7
บทที่ 7
7
โลเปซเดินเข้ามาในห้องประชุมโดยมีริโก้เดินตามหลัง เสียงจ้อกแจ้กจอแจพลันเงียบกริบ โลเปซทรุดนั่งหัวโต๊ะ ขวามือคือโคเซ โรนัลโด้ ตลอดจนญาติคนอื่นๆ และซ้ายมือคือริโก้ ตามด้วยกรรมการบริหารที่นั่งรอบโต๊ะตัวยูเต็มทั้งสองฝั่ง ท้ายห้องประชุมคือกระดานขนาดใหญ่ โลเปซกดปุ่มไมโครโฟนแล้วเริ่มต้นการประชุมขึ้น “เอาละ เพื่อไม่ให้เสียเวลาเรามาเริ่มวาระแรกเลย วาระรับรองการประชุมครั้งที่ผ่านมา”
การประชุมดำเนินต่อไปจนมาถึงวาระเพื่อพิจารณา “ดิฉันขอเข้าสู่วาระสำคัญ ทุกคนคงได้ยินข่าวมาบ้างแล้วว่าดิฉันจะวางมือจากตำแหน่งประธานบริษัท โดยจะให้โคเซขึ้นมาแทน และต่อไปนี้คือเหตุผลว่าทำไมดิฉันถึงคิดจะวางมือ”
โลเปซส่งสัญญาณมือให้เลขานุการหรี่ไฟ ก่อนกดปุ่มรีโมตในมือ จากนั้นแผนภูมิที่แสดงผลประกอบการของโดมิงโกกับซานโต้ตลอดสิบปีที่ผ่านมาก็ปรากฏบนกระดานท้ายห้องและคอมพิวเตอร์ตรงหน้าทุกคน
“แผนภูมิบนกระดานไม่ต่างจากเอกสารเพาเวอร์พอยต์ในแฟ้ม ซึ่งดิฉันหวังว่าทุกคนจะได้อ่านและทำการบ้านมาแล้ว สรุปได้ว่าสิบปีที่ผ่านมาผลประกอบการของโดมิงโกตามหลังซานโต้มาตลอด โดยเฉพาะสามปีให้หลัง หนักสุดคือไตรมาสที่สี่ของปี 2018 เราตามหลังถึง 1,285 ล้านยูโร คิดเป็นสัดส่วน 28.14 เปอร์เซ็นต์ ที่น่าสนใจคือสินค้าทุกประเภทมีสัดส่วนทางการตลาดลดลง ขณะที่ซานโต้แย่งชิงตลาดมาได้ทุกเซกเตอร์
“ทั้งหมดทำให้ดิฉันต้องทบทวนว่าเกิดอะไรขึ้นกับโดมิงโกที่เคยผงาดเป็นอันดับหนึ่งของวงการแฟชั่น วันนี้ตำแหน่งนี้ถูกซานโต้แย่งชิงไป ดิฉันจึงอยากเสนอวาระเพื่อพิจารณาขอให้ริโก้ได้ทดลองบริหารงานในตำแหน่งประธานกรรมการบริหารแทนโคเซหกเดือน ถ้าภายในหกเดือนริโก้ทำให้โดมิงโกแซงหน้าซานโต้ ซึ่งไตรมาสนี้ทำกำไรไปได้ 4,565 ล้านยูโรได้ก็สะท้อนว่าถึงเวลาแล้วที่โดมิงโกจะผลัดใบ แต่ถ้าริโก้ทำไม่สำเร็จ เขาจะกลับไปเป็นกรรมการผู้จัดการตามเดิม ย้ำว่ามติครั้งนี้ไม่ใช่การปลดใครหรือแต่งตั้งใคร แต่เป็นแค่การทดลองงาน ถ้าใครไม่มีข้อสงสัย ดิฉันขอให้ลงมติโหวตลับได้เลยค่ะ”
โคเซกดเปิดไมโครโฟน “ผมไม่ขัดข้องที่จะให้ลูกชายซึ่งเป็นเด็กรุ่นใหม่ขึ้นมาบริหารโดมิงโกในฐานะซีอีโอ แต่อยากให้ริโก้ช่วยแนะนำตัวเองหน่อยว่าที่ผ่านมามีผลงานอะไรบ้าง เพื่อให้กรรมการที่อาจจะยังไม่มีข้อมูลตัดสินใจได้ง่ายขึ้น”
โลเปซแทบคิ้วกระตุกเมื่อถูกลูกชายฉีกหน้า “ริโก้ยังไม่มีโอกาสแสดงผลงานได้เต็มศักยภาพ เพราะที่ผ่านมาแผนกลยุทธ์ทางการตลาดถูกบอร์ดแห่งนี้ตีตกทุกครั้ง แต่ทุกคนคงไม่รู้ว่าเบื้องหลังการตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ของดิฉันมีริโก้หาข้อมูลสำคัญๆ ให้
“ล่าสุดเมื่อสองอาทิตย์ก่อนริโก้ออกไอเดียที่จะให้เพื่อนของเขาที่เป็นเจ้าของโรงแรมในไอคาจ้างซานโต้ออกแบบชุดเดินแบบเทศกาลเปรูเวียนคาร์นิวัล”
มาถึงตรงนี้โลเปซกดรีโมตในมือ ภาพเลื่อนไปยังบรรยากาศงานเดินแบบของซานโต้ ที่เหล่านางแบบนายแบบหน้าตาสะสวยหล่อเหลากำลังเดินแบบในชุดเปรูเวียนคาร์นิวัล ซึ่งออกแบบเก๋ไก๋แปลกตาด้วยเล่นกับตัวอักษรซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน นางแบบและนายแบบเดินออกจากมุมเวทีซ้ายและขวา มาเจอกันตรงกลางเวที ตัวอักษรบนชุดของนางแบบและนายแบบเชื่อมต่อกันเป็นคำที่มีพลังและมากด้วยความหมาย อาทิ รัก คู่แท้ พ่อแม่ ปาฏิหาริย์ พลัง จิตวิญญาณ ความสุข ฯลฯ
เกิดเสียงฮือฮารอบห้องประชุมด้วยว่าเป็นดีไซน์ที่ชวนสะดุดตา เห็นแล้วอดชื่นชมเจ้าของไอเดียไม่ได้
โลเปซพูดต่อว่า “จะสังเกตเห็นว่าดีไซน์ชุดเปรูเวียนคาร์นิวัลใกล้เคียงกับดีไซน์เสื้อผ้าของเด็กวัยรุ่นในรุ่นหลังๆ ที่ซานโต้ผลิตออกมา ซึ่งมักเล่นกับตัวอักษรจับคู่กันเพื่อให้คู่รัก ชายหญิง พ่อแม่ ลูกๆ เพื่อนๆ ใส่ด้วยกันเพื่อแสดงถึงตัวตน การมีพื้นที่ในสังคม และความเป็นหนึ่งเดียว” แล้วเธอก็กดรีโมตเปลี่ยนภาพไปเป็นภาพชุดวัยรุ่นที่ดีไซน์เป็นตัวอักษรเพื่อให้ใส่ด้วยกันเป็นคู่ๆ
