14
การคุยงานผ่านไปด้วยดี ผลสรุปคือนาถลัดดาต้องสวมชุดเดรสยาวเปลือยหลัง มีสายสร้อยทำจากคริสตัลร้อยห้อยประคองสองเต้า กระโปรงผ้าชีฟองยาวระพื้นพลิ้วไหวไปตามเรือนร่างอวบอิ่มของนางแบบสาว ดีไซเนอร์ยิ้มด้วยความพอใจเมื่อชุดที่จัดเตรียมไว้สวยเด่นยามแขวนบนไม้แขวนเสื้อสัดส่วนพอดี ส่งให้ชุดดูสวยงามและเลอค่า
“ขอบคุณมากนาถลัดดา” ดีไซเนอร์เอ่ยพร้อมสวมกอดหญิงสาว ยิ้มเป็นมิตรเมื่อนางแบบเอ่ยขอตัวกลับ หลังเสร็จสิ้นภารกิจลองชุดและซ้อมเดิน
นางแบบสาวเดินลงมาที่ถนน เป็นจังหวะเดียวกับที่รถเก๋งสีดำแล่นเข้ามาจอด อิวานอฟทำหน้าที่สารถี นั่งรอในรถขณะที่น้องสาวขึ้นไปคุยงานและลองชุด นาถลัดดายังไม่อยากให้ใครรู้ว่าเธอคือทายาทตระกูลยูราซอค อยากให้ทุกคนจดจำเพียงชื่อ นาถลัดดา เพชรจำรัส
รถเก๋งคนนั้นแล่นออกไปแล้ว ตอนที่เอเดียน่าก้าวออกมาพร้อมดีไซเนอร์ หญิงสาวแสยะยิ้มขณะมองท้ายรถคันนั้น
“ชุดนั้นทางลูกน้องพี่จะแก้ให้อีกนิดหนึ่ง ขอบใจเดียน่ามากที่มาช่วยดูแลการจัดงาน สมกับเป็นเจ้าของแบรนด์บอนนี่ เก่งทุกอย่าง แล้วเมื่อไหร่จะมีข่าวดีกับคุณคีริลล์”
ดีไซเนอร์เอ่ยขึ้นขณะนั่งรถไปส่งหญิงสาว เอเดียน่าเล่าให้ฟังว่าเธอพักอยู่ที่บ้านของคีริลล์ จึงตีความไปว่าสองหนุ่มสาวที่คบหากันมานานกำลังพัฒนาความสัมพันธ์
หญิงสาวยิ้มรับอย่างเขินอาย “ต้องแล้วแต่ทางฝ่ายชาย เราเป็นผู้หญิงจะพูดก่อนก็ดูน่าเกลียด”
“แหม ยุคนี้สมัยนี้แล้ว ไม่มีใครเขาสนใจเรื่องนี้แล้วละเดียน่า เล่นตัวมากๆ ระวังจะถูกงาบนะจ๊ะ พี่ได้ข่าวว่าคุณคีริลล์กลับมามอสโกครั้งนี้เพราะจะเตรียมแต่งงาน”
“อะไรนะคะ ไม่จริงหรอกค่ะ” เอเดียน่าตกใจ เธอรู้ข่าวนี้อยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าคนภายนอกจะรู้ด้วย
“ก็คุณหนูเวโรนิก้าประกาศไปทั่วว่าจะแต่งงานกับคุณคีริลล์เร็วๆ นี้”
“เวโรนิก้ารึ” หญิงสาวทวนชื่อซ้ำ เพราะคนที่เธอรู้ว่าจะเป็นเจ้าสาวของคีริลล์ไม่ใช่ชื่อนี้ ตกลงมีผู้หญิงกี่คนที่จ้องจะจับคนรักของเธอ
“ใช่น่ะสิ ลูกสาวคุณโบริสแห่งโกลพรอมกรุ๊ป ฝ่ายหญิงรวยมากเลยนะ”
