1

บทที่ 1 Authentic

          “เฮีย น้องกูขอถาม ย่ามที่เฮียสะพายอยู่เนี่ย เป็นย่ามจริงหรือสะพายตามแฟชั่น” อคราก้าวขึ้นไปอยู่บนขั้นบันไดเลื่อนที่สูงกว่าอินทะ เขาถอดหมวกออกชั่วขณะ เสยเส้นผมที่เปียกชื้นเพราะเหงื่อเริ่มออกไปทางด้านหลัง แล้วปิดหมวกทับกลับมาอีกทีตอนที่ถึงประตูทางออกหมายเลข 1

          ลมร้อนพัดปะทะตัวเมื่อก้าวพ้นออกมาด้านนอก แต่คนที่เดินสะพายย่ามเจ้าปัญหาตามกันมาดูเหมือนจะไม่สะทกสะท้านกับความร้อนระอุ 

          “จะน้องหรือจะกู เอาสักทาง”

          “น้องก็ได้ แต่ถ้าหลุดกูบ้าง เฮียไม่ถือใช่ปะ” 

          “อืม ไม่ถือ อะไรก็ได้”

          “ช่างเรื่องนั้น ตอบก่อน ย่ามเนี่ยของจริงใช่มั้ย” พอเห็นอินทะไม่ยอมตอบก็ถือวิสาสะจะเอื้อมมือไปจับ แต่อีกฝ่ายเบี่ยงตัวหลบ ตาหวานฉ่ำอ่อนโยนเริ่มจริงจังขึ้นมา

          “มึงอย่าจับ ย่ามใบนี้ของแท้หลวงพ่อให้มา” กระชากย่ามใบเก่งหลบแล้วเบี่ยงตัวหนี ตอนนี้ขายาวๆ ของทั้งเขาและอคราก้าวมาหยุดยืนรอข้ามถนนที่หน้าวัดแล้ว

          อคราไม่ได้ให้ความสนใจกับวัดเท่าไรนัก เพราะสายตาเอาแต่มองสลับย่ามพระกับหน้าอินทะไปมา ดูมีปัญหา เจ้าของย่ามเลยกล่าวซ้ำ พร้อมพลิกหน้าย่ามขึ้นโชว์ “ของแท้จริงๆ กูได้มาจากวัดป่าที่กาญจนบุรี นี่ๆ มีปักชื่อวัดไว้ด้วย”

          “โห...”

          “เพื่อนกูอยากได้กันเต็มเลย แต่กูไม่ขาย มันจะเอากระเป๋าใบอื่นมาแลกกูก็ไม่ให้”

          “โห...” ทำได้แค่ร้องโห พยายามอินกับความภาคภูมิใจในย่ามพระของอินทะ เขาไม่ได้หลบตาหวานที่จ้องมาแม้แต่น้อย ยิ่งใกล้ยิ่งเห็นว่าดวงตาคู่สวยวูบไหวตลอดเวลาที่พูดเรื่องย่ามพระ

          กูว่าเฮียแม่งอาการหนักอะ...

          เป็นคนธรรมะ ซึ้งและอินในรสพระธรรม

          ...อินทะอารามบอย

          “ไปวัดบ่อยหรือเปล่า” พอพ้นเรื่องย่ามพระได้อินทะก็ชวนเปลี่ยนเรื่องคุย เขาขยับตัวไปด้านหน้า เผลอตัวส่งมือไปลากแขนอคราพาข้ามถนนมาด้วย 

          ทว่าไร้เสียงตอบกลับในคำถาม คนถูกลากกำลังนิ่งอึ้งจากการถูกจับจูงพาข้ามถนน “เอิ้ง เอิ้ง...”

