1

ตอนที่ 1


1

“อันไหนสวยกว่ากันคะน้ำบุศย์”

เด็กหญิงตัวน้อยบนตักคนถามเอียงใบหน้าจิ้มลิ้มมองกระดาษสามแผ่นที่วางอยู่บนโต๊ะสลับกันไปมา ก่อนที่จะขยับริมฝีปากตอบเสียงสดใส “น้ำบุศย์สวยกว่าค่า”

เจ้าของคำถามอมยิ้มแล้วกดปลายจมูกลงบนแก้มยุ้ยของคนช่างจำนรรจา พร้อมกับโยกตัวไปมา “น้ำบุศย์ของอาเล็กสวยที่สุดอยู่แล้วครับ แต่ที่อาเล็กหมายถึงคือรูปสร้อยคอบนกระดาษสามแผ่นนี้ต่างหาก ว่าน้ำบุศย์ชอบอันไหนมากที่สุด” กฤตพจน์ โภคินอภิวัฒน์ ผู้อำนวยการบริหารบริษัท โภคิน จิวเอลรี ชี้ชวนให้เด็กหญิงบุศย์น้ำเพชรพิจารณากระดาษที่วางเรียงกันอยู่บนโต๊ะอีกรอบ

“กะจะปั้นให้น้ำบุศย์ดูแลบริษัทต่อเลยหรือไงเจ้าเล็ก” เสียงพี่ชายคนรองที่นอนตะแคงข้างมองเด็กชายบุญรักษาหลานชายคนโต ประคองขวดนมป้อนเด็กหญิงมณฑิตาบุตรสาวของตนอยู่เอ่ยถาม

“ครับพี่รอง ต้องเริ่มให้เรียนรู้ตั้งแต่เด็ก ไว้รอให้น้ำมนต์โตกว่านี้อีกหน่อยผมก็จะพาไปทำงานด้วยเหมือนกัน ช่วงวางระบบงานรุ่นต่อไปพวกเราต้องวางแผนกันให้รัดกุม ความจริงเรื่องบริหาร ใบบุญมีแววมากกว่าใคร แต่พี่ใหญ่ตั้งใจให้ดูแลอสังหาริมทรัพย์ต่อ ผมเลยต้องปรับแผนใหม่ให้น้ำบุศย์กับน้ำมนต์เข้ามาคลุกคลีตั้งแต่ยังเล็ก” คุณเล็กเอ่ยตอบด้วยน้ำเสียงจริงจังเป็นการเป็นงาน

“น้ำมนต์เพิ่งห้าเดือน” คุณรองส่ายหน้าน้อยๆ ก่อนจะกล่าวต่อ “แล้วที่สำคัญพี่ก็เตรียมส่งไม้ต่อให้ลูกสาวเอาไว้เหมือนกัน แค่งานบริหารห้างสรรพสินค้าที่มีน้ำมนต์ก็เหนื่อยแย่แล้ว”

“จริงสิครับ ลืมไปเลยว่าน้ำมนต์ก็ต้องดูแลห้างต่อจากพี่รอง ไม่เป็นไรครับ เท่าที่ผมสังเกต น้ำบุศย์มีแววด้านเครื่องประดับอยู่มากทีเดียว” น้องเล็กของบ้านว่า

“เจ้าเล็ก พี่เองก็วางระบบงานเตรียมไว้ให้น้ำบุศย์แล้วเหมือนกัน” คุณใหญ่ บิดาของเด็กหญิงบุศย์น้ำเพชรละสายตาจากกระดานหมากรุกแล้วเงยหน้าขึ้นมองคนช่างวางแผน ที่มักจะหาเวลาว่างวางแผนงานสำหรับทายาทรุ่นถัดไปเช่นนี้เสมอ

“พี่ใหญ่มีใบบุญแล้ว ผมขอน้ำบุศย์มาเป็นทายาทผมนะครับ” คนไร้ทายาทหนึ่งเดียวร้องขอ

“แกก็มีทายาทเองสิ” แฝดพี่ที่นั่งอยู่อีกฝั่งของกระดานหมากรุกเลิกคิ้วขึ้นมองแล้วเอ่ยเสียงเรียบ

