บทที่ ๑
เปิดซิง!
ความรู้สึกแบบนี้คืออะไรกัน
ร่างกายที่เคยหนักอึ้งเบาหวิวอย่างประหลาด ทุกข์ที่เกาะกุมหัวใจก็เบาบางลง ความรู้สึกอ่อนล้าตลอดทั้งวันจางหาย แทนที่ด้วยความวาบหวามและน่าหลงใหล และที่แย่ที่สุดคือเธออยากหยุดช่วงเวลานี้ไว้ตลอดไปเหลือเกิน
สัมผัสแผ่วเบาค่อยๆ ไล่ลงมาเรื่อยๆ ตั้งแต่เปลือกตา ปลายจมูก จนมาถึงผิวแก้ม ราวกับทุกอณูบนใบหน้าถูกครอบครองด้วยริมฝีปากร้อนจัดของเขา จนในที่สุดก็ไม่เหลือหยดน้ำตาบนผิวหน้าอีกต่อไป
“คุณ...” หญิงสาวพูดไม่ออก มองแววตาล้ำลึกของคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ สายตาของเขาสะกดให้เธออยู่ใต้อำนาจจนไม่อาจละสายตาไปได้ ใบหน้าคมคายที่โน้มลงมาอีกครั้งจนรับรู้ได้ถึงลมหายใจอุ่นทำให้ความร้อนรุ่มเกาะกุมไปทั้งร่าง “ทำไมคุณถึง...”
“คุณต่างหาก...”
ทำไมทำให้ผมลืมตัวได้ขนาดนี้
ชายหนุ่มไม่ได้เอ่ยออกไป ทว่ากลับแนบกลีบปากหยักสวยลงไปบนเรียวปากอิ่มอย่างแช่มช้า อ้อยอิ่ง ซึมซับทุกความหอมหวานของคนที่อยู่ในอ้อมแขน ริมฝีปากของเธอไม่เอื้อนเอ่ยสิ่งใด หรือจริงๆ เธออาจอยากพูดอะไรบ้าง ทว่าเขากลับไม่ยอมให้เธอทำเช่นนั้น
“อืม...”
นรินรักษ์ครางเสียงแผ่ว รสชาติของคนที่จู่โจมแบบไม่ทันให้เธอได้ตั้งตัวนั้นนุ่มนวล หวานล้ำยิ่งกว่ารสของหวานใดๆ ที่เคยได้ลิ้มลอง ยิ่งเขาขบเม้มเรียวปากของเธอเบาๆ ดูดคลึงอย่างมีจังหวะชั้นเชิง เธอก็แทบหลอมละลายอยู่ในอ้อมแขนของเขา
ดีจัง...
จูบแรกมันเป็นแบบนี้เองเหรอ
นี่เธอดื่มเหล้ามากไปหรือเปล่านะ หรือเพราะรสจูบของผู้ชายตรงหน้าที่กำลังมอมเมาเธอกันแน่ แต่มาคิดดูแล้ว นี่คงจะเป็นแอลกอฮอล์ที่รสชาติกลมกล่อมที่สุดเท่าที่เธอเคยชิมมา ทว่ายังไม่ทันที่เธอจะเข้าใจรสชาติของมันอย่างถ่องแท้ ร่างหนากลับผละออกห่างแล้วเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
ไม่ได้...
