0

บทนำ


บทนำ

 

“สวยมากเลย น้องไลลานี้ออกแนวตัวเล็ก สเปกผู้ชายชัดๆ ไม่คิดเข้าวงการจริงๆ เหรอ พี่รับรองดังแน่ๆ”

เมกอัปอาร์ทิสต์ประจำช่องสกายเนตเวิร์ค ซึ่งเป็นสถานีวิทยุโทรทัศน์ที่เป็นธุรกิจของครอบครัวฝั่งบิดาเอ่ยขึ้น ซึ่งสินทรัพย์มูลค่ามหาศาลนี้ หม่อมราชวงศ์ศศินิภา นภดล ผู้เป็นย่าฝ่าฟันต่อสู้กับเหล่าญาติมิตรของเจ้าสัวอนันต์ผู้เป็นปู่มาเลือดตาแทบกระเด็น

ตอนที่ท่านเสียชีวิตลง พี่น้องต่างก็อยากเข้ามาชุบมือเปิบขอมีส่วนแบ่งในมรดก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ร่วมลงมือลงแรงก่อร่างสร้างอะไรด้วยกันมา ดีที่คุณย่าแข็งแกร่งพอที่จะจัดการพวกเหลือบไร อาจจะเพราะท่านเป็นคนเอาจริง แถมยังมีราชสกุล ‘นภดล’ ซึ่งเป็นราชสกุลก่อนสมรสหนุนหลัง ทำให้พี่น้องที่ดีแต่ดูดเลือดของเจ้าสัวอนันต์ผู้เป็นสามีแพ้พ่ายไป จากนั้นคุณย่าก็หอบบิดาหล่อนซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียว หน้าตาหล่อเหลาอาการตั้งแต่แรกเกิด มีพื้นที่ในวงการบันเทิง รับบทเป็นพระเอกตั้งแต่อายุยังไม่ถึงยี่สิบปี

จนตอนนี้ในวัยหกสิบ ‘สุริยัน’ หรือ ‘คุณฤกษ์’ ก็ยังเป็นเดือนค้างฟ้า เป็นพระเอกรุ่นใหญ่ที่ความหล่อไม่เสื่อมคลายไปตามกาลเวลา เป็นนักแสดงมากความสามารถที่มีรางวัลการันตี มีแฮชแท็กติดหู #พ่อก็คือพ่อ มีแฟนคลับติดตามทั้งในและนอกประเทศ แต่กลับไม่มีปัญญาประคองชีวิตสมรส ทำให้ต้องเลิกรากับมารดาของไลลาลิณไปตั้งแต่หล่อนอายุเกือบสองขวบ ในขณะที่พี่สาวฝาแฝดทั้งสองคนอย่างเพียงรุ้งกับเพียงดาวที่มีวัยมากกว่าน้องเล็กถึงแปดปีโตพอที่จะเลือกได้แล้วว่าจะอยู่กับใคร สุริยันได้รับเลือกจากเพียงรุ้ง ลูกสาวฝาแฝดคนพี่ ส่วนเพียงดาวขอไปอยู่กับจันทร์เจ้า ด้านไลลาลิณที่ยังเล็กเกินกว่าจะตัดสินใจ อีกทั้งยังเป็นที่ต้องการของทั้งพ่อทั้งแม่ หม่อมราชวงศ์ศศินิภาจึงเข้ามาช่วยไกล่เกลี่ยหาทางออกให้ลูกเล็กสุดอยู่บ้านพ่อสามคืน บ้านแม่สามคืน และมาอยู่บ้านคุณย่าอีกหนึ่งคืน

“ขอบคุณค่ะ แต่ไลลาไม่ชอบ” ด้านสาวสวยคนเล็กสุดของ ‘นภดล’ ตอบรับ แต่หน้าแทบจะไม่ยิ้ม วันนี้ที่ต้องมาที่อาคารหลายสิบชั้น ซึ่งเป็นที่ทำงานของคุณย่าก็เพราะต้องมาถ่ายคอลัมน์นัดสัมภาษณ์ลงนิตยสารเนื่องในเทศกาลวันพ่อ คิดแล้วก็รู้สึกว่าหลอกลวงสังคมสิ้นดี ภาพครอบครัวรักกันจี๋จ๋าสามัคคีกันไปหมดที่บ้านหล่อนแสดงออกดูจอมปลอม จนแม้แต่ตัวไลลาลิณเองที่เป็นหนึ่งในตัวแสดงหลักยังไม่คิดอยากจะเชื่อ ไม่ต้องไปพูดถึงการเข้าวงการบันเทิงอย่างที่พี่พู่ ชมพูนุทเพิ่งเสนอ อันที่จริงก็ไม่ใช่คนแรก เรียกว่าคร้านที่จะฟังเพราะต่อให้ไม่ได้สวยเด่นอย่างพี่สาวคนโต หรือจะดูเยือกเย็นเป็นผู้ดีอย่างพี่สาวคนที่สอง แต่ ไลลาลิณ นภดล ลูกสาวคนเล็กของคุณฤกษ์ สุริยัน พระเอกอันดับหนึ่งตลอดกาล และหลานสาวของหม่อมราชวงศ์ศศินิภา แม่เสือใหญ่แห่งช่องสกายเน็ตเวิร์คก็หน้าตาน่ารักน่าเอ็นดู สวยเก๋ในแบบคนตัวผอมบางร่างเล็ก ไม่ทิ้งเชื้อความหน้าตาดีของบิดาที่เป็นดาราดัง กับมารดาที่เป็นคุณหนูแสนสวยในอดีต

“จ้ะๆ ไม่เข้าก็ไม่เข้า เดี๋ยวน้องไลลารอแป๊บนะ พี่ให้ช่างผมมาทัชอัปเพิ่มแล้วเข้าไปถ่ายภาพหมู่เนอะ ตอนนี้คุณดาวกับคุณรุ้งถ่ายอยู่กับคุณฤกษ์แล้ว”

ช่างแต่งหน้าเบอร์แรกของวงการพูดถึงพี่สาวฝาแฝดทั้งสองคนที่คลอดตามกันมาห่างกันเพียงไม่กี่นาทีของหล่อน แต่หน้าตาแค่มีเค้ากัน ส่วนบุคลิกนั้นแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง ขณะที่เพียงรุ้ง แฝดพี่ที่เลือกอยู่กับพ่อเป็นคนสวยจัด แต่งตัวเก่ง เสื้อผ้าหน้าผมองค์ประกอบทุกอย่างต้องเป๊ะปังอลังการ ไม่อย่างนั้นไม่มีทางเสียหรอกที่จะยอมออกจากบ้าน พานให้เชื้อแฟชั่นนิสตาติดปลายมือส่งต่อมาถึงไลลาลิณไม่มากก็น้อย ช่วงเวลาสามวันที่เป็นกรรมสิทธิ์์ของบิดาที่เพียงรุ้งก็มักจะมาวอแว เล่นแต่งหน้าทำผมชวนกันไปเดินซื้อของ ทำตัวสมกับเป็นลูกพ่อ ชอบอยู่ในสปอตไลต์แสงไฟ ไม่แปลกใจหรอกที่นางจะเป็น บตบก. หรือบิวตีบล็อกเกอร์ชื่อดัง ต่างจากเพียงดาวที่อยู่กับมารดาทันทีที่ชีวิตสมรสของพ่อกับแม่จบลง ซึมซับนิสัยเรียบร้อย พูดน้อย ใจเย็นจากคุณจันทร์เจ้ามาเสียหมด แถมยังเป็นคนโลว์โพรไฟล์ ไฮโพรฟิต ทำงานสืบทอดธุรกิจของบิดาเลี้ยงซึ่งเป็นเจ้าของบริษัทรับเหมาก่อสร้างข้ามชาติที่มาตกหลุมรักคุณแม่อยู่เงียบๆ แต่ก็แทบจะขอแต่งงานทันทีที่รู้ว่าไม่มีพันธะอื่นใด ความรักสงบ ชอบความเงียบ และเกลียดความวุ่นวาย มีงานอดิเรกเป็นการท่องเที่ยวหาที่หย่อนใจ เรียกว่าถ้าไม่ใช่สามวันสามคืนที่ไลลาลิณต้องสลับไปนอนบ้านแม่ เพียงดาวก็แทบจะไม่อยู่ติดบ้าน ออกหาที่หาวิวดีๆ ถ่ายรูปสวยๆ ลงอินสตาแกรมจนน่าตามไปเที่ยวอยู่หลายที่ แต่บางทีสาวน้อยวัยยี่สิบปลายๆ ก็ต้องขอบายเพราะดูลำบากลำบนเกินไป