“มีใครรู้บ้างว่าเบื้องหลังชุดดีไซน์เก๋ๆ ที่ทำกำไรกระเตื้องขึ้นมาจนกระทั่งเบียดแซงหน้าเราไปได้นั้นมีสาวน้อยคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง และสาวน้อยคนที่ว่านั่นคือ ดาโกตา เกรย์ หารพิทักษ์ ซานโต้ ซึ่งทั้งหมดต้องขอบคุณริโก้ที่เป็นคนหาข้อมูลมาให้”
เกิดเสียงฮือฮารอบห้องประชุมอีกครั้ง กรรมการคนหนึ่งถามว่า “เธอเป็นอะไรกับอิสซาเบลครับ ถึงได้นามสกุลซานโต้เหมือนกัน”
“หลานสาวของอิสซาเบล ทายาทรุ่นหลานเพียงคนเดียวของเธอ ซึ่งทั้งหมดล้วนตอกย้ำว่าทิศทางการดีไซน์ของซานโต้ มุ่งเน้นเทรนด์เสื้อผ้าของเด็กวัยรุ่นมากขึ้น นั่นอาจเพราะหลานสาวของอิสซาเบลโตเป็นสาวมากขึ้น มุมมองของเธอเลยมีส่วนช่วยในการแย่งชิงพื้นที่ทางการตลาดของเด็กวัยรุ่นมาได้ ทั้งหมดนี้เป็นผลงานของริโก้ที่ทำให้ดิฉันวิเคราะห์กลยุทธ์ทางการตลาดของซานโต้ได้ แล้วยังมีอีกหลายเรื่องที่ริโก้ช่วยหาข้อมูลให้ดิฉัน จนตกผลึกความคิดนำมาสู่การตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ได้”
โคเซกดเปิดไมโครโฟนอีกรอบ “น่าประทับใจ นั่นอาจช่วยตอบคำถามได้ว่าทำไมริโก้ถึงมีภาพร้อนฉ่าขึ้นหน้าหนึ่งบนหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ฉบับเช้าวันนี้ใช่ไหมครับ” โคเซกดรีโมตเพื่อให้ภาพข่าวหน้าหนึ่งปรากฏขึ้น ไล่ตั้งแต่ภาพที่ริโก้ดันเด็กสาวไปติดกับกอดจูบ จับหน้าอก และไปสิ้นสุดที่ภาพลายสักบริเวณหลังต้นคอซึ่งเป็นภาพตัว R กับ D เกี่ยวร้อยเป็นรูปหัวใจ
เกิดเสียงฮือฮารอบห้องประชุมอีกครั้ง หลายคนซุบซิบกัน พลันภาพบนกระดานก็ย้อนกลับไปที่ภาพริโก้กำลังจับหน้าอกของเด็กสาว และหยุดนิ่งที่ภาพนั้นราวกับจะแกล้ง
โคเซกล่าวว่า “ภาพเหล่านี้อาจทำให้เราพอเห็นอนาคตของโดมิงโกได้ว่าจะเดินไปในทิศทางใด ในเมื่อว่าที่ซีอีโอของโดมิงโกกำลังเข้าไปเกี่ยวข้องกับหลานสาวของอิสซาเบลในรูปแบบความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้ง และดูจะ...อย่างหน้ามืดตามัวด้วย” โคเซทอดเสียงประโยคท้ายอย่างจงใจเรียกความสนใจ
“คุณกำลังจะบอกว่าเรากำลังเสี่ยงถูกซานโต้กลืนอย่างนั้นหรือ” ใครคนหนึ่งถามขึ้น
“ไม่ทราบครับ ต้องให้ลูกชายผมเป็นคนตอบ” โคเซจบประโยคด้วยการโยนให้ลูกชายพลางจ้องเขม็งอย่างท้าทาย
“ทำไมไม่คิดบ้างว่าเราอาจจะเป็นฝ่ายกลืนซานโต้” โลเปซโต้กลับ
“ท่านประธานกำลังจะบอกว่าริโก้ทำไปทั้งหมดก็เพราะหวังผลทางธุรกิจ ไม่มีเรื่องส่วนตัวเข้ามาเกี่ยวข้องอย่างนั้นหรือครับ” เสียงจากกรรมการคนหนึ่งดังขึ้น
โลเปซหันไปมอง พบว่าเป็นคนของโคเซจึงตอบเชือดเฉือน “อาจฟังดูเหมือนไม่ใช่สุภาพบุรุษ แต่ถามหน่อยว่าในสงครามธุรกิจมีอะไรที่เล่นซื่อๆ กันบ้าง เพราะฉะนั้นอยากให้เผื่อใจในแง่นี้ด้วย อย่าคิดแต่จะเอาเรื่องส่วนตัวมาโจมตีกัน”
กรรมการรายดังกล่าวหน้าม้าน ขณะที่กรรมการอีกคนเปิดไมโครโฟน
“ขอให้ริโก้เป็นคนตอบได้ไหม เราอยากฟังวิสัยทัศน์ของว่าที่ซีอีโอ”
โรนัลโด้เสริมขึ้น “ผมเห็นด้วยว่าควรให้โอกาสริโก้ชี้แจง ผมอยากฟังพี่ชายผมเหมือนกันครับ”
ริโก้เห็นโลเปซกำรีโมตแน่น เขาแตะหลังมือผู้เป็นย่าอย่างปลอบประโลมเชิงขออนุญาต ส่งสัญญาณมือให้เลขานุการเปิดไฟ แล้วเดินไปหลังห้อง มือหนึ่งล้วงกระเป๋ากางเกงสแล็กในท่าสบายๆ อีกมือถือรีโมตโทรทัศน์
กรรมการมองริโก้ด้วยแววตาชื่นชม ด้วยมาดเขานิ่งสุขุมและสมาร์ตในชุดสูทกางเกงสแล็ก ริโก้คุมสถานการณ์ได้ แถมด้วยรูปร่างสูงใหญ่และเฟิร์มอย่างคนออกกำลังกายสม่ำเสมอทำให้บุคลิกเขาชวนมอง กรรมการสาวๆ ต่างจับจ้องเขาอย่างสนใจ