ทำแบบนี้กับเธอไม่ได้
ชายหนุ่มหลับตาลงอย่างอดกลั้น แม้จะแสนเสียดายความหอมหวานเย้ายวนตรงหน้า แต่เขาก็รู้ดีว่าหากปล่อยให้ตนเองถลำลึกไปมากกว่านี้ ความเสียหายอาจไม่ได้เกิดกับตัวเขา แต่เกิดกับเธอ
คนแปลกหน้าที่เพิ่งเจอกันครั้งแรก
หญิงสาวมองใบหน้าคมคายใต้แสงสลัวอย่างไม่เข้าใจ ความวาบหวามที่เกิดขึ้นทำให้ร่างกายเธอร้อนรุ่ม หัวใจสั่นสะท้านไม่เป็นตัวของตัวเอง เธอรู้ดีว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นการแสดงความรักระหว่างชายหญิง แต่เธอกับเขาไม่ได้เป็นอะไรกัน เหนือสิ่งอื่นใดคือเธอไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อของเขา
แต่ไม่รู้ทำไม...เธอถึงได้ชอบสัมผัสนี้เหลือเกิน
“อย่ามองผมแบบนี้” ชายแปลกหน้าเอ่ยเสียงนิ่ง
ร่างบางกัดริมฝีปากอย่างไม่มั่นใจ นัยน์ตาที่ทอดมองเขาสั่นระริก ก่อนที่มือเล็กจะเลื่อนมาวางบนอกกว้างอย่างกล้าๆ กลัว
“ไม่...” หญิงสาวอ้อนวอนเสียงหวาน “ไม่หยุด...ได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มชะงักยามสบเข้ากับแววตาอ้อนวอนของอีกฝ่าย กำแพงหนาที่เขาก่อขึ้นเพื่อยับยั้งสัญชาตญาณดิบของตัวเองกำลังถูกเธอทลายลงทีละนิด ก่อนที่หญิงสาวจะย้ำด้วยน้ำเสียงอ่อนหวานว่า
“ไม่หยุดได้ไหม”
ประโยคเว้าวอนของคนตรงหน้าทลายความยับยั้งชั่งใจของชายหนุ่มลง มือหนาประคองท้ายทอยคนในอ้อมแขนให้เงยหน้าขึ้นรับจูบที่ร้อนแรงขึ้นตามแรงปรารถนา อารมณ์เร้นลับที่ถูกปลุกกระตุ้นให้ริมฝีปากของชายหนุ่มทำงานอย่างเชี่ยวชาญ ทั้งขบเม้มและดูดคลึงจนคนตัวเล็กยอมเผยอกลีบปากให้เข้าไปทักทายลิ้นเล็กของเธอในที่สุด
“อืม...”
ร่างเล็กครางอย่างพอใจ แม้จะจูบตอบแบบไม่ประสีประสา แต่ก็ทำให้หัวใจของชายหนุ่มเต้นระรัวอย่างฮึกเหิม มือหนาค่อยๆ ลูบไล้ไปตามร่างระหงพร้อมกับพรมริมฝีปากไปทั่วดวงหน้างามอย่างหลงใหล เงาของเขาที่สะท้อนอยู่ในดวงตาคู่สวยกระจ่างชัดราวกับเขามีตัวตนอยู่ภายในแววตาซื่อบริสุทธิ์ของเธอ
ให้ตายสิ...
เธอเป็นใครกัน ทำไมถึงได้กระตุ้นความปรารถนาของเขาให้ตื่นตัวได้ขนาดนี้ เป็นเพราะฤทธิ์ยาแค่นั้นหรือที่กระตุ้นอารมณ์ของเขา หรือมีอย่างอื่นที่ทรงอิทธิพลมากกว่านั้น
ตอนนี้เขา...อยากรู้จักเธออย่างลึกซึ้งเหลือเกิน
ร่างกายของชายหนุ่มร้อนรุ่มจนทนแทบไม่ไหว แม้จิตใจเบื้องลึกจะสั่งให้หยุดการกระทำทุกอย่างเพราะอาจเกิดปัญหาตามมาภายหลัง แต่สมองกลับสั่งให้สลัดความเป็นสุภาพบุรุษทิ้งไป แล้วเริ่มกิจกรรมที่จะช่วยปลดปล่อยอารมณ์ร้อนแรงที่โหมกระหน่ำในตอนนี้เสียที
“คุณแน่ใจแล้วนะครับ” เสียงของคนถามสั่นพร่าหน่อยๆ “ถ้าพรุ่งนี้ตื่นมาเห็นผมนอนแก้ผ้าอยู่ข้างๆ จะไม่ร้องโวยวายใช่ไหม”
“อื้อ”
“แล้วก็จะไม่ไปแจ้งความว่าผมปล้ำคุณด้วย”
“อื้อ” เธอพยักหน้าอีกครั้ง แถมทำเสียงฮึดฮัดราวกับไม่พอใจที่เขายังถามไม่เลิก
“แล้ว...”