“รวยหรือไม่ไม่สำคัญหรอกค่ะ เพราะคีริลล์เขามีเงินอยู่แล้ว ถ้าเขาจะเลือกเจ้าสาวคงไม่เลือกที่ฐานะ และฉันคิดว่าคีริลล์คงไม่หลอกลวงฉัน ขอตัวนะคะ เจอกันวันงานเลย”
เจ้าของแบรนด์บอนนี่เริ่มหงุดหงิด สรุปแล้วเป้าหมายที่เธอต้องกำจัดคือใครกันแน่ นาตาชาหรือเวโรนิก้า
คีริลล์ได้รับรายงานจากลูกน้องว่าตอนนี้นาถลัดดาในฐานะว่าที่ผู้บริหารคนใหม่ของโกลพรอมกรุ๊ปกำลังตามสืบเรื่องของแกรแฮม ผู้ชายคนนั้นไม่ธรรมดา ร้ายลึกและเจ้าแผนการ แค่คิดว่าเธอต้องเสี่ยงแค่ไหนก็ห่วงจนต้องบุกมาที่โกลพรอมกรุ๊ปอีกครั้ง
“เอ่อ...คือว่าคุณนาตาชาไม่สะดวกให้พบค่ะ” แพตติเซียรีบลุกมายืนขวางเมื่อเห็นผู้มาเยือน
ชายหนุ่มฟังแล้วยืนนิ่ง ก่อนจะอมยิ้มจนเลขาฯ สาวทำตัวไม่ถูก
“เหรอครับ เธอสั่งคุณไว้ว่ายังไง ถ้าผมมาที่นี่ให้ตอบแบบนี้ใช่ไหม แค่พยักหน้าถ้าใช่ หรือส่ายหน้าถ้าไม่ใช่ ผมเข้าใจว่าคุณลำบากใจที่จะพูด” ชายหนุ่มเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นแววตาสับสนและกังวลของแพตติเซีย
เลขาฯ สาวพยักหน้าช้าๆ เมื่อถูกจ้องนิ่ง แววตาคีริลล์กดดันจนต้องยอมแพ้
“ได้ ถ้าเธอไม่สะดวกให้ผมเข้าพบ คุณช่วยเข้าไปบอกเธอหน่อยแล้วกันว่าผมมารับไปหาหมอ”
ชายหนุ่มบอกยิ้มๆ แทบอยากหัวเราะเมื่อเห็นแพตติเซียยกมือทาบอกยามได้ยินประโยคหลังของเขา
“จะได้รู้ว่าท้องกี่เดือนแล้ว”
แพตติเซียก้าวถอยหลังเมื่อได้ยิน แม้ไม่รู้เรื่องราวอะไรมากมาย ทราบแค่ว่าชายหนุ่มตรงหน้าอาจเป็นว่าที่สามีของท่านประธานคนใหม่ แต่คำพูดของเขาทำให้เธอเดินเร็วจนเกือบจะวิ่งเข้ามาในห้องท่านประธาน
เลขาฯ สาวเข้าไปไม่กี่วินาทีก็วิ่งออกมาบอกชายหนุ่ม พร้อมเปิดประตูห้องทำงานให้อย่างว่องไว ชายหนุ่มเดินเข้าไปช้าๆ สองมือสอดซ่อนไว้ในกระเป๋ากางเกง นึกสนุกยิ่งนักเมื่อได้แกล้งคนอวดดี แต่ศีรษะคนมีความสุขเกือบจะได้เลือดเมื่อก้าวเข้าไปแล้วมีวัตถุบางอย่างลอยมาเกือบชนหน้าผาก แต่โชคดีที่เขาหลบทัน
“จะบ้าหรือไง นี่ถ้าหลบไม่ทันหัวผมแตกเลยนะ” เขาตวาดลั่น หันมองกล่องไม้โอ๊กสีเหลืองอย่างโมโห
“ฉันอยากให้มันเป็นแบบนั้นอยู่ ผู้ชายปากพล่อย นายพูดอะไรกับเลขาฯ ฉัน!”