“แหม มีลูกแฝดหน่อยทำเป็นคุยนะครับพี่กลาง” คุณเล็กเบ้ปาก เพราะตั้งแต่ตรวจพบว่าภรรยาสาวตั้งครรภ์บุตรเป็นฝาแฝดชายหญิงนั้น คุณหมอกลางก็มักจะหาโอกาสสำทับน้องชายเช่นนี้เสมอ

“แน่นอน แล้วฉันก็เตรียมระบบงานรอลูกสองคนของฉันแล้วด้วย” คุณหมอกลางยักไหล่พร้อมคุยโอ่ถึงแผนงานที่เตรียมไว้รอทายาทที่ยังนอนเล่นอยู่ในครรภ์ของภรรยา

คุณใหญ่และคุณรองกลั้นขำ สองแฝดมักจะถกกันเรื่องทายาทเช่นนี้เป็นประจำ คนที่ทำสำเร็จแล้วก็ยืดอกโชว์ผลงานด้วยความภาคภูมิใจ ยิ่งกว่านำทัพทำผลประกอบการบริษัททะลุเป้าเสียอีก ส่วนคนที่ยังไม่มีผลงานก็ไม่ยอมแพ้ เพียรยกตนข่มท่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งเสมอ

“ผมจะมีแฝดสามให้ดู แล้วอย่ามาร้องขอ ถามถึงวิธีการผลิตก็แล้วกัน” คุณเล็กยักไหล่ แล้วหันไปเจรจากับเจ้าเสือน้อยที่กำลังช่วยคุณอาคนรองดูแลน้องสาวคนที่สองอยู่ไม่ห่าง

“ใบบุญอยากบริหารโรงแรมหรือผลิตแหวนเพชรไว้แจกสาวๆ ครับ”

เจ้าเสือน้อยเงยหน้าขึ้นมองคุณอาคนเล็ก โดยที่มือป้อมยังคงช่วยจับขวดนมป้อนหนูน้อยน้ำมนต์อยู่ “แหวนเพชรมีรสวานิลลาหรือเปล่าครับอาเล็ก น้องเนเน่บอกบุญว่าชอบรสวานิลลา บุญอยากหาไปให้น้อง”

คำถามของทายาทคนโตพาให้สี่เสือหัวเราะครืน “พอเถอะเจ้าเล็ก อย่าเอาความคิดประหลาดของแกถ่ายทอดให้ลูกชายพี่เลย” คุณใหญ่ส่ายหน้าพร้อมยิ้ม ก่อนที่จะเป็นผู้ตอบคำถามของบุตรชายด้วยตนเอง

“แหวนเพชรไม่มีรสชาติครับใบบุญ เพราะทานไม่ได้ คุณพ่อว่าถ้าหากน้องเนเน่ชอบรสวานิลลา ไว้ให้คุณแม่ทำไอศกรีมไปฝากดีกว่านะครับ”

“อ๋อ ทานไม่ได้” เจ้าเสือน้อยพยักหน้ารับ “งั้นบุญขอเยอะๆ เลยนะครับ น้องข้าวหอมก็ชอบวานิลลาเหมือนกัน”

“ครับลูก” คุณใหญ่ตอบบุตรชาย แล้วส่งสายตามองหน้าน้องชายสามคนสลับกันไปมา “พี่คิดผิดใช่ไหมที่ยอมให้เจ้าเล็กนอนกับใบบุญทุกคืนแบบนี้”

“ว่านอนสอนง่าย ได้ใจอาเล็กสุดๆ”

เสือเล็กเจ้าสำราญยักคิ้ว ทว่าก่อนที่สี่เสือจะทันได้สนทนากันต่อ เสียงหวานที่ลอยมาทางหน้าประตูห้องพักผ่อนก็ดึงความสนใจของทุกคนให้หันไปมอง

บัวบูชาและมินตราประคองเขมิกาเดินเข้ามาในห้อง เมื่อพาสะใภ้คนที่สามที่ท้องกลมโตไปนั่งลงบนโซฟา และแม่บ้านที่เดินตามเข้ามานำถังไม้แบบจีนไปวางไว้ด้านหน้าของเธอเรียบร้อยแล้ว คุณหมอกลางจึงผละตัวลุกขึ้นจากกระดานหมากรุก เดินเข้าไปนั่งคุกเข่ากับพื้นเบื้องหน้าภรรยา เพื่อช่วยประคองเท้าคู่งามจุ่มลงไปในน้ำสมุนไพรอุ่นๆ

