3

ทะเบียนสมรส

บทที่ 3

ทะเบียนสมรส

 

          เมื่อแสงแรกของวันสาดส่องทะลุม่านโปร่งของโรงแรมหรูคนตัวเล็กก็เริ่มขยับ ความเหนื่อยล้าทำเอาเธอเมื่อยไปทั้งตัว ขาเองก็ปวดตึงจากการใส่ส้นสูงยืนและเดินไปมาตลอดระยะเวลาเกือบสี่ชั่วโมงในงานแต่งงาน..

          งานแต่งงาน!!

          พลอยชมพูทะลึ่งพรวดลุกขึ้นนั่ง เมื่อนึกได้ถึงอะไรบางอย่างที่เกิดขึ้นในยี่สิบสี่ชั่วโมงที่ผ่านมา นัยน์ตาหวานกวาดมองหาใครอีกคนที่น่าจะอยู่ในห้องนี้ เธอถอนหายใจเมื่อไม่พบก่อนจะสะดุ้งเมื่อประตูห้องเปิดออกพร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามา

          “พี่ไปหาเสื้อผ้ามาให้ อาบน้ำแต่งตัวเสีย ตอนนี้พ่อแม่พี่แล้วก็แม่น้องพลอยรอเราอยู่ที่บ้านแล้ว เจ้าหน้าที่เขตก็มาแล้วด้วย” ธีระพัฒน์พาดชุดไว้ตรงปลายเตียง ส่วนตัวเขาเองนั้นอยู่ในชุดเชิ้ตแขนยาวปลดกระดุมแขนกับกางเกงขายาวสีเข้ม 

          “หาตัวพี่เพชรเจอแล้วเหรอคะ!” นัยน์ตาหวานเป็นประกายวาววับ ก่อนจะรีบเอ่ยแก้ “พลอยหมายถึง…พี่เพชรไปรออยู่ที่นั่นแล้วใช่ไหมคะ” 

          ธีระพัฒน์ไม่ตอบ เพราะเขาไม่รู้ และไม่คิดจะสนใจเสียด้วย ทว่าในใจของเขากลับรู้สึกประหลาดเมื่อท่าทางของพลอยชมพูนั้นดูเหมือนเป็นการปฏิเสธเขาทางอ้อม

          “น้องพลอยไม่อยากจดทะเบียนกับพี่ขนาดนั้นเชียวเหรอ” ธีระพัฒน์เปรย น้ำเสียงเข้มดุ นัยน์ตาคมก็ดูจะกร้าวขึ้นฉับพลัน ในขณะที่พลอยชมพูยังงงงัน ชายหนุ่มก็เสริมต่อ 

“ลุกไปอาบน้ำ พี่ให้เวลาสิบนาที แล้วเราจะไปด้วยกัน”

 

         เป็นอย่างที่ธีระพัฒน์ได้บอกไว้ คุณสมบัติ คุณหญิงนฤมล และคุณหญิงรัตนอยู่กันพร้อมหน้าที่คฤหาสน์ของตระกูลภคเวชกุล พร้อมกับเจ้าหน้าที่เขตที่จะมาดำเนินเรื่องการจดทะเบียนสมรสให้ทั้งสองตระกูล พลอยชมพูกังวลมากเกินกว่าจะสนใจความหรูหราโอ่อ่าที่ตระกูลของธีระพัฒน์มี นัยน์ตาหวานกวาดมองหาร่างเปรียวของผู้เป็นพี่

         แต่ก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของเพชรน้ำหนึ่ง..

         พลอยชมพูสบตากับผู้เป็นแม่ แต่คุณหญิงรัตนก็ยังคงยิ้มแย้ม

         “ตาธีร์ เราสั่งห้ามพวกนักข่าวเข้ามาหรือ” 

เมื่อลูกชายตัวดีก้าวเข้ามาในตัวคฤหาสน์ คุณหญิงนฤมลก็ลุกพรวดเข้าไปหา เพราะนักข่าวที่คุณหญิงติดต่อไว้ถูกโทร. ไปสั่งห้ามย่างกรายเข้ามาในคฤหาสน์ของตระกูลในวันจดทะเบียนสมรสของเขา ทายาทร้านเพชรพันล้านจะแต่งงานทั้งที มันจะต้องเป็นข่าว และคุณหญิงนฤมลอยากให้พวกนักข่าวเขียนข่าวอย่างที่เธอบอกให้เขียนมากกว่าให้พวกเขาไปเต้าข่าวกันเอง แต่ก่อนที่คุณหญิงนฤมลจะต่อว่า เธอก็เหลือบไปเห็นพลอยชมพูที่เดินตามหลังธีระพัฒน์มาอย่างแอบๆ 

        “นั่นหนูพลอยนี่ ทำไมมาพร้อมตาธีร์ได้ล่ะ” คุณหญิงนฤมลถาม 

พลอยชมพูยกมือไหว้ เธอส่งรอยยิ้มเจื่อนแบบที่ไม่รู้จะตอบเช่นไรดีให้คุณหญิงนฤมล 

“แล้วหนูเพชรไปไหนเสียล่ะหืม” 

