2

บทที่ 2


2

บริษัทโดมิงโก กรุงมาดริด สเปน

หลังเสียงประตูปิด คำพูดของโลเปซ หญิงม่ายวัยแปดสิบแปดผู้เป็นมารดา ประธาน และผู้ก่อตั้งโดมิงโกยังก้องอยู่ในหัวเขา แล้วบทสนทนาเมื่อครู่ก็ย้อนมาในความทรงจำของโคเซอีก

...

‘ยกตำแหน่งประธานกรรมการบริหารให้รีคซะ’

‘อะไรนะครับ’ ตอนนั้นโคเซจำได้ว่าเขาแทบช็อก ต้องใช้เวลานานกว่าจะเค้นเสียงออกมาได้

‘ลูกได้ยินแล้ว แม่บอกว่าให้ยกตำแหน่งซีอีโอให้ริโก้ ส่วนลูกก็ขึ้นมาเป็นประธานบริษัทแทนแม่’

ตำแหน่งห่วยๆ อย่างประธานบริษัทน่ะหรือ เขาอยากสบถด้วยประโยคนั้น แต่ในความเป็นจริงทำได้แค่แค่นหัวเราะออกไป ‘แม่พูดตลกอะไร’

โลเปซปรี่มาหาเขา ท่าเดินกระฉับกระเฉงราวอายุสักห้าสิบ ไม่บอกว่าเฉียดเก้าสิบ ‘ไม่ได้ตลก แต่แม่พูดจริง’

‘เพราะอะไร’ เขาถามเสียงแหบโหย เพราะรู้กันว่าตำแหน่งประธานกรรมการบริษัทของมารดาเป็นตำแหน่งลอยๆ ไม่มีอำนาจ จะเข้าบริษัทต่อเมื่อมีการประชุมคณะกรรมการ ซึ่งไม่บ่อยนัก

‘แม่อยากพัก ถึงเวลาแล้วที่แม่จะวางมือ’

‘แม่อยากพักก็พักไปสิ อยากวางมือก็วางไป จะมาลากผมเข้าไปเกี่ยวข้องด้วยทำไม’

‘ก็ถ้าลูกไม่ขึ้นมาแทนแม่ รีคจะมีโอกาสโตมั้ย’ กระแทกเสียงกลับ

โคเซสะอึก อึ้งราวกับถูกหมัดฮุก ‘ที่แท้อยากโพรโมตหลานรักเสียจนอดใจรอให้ผมเกษียณก่อนไม่ไหว ต้องเขี่ยทิ้งให้พ้นทาง’ โคเซบดกรามแน่น

‘ข่งเขี่ยอะไรกัน มองโลกแง่ร้ายเสียจริง แกจะขึ้นมาเป็นประธานบริษัทแทนแม่นะ’

แตะหลานรักทีไรเป็นต้องเปลี่ยนโทนเสียงทุกที ได้แต่เหน็บในใจ ไม่ทันโต้ มารดาก็ยิงรัวมาอีก

‘แล้วไม่ต้องมากระแนะกระแหนแม่ นั่นน่ะลูกในไส้ของแกนะ ใช่ใครอื่นที่ไหน เพราะงั้นจะหลีกทางให้ลูกจะเป็นไรไป’

แม่พูดราวกับเป็นเรื่องเล็กๆ อย่างการขอข้าวกินสักมื้อ แทนที่จะเป็นเรื่องราวใหญ่โตอย่างการยกตำแหน่งซีอีโอให้ ‘รีคเป็นลูกผมแล้วไง แล้วผมไม่ใช่ลูกแท้ๆ ของแม่รึ’

‘จะพาลรึไง แกพูดแบบนี้หมายความว่าไง จะบอกว่าแม่รักหลานมากกว่าลูกหรือ แม่ไม่ได้ปลดแกนะเคซ เข้าใจเสียใหม่ แค่เลื่อนตำแหน่งขึ้นมาแทนแม่ ส่วนรีคก็ขึ้นมาเป็นซีอีโอแทนแก เพราะงั้นเลิกคร่ำครวญได้แล้ว’

‘แล้วความหมายต่างกับปลดตรงไหน ในเมื่อตำแหน่งที่แม่เป็นอยู่ทุกวันนี้เราก็รู้กันดีว่าไม่มีอำนาจ’

โลเปซตีหน้ายักษ์ เสียงเข้ม ‘ไม่มีอำนาจจริงหรือ ประชุมบอร์ดนัดหน้าลองดูสักตั้งไหมว่าฉันจะทำอะไรแกได้บ้าง ดูซิว่าตำแหน่งฉันยังมีน้ำยาอยู่มั้ย’

โคเซหน้าซีด ไม่ได้ตั้งใจจะยั่ว เรื่องท้าทายยิ่งไม่อยู่ในหัว ด้วยรู้ว่ามารดาเป็นคนเอาจริงแถมบ้าดีเดือด เป็นที่รู้กันว่าถึงแม้จะวางมือและแต่งตั้งให้เขาเป็นประธานกรรมการบริหารแทนมาหลายปีแล้ว แต่อำนาจในการกุมบังเหียนบริษัทแท้จริงยังอยู่ที่แม่เขา โลเปซยังมีบารมี กรรมการบริษัทกว่าครึ่งไม่ว่าจะเป็นเครือญาติหรือกลุ่มนายทุนต่างเป็นคนที่เธอคอยหนุนหลังอยู่ ฉะนั้นถ้าโลเปซจะเรียกประชุมนัดพิเศษเพื่อขอแรงโหวตขับเขา มีหรือจะไม่สำเร็จ

‘ใจเย็นๆ ครับ ผมไม่ได้จะงัดข้อกับแม่สักหน่อย บริษัทนี้เป็นของแม่ แม่สร้างมากับมือ เพราะฉะนั้นจะตั้งใครหรือปลดใครก็เป็นสิทธิ์ของแม่’ โคเซพูดด้วยน้ำเสียงและท่าทีอ่อนลง

‘พูดจาแบบนี้ค่อยฟังรื่นหูหน่อย แม่ทำไปทั้งหมดก็เพื่อลูก ดูสารรูปลูกสิ ยืนด้วยตัวเองยังไม่ไหว ต้องฝืนมาทำงานทั้งที่ขายังเจ็บ แผลถึงหายช้า ไปไหนมาไหนต้องอาศัยไม้เท้าพยุง ไปพักตามคำแนะนำของหมอดีต่อลูกที่สุดแล้ว ส่วนเรื่องเงินเดือนไม่ต้องห่วง แม่จะช่วยพูดกับกรรมการบริษัทให้ ลูกจะได้เท่าแม่แน่นอน’

นับแต่เขาประสบอุบัติเหตุเฮลิคอปเตอร์ตก มารดาก็หยิบยกเรื่องนี้มาโจมตีเขาทุกคราวที่งัดข้อกัน ตอนเกิดอุบัติเหตุที่กลางไร่องุ่นของชาวบ้านเมื่อกลางปีก่อน เขาต้องเข้ารับการผ่าตัดใหญ่ กระดูกหักหลายส่วน พักฟื้นไปเจ็ดเดือนเต็มๆ เพิ่งจะเอาเฝือกออกและกลับมาทำงานอีกครั้งเมื่อเดือนก่อน โดยอาศัยไม้เท้าช่วยทรงตัว

