20
“บัวยังไม่รู้เลยนะว่าจะไปได้หรือเปล่า คงต้องขออนุญาตคุณใหญ่ก่อน” บัวบูชาที่กำลังนั่งปอกผลไม้หนีบโทรศัพท์คุยกับเพื่อนสนิทไปด้วย
“จะพยายามนะ คิดถึงจีน่า ฟ้าใส เพนนี แล้วก็ผกาเหมือนกัน จ้า แค่นี้ก่อนนะ บัวเตรียมของว่างให้คุณใหญ่อยู่น่ะ โอเค บาย”
“มีอะไรหรือเปล่าหนูบัว” คุณน้ำเพชรเดินเข้ามาทันได้ยินบทสนทนาพอดีจึงเอ่ยถาม
“เปล่าค่ะคุณแม่ พอดีเพื่อนโทร. มาเตือน ว่าวันนี้มีจัดปาร์ตีวันเกิด” บัวบูชาตอบอ้อมแอ้มเสียงเบา
“หนูบัวได้บอกพี่ใหญ่เขาหรือยังลูกว่าหนูมีธุระ”
“ยังเลยค่ะ ความจริงบัวก็ลืมด้วยว่างานมีคืนนี้ ยังดีที่เพื่อนโทร. มาตาม”
“งั้นก็บอกพี่เขาได้ลูก ไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ขลุกอยู่แต่ในบ้านมาเป็นเดือนๆ เบื่อแย่แล้ว” คุณน้ำเพชรลูบผมว่าที่สะใภ้ใหญ่ด้วยความเอ็นดู
บัวบูชาเงยหน้าส่งยิ้มหวานให้แล้วจึงเร่งมือเตรียมของว่างต่อ เมื่อตระเตรียมของว่างเสร็จเรียบร้อยแล้วจึงนำของวางบนถาด ให้แววและวันช่วยยกไปที่ห้องนั่งเล่นของครอบครัว
...
“วันนี้มีอะไรกินบ้างครับน้องบัว พี่หิวมากๆ เลย” คุณกลางถามขึ้นเมื่อเห็นบัวบูชาเดินเข้ามาในห้องนั่งเล่น
วันนำของว่างสำหรับท่านเจ้าสัวและคุณน้ำเพชรไปวางตรงโต๊ะกลางระหว่างเก้าอี้นอนที่ท่านนอนอ่านหนังสือกันอยู่ ส่วนแววยกของว่างชุดใหญ่ของสี่เสือไปวางตรงโต๊ะกลางของชุดโซฟา ที่ทั้งสี่กำลังนั่งเล่นเกมกันอย่างเมามัน
“วันนี้มีขนมจีบนกค่ะ เห็นพี่ใหญ่บ่นอยากทานขนมจีบไส้กุ้งมาหลายวันแล้ว พอดีนมพิศเพิ่งสั่งกุ้งมาใหม่ๆ บัวเลยขอแบ่งมาทำ ผลไม้เป็นแตงทิเบตหวานกรอบกำลังดี ส่วนน้ำหวานวันนี้บัวทำน้ำชื่นใจค่ะ เมนูนี้บัวชอบทำให้คุณพ่อดื่มบ่อยๆ แล้วท่านก็ชอบมาก เลยอยากทำให้ทุกคนลองชิมดู”
บัวบูชาแนะนำเมนูของว่างแล้วนำเสนอน้ำชื่นใจ ซึ่งเมนูนี้เป็นเมนูที่เธอทำให้บิดาดื่มเป็นประจำ “บัวใช้น้ำตาลทรายแดงผสมกับโซดา เติมน้ำเลมอนกับน้ำเชื่อมนิดหน่อยแล้วก็เชกให้เข้ากันค่ะ”
สี่หนุ่มละมือจากการเล่นเกมแล้วมานั่งประจำที่เพื่อกินของว่างร่วมกัน
“อร่อยมากเลยค่ะ ตั้งแต่ที่น้องบัวทำไปให้กินวันที่ไปเป็นวิทยากร พี่ก็หลงรสมือของน้องบัวตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมาเลย” กฤตนัยหยอดคำหวาน จนอีกสามเสือต้องแอบก้มหน้าเบะปากอยู่เงียบๆ