มือหนาสัมผัสลูบไล้ฝ่าเท้าบางอย่างเบามือ คนเป็นสามีเงยหน้าขึ้นมองใบหน้าสวยของภรรยาที่ถึงแม้นตอนนี้จะอวบอิ่มมีน้ำมีนวลมากขึ้น ทว่าความงามที่มีไม่เคยลดน้อยลงเลย

“หายเมื่อยหรือยังครับ” นายแพทย์หนุ่มถาม

“ดีขึ้นแล้วค่ะ ช่วงนี้เข็มคงเดินเยอะไปหน่อย เจ้าตัวเล็กคงตัวโตกันน่าดู คุณแม่ถึงได้เมื่อยขนาดนี้” เขมิกาตอบสามี แล้วลูบหน้าท้องกลมโตของตนไปพลางๆ

ในขณะที่คู่รักลูกแฝดกำลังพลอดรักกันทางสายตาอยู่นั้น มินตราก็เดินเลี่ยงไปนั่งลงข้างๆ สามีที่นอนอยู่บนฟูกเด็ก คุณรองขยับศีรษะขึ้นนอนหนุนตักนุ่มนิ่มของภรรยาวัยใส แล้วกุมมือบางขึ้นมาจุมพิต

“ใบบุญช่วยเลี้ยงน้องเก่งแบบนี้ มีเจ้าตัวเล็กอีกสักคนดีไหม หืม” เสียงหล่อเอ่ยถาม

มินตราแสร้งตีมือลงบนหน้าอกของสามีอย่างไม่แรงนักเป็นการแก้เขิน เพราะหมู่นี้เขามักจะชวนผลิตทายาทเพิ่มตลอดเวลาอย่างไม่อายฟ้าดิน

“ถ้าพี่รองอยากมีอีก มินก็ยินดีค่ะ” มินตราตอบเสียงหวาน

คุณรองจ้องใบหน้าคมของภรรยาด้วยสายหวานเยิ้ม พลางเอื้อมมือขึ้นไปลูบไล้แก้มนวลอย่างหวงแหน

ถัดไปอีกฝั่งของโซฟาที่เขมิกานั่งแช่เท้าในน้ำสมุนไพรรสหวานอยู่นั้น คุณใหญ่ที่นั่งอยู่บนพื้นพรมกำลังเอนศีรษะซบขาภรรยาที่นั่งอยู่ด้านบน บัวบูชาไล้ปลายนิ้วปัดไรผมที่ระใบหน้าหล่อของสามีออกอย่างเบามือ

กฤตพจน์หันซ้ายแลขวามองบรรดาพี่ชายและพี่สะใภ้พลอดรักกันแล้วกลอกตามองเพดาน ก่อนที่จะโน้มใบหน้าลงเอ่ยกับหลานสาวที่นั่งอยู่บนตัก

“โชคดีของอาเล็กจริงๆ ที่ยังมีน้ำบุศย์คอยรักและห่วงใยอยู่แบบนี้”

หนูน้อยน้ำบุศย์เอียงคอยกมือป้อมขึ้นลูบคางผู้เป็นอาแล้วยิ้มหวาน “น้ำบุศย์รักน้องน้ำมนต์ค่า”

“อ้าว” คำตอบใสซื่อของหลานสาวพาให้คุณอาร้องเสียงหลง

สามเสือและศรีสะใภ้กลั้นขำ ก่อนที่พี่ใหญ่ของบ้านจะแจ้งข่าวสำคัญที่มารดาฝากมาบอกเสือเบอร์สุดท้ายผู้โดดเดี่ยวได้รับทราบ “จริงสิเจ้าเล็ก คุณแม่บอกว่าลดาจะบินกลับมาเดือนหน้า น้องจะมาฝึกงานกับแกสักระยะ”

“อ้าวหรือครับพี่ใหญ่ ได้ครับผมจะได้เตรียมเอกสารไว้รอ ไม่เจอกันหลายปีคงโตเป็นสาวแล้วมั้ง” คุณเล็กกล่าว พลางนึกถึงใบหน้าจิ้มลิ้มของลูกพี่ลูกน้อง บุตรสาวของญาติห่างๆ ฝั่งมารดาที่ค่อนข้างสนิทสนมกัน