นาถลัดดาโกรธจนควันออกหู แพตติเซียเดินเข้ามาบอกเธอว่าคีริลล์มารับไปหาหมอ เพื่อตรวจดูว่าท้องกี่เดือนแล้ว ตอนที่ได้ยินเธอมือไม้สั่นจนอ่อนแรง ก่อนจะเปลี่ยนเป็นกราดเกรี้ยว เขาไม่ปล่อยเธอใช่ไหม ถึงได้ประกาศแบบนี้ เมื่อได้สติเธอจึงสั่งกำชับให้แพตติเซียปิดปาก ห้ามพูดเรื่องนี้ต่อเด็ดขาด และเรียกให้เขาเข้ามาเจรจาในนี้ ป้องกันคนอื่นรับรู้เรื่องราว
“ก็พูดเรื่องจริง เราสองคนนอนด้วยกันตั้งหลายครั้ง และเท่าที่จำได้ ผมไม่เคยสวมถุงยางอนามัยสักครั้ง”
เขาบอกหน้าตาย แถมยังยิ้มกว้างเมื่อเห็นหญิงสาวยืนเบิกตากว้าง คงตกใจมากสินะ บอกแล้วไงว่าไม่มีทางที่เธอจะหลุดรอดเงื้อมมือเขา
“ไม่จริง ฉันไม่มีวันท้อง เพราะ...เพราะฉันกินยาคุมฉุกเฉิน” เธอเถียง ไม่ยอมถูกมัดตรึง เพราะคงไม่ซวยซ้ำซวยซ้อนหรอก หญิงสาวปลอบตัวเอง
“แน่ใจว่ากินจริง? หึๆ หรือถ้าคุณกินยานั่นจริง จะมั่นใจได้ไงว่าไม่ท้องตั้งแต่เรานอนด้วยกันครั้งแรก เพราะวันนั้นมันหลายครั้งมาก และผมก็ปลดปล่อยหมดหน้าตัก แต่เอ...ถ้าไม่ท้องนี่ต้องกินยาคุมฉุกเฉินหลังจากนอนด้วยกันกี่ชั่วโมงนะ...ครั้งแรกคุณอาจหายานั่นกินได้...แต่ครั้งที่สอง ผมพาคุณไปอยู่ที่บ้านพักตากอากาศนอกเมือง วันนั้นคุณไม่มีทางหายาคุมฉุกเฉินมาปราบเจ้าลูกน้องของผมที่วิ่งเข้าไปทักทายไข่สาวของคุณแน่นอน”
“หุบปาก!” นาถลัดดาอยากจะกรีดร้อง แต่ที่เธอทำได้คือยืนสงบสติ อย่าใช้อารมณ์นำเหตุผล
“ผมพูดเรื่องจริง จะต้องหุบปากทำไม คุณอาจจะมั่นใจ แต่ผมไม่มั่นใจ และไม่อยากให้ลูกของผมกำพร้า ถึงต้องมาหาคุณนี่ไง ไปตรวจให้แน่ชัดเสียดีกว่า ถ้าท้องจะได้แต่งงานให้เรียบร้อย ผมไม่อยากให้ลูกๆ น้อยใจว่าเป็นลูกนอกสมรส”
“เพ้อเจ้อ! ไม่ ฉันไม่มีวันไปตรวจอะไรทั้งสิ้น ประจำเดือนฉันเพิ่งหมดไป ฉันไม่มีทางท้องแน่นอน”
แค่นึกถึงประจำเดือน หัวใจก็สั่นรัว เต้นตึ้กตั้ก เธอพยายามไม่มองตัวเลขบนปฏิทิน เพราะจะยิ่งย้ำบางอย่างให้น่าหวาดกลัวมากขึ้น
“หรือครับ แต่สีหน้าคุณตอนนี้ดูวิตกมากนะนาตาชา หึๆ ก็ได้ ผมจะไม่บังคับคุณก็ได้ แต่ต่อไปนี้ห้ามสั่งเลขาฯ คุณแบบนี้อีก เมื่อผมมาพบคุณ ต้องได้พบ”
เขาบอกเสียงเข้ม ขยับเข้าไปอีกก้าว มองคนยืนตระหนกด้วยความรู้สึกเหนือกว่า ถ้าวันนี้ไม่มาเตือนเรื่องแกรแฮม เขาคงจะแกล้งให้อีกฝ่ายหัวใจเต้นรัวอีกสักพัก