“แล้วคุณย่าไปไหนแล้วล่ะ”

ลูกสาวคนเล็กสุดของสุริยันหันซ้ายหันขวา ก็เมื่อกี้คุณย่าเป็นคนเดินมาส่งหล่อนเองที่ห้องแต่งหน้า เล่นเอาทีมงานขวัญกระเจิงกันไปหมด ก็ไม่บ่อยนักที่จะได้เห็นนายหญิงแห่งสกายเน็ตเวิร์คเดินลงมาถึงห้องแต่งหน้าในสตูดิโอถ่ายทำ บางคนไม่เคยเจอตัวจริงของเจ้านายด้วยซ้ำ ขนาดชมพูนุทได้มีโอกาสรับใช้ใกล้ชิดหลายทียังเกร็งจนแทบจะกลายเป็นกลัวราศีของท่าน

“คงขึ้นออฟฟิศไปแล้วมั้งคะ เอ้านี่ มาดูผมอีกทีสิ ย้ำตรงนี้อีกที”

ชมพูนุทกวักมือเรียกหนึ่งในทีมของตนเองที่ดูแลเรื่องผมให้คนตัวผอมในร่างสูงเพียงร้อยหกสิบนิดๆ หุ่นแบบนี้ถ้าเป็นมนุษย์ปกติคงต้องเรียกว่าผอมเกินไป แต่กับคนที่อยู่ในวงการบันเทิงมาตลอดระยะเวลาการทำงาน รูปร่างแบบนี้ออกกล้องเรียกว่ากำลังดีเชียวละ อยากจะชักชวนให้ลองมาทำงานในวงการกันดู อายุก็กำลังดี เรื่องกระแสดันคงไม่ต้องพูด ก็เล่นมีนามสกุล ‘นภดล’ ต่อท้าย คงดังตั้งแต่ยังไม่ก้าวขา เหมือนตอนนี้ที่ไลลาลิณก็เป็นที่รู้จักของวงสังคมในฐานะหลานสาวสุดรักสุดหวงของหม่อมราชวงศ์ศศินิภา ลูกสาวคนเล็กของพระเอกรุ่นใหญ่ และตัวหล่อนเองยังเป็นฟูดดีที่นิยมกินนิยมเที่ยวจนมีคนตามในไอจีมากมาย เลื่อนชั้นกลายเป็นเน็ตไอดอลไปโดยไม่รู้ตัว

“ขอบคุณนะ ไลลาฝากกระเป๋าไว้ในนี้ได้ใช่ไหม”

เมื่อแน่ใจว่าทุกคนรุมหัวรุมหูหล่อนเสร็จ หญิงสาวก็ลุกขึ้นยืนเต็มความสูงที่ไม่ได้มีมากเหมือนเหล่าดารานางแบบที่ตบเท้าเดินกันอยู่ในตึกนี้ แต่ก็เรียกว่าสมส่วนชวนมอง หันไปเอ่ยขอบคุณทั้งช่างหน้าช่างผม และฝากฝังของมีค่าของตัวเอง เนื่องจากจำได้ว่ากระเป๋ามีราคาอีกสองใบในห้องนี้ก็เป็นของพี่สาวฝาแฝดทั้งสอง ซึ่งเจ้าหน้าที่ทั้งหมดในที่นี้ก็รับปากรับคำจะช่วยดูแลให้เป็นอย่างดี ไลลาลิณจึงวางใจเดินออกจากห้องแต่งตัวไป

วันนี้หญิงสาวมั่นใจกว่าทุกวันที่ต้องเจอพี่สาว ไม่กังวลว่าชุดที่สวมจะทำให้เพียงรุ้ง พี่สาวคนโตพอใจไหม หรือจะโดนเพียงดาว พี่สาวคนรองดุว่าไม่เหมาะสมไหม เพราะทุกคนโดนบังคับให้สวมเสื้อที่สกายเน็ตเวิร์คทำขึ้นเพื่อขายในวาระวันพ่อแห่งชาติ และนำเงินไปบริจาคมูลนิธิการกุศล หญิงสาวเลยเลือกที่จะแมตช์ท่อนล่างกับกางเกงยีนทรงคุณแม่แบบย้อนยุค คาดทับด้วยเข็มขัดหนังแบรนด์ดังเพิ่มสัดส่วนให้ร่างที่แทบจะปลิวลมได้ และสวมส้นสูงคู่เก่งที่ไม่ได้ซื้อเอง แน่นอนละว่าคนที่จ่ายเงินให้ก็คือเพียงรุ้ง เจ้าแม่แฟชั่นที่ได้สิทธิพิเศษ มีผู้จัดการประจำร้านส่งแบบมาให้เลือกก่อนคนอื่น แล้วเดินเข้าหาอ้อมแขนของสุริยันที่เมื่อครู่ยืนโอบบ่าเพียงรุ้งกับเพียงดาวเพื่อถ่ายภาพ ก่อนผละมาต้อนรับหล่อน

“ไลลาสวยเชียวค่ะลูก”

สุริยันยิ้มเจ้าเสน่ห์ให้ลูกสาวคนเล็ก เอ่ยปากชมไลลาลิณที่เดินเข้ามาในสตูดิโอถ่ายภาพ ในขณะที่เพียงดาวเดินออกจากเซตที่เมื่อครู่นั่งถ่ายรูปกับพี่สาวฝาแฝดและบิดา เพื่อไปจูงมือน้องสาวเข้ามาเป็นส่วนหนึ่ง ขณะที่เพียงรุ้งกวักมือเรียกช่างหน้าช่างผมของตัวเองมาซับความมันเพิ่มความงาม

“ทำไมมาช้าล่ะ พี่โทร. ไป ไลลาก็ไม่รับ”

คนที่ท่าทางเรียบร้อยพูดน้อยที่สุดมองหน้าหญิงสาวที่เพิ่งพ้นวัยยี่สิบมาเกือบหนึ่งปี ยกมือเกลี่ยผมให้เข้าที่เข้าทางมากยิ่งขึ้น มองความงามของน้องสาวคนเล็กที่หล่อนคิดว่าเวลาหน้าสดก็สดใสน่ารักอยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องแต่งหน้าทาปาก แต่พอเห็นไลลาลิณหน้าแน่นมาแบบนี้ ต่อให้ไม่ใช่รสนิยมที่ชอบส่วนตัว แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่ายิ่งโตต้องยิ่งจับตาคนแน่ๆ

“หนู...”

ถ้าตอบว่าตื่นสาย แม่แก่แบบเพียงดาวคงต้องบ่นยาวแน่นอน หาว่าหล่อนไม่มีความรับผิดชอบ แต่หากจะตอบว่าคิดไม่ออกว่าจะใส่อะไรออกจากบ้าน เพียงรุ้งในฐานะบิวตีบล็อกเกอร์ แฟชั่นไอคอนเบอร์แรกๆ ของเมืองไทยได้เม้งใส่อย่างไม่ต้องสืบว่าสอนอะไรไปไม่รู้จักจำ หญิงสาวเลยเลือกที่จะตอบ ตอบในสิ่งที่จะทำให้ได้อยู่ในสภาวการณ์แบบนี้ แบบที่มีพ่อและพี่ทั้งสองคนอยู่พร้อมกัน แม้จะไม่มีแม่ให้ภาพครอบครัวสมบูรณ์เหมือนคนอื่นเขา แต่นี่ก็นับว่ามากพอตัว ถ้าทำงานเสร็จเร็วจะได้อ้อนคุณย่าให้ไปกินข้าวด้วยกัน

“หนูค่อยไม่สบายอะ”