“เลิกถามได้แล้ว เสียเวลาชะมัด”
หญิงสาวบ่นอย่างหงุดหงิดก่อนจะโน้มคอคนพูดลงมาจนลมหายใจของทั้งคู่สอดประสานกัน เรียวปากเล็กยื่นไปแตะริมฝีปากของเขาเบาๆ เพื่อประกาศความต้องการ แม้มันจะเป็นจูบที่ดูไร้ประสบการณ์ แต่กลับทำให้ความอดทนของชายหนุ่มย่อยยับในพริบตา มือหนาประคองใบหน้าของคนตัวเล็กให้เงยขึ้นรับจุมพิตหวาน บดเบียดเรียวปากร้อนเข้าหา ช่วงชิงลมหายใจของคนในอ้อมแขนอย่างเรียกร้อง
“คุณ...”
นรินรักษ์ไล้มือไปตามแผ่นหลังกว้าง ปล่อยให้สัมผัสที่ไม่คุ้นเคยทลายสติสัมปชัญญะไปจนหมดสิ้น ไม่รับรู้แล้วว่าตัวเองเป็นใคร อยู่ที่ไหน กำลังทำอะไร คลื่นความรู้สึกบางอย่างแทรกซึมเข้าสู่ร่างกายช้าๆ และเธอก็อ่อนแอเกินกว่าจะรับมือไหว ได้แต่ปล่อยตัวปล่อยใจให้คนตรงหน้าพรากความเศร้าไปจากหัวใจเธอ
“คุณ...กำลังไม่มีสติ ผมอยากให้คุณตัดสินใจให้ดี” ชายหนุ่มพยายามพูดเสียงขรึมหลังจากผละออกมาให้เธอพักหายใจ ปลายลิ้นของเขาสัมผัสได้ถึงรสชาติของแอลกอฮอล์จากโพรงปากนุ่มของเธอ หญิงสาวกำลังเมา และการเอาเปรียบคนที่ไม่มีสติเต็มร้อยก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้อง
“เรื่อง...มากจริง งั้น...เอาแบบนี้” หญิงสาวพูดเสียงงัวเงีย กดเปิดกล้องวิดีโอของโทรศัพท์ด้วยท่าทางงุ่นง่าน มือของเธอไร้เรี่ยวแรงจนทำโทรศัพท์หลุดมืออยู่หลายรอบกว่าจะเปิดกล้องขึ้นมาได้
“คุณจะทำอะไรครับ” ชายหนุ่มถามอย่างสงสัย ทว่าเธอกลับยกกล้องขึ้นมาถ่ายที่ใบหน้าของตนเอง ไม่ยอมตอบคำถามใดๆ
“สวัสดีค่า รินคนปัจจุบันถึง...รินในอนาคต ตอนนี้ช้าน...กำลังขอให้ผู้ชาย เอ่อ...คุณชื่ออะไรนะ”
“ต้องบอกชื่อด้วยเหรอครับ”
“ช่าย ช้านกำลัง...ช่วยคุณไง” หญิงสาวตอบเสียงยานคาง “ตกลงคุณ...ชื่ออาราย”
“ดวินครับ” ชายหนุ่มตอบเสียงนุ่ม อมยิ้มอย่างนึกขำการกระทำของอีกฝ่าย “ผมชื่อดวิน”
“โอเค ช้านกำลังขอให้คุณดาวินนอนด้วย เป็นความต้องการของฉันเอง ห้ามแจ้งความเขานะ รินในอนาคตตต”
ดวินหัวเราะพรืดกับวิธีแก้ปัญหาของอีกฝ่าย หญิงสาวโยนโทรศัพท์ลงข้างเตียงแล้วหันหน้าเข้าหาเขาอีกครั้ง ใบหน้าของเธอแดงก่ำยามมองมือของตนเองที่วางอยู่บนอกของเขา
“มาต่อกันเถอะ” เจ้าตัวพูดพลางสบตาเขาด้วยแววตาแน่วแน่ แม้จะยังมีร่องรอยความมึนเมาอยู่ไม่น้อยก็ตาม “อย่ามัวเสียเวลาไปมากกว่านี้เลยยย”
ชายหนุ่มยิ้มรับคำพูดเอาจริงเอาจังของอีกฝ่าย
ช่างเป็นผู้หญิงที่ใจเด็ดจริงๆ
หรือบางที...อาจเป็นเพราะอานุภาพของแอลกอฮอล์และฤทธิ์ของยานรกนั่น ที่ทำให้คนที่ไม่น่าจะพบกันอย่างเขาและเธอมาอยู่ด้วยกันในสถานการณ์แปลกประหลาดแบบนี้
“คุณมีแฟนหรือยัง”
“ผมโสด แล้วคุณล่ะ”
“ฉันก็โสด ไม่เคยมีแฟนด้วย” หญิงสาวส่ายหน้าแรงๆ พร้อมกับชูนิ้วขึ้นสามนิ้วราวกับตั้งสัตย์ปฏิญาณ “เลิกถามได้แล้ว เรามา...”