ริโก้กล่าวอย่างช้าๆ ขึ้นว่า “ความจริงผมไม่จำเป็นต้องอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นให้ใครๆ ฟังก็ได้ เพราะเป็นชีวิตส่วนตัวของผม แต่ถ้าจะทำให้ใครบางคนสบายใจขึ้น ผมจะเล่าให้ฟังก็แล้วกัน ผมกับหลานสาวของอิสซาเบลเป็นเพื่อนกัน และมีความสัมพันธ์อันดีต่อกัน ความสัมพันธ์ที่ว่าจะไม่กระทบต่อการบริหารของผมในฐานะทายาทของโดมิงโกเด็ดขาด ส่วนภาพหลุดในหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์...” ริโก้กวาดสายตามองรอบห้องประชุม พบว่าบิดามองมาด้วยแววตาแข็งกร้าว โรนัลโด้มองมาด้วยสีหน้านิ่งๆ “วันนั้นผมไปจ็อกกิง เจอเธอโดยบังเอิญ แล้วก็อย่างที่ทุกคนเห็นตามภาพข่าว ผมโดนปาปารัซซีแอบถ่าย สิ่งที่ผมจะทำหลังจากนี้คือฟ้องสื่อฉบับนั้นเพื่อปกป้องสิทธิ์และชื่อเสียงของตัวเอง” ริโก้กล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น แข็งกร้าว เขาไม่ได้ทำเพื่อตัวเอง แต่ทำเพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของเกรย์
ริโก้กล่าวต่อ “การนำพาโดมิงโกกลับมาครองอันดับหนึ่งในตลาดวงการเสื้อผ้าไม่ใช่เรื่องง่าย และการทำให้ผลประกอบการของโดมิงโกสูงกว่า 4,600 ล้านยูโรภายในหกเดือนเป็นสิ่งที่ยากพอๆ กัน ในเมื่อตลอดเวลาสิบปีที่ผ่านมาโดมิงโกไม่เคยทำได้ มันก็เป็นสิ่งท้าทายสำหรับผมว่าจะทำได้หรือไม่ ทุกคนค่อยมาตัดสินตอนนั้นก็ยังไม่สาย”
ริโก้กดรีโมตเรียกสัญญาณจากหน้าจอโทรทัศน์ที่ติดตั้งอยู่ที่ผนังมุมหนึ่งของห้อง “ถ้าดูจากราคาหุ้นเช้านี้จะเห็นได้ว่าซานโต้เปิดตลาดด้วยราคาบวกเพราะผลประกอบการไตรมาสที่ 4/2018 ที่ออกมา ส่วนหุ้นโดมิงโกเปิดลบ แต่ตอนนี้พุ่งขึ้นสูงกว่าซานโต้ถึงสิบเปอร์เซ็นต์ นั่นสะท้อนว่าเรื่องส่วนตัวของผมไม่กระทบต่อราคาหุ้น ผมอยากขอโอกาสจากทุกท่านให้ผมลองแผนกลยุทธ์ทางการตลาดรูปแบบใหม่ ที่ผ่านมาเราเน้นอนุรักษนิยม แต่วันนี้ผมว่าเราควรหาแนวทางใหม่ๆ เพื่อนำพาโดมิงโกกลับสู่อันดับหนึ่งของวงการแฟชั่น”
เสียงปรบมือดังกึกก้องทันทีที่ริโก้พูดจบ เขาโค้งคำนับแล้วกลับมานั่งที่เดิม ภาพบนจอโทรทัศน์ยังคงดำเนินต่อไป เสี้ยววินาทีต่อมาเกิดเสียงฮือฮาดังขึ้นเมื่อราคาหุ้นของโดมิงโกพุ่งพรวดๆ อย่างมีนัยสำคัญ
กรรมการคนหนึ่งเปรยขึ้นอย่างตื่นเต้น “จริงด้วย เรื่องฉาวๆ ของริโก้ไม่มีผลต่อราคาหุ้นโดมิงโก ดูนั่นสิ DMG ขึ้นมาบวกยี่สิบเปอร์เซ็นต์แล้ว” โดมิงโกจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์โดยใช้ชื่อย่อว่า DMG ความหมายของกรรมการรายนี้คือราคาหุ้นโดมิกำลังพุ่งทะยานขึ้นราวกับกำลังจะปรับฐานใหม่
ริโก้หันขวับไปมองจอโทรทัศน์ด้วยความประหลาดใจ แล้วรีบกลับมาเปิดแมคบุ๊ก ภาพบนจอสะท้อนความผิดปกติดังที่กรรมการรายดังกล่าวว่า ราคาหุ้น DMG ขยับขึ้นเอาๆ ซึ่งสะท้อนว่ากำลังมีการไล่ช้อนซื้อ
“ทำไมรีคทำหน้าไม่สบายใจอย่างนั้นล่ะ” โลเปซถามขึ้นอย่างประหลาดใจ ด้วยว่าผลการประชุมบอร์ดบริหารจบลงด้วยดี เสียงส่วนใหญ่กว่า 80 เปอร์เซ็นต์โหวตสนับสนุนเขา โคเซกับพรรคพวกทำอะไรเขาไม่ได้ ถึงแม้จะมีการงัดสารพัดวิธีสกปรกมาดิสเครดิตแล้วก็ตาม แต่เขากลับเปิดโปรแกรมนั้น ปิดโปรแกรมนี้วุ่นวายไปหมด แล้วก็คุยวอตส์แอปป์ เขาทำทุกอย่างอย่างรวดเร็วจนเธอมองตามแทบไม่ทัน
ริโก้ตอบโดยไม่ละสายตาจากจอตลาดหุ้น “DMG ขยับสูงอย่างมีนัยสำคัญครับ”
“ก็ไม่แปลกไม่ใช่หรือ ในเมื่อหลานให้เพื่อนช่วยช้อนซื้อ”
ก่อนการประชุมบอร์ดบริหาร ริโก้โทร. ขอให้เพื่อนฝูงที่เป็นนักธุรกิจนักลงทุนที่สนิทสนมกันซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นช่วยเป็นนอมินีกว้านซื้อหุ้น DMG เพื่อไล่ราคาให้สูงขึ้น ทำทีว่าหุ้น DMG เป็นที่ต้องการ ราคาขยับสูงขึ้นหลังจากมีข่าวฉาวๆ ระหว่างเขากับเกรย์
“ไม่ครับ ผมคุยวอตส์แอปป์กับเพื่อนแล้ว ปรากฏว่ายอดการตั้งซื้อมีปริมาณสูงกว่าที่ผมโอนเงินไปให้เพื่อนอย่างมาก”
“แปลว่า...?”