         “เพชรน้ำหนึ่งไปไหนนั้น ธีร์ว่าต้องถามเอาจากคุณหญิงรัตนน่าจะรู้เรื่องกว่า” ธีระพัฒน์ตอบแทนหญิงสาวพลางมองคุณหญิงรัตนด้วยสายตาไม่ไว้วางใจนัก

         ใครว่าเขาไม่รู้ คุณหญิงรัตนยัดเยียดลูกสาวของตัวเองมาให้เขาก็เพราะหวังในทรัพย์สินของตระกูลภคเวชกุล 

          แต่ที่ธีระพัฒน์สงสัยนั้นคือ เพชรน้ำหนึ่งไปไหน แล้วทำไมถึงกลายเป็นพลอยชมพู

          “ดิฉันก็ไม่ทราบเช่นกันค่ะ” คุณหญิงรัตนตอบหน้าซื่อ “แล้วเราจะเริ่มจดทะเบียนกันได้หรือยังคะ ตอนสายๆ ดิฉันมีนัดต่อนะคะคุณพี่” 

          “เอ๊ะ จะได้อย่างไรล่ะ ในเมื่อตัวเจ้าสาวยังไม่มา แล้วจะให้ลูกชายฉันจดทะเบียนกับผีสางที่ไหนหรือ” คุณหญิงนฤมลสวนอย่างไม่พอใจนัก ทำให้สมบัติพยายามปรามภรรยา เพราะอย่างไรนั่นก็คือภรรยาของคนที่ช่วยเหลือครอบครัวของเขามาก่อน 

          คุณหญิงรัตนยิ้มหยัน

          “ก็นั่นไงล่ะคะเจ้าสาว” พยักพเยิดไปทางพลอยชมพูที่แอบอยู่หลังร่างสูงของธีระพัฒน์ ทำให้หญิงสาวรีบขยับเพื่อหลบสายตาทิ่มแทงของคุณหญิงนฤมล

          “คุณหญิงกรุณาอย่าพูดเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ค่ะ ดิฉันก็เห็นอยู่ หนูเพชรน้ำหนึ่งเข้าพิธีสมรสกับตาธีร์ไปหมาดๆ”

          “ช่วงเช้าน่ะใช่ แต่งานเย็นเกรงว่าจะไม่นะคะ” 

          “คุณหญิงหมายความว่าอย่างไร” คุณหญิงนฤมลย้อนถาม ความเคลือบแคลงใจปรากฏบนสีหน้า 

  คุณหญิงรัตนยักไหล่

           “ก็ลองถามลูกชายคุณพี่ดูสิคะ ว่าเมื่อคืนเข้าห้องหอกับใคร”

           ปัญหาถูกโยนมาให้ชายหนุ่มเพียงหนึ่งเดียวที่ยืนนิ่งมาตลอดการสนทนา ผู้ใหญ่ทั้งสามตวัดตามามองคู่ชายหญิงที่มาพร้อมกัน 

           “ว่าไงตาธีร์” คุณหญิงนฤมลคาดคั้น แต่เธอรู้ว่าถ้าตาธีร์ไม่อยากพูด เขาก็จะไม่พูด เป้าหมายจึงถูกเปลี่ยนไปเป็นคนที่ยืนอยู่ใกล้ๆ แทน 

 “ว่าไงหนูพลอย”

          พลอยชมพูเริ่มสั่น เธอสั่นจนธีระพัฒน์ที่อยู่ติดกันรู้สึกได้ มือเล็กเกาะแขนเสื้อของเขาแน่น นัยน์ตาหวานหันไปมองผู้เป็นแม่อย่างวิงวอนขอความช่วยเหลือ แต่คุณหญิงรัตนไม่ใส่ใจเธอเลยเสียนิด 

          ธีระพัฒน์สงสัยในความสัมพันธ์ของแม่ลูกคู่นี้เสียเหลือเกิน 

          “หนูพลอย” น้ำเสียงของคุณหญิงนฤมลเริ่มดุเมื่อความไม่พอใจพลุ่งพล่าน 

 พลอยชมพูก้มหน้างุด 

          “คุณหญิงอย่าเพิ่งโกรธนะคะ คือ...พี่เพชรเขาไม่สบายหนัก เลยวานให้พลอยช่วยเข้างานพิธีเย็นแทน พลอยเองก็ไม่คาดคิดว่าจะเลยเถิดมากันขนาดนี้ พลอยขอโทษค่ะที่ทำอะไรไปโดยไม่ได้ปรึกษาคุณหญิงก่อน แต่พลอยว่าอีกไม่นานพี่เพชรก็คงมา...” 

          “ไม่มาหรอก ก็เธอเข้าห้องหอกับเจ้าบ่าวไปแล้ว ยายเพชรจะมาทำไมอีกล่ะ” คุณหญิงรัตนสวนขึ้นเรียบๆ “แล้วนี่จะจดทะเบียนกันได้หรือยัง ชักช้าเสียเวลา” 

          “แม่คะ!”

          “นี่มันอะไรกันคะคุณหญิง!” คุณหญิงนฤมลตวาดอย่างเหลืออด ความเกรี้ยวกราดได้ทำลายกำแพงความอดทนของเธอจนหมดสิ้น 

          “ใจเย็นๆ น่าคุณ”

          “ไม่เย็นแล้วค่ะคุณสมบัติ คุณหญิงจะมาทำให้เรื่องการเกี่ยวดองของสองตระกูลเป็นเรื่องตลกแบบนี้ไม่ได้!”

