บทที่ 4

4

ร้านดอกไม้ไพลิน

หลายวันต่อมา...

กรุ๊งกริ๊ง กรุ๊งกริ๊ง

เสียงกระดิ่งที่ดังกระทบกันอย่างไพเราะบอกชัดว่าร้านดอกไม้เล็กๆ แห่งนี้กำลังมีผู้มาเยือน สายตาของผู้มาใหม่มองไปรอบๆ ก่อนจะหยุดที่ศีรษะของใครบางคนที่กำลังก้มๆ เงยๆ อยู่หลังเคาน์เตอร์

“เอ่อ...ซื้อดอกไม้ช่อหนึ่งครับ”

ประโยคที่ได้ยินทำให้หญิงสาวผุดลุกขึ้นมายิ้มหวานให้ลูกค้าหนุ่มในทันที ก่อนจะถามเสียงใส

“ได้ค่ะคุณลูกค้า มีแบบในใจไหมคะ หรือจะดูแบบจากในตู้กระจกก่อนก็ได้นะคะ”

ชายหนุ่มเดินไปไล่สายตาดูตัวอย่างช่อดอกไม้แบบต่างๆ ตามคำบอกของเจ้าของร้าน ก่อนจะชี้ไปที่ช่อสไตล์มินิมัลที่กำลังมาแรงในขณะนี้

“เอาแบบนี้ครับ”

“แล้วมีดอกไม้ชนิดไหนที่อยากได้เป็นพิเศษไหมคะ”

“ดอกอะไรก็ได้ครับ ขอสวยๆ หน่อย”

คนเป็นเจ้าของร้านระบายยิ้มเต็มใบหน้า เพราะสำหรับเธอแล้ว ดอกไม้ทุกชนิดบนโลกนี้ล้วนสวยงามด้วยกันทั้งนั้น อยู่ที่ว่าจะมีใครมองเห็นความงดงามที่ซ่อนอยู่ในนั้นไหม

“ขออนุญาตถามได้ไหมคะว่าให้ในโอกาสอะไรเอ่ย”

“เอ่อ...สารภาพรักครับ”

ท่าทางเก้อกระดากของอีกฝ่ายทำให้หญิงสาวอมยิ้มน้อยๆ ใบหน้ากระจ่างใสของชายหนุ่มแดงเรื่อ ขณะที่ดวงตาไหววูบราวกับขัดเขิน แพรวไพลินเดินออกจากเคาน์เตอร์ไปหยุดหน้าดอกไม้หลากหลายพันธุ์ที่วางเรียงรายอยู่ในตะกร้า แล้วตัดสินใจหยิบดอกทิวลิปมาเจ็ดดอก ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับไปที่เคาน์เตอร์อีกครั้ง

“รู้ไหมคะว่าดอกไม้เองก็มีคำพูดเหมือนกันนะ”

“ครับ?”

ชายหนุ่มเลิกคิ้วอย่างงุนงง พอเห็นรอยยิ้มอ่อนหวานที่ปรากฏบนใบหน้านวลแล้วก็อดยิ้มตามไม่ได้

“ดอกไม้แต่ละชนิดมีความหมายที่ซ่อนอยู่ค่ะ อย่างดอกทิวลิปสีขาวหมายถึงความรักที่บริสุทธิ์ จริงใจ ไม่หวังสิ่งใดตอบแทน...” หญิงสาวอธิบายพลางจัดช่อดอกไม้ด้วยท่าทางคล่องแคล่ว มือเล็กคว้าริบบิ้นสีขาวขึ้นมาพันรอบก้าน ก่อนจะหยิบกล่องใส่การ์ดยื่นไปให้อีกฝ่าย “เลือกการ์ดมาใบหนึ่งนะคะ”

ชายร่างสูงพยักหน้ารับก่อนจะกวาดสายตามองการ์ดแต่ละลายอย่างพิจารณา แล้วจึงตัดสินใจเลือกใบสีขาวที่ดูสบายตาที่สุด

“ให้เขียนว่าอะไรดีคะ”

“เอ่อ...ควรเขียนอะไรดีครับ รบกวนคุณช่วยเขียนให้หน่อยได้ไหม”

ร่างเล็กยิ้มให้ลูกค้าหนุ่มก่อนจะพยักหน้ารับ แล้วหยิบปากกาสีน้ำเงินมาจดข้อความที่เธอคิดว่าเหมาะที่สุดลงไป

ผมชอบคุณ...

