2
เกมร้อน
ห้องนอนสลัวด้วยแสงไฟดวงเล็กดวงน้อยเหมือนแสงดาว เตียงนุ่มห่างไปไม่ไกล บรรยากาศสงบนิ่งเยือกเย็น ราวกับเตรียมพร้อมสำหรับเกมอันเร่าร้อน แต่ชายหญิงสองคนยังยืนมองตากันเงียบๆ โดยแสร้งทำเป็นไม่เห็นกระแสไฟฟ้าที่วิ่งพล่านระหว่างทั้งคู่
ชานนเป็นนักธุรกิจที่ชื่นชมความเสี่ยงเพราะมันหมายถึงผลกำไรที่มากขึ้น แต่ความเสี่ยงกับการลงเดิมพันโดยไม่ตรวจสอบข้อเท็จจริงเป็นคนละเรื่องกัน เขาพนันเฉพาะเรื่องที่คำนวณจากข้อมูลเอาไว้แล้วว่าจะเป็นฝ่ายตักตวงผลกำไร แต่ในเวลานี้ภายใต้เงื่อนไขกับคนแปลกหน้าที่จะไม่สอบถามความเป็นมาของกันและกัน เขาถือว่าตนมีความเสี่ยงที่จะขาดทุนระดับหนึ่ง
ทว่ามองอีกมุมมันเป็นความเสี่ยงที่เขารับได้ เพราะอย่างที่เธอพูดมาก่อนหน้า เขาไม่ต้องเสียอะไรเลยนอกจากเวลาหนึ่งคืนเพื่อเล่นเกมที่มีชื่อว่า ‘ไม่ถามชื่อ ไม่ผูกมัด’ และเขามองว่าเป็นการลงทุนเล่นพนันที่คุ้มค่า ไม่ว่าเธอจะเป็นสาวบริสุทธิ์หรือไม่ก็ตาม
เธอไม่ใช่คนสวย อย่างน้อยก็ไม่สวยตามสมัยนิยม เธอตัวเล็กและมีรูปร่างค่อนไปทางท้วม แต่เขาเองก็ชอบความอวบอัดมากกว่าผอมแห้ง ใบหน้าของเธอเรียบๆ สะอาดตา ไม่มีจุดเด่นใดๆ ทว่านุ่มนวลน่ามอง รวมๆ แล้วเธอให้ความรู้สึกเหมือนลูกแมวน้อยน่ากอดน่าสัมผัส แล้วเขาก็ไม่รีรอที่จะเอื้อมมือไปลองแตะต้องเธอดู เริ่มจากบ่า แต่เพียงแค่นั้นเธอก็ทำตัวแข็ง
“ถ้าคุณจะเปลี่ยนใจ...”
“ฉันไม่เปลี่ยนใจค่ะ”
เธอสวนกลับมาทันควันก่อนเขาจะจบประโยคด้วยซ้ำ แล้วเน้นย้ำความตั้งใจด้วยการถอดเสื้อแจ็กเกตของเขาออก เผยผิวเนื้อวับๆ แวมๆ ภายใต้เสื้อเชิ้ตที่ฉีกขาด
ชานนกัดกระพุ้งแก้มเตือนตัวเองไม่ให้ถามถึงเหตุการณ์ที่พาเธอมาอยู่ตรงนี้ ถ้าก่อนหน้าเธอยื่นขอเงินสักก้อนแลกเปลี่ยนเซ็กซ์แทนจะเป็นเกมประหลาด เขาคงไม่ติดใจสงสัยไม่เลิกเช่นนี้ แต่ในเมื่อเขากำลังต้องการผู้หญิงสักคนมาผ่อนคลายความเครียด แล้วเธอก็ตรงเข้ามาตอบโจทย์ เขาจึงไม่คิดจะตั้งคำถามมากมาย
คงเพราะสายตาของเขาจับจ้องอย่างใคร่ครวญนานเกินไป นานจนเธอเกิดความประหม่าและมีคำถามขึ้นมาหลายข้อ
“เราควรเริ่มจากอะไรดีคะ หรือว่าฉันควรไปอาบน้ำก่อน ดื่มกันก่อนก็ได้นะคะ” เธอทำราวกับเรื่องนี้มีคู่มือให้ปฏิบัติตาม แล้วเธออาจจะทำผิดขั้นตอน
ท่าทางกระวนกระวายของเธอชวนให้เชื่อว่านี่เป็นครั้งแรกในการขึ้นเตียงกับผู้ชายแปลกหน้า แต่ทุกอย่างรอให้เขาพิสูจน์ได้ด้วยตนเอง
“ไม่ต้องครับ คุณจะอาบน้ำทีหลังก็ได้ ส่วนเรื่องดื่มเหล้า ผมว่าคุณคงไม่อยากเมาจนขาดสติในช่วงเวลาสำคัญอย่างนี้”
แล้วเขาก็กุมมือเธอขึ้นมาแตะริมฝีปากตนเองพร้อมๆ กับแนะนำขั้นตอนต่อไปด้วยการดึงตัวเธอเข้ามาใกล้ จนร่างทั้งสองแทบจะเบียดชิดกัน
หากเป็นผู้หญิงที่เขาคบหาด้วย ชานนจะเริ่มค่ำคืนโรแมนติกด้วยการจุมพิต แต่เขาปฏิบัติตามเงื่อนไขที่ว่าไม่ผูกมัดด้วยการไม่ทำอะไรที่สื่อถึงอารมณ์ลึกซึ้ง จุดหมายที่ริมฝีปากของเขาไปถึงจึงเป็นลาดไหล่ที่โผล่พ้นรอยขาดออกมา การกระทำเล็กน้อยเพียงแค่นี้ก็ทำให้กายของเธอภายใต้สัมผัสของเขาสั่นสะท้าน นั่นกระตุ้นให้เขาอยากสำรวจว่าจะต้องทำอย่างไรบ้างให้เธอครวญคราง