ตอนเกิดเรื่องโลเปซปรี๊ดแตกเพราะภายในเฮลิคอปเตอร์ลำนั้นไม่ได้มีแต่เขา แต่ยังมีนางแบบในสังกัดที่กำลังทำออรัลเซ็กซ์ให้เขาอยู่ด้วย แม่เขาต้องใช้เงินหลายล้านยูโรอุดปากเจ้าของไร่เพื่อไม่ให้ภาพอุจาดเหล่านั้นหลุดไปยังสื่อ หลังจากนั้นแม่เขาก็ปลดนางแบบรายนั้นออกจากสังกัด เรียกว่าใช้เงินฟาดหัวเพื่อจ้างออกก็ไม่ผิดนัก เธอทำหมางเมินกับเขาพักใหญ่ๆ ก่อนจะกลับมาพูดจาดีด้วยเมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา เขาคิดว่าแม่จะให้อภัยเขาแล้ว ไม่คิดว่าจะเอามาคิดทบดอกทบต้นในคราวเดียวกันอย่างเจ็บแสบแบบนี้

‘เอาละ ผมจะยอมถอยก็ได้ แต่ผมขอเหตุผลสักข้อสองข้อได้ไหมว่าทำไมริโก้ต้องขึ้นมาแทนที่ผม’

‘ตลอดหลายปีที่ผ่านมาแกไม่ได้ช่วยให้บริษัทก้าวหน้าสักเท่าไหร่ บริษัทเราขาดทุนกำไรมาทุกปี’

แค่ข้อแรกก็ทำเขาจุก โคเซกระแอมแล้วว่า ‘แม่ต้องให้ความเป็นธรรมกับผม ช่วงที่ผ่านมาเศรษฐกิจยุโรปไม่ค่อยดี’

‘ไม่ดีตลอดทศวรรษหรือไง ทำไมซานโต้โตเอาๆ’

โคเซคอย่นเพราะมารดาแผดเสียงกลับมา ‘ก็ปีที่แล้วผมเจออุบัติเหตุ สุขภาพไม่ดี รอให้ผมหายดีก่อน แล้วจะพิสูจน์ตัวเองให้ดู’

‘แกพิสูจน์ตัวเองมากี่ปีแล้ว แล้วก็เพราะเหตุผลนั้นแกยิ่งสมควรต้องพัก จะได้ฟื้นตัวเร็วขึ้น’ มารดาเชือดนิ่มๆ ‘อีกอย่างเวลาสำหรับพิสูจน์ตัวแกหมดไปนานแล้ว ถึงเวลาที่จะผลัดใบให้เด็กรุ่นใหม่ได้พิสูจน์ตัวเองบ้างแล้ว’

‘ริโก้ยังมือไม่ถึง ประสบการณ์ยังอ่อนด้อย เป็นผู้จัดการก็เหมาะสมแล้ว’

‘รีคไม่เคยเป็นประธานบริหาร แล้วแกจะรู้ได้ไงว่าหลานฉันมือไม่ถึง’

โคเซสะอึก ‘ก็ที่ผ่านมาเขาไม่เคยมีผลงาน’

‘จะมีได้ไง ในเมื่อแกกดไว้ ไม่ยอมให้รีคได้พิสูจน์ตัวเอง คิดหรือว่าแม่ไม่รู้ กี่แผนต่อกี่แผนแกตีตกทุกครั้ง’

‘ไม่ใช่ผม แต่เป็นกรรมการส่วนใหญ่’

‘จะต่างกันตรงไหน ในเมื่อแกล็อบบี’

หน้ากระตุก ถ้ามีหนวด หนวดคงกระตุกไปแล้ว ‘ริโก้บริหารแบบหัวก้าวหน้า ไม่เหมาะกับโดมิงโกที่เน้นเติบโตอย่างช้าๆ แต่มั่นคง เราเน้นอนุรักษนิยมมาตลอดถึงได้ผ่านพ้นวิกฤติเศรษฐกิจสเปนหรือภาวะเศรษฐกิจถดถอยมาได้’

‘ผ่านแบบร่อแร่ ในขณะที่ซานโต้โตเอาๆ แบบนี้เขาไม่เรียกว่าเติบโตอย่างช้าๆ แต่มั่นคงหรอกนะ’

‘ซานโต้กำไรไม่ถึงหนึ่งเปอร์เซ็นต์’

‘แต่เรากำไรหดทุกๆ ปี ปีละหนึ่งเปอร์เซ็นต์’ โลเปซโต้ทันควัน ‘อนุรักษนิยมแล้วทำให้กำไรลดลงทุกปีน่ะฉันไม่ถือว่าเก่งหรอกนะ เราต่างผ่านการพิสูจน์มาแล้วว่าการบริหารแบบอนุรักษนิยมไม่อาจนำพาโดมิงโกให้เติบโตแบบก้าวกระโดดในยุคนี้ได้ ขณะที่ซานโต้เจอภาวะเศรษฐกิจถดถอยเหมือนกัน แต่กลับโตอย่างมั่นคงได้’

‘รีคไร้ความรับผิดชอบ สามเดือนก่อนไม่เข้าประชุม แต่หนีไปสำเริงสำราญที่ฝรั่งเศส’ โคเซงัดเหตุผลอย่างไม่ยอมแพ้

‘ก็แกเรียกประชุมด่วน ใครจะมีเวลาเตรียมตัว เลขาฯ ก็ต้องติดต่อรีคไม่ได้เป็นธรรมดา’

‘แต่หมอนั่นก็ควรเปิดมือถือ ไม่ใช่มีเรื่องด่วนอะไรก็ติดต่อไม่ได้’

‘รีคอาจอยู่ในที่อับสัญญาณ’

‘แม่จะแก้ตัวแทนมันทุกเรื่องเลยมั้ย’

‘ฉันไม่ได้แก้ตัว แค่พูดตามเนื้อผ้า’

‘แล้วที่มันไม่เข้าประชุมเมื่อวานซืนล่ะ แม่จะบอกว่ามันเตรียมตัวไม่ทันอีกไหม ในเมื่อเราวางแผนกันมาเป็นเดือนๆ’

‘รีคไปสืบหาข่าวซานโต้ที่ไอคา และปรึกษาฉันเรื่องที่จะจ้างโรงแรมของจอห์นจัดงานเดินแบบเทศกาลเปรูเวียนคาร์นิวัลเพื่อดูไอเดียดีไซน์ของซานโต้ เพราะงั้นถือว่าเขาไปทำงาน’

ริโก้ทำอะไรก็ถูก ส่วนเขาแค่หายใจยังผิด ‘ผมให้เวลารีคแค่หนึ่งไตรมาสเพื่อพิสูจน์ตัวเอง ถ้ากำไรไม่ขยับ เตรียมกลับไปเป็นผู้จัดการต่อได้เลย’

โลเปซฉีกยิ้มมุมปาก แววตายิ้มเยาะ ‘ขนาดแกบริหารมาสิบปีกำไรยังไม่กระเตื้อง แค่สามเดือน แกคิดว่าเทวดาหน้าไหนจะทำได้ อย่าให้ฉันใช้กำลังภายในเลยนะเคซ’

