6

บทที่ 6


6
เกรย์กลับไปแล้ว หลังจากยอมดีลเรื่องดินเนอร์ เธอก็ขอตัวจากไปโดยไม่สนใจจะซักประวัติเขาสักนิด ทั้งที่เขาเปิดโอกาสให้ถามเต็มที่ เกรย์เป็นผู้หญิงที่อ่านใจยาก มีอะไรหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลเอามากๆ เธอไม่ได้ให้ความสำคัญแก่ชื่อดาโกตาและรอยสักหลังต้นคอ และไม่มีวี่แววว่าจะจดจำเขาได้ ทุกอย่างล้วนมาประจวบเหมาะตรงคำตอบที่ว่าเธอไม่น่าใช่ดาโกตาแฟนเขาที่มาร์ตินพูดถึง
ริโก้ผ่อนลมหายใจแผ่วเบา ทำไงได้ เขาชอบเกรย์ไปแล้วนี่ ฉะนั้นเธอจะใช่ผู้หญิงคนเดียวกันกับสาวในฝันหรือไม่ หรือจะเป็นดาโกตาแฟนเขาอย่างที่มาร์ตินว่าหรือเปล่า ไม่สำคัญอีกต่อไปแล้ว จากนี้เขาจะเดินหน้าจีบเธอ ทว่าแม้จะหาข้อสรุปได้อย่างนั้น ในใจก็ยังหนักอึ้ง ตราบใดที่ยังหาคำตอบไม่ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับตัวเองเมื่อสามปีก่อน เขาก็ยังคาใจ ไม่อาจยกสิ่งที่หนักถ่วงอยู่ในใจออกไปได้
“คุณรีคคิดจะใช้นักสะกดจิตบำบัดบ้างไหมครับ”
ริโก้สะดุ้ง เหล่ตามองบาร์เดนที่จู่ๆ เอ่ยขึ้น หมอนั่นยืนอยู่ไม่ไกลนัก “อะไรนะ”
“เขาว่ากันว่าสามารถเรียกคืนความทรงจำในอดีตได้”
ริโก้ครางในลำคอ แสดงว่าหมอนี่ฟังเขากับเกรย์คุยกันทุกเรื่อง แถมเมื่อคืนอาจจะไม่ได้เข้านอนตามที่เขาสั่ง แต่ป้วนเปี้ยนไม่ห่างจากเขาด้วย คงได้ยินที่เขาคุยกับมาร์ตินและโลเปซแล้วปะติดปะต่อเรื่องราวได้ ถึงได้อ่านใจเขาออกแบบนี้ “นายอยู่กับฉันมากี่ปีแล้ว” ริโก้ถามไปอีกเรื่อง
“สามปีกว่าๆ ครับ”
“นั่นสิ สามปีแล้ว นายควรจะรู้ได้แล้วว่าเวลาไหนฉันอยากจะขอความเห็นจากนาย แล้วนับจากนี้เวลาฉันคุยกับเกรย์ ขอให้อยู่ห่างๆ ด้วย เข้าใจไหม”
“เข้าใจครับ แต่คุณรีคไม่คิดว่าเป็นความเสี่ยงไปหน่อยหรือ”
“เสี่ยงจากอะไรล่ะ ถ้าไม่ใช่จากความอยากรู้อยากเห็นของนาย กับผู้หญิงอื่นฉันไม่ว่าเลย แต่กับเกรย์ ขอความเป็นส่วนตัวได้มั้ย”
“แล้วถ้าปาปารัซซี...”
“ฉันบอกให้ไปอยู่ไกลๆ แต่ไม่ได้หมายความว่าไม่ให้เฝ้าปาปารัซซี เอาละ ไปเอารถออกได้แล้ว”
บาร์เดนเดินพ้นสายตาไปแล้ว ริโก้จึงโทรศัพท์หาอเล็กซ์
“คุณรีคไม่ได้ลืมใช่ไหมคะ เช้านี้มีแขกมาขอพบ” อเล็กซ์ส่งเสียงมาตามสายทันที
“ไม่ลืมหรอก ผมมาวิ่งจ็อกกิง เดี๋ยวเข้าที่ทำงานแล้ว ช่วยหาข้อมูลให้ผมหน่อยว่านักสะกดจิตที่เก่งที่สุดในสเปนเป็นใคร แล้วโทร. นัดให้ผมด้วย”
“นัดในชื่อบอสเลยใช่ไหมคะ”
“ใช่”
“ได้ค่ะ นัดหมายได้แล้วดิฉันจะแจ้งนะคะ”
ริโก้ขยับลุกเมื่ออเล็กซ์วางสายไปแล้ว เขาก้มหยิบเศษอาหารที่วางอยู่บนม้านั่ง จังหวะนั้นเหลือบไปเห็นหมวกแก๊ปและเครื่องเล่นเอ็มพีสามที่ตกอยู่ที่พื้น ของพวกนั้นคงร่วงระหว่างที่พวกเขาถึงเนื้อถึงตัวกัน หรือไม่ก็คงเป็นเขาที่เผลอกระตุกมันออก ริโก้เดินไปเก็บก่อนจะลุกไปทิ้งเศษอาหารที่ถังขยะ
เกรย์ออกมาจากสวนสาธารณะด้วยใจที่สั่นรัว แข้งขาสั่นจนต้องหยุดเกาะต้นโอ๊กหน้าปากทางเข้า เธอเคยสงสัยมาโดยตลอดว่า R และ D บนรอยสักนั่นคืออะไร และอักษร R กับ D มาจากไหน อิสซาเบลและแอนนาพยายามย้ำไม่ให้เธอสนใจ บอกว่าเป็นแค่จินตนาการเพ้อฝันของเธอ แถมอิสซาเบลพยายามโน้มน้าวให้เธอลบมันออกด้วย ตอนนั้นเธอไม่ได้ลบมันออก