“เรียบร้อยแล้วค่ะ”

ลูกค้าหนุ่มก้าวมารับช่อดอกทิวลิปสีขาวก่อนจะก้มลงอ่านลายมือสวยงามที่อยู่บนการ์ด รอยยิ้มละไมระบายเต็มใบหน้าอย่างพอใจเมื่อเห็นข้อความบนกระดาษ

“ขอบคุณมากนะครับ”

“ยินดีค่ะ ขอให้คุณลูกค้ามีวันที่สดใสนะคะ”

แพรวไพลินค้อมหัวให้อีกฝ่ายก่อนจะมองส่งชายหนุ่มจนลับสายตา หลังจากที่เห็นว่าลูกค้าขับรถออกไปจากหน้าร้านแล้ว หญิงสาวก็หันมาง่วนกับการจัดริบบิ้นหลากสีเข้าลิ้นชักอีกครั้ง จนกระทั่งนาฬิกาบอกเวลาหกโมงเย็น เธอก็เดินไปกลับป้ายประตูหน้าร้านเป็น ‘Closed’ แล้วจึงเดินเข้าไปทางด้านหลังที่อนุญาตให้เข้าได้เฉพาะพนักงานเท่านั้น

แม้จะประกอบอาชีพเป็นนักจัดดอกไม้ แต่แท้จริงแล้วแพรวไพลินเรียนจบจากคณะวิทยาศาสตร์ ภาควิชาเคมีจากมหาวิทยาลัยรัฐบาลแห่งหนึ่ง ทว่าเพราะหลงใหลในความสวยงามของดอกไม้ทุกชนิดและเสพติดกลิ่นหอมของมัน เธอจึงเลือกหันหลังให้วิชาความรู้ที่ร่ำเรียนมา แล้วเปิดร้านจัดดอกไม้เล็กๆ ตามความชอบของตัวเองแทน

“มาแล้วเหรอเจ๊ กำลังรออยู่เลย”

“แกสืบข้อมูลไปถึงไหนแล้ว” ร่างบางถามพลางทรุดลงนั่งตรงเก้าอี้ว่างข้างพลอยพรรณ โดยที่สายตาก็ยังมองจอโพรเจกเตอร์ที่ปรากฏภาพถ่ายของใครบางคนอย่างพิจารณา 

พวกเธอกำลังสืบหาความจริงในคดีของเพลงรัก ลูกพี่ลูกน้องที่เสียชีวิตจากการตกลงมาจากดาดฟ้าอาคารของบริษัทดีพีโกลบอลมีเดียเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน โดยที่สวรรยา ไม่เชื่อว่าลูกสาวของตัวเองฆ่าตัวตายตามที่ตำรวจตั้งข้อสันนิษฐาน แต่อาจเป็นการฆาตกรรมที่มีใครบางคนอยู่เบื้องหลัง

แพรวไพลินก็คิดแบบผู้เป็นป้า ก่อนหน้านี้เธอเคยเห็นเพลงรักนั่งดื่มเบียร์คนเดียวในห้องนั่งเล่น สีหน้าและแววตาของน้องดูเคร่งเครียดและไร้ชีวิตชีวาจนเธออดเป็นห่วงไม่ได้

‘แกเป็นอะไรหรือเปล่า ทำไมมานั่งดื่มเงียบๆ คนเดียวล่ะ’