          “ว่า?” อคราหลุดออกจากความคิดของตัวเองเพราะถูกเรียก สีหน้าอารามบอยไม่ปกปิดว่าสงสัยว่าเขาเป็นอะไร และดูเหมือนเพราะเขายังไม่หายทำหน้าประหลาดใจ นิ้วมือยาวเลยล้วงเข้าไปในย่าม 

          อินทะหยิบพัดขึ้นมาหนึ่งอัน พัดโบกให้อคราคลายร้อนลง

          “จะเป็นลมปะเนี่ย”

          “เปล่าๆ ไม่ได้ร้อน เฮียพกพัดด้วยเหรอ”

          “ของหลวงพ่ออะ มันติดมากับย่าม ไม่อยากเอาออก ของมงคล”

          “บุญแล้วที่ไม่เอาตาลปัตรมาพัดให้กู”

          “ใครจะพกของแบบนั้นมาเที่ยววะ แปลกตายห่า”

          เจ้าของพัดส่ายหัว หลุดหัวเราะออกมาอย่างขบขันแล้วเลิกพัดให้อครา 

          “เออเนอะ ของแปลกๆ อย่างตาลปัตรไม่มีใครเขาพกหรอก เฮียถูก พูดถูกทุกอย่างเลย” แต่ย่ามพระเฮียยังสะพายมาเมืองนอกได้ ถ้าเห็นถือตาลปัตรมาด้วยก็คงไม่ต้องแปลกใจมาก 

          แค่กูไม่เดินด้วย เจริญพร...

          “แล้วเป็นอะไร อยู่ๆ ก็นิ่งไป นึกว่าจะเป็นลม”

          “เปล่า ตกใจนิดหน่อยอะ ไม่เคยมีใครพาข้ามถนนแล้วอยู่ฝั่งที่กั้นรถให้ เฮียคนแรกในชีวิต จริงๆ ก็ไม่ได้ตกใจหรอกแค่แปลกใจ เฮียดูกูสิ ดูสิว่าน่าเทคแคร์มั้ย” ชีช้ำตอนพูดไปพร้อมยักไหล่ แล้วมองอินทะเข้าสู่โหมดสงบนิ่ง ทำหน้าเรียบเฉย ก่อนเอ่ยยอกย้อนด้วยประโยคที่คล้ายคลึงกับประโยคที่เขาพูดก่อนหน้า

          “กูชินดูแลคนอื่นจนเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ถ้าเผลอเทคแคร์มากเกินไป ไม่ถือใช่ปะ”

          “ไม่ถือ แต่ตอนนี้ไปหาที่หลบแดดกันเถอะ ผมร้อน”

          “เชื่อ หน้าแดงตัวแดงหมดเลย”

          “ไม่ค่อยได้โดนแดดอะ เช้าจำศีลอยู่วัด กลางคืนถึงค่อยตื่นมาทำงาน” ก้าวเท้าผ่านประตูด้านนอกเพื่อเข้าไปสู่พื้นที่ของวัด อคราหรี่ตาสู้แสงเพื่อมองสถาปัตยกรรม อยากชื่นชมประวัติศาสตร์อันยาวนานของสถานที่อยู่นะ แต่เท้ากลับก้าวฉับๆ ไม่สนอะไรทั้งนั้นไปยืนหลบร่มด้านใน 

          ไม่แน่ใจเลยว่าแดดที่แผดเผากันในตอนนี้ สวรรค์สาดมันลงมาเพื่อให้เขาซ้อมตกนรกหรือเปล่า

          “อยู่วัด?...ชอบเข้าวัดจริงๆ สินะ”

          “หา...” ร้องเสียงหลง งุนงงว่ากำลังพูดเรื่องเดียวกับอาเฮียอารามบอยแน่ๆ ใช่มั้ย จำศีลเข้าวัดของเขาเป็นการเปรียบเปรยว่านอนตอนกลางวัน แต่ดูเหมือนอินทะจะเข้าใจว่าเขานอนที่วัดจริงๆ

          กูเนี่ยนะ ชอบเข้าวัด...กู...คนอย่างกู 

          วะ ฮะ ฮ่า...

          ขำ...เหนื่อย

          “คนไทยที่มาไต้หวันส่วนใหญ่มาไหว้พระขอพรกันทั้งนั้น มึงก็ด้วยใช่มั้ยละ มาขอเรื่องอะไร ขอเรื่องงานหรือความรัก”

“ขอผัวใหม่จ้ะ”

          “...”

