19

บทที่ 19


 

19

 

หลังจากที่ทุกคนเดินทางมาถึงโรงพยาบาลของตระกูลโภคินอภิวัฒน์ เตชินก็ได้เข้าพักรักษาตัวในห้องวีไอพี โดยมีคุณหมอทหารคนสวยเป็นผู้ดูแลอย่างใกล้ชิด

“พี่ชินทานยาแล้วนอนพักก่อนนะคะ เป็นหวัดต้องนอนพักเยอะๆ จะได้หายไวๆ ค่ะ” คุณหมอแก้วกัลยาประคองคนป่วยให้ลุกขึ้นกินยา

ใบหน้าของคนป่วยแต้มรอยยิ้มเอาไว้ตลอดเวลา ยิ้มทั้งที่ก่อนหน้านี้ไข้ขึ้นสูงเกือบ 40 องศา

“ต้นแก้ว งั้นพี่ฝากดูแลคุณชินด้วยนะ พี่คงต้องพาพี่ใหญ่กลับไปพักผ่อนแล้วละ วันนี้เดินเยอะ ไม่รู้กลับไปขาจะบวมไหม” บัวบูชาบอกน้องสาว

“ได้เลยค่ะพี่บัวขา รับรองว่าคุณหมอต้นแก้วจะดูแลคนป่วยอย่างดี” แก้วกัลยาว่าพลางยกมือขึ้นทำวันทยหัตถ์ให้พี่สาวหนึ่งที

“ถ้าคนป่วยดื้อ ไม่ยอมทานยา จัดการได้เต็มที่เลยนะครับ” กฤตนัยกำชับ

“ได้เลยค่ะ ถ้าดื้อมากๆ แก้วก็จะให้วิดพื้น 100 ที วิ่งรอบสนาม 20 รอบ รับรองว่าจะหายขาดโดยไม่ต้องพึ่งยาเลยค่ะ” แก้วกัลยาทำเสียงทะเล้น แต่ถึงจะทะเล้นแค่ไหนก็ทำให้เตชินถึงกับสะดุ้ง

“เป็นวิธีที่ดีมากครับหมอต้นแก้ว ผมว่าเราน่าจะใช้วิธีนี้รักษากันเลยดีกว่า” คุณหมอกลางรีบสนับสนุนวิธีการรักษาของคุณหมอทหารอย่างทันท่วงที

“แค็กๆๆ ไม่เป็นไรคุณกลาง ผมไม่ดื้อ ผมจะเป็นคนป่วยที่ว่านอนสอนง่ายของน้องแก้ว น้องแก้วขา อย่ารักษาพี่ด้วยวิธีแบบนั้นเลยนะ แค่นี้พี่ก็จะแย่แล้ว” คนป่วยหน้าถอดสีรีบลนลานรับปาก

ความลนลานของทนายฝีปากกล้าทำให้สี่เสือในห้องหลุดขำอาการขั้นที่หนึ่งของเตชิน จากเดิมที่อยู่สมาคมหนุ่มโสดเจ้าเสน่ห์ ตอนนี้คงต้องย้ายท่านทนายให้ไปอยู่ ‘สมาคมคนเคารพแฟน’ อย่างเป็นทางการแล้ว

“งั้นพวกฉันกลับก่อนนะชิน พักผ่อนเยอะๆ หายไวๆ” กฤตนัยโบกมือให้คนป่วย ขณะที่แก้วกัลยาก็เดินเข้ามาสวมกอดพี่สาว บัวบูชาโอบตอบพร้อมกับหอมแก้มน้องสาวทั้งซ้ายและขวา ก่อนจะเดินตามสี่เสือออกไป

“น้องแก้ว พี่หนาวจังเลยครับ”

“งั้นเดี๋ยวแก้วจะไปเบาแอร์ แล้วอีกสักพักจะเรียกพยาบาลมาเช็ดตัวให้นะคะ”

“เอ่อ พี่ไม่ชอบให้คนที่ไม่สนิทด้วยมาถูกเนื้อต้องตัว พี่เขินน่ะครับ”

“งั้นแก้วจะไปหยิบผ้ามาให้พี่ชินเช็ดเองก็แล้วกันนะคะ” แก้วกัลยาตอบอย่างคนรู้ทัน

“โห น้องแก้ว ใจร้ายจังเลย” เตชินพูดเสียงอ่อย ทำหน้าสลด

แก้วกัลยาขำออกมาเบาๆ จากนั้นเธอจึงเดินไปหยิบอุปกรณ์มาเช็ดตัว เพื่อลดระดับความร้อนของร่างกายคนป่วยอย่างเบามือ