แขนของเขาอ้อมไปโอบแผ่นหลังของเธอ กึ่งอุ้มกึ่งประคองพาเธอไปยังจุดหมาย ถึงเสื้อเชิ้ตของเธอจะขาด แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายในการถอดมันออก รวมถึงเครื่องแต่งกายที่เหลือบนตัวของเธอ ไม่ว่าจะเข็มขัดหรือกางเกงยีนขายาว แล้วเธอก็ไม่ช่วยให้ง่ายขึ้นเลยกับการนอนตัวแข็งทื่อ
“ผมชักรู้สึกว่าตัวเองเป็นนักข่มขืน”
เขากล่าวกลั้วหัวเราะ แต่ใส่ความจริงจังลงไปในประโยคล้อเล่น แล้วมองดวงตาของเธอเบิกกว้าง กล่าวตะกุกตะกักเสียงเบา
“ขะ...ขอโทษค่ะ”
“ไม่เป็นไรครับ ผมขอแค่ความร่วมมือจากคุณสักเล็กน้อยก็พอ”
รอยยิ้มประกอบคำพูดดึงเสียงหัวเราะอย่างไม่เต็มใจนักของเธอ แล้วเมื่อหัวเราะ เธอก็เริ่มผ่อนคลาย ยกเลิกการทำท่าเหมือนจะถูกประหารชีวิต และไม่ปล่อยให้เขากระตือรือร้นอยู่ฝ่ายเดียว
มือเล็กวุ่นวายกับการดึงเสื้อยืดออกจากตัวเขา แต่รีบร้อนเกินไปจนเสื้อรัดคอเขา นั่นทำให้ทั้งสองหัวเราะเต็มเสียงขณะช่วยกันกำจัดเสื้อผ้าให้หมด
ชายหนุ่มอาศัยความมืดและจังหวะที่เธอเบนสายตาหนีร่างเปลือยของเขาสวมเครื่องป้องกันให้ตนเอง ก่อนจะนอนเคียงข้างกัน เขาหลบตาเธอด้วยการจุมพิตซอกคอขาวผ่อง มือเล็กคู่หนึ่งวางอย่างไม่แน่ใจบนไหล่ของเขา เธอมีสัมผัสแบบลูกแมวกระตือรือร้นปนลังเล เมื่อมันไม่ได้กีดขวางสิ่งที่เขาจะทำ เขาก็ปล่อยให้เธอทำตามที่ต้องการขณะเคลื่อนไหวอย่างไม่เร่งรีบไปอยู่เหนือร่างบอบบาง
กลิ่นกายเธอหอมสะอาดและชวนให้มึนเมา เนื้อตัวเธอนุ่มนิ่ม แต่ตึงแน่นชวนกอดรัด ชานนคิดว่าเขากอดจูบเธอได้ทั้งคืนโดยไม่เบื่อ แต่นี่ไม่ใช่เป้าหมายของทั้งคู่
ไม่ว่าเธอเป็นสาวบริสุทธิ์จริงหรือไม่ ชายหนุ่มอยากมั่นใจว่าเธอจะพร้อมสำหรับเขา มือที่ลูบไล้ไหล่เลื่อนไปลูบคลำทรวงอกหยุ่น มันตึงแน่นอวบอัดกว่าที่เขาคาด ดังนั้นเพียงมือเดียวจึงไม่เพียงพอ สองมือของเขาลูบไล้มันพร้อมกับใช้หัวนิ้วโป้งแตะวนยอด ปฏิกิริยาของเธอคือแอ่นผวาตามด้วยถดกายหนี เขากดน้ำหนักตัวลงไม่ให้เธอหนีไปไหน ปลอบประโลมด้วยคำพูดสลับการขบเม้มลำคอ แล้วหยอกเอินทรวงอกคู่สวยซ้ำไปซ้ำมาจนปลายยอดเล็กๆ แข็งชันเหมือนเพชรสีชมพู มันดูน่าลิ้มลองมาก และเขาไม่รีรอที่จะทำมัน
ถ้าเมื่อครู่เขาเกือบจะหลงลืมไปเพราะกลิ่นกายเธอ ตอนนี้เขาก็ลืมตัวโดยสมบูรณ์ เขาไม่รู้เลยว่าแค่ทรวงอกของเธอจะทั้งนุ่มและหอมหวานเช่นนี้ เมื่อข้างหนึ่งถูกครอบครองด้วยปาก เขาจึงเหลือมือว่างพอจะสำรวจลงไปด้านล่าง แค่ปลายนิ้วแตะ เธอก็เริ่มทำตัวแข็งอีกครั้ง แต่เขาไม่สะดวกใช้คำพูดหลอกล่อ จึงใช้ปากทำบางอย่างที่สร้างสรรค์กว่าแทน แล้วใช้จังหวะที่เธอแอ่นร่างขึ้นมาเข้าถึงเป้าหมาย คราวนี้เขารู้ว่าไม่ควรรีบร้อนจึงค่อยๆ ให้เธอชินกับการมีมือของเขาแตะต้องบนส่วนสงวนของเธอ ก่อนจะเพิ่มเป็นลูบคลำและรุกคืบ
“ไม่!!!” ตลอดมาเธอไม่เคยห้าม แต่ครั้งนี้ไม่แค่ปาก มือของเธอก็เอื้อมลงไปยื้อยุดข้อมือเขาเอาไว้
“ได้สิ”
เขาเจตนากระซิบข้างใบหูแล้วขบมันเบาๆ เธอสั่นเทาไปทั้งตัว แต่ยังไม่ยอมคลายมือออก เขาจึงเปลี่ยนเป็นเม้มใบหูที่น่าสงสารนั่น ทรมานจนเธอผ่อนแรงต้าน