          “เอ่อ งานใหม่ครับ” พอรู้ว่าเผลอตัวหลุดอะไรประหลาดออกมาก็รีบแก้คำ อคราไม่เคยปกปิดถึงเรื่องที่ตัวเองรักร่วมเพศ แต่สำหรับคนที่เพิ่งรู้จักกัน แถมยังท่าทางธรรมะธัมโม

          อารามบอยอาจตกใจเรื่องเขาเป็นเกย์

          ขอปิดไว้ก่อน ทว่าคุณป้าคนหนึ่งไม่เป็นใจ เหมือนจะรีบเข้าไปไหว้พระมาก...เลยเดินชนกู

          กูขวัญอ่อน กูตกใจ กูอุทานด้วยคำติดปากเสียงดังลั่น “ฉีกูๆ แม่มึงระวัง!” แถมเผลอตัวสะดีดสะดิ้งจนเกินควร

          จบกัน...ตอนนี้อารามบอยทำหน้าช็อกไปเรียบร้อยแล้ว

          “...”

          “เมื่อกี้ผมแสดง วงการบันเทิงอะเนอะ วงการบันเทิงงง” อคราเอามือจับสองแก้ม ลูบหน้าลูบตา แล้วใช้ทั้งมือวางปิดตั้งแต่ช่วงกลางจมูกลงไป “เฮียคิดซะว่าไม่ได้ยินอะไรก็แล้วกันเนอะ”

“เป็นลูกสาวเหรอ”

“คือ...”

          “ไม่เป็นไรหรอก บอกได้ กูแค่แปลกใจ”

          “งั้น อ่า...ใช่ เป็นตุ๊ด”

          “ดูไม่ออกเลย ตอนแรกนึกว่าเป็นผู้ชายเถื่อนๆ ซะอีก”

          “เปล่า ไม่เถื่อน”

          “แต่ไม่ต้องกังวลนะ กูปลงแล้วกับเรื่องแบบนี้ จะเป็นอะไรก็เป็น” 

          ปลงแล้ว...

          อินทะใช้คำว่าปลงแล้วผ่านน้ำเสียงนิ่งๆ...

          อครารู้สึกจุก จุกกว่าการถูกด่าว่าเป็นตุ๊ดควายมาทั้งชีวิตเสียอีก

          ฉีกู ฉีกู ฉีกู...ปวดใจ!

          “นี่...รู้วิธีขอผัวมั้ย”

          “ไม่...”

          “งั้นตามมา เดี๋ยวบอกให้ฟัง”

          “...”

          “ตามมาสิ บอกแล้วว่าไม่ต้องกังวล เที่ยวด้วยกันได้ ไม่ได้รังเกียจอะไร”

          “ผมไม่ได้กังวลเรื่องนั้น แค่อยากให้ช้าก่อน สัก–ประ–เดี๋ยว!” ยกปางห้ามญาติพร้อมกระแทกเสียงทีละคำ เบรกอินทะที่หันมาเร่งเร้าให้เดินตามเข้าไปในประตูมังกร อคราถอนหายใจ ถ้าอินทะบอกว่าไม่เป็นไร เขาก็ไม่เกรงใจแล้วนะ...“อยากจะรบกวนเฮียถ่ายรูปให้น้องกูก่อน เอาตรงน้ำตก ขอฟิลเตอร์สดใส”

          “ได้”

          “ถ่ายเรื่อยๆ เดี๋ยวน้องเปลี่ยนท่าโพสเอง”

          “อ่าๆ” อินทะเอื้อมมือไปรับโทรศัพท์จากมือของอครา เขากวาดตามองรอยสักที่แขนซ้ายอย่างให้ความสนใจอีกครั้ง นึกว่าเป็นผู้ชายเถื่อนๆ จริงๆ นะ แต่เป็นลูกสาวหน้าขาวอวบอิ่ม...แก้มเยอะ มีเหนียงด้วย

          “อย่าถ่ายอ้วนนะ”

          “...งานยากแล้วกู” กระซิบแผ่วเบาให้ตัวเองได้ยินเพียงคนเดียวเท่านั้น อินทะยกโทรศัพท์ขึ้นกดถ่ายตั้งแต่ที่อครายังไม่ได้โพสท่าทาง

          เขาถ่ายไปเรื่อยๆ ตามคำสั่ง ภาพที่ได้ออกมาเลยเป็นตอนเดิน หันมาสั่ง หยีตา พยายามเก๊กท่า

          เหี้ยทุกรูป...