เตชินนอนนิ่งยิ้มกริ่ม เขาเพิ่งเข้าใจตอนนี้นี่เองว่าทำไมกฤตนัยถึงไม่ยอมให้บัวบูชาห่างกายเลยตั้งแต่ขาหัก การมีใครสักคนคอยดูแลสร้างความสุขใจและอุ่นใจได้อย่างประหลาด

“เช็ดตัวเสร็จแล้ว พี่ชินนอนพักก่อนนะคะ”

“น้องแก้วอย่าทิ้งพี่ไปไหนนะครับ พี่ไม่ชอบการอยู่คนเดียวในห้องแบบนี้ แค็กๆๆ”

“ค่า แก้วจะไม่ออกไปไหนเลย แก้วสัญญา” แก้วกัลยายกมือชูสามนิ้วเพื่อทำสัญญากับคนป่วย

เตชินยิ้มกว้างตอบรับกิริยาแสนทะเล้นของคุณหมอสาว จากนั้นแก้วกัลยาจึงเดินไปดึงผ้าห่มมาคลุมตัวให้ เตชินอาศัยจังหวะนั้นคว้ามือหญิงสาวมากุมไว้ แก้วกัลยาพยายามดึงมือออก แต่มือปลาหมึกของเตชินก็เหนียวเสียจนสะบัดไม่หลุด

“ปล่อยเลยค่ะพี่ชิน” แก้วกัลยาพูดกับคนป่วยเสียงเขียวพร้อมทั้งทำหน้ามุ่ยใส่

“ไม่ปล่อย ไข้หวัดใหญ่ก็เริ่มทุเลาแล้ว แต่โรคไข้ใจของพี่ไม่รู้ว่าคุณหมอต้นแก้วพอจะช่วยรักษาได้ด้วยหรือเปล่า”

“แก้วไม่ทราบหรอกค่ะ แก้วไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญโรคหัวใจ” แก้วกัลยาก้มหน้าตอบอุบอิบ

“แต่พี่พอจะสอนได้นะครับว่าวิธีการรักษาไข้ใจเขาทำกันยังไง” เตชินพูดพลางกระชับมือคุณหมอสาวแน่นขึ้น

แก้วกัลยาแกล้งเสมองไปทางหน้าต่างแก้เขิน และเป็นการหลบสายตากรุ้มกริ่มของคนป่วยไปในตัวด้วย โดยหารู้ไม่ว่าการเสมองไปทางอื่นนั้นกลับเข้าทางคนเจ้าเล่ห์อย่างจัง เพราะเตชินอาศัยจังหวะนั้นยกตัวขึ้นหอมแก้มคุณหมอสาวฟอดใหญ่

แก้วกัลยาหันกลับมามองด้วยความตกใจ ก่อนจะยกมือขึ้นถูแก้มข้างที่เพิ่งถูกจอมโจรขโมยหอมไปเมื่อสักครู่

“พี่ชิน!” แก้วกัลยาอ้าปากค้าง

“ครับ” เตชินตอบพร้อมกับส่งสายตากรุ้มกริ่มมองสาวน้อยที่เอาแต่ยืนถูแก้มตัวเองจนเป็นรอยแดง

“แค็กๆๆ หยุดถูแก้มได้แล้วค่ะ แดงหมดแล้ว” จอมโจรขโมยหอมจับมือทั้งสองข้างของแก้วกัลยาเอาไว้

“พี่ชินรับผิดชอบเลยนะ มาหอมแก้มแก้วแบบนี้ผิดผีนะคะ” พูดไปก็หน้าแดงไปด้วยความเขิน

“ค่ะ พี่ยินดีรับผิดชอบทั้งชีวิตเลย ตกลงว่าเราเป็นแฟนกันแล้วนะ ตกลงนะคะ” เตชินพูดหน้าระรื่น ลืมอาการป่วยไข้ไปจนสิ้น

“ก็ลองไม่รับผิดชอบสิคะ แก้วจะฟ้องคุณพ่อ รับรองว่าพี่ชินได้วิ่งหลบลูกกระสุนสนุกแน่ๆ ชิ” แก้วกัลยาย่นจมูกใส่เตชินอย่างมันเขี้ยว แต่ก็คลี่ยิ้มออกมาในที่สุด

