9

สาวชุดว่ายน้ำสีแดง

บทที่ 9

สาวชุดว่ายน้ำสีแดง

 

        “อ้าว ไอ้ธีร์ มาได้ยังไงวะเนี่ย ไหนบอกขอบาย”

        ปารินทร์ เพื่อนสนิทคนหนึ่งของเขาเข้ามาทักทายทันทีที่ธีระพัฒน์ก้าวเข้ามาในอาณาบริเวณตัวบ้าน ครอบครัวของปารินทร์เป็นครอบครัวใหญ่ มีบ้านหลายหลังอยู่ในรอบรั้วเดียวกัน หลังเล็กสุดที่อยู่ด้านหน้าเป็นของลูกชายคนเล็กซึ่งมักจะจัดพูลปาร์ตีเกือบทุกสิ้นเดือน 

        ปกติธีระพัฒน์ก็เข้าร่วมเสมอ ผู้ชายที่ไหนบ้างจะไม่ชอบมองสาวๆ สวยๆ แต่ครั้งนี้ธีระพัฒน์ปฏิเสธเพื่อนสนิทไปตั้งแต่เมื่อเช้าตอนอยู่ที่ทำงานแล้ว 

        “อย่าเพิ่งพูดมาก” ธีระพัฒน์ตอบด้วยอารมณ์ที่ยังขุ่นหมอง 

        หลังจากโมโหหัวฟัดหัวเหวี่ยงมาจากพลอยชมพู ธีระพัฒน์เรียนรู้ที่จะไม่เอาอารมณ์ไปลงที่เธอ เพราะรังแต่จะทำให้เรื่องที่ทะเลาะกันบานปลายมากขึ้น แต่ถ้ายังปล่อยให้อยู่ในห้องเดียวกัน ธีระพัฒน์เชื่อว่าพลอยชมพูจะต้องไม่รอดคืนนี้ไปได้อย่างแน่นอน เขาโกรธที่เห็นเธออยู่กับคนอื่น โกรธที่เธอหัวเราะและยิ้มให้คนอื่นที่ไม่ใช่เขา

        ธีระพัฒน์ตรงดิ่งไปยังบาร์ ชงเหล้าให้ตัวเองก่อนจะขยับมาจับจองมุมติดสวนซึ่งเป็นพื้นที่ประจำของเขาและเพื่อน ปารินทร์ตามมาพร้อมกับแก้วเหล้าในมือ 

        “ฉันนึกว่าแกจะอยู่กกเมียที่บ้านเสียอีก” เขาชวนคุย “เป็นไงบ้างวะข้าวใหม่ปลามัน เจ้าสาวแกลีลาดีไหม”

        “เสียมารยาทน่าปิง รู้ว่าอยากรู้ แต่จะพูดอะไรก็ไว้หน้าคุณเพชรน้ำหนึ่งเขาบ้าง ก็คนเคยคุ้นกันอยู่” นิศรานั่งลงตรงข้ามกันกับปารินทร์ เธอคว้าวอดคาทั้งขวดพร้อมกับมะนาว เกลือและแก้วเป๊กมาพร้อมเปิดโต๊ะ 

        ทั้งปารินทร์และนิศราคือเพื่อนแท้และเพื่อนตายของธีระพัฒน์ พวกเขาคบหากันมาตั้งแต่ยังเล็กจวบจนจบมหาวิทยาลัยจึงแยกย้ายกันไปตามทางของตัวเอง แต่เมื่อธีระพัฒน์กลับมากรุงเทพฯ เขาก็ต่อสายหาเพื่อนทั้งสองและชักชวนกันทำธุรกิจ บริษัท UNIQ design and living จึงเริ่มต้นขึ้นหลังจากนั้น และทั้งสามก็มีโอกาสมาวนเวียนอยู่ด้วยกันอีก 

        ปารินทร์เป็นสายครีเอทิฟ ธีระพัฒน์ควบคุมเรื่องการบริหารจัดการ และนิศราเป็นเวิร์กกิง วูเมนอย่างแท้จริง เธอสามารถจัดการผู้ชายทั้งสองได้อยู่หมัด รวมถึงพนักงานและบรรดาลูกค้า 

        อันที่จริงปารินทร์และธีระพัฒน์ก็แค่ขี้เกียจต่อล้อต่อเถียงกับผู้หญิงที่ไม่รู้จักคำว่ายอมแพ้อย่างนิศราเท่านั้นเอง 

        “แกคุ้น แต่ฉันไม่ได้คุ้นด้วย เพราะฉะนั้นฉันมีสิทธิ์จะถาม เป็นไงบ้างวะ” 

        “ไม่ดี” นิศราตอบแทน ปารินทร์หันมองหญิงสาวอย่างฉงน “ก็ดูจากหน้าเพื่อนแกสิ อย่างกับไปกินรังแตนที่ไหนมา เอ้า เล่ามา” 

