18

บทที่ 18


18

 

สปรินเตอร์ของครอบครัวโภคินอภิวัฒน์พาร่างกายอันอ่อนล้าโรยแรงด้วยพิษไข้ของทนายประจำตระกูลมุ่งหน้าสู่โรงพยาบาลทหาร อันเป็นสถานที่ที่คนป่วยตั้งใจแน่วแน่ว่าจะไปรักษาตัวที่นั่น ยังผลให้สามเสือที่เหลือค่อนข้างเคลือบแคลงใจพอสมควร

“ทำไมพี่ชินต้องไปโรงพยาบาลทหารด้วยครับพี่ใหญ่” คุณหมอกลางเปิดบทสนทนา

“เพราะน้องต้นแก้ว น้องสาวของน้องบัวเป็นหมออยู่ที่นั่น” คุณใหญ่ไขข้อข้องใจ และคำตอบนี้เองก็ทำให้สามหนุ่มเบิกตากว้างด้วยความแปลกใจมากกว่าเดิม

“อย่าบอกนะว่าพี่ชินจะตามไปเป็นเขยบ้านเดียวกับพี่ใหญ่” คุณรองถาม

กฤตนัยพยักหน้ารับพร้อมกับหันไปโปรยยิ้มหวานให้พี่สาวคุณหมอทหารที่นั่งอมยิ้มอยู่ข้างๆ

“ใจคอพี่สองคนไม่คิดจะแยกจากกันบ้างเลยหรือครับ เรียนโรงเรียนเดียวกันตั้งแต่อนุบาลยันจบปริญญา พอมีคนรักก็ยังจะตามไปจีบสาวบ้านหลังเดียวกัน พ่อแม่คนเดียวกันอีก ผมละยอมใจพวกพี่จริงๆ” คุณเล็กยกสองมือขึ้นกุมขมับ

“ผมก็นึกว่าโรงพยาบาลของผมมีอะไรบกพร่องเสียอีก” ผู้อำนวยการโรงพยาบาลส่ายหน้าน้อยๆ พร้อมกับทอดสายตามองคนป่วยที่หลับตาพริ้มอยู่บนเบาะรถ

“บัวโทร. หาต้นแก้วแล้วนะคะ น้องเพิ่งจะออกเวร แต่ว่าเดี๋ยวจะรอเจอพวกเราก่อนค่ะ น้องจะประสานที่โรงพยาบาลไว้รอ” บัวบูชาเอ่ยบอกคนป่วย

รอยยิ้มกว้างปรากฏบนใบหน้าของเตชินทันทีที่ได้ยินชื่อ ‘ต้นแก้ว’

 

เมื่อเดินทางมาถึงโรงพยาบาล ก็พบว่าแก้วกัลยายืนรอรับคณะอยู่แล้ว คุณหมอสาวประนมมือไหว้ทุกคนอย่างนอบน้อม จากนั้นเธอจึงให้เตชินนั่งบนรถเข็นและพาเข้าไปที่ห้องตรวจ

“ผมไม่น่าพลาดให้พี่ชินเจอน้องสาวของน้องบัวก่อนเลย ไม่งั้นนะพี่ชินหมดสิทธิ์” คุณเล็กบ่นเสียดาย

“ชินมันตาถึงจริงๆ เจอครั้งเดียวก็ตามไปถึงบ้านแล้ว ร้ายกาจมาก” กฤตนัยพูดถึงเพื่อนรักด้วยน้ำเสียงขบขันเจือรอยยิ้ม

“แต่บัวว่าพี่ใหญ่น่าจะร้ายกว่าคุณชินหลายเท่าตัวนะคะ เผลอแป๊บเดียวหลอกบัวให้เข้าไปอยู่ในบ้านได้เป็นเดือน” บัวบูชาย่นจมูกเมื่อรู้ว่าที่ผ่านมาหลวมตัวไปเยอะ

“กลับตัวไม่ทันแล้วละน้องบัว จอมเผด็จการเขาวางแผนมาดี” คุณรองพูดกลั้วเสียงหัวเราะ

สี่เสือหัวเราะออกมาพร้อมกัน ยกเว้นบัวบูชาคนเดียวที่หันไปมองค้อนจอมวางแผนที่ส่งยิ้มหน้าระรื่นมาให้

            ...