          “ดิฉันก็ไม่ได้ตลกนี่คะ ยังไงลูกชายคุณพี่ก็ต้องแต่งกับลูกสาวของดิฉันสักคนอยู่แล้ว ยังไงเด็กมันก็ไม่รู้จักกัน จะแต่งกับคนไหนก็เหมือนกันแหละค่ะ” คุณหญิงรัตนย้อน “ในเมื่อยายเพชรไม่อยู่ ก็แต่งกับยายพลอยไปก็เท่านั้น”

        “ไม่ค่ะ! การจดทะเบียนสมรสในวันนี้จะไม่เกิดขึ้น”

“คุณพี่!”

คุณหญิงนฤมลประกาศกร้าว ผู้สูงวัยทั้งสองลุกพรวดขึ้นเผชิญหน้าจนสมบัติเกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่จึงพยายามรั้งภรรยาของตัวเองไว้

         แต่มีหรือจะห้ามอารมณ์ของผู้หญิงได้

         “ถ้าคุณหญิงจะมาเล่นลูกไม้กับทางเราแบบนี้ ทางเราก็ขอปฏิเสธ ดิฉันเชิญญาติและเพื่อนของดิฉันมาเป็นสักขีพยานพิธีมงคลสมรสระหว่าง ธีระพัฒน์ ภคเวชกุล กับ เพชรน้ำหนึ่ง จิตรมงคล ไม่ใช่ พลอยชมพู จิตรมงคล ในเมื่อตัวเจ้าสาวไม่มาเข้าร่วมพิธี งานแต่งงานก็ถือว่าเป็นโมฆะ ศรีเพ็ญ เชิญแขกกลับ!”

         “คะ...ค่ะ!”

         หญิงวัยค่อนคนรีบกุลีกุจอเข้ามาตามคำสั่งผู้เป็นนาย ทว่า ‘แขก’ ยังคงนั่งปั้นหน้านิ่ง อีกฝ่ายก็เป็นถึงคุณหญิงของอีกตระกูลหนึ่ง คนใช้อย่างเธอจะกล้าทำอะไรได้ 

          “คุณหญิงคะ…”

          “ฉันไม่กลับ” คุณหญิงรัตนยืนกราน เธอหันมองพลอยชมพูที่เอาแต่ยืนหลบและไม่แสดงตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของธีระพัฒน์อย่างที่เธอหมายมาดเอาไว้

          อุตส่าห์ส่งตัวเข้าห้องหอไปทั้งคืน ไม่ได้เรื่องเลยจริงๆ 

          “ยายพลอย พูดออกมาสิ บอกแม่สามีเธอไปสิว่าเธอเป็นภรรยาของธีระพัฒน์แล้ว เหลือก็แค่จดทะเบียนให้มันถูกต้องตามกฎหมาย!”

          “คุณแม่!” พลอยชมพูส่ายหัวรัวๆ 

          ท่าทีของหญิงสาวแสดงออกถึงการปฏิเสธการแต่งงานกับธีระพัฒน์อย่างชัดเจน จนชายหนุ่มรู้สึกปวดแปลบ

อายุจนปูนนี้ ธีระพัฒน์ไม่เคยถูกผู้หญิงปฏิเสธ มีแต่จะอ้อนวอนให้เขามอบทะเบียนสมรสให้พวกเธอ นี่ทะเบียนสมรสวางต่อหน้า แต่พลอยชมพูกลับอยากจะฉีกมันทิ้ง

          มือของชายหนุ่มกำแน่น

          ดี แล้วจะได้เห็นดีกัน ในเมื่อเธอไม่อยากแต่งงานกับเขา

          แค่ทะเบียนสมรสเพียงใบเดียว เขายอมได้ถ้ามันจะทำให้พลอยชมพูเป็นของเขาโดยสมบูรณ์!

          ...

          พลอยชมพูตกที่นั่งลำบาก เหมือนคนกลืนไม่เข้าคายไม่ออก แม่ที่น่าจะช่วยเธอได้กลับผลักเธอตกหลุมพรางที่แม่เองนั่นแหละขุดไว้ คนเดียวที่จะช่วยเธออธิบายเรื่องทุกอย่างนี้ได้ก็มีเพียงแต่ธีระพัฒน์ที่อยู่ในห้องหอกับเธอทั้งคืน

          หญิงสาวคว้าแขนชายหนุ่มแน่น มองเขาด้วยแววตาอ้อนวอน

          “พี่ธีร์ช่วยพลอยด้วย อธิบายไปสิคะว่าเมื่อคืนระหว่างเราไม่ได้มีเรื่องอะไรแบบนั้น พลอยก็แค่เข้าพิธีแทนพี่เพชรเฉยๆ ไม่ได้คิดจะมาแทนที่พี่เพชรเลยแม้แต่น้อย พี่ธีร์ต้องช่วยพลอยนะ แล้วเดี๋ยวพลอยจะติดต่อพี่เพชรให้...”

          “ไม่ต้อง” ธีระพัฒน์ตัดบท เขาเบือนหน้าหนีดวงตากลมใส ปฏิเสธคำร้องขอ และยืนกรานว่า “คุณเจ้าหน้าที่ช่วยเตรียมเอกสารด้วยนะครับ”

          “อะไรกันตาธีร์!” 