“หยุดยุ่งกับแกรแฮม เอาเอกสารทั้งหมดที่คุณตรวจเจอพิรุธมาให้ผม” เขาเปลี่ยนเป็นจริงจัง เมื่อพูดเรื่องสำคัญ
“ทำไมฉันจะยุ่งกับแกรแฮมไม่ได้ คุณรู้อะไรมา” ไม่เหลือความวิตก ตอนนี้นาถลัดดาคิดเพียงว่าคีริลล์รู้เรื่องแกรแฮมได้อย่างไร
“เรื่องนี้คุณไม่ต้องเข้าไปยุ่ง ผมจัดการเอง” ชายหนุ่มไม่อยากให้หญิงสาวรับรู้ จึงเอ่ยปัดอย่างหงุดหงิด แต่ดูท่านาถลัดดาจะหัวดื้อไปทุกเรื่อง
“ไม่! นี่มันเรื่องบริษัทโกลพรอม ไม่ใช่เรื่องของยูราซอค ฉันต้องจัดการเอง คุณนั่นแหละที่ไม่ต้องมายุ่ง”
เธอว่ากลับ สะบัดหน้ามองทางอื่นยามเห็นแววตาพราวเสน่หาของอีกฝ่าย บางทีเธอก็ตามอารมณ์ของคีริลล์ไม่ทัน เดี๋ยวดุดัน เดี๋ยวหยอกล้อ แพรวพราวปั่นป่วนจนหัวใจที่แข็งแกร่งดั่งศิลาอ่อนไหว
“ผมไม่ยุ่งไม่ได้หรอกที่รัก บริษัทเมียก็เหมือนบริษัทผัว ต้องทำดีช่วยพ่อตา จะได้มีคนมาช่วยปราบเมียหัวดื้อ”
คีริลล์อยากรู้เหมือนกัน ถ้าเล่นมุกแบบนี้แล้วนาถลัดดาจะดื้อด้าน ทำใจแข็งได้อีกนานเท่าไร
“หุบปาก ที่นี่ไม่มีเมียของคุณ บอกแล้วไงว่าเราสองคนไม่เกี่ยวข้องกันอีกแล้ว”
คนพยายามต่อต้านไม่ให้ชายหนุ่มก้าวข้ามกำแพงหัวใจแหวเสียงดัง กลบอาการสะท้านเมื่อได้ยินคำที่มีความหมายนั่น
“ถามหน่อย ถ้าผมจะนอนกับเมียผมตอนนี้ ในห้องนี้ ใครจะห้ามผมได้” แววตาเขาเอาจริง ชายหนุ่มก้าวเข้าไปใกล้เธอ
นาถลัดดาเห็นท่าไม่ดีจึงถอยไปชนผนังห้อง แต่โชคดีที่มีเสียงอินเตอร์คอมดังขัดเสียก่อน
“คุณนาตาชาคะ คุณเอียนมาหาค่ะ”
“ให้พี่เอียนเข้ามาเลยค่ะ”
เมื่อมีตัวช่วยหญิงสาวก็รีบสั่งเลขาฯ เปิดประตูให้พี่ชาย ส่วนชายหนุ่มในห้องดูจะไม่ค่อยพอใจนักที่ได้เจออิวานอฟ
“มาทำไม” อิวานอฟถามเสียงห้วน แต่ไม่มองหน้าคีริลล์ ซึ่งยืนกอดอกมองด้านข้างของอิวานอฟอย่างหมั่นไส้
“มาเรื่องแกรแฮม นายก็รู้ว่านายนั่นร้ายแค่ไหน ยังจะให้นาตาชาเข้าไปยุ่งเรื่องนี้อีก”
คีริลล์ว่า ตั้งท่าจะเอาเรื่องอิวานอฟเต็มที่ คู่ควงลับของคริสเตียน่าร้ายกาจแค่ไหน เขารู้ดี และไม่อยากให้นาถลัดดาเข้าไปเกี่ยวข้อง คนแบบแกรแฮมต้องเขานี่ถึงจะสูสี
“แสดงว่าคุณรู้เรื่องนี้ และคนที่ตามแกรแฮมอยู่ตอนนี้คือคนของคุณ”