เพื่อกันไม่ให้เธอขัดขวางอีก ชานนจึงรวบสองมือของเธอขึ้นเหนือหัว แล้วตรึงมันเอาไว้ด้วยมือข้างเดียว ทำเช่นนี้ส่งผลให้อกของเธอแอ่นขึ้นท้าทายริมฝีปากของเขา ชายหนุ่มแตะลิ้นไปบนปลายยอด พอใจที่เห็นมันสั่นระริก และภูมิใจที่ตนเองดำเนินการสองอย่างได้ในเวลาเดียวกัน
“ไม่...มัน...” เธอกล่าวตะกุกตะกักประโยคที่เขาไม่เข้าใจก่อนจะเงียบไป
ปากของเขาอยู่บนอกเธอ พร้อมกับมือข้างที่ว่างคืบคลานลงไปสำรวจส่วนที่เธอหวงห้ามต่อจากเมื่อครู่ การที่เธอไม่พูด แปลว่าอนุญาต ถึงอย่างนั้นชานนก็ไม่ใช่พวกเร่งรีบ นิ้วชี้ของเขานำทางเข้าไปก่อนอย่างช้าๆ แล้วก็พบความเป็นไปได้ที่เขาไม่อยากเจอ
“คุณยังบริสุทธิ์”
น้ำเสียงของเขาฟังดูกล่าวหาแม้กระทั่งหูตัวเอง เขาเงยหน้าขึ้นมอง แล้วพบว่าที่เธอเงียบอยู่ในเวลานี้ก็เพราะกำลังกัดริมฝีปากตัวเองอยู่
“ฉะ...ฉันบอกคุณไปแล้ว”
ใช่ เธอบอกเขาแล้ว แต่เขาลังเลที่จะเชื่อ เพราะแม้จะรู้ เขาก็ยังอดใจสำรวจเส้นทางที่ไม่เคยมีใครเคยผ่านด้วยปลายนิ้วไม่ได้
“เราล้มเลิกเกมตอนนี้ก็ได้นะครับ”
ปากเขาบอก แต่ในใจภาวนาให้เธอปฏิเสธคำแนะนำของเขา เพราะถึงจะมีความเป็นสุภาพบุรุษเพียงไหน เขาก็ไม่แน่ใจว่านาทีนี้จะควบคุมตนเองไม่ให้กลายเป็นสัตว์ป่าได้
เวลาผ่านไปไม่กี่วินาที แต่ยาวนานจนเขาแทบทนจะไม่ไหว แล้วอยู่ๆ ชานนก็รู้สึกมากกว่าเห็นว่าเธอส่ายหน้าไปมาแรงๆ
“ไม่ค่ะ ทำมันต่อ”
นั่นเป็นทั้งหมดที่เขาต้องการ ชายหนุ่มเดินหน้าต่ออย่างช้าๆ เพราะตอนนี้เขารู้แล้วว่ากำลังรับมือกับอะไร ความคาดหวังของสาวบริสุทธิ์ มันเป็นภาระยิ่งใหญ่ที่ผู้ชายซึ่งมีสามัญสำนึกควรหวาดผวา มีเพียงสวะเท่านั้นที่จะลงมือเพื่อความสุขและความสะใจของตนเองโดยไม่คำนึงถึงผู้หญิงที่จะจดจำมันตลอดไป ถ้าไม่อยากเป็นเงามืดชั่วชีวิตของเธอ เขาต้องทำให้ดีที่สุด
นิ้วของเขาอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว เขาใช้มันสร้างเส้นทางของตัวเอง จากนิ้วชี้เพิ่มเป็นนิ้วกลาง ขณะที่นิ้วหัวแม่โป้งปรนนิบัติศูนย์รวมความหฤหรรษ์ด้านบน ปากของเขาปรนเปรอยอดอกทั้งสองสลับกันไปมา พร้อมกับยอมปล่อยข้อมือเธอเพื่อจะใช้มืออีกข้างฟอนเฟ้นอกข้างที่ว่าง
เมื่อได้รับอิสระ เล็บมือทั้งสิบก็จิกเหนือบ่าของเขา ชายหนุ่มอนุญาตด้วยความเต็มใจ เพราะเขาได้รับสิ่งตอบแทนที่คุ้มค่า ร่างกายเธอตอบรับอย่างช้าๆ และพร้อมมากพอสำหรับเขา ทว่าชานนยังไม่ฝืนฝ่าเข้าไป เขายกกายสูงขึ้น ดุนดันบดเบียด เสียดสีความแข็งขึงเข้ากับความอ่อนไหว เล็บมือของเธอเพิ่มแรงจิกมากขึ้นเรื่อยๆ ถึงจุดหนึ่งเขาก็รู้ว่าเธอพร้อม เพราะเขาเองก็ไม่อาจรอต่อไปได้
มือหนึ่งยึดต้นขาของเธอให้แยกห่างกัน ส่วนอีกมือส่งตัวตนเข้าไป แค่เพียงส่วนปลายเขาก็รู้สึกเหมือนไปต่อไม่ได้ แต่นั่นไม่อาจหยุดเขา ชานนฝืนเข้าไปต่อแล้วถอยออก เข้าและถอย เพิ่มระยะทางเดินหน้าลึกขึ้นเรื่อยๆ เสียงกระซิกดังข้างหู เขาต้องหยุดค้างข่มความต้องการที่จะเดินหน้าให้สุดทางเพื่อปลอบเธอ
“ทนหน่อยนะ” พูดจบเขาก็ตัดสินใจให้เธอเจ็บครั้งเดียวด้วยการฝากฝังกายไปจนสุด
เสียงหวีดร้องด้วยความเจ็บเรียกสติเขากลับมา เขาไม่รู้เลยว่าจะพบเจอความสุขปนทรมานมากมายเท่านี้ ต่อให้รู้ตัวล่วงหน้า เขาก็ไม่คาดว่าเธอจะทั้งบีบรัดและคับแน่นจนเขาหายใจไม่ออก
“คุณเป็นสาวหวาน เป็นผู้หญิงที่เยี่ยมที่สุด...”