“ดงกระสุน ดงระเบิดอะไรพี่ก็ไม่กลัว ว่าไงคะ หืม ยังไม่ตอบพี่เลยว่าตกลงเป็นแฟนกับพี่นะ ถ้าไม่ตอบจะได้หอมอีกข้าง แค็กๆๆ แล้วก็จะหอมไปจนกว่าจะได้คำตอบที่พี่พอใจ” เตชินว่าพลางขยับหน้าเข้าไปใกล้

แก้วกัลยาใช้มือดันอกคนป่วยเอาไว้เต็มแรง “ไม่ตอบค่ะ แบร่” แก้วกัลยาทำหน้าทะเล้นพร้อมทั้งแลบลิ้นให้เตชินหนึ่งที

“ใช่สิ พี่มันทั้งแก่ ทั้งไม่หล่อ ไม่ล่ำเหมือนพวกหมอทหารที่แวะเวียนมาแจกขนมจีบน้องแก้ว พี่รู้นะว่านายพันอะไรนั่นส่งดอกกุหลาบมาให้แทบทุกวัน แค็กๆๆ” ในเมื่อคุยกันดีๆ แล้วไม่ฟัง งานดรามาก็มา

จุ๊บ!...

เตชินดรามาไม่ทันจบ แก้วกัลยาก็โน้มหน้าลงมาจุมพิตที่ริมฝีปากของเขาอย่างรวดเร็ว เร็วเสียจนคนป่วยถึงกับอ้าปากค้างอยู่ในภาวะช็อกอย่างกะทันหัน

“แบบนี้แทนคำตอบได้หรือเปล่าคะ” แก้วกัลยายืนจับมือตัวเองบิดไปมาอย่างขวยเขิน แต่อาการนั้นกลับดูน่ารักเหลือเกินในสายตาของท่านทนายหน้าหยก

“น้องแก้ว ที่ทำเมื่อกี้เรียกว่าอะไรคะ เขาไม่ได้เรียกว่าจูบหรอกนะ เอาเป็นว่าไว้พี่หายเป็นหวัดเมื่อไหร่ พี่จะสอนให้นะครับว่าการจูบกันเขาต้องทำยังไง” เตชินระบายยิ้มกว้าง เขาเชื่อคำโบราณที่ว่า ‘กินเด็กแล้วจะเป็นอมตะ’ สนิทใจ เพราะตอนนี้เขารู้สึกว่าตัวเองลดวัยลงได้อีกสักสิบปี

“พี่ชินลามก นอนเลยค่ะ ถ้าไม่นอนภายในห้านาทีนี้ ดิฉัน ร้อยเอกหญิง แพทย์หญิงแก้วกัลยาขอสั่งให้ทนายเตชินไปวิ่งรอบนก200 รอบ ปฏิบัติ” แก้วกัลยาออกคำสั่งเสียงดังฟังชัดจนเตชินสะดุ้งอีกรอบ วิ่งรอบนก 200 รอบ หากนกบินหนีก็ต้องวิ่งตามนกไปทั่ว และวิ่งรอบจนครบ ซึ่งอาจจะใช้เวลาอีกยาวนาน แค่คิดเตชินก็สยองแล้ว

“หา โอเคครับ หลับครับ หลับสนิทเลยจ้ะต้นแก้วจ๋า อย่าเพิ่งลงโทษพี่เลยนะ” เตชินรีบล้มตัวลงนอนอย่างว่าง่าย แล้วข่มตาหลับลงอย่างรวดเร็ว

 

เมื่อเห็นว่าคนป่วยหลับสนิทแล้ว แก้วกัลยาจึงเดินออกไปที่ระเบียงห้องเพื่อต่อสายหาบัวบูชา

“ว่าไงจ๊ะต้นแก้ว” บัวบูชารับสาย

สี่เสือที่อยู่ในรถหยุดการกระทำทุกอย่าง แล้วตั้งใจฟังบทสนทนาของสองศรีพี่น้องทันที

“พี่บัวขา พี่ชินเขา เอ่อ...” แก้วกัลยาอึกอัก กล้าๆ กลัวๆ คล้ายเด็กที่เพิ่งไปทำความผิดมา

“คุณชิน คุณชินเป็นอะไรแก้ว” บัวบูชาถามด้วยอารามตกใจเพราะเสียงสั่นเครือของน้องสาว

สี่เสือสบตากัน ก่อนที่กฤตนัยจะแตะที่ข้อมือของบัวบูชา เพื่อขอมือถือมาเปิดลำโพงรับฟังข้อความพร้อมกัน