พูดไปแล้วก็หวังว่าจากวินาทีนี้ทั้งพ่อและพี่ๆ จะต้องเข้ามาประคบประหงมดูแล ไม่ก็อาจจะถึงขั้นลากไปโรงพยาบาล ซึ่งไลลาลิณจะไม่ขัดข้องแม้แต่น้อย ยอมให้หมอซัก หมอถาม รับยาแล้วโยนทิ้งที่ไหนก็ได้ ถ้าจะทำให้หล่อนได้ใช้เวลาแบบครอบครัวบ้าง แต่กลายเป็นว่าสุริยันรีบบอกให้หล่อนเข้าฉากเพื่อถ่ายภาพร่วมกันพร้อมๆ กับตอบบทสัมภาษณ์เพิ่มเติมหลังจากที่ผู้จัดการส่วนตัวของบิดาสวมรอยส่งคำตอบของทั้งสี่คนให้บรรณาธิการเรียบร้อย แต่มีบางส่วนที่คงยังไม่ถึงใจ เจ้าของคอลัมภ์ถึงได้มานั่งถามเพิ่มอยู่ข้างกล้องแบบนี้ จวบจนทุกอย่างเสร็จสิ้น เพียงรุ้งที่ยังไม่ได้พูดอะไรกับไลลาลิณก็เอ่ยถามน้องรักขึ้นมาอีกที

“ดีขึ้นไหม”

แฝดคนน้องถามน้องเล็ก แต่ตามองไปที่เพียงดาวซึ่งสบตากันอยู่ เป็นแบบนี้มาเสมอราวกับทั้งคู่สื่อสารกันทางความรู้สึกได้

“ค่ะ”

ไลลาลิณพยักหน้าน้อยๆ ตอบพี่สาวที่หล่อนกลัวมากกว่าใครๆ แม้ว่าเพียงดาวจะมีบุคลิกความเป็นแม่ แต่คนที่น้องเล็กของบ้านกลัวคือเพียงรุ้งที่พร้อมจะแยกเขี้ยวเหวี่ยงผู้คนได้ตลอดเวลา ปากที่นิยมทาสีแดงนั้น หากจิกกัดใครขึ้นมารับรองตายเรียบทุกราย

“แน่นะ ไลลาเป็นอะไร ทำไมไม่บอกพี่ฮึ”

แฝดคนพี่ถาม เมื่อวานเป็นคิวที่ไลลาลิณต้องมานอนที่บ้านของบิดาซึ่งหล่อนก็อยู่ร่วมในบ้านนั้น แต่ไม่เห็นจะมีใครรายงานว่ายายตัวเล็กนี่ไม่สบายสักคน เดี๋ยวกลับไปต้องไล่เลียงเสียหน่อย สั่งไว้ไม่รู้กี่ครั้งกี่ทีว่าให้ดูคุณไลลาหาดี หากมีอะไรผิดสังเกตให้รีบโทร. รายงาน แต่นี่ละเลยกันจนน้องไม่สบายก็ยังไม่มีใครรู้สักคนได้อย่างไร

“ก็เพิ่งเป็นนี่นาพี่รุ้ง”

คนอายุน้อยสุดย่นจมูก จะว่ามีเป็นร้อยเรื่องที่พี่สาวทั้งคู่ไม่เหมือนกัน แต่อาการขี้บ่นหาเรื่องว่าหล่อนได้เสมอกลับเป็นหนึ่งในสิ่งที่ทั้งคู่มีเหมือนกัน นอกจากชื่อพ่อ ชื่อแม่ แล้วก็นามสกุล

“งั้นก็ไม่ต้องไปหาหมอหรืออะไรใช่ไหมคะ ไลลา”

คราวนี้เป็นเสียงสุริยันที่ก้มหน้าง่วนอยู่กับมือถือ ปล่อยให้ช่างแต่งหน้าตบแป้งเพิ่มเติม ก่อนจะเหลือบตาขึ้นมองลูกสาวคนเล็กอีกที แล้วจึงหันไปมองสองแฝดของเขา

ไลลาลิณก็ได้แต่รู้สึกว่าคนทั้งหมดมีพื้นที่ส่วนตัวที่หล่อนก้าวไปไม่ถึง ไม่รู้สึกเป็นครอบครัวเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันแต่อย่างใด

“ค่ะ หนูดีขึ้นแล้ว นี่ถ้าเราเสร็จกันแล้ว...” ตาหวานกวาดมองอีกที แล้วก็มั่นใจกับประโยคที่เพิ่งเอ่ย เพราะทีมงานกองถ่ายเริ่มเก็บข้าวของ แสดงว่างานที่ต้องทำวันนี้เสร็จสิ้นเรียบร้อย ดังนั้นหากจะชวนพ่อและพี่สาวทั้งสองไปใช้เวลาร่วมกันบ้างก็คงได้ “ไปกิ...”

คำพูดของหล่อนยังไม่ทันพ้นออกจากปากแดงน่ารัก ความหวังของหล่อนก็สลายไปเหมือนทุกที จนไลลาลิณไม่รู้จะบอกว่าที่กำลังคันยิบๆ ในหัวใจเรียกว่าชินกับความเฉยชาของสมาชิกในครอบครัว หรือว่าเสียใจจนชากันแน่

“งั้นไว้เจอกันนะคะไลลา พ่อมีถ่ายละครต่อ เร่งปิดกล้อง นี่กองไลน์มาตามละค่ะ”

เนื่องจากละครเรื่องที่สุริยันแสดงนำและกำลังออนแอร์อยู่นั้นเรตติงดีงามขนาดที่ตามกำหนดมีสามสิบตอนปกติก็ยังต้องถ่ายไปฉายไป ทางช่องซึ่งจะเป็นใครที่ไหนไม่ได้ ถ้าไม่ใช่หม่อมราชวงศ์ศศินิภามีคำบัญชาให้เพิ่มตอนเพื่อเรียกกระแส เดือดร้อนกันไปหมดก็จริง แต่ก็พร้อมที่จะทำ เพราะนั่นหมายถึงรายรับที่มากขึ้นจำนวนมหาศาล

“สวัสดีค่ะพ่อ ดาวก็มีประชุมที่บริษัทเหมือนกัน” เพียงดาวเอ่ยคำลาเป็นคนที่สอง นอกจากบทบาทลูกสาวของสุริยัน ดาราค้างฟ้า หลานสาวหนึ่งในสามของ หม่อมราชวงศ์ ศศินิภา นภดล หญิงสาวก็ยังสวมหมวกอีกใบเป็นลูกเลี้ยงคนเดียวของคุณแมทธิว แบรดฟอร์ด ที่ฝ่ายนั้นทั้งรักทั้งวางใจ วางหล่อนเป็นทายาทตามกฎหมายที่สืบทอดงานในบริษัทรับเหมาก่อสร้างข้ามชาติอย่างบริษัทเจบีเอฟดีเวลลอปเมนต์ของเขา มีความรับผิดชอบเต็มไม้เต็มมือไปหมด

“ไปด้วยๆ เดี๋ยวรุ้งมีงานต่อที่ดิเออร์เบินพอดี” เพียงรุ้งเปิดกล้องหน้าราวกับจะถ่ายเซลฟี่ตัวเอง ทั้งที่จริงๆ จะเช็กความเป๊ะของใบหน้า แต่ไหนๆ ก็ไหนๆ เลยเรียกพ่อกับน้องสาวอีกสองคนให้เขยิบเข้าเฟรม ถ่ายภาพเก็บไว้ลงในไอจี คงเรียกกระแสได้ดีเหมือนกัน เมื่อได้ภาพครอบครัวแบบไม่มีแม่เสร็จ ก็โพสต์ลงบัญชีผู้ใช้ของตน แท็กหาทั้งบิดา เพียงดาว และไลลา เรียบร้อยก็เงยหน้าพูดกับน้องสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ

“ไลลากลับดีๆ นะ ถึงบ้านแล้วไลน์บอกพี่ด้วยล่ะ”

เพียงรุ้งพูดเป็นคนสุดท้าย แต่หายตัวไปเป็นคนแรกทันที ก่อนที่ทั้งสุริยันและเพียงดาวจะตามออกไปติดๆ ปล่อยให้ไลลาลิณได้แต่ยื่นบื้ออยู่กลางสตูดิโอ แบบไม่รู้ว่าจะทำอะไรต่อไปในเวลาที่เหลือของวันนี้ ได้แต่สาวขากลับไปเอากระเป๋าของตัวเอง ตั้งใจว่าอย่างน้อยคุณย่าก็น่าจะมีเวลาให้ แล้วก็ต้องเสียใจเพราะยังเดินไม่ถึงไหน อรอุมา เลขาฯ ของหม่อมราชวงศ์ศศินิภาก็ถือข้าวของเครื่องใช้มารออยู่เสียแล้ว