          “พอแล้วๆ น่าจะได้แล้วละ ไหนๆ ขอดูรูปหน่อย”

          อินทะยกโทรศัพท์หนีขึ้นเหนือศีรษะ ยืดสุดแขน เพราะคุ้นชินการเดทกับสาวน้อยที่ตัวเล็กบอบบาง เวลายกแขนแบบนี้สาวๆ จะกระโดดมาแย่งของ จากนั้นก็ถูกรวบกอดแต๊ะอั๋งแบบแนบเนียน

          แต่ลืมไปว่าวันนี้อยู่กับอครา น้องมันมีส่วนสูงพอกันกับเขาเลยด้วยซ้ำ ไหนจะรอยสักดิบเถื่อนสะใจตั้งแต่ช่วงไหล่ถึงปลายนิ้วทั้งห้า ใบหน้าคมดุดัน มัดกล้ามเนื้อเห็นชัดตอนที่จับข้อมือเขาดึงลงมา แย่งเอาโทรศัพท์กลับคืนไปได้...อย่างง่ายดาย

          ตาคมตวัดขึ้นมองเขาอย่างเอาเรื่องหลังเห็นรูปทั้งหมดในโทรศัพท์ 

          จะต่อยมั้ยนะ โกรธเลเวลไหน

          “กูอธิบายได้ เพราะมึงอยู่ไม่นิ่ง”

          “เสียใจอะ ใช้ไม่ได้สักรูปเลย”

          ...น่าจะไม่ได้โกรธ เพราะหน้าม่อยเหมือนเสียใจ

          “เอางี้ไปยืนใหม่อีกที กูถ่ายให้ใหม่” ชี้นิ้วไปยังตำแหน่งเดิมตรงน้ำตกหน้าวัดอีกครั้ง หลังเห็นหน้าโหดจ๋อยลงเมื่อเห็นรูป

          “ไม่เอาแล้ว”

          “ใช้กล้องกู มันจับภาพได้ไวกว่า” อินทะล้วงมือเข้าไปในย่ามแท้ๆ อิมพอร์ตตรงจากวัด หยิบกล้องคอมแพ็กตัวเล็กในย่ามมาไว้ในมือ 

          ถอดเคสออก พยักพเยิดให้อครากลับไปโพสท่าทาง 

          “แล้วจะเอารูปจากกล้องเฮียยังไงอะ”

          “แอดไลน์ไง ไม่เห็นยาก”

          “ถ้าแบบนั้น ผมไม่เกรงใจเฮียแล้วนะ”

          “ได้ทั้งหมด กูสายตามใจอยู่แล้ว” พูดจบก็ยกยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาว อินทะมองอคราก้าวยาวๆ กลับไปทางน้ำตก เขามองรูปร่างสูงผ่านหน้าจอกล้อง

          ท่าโพส...ตลกดี

          

          “รูปนี้ก็ดี อันนี้ก็ได้ เฮียถ่ายดีๆ ก็ได้นี่หว่า” อคราเลิกคิ้วขึ้นหนึ่งข้างก่อนก้มลงไปมองภาพถ่ายในหน้าจอคอมแพ็กของอินทะ “ก่อนหน้าเหมือนแกล้งกันอะ”

          “ใครเขาจะไปแกล้งมึง เพ้อเจ้อ เอาไลน์มาดิ เอารูปลงแล้วเดี๋ยวส่งให้” 

          “ขอไลน์น้อง คิดอะไรกับน้องปะเนี่ย” ส่งกล้องคืนกลับไปให้อินทะ อคราล้วงมือลงในกระเป๋ากางเกงเพื่อหยิบโทรศัพท์ออกมา ความปากไวทำให้พูดออกมาโดยไม่ได้คิด พอสบเข้ากับตาฉ่ำเยิ้มก็พบว่าอินทะคล้ายจะขยับปากพูดอะไรออกมาสักอย่าง 

          แต่ไม่พูด ปากหยักอิ่มหุบฉับ มือยกขึ้นเกาต้นคอก่อนล้วงไปเอาโทรศัพท์ของตัวเองขึ้นมาสแกนบาร์โค้ดเพื่อแอดไลน์

          “The Crowd Bar อันนี้เหรอ” แอบสงสัยเล็กน้อยเมื่อต้องกดยืนยันผู้ติดต่อ...

          บาร์...รูปดิสเพลย์เป็นร้านเหล้า

          “อืม ร้านเหล้าอะ ไลน์ส่วนตัวผมกับร้านอันเดียวกัน”

          “ที่บอกว่าทำงานตอนกลางคืนคือแบบนี้?”