“มีใครบางคนกำลังไล่ซื้อหุ้น DMG อยู่ ผมกำลังส่งข้อมูลให้ฝ่ายระบบช่วยเช็กพิกัดอยู่ว่ามาจากไหน”
“สั่งสอนแค่นี้น่าจะพอแล้วไหมคะ” แอนนาถามเชิงหารือขึ้น
อิสซาเบลเงยหน้าจากจอคอมพิวเตอร์ เอนหลังพิงพนักเก้าอี้ในท่าสบายๆ หลังจากคร่ำเคร่งกับการไล่ซื้อหุ้น DMG มาตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ถือเป็นการให้บทเรียนริโก้ค่าที่บังอาจลวนลามเกรย์ในที่สาธารณะ จนกลายเป็นข่าวอื้อฉาวขึ้นหน้าหนึ่งแท็บลอยด์ เธอยังไม่ได้สั่งให้ทนายความแจ้งความ เพราะเดี๋ยวจะกลายเป็นการแหวกหญ้าให้งูตื่น ไอ้ที่ไม่รู้ว่าฝ่ายหญิงเป็นใครก็เป็นได้รู้จากการฟ้องร้องนี่ละ เธอจะรอดูว่าริโก้จะจัดการปัญหาอย่างไร จะปกป้องเกรย์อย่างที่เขาเคยลั่นวาจาไว้เมื่อสามปีก่อนได้หรือไม่ ที่ว่าจะรักและดูแลเกรย์เท่าชีวิต ไม่...เขาไม่ทำอะไรอยู่แล้ว เธอไม่ควรคาดหวังอะไรนัก ไม่เช่นนั้นเมื่อสามปีก่อนหลานรักของเธอคงไม่ซมซานกลับสเปนด้วยสภาพไม่ต่างจากนกปีกหักอย่างนั้น
เมื่อเช้าหลังจากแม่บ้านเอาหนังสือพิมพ์และสื่อสิ่งพิมพ์ต่างๆ มาให้อ่านซึ่งเป็นกิจวัตรประจำวัน ข่าวหน้าหนึ่งของหนังสือพิมพ์แท็บลอยด์ฉบับนั้นก็ทำให้เธอแทบควันออกหู นับแต่สามปีก่อนที่โกรธสุดๆ ในชีวิตก็ไม่เคยมีเหตุการณ์ครั้งไหนที่โกรธเท่าครั้งนี้อีก
ตอนนี้เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเมื่อสองสัปดาห์ก่อน หลานสาวถึงขอไปอยู่กับรีเบคก้าที่เปรูก่อนจะบินไปอเมริกา เกรย์คงกลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์ไม่ดีตามมาหลังจากที่ริโก้ฉวยโอกาสกับเธอ นึกมาถึงตรงนี้อิสซาเบลก็เม้มริมฝีปากแน่น จะโทษหลานสาว
ก็ไม่ถูก ไม่ควรโทษโชคชะตาด้วย คนเดียวที่สมควรรับโทษคือริโก้ เช้านี้เธอจึงระดมพนักงานทั้งหมดที่เก่งด้านไอที บัญชี และตลาดหุ้นมารวมตัวกันในห้องเย็นแห่งนี้เพื่อจัดการกับโดมิงโก
ตอนที่แอนนาเสนอแนวทางการกว้านซื้อหุ้นโดมิงโกตามที่เกรย์เสนอนั้น เธอไม่เห็นดีด้วย เพราะไม่อยากไปเกลือกกลั้วกับโลเปซและเพิ่มสภาพคล่องให้ฝ่ายนั้น แต่พอเห็นข่าวฉาวโฉ่วันนี้ เธอก็คิดว่าทางเดียวที่จะทำให้ฝ่ายนั้นกระอักเลือดอย่างสาสมคือการเทกโอเวอร์กิจการของฝ่ายนั้น เธอจึงสั่งให้แอนนาระดมพนักงานมาช่วยกันไล่ซื้อหุ้นโดมิงโกในบัญชีนอมินีของเธอ
“โดมิงโกอ่านเกมเราออกแล้วครับ เขาเริ่มตั้งซื้อกลับ เอาไงดีครับ” พนักงานไอทีคนหนึ่งเงยหน้าถาม เขาเป็นชาวเกาหลีระดับหัวกะทิจากสถาบันเอ็มไอที
“ตั้งซื้อในราคาที่สูงขึ้นไปอีกห้าเปอร์เซ็นต์”
แอนนาซึ่งนั่งอยู่ข้างๆ อิสซาเบล มองไปยังจอยักษ์ตรงหน้าที่ฉายภาพพอร์ตการลงทุนในบัญชีนอมินีของอิสซาเบลและของเธอในช่องต่างๆ ซึ่งรวมตัวเลขเงินยูโรที่ใช้ไปแล้วในการกว้านซื้อหุ้น DMG คิดเป็นเงิน 8 หลัก
เธอหันไปทางพนักงานที่เก่งด้านบัญชี “ราคาหนึ่งจุดเก้ายูโร ค่าอาร์โออีอยู่ที่เท่าไหร่” เธอหมายถึง Return On Equity (ROE) ซึ่งเป็นอัตราผลตอบแทนผู้ถือหุ้น นั่นคือ กำไรสุทธิหารด้วยส่วนของผู้ถือหุ้น โดยส่วนของผู้ถือหุ้นเท่ากับสินทรัพย์รวมลบด้วยหนี้สินรวม โดยทั่วไปจะใช้อาร์โออีวัดความสามารถของบริษัทในการสร้างผลตอบแทนให้ผู้ถือหุ้น ซึ่งไม่ควรต่ำกว่า 15เปอร์เซ็นต์
พนักงานหันกลับไปคำนวณบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ก่อนเงยหน้าตอบ “15 เปอร์เซ็นต์พอดีครับ”
“แล้วค่าพีอีเรโชล่ะ” แอนนาหมายถึง PE Ratio ที่ย่อมาจาก Price to Earnings Ratio ซึ่งก็คือ อัตราส่วนทางการเงินที่ใช้ในการวัดค่าความถูกหรือแพงของราคาหุ้น เป็นอัตราส่วนระหว่างราคาหุ้นปัจจุบันเทียบกับกำไรต่อหุ้นในสี่ไตรมาสล่าสุด ปกติการตีมูลค่าหรือราคาหุ้นที่เหมาะสมนั้น นักวิเคราะห์มักประเมินจากผลกำไรต่อหุ้นในอีก 1-3 ปีข้างหน้า แล้วคูณกำไรต่อหุ้นในปีก่อนหรือในปีนั้นด้วยค่า PE ที่เหมาะสม แล้วจะได้ราคาเป้าหมายของหุ้นตัวนั้น หุ้นดีไม่จำเป็นต้องมี PE สูง แต่การที่มี PE สูงก็ช่วยลดความเสี่ยงไปได้