‘งั้นสองไตรมาสพอ นั่นก็ถือว่ามากพอแล้วสำหรับคนที่เก่งจริง ผมให้เวลาหกเดือน ถ้ายังทำให้กำไรให้บริษัทเพิ่มขึ้นจากไตรมาสนี้ที่ซานโต้ทำไว้ไม่ได้ รีคก็ต้องคืนตำแหน่งประธานบริหารให้ผม’

‘รีคทำได้แน่ แล้วถ้ารีคทำได้ แกก็เตรียมขึ้นมาเป็นประธานบริษัทแทนฉันได้เลย เดี๋ยวประชุมบอร์ดบริหารเดือนหน้า ฉันจะแจ้งเรื่องปรับโครงสร้างการบริหารบริษัทให้คณะกรรมการบริหารรับทราบอย่างเป็นทางการ จะได้เตรียมตัวล่วงหน้า’

‘ผมไม่เห็นด้วย การขยับตำแหน่งบริหาร จะมีผลต่อราคาหุ้น’

‘แล้วถ้ารีคทำได้ตามสัญญาแล้วแกเกิดเบี้ยวไม่ลงจากตำแหน่งประธานบริหาร จะทำยังไง’

ยิ่งกว่าโดนหมักฮุก หน้ากระตุกอีกรอบ ‘ผมมีสัจจะพอ ลั่นคำไหนเป็นคำนั้น เพราะงั้นถ้าแม่จะประกาศเรื่องวางมือก็ประกาศไป แต่ไม่ควรบอกเงื่อนไขระหว่างผมกับรีคให้บอร์ดรับรู้ ไม่งั้นจะกระทบต่อราคาหุ้น’

‘หรือแกกลัวเสียหน้าถ้าแพ้ลูก’

‘นั่นไม่เคยอยู่ในความคิดผม ผมแค่เป็นห่วงหุ้นโดมิงโกมากกว่า’

‘แล้วแกไม่คิดบ้างหรือว่าการประกาศให้ริโก้ทดลองงานซีอีโออาจจะเป็นข่าวบวกกับหุ้น ทำให้ราคาขยับหลังจากแช่นิ่งมานานก็ได้’

‘ถ้าบวกก็โอเค แต่ถ้าลบล่ะ แม่คิดหาทางหนีทีไล่ให้มันหรือยัง เพราะเท่ากับมันต้องรับศึกสองต่อ’

โลเปซนิ่งอย่างใช้ความคิด ‘ฉันจะลองเอาไปคิด บางทีรีคอาจมีคำตอบดีๆ ให้ฉัน’

โคเซบดกรามแน่น คำตอบของโลเปซบอกให้รู้เป็นนัยว่าที่แล้วๆ มาแนวคิดอะไรๆ ก็แล้วแต่ที่ออกมาจากมารดามีใครอยู่เบื้องหลัง เขานั่งแน่นิ่ง ขบเขี้ยวเคี้ยวฟันมาจนถึงตอนนี้ เสียงโทรศัพท์สายในดังขึ้น

“บาร์เดนอยู่ในสายแล้วค่ะ” ไอด้า เลขาฯ หน้าห้องแจ้งมาตามสาย

“ฉันให้โทร. หาริโก้ไม่ใช่หรือ”

“ใช่ค่ะ แต่ดิฉันติดต่อไม่ได้ เลยต้องติดต่อผ่านบาร์เดน”

“โอนสายเข้ามา”

เสียงตู๊ดดังขึ้นเป็นสัญญาณสับสายโทรศัพท์ แล้วเสียงของบาร์เดน บอดีการ์ดและคนติดตามของริโก้ก็ลอดมาตามสาย “สวัสดีครับท่านประธาน”

“ริโก้ล่ะ”

“ยังไม่ตื่นครับ”

“นี่มันกี่โมงกี่ยามแล้ว”

“เก้าโมงครับ”

โคเซบดกราม ไม่รู้ว่าฝ่ายนั้นพาซื่อหรือต้องการกวนโอ๊ยเหมือนนายของมันกันแน่ “ฉันรู้แล้ว ไปปลุกสิ”

“ไม่กล้าครับ คุณริโก้เพิ่งกลับจากเปรู เพิ่งเข้านอนได้เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมา ท่านสั่งไว้ว่าห้ามใครรบกวน”

ใครที่ว่าไม่รวมไปถึงมารดาของเขาด้วยแน่ “งั้นฝากบอกนายแกด้วยก็แล้วกัน ตื่นเมื่อไหร่ก็ช่วยย้ายก้นมาที่ห้องฉันด้วย”

 

สาวปริศนาเดินนวยนาดตรงไปยังห้องน้ำ ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกด้วยกิริยาราวกับจะยั่วยวน เดรสไหมเลื่อนไหลไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายในทุกจังหวะที่สาวน้อยเยื้องย่าง เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวผ่องที่ผมยาวสลวยสีนิลคลุมไม่มิด เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกลมกลึง และเรียวขายาว บอกถึงรูปร่างสมบูรณ์แบบ

ริโก้สะดุ้งตื่นจากความฝันเมื่อเสียงกุกกักดังขึ้นบริเวณเหนือหัวเตียง

“ขอโทษครับ ผมทำเสียงรบกวนคุณรีคหรือเปล่าครับ” บาร์เดนถามอย่างนอบน้อม ผละออกจากหัวเตียงซึ่งเพิ่งวางโทรศัพท์ไร้สายลงบนแป้น

“ไม่หรอก เลยเวลาตื่นของฉันอยู่แล้ว ขอน้ำอุ่นสักแก้วสิ”

ริโก้ลุกนั่ง ตบท้ายทอยเบาๆ ตามองตรงไปยังหน้าต่างที่กรุด้วยกระจกทุกบาน บาร์เดนเดินไปรวบชายผ้าม่านทึบและผ้าม่านโปร่งแสงไปมัดไว้ด้านข้าง ทำให้เห็นระเบียงสำหรับพักผ่อนนอนอาบแดดทอดยาวตลอดแนว เหนือขอบระเบียงขึ้นไปเห็นวิวของกรุงมาดริดที่เต็มไปด้วยอาคารสูงต่ำลดหลั่นกันไป เพนต์เฮาส์ของเขาอยู่ชั้นที่สามสิบซึ่งเป็นชั้นบนสุด ตลอดทั้งฟลอร์เป็นห้องพักของเขา แบ่งเป็นสัดส่วนตั้งแต่ห้องฟิตเนส สระว่ายน้ำในร่ม ห้องนั่งเล่น ห้องครัว และห้องรับแขก มีความเป็นส่วนตัวสูง ความที่ชอบกระจก ตอนซื้อเพนต์เฮาส์หลังนี้ใหม่ๆ เขาจึงให้ช่างกรุด้วยกระจกทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นผนังหรือหน้าต่าง ยกเว้นฝ้าเพดานที่ยึดตามแบบเดิม

ริโก้นึกถึงความฝันเมื่อครู่ เขากลับมาฝันซ้ำๆ ถึงสาวน้อยปริศนาคนเดิมอีกแล้ว และเป็นฉากเดิมๆ เขาฝันถึงสาวน้อยนิรนามรายนี้มาตั้งแต่สามปีก่อน จำได้ว่าครั้งแรกเกิดขึ้นเมื่อเขากลับจากไอคาใหม่ๆ ช่วงแรกจะฝันถี่ๆ จากนั้นเว้นระยะห่างออกไป นานๆ จึงกลับมาฝันอีกครั้ง ช่วงที่เขาเหนื่อยหรือเพลียจัด ฝันนั้นจะกลับมาถี่ๆ แปลกที่เขาฝันถึงคนเดิม ฉากเดิมๆ จะว่าเขาบ้าเซ็กซ์จนเก็บไปฝันก็ใช่ที่ เพราะเป็นแค่ผู้หญิงถอดเดรสซึ่งเห็นแค่แผ่นหลัง