นิศรายื่นแก้วเป๊กให้ แต่ธีระพัฒน์ปฏิเสธมัน

        “ปฏิเสธเหล้าจากฉันแปลว่าแกมีอะไรปิดบังพวกฉันอยู่” 

        ปารินทร์และนิศรายังไม่รู้...เรื่องที่เจ้าสาวของเขาคือพลอยชมพูไม่ใช่เพชรน้ำหนึ่ง 

และก็ไม่ใช่ในเวลานี้เขาไม่ได้อยู่ในอารมณ์ที่จะเล่า 

“แคท” ธีระพัฒน์เอ่ยชื่อเล่นของนิศราที่พวกเขาใช้เรียกกัน “ถ้าแกถูกปล้ำ แกจะรู้สึกยังไง” 

“ปล้ำหรือข่มขืน”

“มันต่างกันยังไง” ปารินทร์ถาม 

นิศรากลอกตาบน เธอทำปากเบ้

“ข่มขืนฉันไว้ใช้สำหรับคนแปลกหน้า ส่วนปล้ำนี่ฉันว่าน่าจะคนรู้จักกัน” 

“งั้นแค่...ปล้ำ” ธีระพัฒน์ตอบไม่เต็มเสียงนัก

“อะฮ่า! เจ้าสาวของแกงั้นสิ” นิศราดีดนิ้วเปาะ ทำให้ธีระพัฒน์หน้าเสีย แม้จะรู้อยู่แล้วว่าถึงอย่างไรเจ้าเพื่อนซี้ตัวแสบจะต้องเดาได้

“แล้วปล้ำเพราะแกอยากได้เขา หรือปล้ำเพราะเขามาอ่อยแกให้ปล้ำล่ะ”

“แคท” ธีระพัฒน์กดเสียงต่ำ เขาเริ่มไม่พอใจ เพราะรู้สึกได้ว่านิศรากำลังหยอกเย้า 

        “หยุดความคิดแบบนั้นเลยนะธีร์ ฉันต้องการข้อมูลทั้งหมดเพื่อที่จะให้คำตอบแกได้อย่างถูกต้องต่างหาก” นิศราสวนกลับอย่างรวดเร็ว ไหล่ทั้งสองของเธอยกขึ้นน้อยๆ “แล้วสรุปว่าปล้ำเพราะเขาอ่อยแกหรือเปล่า”

        ธีระพัฒน์ทบทวนถึงร่างเล็กๆ ที่วิ่งวุ่นอยู่ในความทรงจำของเขา แต่คนตัวเล็กก็ไม่มีท่าทีว่าจะอ่อยหรือยั่วเย้าเขาเลยแม้แต่น้อย มีแต่ท่าทางไร้เดียงสาที่กระตุ้นต่อมเสือในกายของเขาเอง

        “ก็ไม่...”

        “แปลว่าแกอยากได้เขา แต่เขาปฏิเสธแกว่างั้น”

        ธีระพัฒน์ยกเหล้าขึ้นกรอกปากเพื่อเลี่ยงการตอบ นิศราถอนหายใจหนัก ดูเหมือนเพื่อนที่เพิ่งเป็นเจ้าบ่าวหมาดๆ จะมีปัญหาใหญ่

        “ถ้าเป็นฉันในสถานการณ์แบบนั้น ฉันคงเกลียดคนที่ปล้ำฉันไปตลอดชีวิต”      

        “เฮ้ย! ทำไมลงท้ายแบบนั้นล่ะ” ปารินทร์หลุดโวยหลังจากที่เขาเป็นลูกคู่ช่วยไล่ต้อนธีระพัฒน์อยู่นานสองนาน 

        “สำหรับผู้หญิงที่แต่งงานแล้ว ถ้าเริ่มต้นจากรัก เซ็กซ์ก็จะตามมา แต่ถ้าเริ่มต้นจากเซ็กซ์ที่เขาไม่ต้องการ...แกอย่าหวังว่าจะได้ความรักจากผู้หญิงคนนั้นเลย” นิศราจริงจัง เธอลอบสังเกตท่าทางของธีระพัฒน์ ชายหนุ่มดูเป็นกังวลอย่างมาก 

        “อย่าบอกนะว่าแกปล้ำเธอไปแล้ว” 

        “ยัง” 

คำตอบจากธีระพัฒน์ทำเอานิศราโล่งอก 

“แต่ก็เกือบๆ”

        ธีระพัฒน์คิดแล้วก็กรอกเหล้าเข้าปากไม่ยั้ง เขาเกือบนอตหลุดถึงสองครั้งสองครา ไม่แปลกที่พลอยชมพูดูจะกลัวเขาถึงขนาดนั้น

        “แต่แปลก ฉันว่าเพชรน้ำหนึ่งไม่น่าจะเป็นผู้หญิงใสๆ แบบนั้นนะ เพื่อนฉันโดนเธองาบไปหลายคนแล้ว โทษทีนะเพื่อนที่ต้องพูดความจริงน่ะ” ปารินทร์ขัด เขาฟังอยู่นาน และรู้สึกว่าบทสนทนามันผิดที่ผิดทางอย่างไรไม่รู้ 

