บทนำ
ชายหนุ่มมองร่างบางที่หลับใหลไปด้วยความเหนื่อยอ่อนอย่างพิจารณา
ใบหน้าหวานละมุนของเธอสะดุดตาเขาตั้งแต่แรกเห็น ผิวแก้มใสแดงระเรื่ออย่างน่ารัก ริมฝีปากสีชมพูเย้ายวนจนนึกอยากก้มลงไปครอบครอง ทว่าสิ่งที่ขัดใจเขาที่สุดคงจะเป็นดวงตาคู่สวยที่หลับใหลอยู่ภายใต้เปลือกตาที่ปิดสนิทนั้น
แววตาทุกข์ระทมที่ทำให้เขาตัดสินใจฝืนความรู้สึกต่อต้านในใจ แล้วเดินเข้าไปหยุดตรงหน้าเธอ
ร่างสูงถอนหายใจยาวอย่างไม่เข้าใจ อะไรทำให้คนที่ควบคุมตัวเองได้ดีอย่างเขายอมให้เธอลากเข้ามาในห้องนี้ได้ ทว่าความรู้สึกร้อนวูบวาบผสมกับสติสัมปชัญญะที่ขาดหายเป็นห้วงๆ ก็ทำให้ชายหนุ่มทรุดนั่งบนเตียงด้วยท่าทางอึดอัด เม็ดเหงื่อผุดตามใบหน้าราวกับเพิ่งผ่านการออกกำลังกายมาอย่างหนัก
ร้อน...ร้อนไปหมดทั้งตัว
นี่มันเกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่
ชายหนุ่มคว้าขวดน้ำที่อยู่ข้างเตียงมาดื่มจนหมดแล้วหลับตาลงเพื่อเรียกสติ เม็ดเหงื่อเกาะพราวระยับเต็มใบหน้าทั้งที่อากาศในห้องเย็นสบาย ความรู้สึกที่เกิดขึ้นตอนนี้เกิดจากบรั่นดีชั้นดีที่บริกรที่บาร์เตรียมให้ไม่ผิดแน่ ทว่าทำไมฤทธิ์ของมันถึงได้รุนแรงเช่นนี้
หรือว่า...
ร่างสูงผุดลุกจากเตียงเข้าไปในห้องน้ำ แล้วเปิดน้ำฝักบัวรดหัวตัวเองดับความร้อนที่ระอุไปทั่วทั้งกาย ความรู้สึกบางอย่างกำลังตื่นตัวอย่างเรียกร้องและรุนแรง ทว่าเขาจะไม่ยอมปล่อยให้ยานรกนี่มามีอิทธิพลต่อตนเองเด็ดขาด
ชายหนุ่มปิดฝักบัว ดึงผ้าขนหนูที่พับอย่างเรียบร้อยบนชั้นวางมาเช็ดหัวแล้วเดินกลับไปยังห้องนอน ทว่าแทนที่จะเห็นร่างเล็กนอนหลับใหลอยู่ กลับกลายเป็นว่าเธอกำลังกุมหัวแล้วมองมาที่เขาด้วยสายตางุนงง
“ตื่นแล้วเหรอคุณ ดื่มน้ำสักหน่อยจะได้ดีขึ้น” ร่างสูงพูดแล้วเอี้ยวตัวไปหยิบเหยือกน้ำที่อยู่บนโต๊ะข้างเตียงมาเทน้ำอุ่นใส่แก้วส่งให้เธอ
“คุณ...เป็นใคร” หญิงสาวถามตะกุกตะกัก พยายามยันกายลุกขึ้นนั่งโดยไม่ละสายตาจากอีกฝ่าย “แล้วคุณ...พาฉันมาที่นี่ทำไม”
“คุณต่างหากที่เป็นคนพาผมมา ดื่มน้ำสิครับ จะได้สร่างเมา”
ร่างบางมองอีกฝ่ายด้วยแววตาหวาดหวั่น งุนงงกับคำพูดประหลาดของเขา ทว่าพอเห็นสายตาทรงอำนาจที่มองมา ก็ยอมรับแก้วน้ำมาแต่โดยดี
“ผมไม่ได้ใส่อะไรลงไปในนั้น ไม่ต้องกลัวว่าผมจะมอมยาคุณหรอก ผมไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้น”
