10

บทที่ 10



บทที่ 10

 

หญิงสาวร่างเล็กในชุดนักศึกษาพยายามจ้ำเท้าหนีการก่อกวนของใครบางคนที่เอาแต่เดินตามเธอไม่หยุด หลังจากที่เธอเช็กอินสถานที่ปัจจุบันลงในโซเชียลเน็ตเวิร์ก

รองเท้าส้นสูงที่ดูจะไม่อำนวยนักในการหลบหนีทำให้เธอเดินช้าลงเรื่อยๆ จนในที่สุดก็ถูกดึงข้อศอกไว้จากด้านหลัง แล้วโดนลากเข้าไปหลังประตูหนีไฟของห้างสรรพสินค้า หญิงสาวตวาดแหวทันทีที่ถูกชายตรงหน้าถูกเนื้อต้องตัว

“ปล่อย! พี่ต่อจะตามแพรทำไมนักหนา” ไม่ว่าจะสะบัดตัวหนีแค่ไหนเธอก็ดิ้นไม่หลุด เพราะพละกำลังที่แตกต่างกันเกินไป

“แล้วทำไมแพรต้องหนีพี่ด้วย”

“แพรไม่ได้หนี!”

“โทร. ไปไม่รับ เลิกคลาสก็หนีกลับ ยังไม่รวมที่ให้เพื่อนหลอกพี่ว่าป่วย ไม่ได้มาเรียนบ่อยๆ อีก นี่ไม่หนีจะเรียกว่าอะไร”

“ก็เรียกว่ารำคาญไง ตามติดอยู่ได้ หนี้บ่อนในส่วนของแพร แพรก็ใช้ไปหมดแล้ว พี่ต่อจะเอาอะไรอีก”

“พี่ต้องการส่วนแบ่งเพิ่ม”

“ส่วนแบ่งเพิ่มบ้าบออะไร แพรก็ให้พี่ไปตั้งเยอะแล้ว”

“หนี้บ่อนแค่สองแสน เธอหลอกเกลมาได้ตั้งสี่แสน พี่ได้แค่ห้าหมื่น ไม่คิดว่ามันน้อยเกินไปบ้างเหรอ”

“ไม่มีแล้ว! หมดแล้ว ที่เหลืออยู่ไม่พอไถ่รถคืนด้วยซ้ำ” หนี้บ่อนสองแสนก็จริง แต่ก็ยังไม่ได้รวมกับเงินที่เอารถไปจำนำไว้ แต่ช่วงแรกที่ได้เงินมาเธอดันใช้แบบมือเติบ จนเงินที่เหลือยังไม่พอไปไถ่ถอนรถ

“งั้นก็ไปหามาใหม่ คราวนี้เราจะหลอกมันว่าอะไรดีนะ ให้ฉันบอกบทให้อย่างคราวที่แล้วอีกไหม”

“พี่ต่อเลิกพูดเรื่องนี้ได้แล้ว ยิ่งฟังพี่พูดฉันยิ่งขยะแขยง”

“คนที่โทร. ไปหลอกแฟนตัวเองแล้วแกล้งทำท่าจะฆ่าตัวตายตอนที่เพิ่งนั่งขย่มบนตัวฉันจนเสร็จได้ ก็ไม่มีใครน่าขยะแขยงเท่าเธอแล้วละ แพรไหม” มือหนาเกลี่ยใบหน้าหวานพลางยิ้มยั่ว ก่อนจะพูดจาแทงใจดำหญิงสาวไม่หยุด

“ไอ้ชั่ว!”

“ทำไม ทนฟังเรื่องจริงไม่ได้เหรอคุณหนูแพร กับแฟนคบกันมาตั้งหลายปี มันไม่เคยได้แตะ แต่กับกู เจอกันแค่คืนเดียวก็นอนอ้าให้เอาไปถึงไหนต่อไหน ไม่คิดเหรอว่าเราเหมาะสมกันมากยาหยี”

เผียะ!

