บทนำ

บทนำ

             ไม่ว่าจะวันไหนเวลาไหน เมืองหลวงของประเทศไทยก็แน่นขนัดด้วยผู้คนเสมอ ถนนสายหนึ่งมีรถเป็นร้อยๆ คัน รถเข็นขายอาหารจำพวกสตรีตฟูดเรียงรายบนบาทวิถี ห้างสรรพสินค้าเนืองแน่นด้วยผู้คน ตึกรามบ้านช่องแข่งกันผุดขึ้นสวนทางกับพื้นที่สีเขียวที่ลดน้อยลงทุกวัน

                อย่างที่รู้กันว่ากรุงเทพฯ มีตรอกซอยมากมาย มากพอๆ กับคาเฟ่ที่แทบจะครองเมือง ในทุกๆ สามร้อยเมตรหากขับรถผ่านต้องเจอร้านกาแฟหนึ่งร้าน และถึงจะหลงเข้าไปในซอยลึกแค่ไหนก็ต้องมีสักร้านให้นั่งพักผ่อนหย่อนใจ

                หนึ่งในนั้นคือร้าน Perfect Cup ร้านกาแฟซึ่งตั้งอยู่ลึกสุดในซอยย่านสุขุมวิท ลูกค้าใหม่พอมีบ้าง แต่ส่วนใหญ่ลูกค้าที่เข้ามาจะเป็นลูกค้าเก่าที่ติดใจบรรยากาศเงียบสงบ ร้านตกแต่งด้วยโทนสีขาวสลับกับสีน้ำตาลอ่อน มีของประดับตกแต่งน้อย มองไปทางไหนก็สบายตา กลิ่นกาแฟลอยอบอวลชวนให้รู้สึกผ่อนคลาย

การจิบกาแฟอุ่นๆ ในยามบ่ายคือหนึ่งในกิจวัตรประจำวันของลลิภัทร หญิงสาววัยยี่สิบหกปีผู้เป็นเจ้าของคาเฟ่ลับแห่งนี้ เมนูโปรดของเธอคือคาปูชิโนร้อนหวานน้อย เธอไม่ชอบดื่มแบบเย็นเพราะร่างกายต้องการความอบอุ่นมากกว่า

ช่วงเวลาบ่ายโมงในวันศุกร์มีลูกค้าแค่สองโต๊ะ ไม่นับรวมโต๊ะของเธอกับแพรพิไลผู้เป็นป้า หล่อนนัดคุยธุระกับเพื่อนสนิทที่คาเฟ่นี้ ลลิภัทรจึงมานั่งรอเป็นเพื่อนพร้อมกาแฟแก้วโปรด เมื่อคนที่แพรพิไลนัดไว้มาถึง เธอก็จะลุกออกไป

‘Live in peace before you rest in peace.’

                ข้อความภาษาอังกฤษบนแก้วเซรามิกสีขาวทำให้หญิงวัยกลางคนหลุดหัวเราะในลำคอ ลลิภัทรหลุบตามองแก้วกาแฟในมือตนเองก่อนจะยิ้มตาม

                “แก้วน่ารักดีนะลิส ซื้อที่ไหน” แพรพิไลถามหลานสาวที่นั่งข้างๆ เวลาคุยกันทั้งคู่มักจะนั่งฝั่งเดียวกัน

                “สั่งมาค่ะ ลิสชอบแก้วที่มีข้อความแปลกๆ ถ่ายรูปลงไอจีแล้วเก๋ดีนะคะ” หญิงสาววางแก้วลงบนโต๊ะ หมุนข้อความเข้าหาตัวเพื่ออ่านทวน

            ใช้ชีวิตอย่างสงบ ก่อนจะจากโลกนี้ไปอย่างสงบ

                “ทุกวันนี้อยู่ได้ใช่ไหมลิส” คนเป็นป้ากวาดตามองรอบร้านที่มาเยือนแค่สัปดาห์ละครั้ง หล่อนมีธุรกิจของครอบครัวให้ดูแล จึงไม่ค่อยมีเวลามานั่งชิลที่นี่ ทุกครั้งที่มาเยี่ยมก็จะกลับไว มีแค่ครั้งนี้ที่นัดเพื่อนไว้จึงได้อยู่คุยกับหลานสาวนาน

                “ไม่มีปัญหาเลยค่ะป้าแพร พออยู่พอใช้”

ทุกอย่างลงตัวดี Perfect Cup มีเจ้าของร้านกับลูกน้องสามคนที่สนิทกันราวกับพี่น้อง ชีวิตของลลิภัทรไม่ขออะไรมากไปกว่าตื่นเช้ามาเปิดร้านต้อนรับลูกค้าประจำ จัดเค้กและขนมอบในตู้ คอยทำความสะอาดร้านอยู่เสมอ คล้อยบ่ายก็มานั่งจิบกาแฟผ่อนคลาย หมดแก้วแล้วจึงไปทำงานต่อ