“น้ำครับคุณรีค” บาร์เดนเดินกลับมาพร้อมด้วยแก้วน้ำอุ่น

“ขอบคุณ”

“เมื่อกี้ท่านซีอีโอโทร. มาครับ”

ริโก้ดื่มน้ำรวดเดียวหมดแก้ว ส่งคืนแล้วถามว่า “คุณพ่อว่าไงบ้าง” กลับจากเปรูเขายังไม่ได้ติดต่อโลเปซหรือเลขาฯ เพราะกว่าจะออกจากสนามบินมาดริดบาราคัสก็ตีสามแล้ว เขาแยกกับซอนย่าที่สนามบินเพราะเธอมีงานเดินแบบเช้านี้

“ท่านบอกว่าถ้าคุณรีคตื่นเมื่อไหร่ก็ให้รีบไปพบท่าน น้ำเสียงไม่สู้ดีเหมือนมีเรื่องร้อนใจอยู่เหมือนกัน”

ริโก้พยักหน้ารับรู้ “มีสายอื่นอีกไหมนอกจากคุณพ่อ”

“ไม่มีครับ เช้านี้เราจะเปลี่ยนแผน ตรงดิ่งเข้าบริษัทเลยไหมครับ”

“ไม่ ไปจ็อกกิงเหมือนเดิมนั่นละ แต่จะเปลี่ยนสถานที่เป็น...” ริโก้เอ่ยชื่อสวนสาธารณะที่อยู่ในอาณาจักรของบริษัทซานโต้ “นายช่วยไปส่งฉันหน่อย”

“นั่นมันถิ่นของซานโต้นี่ครับ”

“เพราะเหตุผลนั้นแหละ ฉันถึงอยากไป”

บาร์เดนมองอย่างไม่เข้าใจ เขาไม่รู้ว่าริโก้มีแผนอะไร แต่วิสัยรับคำสั่งมากกว่าคำถามเลยตอบรับเงียบๆ แล้วถอยหลังกลับไป ปล่อยให้เจ้านายได้มีเวลาเตรียมตัว

ริโก้สลัดผ้านวมแล้วเดินเข้าห้องน้ำ

 

บาร์เดนเหลือบมองผู้เป็นนายทางกระจกส่องหลัง กลับจากเปรูเที่ยวนี้ริโก้มีท่าทีแปลกๆ เอาแต่จ้องโทรศัพท์ ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ ลงว่านัยน์ตาเต้นริกๆ แบบนี้แปลได้สถานเดียวว่ากำลังถูกใจสาวที่ไหนสักราย เพราะสีหน้าชื่นมื่นชนิดยิ้มทั้งปากและแววตาพบได้โอกาสเดียวคือยามที่เจ้าตัวพบสาวถูกใจอยากพาขึ้นเตียง ปกติริโก้จะยิ้มแกนๆ หรือไม่ก็ทำหน้าเฉยๆ แล้วเสียงโทรศัพท์ของริโก้ก็ดังขึ้น เขาเงี่ยหูฟังเต็มที่

“ถึงกับต้องโทร. มาเลยหรือ” ริโก้ถามแล้วหัวเราะตบท้าย

“แหงละ นายเล่นอ่านวอตส์แอปป์ แต่ไม่ตอบ ตกลงว่าไง สวยถูกใจไหม”

“สวย” ริโก้ตอบสั้นๆ เมื่อวานจอห์นส่งคลิปสาวสวยจากกล้องวงจรปิดมาให้ดูทางวอตส์แอปป์ เขาเพิ่งเปิดดูตอนเครื่องบินแตะรันเวย์ จากนั้นหมอนั่นก็เวียนส่งคำถามเดิมๆ ว่าเป็นไง สวยถูกใจไหม ตอนเปิดดูครั้งแรกเขายอมรับว่าตะลึงไปเหมือนกัน แม้คลิปจะไม่ชัด แต่ก็พอดูออกว่าเธอยังเด็กมาก อาจจะอายุน้อยกว่าหลานสาวคนโตของเขาด้วยซ้ำ เธอสวยถูกใจเขา สวยแปลกๆ

เหมือนส่วนผสมระหว่างสวยคม ลึกลับ และนุ่มนวล แถมหุ่นดีมาก และถ้าเธอไม่พรางตัวด้วยเสื้อผ้าหลวมโพรกพวกนั้น เขาก็อยากเชื่อว่าเธอมีหน้าอกหน้าใจไม่แพ้ซอนย่าเลยทีเดียว สาบานกับตัวเองเลยว่าถ้าเธอยังไม่แต่งงาน เขาจะพาขึ้นเตียงให้ได้

“สวย? ไม่ใช่แค่สวยโว้ย แต่สวยหยาดฟ้ามาดินราวกับนางฟ้านางสวรรค์ต่างหาก”

“รู้ว่าสวยมาก ยังจะถามทำไม” ริโก้ย้อน ใครไม่เห็นความสวยของนางฟ้าในคลิปนั่นก็ตาถั่วไปแล้ว

“ก็อยากรู้ความเห็นของนายในฐานะแคซาโนวา”

“คิดเหมือนนาย แต่จะทำมากกว่านาย”

“หมายความว่าไง”

“ตอนนี้ฉันอยู่ที่ซานโต้”

“ว่าอะไรนะ”

“นายได้ยินแล้ว ฉันบอกว่าตอนนี้อยู่ที่สวนสาธารณะ...” เขาย้ำชื่อสวนสาธารณะที่อยู่ด้านหลังบริษัทซานโต้

“นายไปทำอะไรที่นั่น”

“วิ่งจ็อกกิง”

“จ็อกกิงไกลเป็นโยชน์จากที่พักของนายนี่นะ นายบ้าระห่ำไปแล้ว โคตรจะลงทุนเลย”

“รักแล้วก็ต้องลงทุนหน่อย” ริโก้หัวเราะ มองเป็นเรื่องสนุกที่จะตามไล่ล่าใครสักคน

“น่าสงสารแม่หนูน้อยหมวกแดง จะรู้หรือยังว่ากำลังถูกไล่ล่าจากมนุษย์หมาป่า”

ริโก้หัวเราะ “สาบานเลย จะไม่ให้รู้ตัว รู้ตัวอีกทีก็อยู่บนเตียงของฉันแล้ว”

“นายนี่น่ากลัวยิ่งกว่าอะไร มีลูกมีหลานจะไม่ให้เฉียดเข้าใกล้ นายมันใจเร็วด่วนได้ แถมเงียบๆ แต่ฟาดเรียบ”

ริโก้หัวเราะ “ชมฉันเกินไปแล้ว นี่ยังไม่เจอเธอเลย”

“คิดหรือว่าจะเจอง่ายๆ เผลอๆ เธออาจจะไม่ไปบริษัทวันนี้”

“หรือไม่ เธออาจจะอยู่ที่บริษัทแล้ว เอาน่า ลงว่าดวงสมพงศ์กัน ให้ยังไงก็ไม่แคล้วกัน”