“น้ำชื่นใจเนี่ยชื่นใจสมชื่อเลยครับน้องบัว ต่อไปพี่ขอรับน้ำชื่นใจทุกบ่ายเลยนะครับ” คุณรองเอ่ย
“นายก็หาแม่ครัวส่วนตัวมาทำให้สักทีสิเจ้ารอง” คุณใหญ่แนะนำ
“แต่ถ้ามีแล้วเขาไม่ได้จะมาเอาใจใส่ผมแบบที่น้องบัวเอาใจใส่พี่ใหญ่ ผมก็ขออยู่เกาะพี่สะใภ้กินไปแบบนี้ดีกว่าครับ” คุณรองไหวไหล่ตอบ
“ส่วนผมก็สนับสนุนความคิดพี่รองครับ มีน้องบัวแล้วพวกผมลอยตัว สบายไร้กังวล” เสือเล็กผู้รักสนุกแต่ไม่ผูกพันสนับสนุนแนวคิดของพี่ชายคนรอง
“แต่ว่าหนุ่มๆ ทั้งหลายคะ เข้าใจอะไรกันผิดหรือเปล่า แม่ยังต้องการสะใภ้อีกสามคนนะ จะหาเองหรือให้แม่หาให้ เลือกเอาก็แล้วกัน” คุณน้ำเพชรที่นอนฟังบุตรชายคุยกันอยู่นานจนอดรนทนไม่ไหวต้องช่วยแก้ไขความเข้าใจผิดด้วยตนเอง
“หาเองครับ” เสือรอง เสือกลาง และเสือเล็กประสานเสียงกัน
“ผมยอมหนีบวช พูดตรงนี้เลย ถ้าจะต้องลงเอยกับบรรดาลูกๆ ของเพื่อนคุณแม่” คุณเล็กกระซิบพี่ชายทั้งสาม
คุณใหญ่ คุณรอง และคุณกลางพยักหน้าเห็นด้วย
“ส่วนฉันโชคดี รอด ใช่หรือเปล่าจ๊ะใบบัวจ๋า” กฤตนัยซบศีรษะลงบนพนักโซฟาประชิดใบหน้าของบัวบูชาในระยะไม่เกินสองเซนติเมตร
“พี่ใหญ่คะ บัวมีเรื่องอยากจะขออนุญาตพี่ใหญ่ค่ะ” เมื่อสบโอกาสบัวบูชาจึงเริ่มเกริ่นเข้าเรื่อง
“ขออนุญาตอะไรครับ หากให้ได้พี่จะให้” น้ำเสียงกรุ้มกริ่มเมื่อสักครู่มลายหายไปจนหมดสิ้น เหลือทิ้งไว้แค่เพียงความน่ากลัว ที่แฝงอยู่ในคำพูดเรียบๆ นั้น
“วันนี้เป็นวันเกิดของเพนนีค่ะ บัวเลยจะขอไปร่วมงาน” บัวบูชาทอดเสียงหวาน
“วันเกิดเพนนีหรือ ฝากแฮปปีเบิร์ทเดย์ด้วยนะครับ แต่แค่โทร. ไปก็น่าจะพอนะพี่ว่า”
เสียงที่เข้มขึ้นทำให้น้องชายสามคนที่กำลังเอร็ดอร่อยกับของว่างเงยหน้าขึ้นสบตากับบัวบูชา พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ ไปให้กำลังใจ
“ใหญ่ แต่แม่ว่าใหญ่ควรให้น้องไปนะลูก” คุณน้ำเพชรพับหนังสือแล้วลุกขึ้นนั่ง มองไปยังบุตรชายคนโตที่กำลังทำหน้านิ่งไร้ซึ่งอารมณ์ใดๆ
“แต่ผมยังไม่หายดี” คุณใหญ่ยังคงมีเหตุผลของตัวเองเสมอ
“นี่ใหญ่ยังเจ็บหนักขนาดที่น้องไปไหนมาไหนบ้างไม่ได้เลยหรือ” บิดาเลิกคิ้วถาม
กฤตนัยถอนหายใจยาวพร้อมกับปรายตามองหนึ่งในสมาชิกแก๊งสาวโสดที่ตอนนี้ไม่โสดแล้ว
บัวบูชากะพริบตาปริบๆ รอฟังคำตอบอยู่ไม่ห่าง
“ครับ ไปก็ไป แต่ต้องให้พนากับเดชาไปด้วย”
“ขอบคุณค่ะ” บัวบูชาระบายยิ้มหวานพร้อมกับเกาะแขนกฤตนัยเอาไว้
