0

บทนำ

บทนำ 

 

คงเป็นเรื่องปกติที่บรรยากาศช่วงห้าโมงเย็นในย่านธุรกิจแบบนี้จะเต็มไปด้วยรถยนต์ปล่อยควันพิษที่ติดจนขยับไปไหนไม่ได้ แต่มันไม่ปกติสำหรับใครบางคนที่เลือกใช้ชีวิตอยู่แถบที่เกือบเรียกได้ว่า ชานเมือง แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ได้ทำให้เมฆานรีที่ต้องเข้ามาในย่านนี้รู้สึกหวั่นไหว แม้จะไม่ชินกับรถติด แต่เธอกลับรู้สึกสบายมากที่ได้นั่งรับลม (พร้อมมลพิษ) อยู่หลังพี่วินมอ’ไซค์ เพราะทำเป็นประจำเวลาอยู่หอพักใกล้มหาวิทยาลัย

“จอด พี่จอด!” หญิงสาวสะกิดให้พี่วินมอ’ไซค์ประจำถิ่นจอดตรงทางเข้าหน้าโรงแรม มั่นใจว่าที่นี่แหละที่เธอจะได้เจอคนที่อยากเจอที่สุดในเวลานี้ แล้วยื่นแบงก์ร้อยให้พี่วินโดยไม่ลืมบอกว่าไม่ต้องทอน ก่อนวิ่งตรงไปยังประตู เธอยกมือไหว้ รปภ. ร่างท้วมสูงวัยที่เปิดประตูให้ สุดท้ายก็วิ่งไปหยุดที่หญิงสาวแสนสวยตรงจุดประชาสัมพันธ์ของโรงแรม

“สวัสดีค่ะ มีอะไรให้ช่วยคะ” หญิงสาวแสนสวยที่ริมฝีปากเคลือบลิปสติกสีแดงเอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มแสนหวาน แต่ไม่รู้ทำไมคนที่มองกลับรู้สึกว่ามันน่ากลัว

“สวัสดีค่ะ มาขอพบคุณพิธาน เศรษฐเจริญพงศ์ ค่ะ” เธอเอ่ยทันทีหลังยกมือไหว้ ขณะอยู่ในชุดนักศึกษา ใบหน้าและไรผมชื้นเหงื่อ 

“ไม่ทราบว่านัดไว้หรือเปล่าคะ” สีหน้าเป็นมิตรของประชาสัมพันธ์เริ่มเปลี่ยนไปเล็กน้อย จิกสายตาเหยียดหยามใส่นักศึกษาสาวตั้งแต่หัวจดเท้า

“ไม่ได้นัดค่ะ แต่จะมาขอพบ” 

“ถ้าไม่ได้นัด เราคงให้คุณเข้าไปพบไม่ได้ แต่ทางเราจะแจ้งเลขาฯ ของท่านไว้ให้” ประชาสัมพันธ์พูดต่อด้วยน้ำเสียงที่ต่างจากครั้งแรกโดยสิ้นเชิง แน่นอนว่าเป็นไปในทางลบ “ไม่ทราบจะให้แจ้งว่าใครมาขอพบคะ” 

“ลูกสาวบ้านท่องวัจนะค่ะ” 

เมฆานรี ท่องวัจนะ ตอบเสียงดังฟังชัดพลางจ้องประชาสัมพันธ์สาวนิ่ง แล้วหญิงสาวอีกคนก็เข้ามารับหน้าเธอแทน

“ไม่ทราบว่าลูกสาวคนไหนของบ้าน ‘ท่องวัจนะ’ คะ จะได้แจ้งให้ถูกค่ะ” คนมาใหม่ถาม 

เมฆานรีไม่รู้หรอกว่าคนตรงหน้าเป็นใคร แต่ก็ต้องบอกออกไป เผื่อจะได้พบคนที่ต้องการ

“คนเล็กค่ะ” 

หญิงสาวที่เธอเดาว่าอายุมากกว่ากว่าคนแรกและไม่น่าจะต่ำกว่าสามสิบปี ยกหูต่อสายถึงใครบางคน พูดว่าเธอมาขอพบท่านประธาน ก่อนจะพยักหน้าสองสามทีแล้ววางสายไป

“ท่านประธานติดประชุม น่าจะอีกชั่วโมงกว่าๆ ถึงจะเสร็จ ท่านคงไม่รับแขกแล้ว ฝากแจ้งว่าพรุ่งนี้ให้มาใหม่ค่ะ” เธอส่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ ทำให้นักศึกษาสาวยิ่งขมวดคิ้วเป็นปมเข้าไปใหญ่

“ไม่เป็นไรค่ะ กี่ชั่วโมงเมฆก็จะรอ วันนี้เมฆต้องเจอเขาให้ได้” เธอยืนยันหนักแน่น “เมฆขอรอที่โซฟาละกันนะคะ” 

