คำที่ 1
“อันนี้อร่อยอะ”
ไลลาลิณพูดขณะยกแก้วเครื่องดื่มที่ธันน์เลื่อนมาให้ ตอนนี้คนทั้งสามย้ายลงมานั่งที่บาร์ในร้านซึ่งยังไม่เปิดบริการ แต่ก็ใกล้เต็มที ค็อกเทลสูตรใหม่นี้บาร์เทนเดอร์คิดให้เข้ากับเบียร์ยี่ห้อล่าสุดที่มานเมตต์เพิ่งนำเข้ามาจัดจำหน่ายในประเทศไทย ซึ่งธันน์บอกว่ากินแบบเป็นเบียร์ธรรมดาก็อร่อยอยู่แล้ว แต่ในเมื่อไลลาลิณไม่แตะเครื่องดื่มชนิดนั้นเลยแม้แต่น้อยจึงไม่อาจให้ความเห็นได้ แต่พอมาดัดแปลงเป็นเครื่องดื่มชนิดอื่นก็ดื่มได้ไม่มีปัญหา ซึ่งได้กลายเป็นส่วนสำคัญในการติชม เพราะธันน์มั่นใจในตัวหล่อนมากกว่าร้อยเปอร์เซ็นต์เรื่องรสนิยมการกินดื่ม
“เบาๆ เมาไปไม่แบกนะ เจ็บข้อมืออยู่”
เมื่อสายๆ ชายหนุ่มใช้เวลาในยิมส่วนตัวที่คอนโด แต่วันนี้ขี้เกียจเรียกเทรนเนอร์มาควบคุมดูแลการออกกำลังกาย เลยทำให้ผิดพลาดเล็กน้อย จึงต้องออกปากบอกหญิงสาวไว้ก่อน เพราะเห็นแบบนี้ไม่ได้เก่งกล้าคอแข็งมาจากไหนหรอก
“ไม่เมาหรอกน่า ไลลาโดนเทรนมาอย่างดีนะ”
แม้จะอายุเลยยี่สิบมานิดเดียว แต่งานสังคมมากมายที่สมาชิกในครอบครัวมักลากหล่อนไปด้วยทำให้ไลลาลิณมีโอกาสได้ลิ้มรสเรียนรู้ ไม่นับงานเลี้ยงที่บ้านที่จัดปีหนึ่งๆ ไม่รู้กี่สิบครั้ง จิบไปก็ถ่ายรูปแก้วไป เก็บไว้เป็นสต๊อกที่จะลงในอินสตาแกรม@dineoutthereของหล่อน ปกติจะลงอะไรให้ใครต้องแน่ใจว่าดีจริง แต่กับธันน์ อะไรที่ช่วยส่งเสริมได้ ต่อให้รสชาติไม่ได้ว้าวขนาดนั้น แต่หล่อนก็ยอมอวยให้ธุรกิจของเพื่อนเสมอ
“หึ ตอนวันเกิดปีที่แล้วก็แทบล้มนะ ลืมหรือไง”
วันเกิดปีก่อนเป็นปีที่ไลลาอายุครบยี่สิบปีบริบูรณ์ ซึ่งนอกจากงานเลี้ยงปีใหม่ที่จัดควบรวมกับงานวันเกิดของหญิงสาว พอเป่าเค้กเสร็จไลลาลิณกับธันน์ก็แอบออกมาฉลองต่อกันที่ร้านของเขา สุดเหวี่ยงชนิดที่ชายหนุ่มแทบจะต้องอุ้มหล่อนพาดบ่ากลับไปนอนที่คอนโด ไม่กล้าพากลับไปส่งบ้านในสภาพสิ้นชีพเช่นนั้น เพราะนอกจากไลลาลิณที่เมาตาย เขาอาจจะโดนคุณย่าเอาตายเช่นเดียวกัน
“แล้วไง มีธันน์อยู่ หน้าที่ธันน์อะแหละ”