ด้วยความที่คุณน้ำเพชรอยากมีบุตรสาวสักคน แต่ไม่มี ดังนั้นเมื่อญาติผู้น้องคลอดบุตรสาว คุณน้ำเพชรจึงคอยยึดเด็กหญิงตัวน้อยในวันวานมาเลี้ยงดูที่บ้านทุกครั้งที่มีโอกาส จนกระทั่งเมื่อหลายปีก่อนญาติผู้น้องพาครอบครัวไปสร้างธุรกิจที่ต่างประเทศ เด็กหญิงตัวน้อยจึงต้องย้ายไปใช้ชีวิตในต่างแดนไปโดยปริยาย

 

โภคิน จิวเอลรี เป็นอีกหนึ่งธุรกิจภายใต้การบริหารงานของสี่เสือโภคินอภิวัฒน์ กฤตพจน์รับหน้าที่ดูแลธุรกิจนี้ต่อจากมารดา ด้วยเป็นผู้ที่มีวิสัยทัศน์และพรสวรรค์ทางด้านงานบริหารเครื่องประดับมาตั้งแต่เริ่มเรียนบริหาร เพียงไตรมาสแรกที่มารับช่วงต่อจากมารดาในตำแหน่งหัวเรือใหญ่ ชายหนุ่มผู้มีภาพลักษณ์รักสนุกและเพลย์บอยกลับทำให้คณะผู้บริหารประหลาดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่า ด้วยยอดขายที่เพิ่มขึ้นเกินสามสิบเปอร์เซ็นต์ และนำพาธุรกิจเข้าสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน ซึ่งด้วยความสามารถนี้จึงทำให้คณะผู้บริหารชุดเดิมยอมรับและให้การช่วยเหลือเขาเป็นอย่างดี

“สวัสดีค่ะ เอ่อ...ขอปรางค์เรียนถามบอสก่อนนะคะว่าสามารถแทรกตารางวันไหนได้บ้าง เพราะตอนนี้ตารางแน่นจริงๆ ค่ะ หากได้วันเวลาที่แน่นอนแล้วจะรีบแจ้งคุณนลิยานะคะ” ปรางค์ขวัญ เลขานุการหน้าห้องของกฤตพจน์วางสายหลังจากเจรจากับนลิยา ไฮโซสาวทายาทร้านเพชรชื่อดังที่เพียรโทร. มาขอนัดพบผู้เป็นนายวันละสามเวลา

กริ๊ง!

หลังจากวางสายแรก สายที่สองก็ดังขึ้นต่อเนื่องกันทันที แค่เพียงเห็นหมายเลขที่โชว์บนหน้าจอโทรศัพท์ เลขานุการสาวก็แทบจะหมดแรง

“สวัสดีค่ะ คุณณัชชา” ปรางค์ขวัญรับสาย “สัปดาห์นี้ตารางบอสแน่นจริงๆ ค่ะ ปรางค์ไม่กล้าแทรกนัดมื้อไหนให้เลย ปรางค์ขอเรียนบอสก่อนนะคะแล้วจะแจ้งกลับ สวัสดีค่ะ”

“เฮ้อ...” หญิงสาวเอนตัวลงพิงพนักเก้าอี้หลังวางสายจากนางเอกดาวรุ่งที่เคยมีข่าวว่าเป็นสาวคนสนิทของผู้เป็นนาย และเคยควงกันออกงานเมื่อสองเดือนก่อน

“เป็นอะไรคุณปรางค์ เสียงถอนหายใจดังไปถึงหน้าลิฟต์” เสียงคุ้นเคยเอ่ยทัก

ปรางค์ขวัญเด้งตัวนั่งหลังตรงก่อนที่จะลุกขึ้นยืนรายงาน

“บอสมาพอดีเลยค่ะ ปรางค์กำลังกลุ้มเลย” หญิงสาวว่าพลางหอบสมุดบันทึกแล้วสาวเท้าตามผู้เป็นนายและคนสนิทอีกสองคนเข้าไปในห้อง

“คุณลิยาขอแทรกคิวเข้าพบ ย้ำหลายรอบว่าขอเป็นสัปดาห์นี้ คุณณัชชาโทร. มาทวงสัญญาว่าบอสเคยบอกเธอว่าจะพาไปทานอาหารฝรั่งเศสช่วงสัปดาห์นี้เหมือนกันค่ะ แต่ปรางค์ไม่รู้จะลงนัดวันไหนดี เพราะตอนนี้ตารางแน่นมาก” เลขานุการสาวรายงาน