“คุณไลลาคะ”

“คะ?” สาววัยยี่สิบทำหน้าเหลอหลา ใช่ว่าหล่อนไม่เคยมาที่สกายทาวเวอร์จนต้องให้คนมานำทางเสียเมื่อไร

“คุณหญิงมีประชุมด่วนค่ะ ฝากให้ดิฉันไปส่งคุณไลลาที่รถ ท่านให้เรียนว่าเสร็จเรื่องแล้วจะโทร. หาอีกที”

คนที่โดนทุกคนในครอบครัวเทหมดอาลัยตายอยาก จริงๆ ก็ควรจะเจ็บจนชิน แต่ไม่รู้ทำไมหล่อนมีความหวังทุกครั้ง อยากจะเอ่ยปากชวนทุกคนทำกิจกรรมร่วมกันทุกทีที่เจอ แต่ก็ไม่เคยสมปรารถนา มือบางหยิบมือถือออกจากกระเป๋าใบสวยของตัวเองโดยไม่รู้ว่า

จะเอาออกมาทำอะไร เพราะมึนตื้อคิดไม่ออก พลันก็เห็นการแจ้งเตือนในบัญชีอินสตาแกรมที่หล่อนได้รับการติดแท็กจากพี่สาวซึ่งโพสต์ภาพที่ถ่ายกันเมื่อครู่ มีคนมากดชื่นชอบภาพครอบครัวอบอุ่นมหาศาล ทำเอาไลลาลิณแค่นหัวเราะในลำคอเมื่ออ่านคำบรรยายภาพ

Happy Day with my happy family

เมื่อไถลงมาอ่านคอมเมนต์ หญิงสาวก็คลื่นไส้อยากจะอาเจียน ทั้งๆ ที่ยังไม่มีอะไรตกถึงท้องตั้งแต่เช้า มึนตึ้บ คิดอะไรไม่ออกจึง ต่อสายหาที่พึ่งเดียวที่อยู่เคียงข้างหล่อนมาตลอดเวลาตั้งแต่เขาก้าวเข้ามาในชีวิต

“ธันน์” ไลลาลิณทอดเสียงพร้อมๆ กับผ่อนลมหายใจ “ทำไรอยู่อะ”

“กำลังจะเข้าออฟฟิศ มีไร”

ธันน์ ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกเป็นเพื่อนสนิทร่วมชั้นมหาวิทยาลัยของหล่อน รู้จักกันเพราะอีกฝ่ายเป็นพี่รหัส ใช่ แม้จะดูงงๆ แต่คนที่ถือหุ้นในผับบาร์ทั่วเขตทองหล่อและเอกมัยคนนี้เป็นพี่รหัสของไลลาลิณที่มีวัยต่างกันถึงหกปี เพราะเจ้าตัวไม่ได้เข้ามหาวิทยาลัยทันทีที่จบชั้นมัธยมศึกษาปีที่หก แต่มาเรียนระดับอุดมศึกษาในอีกสามปีให้หลัง เรียนอยู่ได้หนึ่งปีก็ดรอปไว้ ในขณะที่เพื่อนๆ ร่วมชั้นของธันน์กำลังขึ้นปีสาม เจ้าตัวถึงกลับมาเรียนปีสองในวัยยี่สิบสาม พอดีกับที่ไลลาลิณเข้าเรียนชั้นปีที่หนึ่งในวัยสิบเจ็ดปี

ถามว่าหล่อนเรียนเก่งเหรอ ก็ต้องตอบว่าไม่ใช่ แต่พลังเงินของ ‘นภดล’ นั้นยิ่งใหญ่นัก ยัดเด็กหญิงไลลาลิณเข้าสู่ระบบการศึกษาแบบอังกฤษได้ก่อนเกณฑ์หนึ่งปี เพราะคุณย่าไม่อยากให้หลุดรุ่นจากพี่สาวฝาแฝดทั้งคู่ที่กำลังจะต้องย้ายจากตึกประถมไปฝั่งมัธยม ในขณะที่โซนเรียนของน้องอนุบาลกับเด็กประถมทั้งหมดเป็นพื้นที่เดียวกัน อย่างน้อยสองคนนั้นคงปกป้องดูแลเจ้าตัวเล็กของบ้านได้

ซึ่งก็ไม่รู้ว่าโชคดีหรือโชคร้ายที่ไลลาลิณมาเป็นน้องรหัสตรงสายของธันน์ ความเป็นแกะดำของเด็กที่อายุน้อยกว่าเพื่อนในชั้นปีที่หนึ่ง กับคนที่อายุมากกว่าเพื่อนร่วมชั้นปีที่สองทำให้คนทั้งคู่ดึงดูดกันทันที กลายเป็นเพื่อนสนิทที่หลายๆ คนคิดว่าทั้งคู่คิดไม่ซื่อต่อกัน ทั้งๆ ที่ที่จริงๆ แล้วมีแต่ความบริสุทธิ์ใจ

“เพิ่งเสร็จธุระ ธันน์ต้องทำงานเหรอ”

ในขณะที่หล่อนไม่ต้องขยับตัวทำอะไรก็มีทุกอย่างมากอง แต่ธันน์ผู้ซึ่งกวาดมรดกของมารดาที่ตรอมใจตายไปออกมาจากบ้านพ่อในวัยยี่สิบปี เอาเงินมาลงทุนเลี้ยงดูตัวเองในธุรกิจอบายมุขที่พ่อบังเกิดเกล้าของเขาบอกว่าหากคิดทำก็ไสหัวออกจากบ้านไป ในวันนี้ธันน์ก็ไม่รอช้า ไม่ลังเลสักวินาทีที่จะยืนด้วยขาของตัวเอง ก่อร่างสร้างตัวจากทุนเดิมที่มารดามีไว้ให้ ไม่แตะ ไม่รับเงินที่ทุกวันนี้พ่อคนที่ไล่เขาออกจากบ้านก็ยังโอนมา บริหารสินทรัพย์จนงอกเงย ซื้อคอนโด ซื้อรถ ซื้อทุกอย่างได้ด้วยเงินตัวเอง

“ทำสิ ไม่ได้มีเหมืองสมบัติแบบไลลานะ”

ก็พูดไป เพราะเงินที่เจ้าตัวได้มาจากมรดกที่มารดาทิ้งไว้ให้เรียกว่ามหาศาล ไหนจะที่ทำงานก่อร่างสร้างตัวในช่วงหกปีที่ผ่านมา ทำให้ธันน์เป็นหนึ่งในคนที่มีเงินเยอะตั้งแต่อายุน้อย เพียงแต่ไม่ได้เปิดเผยให้ใครรับรู้

“ไลลาเบื่ออะ หาไรหนุกๆทำกันเถอะ ธันน์ทำงานวันอื่นได้ไหม”

หญิงสาวอ้อนเพื่อนพลางกดปุ่มสตาร์ตรถของตัวเอง มั่นใจว่าต่อให้ธันน์พูดว่ามีงานต้องทำ แต่ก็จะชวนให้หล่อนเข้าไปวอแวใกล้ๆ อยู่ดี

“ไม่ได้ วันนี้เรื่องสำคัญ”

ถ้าเป็นวันอื่นเขาอาจจะทำงานด้วยวิธีอื่น เพราะหากไม่เข้าไปดูกิจการในเวลาเปิดบริการยามค่ำคืน ธันน์ก็ต้องเข้าไปดูบัญชี หรือแก้ไขปัญหาอื่นๆ ในฐานะที่เป็นคนถือหุ้นใหญ่ แต่ให้ผู้อื่นออกหน้า เพราะอายุยังน้อย คนยังไม่ค่อยเกรงใจ ซึ่งเอกสารพวกนั้นตรวจเช็กผ่านอีเมล หรือให้ใครวิ่งเอามาให้ที่คอนโดก็ได้

“มีอะไรสำคัญกว่าไลลาหรือไง”

เสียงหวานกระเง้ากระงอด ทั้งที่จริงๆ ไม่ได้จะหาความอะไรอีกฝ่ายแม้แต่น้อย แต่จะให้กลับบ้านไปตอนนี้ก็ไม่อยากไปกินข้าวคนเดียวอยู่คนเดียว แม้จะมีแม่บ้านคนงานวิ่งกันให้วุ่นเป็นกองทัพ แต่คนพวกนั้นเติมเต็มให้หล่อนได้ที่ไหนล่ะ