แพรไหมโกรธจนตัวสั่น ง้างฝ่ามือตบใบหน้ารุ่นพี่ที่เป็นอดีตเดือนคณะอย่างแรงจนรอยแดงขึ้นเป็นปื้น

“มึงกล้าตบกูเหรอ!”

“เออ!”

เผียะ! เผียะ!

“โอ๊ย!”

ฝ่ามือหยาบหนาฟาดลงบนแก้มใสไม่ยั้งแรงจนหน้าหันสองครั้งติดกัน แพรไหมได้กลิ่นสนิมคาวคละคลุ้งไปทั่วโพรงปาก แรงผู้ชายอย่างต่อย่อมแตกต่างจากเธออย่างชัดเจน จากที่เมื่อครู่โกรธชายตรงหน้าจนตัวสั่น มองเห็นช้างตัวเท่ามด กล้าเข้าไปทำร้ายเขาอย่างไม่คิด ตอนนี้เพียงแค่จะยืนให้ตรงเธอยังทำไม่ได้เลย

“คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะทำอะไรก็ได้งั้นเหรอ เดี๋ยวกูจะกระทืบให้ยับเลย ทีหลังจะได้ไม่กล้ายกมือตบใครซี้ซั้วอีก”

มือหนาเงื้อขึ้นอีกครั้ง ทำเอาแพรไหมต้องรีบวิงวอนขอร้องทั้งน้ำตา

“อย่า พี่ต่ออย่าทำแพร”

“มึงมันร่าน กูแค่พูดเรื่องจริง ทำเป็นฟังไม่ได้ แล้วกูก็ไม่ใช่คนแรก ไอ้เกลมันโง่ หาเงินงกๆ มาเลี้ยงกะหรี่อย่างมึง”

“พี่ต่อ!” แพรไหมตวาดอย่างเหลืออดเมื่อถูกด่าสาดเสียเทเสียจนไม่มีชิ้นดี

“ทำไม! เรียกชื่อกูทำไม! ดัดจริตทนฟังไม่ได้รึไง มึงมันก็เลวไม่ได้ต่างจากกูหรอก รู้ทั้งรู้ว่างานที่มันไปทำไม่ต่างอะไรกับไปเป็นเด็กเสี่ย ไปนอนอ้าขาให้เขาเอา มึงก็ยังกล้าเก็บนามบัตรไปยัดใส่กระเป๋ามัน”

“อึก...ปล่อย แพรเจ็บ” แพรไหมพยายามอ้อนวอน และแกะมือของรุ่นพี่ที่โมโหจนเผลอบีบคอเธออย่างขาดสติ

พลั่ก! ร่างเล็กถูกเหวี่ยงทิ้งลงกับพื้นก่อนจะไอโขลกเสียดัง

“แค็กๆ”

“มึงเจ็บแล้วกูไม่เจ็บเหรอ!”

“พะ...พี่ แพรขอโทษ พอแล้วๆ” แขนเล็กยกขึ้นมากันใบหน้าตนเองเมื่อเห็นร่างหนาเริ่มง้างเท้าเข้าใส่ พลางละล่ำละลักขอโทษขอโพยเสียงสั่น

“ครั้งนี้กูจะยกโทษให้ แต่มึงก็รีบไปหาเงินมาให้ไว โต๊ะบอลมันตามทวงจนกูแทบบ้าแล้ว!”

“แต่เกลมันไม่อยู่แล้วนะพี่ พอโอนเงินมาให้เสร็จก็หายหัวไปเลย”

“นี่มึงทำตู้เอทีเอ็มหายเหรอ! ที่ทำงานล่ะ ไปตามหามารึยัง” ต่อมีท่าทีร้อนรนเมื่อได้ยินว่ากวิสราหายไป

“แพรไปมาแล้ว แต่ไม่มีใครรู้อะไรเลยสักคน”

“พวกมันโกหกมึงรึเปล่า”

“ไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะพวกที่ร้านกาแฟก็ไม่มีใครชอบแพรอยู่แล้ว”

“กูไม่สนว่าเกลมันจะหายไปไหน แต่มึงไปตามหามันให้เจอ เผลอๆ ป่านนี้เป็นเด็กเสี่ยสบายตัวไปแล้วมั้ง สไตล์อย่างมันกำลังฮิต แถมซิงอีกต่างหาก ของเล่นคนรวยชัดๆ ขนาดกูเองยังอยากได้มันเลย”

“...”