หญิงสาวยกมือไหว้แล้วเดินไปนั่งบนโซฟาที่หันเข้าประตูลิฟต์ของแขกและผู้บริหาร โดยไม่สนใจคำทัดทานของประชาสัมพันธ์

 

หลังจากเสร็จสิ้นการประชุมที่แสนยาวนาน พิธาน เศรษฐเจริญพงศ์ ท่านประธานใหญ่ของโรงแรมก็ตรงดิ่งลงมายังชั้นล่างของโรงแรม ขณะจะก้าวออกไปก็เหลือบเห็นนักศึกษาสาวนั่งคอพับคออ่อนอยู่บนโซฟา จึงเปลี่ยนทิศทางจากประตูมาเป็นล็อบบีแทน

“คุณ เด็กคนนั้นมารอใครหรือเปล่า” พิธานทักขึ้น 

ไม่มีพนักงานคนไหนจำเสียงเขาไม่ได้ ทุกคนที่ไม่ได้ติดงานใดๆ จึงต่างกระวีกระวาดตรงดิ่งมาหาเขา แล้วทุกสายตาก็จับจ้องไปที่ ‘เด็กคนนั้น’ คนที่ประธานใหญ่หันไปมอง หลายคนส่ายหน้า ยกเว้นคนที่เดินเข้ามาใหม่จากทางด้านหลัง

“ลูกสาวคนเล็กของบ้านท่องวัจนะมารอพบคุณพิธานค่ะ” พิมฐาที่มีตำแหน่งเป็นถึงผู้บริหารและพ่วงด้วยหัวหน้าฝ่ายประชาสัมพันธ์ส่งยิ้มหวานให้ แต่สิ่งที่ได้รับจากคนเป็นนายใหญ่คือ คิ้วที่ขมวดกันจนเกือบเป็นปม

พิธานหันไปมองเด็กคนนั้นอีกครั้ง ตอนนี้เธอเอียงหน้าทับแขนตัวเองกับที่พักแขนเรียบร้อยแล้ว ตอนแรกที่เลขาฯ สาวว่าลูกสาวบ้านท่องวัจนะมาขอพบ เขาก็เข้าใจว่าเป็นสาวคนที่เขาหมายมั่นจะแต่งงานด้วย แต่พอมาเห็นว่าเป็นเด็กน้อยในชุดนักศึกษา และอายุน่าจะห่างกับเขาจนเกือบจะเป็นลูกได้ ก็นึกสงสัยว่าเด็กคนนี้มีเรื่องอะไรจะคุยกับเขา ชายหนุ่มยืนชั่งใจอยู่สักพัก ก็ตัดสินใจเดินตรงไปยังเด็กคนนั้นโดยไม่หันกลับไปมองกลุ่มคนที่ยืนอออยู่บริเวณล็อบบี

พิธานสาวเท้าเข้าไปใกล้ เขายังคงพิจารณาใบหน้าอ่อนวัยที่หลับตาพริ้ม แม้จะไม่ได้อยู่ในท่าที่สบายนัก แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะมีความสุขกับการนั่งหลับในบรรยากาศแสนจะเย็นสบายนี้ เขาค้อมตัวลงเล็กน้อยเพื่อมองหน้าเธอที่มีเค้าคล้ายคนเป็นพี่ ต่างกันตรงคิ้วดูหนาทั้งที่ไม่ได้แต่งเติม จมูกรั้น ริมฝีปากอิ่ม แลดูน่าเอ็นดูไปหมด 

ตอนนี้ชายหนุ่มอยากรู้แล้วว่าเด็กน้อยคนนี้จะมาพูดเรื่องอะไรกับเขา พิธานยิ้มกับตัวเองก่อนถอยมานั่งลงที่เก้าอี้ตัวตรงข้าม หยิบสมาร์ตโฟนมาสั่งงานรอเวลาที่จะได้ปราศรัยกับเด็กน้อยตรงหน้า จนกระทั่งเธอไหวตัว คนที่ยังนั่งจิ้มโทรศัพท์ก็เงยหน้ามอง แต่เมื่อเห็นว่าเป็นเพียงการขยับตัวเล็กน้อย เขาก็ก้มลงจ้องโทรศัพท์เช่นเดิม 

ไม่นานหญิงสาวก็กะพริบตาตื่นเพราะความเมื่อยที่แขน ก่อนจะขยี้ตา ตั้งใจว่าจะหันไปดูเวลาที่นาฬิกาแขวนผนัง แต่สายตาดันไปปะทะกับคนร่างใหญ่ นักธุรกิจหนุ่มวัยสี่สิบสองปีที่หล่อที่สุดและเท่ที่สุดในขณะนี้ แถมยังดูหนุ่มแน่นคนนั้นกำลังเอานิ้วจิ้มๆ โทรศัพท์ไม่เลิก