“ถึงเจอแล้ว คิดหรือว่าจะพาขึ้นเตียงง่ายๆ เธออาจจะยาก ต่างจากผู้หญิงคนอื่นๆ”

“ให้ยากสุดไม่เกินหนึ่งอาทิตย์”

“มั่นใจเสน่ห์จริงนะ”

“ไม่ได้มั่นใจ แต่จากสถิติเป็นแบบนั้น”

“แหงสิ ความหล่อของนายมันกินขาดนี่ ถึงไม่มีเงินติดตัวสักยูโร สาวๆ ก็คงอยากขึ้นเตียงด้วย”

ริโก้หัวเราะ ไม่ทันตอบเพื่อน โทรศัพท์สายเรียกซ้อนก็ดังขึ้น “ฉันต้องวางหูแล้วจอห์น มีสายเรียกเข้าจากเลขาฯ”

“ได้ มีอะไรคืบหน้าอย่าลืมส่งข่าวมาล่ะ”

ริโก้ตอบรับแล้วกดตัดสาย ก่อนรับสายของเลขาฯ “มีอะไรอเล็กซ์”

“ดิฉันรู้แล้วว่าเรื่องที่ท่านประธานเข้าไปคุยกับซีอีโอเรื่องอะไร”

“เรื่องอะไร”

“ที่มีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนตัวประธานบริหาร เป็นความจริงตามนั้นค่ะ คุณท่านอยากให้คุณรีคขึ้นมาเป็นซีอีโอแทนคุณพ่อของคุณค่ะ แล้วคุณท่านก็จะแจ้งบอร์ดบริหารด้วยตัวเองในการประชุมนัดหน้า”

“เดี๋ยวนะ คุณว่าอะไรนะ อีกทีซิ”

“ดิฉันบอกว่าคุณย่าของคุณรีคอยากให้คุณรีคขึ้นมาเป็นประธานบริหารแทนคุณพ่อ ส่วนคุณพ่อของคุณรีคก็จะเลื่อนขึ้นไปเป็นประธานบริษัทแทนท่านค่ะ เพราะท่านอยากวางมือ”

“แล้วคุณพ่อยอมหรือ”

“เพราะไม่ยอมนี่แหละค่ะ บริษัทถึงกำลังจะลุกเป็นไฟอยู่ในตอนนี้ ข่าวว่าหลังจากคุณโลเปซออกจากห้องปุ๊บ คุณโคเซก็โกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง ใครก็เข้าหน้าไม่ติด”

ตอนนี้เขาเข้าใจแล้วว่าทำไมบิดาถึงเรียกหาเขาตั้งแต่เช้าด้วยอารมณ์ที่ไม่สู้ดีนัก

“แล้วนี่คุณรีคโทร. หาคุณโลเปซยังคะ” เลขาฯ ถามมาอีก

“ยัง มีอะไรหรือ”

“ดิฉันว่าคุณรีคควรจะคุยกับท่านก่อนเข้าพบคุณโคเซ จะได้เตรียมทางหนีทีไล่ได้ทัน”

“เข้าใจแล้ว ขอบคุณมาก”

เลขาฯ วางสายแล้ว ริโก้ต่อสายถึงโลเปซ ทันทีที่ฝ่ายนั้นรับสายก็ส่งเสียงล้งเล้งมาตามสายทันที

“กลับมาตั้งนานแล้วทำไมถึงเพิ่งโทร. หาย่า”

“เพิ่งถึงเมื่อคืนเองครับ แล้วกว่าจะเข้าที่พักก็ตีสามเข้าไปแล้ว นี่ผมตื่นปุ๊บก็โทร. หาคุณย่าเลย”

“ปากหวานเจ้าหลานคนนี้ แล้วนี่ไปเปรูเป็นไงบ้าง”

“ผมว่าซานโต้กำลังจะเปลี่ยนทิศทางการดีไซน์”

“ยังไง”

“รายละเอียดเอาไว้ผมค่อยเล่าให้ฟังเมื่อเจอกันครับ”

“แล้วเมื่อไหร่จะเจอกัน กว่าหลานจะกลับมานอนบ้านก็ปีมะโว้โน่น”

ริโก้หัวเราะ “ไม่ถึงขนาดนั้นสักหน่อย เดี๋ยวคืนพรุ่งนี้ผมไปค้างที่บ้านครับ”

“ข่าวดีที่สุด แล้วย่าจะให้พ่อบ้านทำของโปรดรอจ้ะ”

“ผมรักคุณย่านะครับ” ริโก้เตรียมวางสาย

“เดี๋ยว...ย่ามีอีกเรื่องอยากบอกเรา นี่กลับจากเปรูเจอพ่อหรือยัง”

“ยังครับ คุณพ่อโทร. มาตามให้ไปพบแต่เช้า เห็นบาร์เดนบอกว่าอารมณ์ไม่สู้ดีนัก”

“โทร. ตามตั้งแต่เช้า แต่เรากะจะเจอสายๆ เลยใช่ไหมล่ะ” โลเปซดักคออย่างรู้ทัน

ริโก้หัวเราะ “ก็ผมออกมาวิ่งจ็อกกิงนี่ครับ ผมวิ่งทุกเช้าของผมยังงี้อยู่แล้ว ไม่อยากให้มีอะไรมาขัดกิจวัตรของผม”

“ย่าเข้าใจ ถ้าไปเจอพ่อเราทำอารมณ์เสียใส่ก็เฉยๆ ไม่ต้องใส่ใจ แล้วถ้าพ่อเรายั่วหรือยื่นข้อเสนออะไร ไม่ต้องรับ นอกจากเงื่อนไขที่ย่ากำลังจะเล่า เมื่อเช้าย่าไปหาพ่อเรา ขอให้เขาสละตำแหน่งประธานบริหารให้กับเรา แล้วให้พ่อเราขึ้นมาเป็นประธานบริษัทแทนย่า”

“ทำไมคุณย่าทำยังงั้นล่ะครับ”

“น้ำเสียงรีคดูไม่ดีใจเลย?”

“ผมอยู่ตรงไหนก็ได้ถ้าทำประโยชน์ให้บริษัทได้ คุณย่าไม่จำเป็นต้องโพรโมตผมเลย” เขาหมายถึงเลื่อนตำแหน่ง

“ตรงไหนก็ได้หรือ รีคพูดผิดแล้ว ทุกวันนี้รีคไม่ได้รับการนับถือจากกรรมการบริษัท นั่นเพราะรีคเป็นแค่ผู้จัดการ พอพ่อเราไม่ยอมรับสักคน กรรมการคนอื่นๆ ก็พลอยไม่เห็นหัวไปด้วย เสนออะไรไปก็ตีตกหมด ทางเดียวที่จะกู้สถานการณ์ได้ต้องตัดกำลังฝ่ายนั้น ค่อยๆ สอยคนของพ่อเราแล้วเอาคนของเราเข้าไปแทน”

“จากนี้ใครๆ คงวิ่งหาผมฝุ่นตลบ ผมขอบคุณในความหวังดีของคุณย่า แต่ผมเกรงว่าจะยังไม่ถึงเวลาผลัดใบของโดมิงโก”