ทางด้านแก้วกัลยาที่พาเตชินไปรับการตรวจ เมื่อตรวจอาการเรียบร้อยแล้ว จึงเรียกให้พี่สาวและสี่หนุ่มที่นั่งรออยู่ด้านนอกห้องตรวจเข้ามาฟังผลการตรวจพร้อมกับคนป่วย

“พี่ชินเป็นไข้หวัดใหญ่นะคะ ให้แอดมิตดูอาการก่อน แต่ว่าที่นี่เหลือแต่ห้องรวม แล้วเฝ้าไข้ได้เป็นบางเวลาตามที่โรงพยาบาลกำหนดเท่านั้น” ร้อยเอกหญิงแพทย์หญิงแก้วกัลยาแจ้งผลการตรวจ

“หา! ห้องรวม เฝ้าไข้ไม่ได้ แค็กๆๆ” คนป่วยนอนเบิกตาโตอยู่บนเตียงตรวจ

ส่วนคนมาส่งทั้งห้าขำพรวดออกมาพร้อมกันเรื่องความผิดแผนครั้งมหันต์ของท่านทนาย สู้อุตส่าห์วางแผนหวังจะมาอ้อนให้สาวเฝ้าไข้ แต่กลับจะโดนทิ้งให้อยู่คนเดียว

“แค็กๆๆ น้องแก้ว พี่ไม่อยู่คนเดียว พี่ไม่ชอบนอนโรงพยาบาลคนเดียว พี่กลัวความมืด พี่กลัวเข็ม พี่กลัวทุกอย่าง” เตชินลนลานบอกคุณหมอคนสวย

“งั้นไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลผมนะพี่ชิน จะเตรียมห้องรับรองวีไอพีพร้อมกับหาพยาบาลสาวๆ สวยๆ มาดูแลเลย” คุณหมอกลางเสนอ

“อาการของผมหนักมากนะคุณกลาง คงต้องให้หมอเท่านั้นเป็นผู้ดูแล แล้วผมก็เป็นคนไว้ใจคนยาก ผมต้องการรักษากับคนที่ผมไว้ใจได้”

เหตุผลของเตชินทำให้อีกสี่หนุ่มกลอกตามองบนเพราะความเจ้าเล่ห์ของทนายประจำตระกูลที่มีมากพอๆ กับท่านประธานบริหาร

“บัวไปดูแลคุณชินได้นะคะ พี่ใหญ่อาการเริ่มดีขึ้นมากแล้ว” บัวบูชาเสนอตัว และข้อเสนอของหญิงสาวก็ทำให้กฤตนัยกะพริบตาปริบๆ

“โอ๊ย”

คนที่เพิ่งถอดเฝือกร้องเสียงหลง บัวบูชาที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ตรงข้ามแก้วกัลยารีบลุกขึ้น แล้วประคองกฤตนัยให้นั่งลงที่เก้าอี้แทนเธอ จากนั้นจึงค่อยๆ ทรุดตัวลงนั่งด้านข้าง ลูบบริเวณที่เคยเข้าเฝือกขึ้นลงอย่างเบามือ

“เจ็บขาหรือคะ” บัวบูชาเงยหน้าทอดสายตามองคนเจ็บด้วยความเป็นกังวล

อาการกำเริบแบบกะทันหันของกฤตนัยทำให้สองคุณหมอในห้องลอบส่งยิ้มให้กัน

“พี่คงยืนนานไปหน่อย สงสัยขาจะบวมหมดแล้ว น้องบัวคงไปดูไอ้ชินไม่ได้แล้วละ พี่ยังไม่หายดี” ท่านประธานตอบเสียงจริงจัง ก่อนจะส่งสายตาเห็นใจไปให้เพื่อนรักที่ยังนอนหน้าซีดตัวซีดอยู่บนเตียง