คนขี้หวงออกอาการเล็กน้อย แต่ก็พ่ายแพ้ต่อแววตาและลูกอ้อนแบบนี้ทุกที กฤตนัยถอนหายใจอย่างตระหนักในความเห็นแก่ตัวของตนเอง ที่เฝ้าคิดแต่จะเก็บหญิงสาวไว้ติดตัว จนหลงลืมไปว่าเธอเองก็ยังมีสังคม มีชีวิตส่วนตัว
“พวกผมจะนั่งกันตรงโต๊ะนี้นะครับคุณใบบัว เชิญคุณใบบัวตามสบายครับ” พนา เดชา พร้อมทีมบอดีการ์ดอีกสองนายนั่งลงตรงโต๊ะใกล้ๆ กับโต๊ะห้าสาว
“ขอบคุณค่ะ บัวต้องขอโทษด้วยนะคะที่รบกวนวันหยุดพักผ่อน” บัวบูชาเอ่ยด้วยความเกรงใจ วันหยุดแท้ๆ แต่ผู้ช่วยของกฤตนัยยังต้องตามมาดูแลเธอแบบนี้ คนสนิทของสี่หนุ่มยังคงสถานะโสด และอาศัยอยู่ในบ้านพักภายในพื้นที่ของบ้านใหญ่ ถึงแม้นจะอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่เธอก็เกรงใจอยู่ดี
“ไม่เป็นไรครับคุณใบบัว มาที่นี่พวกผมรู้สึกเหมือนมาพักผ่อนมากกว่า มองไปทางไหนก็เจอแต่ของสวยๆ งามๆ” เดชาตอบพร้อมกับมองไปยังแก๊งสาวโสดที่สวมเดรสสั้นสีครีมทั้งทีม และตอนนี้กำลังเข้ามาหาบัวบูชา
“ไฮมาดาม ในที่สุดก็มานะยะหล่อน” เพนนี เจ้าของวันเกิดทักทายบัวบูชา ระหว่างนั้นทั้งห้าสาวก็สวมกอดทักทายกัน
“สุขสันต์วันเกิดนะเพนนี” บัวบูชาอวยพร
“ป้ะบัว ไปเปลี่ยนชุด ได้เวลาของเจ้าหญิงขาแดนซ์แล้ว” จีน่า ดีไซเนอร์สาวพูดพลางจูงมือบัวบูชาให้เดินตาม
“เอ่อ คุณเพนนีครับ” เดชาเอ่ยรั้งเจ้าของวันเกิดเอาไว้พลางยื่นกล่องของขวัญออกไปด้านหน้า “สุขสันต์วันเกิดนะครับ”
“ขอบคุณมากๆ ค่ะ ไม่น่าลำบากเลยนะคะ แค่ทุกคนมาวันนี้เพนนีก็ดีใจมากๆ แล้ว” เพนนีเอ่ยขอบคุณเสียงหวานพร้อมกับส่งยิ้มสวยๆ ไปให้
เดชาก้มหลบสายตาสาวสวยด้วยอาการประหม่า
เมื่อสามสาวที่เหลือเดินหันหลังกลับไปที่โต๊ะ เหล่าบอดีการ์ดถึงกับตาโตเพราะชุดที่พวกเธอสวมใส่ สี่หนุ่มสะบัดหน้าถี่ๆ และเมื่อตั้งสติได้พนาก็เริ่มนั่งบัลลังก์สอบสวนสหายรักทันที
“อะไรยังไงเดชา มีของขวัญด้วย” พนาซัก
“เปล่า ไม่มีอะไร ก็วันเกิดเพื่อนคุณใบบัว ฉันก็ให้ของขวัญตามมารยาท”
“ตามมารยาท แกไปส่งสี่สาวกลับบ้านครั้งเดียว มีมารยาทขึ้นเยอะเลยนะ”
“พูดมากว่ะ ทำหน้าที่ดูแลคุณใบบัวต่อเลย หายไปไหนแล้วเนี่ย อย่าบอกนะว่าจะไปเปลี่ยนชุดให้เหมือนกับอีกสี่สาว” เดชาสอดส่ายสายตามองหาว่าที่นายหญิง
“เฮ้ย! งานเข้าแล้วไง” ทันทีที่บัวบูชาปรากฏตัวขึ้นอีกครั้งพร้อมกับชุดทีมในคืนนี้ พนาก็ถึงกับกุมขมับ