ยังไม่ทันจบประโยค ริมฝีปากหนาก็ทาบทับลงมาแนบสนิทจนลมหายใจสอดประสานเป็นหนึ่งเดียวกัน อาจเพราะคืนนี้อารมณ์เธอไม่ปกติ ประกอบกับความมึนเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์ พ่วงด้วยเสน่ห์อันร้ายกาจของชายหนุ่ม เธอถึงได้ยอมทำอะไรบ้าๆ แบบนี้
แต่เธอไม่สนใจอะไรอีกแล้ว
มือบางเลื่อนไปโอบกายหนาก่อนจะบีบเกร็งเมื่อมือของเขาสัมผัสจุดวาบหวามจนทำให้กายสั่นสะท้าน จูบร้อนรุ่มทำให้สติของเธอเตลิดเปิดเปิง ความหวานละมุนในคราแรกค่อยๆ ทวีขึ้นตามแรงปรารถนาที่ลุกโชน เขาร้อนแรงและเชี่ยวชาญเกินไป จากที่คิดว่าตัวเองเข้มแข็งพอที่จะรับมือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นครั้งแรกและคงเป็นครั้งเดียวได้ ตอนนี้เธอชักไม่แน่ใจเสียแล้ว
“นี่คุณ...โสดจริงเหรอ”
“ทำไมครับ”
“ก็คุณ...”
ดูเชี่ยวชาญมากเลยน่ะสิ
หญิงสาวยั้งคำถามคาใจเอาไว้ ขณะที่ชายหนุ่มอมยิ้มราวกับรู้ว่าเธอกำลังสงสัยอะไร เขาเลื่อนมือมาลูบเส้นผมหนานุ่มเบาๆ แล้วตอบเสียงทุ้ม
“คงเป็นเพราะวันนี้ผมไม่ปกติ” ดวินตอบก่อนจะผละออกห่างเล็กน้อย แล้วถอดเสื้อเชิ้ตของตัวเองโยนทิ้งข้างเตียงอย่างไม่ไยดี
เป็นภาพที่เร้าใจชะมัดเลย ให้ตายเถอะ!
นรินรักษ์อยากเบือนหน้าหนีจากแผงอกกว้างของอีกฝ่ายที่ชวนให้ใจสั่นเหลือเกิน ทว่านิ้วเรียวของเขากลับเชยคางเธอให้หันไปสบตากัน ดวงตาของเขาเหมือนเสือร้ายที่พร้อมจะกระโจนเข้ามาจัดการกวางน้อยอย่างเธอให้ตายคามือ ก่อนที่เสียงทุ้มจะดังชิดริมฝีปากว่า
“เรามักทำอะไรไม่คาดคิดเสมอ...เมื่ออยู่ในภาวะไม่ปกติ”
นั่นสินะ...