“ไม่ค่อยสูงครับ คำนวณแล้วต่ำกว่า 18 เท่า”
“อยู่ที่เท่าไหร่”
“คาดการณ์น่าจะแค่สิบเท่าครับ”
“ต่ำมาก” แอนนาพึมพำก่อนหันมาทางมารดา “เริ่มสุ่มเสี่ยงแล้วค่ะ เราควรหยุดการตั้งซื้อแค่นี้ดีไหมคะ ตอนนี้ค่าอาร์โออีกำลังจะต่ำกว่า 15 เปอร์เซ็นต์ ส่วนพีอีก็แค่สิบเท่า ถ้าลงทุนไป เราอาจเสี่ยงต่อการเรียกทุนคืน อีกอย่างตอนนี้เราลงเงินไปเกือบ 90 ล้านยูโรแล้ว แอนว่ามันมากพอแล้วสำหรับโดมิงโก เราจะได้ไม่คุ้มเสียนะคะ”
“ขออีกนิด แม่อยากให้เขาไล่ซื้อกลับในราคาที่สูงขึ้นอีกหน่อย”
เกมห้ำหั่นทางตลาดหุ้นด้วยการซื้อขายบนกระดานดำเนินต่อไปอย่างดุเด็ดเผ็ดมัน มีการตั้งซื้อและตั้งขายเพื่อไล่ทำราคา กระทั่งผู้ลงทุนรายย่อยที่เป็นแมงเม่ากระโดดเข้าร่วมด้วย ทำให้ฝุ่นตลบยิ่งขึ้น ฉุดให้ราคา DMG วิ่งสูงขึ้นไปอีก จนโดมิงโกต้องซื้อหุ้นกลับในราคา 2.3 ยูโร อิสซาเบลจึงส่งสัญญาณมือให้หยุดซื้อ ถึงตอนนี้ราคาหุ้นของ DMG พุ่งขึ้นไปกว่า 150 เปอร์เซ็นต์เมื่อเทียบกับเช้านี้ที่เปิดตลาดด้วยราคาติดลบ สิ้นสุดเกมนี้อิสซาเบลใช้เงินไปกว่า 160 ล้านยูโร เบ็ดเสร็จได้หุ้นโดมิงโกมาถือในมือในบัญชีนอมินีของเธอกับแอนนาเกือบ 100 ล้านหุ้น
กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. สหรัฐอเมริกา
เกรย์วางสายจากแอนนาด้วยความตงิดๆ ในใจ เมื่อคืนอิสซาเบลก็โทร. หาเธอแล้วรอบหนึ่ง เช้านี้แอนนาก็โทร. มาอีก และอ้ำอึ้งราวกับอยากพูดอะไร แต่ก็ไม่พูด ลางสังหรณ์บอกว่าคงไม่แคล้วเรื่องของริโก้ ก่อนวางสายแอนนาย้ำให้เธอจัดการกับข้าวของที่ส่งมาให้ทางเฟดเอกซ์
เธอมาถึงอเมริกาสองวันแล้ว สัมภาระต่างๆ ที่แอนนาส่งตามหลังมาให้เพิ่งมาถึงเมื่อวาน วันนี้ตั้งใจว่าจะเคลียร์ข้าวของเหล่านั้น ก่อนที่แอนนาจะเดินทางมาถึงในเร็วๆ นี้เพื่อร่วมงานเลี้ยงคืนสู่เหย้าของสมาคมศิษย์เก่าจอร์จทาวน์
อิสซาเบลยืนกรานว่าจะต้องมีบ้านเป็นหลักแหล่ง ไว้รองรับฝ่ายนั้นกับแอนนาเวลามาเยี่ยมเธอที่อเมริกา ระหว่างที่เธออยู่เที่ยวเปรูเป็นการสั่งลากับรีเบคก้า อิสซาเบลประสานบริษัทนายหน้าทางนี้ให้จัดหาวิลลาพร้อมสระว่ายน้ำที่สะดวกสบายให้ เมื่อเธอมาถึงกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ทุกอย่างจึงเรียบร้อยแล้ว บ้านพักของเธอเป็นวิลลาหรูสองชั้นรูปตัวแอล มีสระน้ำอยู่ด้านหลัง รอบบ้านล้อมรอบด้วยต้นไม้น้อยใหญ่ไม่ต่างจากรั้วเพื่อกั้นสายตาจากเพื่อนบ้าน ภายในมีห้องหับต่างๆ แยกเป็นสัดส่วน มีห้องฟิตเนส ห้องเก็บไวน์ และห้องสมุดด้วย
เกรย์นอนแช่น้ำอุ่นเพื่อผ่อนคลายกล้ามเนื้อ ก่อนจะลงมาชั้นล่างในเกือบชั่วโมงต่อมา ข้าวของที่แอนนาส่งมาให้มีทั้งหมด ห้าลัง เธอรื้อลังแรกที่อยู่ใกล้ตัวที่สุด บนลังเขียนด้วยปากกาเมจิกว่าข้างในมีตั้งแต่หนังสือเอ็มบีเอ หนังสือเตรียมสอบจีแมทที่ประกอบด้วยวิชาคณิตศาสตร์ ภาษาและการเขียนเรียงความ หนังสือการออกแบบแฟชั่น คู่มือการท่องเที่ยวในอเมริกา ไปจนถึงนวนิยายแนวไซไฟเล่มโปรด แล้วเกรย์ก็ชะงักเมื่อพบสมุดไดอะรีแปลกตาขนาดเท่าฝ่ามือ
ดาโกตา...ถ้าเธอได้อ่านไดอะรีเล่มนี้ จงรู้ไว้ว่าสถานการณ์เข้าขั้นล่อแหลมแล้ว จงเลี่ยงผู้ชายที่ชื่อว่า ริโก้ โดมิงโก เขาเป็นตัวอันตรายที่สุด จงอย่าไปพัวพัน อย่าเอาชีวิตเข้าไปในวงโคจรเขาเด็ดขาด จงจำเอาไว้ อยู่ห่างจากเขาให้มากที่สุด และขอให้ฟังอิสซาเบลและแอนนา จะได้ไม่เจ็บปวดปางตายอีก
ดาโกตา ซานโต้
15.12.2016
เกรย์ขมวดคิ้ว ลายมือหวัดแกมบรรจงเขียนเป็นภาษาสเปน มองปราดเดียวก็ดูออกว่าเป็นลายมือเธอเอง เธอรู้สึกมึนงง ยิ่งเมื่อพาดพิงถึงชื่อ ริโก้ โดมิงโก แถมขีดเส้นใต้ที่ชื่อเขาด้วย แปลว่าเมื่อสามปีก่อนเธอเคยรู้จักริโก้อย่างนั้นหรือ แล้วข้อความปริศนา จงอย่าพัวพัน อย่าเอาชีวิตเข้าไปในวงโคจรเขา หมายความว่าอะไร แปลว่าเธอพยายามย้ำเตือนตัวเองให้อยู่ห่างจากเขาเพราะรู้ว่าประวัติศาสตร์จะกลับมาซ้ำรอยอย่างนั้นหรือ เกรย์ถามตัวเองอย่างไม่เข้าใจนัก เมื่อเปิดไปหน้าอื่นๆ ก็ไม่พบข้อความใดๆ อีก เกรย์รู้สึกมืดแปดด้านที่ไม่อาจไขปริศนานั้นได้
