็ให้มาคุยกับพ่อกับแม่ได้ ให้คิดเสียว่าพ่อกับแม่คือพ่อและแม่ของหนูอีกคน” ท่านเจ้าสัวพูดกับว่าที่ลูกสะใภ้ด้วยน้ำเสียงอบอุ่น

บัวบูชาน้ำตาคลอเมื่อได้รับการต้อนรับที่อบอุ่นเช่นนี้ หญิงสาวขยับท่านั่งให้เป็นนั่งพับเพียบ จากนั้นจึงก้มลงกราบที่เท้าของเจ้าสัวก้องภพและคุณน้ำเพชรอย่างนอบน้อม สองผู้อาวุโสก้มลงลูบผมบัวบูชาเบาๆ จากนั้นเธอจึงค่อยๆ ยืดตัวขึ้นก่อนที่จะกล่าวขอบคุณทั้งสองท่านอีกครั้ง จากนั้นจึงหันไปยิ้มหวานให้สามหนุ่มที่กำลังนั่งมองเธออยู่

ก๊อก ก๊อก ก๊อก เสียงเคาะประตูห้องรับรองดังขึ้น

แววเดินหอบที่นอนปิกนิกเข้ามาเพื่อเตรียมนอนเป็นเพื่อนบัวบูชา เธอเดินค้อมตัวไปจัดของและวางที่นอนลงบนพื้นห้อง

“พี่แววนอนด้วยกันบนเตียงเถอะนะคะ เตียงออกจะกว้าง” บัวบูชาร้องทัก

“อุ้ย ไม่ได้หรอกค่ะ แววนอนกับพื้นนี่แหละดีแล้ว คุณใบบัวไม่ต้องกังวลนะคะ แววอยู่ง่ายกินง่าย”

“ตามใจแววเขาเถอะลูก แม่คนนี้ก็เป็นแบบนี้แหละจ้ะ ขี้เกรงใจ” คุณน้ำเพชรบอกว่าที่สะใภ้

“แม่ว่าหนูรีบไปอาบน้ำอาบท่าดีกว่านะลูก เดี๋ยวพี่ใหญ่ตื่นมาไม่เจอจะเป็นเรื่อง เสื้อผ้าของใช้แม่ให้แววจัดใส่ตู้ไว้หมดแล้ว ป้ะทุกคนออกไปได้แล้ว ให้หนูบัวได้พักบ้าง” คุณน้ำเพชรพูดจบก็พยักหน้าเรียกท่านเจ้าสัวและบุตรชายให้ลุกขึ้นเดินตาม

...

“พี่แววคะ เดี๋ยวบัวลงไปเอาน้ำเต้าหู้ให้พี่ใหญ่ก่อนนะคะ พี่แววนอนก่อนได้เลยนะ” เมื่ออาบน้ำแต่งตัวเรียบร้อยแล้ว บัวบูชาจึงเดินออกมาบอกแวว

“เดี๋ยวแววลงไปเอาให้ดีกว่าค่ะ คุณใบบัวรีบไปดูคุณใหญ่เถอะนะคะ” พูดจบแววก็เดินออกจากห้องไปทันที

บัวบูชาจึงเดินกลับเข้าไปในห้องของกฤตนัย เธอย่องอย่างเบาเสียงที่สุด ด้วยเกรงว่าจะเป็นการรบกวนการนอนของคนเจ็บ แต่เมื่อเดินเข้ามาถึงในส่วนของห้องนอนกลับพบว่าคนเจ็บกำลังนอนลืมตา หน้างอเป็นปลาทูแม่กลองอยู่บนเตียง

“ไปไหนมา โทร. หาก็ไม่รับ” คนตัวโตตัดพ้อ

บัวบูชาคลี่ยิ้มน้อยๆ ให้คนป่วยที่แสนจะเอาแต่ใจ จากนั้นจึงเดินไปนั่งที่ขอบเตียง จัดผ้าห่มและแขนขาคนเจ็บให้เข้าที่

“ตื่นนานหรือยังคะ พอดีบัวไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้ามาค่ะ ส่วนมือถือบัวปิดเสียงไว้เลยไม่ได้ยิน ขอโทษด้วยนะคะที่มาช้า” บัวบูชาเอ่ยตอบด้วยเสียงที่แสนหวานและใจเย็น คนขี้งอนก็ยังทำหน้าตาบึ้งตึงไม่หาย

“คราวหลังมาอาบที่นี่นะครับ พี่ไม่อยากอยู่คนเดียว”

บัวบูชาอมยิ้มน้อยๆ พร้อมกับพยักหน้ารับคำ

“พี่กลางบอกว่าให้เช็ดตัวให้พี่ใหญ่ เดี๋ยวบัวไปเตรียมอุปกรณ์ก่อนนะคะ” หญิงสาวเดินหยิบของต่างๆ ในห้อง โดยมีสายตาของเจ้าของห้องมองตามด้วยรอยยิ้ม

แววเดินเข้ามาในห้องพร้อมแก้วน้ำเต้าหู้ หยุดมองอาการโลกสีชมพูของเจ้านายอยู่ที่หน้าประตู รอยยิ้มของกฤตนัยบ่งบอกได้เป็นอย่างดีว่าตอนนี้เขามีความสุขมากเพียงใด มากจนกระทั่งไม่สนใจจะมองมาทางเธอแม้แต่น้อย

“พี่แวว มาแล้วหรือคะ” บัวบูชาส่งเสียงทักทาย และนั่นก็ทำให้คนที่อยู่ในโลกสีชมพูหันไปมองตาม