ด้วยมองว่าสวยดี บัดนี้มีอีกคนแล้วที่มองเหมือนเธอ ริโก้เห็นเป็น R กับ D เหมือนกัน เกรย์ใจคอไม่ปกตินัก มีคำถามหลากหลายที่อยากถาม และเขาอาจเป็นคนเดียวที่ตอบคำถามได้ กระนั้นเธอก็ไม่กล้าถามเพราะเธอกลัวคำตอบ แล้วเกรย์ก็เผลอยกมือแตะริมฝีปาก ตลอดเวลาที่คุยกับเขา เธอขัดเขินอย่างมาก ที่ผ่านมาไม่เคยมีประสบการณ์จูบดูดดื่มและแนบชิดกับเพื่อนต่างเพศมากขนาดนั้น เธอถึงได้นิ่งงันเป็นหมีปีนสตรอว์เบอร์รีอย่างที่เขาแซว เขาทำได้อย่างไรกันที่คุยกับเธออย่างปกติราวกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น ขณะที่เธอใจสั่นรัวตลอดเวลา แต่ต้องแสร้งทำเป็นว่าจูบของเขาไม่มีผลอะไร ทั้งที่โลกภายในของเธอระเบิดไปนานแล้วจากจูบเดียวของเขา ริโก้มีอิทธิพลต่อเธออย่างมาก และนั่นจึงเป็นเหตุผลที่เธอหยอกล้อเขากลับไปด้วยข้อเสนอที่มากกว่าที่เขาขอ
ฟังเพลงและเต้นรำ พระเจ้า...เธอหลงเสน่ห์เขา เกรย์นึกด้วยความไม่สบายใจ ตัดสินใจโทร. หารีเบคก้า ตั้งใจจะไปอยู่กับเพื่อนที่เปรูตลอดสองสัปดาห์ก่อนเดินทางไปอเมริกา
บาร์เดนเหลือบมองริโก้ทางกระจกหลังในจังหวะที่รถแล่นผ่าน เขาเห็นร่างไหวๆ หลบฉากหลังต้นโอ๊ก อยากคิดว่าเป็นเกรย์ ลังเลว่าจะบอกริโก้ให้จอดรับเธอไปส่งบ้านดีไหม เพราะชายหนุ่มกำลังจดจ่อกับโทรศัพท์มือถือ เขาไม่กล้ารบกวน
ริโก้กำลังดูวอตส์แอปป์ นึกแปลกใจที่ไม่มีข้อความตอบกลับจากมาร์ติน จังหวะนั้นก็ใจหายวาบเมื่อเพิ่งสังเกตว่าภาพเกรย์ที่เขาส่งให้มาร์ตินเห็นหน้าอกไปเกือบครึ่งเต้า ริโก้รีบยกเลิกข้อความทั้งที่รู้ว่าสายไปแล้ว เพราะข้อความถูกอ่านแล้ว ในใจนึกด่าตัวเองวุ่นวายที่ไม่รอบคอบ ก่อนกดโทรศัพท์หาเพื่อน
“มีอะไร” หมอนั่นถามกวนโอ๊ยกลับมา
“นายห้ามเก็บภาพของเกรย์ไว้ในเครื่องเด็ดขาดนะ ช่วยลบออกด้วย ห้ามเซฟเด็ดขาด”
“อะไรนะ”
เขาแทบเห็นหน้านิ่วคิ้วขมวดของมาร์ติน “นายได้ยินแล้ว ฉันบอกว่าห้ามเก็บภาพของเกรย์ไว้ ลบออกจากเครื่องตอนนี้เลย”
“ทำไม”
“เกรย์เป็นผู้หญิงของฉัน เพราะงั้นนายไม่ควรเก็บภาพล่อแหลมนั่นไว้”
“ถ้าหวงนักจะส่งมาทำเบื๊อกอะไร แต่ว่าไปนมเธอสวยดีนะ เห็นแล้วน่า...จริงๆ”
“ไอ้...” ริโก้ด่าเป็นภาษาสเปนยาวเหยียด รู้ว่าเพื่อนแกล้งกวนประสาท แต่ก็อดของขึ้นไม่ได้
ฝ่ายนั้นส่งเสียงหัวเราะกลับมาอย่างชอบใจ “นายนี่ยั่วขึ้นจริงๆ เดี๋ยวลบให้”
“ขอบใจ” ริโก้กระแทกเสียงกลับไป “แล้วสรุปว่าใช่ดาโกตาคนเดียวกับที่นายพูดถึงมั้ย”
“เมื่อกี้นายเรียกเธอว่าอะไรนะ” มาร์ตินไม่ตอบ แต่ถามกลับ
“เกรย์ เธอชื่อเต็มๆ ว่า ดาโกตา เกรย์ หารพิทักษ์ ซานโต้ สรุปว่าใช่ดาโกตาคนเดียวกันมั้ย”
“ไม่บอก อยากรู้ก็มางานเลี้ยงคืนสู่เหย้าเลย”
“ไอ้หอกหัก นายนี่กวนประสาทจริง อย่าเอาเรื่องนี้มาต่อรองได้ไหม”
“ไม่ได้ เพราะเป็นเรื่องเดียวที่นายจะยอม ถ้าอยากรู้เรื่องของดาโกตาก็มางานเลี้ยงคืนสู่เหย้าเลย น่า...มาเถอะ ไม่เสียเวลานายหรอก รับรองว่าการมาอเมริกาเที่ยวนี้ไม่เสียเที่ยวแน่ เผลอๆ คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม นะ มาสังสรรค์กัน”
สองสัปดาห์ต่อมา
สาวปริศนาเดินนวยนาดตรงไปยังห้องน้ำ ค่อยๆ เปลื้องผ้าออกด้วยกิริยาราวกับจะยวนยั่ว เดรสไหมเลื่อนไหลไปตามส่วนเว้าส่วนโค้งของร่างกายในทุกจังหวะก้าวที่ก้าวเดิน เผยให้เห็นแผ่นหลังขาวผ่องราวกับผิวสีน้ำนม สาวน้อยยกมือขึ้นรวบผมที่ยาวสลวยก่อนมัดเป็นมวยเหนือศีรษะ เผยให้เห็นรูปร่างได้สัดส่วน ไม่ว่าจะเป็นแผ่นหลังขาวผ่องที่มีรอยสัก R กับ D เกี่ยวร้อย
เป็นรูปหัวใจหลังต้นคอ แลดูเซ็กซี่ เอวคอดกิ่ว สะโพกผายกลมกลึง และเรียวขายาว รูปร่างเธอสมบูรณ์แบบชนิดที่นางแบบโดมิงโกยังต้องอาย เจ้าตัวเบี่ยงตัวเล็กน้อย กระดกนิ้วเรียกเขา ‘อาบน้ำด้วยกันไหมคะ’
วินาทีนั้นริโก้ใจสั่นไหวรุนแรง ทว่าลิงโลด จังหวะที่เธอเอี้ยวตัวมากวักมือ เขามองลอดวงแขน เห็นทรวงอกอวบอูมข้างหนึ่งชัดเจน