        “เพชรเป็นคนไม่ชอบถูกผูกมัด ฉันยังแปลกใจอยู่เลยว่ายายนั่นยอมตกลงแต่งงานกับแกได้ยังไง” สายตาของนิศราจ้องจับผิด แต่ธีระพัฒน์เหมือนจะหลุดลอยไปสู่โลกส่วนตัวของเขาเรียบร้อยแล้ว 

        ชายหนุ่มเอาแต่พะวงอยู่กับเรื่องของพลอยชมพู ไม่รู้ป่านนี้เธอจะเป็นอย่างไร จะรู้สึกอย่างไรบ้างที่เขาออกมากะทันหัน 

        “แล้วตอนนี้เพชรเป็นยังไงบ้าง” นิศราถาม

        “ยังมีระยะห่างระหว่างฉันกับเขา” ธีระพัฒน์หมายถึงพลอยชมพู “พูดตรงๆ ฉันก็ไม่รู้ว่าฉันควรจะวางตัวยังไง เธอเด็กกว่าฉันตั้งเยอะ”

        “สามสี่ปีนี่ฉันไม่เรียกว่าเยอะนะ” นิศราหมายถึงเพชรน้ำหนึ่ง หญิงสาวเริ่มเอะใจราวกับว่าเธอกับเขาพูดถึงคนคนละคนกัน 

        ธีระพัฒน์เลี่ยงที่จะตอบคำถาม แต่ก่อนที่นิศราจะได้โอกาสซักถาม ปารินทร์ก็สะกิดเธอยิกๆ 

        “อะไร” หญิงสาวตวัดเสียงห้วนสั้น เมื่อเธอมองตามสายตาของเพื่อนสนิทก็พบกับร่างระหงของใครบางคนที่ยืนชนแก้วกับกลุ่มคนที่ริมสระน้ำ 

        “แกชวนเธอมา?” นิศราถามเสียงสูง 

ปารินทร์ยิ้มแห้ง “นี่ก็เพื่อน นั่นก็ลูกค้า แล้วแกจะให้ฉันทำยังไง” 

        ทันทีที่สาวสวมเสื้อกล้ามสีขาวทับชุดว่ายน้ำทูพีซสีแดงเลือดนกเห็นกลุ่มของพวกเขา เธอก็ขอปลีกตัวจากกลุ่มคนรู้จักตรงมายังคนทั้งสามทันที นิศราผุดลุก เธอไม่ชอบผู้หญิงคนนี้ และไม่อยากจะเสวนาด้วย แต่ติดตรงที่ร่างระหงส่งเสียงทักทายกันเสียก่อน

        “จะรีบไปไหนล่ะคะคุณนิศรา ไม่อยู่คุยกันก่อนเหรอคะ” เจ้าของน้ำเสียงหวานเสแสร้งทักทาย 

นิศราปั้นหน้าบึ้งแบบไม่ปิดบัง “ว่าจะย้ายที่น่ะค่ะ บรรยากาศแถวนี้มันไม่ดี เชิญคุณไลลาคุยกับสองหนุ่มตามสบายนะคะ แต่อย่าลืมนะคะว่าคนขวาเขามีเจ้าของแล้ว ฉันไปก่อนล่ะ” 

        นิศราวางระเบิดไว้ลูกใหญ่ก่อนที่เจ้าตัวจะสะบัดก้นจากไป ด้วยความเป็นเจ้าของบ้าน ปารินทร์พยายามจะกู้สถานการณ์

        “ปาร์ตีวันนี้โอเคไหมครับคุณไลลา” 

        “ขอโทษด้วยนะคะคุณธีร์ที่ไลลาไม่ได้ไปร่วมงานแต่งงานของคุณ” 

ปารินทร์ยิ้มเก้อเมื่อหญิงสาวคนสวยมองเลยเขาไป ไลลาทิ้งตัวนั่งลงข้างๆ ธีระพัฒน์ 

“ขอแสดงความยินดีด้วยนะคะ”

        “ขอบคุณครับ” ธีระพัฒน์ยกแก้วขึ้นชนแก้วกับเธอตามมารยาท ชายหนุ่มอยากจะหนีตามนิศราไป แต่ติดที่ว่าไลลาคือลูกค้ารายใหญ่ที่บริษัทของเขาดีลด้วยในช่วงนี้ 

        “ไลลาล่ะเสียดาย ถ้าเราเจอกันก่อนหน้านี้ก็ดีสินะคะ” 

        “คุณไลลาครับ ผมแต่งงานแล้วนะครับ” ธีระพัฒน์ปราม ใครๆ ก็รู้ แม้แต่เขาเองก็ดูออกว่าไลลาหวังจะเคลมเขา แต่ด้วยหน้าที่ของเจ้าของบริษัท ธีระพัฒน์จึงได้แต่รักษาระยะห่างและยอมปล่อยให้เธอเข้าใกล้บ้างในบางครั้ง ปารินทร์เองก็ช่วยธีระพัฒน์บ้าง แต่นิศรานั้นประกาศไม่ขอยุ่งเกี่ยว 