เหมือนอย่างเธอตอนนี้ไง
นัยน์ตาคู่สวยปรือลงอย่างยอมจำนนราวกับดวงตาของเขาร่ายคำสาปร้ายกาจที่ทำให้เธอหมดหนทางขัดขืน ริมฝีปากของเขาร้อนจัด ทว่าเป็นความร้อนที่ไม่ทำให้เธอเจ็บปวดแต่อย่างใด มีแต่ทำให้หัวใจเต้นแรงอย่างตื่นเต้นเท่านั้น
“อืม...”
ร่างสูงครางในลำคออย่างพอใจ ความอ่อนหวานของเธอทำให้เขาตัดสินใจเลิกหาเหตุผล เลิกหักห้ามใจตัวเอง แล้วค่อยๆ มอบสัมผัสวาบหวามให้เธออย่างตั้งใจ มือหนาค่อยๆ ปลดกระดุมเสื้อของอีกฝ่าย ขณะที่สายตาจับจ้องร่างบอบบางตรงหน้าอย่างหลงใหล
“กลัวไหมครับ”
นรินรักษ์ลืมตามองนัยน์ตาเปล่งประกายของคนแปลกหน้าด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ รับรู้ได้ว่าทุกส่วนของร่างกายถูกอีกฝ่ายใช้สายตาจับจองเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นิ้วเรียวของเขาเคล้นคลึงริมฝีปากอิ่มที่แดงช้ำของเธอราวกับจะสร้างความคุ้นเคย
กลัวไหมเหรอ
กลัวสิ...
แต่ความอยากรู้อยากลองดันมีมากกว่า
“คราวนี้ผมไม่ให้โอกาสคุณปฏิเสธแล้วนะ”
หญิงสาวหลุบตาลงเมื่อทนสายตาที่แสดงความปรารถนานั้นไม่ไหว ขณะที่ท่าทางขวยเขินที่แสดงออกมาทำให้ชายหนุ่มยกมุมปากขึ้นก่อนจะแนบลงครอบครองกลีบปากนุ่ม แล้วค่อยๆ ไล้ไปตามลำคอระหงอย่างแช่มช้า
อ่อนหวาน นุ่มนวล ทว่าทรงพลังเหลือเกิน
ปลายลิ้นของเขาแตะไปตามแอ่งชีพจรและลาดไหล่ ก่อนจะพลิกตัวเธอแล้วไล่จูบไปตามแนวสันหลังอย่างแช่มช้า ตอนนี้นรินรักษ์แยกประสาทสัมผัสไม่ออกแล้ว รู้เพียงว่าผู้ชายที่อยู่บนเตียงด้วยกันตอนนี้กำลังพาเธอก้าวไปสู่อีกโลกที่ไม่เคยรู้จัก
เป็นครั้งแรก...
ร่างเล็กกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง ขณะที่มือจิกทึ้งผ้าปูที่นอนเพื่อระบายความเสียวซ่าน การเล้าโลมอย่างเชี่ยวชาญของอีกฝ่ายทำให้ร่างกายของเธอไร้เรี่ยวแรง ได้แต่เปิดทางอำนวยความสะดวกให้เขาก่อนที่เสียงพร่าจะดังข้างหูว่า
“คุณสวยมาก รู้ตัวไหม”
โกหก...