“คุณรีคตื่นครับ ตีห้าแล้ว”
ริโก้สะดุ้งเมื่อเสียงปลุกของบาร์เดนดังขึ้นพร้อมกับที่ฝ่ายนั้นเอื้อมมือมาเขย่าบ่า ไม่แค่นั้น หมอนั่นยังเดินไปรวบชายผ้าม่านทั้งสองชั้นไปผูกรวบไว้ด้านหนึ่ง ตอกย้ำว่าท้องฟ้าข้างนอกยังมืดมิด เหมาะแก่การนอนหลับฝันหวานมากกว่าจะถูกขัดจังหวะ เขายังไม่อยากตื่นจากความฝันอันแสนเร้าใจ จึงเผลอแผดเสียงด้วยความหงุดหงิดแกมฉุนเฉียวออกไปโดยไม่รู้ตัว “นี่มันกี่โมงกี่ยามกัน นายจะปล่อยให้ฉันนอนอีกสักหน่อยไม่ได้รึไง”
บาร์เดนหันมาจ้องริโก้อย่างประหลาดใจ เพราะปกติต่อให้ถูกปลุกเช้าแค่ไหน ริโก้ไม่เคยหงุดหงิด แถมที่เขาปลุกก็ปลุกตามที่ริโก้สั่งด้วย “แต่คุณรีคกำชับให้ผมปลุกตีห้า เพราะเช้านี้มีประชุมบอร์ด คุณรีคไม่อยากพลาดการวิ่งจ็อกกิงเลยให้ปลุกเร็วกว่าทุกวัน” บาร์เดนทวนคำสั่งเขา
“เออ ถูกของนาย ฉันผิดเอง” ริโก้ยกมือเสยผม น้ำเสียงอ่อนลง ไม่ใช่ความผิดของบาร์เดน ถึงหมอนั่นจะทำพลาดมหันต์ด้วยการขัดจังหวะความฝันที่กำลังเข้าด้ายเข้าเข็ม แต่ก็ไม่ใช่ความผิดของบาร์เดนอยู่ดี
“ถ้าคุณรีคยังง่วง จะนอนต่อก็ได้นะครับ เดี๋ยวผมมาปลุกอีกรอบ จะให้ปลุกกี่โมงดีครับ” ถามอย่างสุภาพเกินเหตุ
ริโก้รับรู้โดยนัยว่าโดนลูกน้องประชดเข้าให้ “ไม่ต้องแล้ว เดี๋ยวฉันอาบน้ำไปวิ่งเลยดีกว่า”
“งั้นผมไปเตรียมอาหารเช้ากับเอกสารให้นะครับ”
ริโก้ลังเล ที่สุดก็เรียกไว้ “เดี๋ยว ฉันขอโทษที่หงุดหงิดใส่ เพื่อไถ่โทษ ฉันเล่าความลับบางอย่างให้นายฟังก็แล้วกัน” สีหน้าริโก้ขัดเขิน แก้มที่ขาวบัดนี้แดงระเรื่อ “ฉันกำลังฝันถึงใครบางคน เป็นความฝันที่ฝันซ้ำๆ มาสามปีแล้ว แต่สองอาทิตย์ที่ผ่านมาความฝันนั้นขยับไปอีกขั้น”
“หมายความว่าไงครับ ฝันซ้ำๆ?”
“ฉันฝันถึงสาวน้อยคนหนึ่งมาสามปีแล้ว ฉันไม่รู้ว่าจะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อนไหม ฝันนั้นเพิ่งเกิดขึ้นหลังจากนั้น ที่น่าแปลกใจคือตลอดสามปีที่ผ่านมาฉันฝันเห็นแต่ภาพเดิมๆ เป็นภาพสาวน้อยคนหนึ่งกำลังถอดเสื้อผ้าอาบน้ำ เพิ่งจะมาสองอาทิตย์ให้หลังที่ฝันนั้นคืบหน้าขึ้น เธอรวบผม ทำให้ฉันเห็นรอยสักหลังต้นคอ และล่าสุดฝันเช้านี้เธอชวนฉันอาบน้ำ”
บาร์เดนเบิกตาโต
“นายคงคิดว่าฉันประสาท รึไม่ก็บ้าไปแล้วใช่มั้ย”
“เปล่าครับ เป็นอะไรที่แปลกอย่างที่คุณรีคว่าจริงๆ บางทีอาจจะเกี่ยวข้องกับอุบัติเหตุเมื่อสามปีก่อน ทำไมคุณรีคไม่ถามบอดีการ์ดคนก่อนล่ะครับ บางทีเขาอาจรู้เรื่องอุบัติเหตุนั่น”
“ไม่มีใครรู้หรอก เพราะช่วงที่เกิดอุบัติเหตุ ฉันกำลังเรียน ป.โท อยู่ที่จอร์จทาวน์ คุณย่าบอกว่าช่วงนั้นฉันใช้ชีวิตอยู่ที่อเมริกาเป็นส่วนใหญ่”
บาร์เดนทำเสียงรับรู้
“เข้าใจฉันแล้วใช่ไหมว่าทำไมฉันถึงหงุดหงิดใส่ ขอโทษก็แล้วกัน”
“ไม่เป็นไรครับ ไม่ต้องขอโทษหรอก ผมสิต้องขอโทษคุณรีคที่ทำให้ความฝันสะดุด”
ริโก้โบกมือ “ไม่เป็นไร อย่าซีเรียส แค่นายเข้าใจก็ดีแล้ว เอาจริงๆ ฉันก็ไม่รู้หรอกว่าเป็นเพราะหมกมุ่นเรื่องของเกรย์มากไปหรือเปล่า” บางทีอาจเพราะเขาได้จูบได้จับหน้าอกเธอเลยทำให้เก็บมาฝันเป็นตุเป็นตะ “เพราะอย่างที่นายรู้ หลังจากฉันเจอเกรย์ที่สวนสาธารณะ ฉันก็ไม่เจอเธออีกเลย ไม่ว่าจะไปป้วนเปี้ยนแถวซานโต้หรือว่าไปเกร่แถววิลลาของอิสซาเบลก็ไม่เคยเจอ นี่ก็สองอาทิตย์แล้ว” เขาสืบจนรู้ว่าอิสซาเบลพักอยู่วิลลาหลังไหน แต่น่าแปลกที่ไปเฝ้าทุกคืน กลับไม่เคยเจอเกรย์ ร่ำร่ำจะไปถาม
อิสซาเบลให้รู้แล้วรู้รอดว่าเกรย์หายไปไหน ถ้าไม่มีหมวกแก๊ปและเครื่องเล่นเอ็มพีสามที่เธอทำตกไว้ เขาก็อยากคิดว่าการได้เจอเธอเป็นแค่ความฝัน