“นายเห็นจะว่ายังไงเนี่ย” เดชาส่ายหน้า
และแล้วผู้เป็นนายของสองหนุ่มก็คล้ายกับมีญาณทิพย์ โทร. เข้ามาในจังหวะนั้นพอดี พนาและเดชาสบตากันพร้อมกับถอนหายใจยาว
“ครับนาย เรียบร้อยดีครับ มีกันห้าสาวเหมือนเดิมครับ ไม่มีใครเข้ามาวุ่นวาย” พนารายงานไปตามสาย
“อืมดี ถ่ายรูปห้าสาวให้ฉันดูหน่อยนะพนา ส่งมาบ่อยๆ ฉันจะรอดู” กฤตนัยออกคำสั่งแล้วจึงวางสายไป
พนายกสมาร์ตโฟนขึ้นมาถ่ายภาพห้าสาวแล้วกดส่งไปให้ผู้เป็นนาย
กฤตนัยกดเปิดดูทันทีที่เสียงเตือนจากสมาร์ตโฟนดังขึ้น
“อืม เรียบร้อยกันดีแฮะห้าสาว ปิดมิดชิดเลย” ท่านประธานจอมหวงอมยิ้ม
จากนั้นจึงเปิดอีกแอปพลิเคชันหนึ่งขึ้นมา เพื่อสวมบทเป็นเสือใหญ่แอบซุ่มดูไลฟ์สไตล์ของบัวบูชาผ่านโลกออนไลน์เหมือนเช่นเคย
“เฮ้ย! แต่งขนาดนี้เลย” กฤตนัยกุมขมับเมื่อเห็นภาพที่เพนนีแท็กไปที่หน้าไทม์ไลน์ของบัวบูชา ห้าสาวที่สวมเดรสสั้นคล้องคอ สีครีมด้านหน้าปิดมิดชิดนั้น ทว่าด้านหลังเปิดเปลือยแผ่นหลังจนถึงเอว
กฤตนัยพยายามข่มใจว่าสถานที่เที่ยวกลางคืนก็ต้องแต่งตัวเปรี้ยวปรี๊ดบ้างเป็นธรรมดา เพราะใครๆ ก็อยากสวยภายใต้แสงไฟสลัว บ่อยครั้งเวลาที่เขาไปนั่งฟังเพลงยังเผลอมองสาวๆ สวยๆ ด้วยความเพลิดเพลินเช่นกัน
“ไม่ได้สิ จะให้คนอื่นมามองน้องบัวได้ไง” กฤตนัยกระแทกลมหายใจ ลุกขึ้นไปเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเดินออกจากห้องนอนไปทันที
เมื่อกฤตนัยเดินไปถึงโรงรถกลับพบว่าชานนท์ มือขวาของคุณรองยืนยิ้มรอรับอยู่ก่อนแล้ว
“ชานนท์ นายจะไปไหน” กฤตนัยเอ่ยถามมือขวาของน้องชาย
“นายสั่งไว้ว่าถ้าหากคืนนี้คุณใหญ่จะออกไปข้างนอกให้ผมตามไปดูแล ผมให้คนเตรียมรถไว้แล้วครับ” ชานนท์ตอบพร้อมกับเดินนำกฤตนัยไปขึ้นรถ
“ผมว่าแล้วเชียว พี่ใหญ่ก็คือพี่ใหญ่ ไม่มีทางปล่อยน้องบัวไปไหนได้นาน” สามเสือที่แอบซุ่มกันอยู่ข้างบ้านขำจนตัวงอ
ตั้งแต่คุณเล็กเห็นภาพที่เพื่อนของบัวบูชาอัปลงในไทม์ไลน์ ก็รับรู้โดยอัตโนมัติว่าเสือใหญ่ไม่อยู่เฉยแน่ ดังนั้นจึงชวนพี่ชายอีกสองคนมานั่งนับถอยหลังส่งพี่ชายคนโตออกไปตามว่าที่พี่สะใภ้กลับบ้าน
“พนา ฉันอยู่หน้าร้าน ออกมารับด้วย” กฤตนัยต่อสายหาคนสนิททันทีที่ไปถึงร้านที่จัดงานวันเกิดของเพนนี
“ครับนาย” พนารับสาย