“เงินไงครับเพื่อน”

“ว้า...แย่จัง ว่าจะพาธันน์ไปเลี้ยงข้าวนะเนี่ย ร้านที่ธันน์อยากกินนักหนาจำได้ไหม”

ทำไมจะจำไม่ได้ ร้านที่ต้องจองกันสามเดือนหกเดือนกว่าจะได้กิน แต่ไลลาลิณผู้ซึ่งเป็นตัวแม่เรื่องกินโทร. แค่กริ๊งเดียวก็เดินสวยๆ เข้าไปรับประทานอาหารได้โดยไม่ต้องกดโทรศัพท์สี่ร้อยสายล่วงหน้าครึ่งปี เพราะอะไรน่ะรึ เพราะหล่อนมีบัญชีไอจีที่มีคนตามเป็น

ล้านๆ เพื่อจะตามไปร้านที่หล่อนเคยเหยียบย่าง ด้วยเชื่อกันว่าไม่ว่าจะเป็นร้านข้างทาง มิชลินสตาร์ เชฟเทเบิล ยันบาร์ลับที่ไหนในโลก หาก @dineoutthere อัปลงโซเชียลมีเดียจะต้องดีและมีเสน่ห์ในแบบของมัน แต่วันนั้นที่ทั้งคู่นัดกัน พนักงานที่ผับของธันน์ดันมีเรื่องกันจนถึงขั้นใช้อาวุธ ทำให้ชายหนุ่มที่ไลลาลิณจะเลี้ยงวันเกิดให้ต้องยกเลิกนัดกะทันหัน เป็นเหตุให้ ‘ร้านนั้น’ เป็นสิ่งที่หล่อนเอามาใช้ต่อรองกับเขา เพราะธันน์มักจะบอกให้ไลลาลิณจองไปกินกันใหม่ แต่เจ้าตัวก็ไม่ยอม เก็บไว้เป็นไพ่ใบสำคัญเวลาจะให้ธันน์ทำอะไรให้

“ได้ดิวะ แต่วันนี้ไม่ได้จริงๆ มีเซ็นสัญญา ต้องนับเงินสดในร้าน จ่ายเช็กซัปพลายเออร์ เยอะสิ่งอย่างมากไลลา”

ธันน์พูดถึงสิ่งที่ต้องทำในวันนี้ ถ้าเลือกได้ก็อยากไปสนุกเหมือนกัน แต่เขาต้องทำงานหาเลี้ยงตัวเอง แม้ว่ามรดกที่แม่ทิ้งไว้จะมีถึงหลักร้อยล้าน แต่หากไม่หาเพิ่ม สักแต่ว่าใช้ ยังไงวันหนึ่งก็ต้องหมดลง และเหนือสิ่งอื่นใด ธันน์ตั้งใจทำให้พ่อหน้าหงายหลังจากที่โดนจับได้ว่าลงหุ้นเปิดร้านเหล้าเล็กๆ ที่เชียงใหม่กับเพื่อน และพ่อปรามาสว่าคนแบบนี้จะไม่ได้ดี ไม่มีวันเจริญ ชายหนุ่มเลยยิ่งต้องทำให้ดีที่สุด จะได้ให้เห็นจะจะกันไปว่า ไอ้คนเปิดร้านเหล้าแบบเขามันได้ดีมีความสุขกว่าคนที่ทำตัวเป็นผู้ดี แต่นอกใจเมียจนเมียร้องไห้จนตายแบบแม่เขา

“เอางี้ ไลลาอยู่ไหน”

ได้ยินแบบนั้นหน้าสวยก็ยกยิ้ม ผิดจากที่หล่อนคิดที่ไหน เตรียมหมุนพวงมาลัยไปหาอีกคน รอแค่คำยืนยันจากปากอีกฝ่าย

“อยู่ที่ช่อง”

พูดแค่นี้ธันน์ก็ทราบทันทีว่าเพื่อนอยู่หนใด เพราะไม่มีใครไม่รู้หรอกว่าไลลาลิณเป็นลูกหลานใคร จะมีก็แต่เจ้าตัวนั่นละที่ไม่อยากให้ใครรู้

“ก็ไม่ไกลนิ” ชายหนุ่มคำนวณระยะทางในหัวไวๆ ก่อนจะบิดข้อมือดูเวลา “มารอที่นี่ก่อนไหม จะรีบทำให้เสร็จไวๆ เผื่อไปหาร้านนั่งชิลกัน”

“เอางั้นก็ได้”

เมื่อเพื่อนตอบรับ ธันน์ก็บอกให้ตามขึ้นมาบนออฟฟิศด้วยตัวเองทันที เพราะปกติหากไม่ได้ไปด้วยกัน ชายหนุ่มจะเป็นคนเดินลงไปรอรับไลลาลิณที่หน้าร้าน ก็ยายเพื่อนสนิทของเขาคนนี้หน้าตาน่ารักน้อยเสียเมื่อไร แม้จะไม่ยั่วเย้าเข้าขั้นเซ็กซี่ แต่ก็มีเสน่ห์ของตัวเองที่หนุ่มๆ มองกันคอเคล็ด มีดีกรีดาวมหาวิทยาลัยเป็นเครื่องการันตี ทำให้ธันน์ไม่เคยกล้าปล่อยให้ไลลาลิณเดินไปไหนมาไหนคนเดียวในร้านของเขา ไม่ว่าร้านไหน สาขาใด เพราะกลัวเพื่อนจะโดนใครทำมิดีมิร้ายเข้า

“งั้นเดี๋ยวเจอกัน ขึ้นมาบนห้องทำงานเลยนะ ร้านยังไม่เปิด ไม่มีขี้เมาที่ไหน ไม่มีใครตรวจบัตรไลลาด้วย”

 

“ตัวเลขเดิมเลยแหละ แต่อ่านก่อน”

มานเมตต์ยื่นเอกสารให้ธันน์ ลูกค้าที่สนิทกันจนนับพี่นับน้องกัน ทั้งๆ ที่อายุห่างกันจนอีกฝ่ายแทบจะเป็นลูกเขาได้ หลังจากที่เจ้าตัวสั่งเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เกือบทุกชนิดไม่ว่าจะเป็นวิสกี้ แชมเปญ ไวน์ เบียร์จากมูนไชน์ คอมพานีที่มานเมตต์เป็นเจ้าของ เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มนำเข้าจากต่างประเทศ ปกติเขาก็ให้เซลส์เป็นคนดูแลลูกค้า แต่กับคนที่มานเมตต์ให้ความสนิท เขาอยากดูแลเอง นอกจากจะเป็นการเอาใจลูกค้ายังถือโอกาสมาเจอเพื่อนอีกด้วย

“อือ...เอ่อ เห็นว่าเบียร์ตัวใหม่พี่มีโปรเหรอ” ธันน์รับเอกสารมาเปิดดูตรวจสอบความถูกต้อง เรื่องเรียนเขาอาจจะไม่เอาอ่าวเลย แต่หากเป็นเรื่องที่เกี่ยวกับเงิน สักบาทเขาก็ไม่ให้กระเด็นไปไหนแน่นอน

“อินิดิตใช่ไหม” มานเมตต์เอ่ยชื่อเบียร์สัญชาติสเปนที่เป็น witbier หรือ wheat beer มีชื่อเต็มว่า Estrella Damm Inedit กลิ่นหอมนวล รสชาติละมุนละไม ซึ่งแม้จะถูกจัดให้เป็น witbier แต่จริงๆ แล้วเครื่องดื่มที่กำลัง ‘มา’ ตัวนี้เป็นเบียร์ลูกครึ่ง ลูกผสมระหว่าง witbier กับ lager ด้วยการผสมกันระหว่างข้าวสาลีกับข้าวบาร์เลย์ รสชาติเลยเบาสบาย บอดีเบาลื่นๆ ยาวๆ

“จะเอาเหรอ ลงร้านไหน”

“ว่าจะที่นี่แหละพี่”