          ธีระพัฒน์ไม่สนใจเสียงโวยวาย เขาใช้ช่วงวินาทีที่สบตากับพลอยชมพูในการตัดสินใจเรื่องที่ควรจะเป็นเรื่องใหญ่ที่สุดในชีวิต มือหนาเลื่อนลงไปคว้ามือเล็กๆ มากุมเอาไว้แน่น 

          “พลอยชมพูเป็นเมียผมแล้ว ผมจะจดทะเบียนสมรสกับเธอ”

          หัวใจของพลอยชมพูหล่นไปกองอยู่แทบเท้า คุณหญิงนฤมลเป็นลมล้มลงบนโซฟา เดือดร้อนศรีเพ็ญกุลีกุจอเข้าช่วย คุณหญิงรัตนซ่อนรอยยิ้มที่มุมปาก ในขณะที่ ‘เมีย’ แต่งตั้งของธีระพัฒน์ได้แต่อ้าปากค้าง

          “มะ...ไม่ใช่นะคะ” พลอยชมพูพยายามแก้ต่าง แต่เสียงหวีดร้องโวยวายและความอลหม่านที่เกิดขึ้นทำให้ไม่มีใครสนใจคำพูดของเธอเลย

         “คุณสมบัติ! คุณช่วยพูดอะไรหน่อยสิคะ! ตาธีร์เราทำแบบนี้ได้ยังไง ก็รู้ว่านั่นไม่ใช่เจ้าสาว!” คุณหญิงนฤมลโวยวาย

          “หยุดโวยวายก่อนเถอะคุณ” สมบัติพยายามใจเย็นที่สุด เขามองหน้าลูกชายที่ดูจะหนักแน่นในคำพูดของตัวเอง “แกแน่ใจนะตาธีร์”

          “ครับ”

          “เรื่องนี้จะไม่เกี่ยวกับเรื่องงานที่ฉันเคยคุยกับแก ในเมื่อเจ้าสาวหนีการแต่งงาน แกก็สามารถปฏิเสธงานนี้ได้ แต่แกยังยืนยันว่าจะแต่งงานกับบ้านจิตรมงคล?”

          คำถามย้ำมาจากผู้เป็นใหญ่สุดในบ้านภคเวชกุล เมื่อสิ่งที่เคยเป็นข้อบังคับเดียวที่ทำให้ธีระพัฒน์ยอมเดินเข้าพิธีวิวาห์ถูกปลดออก ชายหนุ่มก็ต้องทบทวนการตัดสินใจให้แน่ชัด

           เสียงกระซิบเบาๆ ที่เรียกชื่อเขาดังขึ้น พร้อมกับถ้อยคำเว้าวอนและดวงหน้าเล็กที่ส่ายไปมาราวกับต้องการให้เขาปฏิเสธ ราวกับเธอกำลังเล่นตลกกับอารมณ์โกรธของเขา นั่นทำให้เขาแน่ใจ

           “คุณเจ้าหน้าที่พร้อมหรือยังครับ”

           “ครับ”

           ความรู้สึกของพลอยชมพูแตกสลาย แม้แต่คนที่จับมือเธอแน่นก็ไม่สนใจเธอ ธีระพัฒน์กึ่งลากกึ่งจูงหญิงสาวไปหาเจ้าหน้าที่เขต เมื่อก้าวผ่านหน้าคุณหญิงนฤมล พลอยชมพูก็ได้เห็นความแค้นในดวงตาคู่นั้น 

           “คุณแม่คะ ช่วยพลอยด้วย พลอยยังไม่อยากแต่งงาน….” พลอยชมพูอ้อนวอน แต่มันยิ่งทำให้มือของชายหนุ่มบีบแน่นขึ้นกว่าเก่า

           “เป็นเมียเขาแล้วจะไม่แต่งได้ยังไง จะให้ผู้ชายมันเอาฟรีๆ หรือเจ้าลูกโง่”

           “แต่พลอยยังไม่…”

           “นั่งลงได้แล้วน้องพลอย แล้วเธอจะได้ทุกสิ่งที่เธอร้องขอจากภคเวชกุล” ดวงตาของธีระพัฒน์วาวโรจน์ น้ำเสียงของเขาแข็งกร้าวจนพลอยชมพูไม่กล้าค้าน

           ทำไม…

           ในเมื่อเขาเองก็รู้ดีที่สุดว่ามันไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลยเมื่อคืนนี้…

           เธอยังไม่ได้เป็น ‘เมีย’ ของเขา

           ปากกาด้ามหรูถูกยัดใส่มือของหญิงสาว เหมือนกับชุดแต่งงานที่เธอถูกบังคับให้สวม

           ทำไมถึงไม่มีใครสนใจความรู้สึกของเธอเลย ทั้งแม่ ทั้งพี่สาว ทั้งพี่ธีร์...