“คือพี่ชิน เขา...เขาขอแก้วเป็นแฟน แล้วก็แอบหอมแก้มแก้วด้วยค่ะพี่บัว” แก้วกัลยาตอบอย่างรวดเร็ว

“หา!” หนึ่งสาวและอีกสี่หนุ่มหลุดเสียงตกใจออกมาพร้อมกัน เพราะพวกเขาเพิ่งแยกตัวออกมาไม่ถึง 20 นาที ท่านทนายก็เดินหน้ารุกขนาดนี้แล้ว

“อืม หรือจ๊ะ แล้วต้นแก้วตอบคุณชินไปว่ายังไงล่ะ” บัวบูชายิ้มบางๆ แล้วจึงค่อยถามต่อ

“แก้วไม่ได้ตอบค่ะ”

“อ้าว ทำไมไม่ตอบล่ะ”

“ก็แก้วตกใจแล้วก็เขินนี่คะพี่บัว ดีที่แก้วไม่ได้พกปืนมา ไม่งั้นตอนตกใจเผลอลั่นไกปืนไปคงแย่” แก้วกัลยาตอบพี่สาวเสียงเครียด แต่นั่นกลับทำให้อีกสี่เสือที่แอบฟังอยู่กลั้นขำกันจนตัวงอ ทั้งยังสะใจที่ทนายเตชินเจอของจริงเข้าแล้ว

“แล้วต้นแก้วรู้สึกยังไงกับคุณชินล่ะ”

“ก็รู้สึกดีนะคะ ไม่เคยมีใครกล้าทำแบบนี้กับแก้วมาก่อน ไม่เคยมีใครกล้าเข้าใกล้แก้ว เพราะรู้ว่าคุณพ่อดุมาก แต่พี่ชินบอกว่า ไม่กลัวดงกระสุนหรือดงระเบิดของคุณพ่อด้วยนะคะพี่บัว”

คำตอบของแก้วกัลยาทำให้กฤตนัยสะดุ้งสุดตัว เพราะถ้าหากเตชินต้องวิ่งเข้าดงกระสุน เขาเองก็คือหนึ่งในนั้นเช่นกัน

น้องชายสามคนยกมือขึ้นมาทำท่าปาดคอส่งสัญญาณอันตรายไปที่พี่ชาย

“การที่เรารู้สึกดีกับใครสักคนไม่ใช่เรื่องเสียหาย แก้วก็โตแล้ว มีงานทำ หาเงินเลี้ยงตัวเองได้ พี่ไม่ว่าหรอกถ้าหากแก้วจะมีใครสักคนเข้ามาในชีวิต แล้วคุณชินก็เป็นคนดี พี่เชื่อว่าคุณชินจะดูแลแก้วให้มีความสุขได้”

“เหมือนที่พี่บัวมีความสุขที่มีคุณใหญ่ใช่ไหมคะ” คำถามของแก้วกัลยาทำให้ใครอีกคนตั้งใจรอฟังคำตอบด้วยเช่นกัน

กฤตนัยจ้องตาบัวบูชาด้วยความอยากรู้ว่า เธอมีความสุขเช่นเดียวกับเขาหรือไม่

บัวบูชานิ่งเพื่อใช้ความคิดทบทวนเรื่องราวที่ผ่านมา

“ใช่จ้ะ ทุกๆ วันที่พี่มีพี่ใหญ่อยู่ด้วยเป็นวันที่วิเศษที่สุด พี่ถึงอยากให้แก้วได้รับรู้ถึงความรู้สึกที่แสนวิเศษนี้ด้วยตนเอง ชีวิตคนเราไม่มีอะไรแน่นอน หากสิ่งไหนที่ทำแล้วคิดว่าตัวเองและคนที่เรารักจะมีความสุข แก้วก็ควรทำ ทำวันนี้ให้ดีที่สุด โดยไม่ต้องไปกังวลถึงวันที่ยังมาไม่ถึง”

กฤตนัยรั้งไหล่บางของบัวบูชามาซบแนบอก แล้วลูบไล้ไหล่นั้นอย่างหวงแหน

“ค่ะพี่บัว แต่แก้วกลัวว่าคุณพ่อจะเสียใจ”