ชายหนุ่มจำไม่ได้ว่าพูดอะไรออกไปบ้าง แต่อย่างน้อยมือของเขาก็รู้ว่าควรทำอย่างไร มือหนึ่งคลึงเคล้าหน้าอก ส่วนอีกมือเอื้อมไปยังจุดที่เชื่อมประสาน ปลอบประโลมจุดไวสัมผัสของเธอ และเพราะรู้ว่าคำพูดช่วยอะไรไม่ได้ เขาจึงเปลี่ยนเป็นใช้ปากดึงความวาบหวามจากยอดอกของเธอแทน
เธอเริ่มผ่อนคลายในเวลาเดียวกับที่เขาเริ่มทนไม่ไหว ชานนขยับตัวช้าๆ หยั่งเชิง เมื่อเธอไม่โต้แย้ง เขาก็ถอยออกเล็กน้อยก่อนจะบดเบียดกลับเข้าไปใหม่ แต่ร่างกายใหม่สดของเธอแข็งเกร็งกับกิจกรรมที่ไม่คุ้นเคยเกินไป และเขาไม่อาจรอให้เธอพร้อมได้มากกว่านี้
ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นคุกเข่า มือเดียวประคองเอวของเธอขึ้นแล้วส่ายวนสะโพกพร้อมกับเดินหน้าถอยหลัง อีกมือคลึงขยี้ปุ่มหฤหรรษ์ของเธออย่างไร้ปรานี ดึงกระชากเธอให้เร่าร้อนทัดเทียมกับเขาโดยไว ไม่นานเสียงครางด้วยความเจ็บก็เปลี่ยนไป กลายเป็นครวญครางเว้าวอนขาดห้วง
“ดะ...ได้โปรด”
เธอไม่ต้องวอนขอ เขาก็เต็มใจจะมอบให้อยู่แล้ว ชายหนุ่มคว้าเอวเธอด้วยสองมือดึงเข้าหาตัวพร้อมกับหยัดกายส่งเป็นจังหวะหนักหน่วงและแนบแน่น
“ได้สิ ได้เลย”
หญิงสาวขยุ้มที่นอนข้างกาย ใบหน้าส่ายสะบัดเข้ากับการโจนจ้วงของเขา ทรวงอกขาวผ่องขยับไหวในความมืด ชายหนุ่มทาบร่างลงจับจองด้วยริมฝีปาก
ร่างไร้เดียงสาบิดหนีสลับกับแอ่นหยัดทำลายจังหวะของเขา ชานนรู้ว่าไม่ช้าจะทนไม่ไหว จึงชะลอความเร็วลงจนหยุดนิ่ง เลื่อนมือลงต่ำเพิ่มความพลิกพลิ้วที่ปลายนิ้วมือแทน รอจนได้ยินเสียงคล้ายๆ อ้อนวอนจากเธออีกรอบค่อยเดินหน้าต่อ แต่เพียงแค่ไม่กี่ครั้งเขาก็ไม่อาจอดกลั้นได้ และเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่เธอตอดรัดเป็นจังหวะ
แสงหลากสีสันพร่าพรายใต้เปลือกตาของเขา ความสุขสาดซัดไปทั่วร่างราวกับไม่มีวันจบสิ้น เขาเกร็งกระตุกก่อนจะหมดแรงพับลงไปบนกายเธอ
ก่อนสติจะกลับมาเต็มร้อย ชานนก็ทำในสิ่งที่เขาไม่คิดจะทำ นั่นคือมอบจุมพิตให้หญิงสาวแปลกหน้า มันไม่ได้ประกอบไปด้วยลีลาเร่าร้อน แต่ลึกซึ้งคล้ายๆ กับคนรักมอบให้กัน
มีบางอย่างแผ่วเบาสะกิดใจเขา แต่ชายหนุ่มยังกอดรัดเธอแนบแน่นเหมือนกลัวใครจะพรากทั้งคู่ออกห่าง เธอดิ้นรนอย่างอ่อนแรง แต่ไม่ช่วยให้เขาปล่อยเธอไวขึ้น ชานนทำทุกอย่างที่ตนพอใจ ก่อนจะยอมเลื่อนตัวลงมานอนเคียงข้าง แล้วรั้งแผ่นหลังบอบบางของเธอให้แนบสนิทกับอกของเขา
“คุณคงไม่คิดว่าผมจะปิดเกมเพียงแค่นี้หรอกนะ”
ลลนาเข้าใจแล้วว่าทำไมผู้คนถึงถวิลหาการมีสัมพันธ์เช่นนี้ เริ่มแรกมันอาจเต็มไปด้วยความประดักประเดิด มิหนำซ้ำยังสร้างความเจ็บปวดไม่น้อย แต่ทั้งหมดก็คุ้มค่าในตอนท้าย ความรู้สึกซาบซ่านเหมือนไฟฟ้าสถิตยังตราตรึงอยู่ภายใต้ผิวเนื้อของเธอ
หญิงสาวไม่เดียงสาขนาดไม่รู้ว่าประสบการณ์ดีๆ ที่เธอได้รับครั้งนี้จะแตกต่างออกไปหากครั้งแรกของเธอเกิดขึ้นกับชายคนอื่น ครั้งนี้มันพิเศษก็เพราะความเชี่ยวชาญของผู้ชายที่กำลังกอดรัดเธออยู่ทางด้านหลัง
ครู่ก่อนเขาชี้แจงถึงสิ่งที่กำลังดำเนินอยู่ด้วยถ้อยคำสุภาพ แต่น้ำเสียงปราศจากช่องให้โต้แย้ง แล้วเธอก็เห็นด้วยกับเขา เกมยังไม่จบ
เธอไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหน แต่น่าจะล่วงจากหัวค่ำเป็นดึกดื่นแล้ว เหงื่อที่พรั่งพรูเพราะกิจกรรมก่อนหน้าหมาดแห้งสร้างความเย็นให้ผิว เธอกำลังนึกว่าตนเองมีโชคที่เขาเกาะกอดเอาไว้ ความอบอุ่นก็ผละไปดื้อๆ
ต่อให้ต้องการ ลลนาก็ไม่อาจเอื้อมมือไปยื้อ ได้แต่ทอดสายตามองเขาลุกจากเตียงตรงไปเข้าห้องน้ำ ร่างสูงของเขาไม่ได้ผอมอย่างที่เธอคิด ปลายนิ้วของเธอยังจำตอนแตะต้องกล้ามเนื้องดงามของเขาได้เป็นอย่างดี แต่ถึงจะตัวสูงล่ำสัน ท่าเดินของเขาก็ปราดเปรียวคล่องแคล่วไม่ต่างกับการเคลื่อนไหวของสัตว์นักล่า ดังนั้นเขาย่อมไม่เขินอายสักนิดกับการเปิดเผยเรือนกายเปล่าเปลือยทุกสัดส่วนให้เธอได้มอง
ร่างของลลนาสั่นเทายามนึกถึงช่วงที่รับเขาเข้ามาในเรือนกาย สิ่งนั้นช่างร้อนลวกแผดเผาเธอจากภายในไปยังภายนอก ผิวของเธอแน่นตึงขึ้นเพียงแค่ทบทวนทุกสิ่ง
เธอไม่แน่ใจว่าจะจดจำเรื่องราวได้หมด เนื่องจากมีบางช่วงบางตอนเธอแทบจะขาดใจตายเพราะความสุข แต่มีอย่างหนึ่งที่เธอจำได้แม่นยำ คือนาทีที่เขาชะโงกร่างอยู่เหนือตัวเธอและกำลังจะเข้ามาครอบครอง วินาทีนั้นเธอพบว่าตนกำลังกลัวอย่างมาก
ต่อให้เคลิบเคลิ้มกับการปลุกเร้าของเขา ส่วนลึกก็ยังเตือนว่าตนกำลังจะสูญเสียพรหมจรรย์ที่ไม่อาจเรียกคืนภายหลัง แต่เธอยังฝืนนิ่งรับทุกสิ่งที่เขาจะมอบให้ ต่อจากนั้นความเจ็บปวดก็ทำเธอพร่าเลือน ก่อนความสุขจะทำให้ทุกสิ่งที่เกิดเป็นดังภาพฝันอันเร้าใจ
เสียงน้ำไหลเตือนเธอให้รู้ว่าตัวเธอเองก็ต้องจัดการร่างกายให้สะอาดเช่นกัน แต่การลุกขึ้นจากใต้ผ้าห่มไม่ใช่เรื่องง่าย การเปลือยกายเวลาอารมณ์เตลิดเป็นเรื่องแตกต่างจากเวลาที่เธอมีสติเต็มที่ ตามมาด้วยปฏิกิริยาดั้งเดิมของเธอนั่นคือหนี แต่เสื้อผ้าของเธอหายไปไหนก็สุดรู้
หญิงสาวเหลียวซ้ายแลขวา ใคร่ครวญว่าการห่อตัวด้วยผ้าห่มแล้วเดินไปหาห้องน้ำอีกห้องที่คงมีในเรือนพักใหญ่โตนี้เป็นเรื่องสมควรหรือไม่ แล้วก็ทดสอบด้วยการเคลื่อนตัวลงมาก่อนจะพบว่าอุปสรรคคือร่างกายของเธอเอง
“จะรีบไปไหนเหรอครับที่รัก”
การสะดุ้งเพราะเสียงของเขาทำให้เธอยิ่งเจ็บแปลบในส่วนเร้นลับมากขึ้น เธออุทานเพราะมัน ก่อนจะอุทานซ้ำเมื่อแขนกำยำของเขารวบร่างเธอให้กลับลงไปนอนบนเตียง
“ให้ผมดูแลคุณดีกว่า”
ถึงห้องจะสลัวด้วยไฟหรี่ แต่ลลนาก็มองเห็นแววยั่วยิ้มในดวงตาของเขา ทว่าเพิ่งสังเกตอย่างล่าช้าว่าเขามีผ้าขนหนูผืนเล็กอยู่ในมือ และอาศัยจังหวะที่เธอกำลังสงสัยใช้มือข้างที่ว่างพยายามเกาะห่อผ้าห่มที่พันตัวเธอออก สัญชาตญาณทำให้เธอยึดผ้าไว้แน่น
“มีอะไรที่เราต้องเขินอายกันอีกเหรอครับ”
จริงของเขา มีส่วนใดบ้างของเธอที่เขาไม่ได้สำรวจด้วยสองมือ ที่สำคัญพรุ่งนี้ทั้งคู่ก็จะแยกย้ายไปใช้ชีวิตของตนคนละทาง ลลนาค่อนข้างมั่นใจว่าตลอดชีวิตที่เหลือของเธอจะไม่มีวันมาเจอหน้าเขาอีก แล้วจะอายทำไมกับคนแปลกหน้า ดังนั้นหญิงสาวจึงปล่อยมือให้เขาจัดการเธอตามใจชอบ ซึ่งก็ได้แก่การดูแลให้ร่างกายเธอสบายขึ้น
ผ้าผืนนั้นอุ่นร้อนพอเหมาะ เขาประคบมันลงบนส่วนที่ต้องการโดยตรง ถึงจะทำใจไว้แล้วเธอก็อดสะดุ้งนิดๆ ไม่ได้ เขาปลอบโยนแผ่วเบาด้วยเสียงทุ้มลึก เหมือนปลอบโยนสัตว์ตัวน้อยไม่ให้ตื่นกลัว ก่อนจะขยับเช็ดความเหนอะหนะออกจากร่างของเธอ จังหวะที่เขายกผ้าขึ้น ลลนาเหลือบเห็นคราบเปื้อนสีแดงบนนั้น