           พลอยชมพูได้แต่กล้ำกลืนหยดน้ำตา กำปากกาในมือแน่น

           “เดี๋ยว” เสียงทุ้มแทรกขึ้น “คุณเจ้าหน้าที่ช่วยระบุข้อตกลงลงไปด้วยว่า...พลอยชมพูจะได้รับมรดกจากภคเวชกุลก็ต่อเมื่อเธอให้กำเนิดทายาทสืบสกุลเท่านั้น”

           พลอยชมพูตวัดสายตามองเขา แต่ธีระพัฒน์กลับมองผ่านราวกับเธอไม่มีตัวตน 

           “เอ้า เซ็นได้แล้ว”

           ลายเซ็นของ ธีระพัฒน์ ภคเวชกุล ถูกเขียนลงในใบทะเบียนสมรส พลอยชมพูได้แต่มองช่องว่างเปล่าตรงที่เธอต้องลงชื่อ

 

“ถ้าแกไม่เซ็นก็ไม่ต้องมาเรียกฉันว่าแม่อีก เป็นเมียเขาไปแล้วยังจะเล่นตัว ให้เขาเอาฟรีแล้วไม่ยอมแต่ง รู้ถึงไหนฉันอายถึงนั่น” คุณหญิงรัตนข่มขู่ 

นัยน์ตาหวานของพลอยชมพูมองหาคนที่จะช่วยเธอออกไปจากที่ตรงนี้ แต่ไม่มีผู้ใดยื่นมือมาช่วย

         ปลายปากกาจดลงบนกระดาษที่เป็นดั่งกรงขังเธอชั่วชีวิตแล้วเขียนเป็นคำว่า

         พลอยชมพู ภคเวชกุล

         เธอกลายเป็นคนของภคเวชกุลโดยสมบูรณ์

                

         “ฉันไม่ยอมรับ!!!

         “แม่...”

         “ไม่! เราทำแบบนี้ได้ยังไงตาธีร์ ไม่ไว้หน้าแม่บ้างเลย เห็นหน้ายายคุณหญิงนั่นไหม ป่านนี้หัวร่องอหายไปแล้ว แล้วมันเรื่องอะไรที่เราจะต้องไปรับน้องสาวเข้ามาแทนพี่สาวที่หนีการแต่งงานไปด้วย!”

         คุณหญิงนฤมลวีนทันทีที่ไล่ตะเพิดแขกออกไปจนสิ้น ธีระพัฒน์เองก็ปั้นหน้าไม่ถูก เขาก็ไม่รู้ว่าจะอธิบายให้คุณหญิงนฤมลฟังได้เช่นไรกับการตัดสินใจในครั้งนี้ 

         ในเมื่อเขาเองก็ไม่รู้เหตุผล 

         ไม่รู้เช่นกันว่าทำไมเขาต้องตอบรับการแต่งงานกับน้องพลอย

         รู้เพียงแค่ว่าเขาไม่พอใจที่เธอปฏิเสธเขา และที่สำคัญ…

         …ก็แค่ไม่อยากให้ใครได้นอนกอดเธอนอกจากเขา 

         คุณหญิงนฤมลความดันขึ้น เธอวิงเวียนคล้ายจะเป็นลมเอาดื้อๆ แต่ปากก็ยังคงบ่นลูกชายเพียงคนเดียวได้ไม่ขาด

          “แล้วก็รู้ทั้งรู้ว่ายายแก่หิวเงินนั่นขายลูกหวังให้มาสูบเลือดสูบเนื้อตระกูลเรา ก็ยังจะยอม ทั้งตาธีร์ ทั้งคุณ…”

          “ฟังธีร์ก่อน….”

          “ฟัง! ฟังอะไร แม่ฟังอยู่ ไหนธีร์ลองอธิบายเหตุผลของธีร์ให้แม่ฟังซิว่า เรามีเหตุผลอะไรถึงรับปลิงมาสูบเลือดสูบเนื้อพ่อกับแม่ของตัวเอง” คุณหญิงนฤมลถาม 

           “คุณก็พูดเกินไป ถึงอย่างไรจิตรมงคลก็มีบุญคุณกับเรา ถ้าไม่มีคุณภควัตร คุณก็คงไม่มีเครื่องเพชรพลอยประดับคอประดับนิ้วมาได้จนถึงทุกวันนี้” 

           “คุณสมบัติ!”

           “บุญคุณต้องทดแทน” สมบัติเปรย “ไม่รุ่นพ่อก็รุ่นแกที่ต้องรับภาระนี้ ไม่เช่นนั้นภคเวชกุลจะต้องติดหนี้จิตรมงคลไปชั่วลูกชั่วหลาน ไม่ว่าแกจะตัดสินใจด้วยเหตุผลอะไร พ่อก็ขอบใจแกมาก”

           ธีระพัฒน์ยิ้มรับ ก่อนจะรีบหุบยิ้มทันทีเมื่อได้รับสายตาเข่นเขี้ยวจากคุณหญิงนฤมล

           “ถึงอย่างไรแม่ก็ไม่ยอมรับสะใภ้จากบ้านนั้น ห้ามพาเธอมาเหยียบที่นี่”

           “แม่ครับ นั่นเมียธีร์นะ” 

           “เมีย!?” คุณหญิงนฤมลหวีดเสียงสูง “ได้กันแค่คืนเดียว จดทะเบียนกันไปไม่ถึงชั่วโมง เรากล้าเถียงแม่แทนคนบ้านนั้นแล้วหรือ!” 

           “แม่กำลังไม่มีเหตุผลนะครับ” ธีระพัฒน์ตวัดเสียงห้วน “ธีร์ไม่ได้เถียงแทนคนบ้านนั้น ธีร์ไม่อยากให้แม่อคติกับน้องพลอย เธอเป็นเด็กดี น่ารัก ไม่ประสีประสา...”