เพลงรักมองหน้าเธอด้วยสายตาทุกข์ระทม ก่อนจะยกกระป๋องเบียร์ขึ้นซดรวดเดียวหมด แล้วตอบด้วยเสียงแหบแห้ง

‘หนูบังเอิญไปเจอเรื่องบางอย่างมา ไม่รู้จะทำยังไงแล้วเจ๊ มันมืดแปดด้านไปหมด’

สีหน้าอับจนหนทางของลูกพี่ลูกน้อง ทำให้แพรวไพลินทรุดลงนั่งเคียงข้างอีกฝ่ายก่อนจะลูบหัวน้องเบาๆ พลางปลอบเสียงนุ่ม

‘ใจเย็นๆ ก่อน แกมีเรื่องอะไร เล่าให้พี่ฟังได้ไหม’

‘ตอนนี้หนูยังพูดอะไรมากไม่ได้เพราะยังเก็บหลักฐานได้ไม่ครบ แต่หนูตั้งใจแล้วว่าจะต้องเอาตัวคนทำมาลงโทษให้ได้!’

ท่าทางแข็งกร้าวดุดันของลูกพี่ลูกน้องทำให้แพรวไพลินเลิกคิ้วอย่างแปลกใจ ปกติแล้วเพลงรักเป็นคนร่าเริง อัธยาศัยดี แถมใจเย็นดุจสายน้ำ ไม่เคยเห็นอีกฝ่ายแสดงอาการโกรธเกรี้ยวจริงๆ จังๆ เลยสักครั้ง จะทำอะไรก็รู้จักวางแผน ก่อน เวลาที่ได้เล่นเกมด้วยกัน น้องสาวคนนี้ก็มักจะเป็นผู้ชนะอยู่เสมอ

‘ไว้หนูหาหลักฐานสำคัญได้แล้ว หนูจะมาเล่าให้เจ๊ฟังอีกทีนะ’

แพรวไพลินพยักหน้า เธอเคารพการตัดสินใจของน้องเสมอ แต่ถึงอย่างนั้นก็อดเป็นห่วงอีกฝ่ายไม่ได้อยู่ดี

และเพราะบทสนทนาในคืนนั้นนั่นเอง หญิงสาวถึงได้คิดว่าการเสียชีวิตของเพลงรักอาจมีเบื้องลึกเบื้องหลัง

ตอนแรกพวกเธอปล่อยให้การสืบสวนเป็นหน้าที่ของตำรวจ ทว่าผ่านไปหลายวันกลับไม่มีความคืบหน้าใดๆ จนแพรวไพลินและสวรรยาเทียวขึ้นโรงพักหลายต่อหลายครั้งเพื่อขอพบกับตำรวจที่ดูแลคดี ทว่าอีกฝ่ายกลับตอบสั้นๆ ว่ากำลังตามหาหลักฐานอยู่ นานวันเข้าก็ปฏิเสธที่จะให้พวกเธอเข้าพบ ทั้งๆ ที่การตกจากอาคารโดยไม่ทราบสาเหตุของพนักงานบริษัทยักษ์ใหญ่ควรจะเป็นข่าวหรือสร้างความกดดันให้ทีมสืบสวนด้วยซ้ำ ทว่าเรื่องราวทั้งหมดกลับเงียบราวกับไม่เคยเกิดขึ้น

และคนที่อยู่เบื้องหลังคงหนีไม่พ้นดีพีโกลบอลมีเดีย

“เพื่อนสนิทของเพลงดูไม่รู้อะไรเลย ตอนนี้เหลือคนที่น่าสงสัยคือพวกเพื่อนร่วมงานกับคิมหันต์”

แพรวไพลินจ้องภาพถ่ายของนักแสดงหนุ่มตาไม่กะพริบ ก่อนหน้านี้พวกเธอแบ่งงานกันไปสืบข้อมูลจากเพื่อนสนิทของเพลงรักมาแล้ว แต่ก็ไม่พบความผิดปกติใดๆ พวกเขามีมิตรภาพที่ดีกับลูกพี่ลูกน้องสาว แถมยังไม่เชื่อด้วยว่าเพื่อนฆ่าตัวตาย ส่วนกลุ่มเพื่อนร่วมงานของเพลงรัก เธอยังไม่มีโอกาสได้เจอ เพราะมัวแต่ตามหาใครบางคนที่น่าสงสัยที่สุดก่อน