        “ไลลาไม่ถือหรอกค่ะ” เธอหัวเราะ “การแต่งงานที่พ่อแม่บังคับแบบนั้นไลลาว่ามันไม่แฟร์ ตราบใดที่หัวใจของคุณธีร์ยังว่าง ไลลาก็ยังมีโอกาส” ไลลาส่งสายตาเย้ายวนธีระพัฒน์อย่างเปิดเผย เธอจงใจทิ้งรอยลิปสติกสีแดงไว้ที่ขอบแก้ว 

        “แล้วถ้าหัวใจไอ้ธีร์มันไม่ว่างแล้วล่ะครับ คุณไลลาจะหันมาสนใจคนแถวๆ นี้บ้างไหมครับ” ปารินทร์เปิดฉากเกี้ยว ไลลาเป็นนางแบบ ดำรงชีวิตอยู่ในสังคมไฮโซ ขาว สวย หมวย และเซ็กซี่ตามแบบพิมพ์นิยม ผู้ชายมากมายอาจตกหลุมรักเธอ แต่ไม่ใช่กับธีระพัฒน์ที่ผ่านผู้หญิงประเภทนี้มามากมายจนเอียน 

        ไลลาบึนปาก ไม่ใช่ว่าปารินทร์นั้นจะแย่ ทางบ้านถือว่าดูดีมีระดับ หน้าตาก็พอไปวัดไปวาได้ แต่ปารินทร์ไม่ใช่เป้าหมายของเธอ ธีระพัฒน์ต่างหากล่ะ เพราะเขาทั้งสูงกว่า ล่ำกว่า หน้าตาดีกว่า และโพรไฟล์แตกต่างกันลิบลับ 

        ปารินทร์นั้นแบ็กดี แต่ธีระพัฒน์นั้นดีทั้งที่บ้านและตัวเขาเอง

        ผู้ชายที่รูปหล่อ พ่อรวย แถมยังขยัน และมีความคิดที่จะตั้งตัวด้วยตัวเองในสมัยนี้นั้นหาได้ยาก ถ้าเธอจับเขาได้ รับรองได้นั่งกินนอนกินบนกองเงินกองทอง

        “ยังไงก็ขอไลลาร่วมโต๊ะวันนี้ด้วยนะคะ” ไลลาไม่สนใจคำพูดของปารินทร์เลยสักนิด ชายหนุ่มจึงได้แต่ยิ้มแห้งไปตามระเบียบ 

        “ให้ไลลารินให้นะคะ”

        แก้วของธีระพัฒน์ไม่พร่องลงเลยสักนิด เพราะสาวเจ้าขยันเติมเอาเติมเอาหวังให้ร่างสูงมึนเมาด้วยฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ แต่ธีระพัฒน์คอแข็งมากพอ แม้จะเข้าสู่แก้วที่ห้า เขาก็ยังไม่เริ่มกรึ่มเลยแม้แต่น้อย ความคิดของเขาลอยวนเวียนอยู่กับพลอยชมพูในจินตนาการ ธีระพัฒน์ตั้งใจว่าอีกสักชั่วโมง รอให้เขาควบคุมอารมณ์และไตร่ตรองความรู้สึกของเขาได้ดีกว่านี้ เขาจะกลับไปหาเธอ 

        เขาก็แค่ไม่เข้าใจ ทำไมพลอยชมพูถึงปฏิเสธเขา ทั้งๆ ที่ไม่เคยมีใครทำ เธอปฏิเสธทั้งๆ ที่เธอเป็นภรรยาของเขา เขามีสิทธิ์โดยชอบธรรมในตัวภรรยาของเขามิใช่หรือ 

        เขารุกเร็วไปงั้นหรือ หรือว่าเธอมีคนอื่นเป็นเจ้าของหัวใจแล้ว

        แค่คิดถึงเรื่องนั้น ธีระพัฒน์ก็ยกดื่มเหล้าไม่ยั้ง เลือดลมร้อนจนหูอื้อไปหมด 

        แต่พอดื่มเร็วๆ เข้า สติของเขาก็เริ่มจะไม่ค่อยเต็มร้อยเช่นกัน 

 

        ทางด้านพลอยชมพูเมื่อถูกทิ้งให้อยู่ในห้องเพียงคนเดียวเธอก็เอาแต่นั่งกอดเข่าร่ำไห้ ทั้งเนื้อทั้งตัวเจ็บแปลบจากการบีบรัดด้วยความโมโหของคนตัวยักษ์ 

        เธอไม่เข้าใจเลย บางครั้งเขาก็ดีแสนดี แต่ในบางครั้งกลับเลือดร้อนและเอาแต่ใจตัวเอง 

        หญิงสาวยกนิ้วเรียวลูบริมฝีปากที่บวมเจ่ออย่างเผลอไผล จูบครั้งแรกของเขานั้นเกือบทำให้เธอโอนอ่อนไปกับรสสัมผัสอันวาบหวาม แต่คำพูดต่อมากลับทำลายมันจนมลายสิ้น!