แม้คำพูดของชายหนุ่มจะดูเย่อหยิ่ง แต่ใบหน้าหล่อเหลาคมคายราวกับเทพบุตร แถมด้วยรูปร่างสมส่วนไม่ต่างจากนายแบบนิตยสารก็ยืนยันได้ว่า ต่อให้เขาไม่มอมยาใคร ก็คงพาผู้หญิงกลับด้วยได้ไม่ยากนัก
ช่างมั่นใจในตัวเองเหลือเกิน
“คุณโอเคขึ้นหรือยังครับ” ชายหนุ่มถามเสียงนิ่งพลางเลื่อนผ้าห่มขึ้นมาคลุมร่างเล็กให้อย่างอ่อนโยน ไม่เข้าใจเลยว่าอะไรทำให้เขามานั่งอยู่ในห้องสวีตของโรงแรมสองต่อสองกับเธอแบบนี้ได้ ถึงจะรู้ดีว่าสภาพร่างกายของตัวเองไม่ปกติเพราะอะไรบางอย่างที่อยู่ในเครื่องดื่มที่เพิ่งดื่มไปตอนเย็น แต่เขาก็ไม่คิดว่าตัวเองจะเสียการควบคุมได้มากขนาดนี้
ชายหนุ่มสูดลมหายใจลึกอย่างระงับอารมณ์ วันนี้เขามีนัดกับใครบางคนที่โรงแรมแห่งนี้เพื่อคุยธุระสำคัญ ทว่าอีกฝ่ายไม่ยอมมาตามนัด แถมยังหลอกให้เขากินยาปลุกเซ็กซ์แล้วขึ้นไปบนดาดฟ้าของโรงแรม จนได้พบกับหญิงสาวที่มีแววตาเศร้าสร้อยยิ่งกว่าแสงดาวในยามค่ำคนนี้
ผู้หญิงที่ทำให้หัวใจของเขาสั่นสะท้านทันทีที่ได้สบตากัน
“ฉัน...ไม่เป็นไร”
“แล้วคุณขึ้นไปทำอะไรบนดาดฟ้าครับ”
เป็นคำถามที่ทำให้มือบางกำแก้วน้ำแน่นราวกับจะบีบให้แตกคามือ บทสนทนาก่อนหน้านี้ระหว่างเธอกับใครบางคนฉายชัดเข้ามาในหัว แม้จะพยายามควบคุมอารมณ์โกรธแค้นที่คุกรุ่นไว้ภายใน แต่สุดท้ายก็ไม่อาจซ่อนความเจ็บปวดในสีหน้าได้อยู่ดี
‘ฉันไม่ต้องการข้อเสนออะไรทั้งนั้น ฝากคุณไปบอกเขาด้วย’
‘คุณท่านยังไม่หยุดความพยายามหรอกนะครับ’
‘งั้นฝากไปบอกท่านของคุณด้วยว่าพยายามไปก็เท่านั้น ฉันจะทำทุกอย่างเพื่อให้แน่ใจว่าเขาจะไม่มีวันได้สิ่งที่เขาต้องการ’
แววตาเจ็บแค้นของอีกฝ่ายทำให้ชายหนุ่มยื่นมือไปดึงแก้วออกจากมือบางอย่างนุ่มนวล มือหนาประคองใบหน้าของคนตัวเล็กให้หันมาสบตากัน แล้วไล้ปลายนิ้วเช็ดน้ำตาที่ไหลรินอาบแก้มนวลให้อย่างอ่อนโยน
“อย่าร้องไห้”
หญิงสาวมองสบดวงตาสีดำสนิทของคนตรงหน้า แม้สีหน้าของอีกฝ่ายจะเรียบเฉย แต่เธอกลับสัมผัสได้ถึงความห่วงหาและอาทร ความเห็นใจที่ได้รับจากคนแปลกหน้าทำให้น้ำตาที่ควรเหือดแห้งไหลรินไม่หยุด ทั้งที่คิดว่าตัวเองเป็นคนเข้มแข็ง ไม่อ่อนไหวกับอะไรง่ายๆ แต่ความจริงกลับไม่เป็นเช่นนั้นเลย
และก่อนที่เธอจะคาดคิด ริมฝีปากหยักได้รูปก็ขยับลงมาทาบทับเปลือกตาของเธอ
ความคิดเห็น |
---|