อิวานอฟรู้ข้อมูลเรื่องมีคนอีกกลุ่มกำลังตามประกบแกรแฮมมาจากสายสืบ ตอนแรกคิดว่าเป็นกลุ่มนักพนันที่อยากจะเก็บคนเบี้ยวหนี้ แต่เมื่อมองสำรวจแววตากับท่าทางอยากกางปีกปกป้องนาถลัดดา คงต้องคิดใหม่เสียแล้ว
“ใช่”
อิวานอฟมองหน้าน้องสาว แสดงว่าครอบครัวแอนตันแอบช่วยเรื่องนี้อยู่ลับๆ เพราะเอกสารบางส่วนที่อิวานอฟได้มานั้น แอนตันเป็นคนส่งให้กับมือ แต่ชายสูงวัยไม่เคยบอกเลยว่าลูกชายรู้เรื่องนี้ด้วย และเขาคิดว่าคีริลล์คงไม่อยากจะสนใจปัญหาของโกลพรอมกรุ๊ป เพราะก่อนหน้านี้คีริลล์ทำเหมือนอยากอยู่ให้ห่างลูกสาวโบริส คงกลัวถูกจับเข้ากรงวิวาห์ตีทะเบียน แต่ยามนี้พอรู้ว่าเป็นนาตาชาหรือนาถลัดดา ทุกอย่างเลยเปลี่ยนไป คนอยากหนีวิ่งตามคนดื้อรั้นแทบทุกวัน ได้ข่าวว่าเมื่อวานซืนก็บุกมาหา รอยยิ้มสะใจผุดบนมุมปากเขาขณะมองใบหน้าสวยหวานของน้องสาว
“และผมไม่ต้องการให้แนนนี่เข้ามายุ่งเรื่องนี้ ผมจะจัดการเอง” ชายหนุ่มบอกเสียงเข้ม แววตาไม่หลงเหลือความสนุกสนานเช่นเมื่อครู่
“คุณจะเข้ามายุ่งในฐานะอะไร นี่มันเรื่องในบริษัทฉัน ฉันต้องจัดการเอง” หญิงสาวไม่ยอมให้เขามีอิทธิพลเหนือกว่า หรือสร้างบุญคุณจนต้องตามชดใช้
“ในฐานะอะไรงั้นรึ” เสียงถามนั้นฟังดูเกรี้ยวกราด แต่ยังน้อยกว่าแววตาที่จับจ้องใบหน้าสวยหวาน
“พี่เอียนคะ แนนนี่อยากกลับไปพัก เรากลับบ้านกันเถอะ” คนตาขาวเริ่มถอย ไม่พร้อมจะรบกับคีริลล์วันนี้ เธออ่อนแรงตั้งแต่ได้ยินคำว่า ‘ท้อง’
“ได้สิ” อิวานอฟทำเหมือนไม่รับรู้ภาวะอารมณ์ตึงเครียดของสองหนุ่มสาว ก้มหน้ายิ้มขำท่าทางเร่งรีบเก็บข้าวของเหมือนกำลังยุ่ง นาถลัดดาจะรู้บ้างไหมว่าสายตาของคีริลล์ยามนี้แสดงความเป็นเจ้าของในตัวเธอเต็มที่ และคงไม่ยอมให้น้องสาวเขาดื้อรั้นไปมากกว่านี้ ตอนนี้ได้แต่รอดูคนหมดความอดทนจะจัดการน้องสาวเขาอย่างไร
“ขอบคุณที่ช่วยดูแลเมียผม แต่วันนี้และวันต่อๆ ไปไม่ต้องดูแลแล้ว ผมจะจัดการเอง มานี่ อยากกลับบ้านนักใช่ไหม ได้ จะให้อยู่บ้าน ไม่ต้องออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันกันเลย”
คนพูดก้าวเข้าไปรัดเอวบางแล้วรั้งชิดติดตัว ใช้สายตาห้ามอิวานอฟที่ทำหน้าเหมือนอยากจะช่วยน้องสาว
“พี่เอียน...” นาถลัดดาพยายามเรียกพี่ชายที่ยืนชะงักเมื่อถูกคีริลล์เอ็ดทั้งสายตาและท่าทาง