        ‘จ่ายเงินก็แล้ว จดทะเบียนสมรสก็แล้ว ยังจะมีคนมาวอแวอีก ถ้าพี่ทำให้น้องพลอยเป็นเมียพี่ ไอ้หัวหน้านั่นก็จะได้ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับของของพี่’

        เขาก็เห็นเธอเป็นเพียงแค่สิ่งของ จ่ายเงินซื้อมาแล้วจึงต้องใช้ มิได้มีความสิเน่หาใดๆ ในตัวเธอเลยแม้แต่น้อย

        ยิ่งคิดยิ่งรู้สึกถึงความไร้คุณค่าของตัวเอง พลอยชมพูได้แต่ภาวนาให้เรื่องราวหลอกลวงนี้จบๆ ไปเสียที

จบไปเสียก่อนที่เธอจะเผลอมอบหัวใจให้เขาไปทั้งดวง...

        สมาร์ตโฟนของพลอยชมพูสั่น เป็นเกศสุดาที่โทร.มาทักทาย

        “ฮัลโหลเพื่อนสาว หวังว่าฉันไม่ได้โทร. มาขัดจังหวะกระจุ๋งกระจิ๋งของเธอกับสามีใช่ไหมจ๊ะ”

         “เกศ...” 

        “อ้าวพลอยเป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น!? ทำไมเสียงถึงเป็นแบบนั้นล่ะ”

        พลอยชมพูพยายามกลั้นเสียงสะอื้น แต่เธอรู้สึกอยากปล่อยโฮใส่ใครสักคน เกศสุดาเหมือนเพื่อนที่รู้ใจ เธอวิดีโอคอลเข้ามาหาแทบจะในทันที 

        “คุณธีระพัฒน์เขาทำอะไรเธอ บอกฉันมานะ เขาอยู่ที่ไหน” สีหน้าของเกศสุดาขึ้งโกรธ เธอเหมือนพยายามส่องหาว่าผู้ชายที่เธอกล่าวถึงนั้นอยู่กับพลอยชมพูด้วยหรือเปล่า 

        พลอยชมพูปาดน้ำตาป้อยๆ แล้วสะอื้น

        “เขาออกไปแล้ว” 

        “เธอโอเคนะ” 

        พลอยชมพูส่ายหน้าแทนคำตอบ

        “เกิดอะไรขึ้นน่ะพลอย ไหนเล่าให้ฉันฟังสิ”

        พลอยชมพูชั่งใจอยู่นานสองนาน แต่เมื่อเห็นความเป็นห่วงที่ฉายชัดในสีหน้าของเพื่อนตาย เธอก็ไม่อยากจะปิดบังอะไร

        “พี่ธีร์เขาโกรธ...”

        “โกรธ?”

        “วันนี้ฉันเคลียร์งานก็เลยออกมาดึกไปหน่อย พอดีคุณภณเขากลับมาเอาเอกสาร คุณภณเลยอาสายืนรอส่งฉันขึ้นแท็กซี่” 

        “น่านนนไง งานเข้าแล้ว” 

        “...ทำไม” 

        “อะ เล่าต่อก่อน” 

        สีหน้าของเกศสุดาฟ้องว่าเธอตัดสินเรียบร้อยแล้วว่าพลอยชมพูนั่นแหละผิด พลอยชมพูลังเลที่จะเล่าต่อ แต่เมื่อโดนเพื่อนคาดคั้นหนักๆ เข้าก็ยอมพูดว่า

        “พี่ธีร์เขา...พยายามจะ...ข่มเหงฉัน”

        “ข่มเหง?” เกศสุดาฉงน “เธอหมายถึง...ปล้ำ!” 

        ทันใดนั้นเพื่อนสนิทก็หวีดร้องก่อนสบถออกมาเป็นชุด แล้วหันกลับมาทำหน้าขึงขังใส่พลอยชมพูที่เริ่มหน้าจ๋อย

        “อย่าบอกนะว่าจนถึงป่านนี้ เธอกับคุณธีร์ยัง...”

        พลอยชมพูเอียงอาย เธอส่ายหน้าแทนคำตอบ

        “โอ๊ย ฉันอยากจะบ้า! ยายพลอย เธอแต่งงานกับเขาแล้วนะ เธอเป็นภรรยาของเขาแล้วนะ ถ้าเขาอยากจะทำอะไรภรรยาของเขามันก็ไม่ใช่เรื่องแปลก ถ้าเขาไม่สนใจเธอเลยน่ะสิ ถึงน่าเป็นห่วง!”

        “เกศลืมไปแล้วเหรอว่าฉันกับพี่ธีร์แต่งกับเพราะสถานการณ์มันบังคับ...”