           “หน้าด้านเข้าพิธีแต่งงานแทนพี่แล้วก็ฮุบสามีพี่สาวไปเป็นของตัวเอง นั่นน่ะหรือที่เรียกว่าไม่ประสีประสา” คุณหญิงนฤมลเย้ยหยัน ธีระพัฒน์อยากจะเถียงแทนว่าไม่ใช่อย่างที่คุณหญิงนฤมลเข้าใจ ทว่าถ้าเรื่องที่เขากับพลอยชมพูยังไม่มีอะไรกันหลุดออกไป คุณหญิงนฤมลต้องบังคับให้เขาหย่าอย่างแน่นอน 

           ธีระพัฒน์ตกอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก อยากได้พลอยชมพูเป็นภรรยาก็ใช่ แต่ก็ไม่อยากให้ใครเข้าใจเธอผิดๆ 

          “ไม่ว่าอย่างไรแม่ก็ไม่ยอมรับ” คุณหญิงนฤมลตัดบท เธอสูดหายใจลึกและออกคำสั่ง 

 “ตอนนี้คนทั้งประเทศเข้าใจว่าเราแต่งงานกับเพชรน้ำหนึ่งและแม่จะไม่ยอมขายหน้าว่าโดนหลอกสับตัวเจ้าสาวเพื่อฮุบสมบัติ แม่จะยอมให้พลอยชมพูได้ใช้นามสกุลของเราต่อได้ ถ้าตาธีร์รับปากกับแม่ว่าจะไม่พาผู้หญิงคนนั้นออกหน้าออกตา ไม่พาออกงานสังคมใดๆ ทั้งสิ้น เป็นเพียงเมียเก็บอยู่เงียบๆ ของเราเพียงเท่านั้น”

           “ธีร์ทำแบบนั้นไม่ได้...”

           “ถ้าไม่ได้ก็เตรียมจดทะเบียนหย่า” คุณหญิงนฤมลยื่นคำขาด “หรือไม่เรากับแม่ขาดกัน” 

           ธีระพัฒน์ไม่เข้าใจการตัดสินใจด้วยอารมณ์แถมไร้เหตุผลของคุณหญิงนฤมล ทว่าเมื่อนึกหาเหตุผลที่เขารับพลอยชมพูมาเป็นภรรยาก็ได้แต่นิ่งเงียบและยอมรับ แล้วหันไปมองปรึกษาผู้เป็นพ่อ 

           “ยอมแม่แกไปก่อนเถอะ กำลังอารมณ์ไม่ดีอยู่ เถียงไปก็เท่านั้น” ผู้เป็นหัวหน้าครอบครัวให้คำตอบ 

           ชายหนุ่มถอนหายใจหนัก ดูเหมือนเรื่องมันจะเลวร้ายกว่าที่เขาคาดประมาณไว้เยอะ ธีระพัฒน์ได้ทุกอย่างอย่างที่ต้องการ โดยแลกมากับความสัมพันธ์ที่กระท่อนกระแท่นระหว่างแต่ละคน

           หรือว่าเขาจะเลือกเดินเกมผิด

           แต่มาถึงตอนนี้เขาก็ทำอะไรไม่ได้แล้ว

           “ธีร์ขอตัวกลับก่อนนะครับ”

           เมื่อไม่มีประโยชน์ที่จะคุยต่อ ธีระพัฒน์ก็ปลีกตัวเองออกมา ทว่าขายาวๆ ยังไม่ทันก้าวพ้นประตูบ้าน คำสั่งสุดท้ายก็คุณหญิงนฤมลก็บัญชามาอย่างทันท่วงที

           “ห้ามท้อง”

           “…”

           “เราจะทำอย่างไรก็แล้วแต่เรา แต่ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามให้พลอยชมพูท้องเป็นอันขาด ไม่เช่นนั้นแม่จะไม่เอาเธอไว้”

          ธีระพัฒน์ชะงัก ริมฝีปากหยักเม้มแน่น สะกดกลั้นอารมณ์ 

          พลอยชมพูจะได้เป็นคนของ ‘ภคเวชกุล’ โดยสมบูรณ์หรือไม่ เขาจะเป็นคนตัดสินเอง

          ร่างสูงยกมือไหว้บุพการี ก่อนจะหันตัว ก้าวออกจากคฤหาสน์ของภคเวชกุลอย่างรวดเร็ว

 

           ทันทีที่ลับเงาของลูกชายจอมดื้อ คุณหญิงนฤมลก็ลมจับ ทิ้งตัวลงนอนบนโซฟา เดือดร้อนศรีเพ็ญให้รีบเอายาดมยาหม่องมาประเคนผู้เป็นนาย 

           “คุณ! ดูลูกเราสิ! เดี๋ยวนี้ไม่ฟังกันเลย” คุณหญิงนฤมลกล่าวทั้งๆ ที่ยังถือยาดมอยู่ 

  สมบัติลุกขึ้นจากโซฟา

  “ตาธีร์ก็สามสิบเจ็ดแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ แล้ว คุณก็ปล่อยให้เขาตัดสินใจเองเถอะ เรื่องคู่ชีวิตเป็นเรื่องละเอียดอ่อนนะคุณ” 

           “ฉันไม่เคยว่าอะไรตาธีร์เลยนะ ตอนที่แกคั่วสาวไปเรื่อย แกจะคบใครฉันก็ไม่เคยว่า แต่ไม่ใช่ไปคว้าสาวที่จะมาเป็นปลิงดูดเลือดสูบเนื้อสูบสมบัติเราไป” คุณหญิงนฤมลโวยวาย 

สมบัติชักสีหน้า

“คุณอย่าลืมสิว่าคนที่รับปากให้ปลิงที่คุณว่าส่งลูกมาแต่งงานกับเรานั่นคือผมเอง”

         “คุณ...!”