“นายมา ตอนนี้อยู่หน้าร้าน” พนากล่าว แล้วจึงเดินออกไปรับผู้เป็นนายที่ยืนรออยู่ด้านนอกร้านกับทีมผู้ติดตามของคุณรองอีกสองคน
ภายใต้แสงไฟที่สาดสลัว เจ้าหญิงขาแดนซ์ทั้งห้ายังคงครองบัลลังก์กันอยู่หน้าเวที โดยไม่รู้จักเหน็ดจักเหนื่อย จึงไม่มีใครได้ทันสังเกตผู้มาใหม่ที่ตอนนี้ยืนหน้านิ่งเพ่งมองสาวไม่โสดหนึ่งเดียวในกลุ่มตาไม่กะพริบ
บัวบูชาที่กำลังยืนหัวเราะคิกคักกระซิบกระซาบอยู่กับกลุ่มเพื่อนสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือปริศนาโอบไหล่ของเธอจากทางด้านหลัง
“พี่ใหญ่! มาได้ยังไงคะ” บัวบูชาทำตาโตด้วยความตกใจ
กฤตนัยอมยิ้มน้อยๆ โดยไม่ตอบคำถาม แต่เลือกที่จะจูงมือบัวบูชากลับไปนั่งที่โต๊ะ
“พอดีพี่ลืมถามว่าต้องกินยาเม็ดสีเหลืองหรือสีขาวก่อน”
เหตุผลของกฤตนัยทำให้บัวบูชาแอบอมยิ้ม “ความจริงถามพี่กลางก็ได้นี่คะ”
“ดึกแล้ว ไม่อยากกวนเจ้ากลางมัน”
“ทานสีไหนก่อนก็ได้ค่ะ เพราะเป็นยาก่อนนอนเหมือนกัน”
“อ๋อ” ท่านประธานร้องอ๋อเสียงยาว
“สวัสดีค่ะคุณพ่อ” สี่สาวโสดยกมือไหว้กฤตนัยพร้อมทั้งย่อตัวลงจนเข่าแทบแตะพื้น ส่งผลให้คนที่ถูกเรียกว่าคุณพ่อลนลานรับไหว้แทบไม่ทัน
“เอ่อ สวัสดีครับทุกคน สุขสันต์วันเกิดนะครับเพนนี คืนนี้ผมขอเป็นเจ้ามือเองนะ” คุณใหญ่ระบายยิ้มหล่อ
“ขอบพระคุณคุณพ่อ เอ๊ย คุณใหญ่มากๆ เลยนะคะ” เจ้าของวันเกิดเอ่ยขอบคุณเสียงหวาน
“ป้ะบัว ได้เวลาโยกย้ายต่อแล้ว เพลงกำลังมัน” ฟ้าใสยักคิ้ว
“เฮ้ย บัวต้องดูแลคุณพ่อ เอ๊ย คุณพี่ก่อนสิแกนี่ ไป ไป พวกเราไปทวงคืนพื้นที่ต่อ” ผกาแอบแซ็วแล้วเดินนำสาวโสดที่เหลือ ออกไปกระชับพื้นที่หน้าเวทีอีกรอบ
“สรุปว่าพี่ใหญ่ยังไม่ได้ทานยา?” บัวบูชาเลิกคิ้วถามคนตัวโต
“ครับ ไม่รู้จะเริ่มจากตรงไหน เลยรีบออกมาถามน้องบัว กลัวว่าดึกแล้วจะเผลอหลับไปก่อนที่จะได้กินยา” เหตุผลที่น่าเอ็นดู ถูกท่านประธานหยิบยกขึ้นมากล่าวอ้างหน้าตาย
“งั้นเรากลับกันดีกว่านะคะ พี่ใหญ่จะได้ทานยาก่อนนอน” บัวบูชาส่ายหน้าพร้อมยิ้มด้วยความรู้ทัน
“บัวไปบอกเพื่อนก่อนนะคะ”
เมื่อท่านประธานในร่างของเด็กชายกฤตนัยพยักหน้า บัวบูชาจึงเดินออกไปหากลุ่มเพื่อนที่หน้าเวที
“ขอโทษทีนะครับที่ต้องรีบพาน้องบัวกลับก่อน” กฤตนัยพูดกับสี่สาวโสดพลางหยิบเงินปึกหนึ่งส่งให้คนสนิท
“เดชา คืนนี้นายช่วยดูแลสาวๆ ด้วยนะ”
“ครับนาย” เดชารับคำสั่ง