ประตูปิดพร้อมกับเสียงระเบิดหัวเราะของอิวานอฟ ชายหนุ่มขำจนตัวงอ ในที่สุดคนที่มั่นใจในตัวเองสูงอย่างคีริลล์ก็ต้องพ่ายแพ้ผู้หญิงชื่อนาถลัดดา แต่ว่าเกมจะจบเพียงแค่นี้หรือ ไม่หรอก น้องสาวเขามีคุณสมบัติเพียบพร้อมทุกด้าน สวย รวย และเก่ง จะยกให้ผู้ชายวายร้ายอย่างคีริลล์ง่ายๆ รึ
เวโรนิก้าได้รับโทรศัพท์จากเบอร์ลึกลับ จึงรีบวิ่งลงมาที่ลานจอดรถตามคำบอกของใครบางคน เมื่อเห็นภาพตรงหน้าเธอก็วิ่งเข้าไปกระชากแขนนาถลัดดาออกจากอ้อมกอดของคีริลล์ และผลักอย่างแรงจนนาถลัดดาหมุนคว้าง แต่โชคดีที่อิวานอฟคว้าไว้ทัน
“พี่เอียน ขอบคุณค่ะ” นาถลัดดายกมือตบอกเบาๆ หัวใจเธอเต้นแรงเพราะกลัวล้มกระแทกพื้น พอยืนนิ่งได้ ด้วยสัญชาตญาณบางอย่าง เธอก็แตะบริเวณหน้าท้องแผ่วเบา ก่อนจะลดมือลงเมื่อคีริลล์หันมอง
“ทำบ้าอะไรของเธอโรนี่” คนที่ตกใจไม่แพ้นาถลัดดาคือคีริลล์ ยิ่งเห็นเธอวางมือแตะหน้าท้อง หัวใจเขายิ่งเต้นรัว พยายามดึงมือที่จับแน่นราวหนวดปลาหมึกออกห่าง แต่ยิ่งดึงก็เหมือนเวโรนิก้ายิ่งกอดรัด
“ทำไมคะ ก็...โรนี่อยากกอดพี่” นัยน์ตาใสซื่อช้อนมองคีริลล์อย่างออดอ้อน แต่มันใช้ไม่ได้ผลกับชายหนุ่มที่รู้ตัวตนของเวโรนิก้า
“แล้วเธอต้องทำรุนแรงขนาดนี้เลยรึ นาตาชา...คุณปลอดภัยดีหรือเปล่า”
คนที่ชายหนุ่มเอ่ยถามสะบัดหน้ามองเขา และเอ่ยตอบเสียงแข็ง
“ฉันไม่เป็นไรค่ะ โรนี่คงดีใจที่ได้เจอคุณ ขอตัวนะคะ ฉันมีธุระกับพี่เอียน ไปเถอะค่ะ”
นาถลัดดาได้โอกาสหนีจึงรีบดึงแขนอิวานอฟที่หันไปยิ้มอย่างสะใจ กระตุ้นต่อมโมโหของคีริลล์ที่ได้แต่ยืนดึงมือเวโรนิก้า
ชายหนุ่มที่พยายามสลัดมือเวโรนิก้าจ้องรอยยิ้มของอิวานอฟ ก่อนจะเข้าใจ และโกรธจนต้องกัดฟันกรอดเพราะเสียรู้อีกฝ่าย
“อย่าคิดว่าจะจบแค่นี้” เขาคำรามลั่น ยอมหยุดเพื่อจัดการวันอื่น แต่อย่าคิดว่าเขาจะถอย ไม่มีทาง
“อะไรคะ” หญิงสาวพยายามทำตัวใสซื่อ เอ่ยถามเหมือนไม่เข้าใจคำพูดคีริลล์ แต่ความจริงรู้ว่าเขากำลังหงุดหงิดเพราะนาถลัดดาเดินหนี เธอแอบยิ้มและนึกขอบคุณสายข่าวลึกลับที่ส่งข้อความมาบอก เลยมาขวางสองคนนั้นทัน ไม่เช่นนั้นป่านนี้คีริลล์คงพานาถลัดดาไปสวีตหวาน ถึงคีริลล์ไม่ยอมรับเธอในตอนนี้ แต่ถ้าพยายามเข้าหา หว่านเสน่ห์ใส่บ่อยๆ มีหรือเขาจะไม่เคลิ้ม ซึ่งเรื่องหว่านเสน่ห์และความช่ำชองในการหลอกล่อผู้ชาย เวโรนิก้ามั่นใจว่าตัวเองมีมากกว่านาถลัดดาแน่นอน