หญิงสาวได้แต่เถียงในใจ รู้ดีว่าชายหนุ่มพูดเพื่อเอาใจเธอ ก่อนที่เขาประคองร่างเธอให้หันกลับมาเผชิญหน้ากันอีกครั้ง แล้วค่อยๆ ขบเม้มริมฝีปากบนสลับล่างช้าๆ ราวกับกำลังลิ้มชิมของหวาน
แม้นรินรักษ์จะรู้สึกพอใจสัมผัสรัญจวนที่ได้รับ แต่สติเบื้องลึกก็ร้องเตือนว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรเกิดขึ้นกับคนแปลกหน้าที่เธอรู้จักเพียงแค่ชื่อ อาการมึนเมาเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์เริ่มสร่าง ทว่าคราวนี้เธอกลับมัวเมาอยู่ในรสสัมผัสของชายหนุ่มจนยากจะขัดขืน
ริมฝีปากของชายหนุ่มละจากกลีบปากไปยังลำคอระหง ขณะที่มือเคล้นคลึงทรวงอกที่กำลังสั่นสะท้านตามจังหวะการขบเม้มของริมฝีปาก มืออีกข้างเคลื่อนไปด้านหลังเพื่อปลดบราเซียร์ที่เป็นอุปสรรคในการค้นหาตัวตนที่ซ่อนอยู่ของเธอ
นรินรักษ์ห่อกายอย่างสะท้าน เมื่อคราวนี้ร่างกายของเธอไม่เหลือสิ่งใดให้ปกปิดอีกต่อไป นัยน์ตาทรงเสน่ห์ที่จ้องมาอย่างล้ำลึกทำให้ใบหน้าร้อนจนแทบไหม้ ได้แต่เบือนหน้าหนีจากสายตาร้อนเร่าที่พร้อมจะแผดเผาของเขา
“อ๊ะ”
นิ้วเรียวจิกแผ่นหลังหนาแน่น ความวาบหวามลามเลียไปทั้งสรรพางค์กาย ทุกอย่างที่เกิดขึ้นในตอนนี้แปลกใหม่เกินไปสำหรับเธอ สัมผัสของเขาอ่อนหวานทว่าเร่าร้อน บางเบาแต่เรียกร้องไม่รู้จบ ไม่เคยคิดมาก่อนว่าตัวเองจะต้องมาอยู่ในสถานการณ์แบบนี้กับผู้ชายแปลกหน้าที่เธอรู้จักเพียงชื่อ
ปลายลิ้นร้อนของชายหนุ่มไล้ไปทั่วทุกอณูผิว มือหนาประคองทรวงอกนุ่มไว้แล้วบีบนวดเบาๆ สลับกับใช้เรียวลิ้นหยอกเอินเป็นจังหวะ ร่างกายของหญิงสาวงามสะพรั่งไปทุกส่วนสัด แม้แต่ตอนที่เธอกัดริมฝีปากเพื่อกลั้นเสียงร้อง ก็ยังเป็นภาพที่งดงามราวกับนางฟ้านางสวรรค์อยู่ดี
“อื้อ...”
ดวินเงยหน้าจากหน้าอกเนียนสวยอย่างอ้อยอิ่ง มองใบหน้าหวานที่พราวระยับไปด้วยเม็ดเหงื่อ ก่อนจะเคลื่อนตัวขึ้นไปดูดกลืนเสียงร้องของคนใต้อาณัติ สอนให้เธอตอบสนองบทรักที่เขาตั้งใจถ่ายทอดให้ ชายหนุ่มรู้ดีว่าคนใต้ร่างกำลังตื่นเต้นและหวาดหวั่น หน้าที่ปลอบประโลมและปลุกเร้าให้เธอพรักพร้อมจึงเป็นเรื่องสำคัญที่จะปล่อยผ่านไปไม่ได้
เขาปรารถนาให้เธอมีความสุขไปพร้อมกับเขา
มือเล็กของนรินรักษ์ลูบไล้สะเปะสะปะไปตามร่างหนา ริมฝีปากอวบอิ่มแดงช้ำเพราะจูบเอาแต่ใจของอีกฝ่าย ถึงจะหวั่นใจกับเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดขึ้น แต่เธอก็ไม่หนักแน่นพอที่จะห้ามปรามเขา
เพราะเธอเองก็ชอบสัมผัสของเขาเหมือนกัน
“ไม่ต้องกลัวนะ ไม่มีอะไรน่ากลัว”
คำกระซิบปลอบโยนดังข้างหูซ้ำแล้วซ้ำเล่า ก่อนที่ริมฝีปากจะถูกครอบครองอีกเป็นครั้งที่เท่าไรไม่รู้ ทุกบริเวณที่ร่างกายเสียดสีกันคล้ายกับมีประจุไฟฟ้า หญิงสาวรับรู้ได้ว่าตัวตนของเขากำลังแข็งแกร่งเหนือร่างของเธอ และดูเหมือนว่าในตอนนี้...
เขาก็พร้อมแล้วที่จะเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของเธอ
ความคิดเห็น |
---|