“ย่ายอมรับว่าทำเพื่อรีค แต่ผลพลอยได้คือบริษัทจะได้ประโยชน์เต็มๆ ย่าเฝ้ามองการเติบโตของโดมิงโกมาพักใหญ่ๆ แล้ว ถึงเวลาที่โดมิงโกจะต้องถูกผ่าตัด ต้องใช้ยาแรง ถ้าไม่ปรับเปลี่ยนซีอีโอเสียตอนนี้ โดมิงโกจะไม่มีทางแซงซานโต้ได้เลย ทั้งที่ตลอด 30-40 ปีที่ผ่านมาซานโต้วิ่งตามหลังเราตลอด แต่สิบปีให้หลังกลายเป็นเราที่ต้องวิ่งตามซานโต้ งบดุลเราขาดทุนกำไรทุกไตรมาส ขณะที่ฝ่ายนั้นกำไรเพิ่มขึ้นทุกไตรมาสทั้งที่เจอปัจจัยลบทางเศรษฐกิจเหมือนกัน แบบนี้จะให้ย่าคิดยังไงถ้าไม่ใช่เพราะซีอีโอของเราไม่มีน้ำยา นี่ยังไม่ได้พูดถึงพฤติกรรมของพ่อเราที่ไม่เป็นโล้เป็นพาย เรื่อยๆ เฉื่อยๆ ไม่แอกทิฟ แถมเอาแต่มั่วผู้หญิง หลงใหลในกาม ไม่สนใจลูกหลาน”

ริโก้สะดุ้งเพราะคำกระแทกของผู้เป็นย่า ไม่แน่ใจว่าโลเปซตั้งใจเหน็บเขาด้วยหรือไม่ แต่จะตั้งใจหรือไม่ เขาก็โดนหางเลขไปเต็มๆ “อันนั้นผมเข้าใจ มองเห็นปัญหาอยู่ แต่คุณย่าไม่คิดบ้างหรือการที่เอาผมเข้าไปนั่งตำแหน่งนั้นอาจเป็นการซ้ำเติมปัญหาให้หนักขึ้น ในเมื่อเห็นๆ กันอยู่ว่าผมมีส่วนฉุดรั้งความก้าวหน้าของบริษัท ผมเป็นคนทำให้นางแบบส่วนหนึ่งฉีกสัญญาของเรา”

“เรื่องนั้นทำไมย่าจะไม่รู้ แต่มันเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับสิ่งที่หลานทำเพื่อบริษัทมาโดยตลอด และถ้าตอนนี้รีคจะขึ้นมาเป็นซีอีโอแล้ว รีคจะทำแบบเดิมไม่ได้อีกเด็ดขาด ต่อให้สวยถูกใจแค่ไหนก็ต้องอดทนอดกลั้น ต้องตัดใจให้ได้ จะใช้กำลังภายในหรือใช้อิทธิฤทธิ์ไปหลอกล่อสาวๆ ให้ฉีกสัญญาเหมือนในอดีตไม่ได้อีกแล้ว ถ้าอยากปลดปล่อยแรงขับทางเพศนัก โน่น ไปยุ่งกับนางแบบของซานโต้โน่นเลย แบบนี้นอกจากย่าจะไม่ขัดขวางแล้ว รังแต่จะสนับสนุนด้วย”

ริโก้หัวเราะก๊ากใหญ่ “คุณย่าน่ากลัวมาก ตัดกำลังคู่แข่งได้น่ากลัวจริงๆ”

“ก็ถ้าไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็ต้องใช้มนตร์ ถ้ามนตร์แล้วยังไม่สำเร็จก็ต้องใช้คาถา”

“เอาละ ผมเข้าใจแล้ว ผมต้องทำอะไรบ้างครับ อะไรคือเงื่อนไขที่คุณย่าว่า”

“ย่าขอให้พ่อเราลงจากตำแหน่งทันทีแล้วขึ้นมาแทนย่า เพื่อย่าจะได้ประกาศวางมือ แต่พ่อเราไม่ยอม ต่อรองกันจนสุดท้ายได้ข้อสรุปว่าหกเดือน พ่อเราให้เวลาเราทดลองบริหารบริษัทในฐานะซีอีโอหกเดือน ถ้าไม่สามารถทำกำไรขึ้นมาสูงกว่ากำไรของซานโต้ในไตรมาสนี้ เราก็ต้องกลับไปเป็นผู้จัดการเหมือนเดิม แล้วคืนตำแหน่งซีอีโอให้เคซ”

“ไตรมาสนี้ซานโต้อยู่ระหว่างสอบทานบัญชีก่อนนำส่งตลาดหลักทรัพย์เพื่อประกาศอย่างเป็นทางการ มีข่าวว่างบดุลของซานโต้ทำกำไรสูงสุดในรอบสองปี” ริโก้ให้ความเห็น การสอบทานคือการให้คนนอกตรวจสอบบัญชีที่บริษัทจัดทำขึ้นว่าเกินจริงหรือไม่

“ย่าก็พอได้ข่าวอยู่ ถึงได้กังวลใจ งบดุลไตรมาสนี้ของเราติดลบกำไรไปหนึ่งจุดห้าเปอร์เซ็นต์ ตอนแรกที่เคซขอเวลาแค่สามเดือน ย่าถึงได้ด่าเปิง ย่าต่อรองได้มากสุดก็หกเดือนนี่แหละ ย่าอยากให้รีคทำให้ได้ รีคเข้าใจใช่ไหม ถึงเวลาของโดมิงโกแล้วที่คลื่นลูกใหม่ต้องเข้ามาแทนที่คลื่นลูกเก่า”

“ผมเข้าใจครับ”

“ย่าขอโทษที่ด่วนตัดสินใจโดยไม่ปรึกษาหลานก่อน เพราะจากนี้บริษัทคงลุกเป็นไฟ ไม่ใช่แค่เคซที่รีคต้องรับมือ แต่รวมถึงสมัครพรรคพวกของเขาด้วย”

“ผมเข้าใจครับ เดี๋ยวผมค่อยๆ คิด หาทางรับมือครับ”

“เคซเตือนย่าไม่ให้ประกาศเรื่องนี้ให้บอร์ดบริหารรับรู้ บอกว่าจะกระทบราคาหุ้น รีคคิดยังไง”

“เรื่องไหนครับ เรื่องคุณย่าจะประกาศวางมือหรือเรื่องเงื่อนไขระหว่างผมกับคุณพ่อ”

“เรื่องเปลี่ยนตัวซีอีโอสิ”

“เรื่องนั้นกระทบราคาหุ้นแน่นอนอยู่แล้ว รวมถึงเรื่องที่คุณย่าจะประกาศวางมือด้วย เพียงแต่จะเป็นบวกหรือลบ ขอผมเอาไปคิดสักคืนแล้วจะบอกคุณย่าว่าเราควรจะเอายังไงดี”

 

บริษัทซานโต้ กรุงมาดริด

เกรย์ก้าวฉับๆ เข้าไปในสำนักงานใหญ่ที่สูงยี่สิบห้าชั้นของซานโต้ ปกติต้องแลกบัตร แต่เธอได้รับอภิสิทธิ์ อิสซาเบลแจ้งเป็นการภายในให้พนักงานรับรู้ว่าเธอเป็นแขกวีไอพี เธอจึงได้รับการปฏิบัติอย่างดีจากพนักงาน แม้ไม่มีใครรู้ว่า เกรย์ หารพิทักษ์ เป็นใคร มีความสัมพันธ์อย่างไรกับแอนนาและอิสซาเบล แต่ทุกคนไม่กล้าคิดเป็นอื่น นอกจากมองว่าเธอเป็นคนพิเศษ