“ป๋าขา ป๋าต้องคอยดูแลพวกหนูด้วยนะคะ” เพนนีเดินเข้าไปเกาะแขนเดชาพร้อมกับลอยหน้าลอยตาหยอกล้อ ‘ป๋า’ กระเป๋าหนักที่ต้องรับหน้าที่ดูแลพวกเธอในคืนนี้
“ขะ...ครับ” เดชายืนตัวเกร็ง ใบหน้าซับสีแดงฝาดขึ้นอย่างเห็นได้ชัด จนสหายสนิทอย่างพนาหรี่ตามองจับผิดเสือยิ้มยากที่ยืนแข็งเป็นหุ่นอยู่ในตอนนี้
“เอ่อ พี่ใหญ่ ปล่อยบัวก่อนนะคะ บัวจั๊กจี้” บัวบูชาพยายามบิดตัวหนีมือปลาหมึกที่ยุ่มย่ามอยู่กับแผ่นหลังของเธอไม่ห่างตั้งแต่ขึ้นรถ
“ก็ชุดนี้สวย พี่ชอบ ไปซื้อมาตอนไหน” พูดพลางลูบแผ่นหลังนวลเนียนขาวนุ่มไปพลาง
“ไม่ได้ซื้อค่ะ จีน่าออกแบบแล้วตัดมาให้” บัวบูชาตอบเสียงสั่น
“สงสัยต้องให้จีน่าออกแบบมาอีกหลายๆ ชุด เอาไว้ให้น้องบัวใส่ทำครัว”
“ใส่ทำครัว?” บัวบูชาทวนคำ
“ครับ ใส่ทำอาหารให้พี่ทาน” กฤตนัยโน้มใบหน้าลงกระซิบที่ข้างหูแม่เนื้อนุ่ม
“บ้า ใครเขาใส่ชุดแบบนี้เข้าครัวกันคะ”
“ก็น้องบัวไงครับ พี่จะได้เห็น ได้สัมผัสหลังขาวๆ เนียนๆ แบบนี้ตลอดเวลา” กระซิบเสียงแหบพร่าแนบใบหูของหญิงสาวอย่างจงใจ
“แต่บัวไม่ใส่” บัวบูชาทำหน้ามุ่ย
“ต่อไปไม่ใส่ชุดแบบนี้ออกนอกบ้านนะครับ” กฤตนัยเชยคางหญิงสาวให้เงยขึ้นสบตา
“ค่าคุณพ่อ” บัวบูชายืมสรรพนามที่เพื่อนๆ เธอเรียกกฤตนัยมาใช้
คนขี้หวงอมยิ้มน้อยๆ เมื่อได้ยินสรรพนามนั้นจากปากของเธอ
“พ่อของลูกนะ” คุณพ่อทูนหัวยักคิ้ว
“บ้า บัวไม่คุยกับพี่ใหญ่แล้ว” บัวบูชาย่นจมูก
กฤตนัยรั้งตัวหญิงสาวเข้ามาซบอกพร้อมกับกดปลายจมูกโด่งลงบนกลุ่มผมนุ่มของเธอแรงๆ ด้วยความมันเขี้ยว
กฤตนัยรู้ดีว่าบัวบูชาเข้าใจสิ่งที่เขาสื่อออกมาทั้งหมดโดยไม่ต้องบังคับ เขาเชื่อว่าคืนนี้เธอรู้ว่าเรื่องยาคือข้ออ้าง แต่เธอก็ยินยอมตามใจเขาทุกอย่าง
การที่คนสองคนคบหาดูใจกันนั้น หากต่างฝ่ายต่างก็ดึงดันที่จะทำตามแต่ความต้องการของตนเอง ไม่มีใครยอมใคร ทางเดินของชีวิตคู่คงจะมีแต่บาดแผลที่เกิดจากการกระทบกระทั่งกัน แต่คู่ของกฤตนัยและบัวบูชา เธอเลือกที่จะเป็นฝ่ายยอม การยอมของเธอไม่ได้หมายความว่าเธอแพ้ แต่การยอมของบัวบูชาทำให้กฤตนัยแพ้ต่างหาก
กฤตนัยยอมแพ้ให้ผู้หญิงที่แสนดีคนนี้ทั้งสี่ห้องหัวใจ ตอนนี้คงเหลืออีกแค่ด่านเดียวเท่านั้นที่เขาจะต้องผ่านไปให้ได้ นั่นก็คือด่านของ พ.ต.อ. พิทักษ์ อินทิรารัตน์ บิดาของบัวบูชาและแก้วกัลยา ผู้ที่ขึ้นชื่อเรื่องความหวงลูกสาวเป็นที่สุด
ความคิดเห็น |
---|