“เสียดายไหมครับ”
เขาไม่ระบุรายละเอียดของคำถาม แต่เธอเข้าใจ หลังจากผ่านความเร่าร้อนกลับสู่สติเต็มร้อย เขาอยากรู้ว่าตอนนี้เธอเสียดายพรหมจรรย์ที่ให้คนแปลกหน้าไปหรือไม่
“ไม่ค่ะ มันคุ้มค่า”
แวบหนึ่งลลนาเห็นแววตื่นตะลึงในดวงหน้าหล่อเหลาของเขา แต่เพียงเสี้ยววินาทีที่เธอกะพริบตามันก็หายไปจนเธอคิดว่าตัวเองตาฝาด มุมปากของเขายิ้มกริ่มขณะก้มลงทำท่าจะพูดแทบชิดปากเธอ และต่อให้ใบหน้าร้อนผ่าว หญิงสาวก็บังคับตัวเองไม่ให้เอนหนี อย่างที่เขาบอกไม่มีอะไรที่ทั้งคู่ต้องเขินอายกันอีกแล้ว ดังนั้นจึงสบตาสีดำลุ่มลึกอย่างใกล้ชิดระหว่างรับฟังสิ่งที่ส่งผลให้ใจเต้นแรง
“ขอบคุณครับ ก่อนจะจบคืนนี้ ผมจะทำให้คุ้มค่าขึ้นไปอีก”
เสียงน้ำจากฝักบัวไหลมาครู่ใหญ่แล้ว หากผ่านไปอีกห้านาทีเธอยังไม่ออกมา ชานนตั้งใจว่าจะเอาตัวเข้าไปอยู่ใต้สายน้ำร่วมกับเธอ เพียงแต่นั่นอาจทำให้จุดประสงค์ที่จะให้เธอผ่อนคลายร่างกายชั่วครู่เสียไป
การที่เขาดูแลเธอก่อนหน้าไม่ใช่เพื่อตัวเธอ แต่เพื่อความต้องการของตัวเขาเอง ถึงจะต้องการมากแค่ไหน เขาคงไม่ฝืนดำเนินเกมต่อขณะร่างกายเธอไม่พร้อม จึงเช็ดตัวให้เธอ ดูแลเธอและยอมปล่อยให้เธอได้ทำธุระส่วนตัว และเวลานี้ก็ปล่อยให้เธออาบน้ำชำระร่างกายตามลำพังอย่างไม่เร่งรีบ ในขณะที่เขานั่งกระสับกระส่ายร้อนผ่าวด้วยความต้องการตัวเธอมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นมาตรฐานสำหรับสถานที่พักผ่อนที่จะไม่มีนาฬิกาแขวนผนังบนข้างฝา ชานนตรวจเวลาผ่านโทรศัพท์มือถือ พบว่าเข้าสู่สามทุ่มไปหลายนาที ผ่านจากตอนเธอก้าวเข้ามาในบ้านพักหลังนี้สองชั่วโมง เวลาผ่านไปไวจนไม่น่าเชื่อ ไวจนเขากลัวว่าคืนนี้จะไม่เพียงพอในการเล่นเกม
ขณะร่างสูงกำลังจะขยับไปทางประตู เสียงน้ำจากฝักบัวก็หยุดลง ไม่กี่นาทีร่างเล็กที่ห่อหุ้มด้วยเสื้อคลุมอาบน้ำกับผ้าเช็ดตัวขาวเหมือนแมวน้อยขนฟูก็เดินมาหยุดยืนอย่างลังเลตรงหน้าเขา เส้นผมยาวยังเปียกชุ่ม เธอยกชายผ้าเช็ดผมอย่างเก้ๆ กังๆ เหมือนไม่รู้ว่าตนควรทำตัวอย่างไรในสถานการณ์เช่นนี้ แต่เขารู้ดี
“ยืนอยู่ตรงนั้น คุณอาจจะหนาวจนไม่สบายก็ได้นะ”
เขาไม่แค่ออกความเห็น ยังรัดเอวเธอรั้งให้ร่างเล็กเซถลามาอยู่บนตักตัวเอง ซึ่งคงทำได้ยากหากเธอมีกลไกป้องกันตัวที่ดีกว่านี้ แต่อย่างที่เขาสังเกต เธอไม่มี คงเหมือนกับลูกสัตว์แรกเห็นโลกที่รู้จักเพียงถอยหนี ทว่าปราศจากความสามารถป้องกันตัว แล้วเขาก็เหมือนเสือร้ายที่ปล่อยเหยื่อไม่เป็น
“คะ...คุณ จะทำอะไรเหรอคะ”
ดวงตากลมโตเบิกกว้าง กึ่งตระหนกกึ่งสงสัย เขายิ้มใส่มันแล้วคิดว่าจะเปลี่ยนแววตาของเธอเป็นพร่ามัวด้วยแรงพิศวาสอย่างไร
“ผมจะทำอะไรน่ะเหรอ จะดูแลคุณไงครับ”
ชายหนุ่มไม่รอให้เธออนุญาต ฉวยชายผ้าอีกด้านช่วยเช็ดผมเธออย่างขะมักเขม้น เวลาผ่านไปไวทุกนาที และเขามีหลายสิ่งหลายอย่างที่อยากจะทำกับร่างกายนี้
“เราตกลงกันแล้วไม่ใช่เหรอว่าจะเล่นเกม ‘ไม่ถามชื่อ ไม่ผูกมัด’ กันต่อ”
“ใช่ค่ะ เราจะเล่นต่อ” ตอนนี้แววตาเธอเหลือเพียงความสับสนงุนงงเพียงอย่างเดียว
“แล้วนี่มันอะไรกันครับ”