แม่ของเธอเสียชีวิตไปตั้งแต่ตอนเธออายุสิบสามปี จากนั้นก็อยู่กับพ่อสองคนมาโดยตลอด หนึ่งในความฝันของเธอคือ การเปิดร้านกาแฟอย่างที่ทำอยู่ โชคดีแพรพิไลมีที่ทาง ทุนทรัพย์ พร้อมด้วยการสนับสนุนอย่างเต็มที่ แม้จะเป็นพื้นที่ว่างในซอยลึก แต่ลลิภัทรก็ไม่เกี่ยง ปัจจุบันเธอพักอาศัยอยู่ชั้นสองของร้าน ไม่ได้กลับไปบ้านนานแล้ว

เพราะเธอรักที่นี่ยิ่งกว่าบ้านเสียอีก

“ดีแล้วละ ตอนลิสขอเปิดร้านกาแฟป้ายังกลัวเลยว่าลูกค้าจะไม่เข้า ร้านอยู่ลึกมาก แถมธุรกิจนี้การแข่งขันสูง”

“ต้องขอบคุณลูกค้าที่เขาเช็กอินและบอกต่อทางโซเชียลค่ะ” 

เทคโนโลยีช่วยลดปัญหาเรื่องโลเกชันไม่ดี ไม่ว่าร้านจะไปแอบอยู่มุมไหน เหล่าคาเฟ่ฮอปเปอร์ก็ตามไปจนได้ มิหนำซ้ำยังรีวิวให้จนมีลูกค้าใหม่แวะเวียนมาเรื่อยๆ

“ยายพุดบอกว่าลิสไม่โพรโมตเองเลย” แพรพิไลพูดถึงพุดมาลี ลูกสาวคนเดียวของหล่อนที่พ่วงตำแหน่งลูกพี่ลูกน้องของลลิภัทร

“ลิสอยากให้ร้านเงียบสงบอยู่แบบนี้ไปเรื่อยๆ ลูกค้าประจำมาเพราะบรรยากาศ ถ้าคนเยอะขึ้น เขาอาจจะไปที่อื่น”

“แล้วแบบนี้จะได้กำไรเหรอ”

“ได้ค่ะ พอเลี้ยงตัวเองกับน้องๆ เขาได้”

คนไม่ได้น้อยแบบนี้ตลอด ถึงลูกค้าจะไม่แน่นขนัด แต่ก็ขายได้มากกว่าหนึ่งร้อยแก้วทุกวัน ไม่รวมขนมต่างๆ ที่ลูกค้ามักจะสั่งไปรับประทานคู่กับเครื่องดื่ม ลลิภัทรสั่งขนมมาจากร้านเบเกอรีโฮมเมดในละแวกใกล้เคียงอีกที รายได้ต่อเดือนถึงจะไม่ได้มากเท่าร้านกาแฟมีชื่อหรือเข้าถึงง่าย แต่สำหรับเธอ มันเพียงพอแล้ว

กริ๊ง

เมื่อกระดิ่งแขวนประตูส่งเสียงว่ามีคนผลักประตูเข้ามา ปีเตอร์ บาริสตาลูกเสี้ยวประจำเคาน์เตอร์ก็กล่าวทักทายลูกค้าอย่างเป็นมิตร

“Perfect Cup ยินดีต้อนรับครับ”

ทว่าลูกค้าหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งไม่สนใจ เขาหันซ้ายขวามองรอบร้านเพื่อหาใครสักคน ก่อนสายตาจะหยุดที่แพรพิไล ครู่เดียวก็ก้าวมาถึงโต๊ะ ท่าทางเคร่งขรึมจริงจังของเขาทำให้ลลิภัทรแปลกใจ

“สวัสดีครับ ใช่น้าแพร เพื่อนคุณแม่พัตราหรือเปล่าครับ” 

“จ้ะ นี่ศราเหรอ โตแล้วจำไม่ได้เลยนะเนี่ย” แพรพิไลคลี่ยิ้ม ทว่าแววตาฉายแววหนักใจ หล่อนมองนอกกระจกร้านพบว่าพัตรา เพื่อนสนิทวัยเดียวกันกำลังตามลูกชายเข้ามาในร้าน

“คุณครับ”

หญิงวัยกลางคนตวัดสายตากลับมาตามเสียง ทว่าเขาไม่ได้เรียกหล่อน

ลลิภัทรสบตาลูกค้าประหลาด ดวงตาคมเข้มจ้องลึกเข้ามาในดวงตาเธออย่างมาดมั่น ก่อนจะเอ่ยประโยคพิสดารที่สุดออกมา

“เรามาแต่งงานกัน”

ผู้ชายที่พบกันครั้งแรกทำลายโลกอันเงียบสงบของเธอลงแล้ว

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น