ไลลาลิณยักไหล่พลางยกแก้วค็อกเทลสีเหลืองละมุนขึ้นดื่มทีเดียวหมด ส่งผลให้แก้มที่มีสีสันอยู่แล้วแดงเรื่อมากยิ่งขึ้น เรียกความสนใจจากมานเมตต์ที่นั่งอีกฝั่งของธันน์ แม้จะไม่มีบทสนทนาอะไรเลยระหว่างเขากับไลลาลิณ แต่บางอย่างทำให้สมาธิของชายหนุ่มโดนตรึงไว้โดยหล่อนตลอดหลายชั่วโมงที่ผ่านมา โดยที่ยังตอบไม่ได้เลยว่าเป็นเพราะเหตุผลใด จะว่าสวย สวยกว่านี้ก็เจอมาแล้ว จะบอกว่าพูดจาถูก คอหล่อนกับเขาก็ไม่ได้พูดอะไรกันอีกเลย จะว่ากิริยามีจริตจะก้าน ก็ต้องพูดเลยว่ายายคนนี้ออกจะดูดีดกะโหลกด้วยซ้ำ
“พี่หมากล่ะว่าไง ใช้ได้มะ”
“อืมดี แต่พี่ไม่ค่อยถนัดค็อกเทล” ชายหนุ่มตอบตามความจริง แล้วดึงความคิดของตัวเองออกมาจากคนที่ส่งกลิ่นหอมมาถึงตรงนี้ เสียสมาธิอย่างที่ไม่ค่อยได้เป็นมาก่อน
“ทราบครับว่าพี่ชายน่ะสายไวน์ เอ่อไลลา พี่หมากมีไวน์บาร์ที่มวกเหล็กด้วยนะ”
ได้ยินแบบนั้นไลลาลิณก็ชะโงกหน้าผ่านธันน์มามองเสี้ยวหน้าด้านข้างของคนตัวโตที่แต่งตัวเรียบร้อยในชุดเสื้อเชิ้ตขาวกับกางเกงดำ ราวกับมาขายประกัน แต่กลับดูดี ดูสมาร์ตไม่น้อย
“เหรอคะ มีคนกินเหรอแถวนั้น มวกเหล็กนี่ที่ไหนธันน์ สระบุรีปะ”
ปากเสีย...นี่คือสิ่งที่พุ่งขึ้นมาในใจของมานเมตต์ทันที แต่ก็ไม่ได้ตำหนิออกไป อย่างไรเสียเด็กนี่ก็เป็นแฟนของธันน์
“ก็มี ผมขายไวน์ของผมด้วย”
ชายหนุ่มขยับปกเสื้อให้เข้าที่เข้าทาง เหล่มองคนที่ก้มหน้าก้มตาชิมเครื่องดื่มและจัดที่ทางถ่ายภาพจนชักจะหงุดหงิด รำคาญเด็กรุ่นนี้ที่เอะอะอะไรก็ต้องถ่ายภาพอัปโซเชียลให้คนทั้งโลกรู้ โดยลืมไปว่าไลลาลิณนั้นเป็นบล็อกเกอร์ชื่อดัง
“ไวน์ของผมคือไร ไวน์ที่นำเข้ามาอะเหรอ” ไลลาลิณเลิกคิ้วถาม ระหว่างนั้นก็ลากแก้วค็อกเทลชนิดใหม่ที่อยู่ตรงหน้าธันน์มาหาตัว ยิ้มแหยตอนเพื่อนตีมือเข้าให้ แต่ก็ไม่สนใจ “มีคนซื้อเหรอ”
“ไม่ใช่” มานเมตต์เผลอเสียงแข็งใส่ แม่คนหน้าดี แต่ปากโคตรไม่ดี นี่ถ้านั่งอยู่ข้างๆ จะเอามือตีปากสักทีสองทีที่พูดเลื่อนเปื้อน “ผมปลูกไร่องุ่น บ่มไวน์ มีแบรนด์ของตัวเอง”
มานเมตต์ขยับตัวหน้าตึงระหว่างตอบ ยายเด็กนี่ปากไม่ดีอย่างแท้จริง ไม่รู้หรือไงว่าคนทำธุรกิจเขาถือ ไม่ให้พูดจาแบบนี้กัน
“อ๋อ ฮือ ธันน์ อันนี้แรงอะ”
ไลลาลิณขานรับสิ่งที่มานเมตต์เพิ่งอธิบายแบบขอไปที แล้วก็หันไปคอมเมนต์รสชาติเครื่องดื่มกับธันน์ต่อ