สิ่งที่เขาถามถึงคือสายคาดเอวชุดคลุมอาบน้ำที่เธอผูกปมอย่างแน่นหนา แต่เพราะไม่ใช่เงื่อนตาย เพียงกระตุกอย่างถูกต้องไม่กี่ครั้งมันก็หลุดออก และพาให้อกคู่สวยเผยพ้นตัวเสื้อ เช่นเคยที่ยอดอกสีเชอร์รีทำเขาน้ำลายสอ โดยเฉพาะเมื่อมือน้อยวุ่นวายปิดบังมันจากสายตาของเขา
“ไม่เอาน่าสาวน้อย อย่าปิดโอกาสผมจากการได้มองคุณ”
ชานนกึ่งหยอกล้อกึ่งปลอบประโลมขณะผลักร่างของเธอให้นอนลงบนเตียง แล้วดึงชุดคลุมอาบน้ำไร้ประโยชน์ขว้างทิ้งไปไกลๆ
เมื่อปราศจากสิ่งปกคลุม ร่างเล็กก็นอนนิ่งแข็งทื่อ แขนข้างหนึ่งยกขึ้นเหนืออก ส่วนมืออีกข้างกางลงปิดด้านล่าง เขาหัวเราะในลำคอเพราะความพยายามที่เปล่าประโยชน์นั้น ต่อให้เธอยกต้นขาข้างหนึ่งขึ้นก็บดบังการมองเห็นของเขาไม่ได้ เพียงแต่เขาต้องการเห็นมากกว่านี้
ด้วยความว่องไว เขาจับข้อเท้าเล็กทั้งสองข้าง ดึงร่างเธอมาใกล้ขอบเตียงให้ขาสองข้างห้อยลงมา เธอตกใจกับความรวดเร็วจนลืมดิ้นรน ปล่อยให้เขาจัดการต่อไป มือของชานนจับหัวเข่ามนข้างหนึ่ง และตามด้วยอีกข้าง เสียงประท้วงอึกอักตามมาดังคาด
ชายหนุ่มแทรกกายลงไปขวางต้นขาแล้วเอื้อมไปดึงมือที่ขวางทางอยู่ออก เสียงทุ้มบอกเธอว่าอย่ากลัว บอกว่ามีความสนุกที่รออยู่ ขณะเดียวกันก็เตือนตัวเองให้ไปอย่างช้าๆ เพราะเขาพลาดบางอย่างไปแล้วเนื่องจากความรีบร้อนตอนหัวค่ำ และเวลานี้เขาจะสำรวจอย่างถี่ถ้วนเพื่อชดเชยให้ตัวเอง
เขาเสียดสีแก้มกับปลายคางของตนที่เริ่มมีตอหนวดผุดขึ้นกับต้นขาขาวผ่อง ผิวของเธอยังชื้นเย็นอยู่เลย แต่เขาพร้อมจะทำให้มันร้อนอย่างรวดเร็ว
กลิ่นสบู่ที่เธอใช้เป็นของรีสอร์ต มันเป็นกลิ่นเดียวกับที่เขาใช้ชำระกายของตนเองก่อนหน้านี้ แต่เมื่ออยู่บนผิวเธอมันให้กลิ่นที่แตกต่างออกไปจากบนตัวเขา กลิ่นที่เป็นผู้หญิง กลิ่นที่ทำให้ลำคอเขาแห้งผากขณะที่ในปากน้ำลายสอเพราะความต้องการลิ้มรสทุกจุดที่ส่งกลิ่นหอมอ่อนหวานแบบสตรีเพศ
เมื่อลิ้นของเขาแตะโดนผิวนุ่ม ท่อนขาของเธอก็เบียดเข้าหากัน เขาต้องใช้สองมือเพื่อแยกมันออกจากกัน แล้วลากลิ้นตวัดสั้นๆ สลับกับขมเม้มนิดๆ เบาๆ รุกคืบเข้าหาเป้าหมาย ซึ่งก็คือกดปากชิดเนินเนื้อ ฟังเสียงละล่ำละลักห้ามปรามระหว่างเลียมลิ้มว่าเธอยอดเยี่ยมดังที่เขาคิดหรือไม่
ไม่ รสชาติของเธอดีกว่าที่เขาคาดการณ์ ชานนถึงกับครางพร่ากับการตื่นตัวอย่างรุนแรงของร่างกายตนเอง แต่ขณะเดียวกันเขาก็ไม่อาจบุกรุกโดยไม่ได้ชิมเธออย่างเต็มที่ก่อน ลิ้นของเขาสอดลึก ลิ้มรสอย่างถ้วนทั่ว สัมผัสการบีบเกร็งของเธอด้วยปาก
เสียงครางกระซิกดังขึ้นเหนือหัว เธอแอ่นกระตุกและพยายามจะถอยหนี เขารั้งตัวเธอกลับมาแล้วทรมานเธอต่ออย่างไร้ความปรานี ถึงขั้นใช้สองมือยกสะโพกของเธอขึ้นขณะปรนเปรอเธอจนสุดขอบดวงดาวพร้อมเสียงครางยาว แต่เขาไม่หยุดจนเธอต้องหวีดร้องซ้ำไปซ้ำมา
ตอนเขายืดตัวขึ้นมอง ร่างเล็กนอนอ่อนระทวยเหมือนเครื่องบรรณาการชั้นดี แก่นกายของเขาแข็งชันจนกระตุกไปมา ร่ำร้องเข้าไปฝากฝัง
ความต้องการช่างท่วมท้นจนเขาเกือบจะลืมระวัง อาศัยอนุสติส่วนสุดท้ายเท่านั้นที่ทำให้เขาคว้าถุงยางอนามัยมาป้องกันตัว สติสัมปชัญญะเธอยังไม่กลับมาเต็มร้อยเลยตอนเขาโถมกายจะเข้าไปคลุกเคล้า แต่ก็มากพอจะพลิกกายหนี