          “ใช่” อคราหัวเราะนิดหน่อย ก่อนกดส่งสติ๊กเกอร์เซย์ไฮให้อินทะ “รูปดิสฯพี่นี่ถ่ายที่ไหนอะ”

          “เบลเยียม”

          “เยี่ยมจริงปะ”

          “ก็ต้องลอง”

          “ว้าว ทันด้วย” 

          อินทะส่ายหัวไปมาส่วนอคราหัวเราะจนตาปิด จากนั้นทั้งคู่ก็เก็บโทรศัพท์ อินทะเดินนำพร้อมอธิบายขั้นตอนการไหว้พระขอพร

          “เข้าประตูนี้ เขาเรียกประตูมังกร อะ นี่ธูป” 

          “ขอสามดอก”

          “เขาใช้กันดอกเดียว”

          “พอเหรอ”

          “ดอกเดียวก็เพลียละ”

          “เนี่ย เฮียทันผมอีกแล้วอะ” เป็นอคราที่ส่งเสียงหัวเราะออกมาอีกครั้ง เขายื่นมือไปรับธูปหนึ่งดอกจากอินทะ แอบอึ้งให้ความหัวไวของอีกฝ่าย ท่าทางธรรมะธัมโม แต่ทันมุกใต้สะดือที่เขาเล่นสองมุกแล้วนะ...

          กูขอลองของหน่อย มาหน่อย

          “เฮีย คนประเทศไหนเยมัน...”

          “เยอรมนี” อินทะสวนขึ้นก่อนที่อคราจะพูดจบด้วยซ้ำ เขาลากแขนข้างที่มีรอยสักหลบมุม ล้วงย่ามเอาไฟแช็กมาจุดธูปทั้งของตัวเองและอครา “มุกตื้นๆ เลิกเล่นเหอะ ประตูนรกเปิดรับมึงกับกูแล้วเนี่ย”

          “มุกไม่ตื้นเถอะ แต่เลิกเล่นก็ได้ คนบาปเหมือนกันนี่หว่า นึกว่าธรรมะธัมโมนะเนี่ย”

          “เดี๋ยวต้องไปไหว้เจ้าแม่กวนอิมองค์ใหญ่ที่ตั้งตรงกลางก่อน แล้วเดินวนขวาไปข้างหลัง ไหว้เทพเจ้าเฒ่าจันทราขอคู่” อินทะไม่ต่อความ เขาเปลี่ยนเรื่อง เพราะขืนให้อคราพูดออกมาอีกที ดูเหมือนจะได้บาปมากกว่าความสิริมงคล

          “ได้ๆ เออ ผมยังไม่ได้ถามเฮียเลย ว่าเฮียมาไหว้พระขอพรเรื่องอะไร”

          “งาน กูลาออกเมื่อเดือนก่อน ตอนนี้ตกงานอยู่ แม่เลยให้มาไหว้”

          “อ่อ”

          “แต่ไม่อยากกลับไปทำงานเหมือนเดิมแล้ว เบื่อ...มันอยู่ไม่ติดที่ ไม่ค่อยมีเวลา ทำร้านเหล้าเงินดีปะ”

          “ถามงี้ จะแย่งอาชีพผมปะเนี่ย”

          “กำลังคิด ถ้าเงินดี”

          “...กินเหล้ามันผิดศีลนะเฮียนะ”

          อินทะหยุดเท้าก่อนถึงองค์เจ้าแม่กวนอิม เขารออคราเดินมาใกล้ๆ แล้วกวาดมือขึ้นวางบนไหล่อีกฝ่าย ตบเบาๆ ก่อนเดินไปพร้อมกัน

          “คนเรามันเกิดมาแค่ครั้งเดียวนะเอิ้งนะ เพราะงั้นวัดก็ต้องเข้า เหล้าก็ต้องกิน เขาเรียกว่าประสบการณ์ชีวิต”

          “ถ้ากินเหล้าได้ ผมเรียนเชิญเฮียที่ร้านหลังกลับไทย เดี๋ยวผมเลี้ยงเอง”

          “มึงพูดแล้วนะ”

          อคราพยักหน้ารับพลางเหลือบมองเสี้ยวหน้าด้านข้างของอินทะ เขากระตุกยิ้มมุมปาก แล้วหมุนตัวเข้าหาองค์เจ้าแม่กวนอิม หลับตาลงเพื่ออธิษฐาน