ริโก้แหงนหน้ารับสายน้ำจากฝักบัวหลังนอนแช่น้ำอุ่นจนผ่อนคลายแล้ว เขากลับมาฝันถึงสาวน้อยปริศนารายนั้นอีกแล้วหลังจากว่างเว้นไปหนึ่งสัปดาห์ ความฝันหยุดตรงที่เธอกวักมือชวนเขาอาบน้ำ เดาว่าเพราะเช้านี้เขามีนัดกับจิตแพทย์ ความฝันเดิมๆ เลยกลับมา แล้วความคิดของริโก้ก็วนเวียนไปยังเหตุการณ์ฟาดฟันกับอิสซาเบลบนกระดานหุ้น ฝ่ายระบบแจ้งว่าพิกัดของการโหมซื้อหุ้นโดมิงโกมาจากที่ตั้งของบริษัทซานโต้ นั่นทำให้เขาต้องเปิดหน้าชนด้วยการตั้งซื้อกลับในนามของตัวเอง และเมื่อจบเกมนั้นเขาเป็นฝ่ายเจ็บตัวเพราะซื้อหุ้นกลับมาในราคาที่ค่อนข้างแพง ทางเดียวที่จะกอบกู้สถานการณ์ได้คือต้องทำให้ผลประกอบการของโดมิงโกเติบโตอย่างมั่นคงและอย่างยั่งยืนเพราะราคาที่เขาไล่ซื้อ วิ่งนำผลประกอบการของโดมิงโกไปหลายช่วงตัวแล้ว
เมื่อเช้าระหว่างวิ่งจ็อกกิงเขาพยายามขบคิดว่าทำไมอิสซาเบลถึงอยากถือหุ้น DMG แล้วริโก้ก็ชะงักเมื่อความคิดอะไรบางอย่างผุดขึ้นมาในหัว ก่อนเดินไปหยิบโทรศัพท์โทร.หาพนักงานฝ่ายตลาดหุ้น
“สวัสดีครับคุณริโก้” ฝ่ายนั้นทักทายมา
“ขอโทษที่โทร. มากวนแต่เช้า”
“ไม่เป็นไรครับ มีอะไรด่วนหรือเปล่าครับ”
“ช่วยเช็กให้หน่อยว่าหุ้น DMG ที่ถือโดยนอมินีมีปริมาณเท่าไหร่”
“ต้องใช้เครื่องที่บริษัทครับ เดี๋ยวผมไปถึงบริษัทแล้วจะเร่งมือให้ครับ”
“ขอบคุณมาก เช็กต่อด้วยว่าในบัญชีนอมินีที่คาดว่าน่าจะเป็นคนของซานโต้ถืออยู่ ถืออยู่ในสัดส่วนเท่าไหร่ แล้วก็จัดการซื้อหุ้น ST ในสัดส่วนที่เท่ากันนั้นให้ผม”
“ได้ครับ แต่หุ้น ST ราคาค่อนข้างสูง ถ้าซื้อคราวละมากๆ ผมว่าเราซื้อนอกกระดานดีกว่าไหมครับ”
“ถ้าซื้อนอกกระดาน คุณทำได้ดีแค่ไหน”
“พูดตามสัตย์จริง ไม่มีใครทำได้ดีกว่าคุณริโก้ครับ”
“งั้นคุณจัดการเท่าที่ทำได้ ที่เหลือค่อยว่ากัน”
“ได้ครับ แล้วคุณริโก้จะซื้อในนามบริษัทหรือชื่อตัวเองครับ”
“ขอเป็นนอมินี”
“ได้ครับ”
ริโก้วางสายแล้วหันมาเห็นบาร์เดนกำลังหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนหนึ่งออกมาวางเคียงข้างผ้าเช็ดหน้าอีกผืนที่วางอยู่บนสูท หมอนี่ชักรู้ใจเขามากเกินไปแล้ว มากจนน่าเตะ ริโก้นึกอย่างหมั่นไส้ แต่ในคราวเดียวกันก็อดขอบคุณไม่ได้ เพราะครั้งใดที่เขาคิดถึงเกรย์ เขามักหยิบผ้าเช็ดหน้าของเธอมาดูต่างหน้า
บาร์เดนหันมาโค้งศีรษะเมื่อวางชุดพาดขอบเตียงไว้แล้ว “คุณซอนย่ามารออยู่ชั้นล่างนะครับ เธอรอทานมื้อเช้ากับคุณรีค”
“มานานแล้วหรือ”
“สักครู่แล้วครับ ตอนนี้กำลังอ่านหนังสือพิมพ์รอ”
ริโก้พยักหน้า “เช้านี้ฉันจำไม่ได้ว่ามีนัดกับเธอ รู้แต่มีนัดกับจิตแพทย์”
“จะให้ผมลงไปเรียนอะไรเธอไหมครับ”
“ไม่ต้อง เดี๋ยวฉันจัดการเอง”
บาร์เดนออกจากห้องไปแล้ว ริโก้จึงเดินไปหยิบผ้าเช็ดหน้าที่ปักขอบด้วยลายลูกไม้ขึ้นมาพินิจ มุมหนึ่งมีตัวอักษร G ที่ปักด้วยไหมสีขาว กลิ่นของน้ำหอมซึ่งเป็นกลิ่นประจำกายเธอหายไปนานแล้วนับแต่เขาส่งร้านซักรีด กระนั้นก็ยังให้ความรู้สึกแช่มชื่น เขาไม่รู้ว่าควรจะด่าหรือขอบคุณปาปารัซซีดีที่ทำให้เขามีภาพความทรงจำดีๆ เก็บไว้ เขาสั่งให้อเล็กซ์ตัดภาพนั้นจากหนังสือพิมพ์ใส่กรอบ เอามาแขวนไว้เหนือหัวเตียง
ยังบลัดคุมโดมิงโก...
นี่คือพาดหัวสกูปในนิตยสารชื่อดังฉบับหนึ่งของสเปนซึ่งมีทั้งเวอร์ชันภาษาอังกฤษและภาษาสเปน และมีวางจำหน่ายมากที่สุดในยุโรป ถัดจากพาดหัวเป็นมติในการประชุมของคณะกรรมการบริหารโดมิงโกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ที่ให้ริโก้ทดลองบริหารงานในตำแหน่งซีอีโอหกเดือนพร้อมด้วยเงื่อนไข สื่อระบุถึงราคาหุ้น DMG ที่พุ่งทะยานถึง 150 เปอร์เซ็นต์ เกือบแตะเพดานหุ้นตอบรับข่าวริโก้ก้าวสู่ตำแหน่งซีอีโอ แล้วยังกล่าวถึงภูมิหลังของริโก้ตั้งแต่ชีวิตวัยเด็ก ตบท้ายด้วยการสรุปว่าริโก้กำลังถูกจับตามอง ไม่ใช่แค่เพราะรูปร่างหน้าตา ฐานะ ชาติตระกูล และการศึกษา แต่ด้วยความสามารถโดดเด่นที่กำลังถูกท้าทายโดยตำแหน่งซีอีโอโดมิงโก ซึ่งทำให้เขาเหมาะกับฉายา ‘เทพบุตรเจ้าเสน่ห์’