การเคลื่อนไหวอย่างอ่อนเปลี้ยกลับกระตุ้นสัญชาตญาณการล่า นาทีนี้ชายหนุ่มลืมไปเลยว่าตนเองไม่ใช่สัตว์ป่า มือสองข้างคว้าจับเอวเธอจากทางด้านหลัง คว้าร่างบางให้ถอยกลับมา การเคลื่อนไหวปุบปับเร่งร้อนส่งผลให้เธอเสียหลักหน้าคว่ำลงกับฟูก และเพราะเขายังไม่ก้าวขึ้นไปอยู่บนเตียง สะโพกงอนของเธอจึงอยู่ในตำแหน่งที่เขาต้องการ
ชานนไม่รู้ว่าเธอพร้อมหรือไม่ แต่เขารอมากกว่านี้ไม่ได้ มือหนึ่งของเขายังตรึงเอวเธอเอาไว้ ส่วนอีกมือแยกแย้มต้นขา ก่อนจะส่งตัวเข้าไปในช่องทางอุ่นร้อน เธอชุ่มชื้นเพราะการกระทำของเขาก่อนหน้านี้ แต่ยังฝืดแน่นจนเขาแทบจะเดินหน้าต่อไม่ได้ เอวของเขาส่ายวนขณะดันไปข้างหน้า ฝังเข้าไปในกายเธอจนหมดสิ้นอย่างรวดเร็ว
การได้เป็นอันหนึ่งอันเดียวกันช่วยเพิ่มสติให้เขาเล็กน้อย ชายหนุ่มมองลงไปเห็นร่างบางนอนหมอบสั่นระริก เขารู้ว่ามันเร็วเกินไปสำหรับเธอ แต่เขาแก้ไขเรื่องนี้ไม่ได้ เขาถึงกับขยับโยกอีกสองสามครั้งด้วยซ้ำ จนเธอเลื่อนตัวไปข้างหน้า สร้างพื้นที่ให้เขาคลานขึ้นไปคุกเข่าด้านหลังเธอได้
ร่างสูงทาบทับตัวเธอ แขนข้างหนึ่งคร่อมขนาน มือใหญ่เอื้อมลอดเข้าไปเคล้าคลึงอกอวบขณะที่ด้านล่างขยับเข้าออกหยั่งเชิง เธอนิ่งเงียบรับการกระทำของเขาอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะครางกระซิก ชานนเพิ่มจังหวะให้เร็วขึ้นก่อนเลือดจะสูบฉีดจนเขาหมดความยับยั้งชั่งใจ ปากของเขากดลงไปบนบ่าเธอ ฟันขบกัดผิวเนื้อนุ่ม
“อ๊า!!! เจ็บ” เสียงร้องของเธอหยุดเขาได้แค่ชั่วคราวเท่านั้น
ชานนขบฟันตัวเองแทน แต่ไม่หยุดที่จะเคลื่อนไหวด้วยการขยับอย่างช่ำชอง เธอก็เปลี่ยนมานั่งซ้อนตัก แนบแผ่นหลังของเธอเข้ากับแผงอกเขา แยกต้นขางามให้อยู่บนตัก แขนแข็งแรงยกเอวเล็กขึ้นและลง ขึ้นและลง
เธอเหมือนตุ๊กตาที่ไร้การต่อต้านให้เขาควบคุมตามใจชอบ แต่ชายหนุ่มก็ทุ่มสติทั้งหมดดูแลให้เธอไปถึงจุดเดียวกับเขาด้วย เมื่อใกล้จะหมดความอดกลั้นเขาก็หยุดยกตัวเธอ โอบเหนืออกไว้มั่น ปล่อยให้นั่งนิ่งแล้วเลื่อนมือไปยังจุดที่สอดประสาน เคล้าคลึงและบดขยี้จนเธอหวีดร้องด้วยความหฤหรรษ์ การบีบรัดรุนแรงแทบจะกระชากเขาถึงฝั่งฝัน แต่แค่นี้ยังไม่เพียงพอ
เขากดร่างเธอลงหมอบอีกรอบ คราวนี้เขาปราศจากลีลาใดๆ มีแต่การบุกตะลุยเยี่ยงสัตว์ป่าเท่านั้น เลือดร้อนลามเลียไปทั่วร่างขณะเขาตรึงเอวเธอเอาไว้รับการควบขับ หูไม่ได้ยิน ตามองไม่เห็น เหลือเพียงร่างที่โจนจ้วงไม่หยุด ก่อนจะเกร็งกระตุกรุนแรงและหมดพลังพับกายลงไปท่ามกลางแสงสีขาวใต้เปลือกตา
ลมหายใจของชานนกลับมาเป็นปกติช้าๆ เช่นเดียวกับสติ เขารู้ตัวว่าอาจทำให้เธอหายใจไม่ออก จึงพลิกกายลงนอนตะแคงโดยรั้งร่างเธอมาด้วย เสียงเธองึมงำประท้วงอย่างอ่อนล้า เขาไม่มีแรงแม้แต่จะบอกว่าเขายังไม่อาจรังแกเธอได้ในเวลานี้ ถ้ามีแรงเหลือเขาอยากจะหัวเราะเยาะตัวเองมากกว่าที่คิดจะเดินหน้าต่ออีกทั้งที่เสร็จสิ้นไปไม่นาน
หากจะโทษก็ต้องโทษเธอ ชานนไม่เคยเจอผู้หญิงคนไหนที่มีผลต่อเขาเช่นนี้มาก่อน ต่อให้ย้อนไปเมื่อครั้งเป็นวัยรุ่น เขาก็ไม่เลือดพล่านระอุจนแทบจะลืมตัวลืมตายแบบนี้เลย
ชายหนุ่มปลอบตัวเองว่าคงเป็นเพราะสัมพันธ์แปลกประหลาดสดใหม่นี้ล่อลวงให้เขาหลงมึนเมา ก่อนปล่อยให้ตัวเองหลับใหลเขาจึงตั้งใจว่าจะทบทวนมันซ้ำๆ ให้สมกับเป็นเกมร้อนที่เขาจะลองเล่นเพียงครั้งเดียวในชีวิต
ความคิดเห็น |
---|