
“เพราะความรักที่ปิดบังตาเจ้าให้มืดบอด จึงได้ทำเรื่องที่น่าอับอายต่อเผ่านาคเยี่ยงนี้ สมควรได้ไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานบนโลกมนุษย์ยิ่งนัก!”
สุรเสียงซึ่งกังวานสะท้านห้วงแห่งเกษียรสมุทรทำให้เกล็ดมณีในอาภรณ์สีเขียวมรกตน้ำตาริน ใบหน้าเยาว์วัยแต่มีแววอิดโรยเหลือบมองผู้มีเศียรแผ่พังพานผงาดถึงเจ็ดเศียรด้วยดวงตาแดงก่ำ เจ้าของเกล็ดเลื่อมทองทอแสงเป็นประกายระยิบระยับขดกายขนาดใหญ่เป็นแท่นประทับให้องค์วิษณุเทพ ณ ใจกลางเกษียรสมุทร ความน่าเกรงขามที่แผ่ออกมาทำให้ผู้ที่มิได้มีเชื้อสายราชวงศ์อย่างธารทิพย์มิกล้าแม้เพียงลอบสบนัยน์ตาแข็งกร้าวคู่นั้น
“ข้าแต่องค์วิษณุเทพ ข้าผู้ถือเป็นผู้สูงสุดของนาคา ขอตัดสินโทษแก่นาคีน้อยผู้นี้...”
“ช้าก่อน...”
สตรีงามผู้ประทับเคียงคู่บุรุษเลอลักษณ์บนบัลลังก์นาคาเปล่งสำเนียงขัดเจ้าของสุรเสียงกึกก้อง ความไพเราะของน้ำเสียงที่เปล่งออกมามิต่างจากคีตขับขาน ท่วงทำนองนั้นคล้ายปลอบประโลมนาคีที่นั่งน้ำตานองหน้าอย่างแปลกประหลาด เกล็ดมณีรีบก้มลงกราบที่พื้นทรายขาวสะอาด ทั้งยังไม่ระคายยามผิวกายต้องสัมผัส
“อย่าถึงขั้นต้องให้นางลงไปเป็นเดรัจฉานเลยอนันตนาคราช”
“ข้าแต่พระแม่ นางบันดาลให้เกิดลมฝนในโลกมนุษย์ ทำให้น้ำท่วมจนเกิดภัยพิบัติ พืชผลล้มตาย สัตว์น้อยใหญ่ได้รับความเดือดร้อน อีกทั้งส่งพิลาสมยุราและวิหรุตไปจุติยังโลกมนุษย์โดยหาใช่หน้าที่ของนางไม่ โทษของนางเพียงนี้นับว่าน้อยไปเสียด้วยซ้ำ”
“หากข้าถูกพรากจากของรัก ข้าก็คงเสียใจจนเผลอบันดาลโทสะมิแพ้นางหรอกอนันตนาคราช”
นี่แหละหนอจักเรียกว่างามทั้งกายและใจจนยากหาสิ่งใดเปรียบเปรย...น้ำพระทัยใหญ่หลวงเป็นล้นพ้น
ร่างบางของนาคีน้อยที่หมอบกราบมิต่างจากงูตัวจ้อยท่ามกลางกระแสทิพย์แห่งเทพและเทพีผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสองสั่นเทาจากแรงสะอื้น อนันตนาคราชเงียบเสียงลง มีเพียงเทพีผู้เป็นดุจร่มโพธิ์ใหญ่ให้แก่นาคีน้อยในตอนนี้เท่านั้นที่เอ่ยกับผู้ที่เอนหลังอยู่ในอิริยาบถผ่อนคลาย ใบหน้าบุรุษช่างเลอลักษณ์ด้วยความหล่อเหลา ทั้งยังแผ่บารมีออกมาทั้งที่อยู่ในท่าหลับตาพริ้ม อมยิ้มที่มุมปาก ดุจทุกเรื่องในโลกหล้ามิมีสิ่งใดเป็นทุกข์สำหรับพระองค์
“เสด็จพี่ หากพระองค์ทรงประทานอภัยแก่นาง ข้าจักสร้างสระบัวลึกลับขึ้นมาเพื่อให้นางบำเพ็ญเพียรเป็นการสำนึกผิด นอกจากจะเป็นการโปรดสัตว์แล้ว ยังช่วยให้นางได้พิเคราะห์ถึงสิ่งที่กระทำลงไป และยังเป็นการบังคับให้นางสร้างเสริมบุญไปในตัวด้วย พระองค์ทรงมีความเห็นว่าอย่างไรเพคะ”
“ให้เป็นเช่นที่เจ้าปรารถนาเถิด”
“เกล็ดมณี...” เจ้าของผิวขาวนวลผุดผ่องสวมอาภรณ์สีกลีบบัวพร้อมเครื่องประดับทองคำแพรวพราว ใบหน้าเผยยิ้มอ่อนโยนสมกับเป็นพระมารดาเอ่ยเรียกในฉับพลัน เมื่อได้รับคำอนุญาตจากผู้ที่อยู่บนบัลลังก์นาคราช “ข้าได้เนรมิตสระบัวลึกลับขึ้นแห่งหนึ่ง เจ้าจงลงไปที่นั่น ดูแลสระบัวแห่งนั้นให้ดี สำนึกผิด และบำเพ็ญเพียร สั่งสมบุญบารมีให้มาก”
“ขอบพระทัยองค์วิษณุเทพ...ขอบพระทัยเพคะ พระแม่ลักษมีเทวี” ร่างที่หมอบกราบกับพื้นเอ่ยเสียงสั่นเครือพร้อมหยาดน้ำตาที่รินไหลออกมามิขาดสาย กระพุ่มมือบางกราบกรานทั้งสองพระองค์ด้วยความเคารพจนหาสิ่งใดเปรียบมิได้
สิ้นเสียงสั่นเครือ ร่างของเกล็ดมณีและธารทิพย์นาคีรับใช้ประจำตัวพลันสลายกลายเป็นละอองสีมรกต พวยพุ่งไปยังสระบัวลึกลับทางทิศอีสานซึ่งถูกเนรมิตขึ้นจากกระแสทิพย์แห่งเทพีทันที
พระนางมองตามนาคีน้อยที่ใจสลายเพราะตนมิถูกเลือกจากผู้ที่รักแล้วพลันบังเกิดกระแสทิพย์แห่งความห่วงหาผู้ที่เป็นเสมือนดั่งบุตรีในอุทรแห่งตนลอยปลิวตามติดเกล็ดมณีนาคีไปยังสระบัวลึกลับ จนเผลอประทานพรให้แก่นาง
เมื่อถึงกาลสมควร จักมีผู้ที่รักเจ้าสุดหัวใจหาเจ้าพบในที่สุด…
ฉะนั้น เมื่อเกิดการพบกันขึ้น ข้าอยากให้เจ้าจำไว้ว่ามันมิใช่เรื่องบังเอิญหรอกลูกเอ๋ย…
แต่มันคือ โชคชะตาของเจ้าเอง...
ความคิดเห็น |
---|
ผู้ผลิตและผู้จัดจำหน่ายหนังสือคุณภาพ
18 ซอยลาดปลาเค้า 63 ถนนลาดปลาเค้า แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพฯ 10220
info@satapornbooks.com