“แรงก็ไม่ต้องกิน ข้าวก็ยังไม่กิน เดี๋ยวก็ปวดท้องหรอก”
“อือ ก็จริง สั่งอะไรมากินกันดีกว่า ธันน์อยากกินไร”
“ตามใจเถอะ พี่หมากล่ะครับ อยากกินไรเป็นพิเศษไหม”
เพราะหมั่นไส้ที่เจ้าตัวเห็นเขาเป็นเหมือนอากาศธาตุ พูดจากสนทนากันแบบไว้ตัวเหลือเกิน มานเมตต์เลยประชดด้วยการเพิ่มคำนำหน้านามให้สาวน้อยคนสวยของธันน์ โดยไม่ได้รู้เลยว่าไลลาลิณที่เขาคิดว่าไม่สนใจอะไร ฟังแล้วฉุนขึ้นหัวทันที
“แล้วแต่คุณไลลาเถอะ พี่ไม่ใช่คนเรื่องมากกินยาก ยังไงก็ได้”
ในระยะเวลาไม่ถึงสี่สิบนาที โซนวีไอพีสุดในนิชคลับสุดหรูของธันน์ก็กลายเป็นโต๊ะอาหารที่มีสตรีตฟูดมากมายวางอยู่ แม้จะมีอาหารปริมาณมาก แต่เจ้าของสถานที่ก็บอกให้รีบกิน เพราะหากแขกเข้าร้านแล้วจะดูน่าเกลียด แถมยังไม่ต้องการให้มีกลิ่นอาหารคาวอวลอยู่ในร้านด้วย
“เจ้าเดิม?” ธันน์ถามระหว่างเลื่อนจานมาตรงหน้าตัวเองอย่างรู้งานหลังจากเห็นว่าไลลาลิณถ่ายรูปอาหารทุกจานเรียบร้อยแล้ว ถ้าจ้วงช้อนทำลายภาพสมบูรณ์ของอาหาร เขานี่ละจะโดนหญิงสาวตักข้าวผัดกะเพราที่ดูเหมือนอาหารง่ายๆ เข้าปาก แต่ใครจะรู้ว่าไอ้อาหารตามสั่งหน้าตาปกตินี่สั่งยากสั่งเย็นแค่ไหน
“เจ้าเดิมสิ ไลลาเคยกินของที่อื่นหรือไง”
เพราะกินแต่ของอร่อย หล่อนเลยไม่ยอมเสียแคลอรีไปกับอะไรที่ไม่คู่ควรเด็ดขาด ดังนั้นต่อให้เป็นอาหารตามสั่งง่ายๆ แบบข้าวกะเพรา ไลลาลิณก็เรื่องเยอะ กินแต่ร้านที่มั่นใจในรสชาติและคุณภาพ ไม่มีการดัดแปลงใดๆ อย่างเช่นอาหารที่สั่งมานี้ หล่อนงงมากมายเมื่อบางร้านใส่ทั้งถั่วฝักยาวและข้าวโพดอ่อนมาในกะเพรา หนักข้อเข้าบางทีก็มาแม้กระทั่งแคร์รอตและหอมใหญ่ เติมสีด้วยซีอิ๊วดำจนผิดเพี้ยนไปหมด ทั้งๆ ที่จริงๆ แค่คั่วพริกขี้หนูกับกระเทียมตำหยาบในน้ำมันร้อน ใส่เนื้อสัตว์ แล้วปรุงรสด้วยน้ำปลาชั้นดี ก่อนจะใส่ใบกะเพรา เพียงเท่านี้ก็เสร็จแล้ว
“เขาบอกสั่งยากไม่ใช่เหรอ”
“ใช่สิ แต่นี่ไลลานะ ไลลาไลน์หาพี่เขา เขาเลยทำให้เป็นกรณีพิเศษ แต่ธันน์อย่าไปบอกใครนะ เดี๋ยวพี่เขาโดนบูลลี”
ปกติการจะสั่งอาหารจากร้านอร่อยหลายร้านต้องไลน์จองคิวที่จะได้กินในแต่ละวัน เพราะเจ้าของร้านทำปริมาณจำกัด ต้องส่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างไปรอรับออร์เดอร์ตั้งแต่สิบเอ็ดโมง แต่ถ้าเป็นไลลาลิณนั้น เชฟที่ไหนก็อยากทำกับข้าวให้กิน