เกรย์ค่อนข้างโลว์โพรไฟล์สำหรับคนภายนอก เซิร์ชในอินเทอร์เน็ตแทบไม่เจอประวัติ นอกจากกิจกรรมอาสาสมัครที่เธอสมัครเข้าร่วม ซึ่งก็เป็นไปตามประสงค์ของครอบครัว และเธอเองก็ไม่ทุกข์ร้อนกับการปกป้องเช่นนั้น ดีเสียอีกที่ไม่ถูกโฟกัสจากสื่อเหมือนกับลูกหลานของมหาเศรษฐีบางคนที่ขยับตัวทำอะไรก็เป็นข่าว

เกรย์เดินไปใช้ลิฟต์สำหรับผู้บริหารซึ่งแยกออกไปต่างหาก แตะคีย์การ์ดขึ้นไปยังชั้นบนสุด เมื่อถึงห้องของอิสซาเบล คลาร่าเลขาฯ หน้าห้องและพนักงานคนอื่นๆ รีบค้อมศีรษะลงต่ำ

“สวัสดีค่ะคุณเกรย์ ท่านไม่ได้บอกว่านัดคุณเกรย์ไว้ ท่านมีแขกมาหาเช้านี้ค่ะ จะให้ดิฉันเข้าไปเรียนไหมคะว่าคุณเกรย์มาหา”คลาร่าถามขึ้นอย่างนอบน้อม

“ไม่เป็นไร ไม่ได้มีธุระด่วน รอที่ห้องรับรองก็ได้” เกรย์ตอบสั้นๆ

 

สวนสาธารณะหลังบริษัทซานโต้ตั้งอยู่บนพื้นที่หลายร้อยไร่ ซานโต้บริจาคที่ดินผืนนี้ให้รัฐเพื่อสร้างสวนสาธารณะให้พนักงานบริษัทและประชาชน ภายในสวนร่มรื่นไปด้วยต้นไม้สลับกับไม้ดอก ไม้ดัดที่ตัดตกแต่งเป็นรูปทรงต่างๆ มีบึงน้ำสำหรับพายเรือ ศาลานั่งเล่น และถนนสำหรับปั่นจักรยานแยกคนละเลนกับการจ็อกกิง ตอนนี้คนออกมาวิ่งบางตา อาจเพราะสายมากแล้ว

กว่าริโก้จะมาถึงที่นี่ก็ปาไปเกือบ 12.00 น. เขาวิ่งไปตามถนนโดยมีบาร์เดนวิ่งตามอยู่ห่างๆ การวิ่งนอกจากช่วยเบิร์นไขมันแล้ว เขายังใช้เวลานี้ขบคิดปัญหาด้วย แล้วความคิดเขาก็วกไปยังเรื่องที่คุยกับโลเปซ ความจริงเขาไม่อยากได้ตำแหน่งซีอีโอ ไม่ชอบการแก่งแย่งชิงดีกับใคร โดยเฉพาะกับบิดาด้วยแล้วไม่เคยอยู่ในความคิด แต่โคเซอาจคิดไปแล้วก็ได้ว่าเขายืนอยู่คนละฝั่ง

ริโก้ถอนหายใจ ปกติความสัมพันธ์ระหว่างเขากับบิดาไม่ราบรื่นอยู่แล้ว ยิ่งมีเรื่องนี้เข้ามาคงยิ่งร้าวหนักขึ้น อาจผิดที่เขาไม่ยอมลงให้ เขามีความสุขที่ได้ขัดใจบิดา เข้าทำนองยิ่งห้ามเหมือนยิ่งยุ โคเซว่าเขาชอบทำตัวขวางโลก

นับแต่จำความได้คนที่เลี้ยงดูเขาคือคุณย่ากับคุณปู่ คุณปู่ดูแลเขาจนอายุสิบกว่าขวบก็เสียชีวิต ก่อนเสียได้ยกทรัพย์สมบัติให้เขารวมถึงหุ้นโดมิงโก คงสงสารที่เขากำพร้าแม่ มีพ่อก็เหมือนไม่มี เพราะนับแต่แม่ชาวเปรูเสียชีวิตจากการให้กำเนิดเขา โคเซก็โทษว่าเป็นความผิดของเขา และส่งเขามาให้ปู่ย่าเลี้ยงดูตั้งแต่นั้น ส่วนตัวเองออกไปหาเศษหาเลยนอกบ้านจนมีภรรยาใหม่และลูกๆ นอกสมรส และเอาเข้ามาอยู่ในบ้านจนบ้านคับแคบ โลเปซเลยต้องไปสร้างบ้านใหม่

ความที่อยู่กับย่ามาตั้งแต่เกิด ริโก้จึงเรียนรู้เรื่องธุรกิจ ยังไม่แตกเนื้อหนุ่มเขาก็คลุกคลีกับวงการเสื้อผ้าและนางแบบในสังกัด คนที่สอนขึ้นครูคนแรกก็เป็นหนึ่งในนางแบบเหล่านั้น ตอนนั้นสาวสวยทั้งรุ่นใหญ่รุ่นเล็กเข้าหาเขาเพื่อหวังไต่เต้าเป็นนางแบบ ช่วงนั้นเขาเลยมีทัศนคติไม่ดีกับผู้หญิง มองเป็นแค่เครื่องบำเรอกาม คิดว่าเพศตรงข้ามยอมทำทุกอย่างแม้กระทั่งพลีกายเพื่อให้ได้เป็นนางแบบ

คุณย่าคงเอือมระอาที่เขามั่วผู้หญิงไม่เลือก เลยส่งไปดัดสันดานที่โรงเรียนกินนอนในแคนาดา ซึ่งเป็นโรงเรียนที่ราชนิกุลจากราชวงศ์ใหญ่ๆ ในยุโรปนิยมส่งลูกหลานไปเรียน พอเห็นว่าเขาเริ่มทำตัวดีขึ้นก็ดึงกลับมาเรียนที่สเปนเพราะหวังปลูกฝังเรื่องธุรกิจ จากนั้นเขาก็ไปเรียนต่อปริญญาโทด้านบริหารธุรกิจที่มหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ จบแล้วกลับมาทำงานที่โดมิงโกระยะหนึ่ง แล้วจึงกลับไปเรียนต่อปริญญาโทใบที่สองด้านการตลาดที่มหาวิทยาลัยเดิม

ริโก้ยังคงคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อยขณะวิ่งรอบสวนสาธารณะเป็นรอบที่สองจนเหงื่อแตกพลั่ก เขาเดินไปซื้อน้ำที่ร้านขายของชำ บาร์เดนเดินตามอยู่ห่างๆ ริโก้ไม่รู้เลยว่าเป็นจุดสนใจของผู้คนแถวนั้น โดยเฉพาะสาวๆ บางคนถึงกับยกโทรศัพท์มือถือขึ้นถ่ายรูป เขาซับเหงื่อด้วยผ้าขนหนูผืนเล็กก่อนจะจ่ายเงิน รับขวดน้ำมาหมุนฝาเกลียวแล้วยกดื่ม