“มอร์นิงที่รัก” ซอนย่าวางนิตยสารแล้วทักทายพร้อมอ้าแขนออกเมื่อริโก้เดินมาถึงโต๊ะอาหาร
“มอร์นิงครับ” ริโก้สวมกอดเธอหลวมๆ แล้วแนบแก้มกับเธอทั้งซ้ายและขวา ก่อนเดินไปนั่งตรงข้ามกับเธอ ขณะที่บาร์เดนเริ่มเสิร์ฟอาหารพร้อมเครื่องดื่ม
ซอนย่าค่อยๆ หุบปากที่ทำปากจู๋รอจูบเขา ริโก้เปลี่ยนไปจนเธอรู้สึกได้ ปกติเขาต้องจูบดูดดื่มทักทาย แต่เช้านี้เขาแค่แนบแก้มทักทายอย่างเพื่อน เธอจึงหัวเราะด้วยเสียงกร่อยๆ
“ยินดีกับตำแหน่งซีอีโอด้วยนะคะ” วันนี้สื่อทุกแพลตฟอร์มทั้งสิ่งพิมพ์และออนไลน์พร้อมใจกันเขียนถึงเขา ริโก้ขึ้นหน้าหนึ่งหนังสือพิมพ์และแท็บลอยด์นับแต่วันแรกที่บอร์ดบริหารมีมติแต่งตั้งเขาเป็นซีอีโอ จากนั้นสื่อก็พูดถึงเขาเป็นระยะๆ แม้จะเป็นแค่การทดลองงาน แต่ทุกคนรู้ดีว่ากำลังจะเกิดการเปลี่ยนแปลงในวงการธุรกิจสเปน โดยเฉพาะในแวดวงเสื้อผ้าแฟชั่น
“แค่ทดลองงาน รออีกหกเดือนค่อยแสดงความยินดีดีไหม” ริโก้หยิบขนมปังมาทาเนย ก่อนบิเข้าปาก
“แหม ฝีมือระดับคุณแล้วไม่มีวันพลาดหรอกค่ะ”
ริโก้แค่ยิ้มรับ “เช้านี้มีอะไรน่าสนใจบ้าง” เขามองกองหนังสือพิมพ์ แท็บลอยด์ และนิตยสารที่วางอยู่บนโต๊ะ
“มีแต่ข่าวคุณ ลงข่าวเหมือนๆ กัน พูดถึงประวัติก่อนก้าวขึ้นมาเป็นว่าที่ซีอีโอ อ้อ...มีฉบับหนึ่งแหลมมาเรื่องผู้หญิงที่คุณกำลังตามคั่วอยู่”
“ฉบับไหน”
ซอนย่าค้นสิ่งพิมพ์ที่วางอยู่ข้างๆ แล้วเลื่อนแท็บลอยด์ฉบับหนึ่งไปตรงหน้าเขา
ริโก้คว้าไปอ่านอย่างรวดเร็ว ในข่าวแพลมถึงผู้หญิงรายล่าสุดที่เขาคบหา เป็นเด็กสาวหน้าตาสะสวย โลว์โพรไฟล์ แต่เป็นทายาทของตระกูลใหญ่โตและเก่าแก่ ริโก้วางแท็บลอยด์ลงบนโต๊ะ เดาว่าหนึ่งในกรรมการบริหารโดมิงโกเป็นคนให้ข้อมูล
“เมื่อไหร่เอ่ยชื่อเกรย์ ผมฟ้องแน่”
ซอนย่าจ้องเขา “คุณรู้หรือเปล่าว่าคุณเปลี่ยนไป ก่อนนี้คุณไม่เคยแยแสข่าวพวกนี้ โอเคคุณรำคาญ มองว่าข่าวพวกนี้ไม่ต่างจากแมลงที่คอยตามรังควาน คอยรุกล้ำความเป็นส่วนตัว แต่คุณก็ไม่เคยเก็บมาใส่ใจ อย่างดีก็แค่ยักไหล่แล้วทำเป็นมองไม่เห็น แต่วันนี้ดูสิ คุณฟ้องสื่อดะทุกฉบับที่เล่นข่าวเด็กคนนั้น”
“เพิ่งแค่ฉบับเดียวที่ฟ้องไป” ริโก้บอกหน้าตาเฉย
“แต่จะตามมาอีกหลายฉบับถ้าฉบับไหนพาดพิงเด็กคนนั้น”
ริโก้ไหวไหล่ “เมื่อไหร่ที่ผมต้องการความเห็นจากคุณ ผมจะบอกแล้วกัน”
ซอนย่าสะอึก หน้าม้าน “คุณหลงเด็กนั่นหัวปักหัวปำ หลงจนโงหัวไม่ขึ้นรู้ตัวหรือเปล่า”
ริโก้วางส้อมกับมีด คว้าผ้ามาซับปากก่อนยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม เป็นสัญญาณว่าจบอาหารมื้อเช้าแค่นั้น “ผมว่าคุณกำลังล้ำเส้น ผมไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์การใช้ชีวิตส่วนตัวของคุณ และผมก็อยากได้ความเคารพแบบเดียวกันกลับมาเหมือนกัน”
“คุณรีคอยากแวะทานอาหารมื้อเช้าก่อนเข้าคลินิกไหมครับ” บาร์เดนเหลือบตามองผู้เป็นนายทางกระจกส่องหลังซึ่ง
ริโก้ซึ่งกำลังฟังเพลงจากเครื่องเล่นเอ็มพีสามผ่านบลูทูทตอบโดยไม่ลืมตา “ไม่ ไปคลินิกเลย”
“แต่...” บาร์เดนไม่มีโอกาสพูดมากกว่านั้นเมื่อเสียงโทรศัพท์ของริโก้ดังขึ้น
“ว่าไงอเล็กซ์”
“นักสืบส่งข้อมูลเบื้องต้นของคุณเกรย์มาให้แล้วนะคะ ดิฉันฟอร์เวิร์ดไปที่เมลคุณแล้ว”
ริโก้ขยับตัวนั่งตรง ตั้งใจฟังเต็มที่ “พอจะสรุปคร่าวๆ ให้ผมก่อนได้ไหม ผมยังไม่สะดวกเช็กเมล”
“ได้ค่ะ คุณพ่อของคุณเกรย์ชื่อว่า อลัน หารพิทักษ์ เป็นทายาทของตระกูลหารพิทักษ์ ซึ่งเป็นเจ้าของโรงแรมในเครือหารพิทักษ์ที่มีอยู่ทั่วเอเชีย”
“ไม่ธรรมดาสินะ” ริโก้พึมพำ
“เขาถือหุ้น ST อยู่ในมือด้วยค่ะ”
“อะไรนะ!”