“อ้าว แวว มานานแล้วเหรอ แล้วนั่นอะไร” กฤตนัยร้องทัก

“มานานแล้วค่ะ นานพอที่จะเห็นว่าคุณใหญ่นอนอมยิ้มอยู่คนเดียว ส่วนนี่น้ำเต้าหู้ คุณใบบัวต้มไว้ให้ค่ะ” แววตอบยิ้มๆ

“อืม งั้นเอามานี่ แล้วก็ฝากแววเอาไปให้เจ้ารอง เจ้ากลาง เจ้าเล็กด้วยนะ บอกว่าคุณใบบัวทำให้ดื่มก่อนนอน เสร็จแล้วก็ไปเอาเครื่องนอนมาไว้ที่นี่ เพราะว่าคืนนี้คุณใบบัวจะนอนที่ห้องนี้กับฉัน” คนสั่งก็สั่งไป สองสาวที่ต้องรับคำสั่งก็ลอบมองหน้ากันเลิ่กลั่ก

“พี่ใหญ่คะ เดี๋ยวบัวจะเช็ดตัวให้ แล้วก็จะรอให้พี่ใหญ่หลับก่อน แล้วบัวค่อยไปนอนที่ห้องรับรองนะคะ”

“ไม่เอาครับ เกิดว่าดึกๆ พี่ตื่นขึ้นมาแล้วไม่เจอน้องบัว พี่จะทำยังไง”

บางทีคุณใหญ่ก็หวานไป หวานจนทำให้แววซึ่งเป็นบุคคลที่สามคิดว่าตัวเองไม่ควรอยู่ในห้องตอนนี้ ตอนที่เจ้านายของเธอกำลังอ้อนสาว

คิดได้ดังนั้นแววจึงรีบเดินออกไปปฏิบัติการตักน้ำเต้าหู้และเคลื่อนย้ายเครื่องนอน ส่วนบัวบูชาก็ได้แต่ส่ายหน้าเบาๆ อย่างระอาความเอาแต่ใจของคนเจ็บกิตติมศักดิ์

“พี่ใหญ่ดื่มน้ำเต้าหู้ก่อนนะคะ เดี๋ยวเช็ดตัวเสร็จจะได้แปรงฟันทีเดียว”

“ครับ” ว่าพลางรับแก้วน้ำเต้าหู้ขึ้นมาดื่มอย่างว่าง่าย

บัวบูชาเดินไปรินน้ำเปล่ามาเตรียมไว้ให้เขาสำหรับล้างปาก จากนั้นจึงเริ่มลงมือเช็ดตัวอย่างเบามือ เธอค่อยๆ ขยับตัวคนป่วยอย่างทะนุถนอม ทั้งที่อายแสนอายที่ต้องสัมผัสหน้าอกเปลือยเปล่าของเขาแบบนี้ แต่เธอยังคงทำหน้าที่ของตัวเองต่อไปด้วยการหลับตาบ้าง ลืมตาบ้าง จนคนป่วยต้องอมยิ้มตาม

พยาบาลจำเป็นเริ่มเช็ดจากใบหน้า ลำคอ ลำตัว แขน ขา แล้วทาแป้งเด็ก จากนั้นเอาเสื้อตัวใหม่มาเปลี่ยน และให้คนเจ็บเปลี่ยนกางเกงเอง เมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่เรียบร้อยแล้ว เธอจึงนำผ้าผืนเล็กมาเช็ดที่เท้าและนิ้วเท้าทุกนิ้วของเขาอย่างแผ่วเบา

กฤตนัยมองตามสิ่งที่บัวบูชาทำให้ด้วยความตื้นตันใจ แม้กระทั่งแววที่เพิ่งเดินเข้ามาในห้องพร้อมชุดเครื่องนอนก็แอบนั่งมองสิ่งที่บัวบูชาทำอย่างชื่นชมเช่นกัน

หลังจากเธอเช็ดเท้าให้เจ้านายเสร็จแล้วจึงเดินไปหยิบแปรงสีฟันพร้อมแก้วน้ำใบใหญ่มาสองใบ เพื่อให้คุณใหญ่ใช้แปรงฟันบนเตียง โดยเธอถือแก้วให้เขาบ้วนน้ำ เมื่อกฤตนัยแปรงฟันเสร็จ บัวบูชาก็ส่งน้ำยาบ้วนปากให้เขาบ้วนปากอีกครั้ง แล้วจึงยื่นแก้วใบเดิมให้บ้วนน้ำยาทิ้ง

กฤตนัยทำตามอย่างว่าง่าย เขายอมรับว่าการเจ็บตัวครั้งนี้คุ้มค่าเหลือเกิน เพราะทำให้เขารู้ว่าชีวิตหลังจากนี้จะมีผู้หญิงตัวเล็กๆ คนนี้ดูแลเขาเป็นอย่างดี

เมื่อแววช่วยเก็บอุปกรณ์ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว บัวบูชาจึงเดินไปจัดท่านอนให้กฤตนัยใหม่ เมื่อได้ท่าที่สบายที่สุดแล้วเธอจึงเอื้อมมือไปหยิบผ้าห่มมาคลุมให้เขาอย่างเช่นเคย จากนั้นจึงเดินไปปิดไฟกลางห้องให้เหลือแค่โคมไฟหัวเตียง แล้วจึงเดินกลับมานั่งที่ข้างเตียงอีกครั้ง

กฤตนัยจับมือบางขึ้นมาจุมพิตเนิ่นนานเพื่อบอกราตรีสวัสดิ์ และเอามือข้างนั้นมาวางทาบบนอกแล้วหลับตาลงอย่างสุขใจ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น