ขอให้ชีวิตหลังจากนี้ มีแต่สิ่งดีๆ เข้ามา สาธุ

          พออธิษฐานเสร็จ อคราก็ลืมตา เขามองคนด้านข้างที่ยังคงหลับตาอยู่ ลมวูบหนึ่งโชยมาอ่อนๆ จนได้กลิ่นน้ำหอมจากตัวอินทะ พอเห็นตาหวานเปิดขึ้นมาอีกครั้ง จึงอดไม่ได้ที่จะถามบางประโยค

          “Allure Homme Sport Eau Extreme”

          “อ่า ใช่”

          “เฮียกับผมใช้น้ำหอมกลิ่นเดียวกันเลย”

          “รู้แล้ว ได้กลิ่นมาตั้งนานแล้ว” อินทะพูดออกมาเบาๆ พลางลากแขนอคราให้ออกเดินตามอีกครั้ง คนในวันนี้ค่อนข้างมาก เขากลัวว่าอีกฝ่ายจะถูกผู้คนกลืนหายไป 

          “ลากแขนไปมา ทำเหมือนผมตัวเล็กซะงั้น”

          “ก็คนเยอะ เดี๋ยวหลง”

          “ไม่หลงหรอก อีกอย่าง...ตัวผมสูง เฮียก็ตัวสูง มองหากันง่ายนิดเดียว”

          “เหรอ...” อินทะยังคงไม่ปล่อยมือออกจากแขนของอครา เดินเชื่องช้าปากอธิบายนั่นนี่ “เราไหว้เทพไปเรื่อยๆ แต่ถ้าจะขอคู่ให้ไหว้เทพเฒ่าจันทราที่อยู่ในสุด ตอนไหว้มึงต้องบอกให้ชัดว่าตัวเองชื่ออะไร อยู่ที่ไหน เอาแบบละเอียดๆ แล้วค่อยหยิบปัวะโป้ยมาถามคำถามเสี่ยงทาย”

          “ปัวะโป้ย?”

          “ใช่ ไม้เสี่ยงทายที่เป็นจันทร์เสี้ยวสีแดง มึงเอามาคู่เดียวพอนะ แล้วตั้งคำถามลงท้ายด้วยคำว่าใช่มั้ยใช่” อินทะกับอคราหยุดยืนไหว้เทพเจ้าองค์ต่างๆ ไปตามทาง ก่อนจะเดินไปยังเทพเฒ่าจันทราที่อยู่ด้านในสุด อคราหยิบปัวะโป้ยหนึ่งคู่ตามขั้นตอนที่อินทะอธิบาย 

          “ไม่เอาด้วยเหรอ”

          “ไม่อะ กูเชื่อว่าเนื้อคู่ อยากมาเขาก็มาเอง อยากใช่เขาใช่เอง ขอเรื่องเงินดีกว่า เพราะมีเมียแต่จนก็จบนะ”

          “เออจริง ไม่มีผัวอยู่ได้ ไม่มีเงินอยู่ไม่ได้เลย”

          อคราพยักหน้าเห็นด้วย เขาเดินไปปักธูปในกระถางแล้วเดินกลับมาอยู่ข้างอินทะ ฟังอารามบอยที่กินทั้งเหล้าเข้าทั้งวัดอธิบายต่อ

          “ถามเสร็จก็โยนไม้ลงพื้น ถ้าหงายหมดคือไม่แน่ใจ ให้โยนใหม่ คว่ำหมดแปลว่าไม่ใช่ หงายหนึ่งคว่ำหนึ่งคือใช่”

          “เข้าใจแล้ว ถ้าไม่ได้มากับเฮียนี่แย่แน่ เฮียดูมีความรู้”

          “กูอ่านมาในเน็ต”

          “แล้วจะพูดให้กูหมดศรัทธาทำไมเนี่ย” 

          “ก็โกหกมันผิดศีลไง”

          “ค่ะพ่อ” อครากลอกตาใส่อินทะ อารามบอยที่แอบเรียกในใจยิ้มให้เขาเล็กๆ ช่วงมุมปาก จากนั้นก็เดินออกไปรอตรงที่ไม่ค่อยมีคน ปล่อยเขาใช้เวลากับตัวเอง ทำตามขั้นตอนที่ได้ฟังมาอย่างครบถ้วน