คนอายุเลยเบญจเพสมาหนึ่งปีตอบรุ่นพี่ที่ห่างกันสิบกว่าปีขณะที่ตายังตรวจสอบความถูกต้องของรายละเอียดที่ปรากฏในกระดาษตรงหน้า ส่วนคู่ค้ายืนถือแก้วน้ำจิบช้าๆ อีกมือสอดลงกระเป๋ากางเกงสแล็กสีดำ มองภาพบาร์ยามหลับใหลผ่านกระจกที่กรุยาวตั้งแต่เพดานถึงพื้น

“ขายเบียร์ดีเหรอที่นี่น่ะ”

ร้านนี้เป็นร้านที่ใหญ่ที่สุดของธันน์ วางแผนการตลาดเอาใจลูกค้าหรูหรากระเป๋าหนัก ซึ่งส่วนใหญ่สั่งกันแต่วิสกี้ราคาแพงกับแชมเปญขนาดใหญ่กว่าปกติเพื่อแสดงอำนาจเงินใส่กัน เขารู้ดีเลยละเพราะเป็นซัปพลายเออร์ส่งเครื่องดื่มเหล่านั้นให้ธันน์เอง

“ถ้าเป็นอินิดิตน่าจะโอเค” เพราะมีการออกแบบขวดเบียร์ให้เหมือนขวดแชมเปญใหญ่ยักษ์สีดำสนิท มีดาวเพียงหนึ่งดาวงปรากฏเป็นสัญลักษณ์ทางการค้า คงถูกใจพวกลูกค้าที่ชอบอะไรสวยหรู “เพราะเดี๋ยวอาทิตย์หน้าผมจะกั้นข้างนอกทำลานเบียร์เล่นๆ ตอนหัวค่ำ เพิ่งดีลกับพวกศิลปินได้ คนไม่กินเบียร์แต่อยากเจอนักร้องก็ต้องยอมละ”

บอกว่าเล่นๆ แต่คงไม่เล่นเท่าไร เพราะข้างหน้าที่ธันน์หมายถึงคือลานจอดรถกว้างขวางที่มักจะมีแต่ซูเปอร์คาร์มาจอดเรียงรายเต็มไปหมด ยิ่งฟังธีมที่ธันน์บอกกล่าวยิ่งรู้ว่าเป็นเรื่องใหญ่ เพราะจะมีการตกแต่งสถานที่ให้ดูเหมือนบีชบาร์ในต่างประเทศ ทำเมนูเครื่องดื่มใหม่ๆ ออกมาล่อตาล่อใจนักดื่มกระเป๋าหนัก

“จะสั่งเท่าไหร่ก็ว่ามาละกัน เดี๋ยวค่อยมาวางบิล แต่อาทิตย์หน้าพี่อาจจะไม่ได้ลงมากรุงเทพฯ นะ ช่วงปีใหม่คนเต็ม จะอยู่เคลียร์ความเรียบร้อยก่อนแขกเข้าหน่อย”

“เออ กิจการดีไหมอะพี่หมาก อยากไป ไม่ได้ไปสักที” ธันน์เอ่ยปากถามถึงธุรกิจที่แตกยอดออกมาจากความฝันในการทำไร่องุ่นเพื่อบ่มเป็นไวน์ของมานเมตต์ เกิดเป็นโรงแรมบูทีคขนาดเล็ก แต่หรูหรามีระดับ อยู่กลางหุบเขาและไร่ผลไม้ ตกแต่งพื้นที่เหมือนอยู่ต่างประเทศ ตั้งชื่อสมความงดงามว่า ‘วิมาน’

“อะเรียบร้อย นี่สำเนาของพี่ ส่วนนี่เช็กค้ำประกันวงเงินของรอบหน้า แล้วนี่เงินสดที่วางบิลเดือนที่แล้วมา” ธันน์บอกระหว่างส่งเอกสารที่ไม่มีข้อบกพร่อง ลงนามเรียบร้อยให้อีกคน สัญญาฉบับนี้เป็นการตกลงร่วมกันว่าในแต่ละเดือนร้านแต่ละร้านของธันน์จะต้องมียอดสั่งซื้อขั้นต่ำไม่ต่ำกว่าเดือนละเท่าไร เป็นระยะเวลานานเท่าใด ส่วนยอดรายเดือนค่อยมาว่ากันเป็นรอบไป เพราะของที่สั่งเพิ่มเปลี่ยนแปลงไปตลอดเวลา

“ดีเลยละ นี่เพิ่งเปลี่ยนเชฟที่ร้านอาหารด้วย” มานเมตต์หมายถึงร้านอาหารที่เขาเปิดขึ้นเพื่อรองรับลูกค้าจากไวน์บาร์ หากจะไล่เรียงกันแล้ว ในทางปฏิบัติ การก่อตั้งบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มและเป็นตัวแทนผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยอย่าง มูนไชน์ คอมพานีนั้นเกิดขึ้นเป็นอย่างแรกควบคู่ไปกับการช่วยงานที่บ้านที่ทำธุรกิจขายวัสดุอุปกรณ์ก่อสร้างรายต้นๆ ของเมืองไทย

ช่วงนั้นมานเมตต์รู้ตัวดีแล้วว่าไม่น่าจะสานต่องานของครอบครัวได้ แต่ก็ยังไม่กล้าละมือทิ้งไปทั้งหมด อีกทั้งน้องสาวที่เคยพูดกันระหว่างพี่น้องว่าจะเป็นคนรับช่วงต่อธุรกิจครอบครัวก็ยังเรียนไม่จบ ชายหนุ่มเลยรักษาการแทนไปก่อน ควบคู่กับเปิดบริษัทส่วนตัวไป เก็บหอมรอมริบได้ไม่น้อยจึงเริ่มกว้านซื้อที่ดินในเขตจังหวัดสระบุรี ค่อยๆ ลงทุนหว่านพันธุ์องุ่นเริ่มความฝันของตัวเอง แรมปีกว่าจะออกดอกออกผลจึงได้เริ่มบ่ม เริ่มกรรมวิธีที่เรียนรู้มา แม้ว่าผลในครั้งแรกจะไม่ได้ออกมาตามมาตรฐานที่วางไว้ในใจ แต่มานเมตต์ก็ไม่ละความพยายาม ปลุกปล้ำทำจนสำเร็จ แล้วเปิดหน้าร้านขายผลิตภัณฑ์ของตัวเอง ทำเป็นไวน์บาร์เก๋ๆ ที่มีนักดนตรีมาดีดกีตาร์เกลาอารมณ์ในช่วงสุดสัปดาห์ เป็นที่นิยมไม่น้อย

จนไร่ไวน์อยู่ตัวมาได้เกือบห้าปี แบรนด์มั่นคง มานเมตต์จึงตัดสินใจขยับขยายสร้างโรงแรมขึ้นรองรับนักท่องเที่ยว เปิดให้บริการมาจนถึงวันนี้ก็เข้าปีที่สามแล้ว ส่วนในทางทฤษฎี ความฝันอันสูงสุดของชายหนุ่มคือการได้เป็นโพรดิวเซอร์ผลิตไวน์ ที่ทำงานอย่างอื่นมาทั้งหมดก็เพื่อเก็บเงินมาต่อเติมความต้องการของตนเอง เพราะกระดากไม่กล้าขอเงินครอบครัวที่มีมหาศาล เนื่องจากรู้สึกผิดไม่น้อยที่ในฐานะลูกชายคนโตเขากลับหันหลังให้สิ่งที่บรรพบุรุษสร้างมา จึงไม่ขอรับเงินเดือนเงินดาวน์ใดๆ อีกในวันที่น้องสาวมารับช่วงต่อธุรกิจ แต่บิดามารดายังอุตส่าห์ให้หุ้นติดกระเป๋าไว้พอมีปันผล และท่านทั้งคู่ก็ยังทยอยโอนเพิ่มให้เป็นของขวัญวันเกิดในทุกๆ ปี

“ดีมะ อยากไปนั่งชิลชิลกินไวน์ที่ไร่พี่หมากอะ ตอนนี้ท่าทางจะอากาศดี”

“ไว้ไปลอง ใช้ได้นะ แต่ลูกค้ายังไม่รู้ จริงๆ พี่อยากทำเมนูใหม่ๆ แบบร้านดีๆ ในกรุงเทพฯ ด้วย แต่ยังหาคนเก่งๆ ไปช่วยคิดเมนูไม่ออก ส่วนอากาศไม่ต้องพูดถึง ดีที่สุด ไร้ฝุ่นควัน เย็นแล้วด้วยช่วงนี้ เรียกว่าหนาวเลยแหละ” หนุ่มวัยสามสิบแปดบอกรุ่นน้องด้วยแววตาเป็นประกาย ทุกครั้งไม่ว่าจะพูดกับใครเรื่องวิมาน มานเมตต์จะมีความสุขเสมอ