ประวีร์และทินกรก้มหน้าลงกลั้นขำ เพราะนี่คือเหตุการณ์ปกติตลอดหลายปีที่ผ่านมา หญิงสาวจากหลากหลายวงการมักจะโทร. มาตามทวงสัญญากับผู้เป็นนายเช่นนี้เสมอ

“ฉันเคยบอกณัชชาแบบนั้นด้วยหรือวีร์ กร” กฤตพจน์ที่เพิ่งทรุดตัวลงนั่งบนเก้าอี้ประจำตำแหน่งเงยหน้าขึ้นถามคนสนิท

“ไม่ทราบครับนาย ผมไม่เคยจดไว้เหมือนกัน” ประวีร์ตอบ เพราะหากมีอะไรพิเศษผู้เป็นนายจะแจ้งให้ตนช่วยประสานงานต่อเสมอ ทว่าเรื่องอาหารฝรั่งเศสนั้น ตนไม่มีข้อมูลมาก่อน

“อืม...” ชายหนุ่มวัยย่างสามสิบสามปีหมุนปากกาในมือของตนเล่นไปมา ก่อนที่จะหยิบไอแพดขึ้นมาเปิดดูตารางงาน แล้วสั่งการ “งั้นให้ลิยาเข้ามาพบพรุ่งนี้แปดโมงครึ่ง ช่วยย้ำด้วยว่าห้ามสาย ส่วนณัชชาก็เป็นพรุ่งนี้เที่ยง ช่วยจองร้านอาหารฝรั่งเศสใกล้ๆ ออฟฟิศไว้ด้วยก็แล้วกัน เพราะผมมีเวลาแค่สี่สิบห้านาทีรวมเดินทางไปกลับ”

“ค่ะบอส” ปรางค์ขวัญรับคำ แล้วหมุนตัวหมายจะเดินออกไปทำงานต่อ

“เดี๋ยวคุณปรางค์” กฤตพจน์เรียก หญิงสาวจึงหันกลับมารับคำสั่งอีกรอบ “ลงนัดคืนนี้ให้ผมด้วย ผมมีนัดทานดินเนอร์กับวีว่า แล้วช่วยจองโต๊ะที่ร้านอาหารบนหอคอยโรงแรมพี่ใหญ่เอาไว้ประมาณหนึ่งทุ่ม”

“ค่ะบอส” หญิงสาวค้อมศีรษะรับคำสั่ง แล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้อง

 

หลังจากบริหารจัดการตารางนัดส่วนตัวจนเข้าที่ด้วยตนเองเรียบร้อยแล้ว จึงเดินนำคนสนิทไปประชุมบอร์ดแรกของวัน ตารางงานของกฤตพจน์ไม่ได้ต่างจากพี่ชายทั้งสามเลยแม้แต่น้อย สี่เสือจะทุ่มเทเวลาในการประชุมหารือกับฝ่ายต่างๆ อย่างใกล้ชิด เพื่อเข้าถึงความคิดของพนักงานและความต้องการของตลาดอย่างเที่ยงแท้

การเป็นหัวเรือใหญ่ตั้งแต่อายุยังน้อย สอนให้พวกเขาตระหนักว่า คุณภาพชีวิตของพนักงานส่งผลต่อคุณภาพงานโดยตรง ดังนั้นทุกๆ บริษัทภายใต้การบริหารงานของตระกูลโภคินอภิวัฒน์จึงมีอัตราค่าตอบแทนที่ค่อนข้างสูงกว่าท้องตลาด จวบจนถึงทุกวันนี้โภคินอภิวัฒน์จึงเป็นหนึ่งในบริษัทที่บัณฑิตจบใหม่ใฝ่ฝันอยากร่วมงานด้วยมากที่สุด

“คอลเล็กชันใหม่ของไตรมาสนี้ผมอยากเน้นไปที่เพชรสีชมพู” กฤตพจน์กล่าวในที่ประชุม “และออกแบบให้สามารถสวมใส่ได้ทุกโอกาส”