          คนที่จากไป จะกลับมาใช่มั้ย

คว่ำคู่...ไม่สินะ

เนื้อคู่เกิดแล้วใช่มั้ย

คว่ำ หงาย...เอาล่ะ กูไม่ต้องโดนคดีพรากผู้เยาว์ อุ่นใจเล็กๆ อย่างน้อยๆ เนื้อคู่กูก็เกิดแล้ว 

จะมาแล้วใช่มั้ย

คว่ำคู่...อิสัส ต้องรอนานแค่ไหนวะ

ต้องรออีกนานใช่มั้ย

คว่ำคู่...อิหยังคะ อิหยังวะแม่

สุดท้าย เนื้อคู่มาแล้ว...ใช่หรือไม่ใช่?

อันหนึ่งคว่ำ อันหนึ่งหงาย แปลว่าใช่...

          

          เชี่ย...เนื้อคู่กูมาแล้ว

          ใครวะ

          “เฮีย! เฒ่าจันทราบอกเนื้อคู่กูมาแล้วอะ”

          “อ่า ยินดีด้วย” อินทะสะดุ้งเมื่อถูกร้องเรียกเสียงดัง เขากำลังยืนมองท้องฟ้า หลังเห็นอคราโยนปัวะโป้ยอยู่หลายครั้ง

          เลิกมองแค่แวบเดียว อีกฝ่ายก็ถามเฒ่าจันทราเสร็จเรียบร้อย แถมเดินมาใกล้กันกับจุดที่เขายืนอยู่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่ทราบ

          “แต่ผมไม่รู้ว่าใคร”

          “คนที่คุยๆ อยู่เปล่า”

          “ผมเพิ่งเลิกกับแฟนเมื่อไม่กี่วันก่อนเอง ไม่มีคนคุยหรอก”

          “เรื่องแบบนี้ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งก็พอนะ งมงายมากไปก็ไม่ดี”

          “ไม่งมงายหรอก จะรอดูว่าศักดิ์สิทธิ์จริงมั้ย ขอลองของหน่อย ถ้าแน่จริงเอาเนื้อคู่มายืนตรงหน้าเลย มา พร้อม” เท้าเอวเอี้ยวตัวสอดส่ายสายตามองหาเนื้อคู่ ก่อนท่อนแขนจะถูกคว้าให้มาเผชิญหน้ากับอารามบอย

          อินทะปล่อยแขนอคราออกแล้วจับหน้าม้าที่แตกออกเพราะลมพัดให้คืนทรง ขยับคอเสื้อ กระแอมไอก่อนเอ่ย

          “เคยได้ยินมั้ย เขาบอกไม่เชื่ออย่าลบหลู่ ไป...ไปขอด้ายแดงกัน ด้ายแดงจะช่วยเรื่องความรัก วิธีขอต้องโยนปัวะโป้ยให้ได้คว่ำหงายสามครั้ง แล้วก็เอาด้ายไปชุ่นเชียง คือเอาไปวนรอบกระถางธูปข้างหน้า เหมือนปลุกเสกเครื่องรางให้ขลังขึ้น”

          “อ้า ผัวมาแน่ ผัวจะมา”

          “เออ ขอให้มาไวๆ แล้วเสร็จนี่มีแพลนจะไปไหนต่อ”

          “ไม่รู้ดิ บอกแล้วว่าไม่มีแพลน เฮียอะจะไปไหน”

          “หาข้าวกินมั้ง เอิ้งกินเนื้อได้มั้ย”

          “ของชอบเลย”

          “งั้นไปกินชาบูหม่าล่ากัน...กูชวน”

          “ไม่ปฏิเสธ หิวมากๆ อยู่พอดี ขอร้านเด็ด แดกแล้วเหมือนขึ้นสวรรค์ได้เลยนะ” อคราหยิบปัวะโป้ยมาไว้ในมืออีกครั้ง หนนี้อินทะก็ทำด้วยเช่นกัน แต่ก่อนจะโยนลงพื้นเสียงเรียบๆ ของอินทะก็พูดขึ้นมา

          “ด้ายแดงเก็บไว้ในกระเป๋าตังค์กันนะ”

          “ได้ เฮียว่าไง กูทำตามทุกอย่างเลย”

          “ดีมาก เด็กดี...”

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น