“คุณรีคคิดว่าผู้หญิงในฝันเชื่อมโยงกับคุณเกรย์หรือครับ”
“ไม่ใช่แค่เชื่อมโยง แต่มั่นใจว่าเป็นคนคนเดียวกัน เพราะฉันเห็นรอยสักนั่นในความฝัน ก่อนจะได้เจอของจริง”
นัยน์ตาบาร์เดนสว่างวาบ “ที่คุณรีคอ้อมไปถ่ายรูปหลังคุณเกรย์เพราะจะถ่ายรอยสักนี่เอง”
ริโก้พยักหน้า แอบกัดฟัน เขาทำอะไรไม่เคยรอดสายตาสอดรู้สอดเห็นของลูกน้องไปได้เลย
“คุณรีคเลยมั่นใจว่าผู้หญิงในฝันกับคุณเกรย์เป็นคนคนเดียวกัน”
“ฉันไม่ควรคิดแบบนั้นหรือ”
“ก็น่าคิดครับ เป็นอะไรที่แปลกจริงๆ ผมไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้มาก่อน อย่างที่ผมแนะนำ คุณรีคไม่ลองไปคุยกับนักจิตบำบัดดูล่ะครับ บางทีอาจช่วยกระตุ้นความทรงจำได้บ้าง”
“ฉันให้อเล็กซ์นัดให้อยู่ แต่ยังไม่ได้วัน”
“ขอให้ได้วันเร็วๆ นะครับ” บาร์เดนเข้าใจริโก้ขึ้น เวลานี้ริโก้หายใจเข้าออกเป็นเกรย์ เธอทำให้เขากระชุ่มกระชวยกลับมาเป็นหนุ่มน้อย ที่ผ่านมาไม่เคยเห็นริโก้ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ยามจ้องโทรศัพท์มือถือ เขาเดาว่าคงไม่แคล้วกำลังดูภาพเกรย์ เขาไม่เคยเห็นริโก้พิถีพิถันกับการแต่งกาย ไม่เคยได้ยินฮัมเพลง แถมเป็นเพลงจังหวะแปลกๆ ด้วย แต่ตอนนี้เขาได้เห็นและได้ยินสิ่งเหล่านั้นทั้งหมด ยิ่งกว่านั้นริโก้ยังเอาหมวกแก๊ปของเธอมาสวมตอนออกจ็อกกิงด้วย ท่าจะอาการหนัก คงตกหลุมรักเกรย์อย่างถอนตัวไม่ขึ้น
ริโก้เปิดแฟ้มดูผลประกอบการไตรมาสล่าสุดของซานโต้ ตามคาดผลประกอบการโดดเด่นกว่าทุกไตรมาสที่ผ่านมา สูงสุดในรอบสองปีด้วยผลกำไรเพิ่มขึ้นเป็น 4,565 ล้านยูโร จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 3,165 ล้านยูโร คิดเป็นสัดส่วนที่เพิ่มขึ้น 30.66 เปอร์เซ็นต์ หรืออีกนัยหนึ่งซานโต้ทำกำไรได้สูงกว่าโดมิงโก 28.14 เปอร์เซ็นต์ และนั่นคือโจทย์ของเขา จากนี้เขาต้องทำให้โดมิงโกมีผลประกอบการมากกว่า 4,565 ล้านยูโรภายใน 6 เดือน นั่นหมายความว่าเขาจะต้องขยับกำไรของโดมิงโกเพิ่มขึ้น 1.39 เท่าจากไตรมาสปัจจุบันภายใน 6 เดือน
ชายหนุ่มพลิกอ่านเอกสารหน้าถัดไป เป็นบทคัดย่อสำหรับผู้บริหารที่จะใช้ประกอบการประชุมกรรมการบริหาร ฝ่ายตลาดวิเคราะห์ส่วนแบ่งทางการตลาด เน้นเฉพาะโดมิงโกกับซานโต้ จำแนกตลาดผู้บริโภคตามวัย เพศ อายุ และยังจำแนกแยกย่อยไปถึงประเภทของเสื้อผ้า ไล่ตั้งแต่เสื้อผ้าบุรุษ สตรี ชุดสากล ชุดลำลอง ชุดราตรี ไปจนถึงชุดว่ายน้ำ ระหว่างอ่านเอกสารเขาก็เสียบหูฟังฟังจากเครื่องเล่นเอ็มพีสามของเกรย์ไปด้วย
เป็นเวลาสองสัปดาห์แล้วที่เขาเอาเครื่องเล่นเอ็มพีสามของเกรย์มาฟังระหว่างนั่งรถไปทำงาน ด้วยอยากรู้ว่าเธอฟังเพลงอะไร แรกๆ ปลดหูฟังออกแทบไม่ทันเพราะเพลงในเครื่องเล่นทั้งหมดเป็นเพลงอินเดียซึ่งไม่ใช่แนวเขา ใครจะคิดว่าผู้หญิงหน้าตาสะสวยอย่างเกรย์จะฟังเพลงแดนซ์อินเดีย แต่ก็อีกละ ยังมีอะไรเกี่ยวกับเกรย์ที่เขาควรประหลาดใจอีก ในเมื่อเธอชอบทำอะไรเหนือความคาดหมายจนกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้ว ริโก้นึกพลางอมยิ้ม เกรย์เหมือนหนังสือแดนมหัศจรรย์ที่ยิ่งเปิดอ่านก็ยิ่งค้นพบว่าโลกใบนี้มีอะไรน่าพิศวงน่าอัศจรรย์ให้ติดตามค้นหา
อืม...ฟังๆ ไปก็สนุกดี หูเขาคงเริ่มชิน แล้วเสียงริงโทนก็ดังแทรกความคิดขึ้น ริโก้ปลดหูฟังคาไว้ที่ต้นคอ กดหยุดเครื่องเล่น แล้วเสียบบลูทูทคุยโทรศัพท์แทน “มีอะไรซอนย่า”
“คุณเห็นข่าวตัวเองในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์เช้าวันนี้หรือยังคะ”
“ข่าวอะไร”