คิมหันต์ พฤกษดำรง

พระเอกหนุ่มไฟแรงวัยยี่สิบเจ็ดปี ลูกชายคนโตของพัลลภและอิษยา พฤกษดำรง คณะกรรมการบริหารของดีพีโกลบอลมีเดีย บริษัทที่ผลิตและจัดจำหน่ายสื่อบันเทิงในรูปแบบต่างๆ แล้วก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของ ดลธี พฤกษดำรง ผู้ชายที่เกือบพรากความบริสุทธิ์ของเธอไปเมื่อคืนก่อนด้วย

คิมหันต์สนิทสนมกับเพลงรักเพราะทั้งคู่เป็นพี่น้องสายรหัสเดียวกันในคณะนิเทศศาสตร์ แถมภาพจากกล้องวงจรปิดที่เห็นน้องครั้งสุดท้าย ก็ยังเป็นตอนที่ลูกพี่ลูกน้องของเธอนั่งคุยกับเขาที่ร้านกาแฟแห่งหนึ่งแล้วมีปากเสียงกัน ก่อนที่น้องของเธอจะกลายเป็นศพในเช้าวันต่อมา

แม้จะเอาภาพจากกล้องวงจรปิดที่ร้านกาแฟให้ตำรวจดู แต่หลักฐานแค่นั้นก็ยังไม่เพียงพอที่จะสรุปได้ว่านักแสดงหนุ่มเป็นคนร้าย คิมหันต์ให้การกับตำรวจว่าเขากับเพลงรักเถียงกันเพราะมีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องงาน แล้วก็ไม่มีหลักฐานอะไรที่บ่งบอกว่าชายหนุ่มเป็นคนลงมือฆ่าเพลงรักด้วย

แต่ถึงอย่างนั้นแพรวไพลินก็ยังสงสัยในตัวนักแสดงหนุ่มอยู่ดี

“ว่าแต่เจ๊เป็นไงบ้าง เมื่อคืนไม่ได้บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม”

หญิงสาวละสายตาจากภาพถ่ายของคิมหันต์มามองคนถาม หลังจากที่หนีออกมาจากบ้านของดลธีราวห้าทุ่ม เธอก็รีบขึ้นรถกลับมาที่ร้านแล้วส่งข้อความบอกพลอยพรรณที่อยู่หอพักนักศึกษาว่าตัวเองปลอดภัยดี เสียดายก็แต่ไม่มีเวลาสำรวจบ้านของผู้บริหารหนุ่ม เพราะกลัวว่าเขาจะตื่นขึ้นมาเจอเสียก่อน

“ฉันไม่เป็นไร ขอบคุณมากนะที่เป็นห่วง”

“แล้วสรุปผู้ชายคนนั้นคือใคร”

“ดลธี พฤกษดำรง”

“ฮะ?!” พลอยพรรณอุทานเสียงหลงก่อนจะหันไปมองภาพถ่ายของคิมหันต์บนจอโดยอัตโนมัติ “ดลธี พฤกษดำรง เจ้าพ่อรายการวาไรตีคนนั้นน่ะเหรอ เขาเป็นญาติของคิมหันต์นี่”

แพรวไพลินพยักหน้ารับ ดลธี พฤกษดำรง รองประธานคณะกรรมการบริหารของดีพีโกลบอลมีเดียมีชื่อเสียงจากการที่เขาเป็นผู้อยู่เบื้องหลังการจัดทำละครและรายการวาไรตีชื่อดังที่ฉายตามช่องต่างๆ ทั้งฟรีทีวีและระบบดิจิทัล ซึ่งแต่ละรายการก็โกยเรตติงถล่มทลาย แถมยังได้รางวัลรายการโทรทัศน์และละครยอดเยี่ยมจากหลากหลายเวทีอีกด้วย