อเล็กซ์ย้ำ “อลันถือหุ้น ST ของซานโต้ในสัดส่วนที่สูงเป็นลำดับต้นๆ ของรายนามผู้ถือหุ้นค่ะ”
“น่าสนใจ แล้วไงต่อ”
“เขามีลูกที่เกิดจากภรรยาชาวไทยที่จดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมายสี่คน ชายสองหญิงสอง และยังมีหลานกำพร้าของฝ่ายภรรยาที่เขารับมาอุปการะเป็นลูกบุญธรรมอีกคน คุณเกรย์เป็นลูกนอกสมรสของอลันกับแอนนา แต่อลันก็จดทะเบียนรับรองเป็นบุตรอย่างถูกต้องตามกฎหมาย อลันรับเธอเป็นทายาทสืบสันดานนับแต่อายุไม่กี่ขวบ”
นั่นตรงกับข้อมูลที่เกรย์เคยเล่า
อเล็กซ์บอกต่อว่า “ส่วนลูกๆ ของอลันมีชื่อตามนี้ค่ะ” อเล็กซ์ไล่เลียงรายชื่อทีละชื่อจนมาถึงชื่อบุตรบุญธรรมของอลันซึ่งสะดุดหูเขา
“รพี หารพิทักษ์?” ริโก้ทวนคำ
“ค่ะ อลันรักไม่ต่างจากลูกแท้ๆ เขาส่งเสียเลี้ยงดูอย่างดี รพีจบปริญญาตรีจากฮาร์วาร์ด ปริญญาโทจากจอร์จทาวน์ ไม่รู้คุณกับเขาจะรู้จักกันหรือเปล่าเพราะดูเหมือนจะจบปีเดียวกัน”
ริโก้จำไม่ได้แล้วว่ารพีนามสกุลอะไร เห็นทีต้องถามมาร์ติน แล้วชายร่างสูงโปร่งผิวสองสี หน้าตาคมสันอย่างชาวเอเชียก็ปรากฏขึ้นในความทรงจำ รพีเป็นเพื่อนในกลุ่มที่เขาสนิทด้วยน้อยที่สุดเนื่องจากไลฟ์สไตล์ไม่ตรงกัน สมัยอยู่อเมริกาเขาชอบเฮฮาปาร์ตี เที่ยวผับบาร์เพื่อล่าสาวๆ มานอนด้วย แต่รพีชอบกิจกรรมอาสาสมัครและกีฬาผาดโผน เลยไม่ค่อยได้สนิทกันนัก
“ผมมีเพื่อนในกลุ่มชื่อรพีมาจากเมืองไทยเหมือนกัน เดี๋ยวผมค่อยเช็กกับเพื่อนอีกทีว่าใช่รพีคนเดียวกันไหม แล้วยังไงต่อ เรื่องที่ผมอยากรู้มากที่สุดตอนนี้ เกรย์อยู่ที่ไหน มีเบอร์โทร. กับที่อยู่เธอไหม”
อเล็กซ์หัวเราะ “ใจร้อนจริงๆ บอสเรา ฟังต่อนะคะ คุณเกรย์มีเพื่อนสนิทชื่อว่ารีเบคก้า เป็นชาวอเมริกัน ไปเรียนที่เปรู ก่อนนี้ที่นักสืบใช้เวลานานเพราะต้องหาเด็กสาวๆ ที่อายุรุ่นราวคราวเดียวกันไปฝังตัวอยู่ที่เปรูเพื่อเข้าทางรีเบคก้า หาทางตีซี้แล้วปรากฏว่าช่วงที่บริษัทส่งคนไปติดตามรีเบคก้า คุณเกรย์ก็บินไปหาเพื่อนที่ลิมาพอดีค่ะ”
“จะบอกว่าเกรย์อยู่ลิมาตอนนี้หรือ” อย่างที่เขาเดา เกรย์ไม่อยู่มาดริดจริงๆ แต่แม้จะรู้แบบนี้ ทุกครั้งที่เขาไปค้างกับโลเปซก็มักไปจ็อกกิงในสวนสาธารณะในที่เคยเจอเธอ หรือไม่ก็ไปจ็อกกิงในสวนสาธารณะย่านซานโต้อยู่บ่อยครั้ง
“ไม่ค่ะ คุณเกรย์ออกจากลิมาได้อาทิตย์กว่าๆ แล้ว ตอนนี้เธออยู่วอชิงตัน ดี.ซี. ค่ะ”
“ดี.ซี.?” ริโก้ย่นหัวคิ้ว “เธอไปทำอะไรที่อเมริกา”
“คุณเกรย์ไปเตรียมตัวเรียนต่อปริญญาโทที่นั่นค่ะ ข้อมูลที่ได้จากรีเบคก้าคือพวกเธอกำลังจะสมัครเรียนที่จอร์จทาวน์ คุณเกรย์จบปริญญาตรีสามปีครึ่งเลยมีเวลาเตรียมตัวนานหน่อย อิสซาเบลส่งเธอไปอยู่ที่นั่นเพื่อเตรียมตัวก่อนสมัครเรียน ส่วนรีเบคก้าจะตามไปปลายปีนี้”
“เดี๋ยวๆ อีกเกือบปีกว่าที่จอร์จทาวน์จะเปิดรับสมัครนักศึกษาใหม่” ริโก้เดาได้เลยว่าอิสซาเบลจงใจส่งเกรย์ไปอยู่ไกลจากเขา เท่ากับเกรย์ต้องอยู่อเมริกาปีกว่าๆ ก่อนที่มหาวิทยาลัยจะเปิดเรียน
“นัยว่าอิสซาเบลกับแอนนาต้องการให้เธอได้มีเวลาปรับตัวกับการใช้ชีวิตที่นั่น ประเด็นคือหลังจากคุณเกรย์แยกกับรีเบคก้าที่สนามบินลิมาแล้ว เธอก็บินต่อไปยังอเมริกาโดยที่นักสืบก็บินตามคุณเกรย์ไปด้วย”
“พระเจ้า...” หัวใจริโก้พองโต “แปลว่าเราได้ที่อยู่เกรย์แล้วใช่ไหม”
“ใช่ค่ะ เราได้พิกัดของวิลลาในวอชิงตัน ดี. ซี. แล้ว และที่พิเศษกว่านั้น รีเบคก้ายอมให้เบอร์โทร. เธอมาด้วยค่ะ และตอนนี้นักสืบยังคงเฝ้าติดตามเธออยู่ที่อเมริกา อ้อ...ในอีเมลที่ดิฉันฟอร์เวิร์ดให้มีที่อยู่และเบอร์โทร. ของคุณเกรย์ด้วยนะคะ”
“เยี่ยมมาก ขอบคุณมากอเล็กซ์ คุณกับนักสืบทำงานได้ดีมาก บอกนักสืบให้ถอยออกมา ไม่ต้องตามเธอแล้ว บอกให้ไปตามเพื่อนเธอที่ลิมาแทน เดี๋ยวผมจะบินไปหาเกรย์เอง คุณช่วยจองไฟลต์ไปอเมริกาให้ผมเร็วที่สุด ถ้าไม่ได้พรุ่งนี้ก็ขอเป็นมะรืนเลย”
“เดี๋ยวๆ นะคะ คุณรีคเรียกประชุมบอร์ดบริหารนัดพิเศษวันมะรืนนี้นะคะ”
ริโก้ครางในลำคอพลางผ่อนลมหายใจ “จริงด้วย ผมลืมเสียสนิท งั้นให้นักสืบตามเกรย์ต่อไป แต่ขอให้ตามห่างๆ อย่าให้เธออึดอัดหรือผิดสังเกต รอจนกว่าผมจะไปถึงที่นั่นแล้วค่อยถอยออกมา อ้อ...ผมรบกวนอะไรอย่างอเล็กซ์”
“อะไรคะ”
“ช่วยติดต่อร้านเพชร...” ริโก้เอ่ยชื่อร้านเพชรที่ใหญ่ที่สุดในสเปน ซึ่งเขาสั่งทำเครื่องประดับเข้าชุดกันโดยสลักตัวอักษร R และ D ทำสัญลักษณ์ให้เหมือนรอยสักที่หลังต้นคอเกรย์ ชายหนุ่มย้ำว่าให้ได้เร็วที่สุด ต้องจ่ายเท่าไรไม่ว่า ขอให้ได้ก่อนบินไปหาเธอ