         “หนูพลอยเป็นเด็กดี เผลอๆ จะดีเสียกว่าหนูเพชรเสียอีก ผมเห็นเด็กคนนี้มาตั้งแต่เด็ก และเชื่อว่าตาธีร์เลือกไม่ผิด”

          คุณหญิงนฤมลไม่เถียง เพราะเธอรู้แก่ใจดีว่าพลอยชมพูเป็นเด็กดี เด็กน่ารัก ก่อนหน้านี้เธอเองก็นึกเอ็นดูหนูพลอยอยู่ไม่น้อย แต่ความรู้สึกทั้งหมดพังครืนลงไปเมื่อเธอก้าวเข้ามาเป็นตัวหมากที่ทำให้แผนของคุณหญิงนฤมลพังยับเยิน

          ในเมื่อการแต่งงานนั้นเลี่ยงไม่ได้ คุณหญิงนฤมลจึงเลือกให้ธีระพัฒน์แต่งงานกับเพชรน้ำหนึ่ง เพราะรายนั้นทั้งแสบ ทั้งแก่นแก้ว เธอเชื่อว่าลูกชายเธอคงไม่มีวันชอบผู้หญิงประเภทนั้น เพราะฉะนั้นการวางแผนกำจัดเพชรน้ำหนึ่งออกไปจากภคเวชกุลคงทำได้ง่าย แต่เมื่อเปลี่ยนมาเป็นพลอยชมพูที่มีแต่คนชอบเธอทั้งคนพ่อและคนลูกก็คงทำได้ยากขึ้น 

          “หนูพลอยไม่ผิด…ถ้าจะผิดก็ผิดที่เกิดมาเป็นลูกของยายคุณหญิงรัตนที่หวังฮุบสมบัติของภคเวชกุล” คุณหญิงนฤมลว่า 

แค่คิดถึงรอยยิ้มหยันของยายคุณหญิงนั่น คุณหญิงนฤมลก็ร้อนจนนั่งไม่ติด 

“คุณ! แบบนั้นฉันไม่ยอมนะ!”

         สมบัติรับรู้ถึงความรู้สึกอันไม่มั่นคงของภรรยา เขาดึงมือคุณหญิงนฤมลมากุมไว้

         “ชีวิตคู่คือเรื่องของคนสองคน เหมือนเรื่องราวของคุณกับผม คนที่ตาธีร์แต่งงานด้วยคือหนูพลอยไม่ใช่คุณหญิงรัตน คุณก็น่าจะรู้จักลูกเราดี คนที่หาเงินเลี้ยงตัวเองตั้งแต่เรียนจบ ไม่เคยพึ่งพิงบารมีของพ่อแม่ ผมเชื่อว่าตาธีร์คงมีวิธีในการจัดการกับคุณหญิงในรูปแบบของเขาเอง”

 

          พลอยชมพูไม่อาจนั่งได้ติดที่ เธอลุกลี้ลุกลนตลอดเวลาตั้งแต่ศักดิ์ฐารับตัวเธอมาจากคฤหาสน์ภคเวชกุล

เมื่อขั้นตอนการจดทะเบียนสมรสเสร็จสิ้น คุณหญิงรัตนก็ขอตัวกลับบ้านของตัวเองโดยไว ทิ้งหญิงสาวไว้กับสายตาอันไม่เป็นมิตรของคุณหญิงนฤมล เพราะต้องการคุยเรื่องส่วนตัวภายในครอบครัวกันต่อ ธีระพัฒน์ต่อสายไหว้วานให้ศักดิ์ฐา ผู้ช่วยของเขามารับตัวพลอยชมพูไปรอที่คอนโดของเขาก่อน 

“คุณศักดิ์ฐา ไม่ต้องอยู่รอเป็นเพื่อนก็ได้นะคะ พลอยอยู่คนเดียวได้” พลอยชมพูพยายามยิ้มแย้มเพื่อผูกมิตร แต่กลับไม่ได้รอยยิ้มกลับจากคนตรงหน้าที่ยืนเฝ้าเธออยู่ไม่ไกลจากโซฟาเลยแม้แต่น้อย ศักดิ์ฐาเป็นชายรูปร่างสูงโปร่ง แต่ดูจะเตี้ยกว่าธีระพัฒน์อย่างน้อยก็ราวๆ สิบเซนติเมตร หน้าตาสะอาดสะอ้าน หล่อเหลา สุขุม แต่ดูห่างไกลจากความเป็นมิตรมากนัก

“ผมรับคำสั่งมาจากคุณธีร์ให้เฝ้าคุณไว้ไม่ให้หนี” 