“แกโตเป็นหมีแล้ว ดูแลตัวเองนะชิน น้องบัวต้องดูแลฉัน”

“งั้นผมจะไปเฝ้าพี่เองก็แล้วกันพี่ชิน” คุณหมอกลางเสนอ

“ไม่ได้หรอกครับ คุณกลางมีงานเยอะแยะ ไหนจะงานตรวจคนไข้ ไหนจะงานบริหารโรงพยาบาล เกิดมีงานด่วนขึ้นมาแล้วทิ้งผมไว้คนเดียว ผมคงแย่แน่ๆ แค็กๆๆๆ” พูดยังไม่ค่อยเป็นคำ แต่คนเป็นไข้หวัดก็ยังไม่ละความพยายาม

“เอ่อ เอาแบบนี้ดีไหมคะ พอดีแก้วมีเวรหยุดสองวัน แก้วไปดูแลพี่ชินให้ก็ได้ค่ะ” แก้วกัลยาที่นั่งฟังมานานเห็นสรุปกันไม่ได้สักทีจึงลองยื่นข้อเสนอดู เพราะเธอคิดว่าสมควรแก่เวลาที่คนป่วยควรจะต้องพักผ่อนแล้ว

“ดีครับ” เตชิน คุณใหญ่ คุณรอง คุณกลาง คุณเล็กประสานเสียงขึ้นพร้อมกัน

แก้วกัลยามีสีหน้างุนงงเล็กน้อย เพราะบทจะสรุปกันได้ก็ง่ายเหลือเกิน จึงขอตัวไปเก็บของ เตรียมไปเป็นคนเฝ้าไข้เจ้านายของพี่สาว

“เฮ้อ สำเร็จ” เตชินถอนหายใจยาวอย่างหมดแรง

“พี่ไปนอนตากน้ำฝนให้ป่วยใช่ไหมพี่ชิน รับสารภาพมา ผมไม่อยากจะเชื่อเลยว่าอยู่ๆ พี่จะป่วยแบบนี้” คุณรองจ้องหน้าเตชินอย่างจับผิด

“ผมไม่เหมือนไอ้ใหญ่นะคุณรองที่ชอบสร้างสถานการณ์” เตชินพาดพิงจอมวางแผนที่อยู่ในห้องอีกคน

“พี่เปล่านะคะน้องบัว พี่เล่นจริง เจ็บจริง ไม่ใช้สแตนด์อิน” กฤตนัยรีบหันไปโบกไม้โบกมือแก้ตัวกับบัวบูชาเป็นพัลวัน

“เหรอ” สี่เสียงจากคนป่วยและน้องชายดังขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน

“ไป ออกไปรอน้องแก้วแล้วเตรียมย้ายโรงพยาบาลกัน ผมไม่เข้าใจพวกพี่เลยจริงๆ ว่าทำไมถึงชอบทำอะไรให้มันยุ่งยากด้วย หมอกลาง ถ้านายว่างช่วยนัดจิตแพทย์แล้วจับพี่ใหญ่กับพี่ชินไปตรวจที” คุณรองพูดกับน้องชายคนกลาง ส่วนคุณเล็กก็พยักหน้าเห็นด้วยกับข้อสันนิษฐานของพี่ชายคนรอง

“ไว้รอแกรักใครสักคนแล้วแกจะรู้ ฉันจะคอยดูว่าแกจะเป็นแบบไหน เจ้ารอง” คุณใหญ่กล่าว จากนั้นจึงหันไปคว้ามือบางของบัวบูชาขึ้นมาประสาน แล้วยกขึ้นไปจุมพิตอย่างเต็มรัก

“พี่กลาง พอไปถึงโรงพยาบาลผมขอตรวจด้วยนะ รู้สึกว่าช่วงนี้เบาหวานจะขึ้นตา” คุณเล็กพูดพลางยักไหล่ เดินไปกอดคอพี่ชายฝาแฝด และพากันเดินไปรอที่รถ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น