“บุญปากแท้ๆ ขอบคุณครับ เพื่อนรักคนสวย เอาสักหน่อยมะ”
เพราะเห็นว่าหญิงสาวสั่งอาหารมาแค่สองที่เลยถามด้วยความเอาใจใส่ เมื่อจานหนึ่งไลลาลิณส่งมอบให้มานเมตต์ไปแล้ว แม้หญิงสาวจะไม่ได้พูด แต่กิริยาที่เลื่อนข้าวผัดกะเพราเนื้อสับมีไข่เป็ดดาวไปตรงหน้าหนุ่มใหญ่ พร้อมกับดันข้าวต้มชามโตไปให้คนตัวโตอีกอย่าง ก็เป็นอันรู้ว่าไลลาลิณจัดแจงไว้ให้มานเมตต์
“เก็บไว้ให้คำนึงพอ ไลลาจะกินข้าวต้มนี่ก่อน”
ข้าวต้มปลาเก๋ามาจากภัตตาคาร ‘ตั้งใจอยู่’ ที่เยาวราช ร้านดั้งเดิมที่ไลลาลิณไปกินกับคุณย่าตั้งแต่จำความได้ ส่งควันและกลิ่นหอมฉุย เจ้าตัวเตรียมพุ้ยเข้าปากเพราะกระเพาะเรียกร้องอาหารจริงๆ ไม่ใช่ถั่วกับกระเจี๊ยบอบแห้งที่กินแกล้มเครื่องดื่มมาตลอดสองชั่วโมง
“ขอคำนึงดิ” ไม่ใช่ไม่รู้ แต่ธันน์แค่อยากแกล้ง ยื่นมือเตรียมจ้วงช้อนลงในชามข้าวต้มของอีกคน
“ไม่ให้ธันน์กินนะ” ไลลาลิณร้องเสียงหลง เลื่อนชามหนีแทบไม่ทัน
หน้าสวยบึ้งตึงทันที ความเป็นโรคจิตของหล่อนคือไม่ชอบแชร์อาหารกับใคร ไม่ชอบให้ใครมากินข้าวในจานหล่อน แต่หากไลลาลิณอยากจะชิมของคนอื่นกลับไม่รู้สึกติดขัดอะไร
“ไอ้ตูด ทีตัวเองกินของคนอื่นนะ กินไปเลย งกนักก็กินให้หมด”
ธันน์เห็นอาการเพื่อนแบบนั้นก็อดไม่ได้ ว่าปนขำออกมาก่อนจะรับประทานอาหารที่ไลลาลิณสั่งมา โดยที่เจ้าตัวคิดเองเออเองเสร็จสรรพว่าหากจะต้องทดลองเครื่องดื่มกันต่อไปก็ควรจะกินอะไรที่มีคาร์โบไฮเดรตรองท้องแบบหนักๆ เพื่อป้องกันการสึกหรอของ
กระเพาะและชะลอการเมา หล่อนเลยสั่งข้าวผัดกะเพราจากร้านที่กำลังเลื่องชื่อทั้งรสชาติและวิธีการที่จะได้มา เชฟเป็นทายาทร้านอาหารชื่อดัง ออกมาต่อยอดทำอะไรง่ายๆ ที่ขายได้มาก เพิ่มเติมด้วยข้าวต้มปลาคุ้นลิ้นที่กินมาตั้งแต่เด็ก ถุงใหญ่เกินพอดี แต่ไลลาลิณก็ไม่คิดแบ่งใคร นอกจากนั้นยังสั่งชีสและแฮมรมควันหลายชนิดจากร้านดังแถวอโศกมาให้สองหนุ่มเป็นกับแกล้มอีกด้วย
“เดี๋ยวถ้าดึกๆ หิวอีก ให้ไลลาพาไปกินข้าวต้มตรงซอยห้าห้า” ซอยนั้นก็คือซอยสุขุมวิทห้าสิบห้าที่มีร้านข้าวต้มรอบดึก ซึ่งหากไลลาลิณมาแกร่วอยู่กับเขาที่ร้าน พอนิชคลับปิดก็มักจะพากันไปกินเสมอๆ “พี่หมากเคยกินไหม”