แถมยังเป็นคนตรงมากอีกต่างหาก 

เพนต์เฮาส์สุดหรูในชั้นบนสุดของคอนโดใจกลางสาทรไม่ได้ทำให้พลอยชมพูรู้สึกตื่นตาตื่นใจมากกว่าความตระหนกกับสถานะที่เธอเป็นอยู่ตอนนี้ 

‘ภรรยา’

เธอได้แต่งงานและจดทะเบียนสมรสกับคนที่เธอแทบจะไม่รู้จักเขาเลย 

ธีระพัฒน์ คุณเล่นอะไรของคุณกัน 

สมาร์ตโฟนของหญิงสาวถูกยึด เธอรู้สึกเหมือนถูกขังอยู่ในกรงหรูชั้นหกสิบเก้า ไม่ว่าจะขยับตัวไปทางไหนก็อยู่ในสายตาของศักดิ์ฐาตลอดเวลา แม้เขาจะไม่ก้าวเข้ามาในระยะที่จะทำให้เธออึดอัด แต่พลอยชมพูก็ไม่คุ้นเคยกับการมีใครตามติดทุกฝีก้าวเช่นนี้ 

“ครับ ถึงแล้วครับ ครับ ครับ”

ศักดิ์ฐาวางสาย คนปลายสายคงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากธีระพัฒน์ พลอยชมพูเงี่ยหูฟัง แม้เธอจะทำเป็นไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย

“คุณธีร์ฝากบอกคุณผู้หญิงว่า คุณธีร์ติดงานด่วน อาจจะถึงห้องช้าหน่อย ให้ผมหาอะไรให้คุณผู้หญิงทานไปก่อน ไม่ทราบว่าคุณผู้หญิงจะรับอะไรดี”

“ไม่ค่ะ พลอยไม่หิว” หญิงสาวปฏิเสธ แต่สีหน้าเคร่งขรึมของศักดิ์ฐาไม่เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย 

“ผมต้องคำตามคำสั่งของคุณธีร์ ไม่เช่นนั้นผมจะถูกลงโทษ คุณผู้หญิงจะรับอะไรครับ”

เมื่อนึกถึงหน้าของคนใจร้ายที่ดีแต่โทร. มาออกคำสั่ง ดวงหน้าหวานก็บึ้งตึงอย่างรวดเร็ว

“พลอยบอกว่าพลอยไม่หิวค่ะ” หางเสียงตวัดห้วนก่อนจะอ่อนลงเมื่อรู้ว่าคนรับอารมณ์นั้นไม่ใช่คนตัวยักษ์ที่ใจยักษ์ยิ่งกว่า “พลอยไม่กินเอง พลอยกินอะไรไม่ลง คุณธีร์เขาคงไม่ลงโทษคุณศักดิ์ฐาหรอกมั้งคะ อีกอย่าง เรียกพลอยว่าพลอยก็พอค่ะ ไม่ต้องเรียกแบบนั้น พลอยไม่ชอบ” 

“ผมจะเรียกคุณผู้หญิงว่าคุณพลอยได้ต่อเมื่อคุณธีร์อนุญาตเท่านั้นครับ” 

“สรุปว่าคุณเป็นผู้ช่วยเขาหรือเป็นทาสเขากันแน่คะ” พลอยชมพูเหน็บ 

แต่สีหน้านิ่งของศักดิ์ฐาก็ยังคงเดิม 

“คุณผู้หญิงจะรับอะไรครับ ผมจะได้โทร. สั่ง”

พลอยชมพูหงุดหงิดและพานไม่อยากจะเห็นหน้าทั้งเจ้านายและลูกน้องเอาเสียดื้อๆ เธอโถมตัวคว่ำลงบนโซฟา มือเล็กคว้าหมอนอิงและปิดหน้าเธอเอาไว้ ตัดขาดตัวเองจากบทสนทนากับคนไร้อารมณ์โดยสมบูรณ์

หญิงสาวตกอยู่ในความเงียบที่วังเวง โดดเดี่ยว และโหวงเหวง เธอตัดพ้อในโชคชะตาของตนเอง แม้คนอื่นอาจจะอิจฉาที่เธอเหมือนตกถังเงิน แต่เธอไม่ได้ต้องการเลยสักนิด การแต่งงานคือเรื่องที่สำคัญมากสำหรับเธอ เธอเคยหมายมั่นไว้ว่าจะแต่งงานกับคนที่เธอรักเท่านั้น

แต่ไม่ว่าจะสำคัญอย่างไรก็ยังแพ้สายสัมพันธ์ระหว่างเธอกับแม่…

‘ฝากพลอยดูแลแม่เขาด้วยนะ’

พ่อ...พลอยจะทำอย่างไรดี พลอยจะหนีจากที่ตรงนี้ไปได้อย่างไร

       พลอยชมพูหันมองวิวจากชั้นหกสิบเก้า ก้อนเมฆขาวปุกปุยไม่ทำให้ใจของเธอเย็นลงเลย หญิงสาวเฝ้ารอที่จะคุยกับธีระพัฒน์ถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่สามีกลับทิ้งภรรยาจำยอมอย่างเธอไว้และหนีไปทำงาน...

        คนใจร้าย

        เธอได้แต่ตัดพ้อและปาดน้ำตา 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น