“รูปคุณกอดจูบกับเด็กสาวที่คุณเจอที่ซานโต้โชว์หราอยู่บนหน้าหนึ่งของแท็บลอยด์”
“อะไรนะ!” มือไม้เย็นเฉียบ ไม่ได้ห่วงตัวเอง แต่ห่วงเกรย์ ป่านนี้จะรู้หรือยัง เขาทำให้เธอเดือดร้อนหรือเปล่า ริโก้นึกอย่างไม่สบายใจนัก
“คุณได้ยินแล้ว คุณกับเธอขึ้นหน้าหนึ่งแท็บลอยด์ สื่อลงภาพทุกชอตว่าคุณทำอะไรกับเธอบ้าง เดี๋ยวฉันจะส่งภาพไปให้ดูทางวอตส์แอปป์”
ริโก้วางสาย รอภาพจากซอนย่า
“เกิดอะไรขึ้นครับ ปาปารัซซีลอบถ่ายภาพคุณรีคกับคุณเกรย์หรือครับ” บาร์เดนถามขึ้น
ริโก้ยกมือลูบหน้าราวกับจะเรียกสติ “ฉันกำลังรอรายละเอียดจากซอนย่า เธอจะส่งภาพมาให้ดู”
“เป็นความผิดของผมเองที่ไม่ระวังให้ดี” บาร์เดนพูดอย่างสำนึกผิด
“ไม่หรอก ไม่ใช่ความผิดของนาย ฉันเองไม่ระวังให้ดี รู้อยู่ว่ามีปาปารัซซีตามตลอด แต่ก็ยังสะเพร่าดึงเกรย์เข้ามาเกี่ยวด้วย ตอนนี้ฉันเป็นห่วงเกรย์มากกว่า”
“เราควรติดต่ออิสซาเบลเพื่อถามถึงเธอไหมครับ”
“ไม่ วิธีนั้นไม่ส่งผลดีกับเกรย์แน่ ขอเวลาฉันคิดหน่อย” ริโก้ร้อนใจ เขาพยายามขบคิดหาทางออก เกรย์กลัวที่สุดคือการเปิดเผยตัวเองต่อสื่อ ด้วยเหตุนี้เธอถึงไม่ใช้นามสกุลของอิสซาเบล แถมใช้ชีวิตให้อยู่ห่างจากสเปนให้มากที่สุด มาถึงตอนนี้เขากลัวว่าที่เธอลงทุนลงแรงไปทั้งหมดจะพังทลายลงในวันนี้ด้วยน้ำมือเขา
เสียงข้อความจากวอตส์แอปป์ดังขึ้น เขาเปิดดูแล้วแทบอยากหักคอนักข่าวที่เอาภาพพวกนั้นไปเผยแพร่ เพราะภาพชุดที่ปรากฏบนหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์มีตั้งแต่ภาพที่เขาดันเกรย์ไปติดต้นโอ๊ก ก้มศีรษะจูบ ก่อนจะตามด้วยการจับหน้าอก ริโก้ก้มหน้า นวดคลึงขมับ ดูเหมือนปัญหาไม่จบแค่นั้นเพราะใต้ภาพมีคำบรรยายว่า
ริโก้ โดมิงโก ทายาทโดมิงโกกับสาวน้อยนิรนามคู่เดตรายใหม่ ต้องติดตามกันต่อไปว่าเธอเป็นใคร
“แท็บลอยด์เช้าวันนี้ แล้วนี่ก็นิตยสารปักษ์ล่าสุดค่ะ หน้าไหนที่พูดถึงคุณรีคแล้วก็โดมิงโก ดิฉันคั่นด้วยโพสต์-อิตให้แล้ว” อเล็กซ์เดินตามหลังเขากับบาร์เดนเข้ามาในห้อง
บาร์เดนวางแฟ้มเอกสารลงบนโต๊ะ โค้งศีรษะแล้วถอยออกไป ขณะที่อเล็กซ์วางปึกหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ลงบนโต๊ะ เป็นกิจวัตรประจำวันของเธอกับเลขานุการอีกคนที่ต้องช่วยกันอ่านสิ่งพิมพ์และวารสารคร่าวๆ เพื่อสแกนล่วงหน้าให้เขาว่ามีสื่อไหนพูดถึงเขา บริษัทโดมิงโก และซานโต้บ้าง
ริโก้ทรุดนั่ง คลายเน็กไท “ขอบคุณมาก ขอกาแฟแก้วหนึ่ง”
“ได้ค่ะ แต่คุณรีคควรอ่านแท็บลอยด์ฉบับนี้อย่างด่วนเลยค่ะ”
อเล็กซ์พูดพลางเลื่อนแท็บลอยด์ขนาดครึ่งหนึ่งของหนังสือพิมพ์ไปวางตรงหน้า เป็นฉบับที่ลงภาพเขากอดจูบกับเกรย์ขึ้นหน้าหนึ่งเต็มหน้าซึ่งเป็นฉบับเดียวกับที่ซอนย่าส่งมาให้ดู
ริโก้ฉวยมาอ่านเงียบๆ ก่อนพลิกไปอ่านในเล่ม มีภาพเพิ่มเติมอีก 3-4 ภาพ เป็นภาพที่เขาอุ้มเกรย์มานั่งบนม้านั่ง เกรย์ทุบเขา เขากุมมือเกรย์วางบนหน้าขา และภาพสุดท้ายซูมรอยสักหลังต้นคอของเกรย์ที่เห็นตัวอักษร R และ D เด่นชัด มือที่ถือแท็บลอยด์กำแน่นโดยไม่รู้ตัว จะไม่ให้เธอมีที่ยืนในสังคมเลยใช่ไหม ในภาพถึงไม่เห็นหน้าตรงๆ ด้วยว่ารูปส่วนใหญ่มีเขาบังอยู่ กระนั้นใครที่เป็นเพื่อนฝูงหรือญาติสนิทของเธอย่อมเดาได้ไม่ยากว่าเป็นเธอ โดยเฉพาะรอยสักหลังต้นคอนั่นยืนยันได้ดีพอๆ กับใบหน้าของเธอ ริโก้บดกราม นึกขอโทษเกรย์อยู่ในใจ
“ดิฉันเสียใจด้วยค่ะ” อเล็กซ์มองริโก้พลางยิ้มปลอบประโลม “ว่าแต่ทำไมความสัมพันธ์ของพวกคุณถึงรุดหน้าไปไกลขนาดนั้นคะ วันก่อนเพิ่งให้ดิฉันสืบหาประวัติของเธอ แต่วันนี้กลับเอ่อ...”