“คุณพ่อทำทุกอย่างก็เพราะรักเราสองคน ท่านไม่อยากให้แก้วกับพี่ต้องเสียใจถ้าหากต้องไปคบกับคนที่ไม่ดี แต่ในเมื่อวันนี้เราเจอคนที่ใช่แล้ว เราก็ต้องพร้อมที่จะเข้าไปขออนุญาตท่าน พี่เชื่อว่าคุณพ่อจะเข้าใจ แต่พี่ว่าตอนนี้ต้นแก้วกลับไปตอบคำขอของคุณชินได้แล้วละ เธอคงรอแย่แล้ว” บัวบูชาปลอบน้องสาวและให้กำลังใจตัวเองด้วยเช่นกัน เพราะการพาว่าที่เขยใหญ่เขยเล็กไปเผชิญหน้ากับคุณพ่อที่ทั้งรักทั้งหวงลูกสาวยิ่งกว่าสิ่งใดนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ เลย

“พี่ชินหลับไปแล้วค่ะ งอแงไม่ยอมนอน แก้วเลยสั่งให้ไปวิ่งรอบนก 200 รอบ ตอนนี้หลับสนิทเลย คิๆๆ” แก้วกัลยาส่งเสียงหัวเราะสดใสมาตามสาย

บัวบูชาส่ายหน้าขันความแก่นเซี้ยวของน้องสาว ส่วนอีกสี่หนุ่มก็เอาแต่กลั้นขำ จนแทบจะไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นรถ ที่ได้รู้ว่าท่านทนายเสียท่าให้คุณหมอสาวถึงเพียงนี้

“หืม ยังไม่ได้คำตอบ แต่ยอมหลับได้ด้วย ดีจริง หากเป็นใครบางคนแถวนี้คงไม่ยอมแน่ๆ” บัวบูชาพูดกับน้องสาว แต่ปรายสายตามองคนแถวนี้ที่กำลังยักคิ้วให้เธออยู่อย่างลำพองใจ

“คือความจริงแก้วไม่ได้ตอบเป็นคำพูด แต่แก้วจุ๊บปากพี่ชินไปหนึ่งทีค่ะ แค่นี้ก่อนนะคะพี่บัว พี่ชินขยับตัว น่าจะตื่นแล้ว” แก้วกัลยาตอบแล้วรีบกดวางสายทันที ก่อนที่พี่สาวจะได้พูดอะไรต่อ เพราะเธอก็เขินเต็มทีแล้วเหมือนกัน

เมื่อวางสายจากพี่สาวแก้วกัลยาก็เดินกลับเข้าไปในห้อง แล้วลากเก้าอี้มานั่งลงข้างเตียงเพื่อมองหน้าคนป่วยที่กำลังนอนหลับสนิทอยู่

“เซี้ยวจริงๆ คุณทนาย” แก้วกัลยาอมยิ้ม

            ...

ส่วนฝั่งพี่สาวและสี่เสือยังคงตกตะลึงอ้าปากค้างกับสิ่งที่แก้วกัลยาตอบ กฤตนัยสะบัดศีรษะแรงๆ ไปมาหลายครั้งก่อนก้มลงมองบัวบูชาที่ซบหน้าทำตาโตอยู่กับหน้าอกของเขา

“แซงหน้าไปอีกขั้น พี่ยังไม่เคยจุ๊บน้องบัวเลย ไอ้ชินมันแซงไปอีกแล้ว พี่ไม่ยอมนะน้องบัว” กฤตนัยว่าพลางยื่นหน้ามาใกล้ๆ

บัวบูชารีบขยับตัวออกเพื่อป้องกันตัวเองตามสัญชาตญาณลูกสาวตำรวจที่มีอยู่ในสายเลือด

“อะแฮ่ม พี่ใหญ่ครับ พวกผมยังนั่งกันอยู่ตรงนี้นะพี่ ตาจะเป็นกุ้งยิงเอาได้ เพลาๆ หน่อยครับ ก่อนที่น้องบัวจะเป็นลมเป็นแล้งไปเสียก่อน” เสือกลางพูดขึ้นท่ามกลางเสียงถอนหายใจของเสือรองและเสือเล็ก

เมื่อเห็นว่าบัวบูชานั่งตัวลีบจนแทบจะเป็นระนาบเดียวกับเบาะรถ กฤตนัยจึงรามือเลิกแกล้ง แต่ก็เอื้อมมือไปยีผมนุ่มของคนขี้อาย ที่ตอนนี้เอาแต่ก้มหน้ามองพื้นรถอย่างนึกเอ็นดู


รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น