“ปล่อยพี่ได้แล้วโรนี่” ชายหนุ่มบอกเสียงแข็ง จ้องหน้าเวโรนิก้าอย่างดุดัน อารมณ์หงุดหงิดเพราะเสียรู้ใครบางคนทำให้เขาเผลอเกรี้ยวกราดใส่น้องสาวนาถลัดดา
“ก็โรนี่คิดถึงพี่คีริลล์นี่คะ ไปทานข้าวกันนะคะ โรนี่หิวข้าวแล้ว”
คีริลล์หงุดหงิดเกินกว่าจะรักษามารยาท จึงดึงแขนเวโรนิก้าออกอย่างแรง
“พี่รู้ว่าเธอต้องการอะไร แต่ขอโทษนะ พี่ตอบสนองความต้องการของเธอไม่ได้จริงๆ ถึงพี่สาวเธอจะปฏิเสธเรื่องที่ผู้ใหญ่หมั้นหมาย แต่พี่พร้อมจะทำให้เรื่องที่คุยกันไว้สำเร็จตามที่ลุงโบริสต้องการ”
“ถ้าแนนนี่ไม่ต้องการแต่งงานกับพี่ พี่ก็แต่งกับโรนี่สิคะ พี่จะต้องตามตอแยคนที่เขาไม่ต้องการพี่ทำไม นี่มันไม่ใช่นิสัยพี่นะคะ”
เหมือนคำพูดของเวโรนิก้าเป็นหอกแหลมพุ่งทะลวงหัวใจชายหนุ่ม คีริลล์ยืนนิ่ง
“บางทีแนนนี่เขาอาจมีคนรักอยู่แล้วก็ได้ ไปใช้ชีวิตอยู่ยุโรป อเมริกาตั้งแต่อายุสิบห้า แถมยังทำงานในวงการที่มีแต่หนุ่มหล่อสาวสวย พี่คิดหรือว่าแนนนี่จะครองตัวเป็นโสดอยู่ได้จนถึงป่านนี้ อ้อ ก่อนจะกลับมามอสโก เห็นว่าไปอยู่เมืองไทยตั้งหลายวัน ไม่รู้ไปเที่ยวกับแฟนหรือเปล่า”
พอเห็นอีกฝ่ายนิ่ง เวโรนิก้าก็รีบใส่ความ เล่าแอบอ้างทั้งที่ตัวเองไม่รู้เรื่องราวของพี่สาวสักนิด
“พี่ไม่ได้ตามตอแย แต่พี่ตัดสินใจแล้ว ถ้าพ่อแม่บังคับให้พี่แต่งงานกับลูกสาวลุงโบริส เจ้าสาวต้องชื่อนาตาชาเท่านั้น ปล่อย!”
“พี่คีริลล์” เวโรนิก้ากระทืบเท้าอย่างโมโห ใส่ความไปตั้งเยอะ แต่แทนที่คีริลล์จะหยุดตามนาถลัดดา เขากลับหันมามองเธอตาขวาง แล้วประกาศชัดว่าต้องการใครเป็นเจ้าสาว ซึ่งไม่ใช่เธอ
ทำไมทุกคนต้องหลงใหลนาถลัดดา ผู้หญิงที่ไม่มีเสน่ห์แพรวพราวเหมือนเธอ ยิ่งคิดยิ่งเกลียดพี่สาวต่างแม่ ที่เกิดมาเพื่อแย่งทุกอย่างไปจากเธอ
ฝ่ายคีริลล์ พอหลุดจากเวโรนิก้าได้ก็รีบก้าวตรงไปที่รถ ท่าทางดุดันของเขาน่ากลัวจนลูกน้องไม่กล้าเอ่ยเสียงดัง ได้แต่นั่งกลืนน้ำลายเงียบๆ
“กลับบ้าน” หลังจากระงับอารมณ์ตัวเองได้ เขาก็เอ่ยสั่งเสียงแข็ง
“ครับ” ปีเตอร์ค่อยๆ ผ่อนลมหายใจแล้วเอ่ยรับคำ พยักหน้าให้อังเดรที่ทำหน้าที่ขับรถ
ภายในรถมีแต่ความวังเวง เพราะเจ้านายนั่งขบเขี้ยวเคี้ยวฟัน บางครั้งก็ยกกำปั้นฟาดเบาะรถอย่างหงุดหงิด
ความคิดเห็น |
---|