‘มุมนี้โคตรเท่เลย’

เมฆานรีบอกตัวเอง แต่แล้วก็ต้องส่ายหน้าน้อยๆ เพราะคิดได้ว่าเธอมาหาเขาเพื่ออะไร เธอรีบเด้งตัวขึ้นเมื่อเห็นดวงตาเข้มดุที่จ้องมายังเธอ

“โอ๊ะ สวัสดีค่ะ” ทันทีที่ลุกขึ้นยืนเธอก็ยกมือไหว้ทักทายเขาทันที

พิธานมองเธอตั้งแต่หัวจดเท้าด้วยแววตาดุๆ เขามั่นใจว่าเขาเห็นความกล้าที่เต็มเปี่ยมของคนตรงหน้าก่อนมันจะลดลงจนเธอตัวสั่นน้อยๆ แต่ก็อดชื่นชมไม่ได้ ที่เจ้าตัวยังควบคุมความสั่นด้วยการสูดหายใจเล็กน้อยแล้วรีบพูดสิ่งที่ต้องการว่า

“มีเรื่องอยากจะคุยด้วยค่ะ” เมฆานรีพูดออกไปแล้วก็พยายามนึกถึงข้อดีของเขาที่เธอไปแอบสืบมาเพื่อช่วยบรรเทาอาการตื่นกลัวของเธอในตอนนี้ 

พิธานไม่ได้เอ่ยอะไร นอกจากขมวดคิ้วอย่างรอฟัง

“เรื่องส่วนตัวค่ะ” เมฆานรีพูดเสียงเบาลง พร้อมกับหันซ้ายแลขวาก่อนจะหันมามองเขา

“เรื่องส่วนตัว เรื่องอะไร” พิธานถามด้วยคิ้วที่ยังคงขมวด

“คุยตรงนี้ได้จริงๆ หรือคะ” เมฆานรีถามกลับ เมื่อเห็นเขาพยักหน้า หญิงสาวก็ไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอย เธอโน้มตัวไปใกล้เขาแล้วเอ่ยเสียงเบากว่าตอนแรก ส่งผลให้ชายหนุ่มที่นั่งอยู่ลุกขึ้นยืน และเธอก็รีบยืนขึ้นเช่นกัน

“เรื่องแต่งงานของคุณกับพี่สาวของหนูค่ะ” 

“ถ้าเป็นเรื่องนั้น ฉันคงไม่มีเวลาจะคุยกับเธอแล้ว กลับไปก่อนเถอะ” ชายหนุ่มกล่าวตรงๆ เพราะเรื่องนี้ไม่ควรพูดที่นี่อย่างที่เธอว่าจริงๆ

“แต่หนูมีข้อเสนอ อยากให้คุณพิธานฟังก่อน” 

“มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ เด็กอย่างเธอไม่ควรยุ่ง” พิธานพูดเสียงเข้มขึ้น ก่อนจะหมุนตัวไปทางประตู 

เมฆานรีเห็นดังนั้นก็รีบหยิบของเดินตามเขาไป

“เกี่ยวสิคะ ก็มันเป็นเรื่องของคนในบ้าน อีกอย่างหนูก็โตแล้ว จะเรียนจบแล้ว และกำลังจะเป็นผู้ใหญ่ด้วยค่ะ” หญิงสาวซอยเท้าถี่ๆ เพื่อจะเดินทันคนตัวใหญ่ที่ก้าวไปอย่างเร็วและไม่รอเธอเลย แต่ในเมื่อทำอย่างไรก็ไม่ทัน เธอจึงรีบตะโกนสุดเสียง พอดีกับที่ประตูรถปิดลง แล้วรถคันใหญ่ก็เคลื่อนออกไปทันที

“หนูจะมาทุกวัน จนกว่าคุณจะรับฟังข้อเสนอของหนู!” 

ในที่สุดเมฆานรีก็ไปหยุดอยู่ตรงจุดที่รถคันใหญ่ของท่านประธานเคยจอด เธอมองตามไฟท้ายรถคันนั้นที่เคลื่อนออกไปจนลับตาแล้วถอนหายใจดังๆ ก่อนจะแหงนหน้ามองฟ้า พบกับตัวอาคารของโรงแรมหรูที่อยู่สูงคู่ฟ้า 

เมฆานรีพิจารณาตึกนั้นก่อนชื่อของเจ้าของมันจะผุดขึ้นในหัว ความทรงจำของเธอย้อนไปในวันที่ทำให้เธอต้องกล้าเข้ามาตกลงกับ ‘เขา’ ในเรื่อง ‘การแต่งงาน’

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น