        “โนจ้ะ” เกศสุดาขัด เธอดูหัวเสียเป็นอย่างมาก “เชื่อฉัน คุณธีระพัฒน์ไม่แต่งงานเพราะเหตุผลแค่นั้นแน่นอน ยิ่งเธอบอกว่าคุณธีร์เขาโกรธที่เห็นเธออยู่กับบอสมันยิ่งชัด เธอนั่นแหละที่แปลกยายพลอย ไม่ใช่เขา!”

        “ฉันมีความสำคัญกับเขาเพียงเพราะฉันมีชื่อในทะเบียนสมรสเท่านั้นแหละ” พลอยชมพูพยายามปฏิเสธข้อสันนิษฐานของเกศสุดา 

        “ฉันจะไม่เถียงกับเธอแล้วพลอย เธออยากจะคิดยังไงก็เรื่องของเธอ แต่ฉันบอกเลยว่าครั้งนี้เธอผิด” 

        “ฉัน...ผิด?”

        “ยืนอยู่กับผู้ชายคนอื่นสองต่อสองกลางดึก ใครมาเห็นเขาก็คิดกันไปหมดแหละจ้ะว่าเธอกับบอสอาจจะมีซัมทิงรองกัน แล้วคุณธีร์ไปเห็นเธอในสภาพนั้น มีหรือจะรอด”

        “...”

        “เขาโกรธเพราะเขาหึงเธอ เขาหวงเธอนะยายพลอย ฉันว่าเธอหันไปคุยดีๆ กับเขาเถอะ ส่วนเรื่องบนเตียง...” เกศสุดากระซิบ เธอหัวเราะคิกคักอย่างมีเลศนัย “ถ้าคุณธีร์เขาเข้าใกล้เธอแล้วเธอไม่ได้รังเกียจอะไร ก็...ลองสักทีเถอะนะพลอย ถือว่าสงสารผู้ชายเขา ไม่ทำกับภรรยาที่รออยู่ที่บ้าน แล้วเขาจะไปทำกับสาวที่ไหนล่ะจ๊ะ”

        “ยายเกศ!” พลอยชมพูโวยวาย หน้าของเธอร้อนผ่าวและแดงซ่านจนถึงใบหู

        “ฉันไปก่อนดีกว่า ได้ผลยังไงอัปเดตเพื่อนบ้างนะ ฉันเองก็อยากจะเห็นหลานมาวิ่งเล่นที่ทำงานบ้าง คงสนุกพิลึก บ๊ายบาย”

        แล้วเกศสุดาก็ตัดสายไป ทิ้งพลอยชมพูไว้กับใบหน้าร้อนผ่าวและสมองที่คิดจินตนาการถึงรสจูบหวานละมุนของคนตัวโตใจร้าย ก็จริงอย่างที่เกศสุดาว่า ครั้งนี้เธอผิดที่ทำอะไรไม่คิดถึงหน้าตาเขา แม้จะถูกบังคับแต่งงาน แต่เธอก็ขึ้นชื่อว่าเป็นคนมีเจ้าของแล้ว อยู่กับชายอื่นสองต่อสอง อย่างไรก็ไม่งาม 

        พี่ธีร์คงจะโกรธเธอมาก เขาถึงได้...พูดจาแบบนั้น 

        เจ้าของนัยน์ตาหวานกวาดตามองหา แต่ในห้องไร้เงาของร่างสูง ประตูห้องยังคงปิดตาย ไร้วี่แววของคนตัวโตที่จะกลับมา พลอยชมพูตัดสินใจเป็นฝ่ายง้อ เธอต่อสายหาศักดิ์ฐาเพื่อจะหาที่อยู่ของคนตัวโต 

 

        ไลลากระหยิ่มยิ้มอยู่ในใจเมื่อเห็นธีระพัฒน์เริ่มกรึ่มได้ที่ แน่ละ เธอรินเหล้าให้เขาทีเกือบครึ่งแก้วเสียขนาดนั้น ประจวบเหมาะกับเวลาที่ปารินทร์ออกไปรับแขกที่มาใหม่ 

        “คุณธีร์คะ ไลลาอยากเล่นน้ำจัง แต่ไม่มีใครเล่นน้ำกับไลลาเลย คุณธีร์ไปเล่นน้ำเป็นเพื่อนไลลาหน่อยได้ไหมคะ” หญิงสาวออดอ้อน จงใจเบียดร่างระหงให้เข้าใกล้ความหนุ่มแน่นของชายหนุ่ม เมื่อสายตาของธีระพัฒน์หยุดอยู่ที่เธอ หญิงสาวก็ลุกขึ้นเดินไปยังฝักบัวใกล้ๆ จงใจเปิดน้ำรดตัวเองจนร่างทั้งร่างเปียกปอน เสื้อสีขาวบางแนบเนื้ออวดให้เห็นบิกินีสีสดด้านใน ทั้งยังส่วนเว้าส่วนโค้งระดับนางแบบนิตยสารที่สะกดสายตาบรรดาชายหนุ่มได้อยู่หมัด 