“มึงรีบหลอกให้มันดูดเงินไอ้เสี่ยหน้าโง่มาแบ่งให้พวกเราใช้บ้างสิ จะปล่อยให้สุขสบายคนเดียวได้ยังไง ส่วนวันนี้มึงก็เอาอันนี้มาให้กูทำทุนก่อน”

“นี่พี่ยังจะเล่นอีกเหรอ”

นาฬิกาข้อมือเรือนสวยที่เพิ่งไปถอยมาจากเงินที่กวิสราโอนให้ ถูกรุ่นพี่ที่ควบสถานะคู่ขาบนเตียงถอดออกไปอย่างง่ายดาย แม้ไม่อยากให้ แต่เธอก็กลัวเขาทำร้ายจนต้องเก็บความคับแค้นไว้ในใจ เธอพลาดเพราะหลงรูปลักษณ์ภายนอกของเขา จนทำให้ตัวเองต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก

“เรื่องของกู ถ้ากูมือขึ้นถอนทุนได้ น้องแพรคนสวยจะได้ไม่ต้องลำบากตามหาตู้เอทีเอ็มไงจ๊ะ”

“พี่ต่อ ถ้าคราวนี้แพรหาเกลมาใช้หนี้แทนได้ พี่ปล่อยแพรไปได้ไหม”

เงื่อนไขเดียวที่แพรไหมต้องการมากที่สุดในตอนนี้ถูกยื่นให้แก่ชายที่สารเลวที่สุดในชีวิตเท่าที่เธอเคยเจอมา และก็ไม่ผิดหวังเลย เมื่อนัยน์ตาคมมีแววกักขฬะหื่นกระหายอย่างชัดเจนยามตอบรับเงื่อนไขนี้อย่างพอใจ

“ตามนั้น”

 

คอนซีลเลอร์ถูกป้ายทับบนใบหน้าที่มีร่องรอยการถูกทำร้าย แพรไหมยังต้องกลับบ้านไปเจอหน้าพ่อแม่ในเย็นวันนี้ เธอให้พวกเขารู้ไม่ได้ว่า หลังออกมาจากรั้วบ้าน ลูกสาวคนเดียวใช้ชีวิตแหลกเหลวแค่ไหน น้ำใสคลอกลบจนนัยน์ตาพร่ามัว แต่แพรไหมก็ไม่อาจปล่อยให้มันไหลลงมาได้ ไม่เช่นนั้นความพยายามที่ทุ่มเทแต่งมาเมื่อครู่คงสูญเปล่า

‘เกลหายไปไหนกันนะ’

แพรไหมจ้องเงาสะท้อนของตนบนกระจกในห้องน้ำห้างสรรพสินค้าพลางคิดถึงทางรอดเดียวในขณะนี้ ก่อนจะก้มหน้าลงเพื่อรีบเก็บอุปกรณ์แต่งหน้าลงกระเป๋าเครื่องสำอาง ตั้งใจว่าจะแวะร้านกาแฟที่กวิสราเคยทำงานก่อนกลับบ้าน แต่เมื่อเงยหน้าขึ้นอีกครั้งดวงตากลมโตก็ต้องเบิกกว้าง เมื่อเห็นเงาสะท้อนของคนคุ้นเคยเดินผ่านหลังไป แพรไหมตะโกนเรียกเสียงหลง แต่ใครคนนั้นไม่แม้แต่จะหันกลับมา

“เกล!”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น