“ดีๆ ส่วนไอ้เรื่องลูกค้ายังไม่รู้ ของงี้ต้องโพรโมตดิพี่ นี่ถ้าไลลาไปรีวิวให้นะ รับรองพรุ่งนี้เต็มเอี้ยดแน่นอน”

ได้ยินแบบนั้นมานเมตต์ก็เงยหน้าจากเอกสารที่เพิ่งเก็บลงกระเป๋าทำงาน มองหน้ารุ่นน้อง ได้ยินชื่อผู้หญิงคนนี้มาหลายครั้ง จนค่อนข้างมั่นใจว่าทั้งคู่น่าจะมีความสัมพันธ์ที่เกินกว่าปกติกัน แต่ธันน์ก็ไม่ยอมรับ เอาแต่ปฏิเสธ บอกว่าเป็นเพื่อนสนิท จนมานเมตต์อดคิดไม่ได้ว่ามันเป็นศัพท์ของเด็กสมัยนี้ในการบอกว่ากำลังคบกันหรือไม่

“แฟนแกอะเหรอ หึ คบนานนิคนนี้” เท่าที่จำได้ก็ไม่ต่ำกว่าสามปี ผิดกับคนอื่นๆ ที่ควงผ่านๆ ครั้งสองครั้ง บางคนเขาเคยพบหน้า แต่ไม่ทันได้รู้ชื่อ แต่คนนี้ได้ยินชื่อมาหลายปี ไม่เคยเจอตัวจริงสักที

“พี่น่ะ...” ธันน์กำลังจะออกปากปฏิเสธรอบที่ล้าน แต่กลายเป็นว่าเสียงเคาะประตูห้องทำงานดังขึ้นสองทีพร้อมกับที่คนที่เขาเพิ่งพูดถึงโผล่หน้าเข้ามาพอดี ยิ่งสนับสนุนข้อสันนิษฐานของมานเมตต์มากขึ้นไปอีก

“ธันน์” เสียงหวานดังขึ้นแบบเอาเรื่องระหว่างผลักประตูเข้ามา โดยไม่ได้มองเลยว่าเพื่อนสนิทมีแขกอยู่ “น่าจะทำที่จอดรถในร่มให้ไลลา ร้อนชะมัด อุ๊ย...” หญิงสาวบ่นระหว่างก้มลงกดมือถือที่พิมพ์ถามพี่สาวทั้งสองว่าจะพาพ่อไปกินข้าววันพ่อที่ไหนไหมในอีกสองวันข้างหน้า ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า จึงได้เงยหน้ามาเห็นว่ามีคนอื่นอยู่ในห้องทำงานเพื่อนรัก “อุ่ย ไลลาขอโทษ นึกว่าธันน์อยู่คนเดียว”

วันนี้คนสวยแต่งหน้าแต่งตัวเยอะเป็นพิเศษเพราะเพิ่งมีภารกิจของครอบครัว มองหน้าชายหนุ่มตอนปลายที่ยืนกอดอกมองหน้าหล่อนอยู่ตอนนี้ นัยน์ตาคมกริบของเขามีบางอย่างที่ไลลาลิณแปลความหมายไม่ออก ระหว่างนั้นก็ส่งกระเป๋าใบย่อมที่บรรจุเสื้อผ้าข้าวของของตัวเองให้ธันน์ที่ลุกขึ้นมาปลดสายกระเป๋าใส่ของขนาดกลาง ออกจากบ่า ยกขึ้นถามเจ้าของที่ผลักภาระให้เขาถือแต่โดยดี

“เอาขึ้นมาทำไร จะเปลี่ยนชุดเหรอ”

ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกกวาดตามองเพื่อนรัก ค่อนข้างจะมั่นใจว่าสิ่งที่ตัวเองถามนั้นถูกต้อง เพราะไลลาลิณสวมเสื้อที่มีตราของช่องสกายเน็ตเวิร์คอยู่ เจ้าตัวคงอยากถอดหัวโขนของบทบาทที่ไม่อยากทำออกเต็มที

“อือ อาบน้ำด้วย ในห้องมีผ้าเช็ดตัวปะ”

“มีสิครับคุณไลลา” เหมือนจะประชด แต่มีความเอ็นดูในแววตา “เอ่อ นี่มารู้จักพี่หมากก่อน ไลลา นี่พี่หมาก เจ้าของแฮปปี้ ฮาวเวอร์ และวิมานที่มวกเหล็ก”

ธันน์แนะนำมานเมตต์ให้เพื่อนรู้จักพร้อมเอ่ยถึงสองกิจการที่มีชื่อเสียงของอีกฝ่าย แฮปปี้ ฮาวเวอร์เป็นบริษัทนำเข้าเครื่องดื่มรายใหญ่ มานเมตต์เป็นตัวแทนจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เกือบทุกชนิดในประเทศไทย อย่างเป็นทางการ ร้อยทั้งร้อยของคนที่ทำธุรกิจร้านอาหาร บาร์ ผับ แม้กระทั่งผู้ประกอบการขายปลีกต่างๆ ก็ต้องสั่งซื้อผ่านบริษัทนี้

ส่วนวิมานคืออีกหนึ่งธุรกิจที่เป็นความฝันอันสูงสุดของมานเมตต์ เริ่มต้นจากการเป็นแค่ไร่องุ่น ระหว่างองุ่นรอโตจนเก็บเกี่ยวได้ มานเมตต์ก็ลงทุนสร้างโรงบ่ม โรงบรรจุไวน์ แล้วสร้างไวน์บาร์เล็กๆ แบบน่ารักหน้าไร่ และเมื่อประมาณปีกว่าๆ นี่เองที่ลงทุนทำโรงแรมแบบบูทีคหรูหรา รองรับเศรษฐีกระเป๋าหนักมีรสนิยมที่อยากเปลี่ยนบรรยากาศ

“สวัสดีค่ะ”

หญิงสาวที่เพิ่งบรรลุนิติภาวะยกมือไหว้คนตรงหน้า ท่าทางของเขาให้กลิ่นอายดุดันน่ากลัว ทั้งที่หน้าตาก็ไม่ได้ใกล้เคียงโจรป่าแต่อย่างใด เรียกได้ว่าหล่อเหลาเอาเรื่อง แม้จะดูคล้ำไปเสียหน่อย ทว่าโครงหน้าชัดแบบผู้ชายที่โตเต็มที่เหมาะกับคิ้วดำพาดผ่านหน้า ไหนจะจมูกโด่งชวนบีบนั่นอีก ขนาดหล่อนเห็นคนหน้าตาดีมาตลอด มีดาราในสังกัดคุณย่าให้ชมตั้งแต่จำความได้ยังต้องบอกเลยว่ามานเมตต์นั้นงานดี มองด้วยตาเปล่ายังรู้เลยว่าภายใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวต้องมีทั้งกล้ามอกกล้ามท้อง แต่จะไม่อยากมองก็เพราะเจ้าตัวทำหน้าดุเป็นครูฝ่ายปกครองอยู่ได้

“หวัดดี” ฝ่ายชายที่อายุอยู่ที่สามสิบตอนปลายยกมือรับไหว้ หน้าตาจิ้มลิ้มแบบนี้นี่เอง ไอ้ธันน์มันถึงตามใจขนาดนี้ “ยินดีที่ได้รู้จักนะ”

“เอ่อ...ค่ะ” ด้านไลลาลิณก็งงไม่น้อย จะมายินดงยินดีอะไร แต่ก็รับคำไปมึนๆ แล้วก็หันไปหาเพื่อนรัก “ไลลาอาบน้ำก่อนนะ ไม่กวนธันน์ละ” แม้เสื้อผ้าที่สวมอยู่จะใส่สบาย แต่มันเป็นเครื่องหมายของการหลอกลวงบางอย่าง หญิงสาวจึงอยากรีบถอดสลัดคราบออกให้เร็วที่สุด