        ไม่เว้นแม้แต่ธีระพัฒน์ เขาปฏิเสธไม่ได้ว่าหุ่นของหญิงสาวนั้นช่างเย้ายวนและเป็นอาหารตาที่ดี 

        แต่ก็เป็นแค่อาหารตาที่รับประทานผ่านทางสายตาแล้วผ่านไป 

        ไลลาขยับเข้ามาใกล้ เธอก้มตัวลงแนบชิดจนหน้าอกของหญิงสาวโดดเด่นอยู่ต่อหน้าชายหนุ่ม 

        “นะคะคุณธีร์ เล่นคนเดียวไลลาว่ามัน...ยังไงก็ไม่รู้สิ คุณธีร์ไปเล่นน้ำเป็นเพื่อนไลลาหน่อยนะคะ” ว่าเสร็จมือเล็กก็ถือวิสาสะเกี่ยวแขนและดึงธีระพัฒน์ให้ลุกขึ้นมาด้วยกันอย่างง่ายดาย 

        สติของธีระพัฒน์ไม่ได้อยู่ที่ร่างระหงตรงหน้าแม้แต่น้อย เขาคิดถึงแต่ผู้หญิงอีกคน 

        ถ้าพลอยชมพูใส่ชุดว่ายน้ำล่ะ เธอจะเลือกชุดว่ายน้ำแบบไหนกันนะ

        ธีระพัฒน์จินตนาการถึงร่างเล็กๆ ผิวขาวๆ และนมคัปบีในชุดว่ายน้ำแบบผู้หญิงตรงหน้า ชายหนุ่มหลุดยิ้ม เมื่อคิดภาพว่าเธอคงเอาแต่ยืนบิดเอียงอายและพยายามขโมยเสื้อของเขาไปสวมทับแน่ๆ

        ว่างๆ ลองชวนพลอยชมพูไปเที่ยวทะเลดูดีกว่า 

        “คุณธีร์...คุณธีร์...คุณธีร์ฟังไลลาอยู่หรือเปล่าคะ” เสียงของหญิงสาวเริ่มตวัดห้วนด้วยความไม่พอใจ เธออุตส่าห์ล่อลวงชายหนุ่มมาถึงขอบสระว่ายน้ำ นั่งลงเล่นน้ำด้วยท่าทางเซ็กซี่ก็แล้ว ธีระพัฒน์ก็เอาแต่อมยิ้มอยู่คนเดียว ดวงตาคู่นั้นเหมือนมองผ่านเธอไป

        “คุณธีร์ลงมาสิคะ ไลลารอนานแล้วนะคะ” ไลลาเร่งเร้าเมื่อชายหนุ่มยังคงหยุดยืนอยู่ที่ริมขอบสระ ไม่ลงมาเสียที 

        ธีระพัฒน์ได้สติ ชายหนุ่มเหลือบมองหญิงสาวที่อยู่ในน้ำเพียงคนเดียวในงานปาร์ตี เขาและเธอกำลังตกเป็นเป้าสายตา นิศราและปารินทร์ที่ยืนคุยกันอยู่ตรงบาร์มองเห็นเพื่อนของเขาอยู่ในสถานะกลืนไม่เข้าคายไม่ออก จะช่วยก็ช่วยไม่ทันเสียแล้ว ถ้าธีระพัฒน์ไม่ลงไป ไลลาจะเสียหน้าและคงไม่ดีกับความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขาตลอดการทำงาน 

        “ผมไม่ได้เตรียมชุดมา” ชายหนุ่มปฏิเสธอ้อมๆ ทว่าโชคร้ายที่เขาดันเลือกใส่กางเกงขาสั้นก่อนจะมาที่นี่ 

        “ไม่ต้องลงมาทั้งตัวก็ได้ค่ะ นั่งลงขอบสระอยู่เป็นเพื่อนไลลาเฉยๆ ไลลาก็โอเค” หญิงสาวทำเสียงอ่อน เธอช้อนตามองผู้คนที่จับจ้องมายังเธอ 

        “นะคะคุณธีร์” 

        ธีระพัฒน์ถอนหายใจหนัก เขาลงนั่งข้างขอบสระอย่างเสียมิได้ น้ำในสระเย็นเฉียบ ท่าทางคนตรงหน้าจะหนาวอยู่มิใช่น้อย 

        “คุณไลลาอย่าเล่นน้ำนานเลยนะครับ อากาศมันเย็น เดี๋ยวจะไม่สบาย” ธีระพัฒน์เตือนด้วยความหวังดี หญิงสาวหัวเราะกรุ้มกริ่ม ธีระพัฒน์รู้ตัวอีกทีก็ถูกร่างระหงฉุดให้ลงมาเล่นน้ำเป็นเพื่อนกันเรียบร้อยแล้ว 