“บอสอยากให้เน้นการตลาดรูปแบบไหนคะ” ผู้จัดการฝ่ายการตลาดถาม

“ความจริงกลุ่มลูกค้าของคอลเล็กชันนี้ยังเป็นกลุ่มเดิม แต่ผมอยากให้มีอะไรแปลกใหม่ขึ้นมาบ้าง เดินแบบเปิดตัวเหมือนทุกครั้งผมว่ามันธรรมดาไป คุณกับทีมลองนำเสนอรูปแบบที่อยากทำมาก่อนก็แล้วกัน ผมเองก็จะช่วยคิดอีกทาง” ประธานในที่ประชุมเสนอ

ผู้บริหารที่เข้าร่วมประชุมสบตากันไปมา ด้วยงานเปิดตัวคอลเล็กชันใหม่ที่ผ่านมาคือการเชิญนางแบบชั้นนำมาเดินพรมแดง ทว่าคอลเล็กชันนี้ผู้เป็นนายกลับให้โจทย์ที่ต่างออกไป

 

เมื่อจบจากการประชุมเรื่องเครื่องประดับคอลเล็กชันใหม่ กฤตพจน์ก็เดินเข้าห้องประชุมอีกห้องที่มีผู้บริหารฝ่ายบัญชีและการเงินนั่งรออยู่ครบทีม

“ผลประกอบการหกเดือนแรกของปีนี้ ยอดขายทั้งหมดอยู่ที่หนึ่งพันสองร้อยล้าน ซึ่งหากเทียบกับทาร์เกต1 ที่ตั้งไว้ของปีนี้ที่สองพันห้าร้อยล้าน เท่ากับว่าเราทำได้ไปแล้วสี่สิบแปดเปอร์เซ็นต์ และถ้าหากเทียบกับผลประกอบการของปีที่แล้วหกเดือนแรก เราทำได้เก้าร้อยเก้าสิบล้าน นับว่าปีนี้เป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของ โภคิน จิวเอลรี” ผู้จัดการฝ่ายบัญชีรายงานผลประกอบการ

กฤตพจน์เปิดเอกสารขึ้นมาพิจารณาอย่างละเอียด ก่อนที่จะเงยหน้าสบตาผู้เข้าร่วมประชุมทีละคน “ผมอยากเห็นเงินสองพันห้าร้อยล้านตอนสิ้นปี หวังว่าพวกคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง”

“ถ้าหากพิจารณาจากโครงการที่ทางฝ่ายขายลงนามสัญญาเพิ่มมาใหม่สี่รายการ ที่เรายังไม่ได้นำมารวมในยอดบัญชีในไตรมาสนี้ เพราะทางลูกค้ายังไม่ได้โอนมัดจำมา คาดว่าภายในไตรมาสที่สามเราจะมีรายรับเพิ่มขึ้นอีกประมาณเจ็ดร้อยห้าสิบล้าน ส่วนในไตรมาสที่สี่ในรายงานระบุว่า ฝ่ายขายยังมีโครงการที่กำลังเจรจาอยู่อีกแปดโครงการ มูลค่ารวม

กว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้าน หากสามารถปิดการเจรจาได้หมด เราก็บรรลุเป้าหมาย” ผู้จัดการฝ่ายการเงินวิเคราะห์ตามเอกสารในมือ

“แต่ผมว่าลำบาก โครงการที่ฝ่ายขายวางแผนไว้ว่าจะปิดการขายในไตรมาสที่สี่แปดโครงการ เท่าที่ผมตรวจสอบดูมีห้าโครงการที่มีแนวโน้มว่าจะเลื่อนการเปิดตัว ลองไปหาข้อมูลและวางแผนเพิ่มเติมด้วย ผมไม่อยากรอเก้อ” กฤตพจน์กล่าว

ผู้เข้าร่วมประชุมพยักหน้ารับทราบ พร้อมทั้งจดข้อมูลที่จะต้องนำไปวิเคราะห์ต่ออย่างละเอียด

 

พลบค่ำภายในร้านอาหารสุดหรูบนหอคอยโรงแรมห้าดาวใจกลางเมือง หญิงสาวใบหน้าโฉบเฉี่ยวนั่งอมยิ้มมองแก้วแชมเปญในมือ นิ้วเรียวลากผ่านขอบแก้วเล่นระหว่างรอพบกับใครบางคน คนที่หญิงสาวค่อนประเทศอยากครอบครอง ทว่าคืนนี้เขานัดเธอมารับประทานมื้อค่ำในสถานที่อันแสนโรแมนติกแห่งนี้เพียงลำพังสองต่อสอง หลังจากชนะการประกวดนางแบบรายการดังระดับประเทศ กอปรกับใบหน้าสวยเก๋โฉบเฉี่ยว จึงไม่แปลกนักที่หนุ่มน้อยหนุ่มใหญ่จะแวะเวียนมาขายขนมจีบ