“เคยสิ ร้านแสงชัยใช่มะ หนุ่มๆ นี่กินบ่อยเลย เที่ยวเสร็จก็แวะตบเบียร์กับข้าวต้มก่อนกลับบ้าน” มานเมตต์ตอบแบบเป็นกันเอง โดยไม่ได้รู้เลยว่าไลลาลิณเงยหน้าขึ้นมองเขาผ่านชามข้าวของตัวเอง ใครจะไปเชื่อว่าคนนิ่งขรึมหน้าดุแบบนี้จะมีมุมสำมะเลเทเมากับคนอื่นเขาเหมือนกัน นึกว่าตกดึกจะแปลงร่างเป็นแดร็กคูลาออกหากิน ท่าทางเหมือนจะงับคนตลอดเวลา
“ใช่ๆ พี่ แล้วนี่ข้าวเป็นไง อร่อยไหม”
“ดี ไม่น่าเชื่อ หน้าตาธรรมดาๆ ไม่คิดว่าจะอร่อยขนาดนี้” ขณะพูดท้ายประโยคมานเมตต์หันไปมองหน้าคนที่แอบเหล่เขาอยู่
เมื่ออีกฝ่ายโดนจับได้ก็ทำหน้าเบ้ หมั่นไส้เขาเต็มแรง กล้าพูดมาได้อย่างไรว่าไม่คิดว่าจะอร่อย หากเป็นสิ่งที่หล่อนเลือกไม่มีเสียละที่จะมีใครมาพูดคำนั้นได้
“อร่อยก็เอาให้หมดเลยพี่ ถ้าลุยทำเมนูใหม่เสร็จได้ จะได้สั่งของจากพี่ได้เลยวันนี้”
“ที่สุด อยากให้ชิมเลย เอาจริงๆ”
มานเมตต์ที่เริ่มมึนไม่ต่างกับธันน์เอ่ยปากบอกหลังจากลองชิมแชงเกรีย หรือไวน์พันช์ ซึ่งเป็นเครื่องดื่มที่นิยมดื่มกันทั่วไปในสเปนหรือโปรตุเกส โดยใส่ผลไม้หั่นเป็นชิ้นลงในไวน์ และอาจผสมบรั่นดีหรือเหล้าชนิดอื่นๆ ลงไปด้วย หนุ่มใหญ่นำเสนอว่าหากใช้ไวน์ที่ไร่ของเขาผลิตจะได้รสชาติที่ดีกว่านี้
“จริงอะ ไลลาไม่เชื่อหรอก นี่ไวน์ตัวนี้ไม่ธรรมดานะ”
คนช่างกินช่างดื่มชี้ไปที่ส่วนผสมที่ใช้ในวันนี้ จะเป็นไปได้อย่างไรที่ไวน์บ้านๆ แบบนั้นจะมาอร่อยกว่าเครื่องดื่มที่หล่อนกำลังจิ้มผลไม้ขึ้นกินแก้วนี้
“ไม่เชื่อก็ลองไปกินสิ” คนโดนปรามาสมองด้วยหางตาพร้อมตอบเสียงแข็ง ไลลาลิณนี่เหมือนคนล้านบุคลิก วินาทีหนึ่งก็ทำท่าทางน่ารักให้เอ็นดู อีกวินาทีก็พูดจาราวกับจะดูถูกผลิตภัณฑ์ของมานเมตต์ พออีกวินาทีก็ทำเหมือนเจ้าของ ‘วิมาน’ ที่สาวน้อยสาวใหญ่หมายตารู้สึกเหมือนกับเป็นอากาศธาตุ ไร้ตัวตน ไม่มีความหมาย แม้ว่าเขาจะไม่ใช่พวกเจ้าชู้ประตูดิน หรือเป็นเพลย์บอยฟัดไม่ยั้ง แต่หากเจอคนถูกตาก็ไม่อิดออดที่จะเรียนรู้จิตใจ เพียงแต่หลังๆ นอกจากจะวุ่นวายเรื่องงานบริษัทต่างๆ นานา มาตรฐานเกี่ยวกับผู้หญิงของมานเมตต์ก็สูงเสียเหลือเกิน ดูจากคนหลังสุดที่เขาตกหลุมชอบก็คุณแสนวิเศษ ซึ่งตอนนี้เป็นมาดามปริวรรตไปเรียบร้อยแล้ว