        “แค่นี้คุณธีร์ก็หนีไลลาไปไหนไม่ได้แล้ว” เธอหัวเราะชอบใจก่อนจะโถมตัวเข้ากอดชายหนุ่ม สระที่บ้านของปารินทร์นั้นลึกพอควร ระดับน้ำปริ่มอยู่ระดับใต้อกของธีระพัฒน์เล็กน้อย แต่สำหรับผู้หญิงอย่างไลลาเธออาจจะต้องเขย่งปลายเท้าเพื่อให้ใบหน้าโผล่พ้นน้ำ 

        ธีระพัฒน์เผลอยื่นมือไปรับตัวของหญิงสาวเอาไว้ ทำให้ทั้งสองอยู่ในลักษณะแนบชิด ครั้นรู้สึกตัวอยากจะผลักออกก็ทำไม่ได้เสียแล้ว เพราะสาวเจ้าเล่นโถมน้ำหนักมาที่ตัวเขาทั้งหมด 

        “คุณไลลา...ผมว่ามันไม่เหมาะ” 

        “ไม่เหมาะอะไรกันคะ เราก็แค่เล่นน้ำกัน คนอื่นเขาไม่ลงมาเล่นเอง...อ๊ะ คุณธีร์”

        ธีระพัฒน์ไม่สนใจคำปฏิเสธของหญิงสาว ชายหนุ่มอุ้มเธอเดินไปยังขอบสระและส่งตัวไลลาให้ขึ้นจากน้ำ เธอหัวเราะคิกคักอย่างอารมณ์ดี 

        “คุณธีร์ก็เป็นเสียแบบนี้ตลอด” เธอจงใจก้มตัวลงต่ำ ร่างระหงเปียกโชก เสื้อผ้าล้วนแนบเนื้อโชว์สัดส่วนที่งดงาม ธีระพัฒน์ยังคงยืนอยู่ในสระน้ำข้างหน้าหญิงสาว ก่อเกิดเป็นภาพที่ไม่เหมาะสมนัก “ไลลาไม่สวยพอหรือคะ หรือว่าไม่ใช่สเปกคุณ”

        “ผมแต่งงานแล้วครับคุณไลลา” ธีระพัฒน์ยืนยันหนักแน่น แต่มีหรือที่หญิงสาวอย่างไลลาจะสนใจ 

        เหล่าไฮโซ แฟนบรรดาดาราเซเลบมากมาย เธอก็ฉกมาเป็นของเธอหมดแล้ว 

        ถ้าเธออยากได้ เธอต้องได้ 

        “ไลลาบอกแล้วไงคะ ประเพณีคลุมถุงชนแบบนั้นไลลาไม่แคร์ ถึงคุณธีร์จะหย่าแล้วเป็นพ่อม่าย ไลลาก็ยังอยากได้คุณอยู่ดี” หญิงสาวโน้มตัวลงมาใกล้จนใบหน้าของทั้งสองอยู่ห่างกันเพียงลมหายใจ ริมฝีปากอวบอิ่มยั่วเย้าอยู่ไม่ห่าง เพียงแค่ธีระพัฒน์ตอบรับมัน เธอก็พร้อมจะสนองให้เขาทันที 

        แต่ชายหนุ่มกลับยืนตัวแข็งเหมือนรูปปั้นไร้ความรู้สึก

        “ผมว่าผมได้บอกคุณไปชัดเจนแล้ว ว่าระหว่างเราคงเป็นได้แค่นายจ้างกับลูกจ้างเพียงเท่านั้น” 

        “งั้นคุณธีร์ก็น่าจะรู้ดี ว่าไลลาอ้อนป๊ะป๋าให้ลงทุนในธุรกิจนี้ก็เพราะใคร”

        “ถ้าเช่นนั้นคุณไลลาก็ควรจะทราบเพิ่มเติมอีกสักนิดว่าผมเองก็รับทำงานนี้เพราะเป็นการตัดสินใจของบริษัท”

        “ไลลารู้ค่ะ” ในเมื่อธีระพัฒน์ไม่ยอมขยับ หญิงสาวก็โน้มตัวลงไปจูบเขาเอง “แต่ก่อนที่ดีลงานนี้จะจบ ไลลาก็ยังพอมีเวลาเปลี่ยนใจคุณ”

        “อะแฮ่ม”

        “ขอโทษทีนะคะที่ต้องขัดจังหวะ” 

        เสียงกระแอมกระไอของปารินทร์พร้อมกับการปรากฏตัวด้วยสีหน้าท่าทางไม่พอใจของนิศราหยุดการสนทนาของทั้งคู่เอาไว้ ไลลาจำใจขยับตัวออกห่างจากธีระพัฒน์ ปารินทร์ส่งสัญญาณบางอย่างไปทางด้านซ้ายของเขา เมื่อธีระพัฒน์เหลือบมอง เขาก็เห็นคนตัวเล็กยืนทำตัวลีบอยู่ไม่ไกล

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น