“ขอโทษครับ ไม่ทราบว่ารู้จักผู้หญิงในคลิปไหมครับ เธอเป็นพนักงานซานโต้” ริโก้เปิดคลิปส่งให้แม่ค้าดู เป็นคลิปที่เขาดาวน์โหลดจากวอตส์แอปป์แล้ว

แม่ค้าดูแล้วเงยหน้าตอบ “ไม่จ้ะ ทำไมไม่ลองถามพนักงานซานโต้ดูล่ะ แถวนี้พนักงานเข้าๆ ออกๆ ตลอด นั่นยูนิฟอร์มสวยๆ นั่นก็พนักงานซานโต้ เดี๋ยวป้าช่วยเรียกให้ อนาๆ” แม่ค้าตะโกนเรียกผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังเดินผ่าน

อนาเงยหน้าจากโทรศัพท์มือถือ พอเห็นริโก้ก็ทำตาโต แก้มแดงก่ำ “ป้าเรียกฉันหรือคะ” ปากถาม แต่ตามองริโก้

“พ่อรูปหล่อคนนี้อยากขอความช่วยเหลือหน่อย เขาตามหาผู้หญิงในคลิป นัยว่าเป็นพนักงานซานโต้ อนาพอจะรู้จักมั้ย”

อนาคว้าโทรศัพท์มือถือมาดูก่อนเงยหน้าตอบ “คุณเกรย์ เมื่อเช้าเพิ่งสวนกันตรงทางเข้าบริษัท มีอะไรหรือคะ”

นัยน์ตาริโก้เต้นระริกแทบปิดไม่มิด “เธอเป็นใคร คุณพอรู้จักไหมครับ”

“มีอะไรกับเธอหรือเปล่าคะ” อนาเลือกที่จะย้อนถาม

“เราหยิบของสำคัญสลับกันที่โรงแรม ผมอยากมาขอแลกคืน คุณพอบอกได้ไหมครับ ผมจะเจอเธอได้ที่ไหน”

“คุณเกรย์ หารพิทักษ์ ไม่ค่อยเข้าบริษัทหรอกค่ะ นานๆ ครั้งจะเข้า”

“เกรย์ หารพิทักษ์?” ริโก้ทวนคำอย่างไม่คุ้นลิ้น

“ค่ะ นามสกุลแปลกใช่ไหมคะ ดิฉันเดาจากสกุลว่าเธอน่าจะไม่ใช่คนสเปน แต่ก็คงมีส่วนผสมของสเปนอยู่บ้างเพราะหน้าสวยคม”

“เธอเป็นใครครับ”

“แขกวีไอพีของท่านประธานค่ะ”

“แขกของมิสซิสซานโต้?”

“ใช่ค่ะ แขกของคุณอิสซาเบล”

“ผมจะเจอเธอที่ไหนได้บ้างครับ”

“ยากค่ะ อย่างที่บอก เธอไม่ค่อยเข้าบริษัท เอางี้ไหมคะ ใกล้มื้อเที่ยงแล้ว ลองเสี่ยงดวงดู ปกติพนักงานซานโต้จะไปทานที่...” เธอเอ่ยชื่ออาคารพาณิชย์ซึ่งอยู่ตรงข้ามกับบริษัทซานโต้ หันหลังชี้ไปยังตำแหน่งดังกล่าวแล้วหันกลับมาคุยต่อ “แถวนี้มีร้านอาหารที่อร่อยที่สุดก็ร้านนี้แหละค่ะ ใกล้บ่ายสองโมงยังงี้ถ้าโชคดีเธออาจแวะไปทาน” คนสเปนทานอาหารเที่ยงราวบ่ายสองโมง

“ขอบคุณครับ”

“ขอให้โชคดี ได้ของสำคัญคืนนะคะ”

“อเล็กซ์” ริโก้โทร. หาเลขาฯ ทันทีที่เดินห่างจากร้านขายของชำเพื่อตรงไปหาบาร์เดน

“พอดีเลยค่ะ ดิฉันกำลังจะโทร. หา จะบอกว่าคุณโคเซสั่งยกเลิกการประชุม ไม่รู้เป็นผลพวงจากเมื่อเช้าหรือเปล่า”

“ก็เป็นได้ แต่ก็ดี เพราะผมยังทำธุระทางนี้ไม่เสร็จ”

“ค่ะ แล้วคุณรีคมีอะไรให้ดิฉันรับใช้คะ”

“คุณพอรู้ไหมว่าแอนนาลูกสาวของอิสซาเบลมีลูกสาวหรือเปล่า”

“มีค่ะคนหนึ่ง ทำไมหรือคะ”

“ชื่ออะไร”

“ถ้าจำไม่ผิดก็ ดาโกตา ซานโต้ แต่ต้องเช็กอีกทีเพราะนานมากแล้ว ปกติคุณดาโกตาไม่ปรากฏตัวเป็นข่าว แถมคุณแอนนาเองแทบจะไม่พูดชื่อออกสื่อ ทำไมหรือคะ”

“ช่วยสืบประวัติของดาโกตาให้ผมหน่อย แล้วก็ขออีกคน เกรย์ หารพิทักษ์ ผมขอด่วนที่สุด”

“เกรย์อะไรนะคะ”

“หารพิทักษ์ ผมยังเดาไม่ออกว่าชาติไหน ยังไงคุณก็ช่วยสืบให้ผมหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวผมส่งคลิปเจ้าของชื่อให้ดู”

“ได้ค่ะ”

ริโก้วางสายเมื่อคุยธุระเสร็จ ซึ่งเป็นจังหวะเดียวกับที่สายของซอนย่าดังแทรกขึ้น “มีอะไรซอนย่า”

“ฉันเสร็จอีเวนต์แล้ว เที่ยงนี้คุณทานที่ไหนคะ ฉันจะไปทานด้วย”

“ผมอยู่ที่...” ริโก้บอกไปตรงๆ

“นั่นย่านของซานโต้นี่คะ ไปทำอะไรแถวนั้น”

“มีธุระนิดหน่อย”

“อ้อค่ะ เดี๋ยวฉันตามไปสมทบนะคะ ช่วยส่งพิกัดมาให้หน่อยค่ะ”

“ได้ครับ” ริโก้วางสายแล้วเดินไปส่งโทรศัพท์มือถือให้บาร์เดน “บาร์เดน ช่วยส่งพิกัดที่นี่ให้ซอนย่าหน่อย แล้วก็ช่วยส่งไฟล์คลิปในมือถือให้อเล็กซ์ทางวอตส์แอปป์ด้วย เป็นคลิปผู้หญิงสวยๆ ถ่ายจากกล้องวงจรปิด”

“คุณซอนย่าจะมาหรือครับ”

“ใช่ เธอจะมาทานข้าวด้วย เดี๋ยวฉันจะไปรอที่...” เขาเอ่ยชื่อร้านอาหารตามที่อนาบอก “ได้ครับ” บาร์เดนรับโทรศัพท์มือถือของผู้เป็นนายมาแล้วปฏิบัติตามคำสั่งเงียบๆ

ตอนนี้เขารู้คำตอบแล้วว่าสาวสวยรายไหนที่ทำให้นายเขาหวั่นไหว เธอทำให้ริโก้กลับมามีชีวิตชีวา กระปรี้กระเปร่า เป็นหนุ่มน้อยอีกครั้งและเธอก็สวยมากๆ อย่างที่เจ้านายว่าจริงๆ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น