“จะหาว่าผมเป็นพวกเสือปืนไวใช่ไหม”
“มะ...ไม่ใช่ค่ะ เพียงแต่แปลกใจจริงๆ”
“เป็นภาพเก่าเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เราบังเอิญไปเจอกันที่สวนสาธารณะ”
อเล็กซ์กะพริบตาปริบๆ “แปลว่ายังไม่ได้รู้จักกันดี แต่บอสกลับกระโจนเข้าใส่เธออย่างนั้นหรือคะ บอสนี่...เหลือเชื่อเลย แต่เธอดูเฟรนด์ลีกับบอสดีนะคะ”
“เชื่อเถอะ ยังห่างไกลกับที่ผมต้องการเยอะ”
อเล็กซ์กระแอม “แล้วยังต้องการนักสืบอยู่ไหมคะ วันก่อนนักสืบแจ้งว่าค้นได้แค่ว่าหารพิทักษ์เป็นนามสกุลคนไทย”
“ตอนนี้ยิ่งจำเป็น เพราะผมหาเธอไม่เจอ ค่อนข้างมั่นใจว่าไม่อยู่ในสเปนแล้ว บางทีอาจไปอยู่กับญาติที่เปรู เพราะงั้นรบกวนให้นักสืบตามสืบให้หน่อยว่าเธออยู่ไหน แล้วนี่ก็ชื่อเต็มๆ ของเธอ” ริโก้ดึงโพสต์-อิตมุมโต๊ะมาเขียนชื่อของเกรย์เป็นภาษาสเปนส่งให้เลขาฯ
“ดาโกตา เกรย์ หารพิทักษ์ ซานโต้” อเล็กซ์อ่านออกเสียงแล้วเงยหน้ามองด้วยแววตาประหลาดใจ “ดาโกตา? สรุปใช่ดาโกตาหลานสาวของอิสซาเบลจริงๆ หรือคะ”
“ใช่” ริโก้พยักหน้า
“พระเจ้า อิสซาเบลมีหลานสาวสวยขนาดนี้หรือคะ” ความหมายเธอคือไม่คิดว่าเด็กสาวที่หน้าตาสะสวยขนาดนี้จะเป็นหลานสาวของอิสซาเบล เท่ากับเด็กสาวสมบูรณ์แบบทั้งรูปร่างหน้าตา ฐานะ และชาติตระกูล
“ไม่น่าแปลกใจหรอก อิสซาเบลตอนสาวๆ สวยระดับนางงาม ส่วนแอนนาก็สวยใช่ย่อย อ้อ...เกรย์เป็นลูกเสี้ยวเปรู-สเปน-ไทยนะ เผื่อข้อมูลนี้จะเป็นประโยชน์กับนักสืบ ย้ำให้เขาช่วยหาเบอร์โทร. ของเธอให้ผมด้วย”
“ได้ค่ะ แล้วตลอดเวลาที่ผ่านมาเธอไปอยู่ไหนคะ ทำไมเราไม่รู้ข่าวคราวของเธอเลย”
“เปรู”
“ถึงว่า” อเล็กซ์พยักหน้าแล้วเปลี่ยนเรื่อง “จิตแพทย์แจ้งวันนัดมาแล้วนะคะ เป็นวันจันทร์หน้า เดี๋ยวดิฉันจะส่งปฏิทินนัดหมายไปให้คุณรีคทางอีเมลอีกทีค่ะ”
ริโก้พยักหน้า ไม่ทันตอบอะไรมากกว่านั้นเมื่อประตูห้องทำงานเปิดผลัวะเข้ามาโดยไม่มีการเคาะล่วงหน้า โลเปซปรากฏกายขึ้น เธอพาบรรยากาศคุกรุ่นมาพร้อมกับสีหน้าเย็นชา อเล็กซ์สะดุ้ง ทำท่าตกใจสุดขีด รีบยอบตัวลงต่ำแทบถึงเอวแล้วก้าวอย่างสำรวม ส่วนเขาขยับลุก
“ขอกาแฟกับของว่างด้วยนะอเล็กซ์” เขารีบบอกก่อนที่เลขาฯ จะผลุนผลันออกจากห้อง
อเล็กซ์จับก้านโยกประตูค้าง หันมาตอบรับนอบน้อมแล้วออกจากห้อง
ริโก้เดินนำโลเปซไปยังโซฟามุมห้อง สีหน้าโลเปซบอกถึงความไม่สบอารมณ์ เกิดบรรยากาศตึงเครียด และเขามองออกว่าผู้เป็นย่าไม่สบอารมณ์ด้วยเรื่องอะไร
“ให้เลขาฯ โทร. มาบอกให้ผมไปหาก็ได้ คุณย่าไม่ต้องลำบากมาเอง” ริโก้เอ่ยขึ้นหลังจากโลเปซนั่งเรียบร้อย
“ไม่เป็นไร ไม่ได้ลำบากอะไร ย่ามานี่มีธุระสองเรื่อง เรื่องแรก...” โลเปซพูดขึ้นโดยไม่อารัมภบท เลื่อนจดหมายจากอีเมลที่พรินต์ออกมาจากคอมพิวเตอร์ให้หลานชาย “สมาคมศิษย์เก่าจอร์จทาวน์แจ้งว่าให้เรากับซานโต้ร่วมกันจัดเดินแบบแฟชั่นโชว์ในงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าปีนี้” โลเปซต้องสะกดกลั้นอารมณ์อย่างมากที่จะควบคุมเสียงให้ราบเรียบเป็นปกติ ทั้งที่ขามาพกอารมณ์ร้อนแรงมาด้วยเต็มเปี่ยม แต่พอเห็นหน้าหล่อๆ ของหลานรักก็โกรธไม่ลง ทำอย่างไรได้ นี่คือหลานรักที่เธอเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก
ริโก้หยิบกระดาษขึ้นมาคลี่อ่านเงียบๆ สมาคมแจ้งว่าเนื่องจากปีนี้ครบปีที่ 225 ของการก่อตั้งสมาคมฯ จึงอยากจัดกิจกรรมพิเศษ โดยให้ทั้งโดมิงโกและซานโต้ร่วมกันจัดงานเดินแบบแฟชั่นโชว์คนละชุด ชายหนุ่มพับกระดาษแล้วเลื่อนคืนโลเปซ “จะว่าไปปีนี้จดหมายมาไวนะครับ”
“คงอยากให้มีเวลาเตรียมตัวเพื่อให้งานออกมาเพอร์เฟกต์ นัยว่าเจ้าชายฮาเวียร์เสด็จร่วมงานด้วย”
ริโก้พยักหน้า ภาพหนุ่มใหญ่รูปร่างสูงโปร่งหน้าตาคมสันปรากฏขึ้นในความทรงจำ
“รีคจะรับผิดชอบงานนี้ได้ไหม เพราะถ้าต้องพึ่งเคซ ย่าไม่แน่ใจว่าจะทำให้เราขายหน้าหรือเปล่า” โคเซจบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยจอร์จทาวน์ ที่ผ่านมาโดมิงโกรับผิดชอบงานเดินแบบสลับกับซานโต้คนละปี ผลงานรอบที่แล้วของโคเซไม่น่าประทับใจนัก
“ได้ครับ ผมจัดการเอง”
“ที่อยากให้หลานคุม เพื่อจะได้ไปสังเกตการณ์แอนนา เผื่อจะมีอะไรเคลื่อนไหว”
“ได้ครับ”
“ธุระอีกเรื่อง ย่าอยากพูดก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น รีคคงพอจะเดาได้ว่าย่าจะพูดเรื่องอะไร”
“ข่าวซุบซิบในแท็บลอยด์เช้าวันนี้ใช่ไหมครับ”
“ใช่ ผู้หญิงที่เป็นข่าวกับรีคเป็นใคร” น้ำเสียงเข้มงวดขึ้น
“เธอชื่อ เกรย์ หารพิทักษ์”
“โล่งอกไป” โลเปซพยักหน้า สีหน้าผ่อนคลายขึ้น ตอนแรกนึกว่าเป็นหลานสาวของอิสซาเบลเลยเครียดมาตลอดเช้า ทว่าโล่งใจได้ไม่ถึงวินาทีก็ตกใจแทบช็อกเมื่อริโก้ขยายความตามมา
“เกรย์เป็นหลานสาวคนเดียวของอิสซาเบล เป็นทายาทรุ่นหลานของซานโต้”
“อะไรนะ!” โลเปซตวัดเสียงสูง เนื้อตัวเย็นเฉียบ ไม่อยากเชื่อหูตัวเอง ก็ไหนเด็กสาวหน้าตาสะสวยที่ริโก้เคยพามาแนะนำตัวเมื่อสามปีก่อนชื่อ ดาโกตา ซานโต้ ไม่ใช่เกรย์ เจ้าของนามสกุลพิลึกพิลั่นนั่น “ไม่ เป็นไปไม่ได้ ต้องมีอะไรผิดพลาดแน่”
“คุณย่าหมายความว่าไงครับ”
โลเปซชะงัก ไม่คิดว่าจะเผลอพูดในสิ่งที่คิด “ปละ...เปล่า แค่คิดว่าหลานสาวของอิสซาเบลน่าจะชื่อดาโกตา” เธอก็รีบแก้ตัว “ก็สองอาทิตย์ก่อนรีคเพิ่งพาดพิงชื่อนี้ นัยว่ามาร์ตินบอกว่าหลานสาวของอิสซาเบลชื่อว่าดาโกตาไม่ใช่หรือ”
ริโก้พยักหน้ารับรู้ “เกรย์มีชื่อเต็มๆ ว่า ดาโกตา เกรย์ หารพิทักษ์ ซานโต้ แต่จะใช่ดาโกตาคนเดียวกับที่มาร์ตินพูดถึงมั้ย ผมไม่แน่ใจ”
โลเปซทำหน้ายุ่ง “จะใช่หรือไม่ใช่ก็ช่างเถอะ ประเด็นคือย่าเคยบอกหลานแล้วว่าอย่าไปยุ่งกับหลานสาวของอิสซาเบล”
“ทำไมล่ะครับ”
“ย่าเคยบอกแล้ว ย่าไม่อยากเกี่ยวดองกับคนตระกูลนั้น อีกอย่างย่าไม่อยากให้อิสซาเบลหลงลำพองว่าหลานย่าไปติดพันหลานหล่อน” น้ำเสียงอิสซาเบลบอกถึงความชิงชังและหมั่นไส้อย่างมาก
“บางทีอิสซาเบลก็อาจคิดอย่างคุณย่า ถึงได้ส่งเกรย์ไปอยู่เปรูตั้งแต่เด็ก”
“เป็นไปไม่ได้” โลเปซพึมพำ
“ทำไมจะไม่ได้ล่ะครับ”
“ก็...เธอเป็นหลานสาวคนเดียวของอิสซาเบล เพราะงั้นอิสซาเบลต้องรักมาก ไม่น่าจะส่งไปอยู่ไกลตัวหรอก”
“ที่เปรู เกรย์อยู่กับญาติ เพราะงั้นอิสซาเบลกับแอนนาคงวางใจ”
โลเปซพึมพำรับรู้ “แล้วรีคไปเจอเด็กนั่นได้ไง ถึงได้ตกเป็นข่าวด้วยกัน”