แต่นั่นก็ไม่ใช่ทางที่เธอเลือกเดิน เพราะกว่าจะก้าวมาถึงจุดนี้ได้ เธอต้องผ่านความยากลำบากมานับไม่ถ้วน ฉะนั้นในเมื่อวันนี้เธอมีสิทธิ์ที่จะเลือก เธอจึงขอเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้แก่ชีวิต นั่นก็คือการรับนัดนักธุรกิจชื่อดังทายาทหมื่นล้าน กฤตพจน์ โภคินอภิวัฒน์

“ขอโทษที่ให้รอนะครับวีว่า” เสียงหล่อเอ่ยทักคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม

หญิงสาวละความสนใจจากแก้วเครื่องดื่มแล้วเงยหน้าขึ้นมอง มือหนายื่นช่อกุหลาบออกมาด้านหน้า หญิงสาวนามวีว่าระบายยิ้มหวาน แล้วยื่นมือออกไปรับช่อดอกกุหลาบมาถือไว้ ก่อนที่จะกดปลายจมูกลงสัมผัสกลิ่นหอมอ่อนๆ แต่พองาม

“วีว่าก็เพิ่งมาถึงค่ะ ไม่ได้รอนานเท่าไหร่” เสียงหวานเอ่ยตอบ

กฤตพจน์ย่อตัวลงนั่งแล้วสั่งเครื่องดื่มมาจิบรออาหารที่ตนให้คนสนิทโทร. มาสั่งเอาไว้ล่วงหน้าแล้ว

“ขอบคุณที่รับนัดนะครับ” เสือหมายเลขสี่ยื่นแก้วไวน์ออกไปด้านหน้า

“ยินดีค่ะ” วีว่ายกแก้วแชมเปญของตนขึ้นมากระทบแล้วค้างไว้ “ปกติวีว่าไม่รับนัดใครง่ายๆ หรอกนะคะ”

“แล้วทำไมคืนนี้ถึงรับนัดผมได้ล่ะ” คุณเล็กถามแล้วยกแก้วไวน์ขาวในมือขึ้นมาจิบ

“อาจจะเป็นเพราะว่าสี่เสือไม่เคยมีข่าวฉาวเรื่องผู้หญิงมั้งคะ วีว่าเลยมั่นใจ” หญิงสาวตอบพร้อมยิ้ม

“นักข่าวอาจจะตามพวกผมไม่ทันก็ได้”

“อืม...” นางแบบสาวเอียงใบหน้าคล้ายครุ่นคิดแล้วเอ่ยตอบอย่างมีจริต “นักข่าวตามไม่ทัน แต่วีว่าอาจจะตามทันก็ได้นะคะ”

มื้อค่ำท่ามกลางบรรยากาศโรแมนติกบนยอดตึกสูง อาหารรสชาติอร่อย ดนตรีขับกล่อมไพเราะ และหญิงสาวผู้ร่วมโต๊ะก็มีเสน่ห์เย้ายวนใจ ทว่าองค์ประกอบเหล่านั้นกลับไม่ได้ทำให้ทายาทอันดับสี่แห่งโภคินอภิวัฒน์ผ่อนคลายได้อย่างที่ควรจะเป็น กฤตพจน์แอบหาวหลายครั้งหลายคราว ทั้งยังหวนนึกถึงเตียงนอนนุ่มๆ กับการเล่านิทานให้หลานชายและหลานสาวฟังเสียอีก ความงามเบื้องหน้าไม่มีผลต่อความรู้สึกของเขาเลยแม้แต่น้อย หลังจากจบมื้อค่ำไปแบบง่วงๆ กฤตพจน์ไม่ให้แม้แต่เบอร์โทรศัพท์ส่วนตัว ถึงแม้นว่าหญิงสาวจะเพียรถามหลายรอบก็ตาม

“หรือว่าเราตายด้านไปแล้ว มากินข้าวกับท็อปโมเดล ดันหาวใส่เธอสามรอบสี่รอบ เฮ้อ...” เสือหมายเลขสี่บ่นพึมพำกับตนเองระหว่างนั่งรถกลับบ้าน

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น