“แล้วถ้าไม่อร่อยอะ” ไลลาลิณเปรยพลางดันแก้วที่หล่อนกินผลไม้ที่ตัวเองชอบจนหมดแล้วให้เพื่อนที่มีหน้าที่รับช่วง “ธันน์อะ กินต่อที”
ธันน์ยื่นมือรับแก้วเครื่องดื่มมาอย่างรู้งาน ไลลาลิณก็แบบนี้ กินอะไรดื่มอะไรแค่คำสองคำ ที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของเขาที่ต้องรับผิดชอบกินให้หมด
“ถ้าไม่อร่อยก็ด่าลงไอจีเราไปเลยสิ”
มานเมตต์กล้ายื่นคำท้าให้คนตัวเล็กที่ลุกขึ้นขยับร่างกายตามท่วงทำนองเพลง โชว์หน้าท้องแบนราบ เอวเล็กแค่ฝ่ามือ โยกย้ายส่ายสะโพก มองเพลินตาเขาไม่พอ บรรดาลูกค้าของธันน์ทั้งหลายก็จ้องตาไม่กะพริบ แถมยังสะกิดกันให้เดินหน้าเข้ามาหาสาว ในขณะที่ไลลาลิณไม่ได้รู้เนื้อรู้ตัว คนแก่สุดเลยต้องสะกิดให้ธันน์เรียกหล่อนกลับมานั่งดีๆ
“แน่ใจ๊? ร้านคุณไม่ได้ผุดได้เกิดเลยนะ ถ้าไลลาด่าอะ”
“ผมพนัน”
“โห นี่ถ้าพี่หมากถึงขั้นกล้าพนันแบบนี้มันต้องอร่อยจริงๆ นะ ไลลาว่าไง รับพนันไหม มา นั่ง นั่ง พูดกันให้รู้เรื่องก่อน”
ธันน์เองด้วยความที่นั่งหันหลังให้แขกส่วนใหญ่จึงไม่รู้ว่าเพื่อนรักกำลังถูกคนอื่นลวนลามทางสายตา เพราะไม่เช่นนั้นคงไม่ต้องรอให้มานเมตต์เตือน แต่พอเขารู้ก็รีบดึง ‘ไอ้ตูด’ กลับมานั่งเข้าที่ให้เรียบร้อย หญิงสาวก็ยอมให้เพื่อนดึงกลับมานั่งจุ้มปุ๊กที่โซฟาแต่โดยดี
พลางพยักหน้ารับคำท้าที่อีกคนส่งมา ทั้งอยากรู้อยากลอง ทั้งน้อยอกน้อยใจในเรื่องบางเรื่องที่ธันน์ก็คงรู้ แต่ยังไม่พูดออกมาเพราะมีบุคคลอื่นนั่งอยู่ด้วย
“รับ”
ธันน์เองก็คะนองถามต่อทันทีที่ไลลาลิณรับพนัน “ไปกันเลยไหมล่ะ ไหนๆ ก็ไหนๆ ไลลาว่าไง วันไหนดี วันนี้เลยไหมล่ะ”
“จริงๆ...” ไลลาลิณทบทวน วันที่สำคัญคือวันพ่อซึ่งจะถึงในอีกสองวันข้างหน้า แต่ตั้งแต่ตอนที่หล่อนไลน์ถามพี่ๆ ไปจนถึงตอนนี้ อย่าว่าแต่ไม่มีใครตอบกลับมา แต่ยังไม่มีใครเปิดอ่านข้อความเลยด้วยซ้ำ ดังนั้นมาอีหรอบนี้ก็คงไม่มีใครสนใจอะไร ไปต่างจังหวัดสักสัปดาห์ก็คงยังไม่รู้กันเลยมั้ง “...ไลลาก็ไม่มีอะไร จะไปไหนก็ได้ อยากไปก็ไปกันเลยดิ”
ความคิดเห็น |
---|