“เราบังเอิญเจอกันที่สวนสาธารณะเมื่อสองอาทิตย์ก่อน เธอไปจ็อกกิง ความจริงเราเคยเจอกันมาแล้วรอบหนึ่ง เพราะงั้นรอบนี้เราต่างไม่ใช่คนแปลกหน้าต่อกัน” ริโก้ไหวไหล่ ไม่ขยายความต่อ
“เราเลยกระชากหลานสาวของอิสซาเบลมากอดจูบได้ตามอำเภอใจงั้นรึ” โลเปซพ่นลมหายใจเฮือกใหญ่ นี่ถ้าเป็นโคเซ เธอคงแพ่นกบาลไปแล้ว ค่าที่ทำอะไรไม่คิดหน้าคิดหลัง แต่เมื่อเป็นหลานรัก มากสุดได้แค่ล้งเล้งไปตามประสา
“รีครู้ไม่ใช่เหรอว่าการประชุมเช้านี้มีความสำคัญกับรีคกับย่าแค่ไหน เพราะงั้นรีคควรจะเก็บตัวให้เงียบที่สุดก่อนการประชุมจะเริ่มขึ้น แต่ดูสิ่งที่รีคทำวันนี้สิ ไม่ต่างจากการขุดหลุมฝังตัวเอง ถ้ากรรมการรู้ว่าเด็กนั่นมีความสัมพันธ์ยังไงกับอิสซาเบล แล้วถ้าเคซจะหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาโจมตีเพื่อไม่ให้กรรมการคนอื่นๆ คล้อยตามเรา เราคิดบ้างหรือเปล่าว่าจะเกิดอะไรขึ้นตามมา ถึงแม้ว่ากรรมการเกินครึ่งจะเป็นคนของย่า แต่ถ้าเขาเห็นว่ารีคแยกแยะเรื่องส่วนตัวกับธุรกิจไม่ได้ และนำมาเป็นเหตุผลที่จะโหวตไม่ให้รีคทดลองตำแหน่งซีอีโอ สิ่งที่ย่าลงทุนลงแรงไปทั้งหมดก็สูญเปล่า”
“ผมขอโทษที่ทำอะไรไม่คิดให้รอบคอบ”
“รีคจะทำอะไรต้องคิดให้รอบคอบกว่านี้ อย่างน้อยก็ควรรอให้ผ่านอาทิตย์นี้ไปก่อน แต่นี่เรากำลังทำให้ย่าเสียการใหญ่ ย่าอุตส่าห์วางแผนมาตั้งเท่าไหร่ที่จะให้รีคขึ้นเป็นซีอีโอ ถ้าจะมาถูกเคซตีตกด้วยเรื่องแค่นี้ละก็ ย่าไม่ยอมเด็ดขาด”
ริโก้ผ่อนลมหายใจเมื่อผู้เป็นย่าบ่นเป็นแผ่นเสียงตกร่อง “ผมขอเวลาคิดหน่อยว่าจะแก้ไขอะไรได้บ้าง” ริโก้หยิบรีโมตมากดเปิดโทรทัศน์ขนาดโฮมเทียเตอร์ที่ติดอยู่ที่มุมเพดาน ในจอฉายภาพตลาดหุ้น เขาเลือกใช้โปรแกรมที่สามารถเทียบเคียงราคาหุ้นของโดมิงโกกับซานโต้แล้วกล่าวว่า “ถ้าดูจากราคาหุ้นเช้านี้ หุ้นซานโต้เปิดตลาดด้วยบวกศูนย์จุดสองยูโร”
“นั่นเพราะตอบรับผลประกอบการไตรมาสล่าสุดที่ซานโต้เพิ่งประกาศออกมา” โลเปซต่อประโยคทันควัน
“ถูก แต่หลังจากนั้นหุ้นก็นิ่ง ขณะที่เราเปิดตลาดด้วยลบศูนย์จุดห้า แต่ตอนนี้ขึ้นมาบวกศูนย์จุดหนึ่ง”
“หลานจะบอกว่าหุ้นโดมิงโกตอบรับข่าวหลานคบหากับหลานสาวของอิสซาเบลงั้นหรือ”
“ไม่ ผมไม่กล้าฟันธงขนาดนั้นเพราะไม่มีใครรู้ว่าเกรย์เป็นใคร แต่อย่างน้อยข่าวฉาวๆ ที่เกิดขึ้นกับผมก็ไม่ได้มีนัยสำคัญกับราคาหุ้น เพราะงั้นเราอาจใช้ประเด็นนี้มาแก้ต่างกรรมการที่ยืนอยู่คนละฝั่งกับเราได้”
แววตาโลเปซลิงโลด “ย่าคิดอะไรออกละ ทำไมเราไม่บอกกรรมการไปล่ะว่าทั้งหมดรีคทำไปก็เพื่อบริษัท ถ้าหากว่าเคซจะหยิบยกเรื่องเด็กเกรย์นั่นมาโจมตี เราก็บอกไปว่ารีคแกล้งทำดีกับหลานสาวของอิสซาเบลเพราะหวังผลทางธุรกิจ ไม่ได้คิดจริงจังกับเกรย์ นอกจากจะทำให้อิสซาเบลกระอักเลือดตาย ยังทำให้บริษัทเราได้เปรียบในเชิงจิตวิทยาด้วยว่าทำให้ฝ่ายนั้นขวัญเสีย ตกลงเอาตามนี้ ต่อไปรีคเดินหน้าคบหาเด็กนั่นได้เลย ย่าอนุญาต แต่ต้องห้ามคิดจริงจังถึงขั้นตบแต่งเด็ดขาด” ใช่...ทำไมเธอไม่ทำให้ประวัติศาสตร์กลับมาซ้ำรอยอีกครั้ง โลเปซถามตัวเอง

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น