ด้านคนไม่กวนก็คือไม่กวนจริงๆ ปล่อยให้ผู้ชายสองคนพูดเรื่องงานการกันอย่างไม่คิดจะเข้าไปมีส่วนร่วมใดๆ พออาบน้ำเสร็จก็เปลี่ยนชุดจากเสื้อยืดที่ช่องทำขายเอาเงินไปบริจาคมาเป็นเสื้อครอปตัวสั้นเห็นหน้าท้องราบคู่กับกางเกงยีนตัวเดิมเรียบร้อย แต่ยังคงใบหน้าที่แต่งเต็มกับผมที่จัดเข้าทรงมาอย่างดีไว้ แม้จะไม่ชอบประดิดประดอยอะไร แต่ความเป็นผู้หญิงก็ทำให้หล่อนยังรักสวยรักงามอยู่ เพราะมีภารกิจยิ่งใหญ่ที่ดึงความสนใจหล่อนมาหลายวันแล้ว

“ลองดีกว่า เดี๋ยวพี่ให้ลูกน้องเอามาส่ง”

หลังจากหารือกันเรื่องเบียร์ที่จะเอามาลงในอีเวนต์พิเศษที่ธันน์คิดจะทำในช่วงฤดูหนาว มานเมตต์เลยเสนอที่จะให้ธันน์ลองชิมเบียร์ต่างชาติที่นำเข้ามาใหม่หลายยี่ห้อ แล้วกดโทรศัพท์ส่งข้อความบอกลูกน้องให้เอาโควตาของทดลองมาส่งที่ร้านของธันน์

“ก็ดีพี่ เดี๋ยวลองให้แขกวีไอพีชิมคืนนี้ด้วย ไลลาเอาหน่อยไหม ไลลา ไลลา”

ธันน์ไม่วายหันไปถามเพื่อนสนิทที่นั่งดูซีรีส์ผ่านแท็บเล็ตของตนอยู่ ฝ่ายนั้นก็ส่ายหน้าทั้งๆ ที่ตาโฟกัสที่หน้าจอ แต่จำต้องถอดหูฟังออกเพราะธันน์ตะโกนเรียกเสียหลายทีจนรำคาญ ต้องยอมกดหยุดภาพเคลื่อนไหวบนหน้าจอแล้วหันไปพูดกับเพื่อน

“ว่าไงธันน์”

หน้าสวยแสดงความหงุดหงิดจนมานเมตต์นึกเอ็นดู เห็นแล้วละว่าตั้งแต่อาบน้ำแต่งตัวออกมา หญิงสาวก็เดินมาสะกิดขอแท็บเล็ตจากธันน์ แล้วไปนั่งเสียบหูฟังอยู่ที่โซฟาอีกมุมหนึ่งเงียบๆ

“เดี๋ยวพี่หมากจะเอาเบียร์มาให้เทสต์แหละ”

“ไลลาไม่กินเบียร์ไง” ตอบหน้ามุ่ยเพราะมองว่าเป็นเรื่องไร้สาระ มั่นใจว่าชายหนุ่มรู้ดีอยู่แก่ใจว่าหล่อนกินอะไร ไม่กินอะไร แต่ที่กำลังทำอยู่นี่เพราะหาเรื่องกวนใจกันอยู่ต่างหาก

“ให้เขาลองเอามาทำเป็นค็อกเทลได้ ลองชิมที ช่วยกันหน่อยสิไอ้ตูด ดูแต่ซีรีส์นะ ไม่สนใจกันเลยนะ”

ธันน์บ่นแบบไม่เอาจริงกับรุ่นน้องที่เขารักเป็นเพื่อนสนิทคนนี้ ดูแลกันมาหลายปี ไม่ไลลาลิณอยู่เป็นเพื่อนเขา ชายหนุ่มก็คอยตามหล่อนไปโน่นมานี่ ตัวติดกันเสมอ จนทุกคนคิดไปว่าทั้งคู่เป็นแฟนกัน

“อือๆ ก็ได้ อย่ากวนนะ ไลลาเหลืออีกสองตอนเอง”

ไลลาลิณพยักพเยิดตัดปัญหาเพราะกำลังติดพันกับสิ่งที่ดูอยู่มาหลายวันแล้ว กำลังงวดเลยทีเดียว อีกเพียงสองเอพิโสดหล่อนก็จะดูทันตอนที่ฉายอยู่ตอนนี้ พลันก็เห็นว่ามานเมตต์มองมาทางหล่อนด้วยแววตาที่ทำให้ต้องถลึงตากลับไปโดยไม่รู้ตัว เล่นเอาผู้ชายตัวโตชะงักไปเพราะกิริยานั้นของหล่อน แต่หูก็ฟังเรื่องที่ธันน์กำลังโฆษณา

“ผมเคยบอกพี่แล้วชะมะว่าไลลาเป็นฟูดบล็อกเกอร์ เป็นบาร์ซีกเกอร์ ให้มันชิมเมนูเด็ดๆ ถ้ามันชอบแล้วถ่ายลงไอจีให้นะ รับรองร้านผมเต็มทันที”

“หลายรอบละ” มานเมตต์หันไปตอบรุ่นน้อง ก็ไม่รู้กี่ครั้งกี่หนที่ธันน์เอ่ยสรรพคุณต่างๆ มากมายของสาวน้อยคนนี้ จนหนุ่มใหญ่มั่นใจว่าต้องมีอะไรเกินเลยแน่ๆ ถึงได้พูดถึงกันด้วยความภูมิใจแบบนี้ “ว่าแต่ถ้าแน่ขนาดนี้ฝากเขียนรีวิวร้านพี่ทีสิ ส่วนใหญ่คนไม่ค่อยรู้ว่าขายอาหารด้วย”

เขาหมายถึงไวน์บาร์ที่ชื่อ ‘วินเนอรี่’ ซึ่งตั้งอยู่ปากทางเข้าไร่ของตนเอง น้อยคนนักที่จะรู้ว่าร้านนั้นมีอาหารขาย จะทราบก็แต่แขกที่เข้าพักในโรงแรมแล้วขอข้อมูลว่ามีร้านอาหารที่ไหนใกล้พื้นที่บ้าง ส่วนมากก็คิดว่าเป็นหน้าฉากที่มานเมตต์เปิดไว้วางขายไวน์ที่เขาผลิตเองซึ่งมียี่ห้อว่า ‘วิน วิโน’ ยิ่งตอนนี้มานเมตต์เพิ่งจ้างเชฟมาใหม่ มีทักษะการทำอาหารมากขึ้นกว่าคนเดิม ตั้งใจว่าจะพัฒนางานที่ร้านไวน์ให้เติบโตไปอีกขั้น แต่ก็ยังนึกไม่ออกว่าต้องทำอย่างไรให้ลูกค้าในพื้นที่สนใจมากขึ้น

“เอ่อ ไม่รู้สิ อันนี้พี่ต้องถามมันเอง ผมไม่ก้าวก่าย เดี๋ยวไลลาบ่น รำคาญหู”

“ไม่มีแบบจ้างกินเหรอวะ เดี๋ยวแถมห้องพักที่วิมานให้ด้วย”

เพราะทำงานในวงการธุรกิจนี้ มานเมตต์เลยทราบดีว่าในส่วนของการรีวิวอาหารร้านค้าต่างๆ บางแอกเคานต์ก็รีวิวอวยร้านที่ให้กินฟรี แต่จริงๆ รสชาติอาจจะไม่ได้เรื่องเลย

“มี แต่ถ้าไม่ใช่ร้านที่ไลลาอยากกิน มันก็ไม่ไป เห็นไลลาแบบนั้นก็พอมีจรรยาบรรณนะพี่ ถ้ามันไม่ชอบ มันก็ว่าเอาให้ตรงๆ”

“เหรอ แล้วรู้ได้ไงว่าไอ้ค็อกเทลที่จะให้เขาชิม...” มานเมตต์พยักพเยิดไปทางคนที่นั่งขัดสมาธิจิกหมอนอมยิ้มดูซีรีส์ “...มันจะถูกใจเค้า ไม่กลัวเค้าด่าลงไอจีหรือไง”

“ถูกใจดิพี่ บาร์เทนเดอร์ใหม่คนนี้ ไลลาก็จีบมาให้ผม เป็นมือรางวัลเลย เดี๋ยวพี่หมากลองดูละกันว่าไอ้อันที่มันบอกอร่อยน่ะ จะดีจริงๆ ไหม”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น