การเป็นคนรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จตั้งแต่อายุยังน้อย ทำให้ดลธีติดอันดับหนึ่งในสิบนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง แถมชายหนุ่มก็ยังเป็นลูกชายคนเดียวของ พลเดช พฤกษดำรง อดีตเจ้านายของพ่อและแม่ของเธอ เขาจึงเคยเป็นเหมือนเจ้านายอีกคนของแพรวไพลินด้วย

“แล้วเกิดอะไรขึ้นบ้าง เขาจับได้หรือเปล่าว่าเจ๊มาสืบเรื่องลูกพี่ลูกน้องของเขา”

“จับไม่ได้หรอก ฉันแค่ดื่มกับเขานิดเดียวแล้วก็รีบชิ่งกลับ โชคดีที่พกยานอนหลับไปด้วย ก็เลยแอบเอาผสมในไวน์ให้เขากิน”

แพรวไพลินตัดสินใจไม่ลงรายละเอียดเรื่องที่เธอเกือบได้มีวันไนต์สแตนด์กับผู้บริหารหนุ่ม ขณะที่พลอยพรรณชูนิ้วกดไลค์ให้เธออย่างชื่นชมก่อนที่แฮกเกอร์สาวจะถามต่อเสียงเครียด

“ว่าแต่เจ๊จะทำยังไงกับคดีเจ๊เพลงต่อ ตอนนี้คงหาทางเข้าถึงตัวคิมหันต์ยากแล้ว”

หญิงสาวเบือนหน้ากลับไปมองใบหน้าหล่อเหลาของคนบนจออีกครั้ง ก่อนจะตอบเสียงเข้มโดยไม่ละสายตาจากภาพตรงหน้าว่า

“ฉันจะแฝงตัวเข้าไปในดีพีโกลบอลมีเดีย”

แพรวไพลินกุมมือของหญิงวัยกลางคนที่นั่งอยู่ข้างกันก่อนจะลุกขึ้นยืนเมื่อเห็นว่าใครที่เดินเข้ามาในห้องประชุม วันนี้หญิงสาวมาที่องค์การนิติวิทยาศาสตร์พร้อมกับสวรรยาเพื่อรับฟังผลการชันสูตรพลิกศพของเพลงรัก ตามที่ตำรวจแจ้งมา หลังจากที่ก่อนหน้านี้ เธอขอยืดระยะเวลาฟังผลออกไปก่อนเพราะสุขภาพที่ไม่สู้ดีนักของผู้เป็นป้า

เพลงรักเป็นลูกพี่ลูกน้องของแพรวไพลิน หญิงสาวถูกพบเป็นศพที่สวนหย่อมของดีพีโกลบอลมีเดียในสภาพเหมือนตกจากที่สูงราวสองสัปดาห์ก่อน โดยผู้พบศพคือพนักงานรักษาความปลอดภัยที่มาเดินตรวจเวรยามตอนตีห้า หลังจากสำรวจสถานที่เกิดเหตุแล้ว ตำรวจสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย แต่เนื่องจากเป็นการเสียชีวิตผิดธรรมชาติ[1] จึงต้องมีการชันสูตรพลิกศพโดยทีมนิติเวชขององค์การนิติวิทยาศาสตร์ เลยเป็นที่มาที่ทำให้เธอและป้าต้องมาฟังผลการตรวจสอบจากจิรณัฐในวันนี้

“ไอ้จี” แพรวไพลินสวมกอดร่างระหงของเพื่อนสนิทหลังจากที่อีกฝ่ายไหว้สวรรยา ก่อนจะผละออกมายิ้มบางให้เพื่อน

“ฉันคิดถึงแกมากเลยไอ้แพรว”

“ฉันก็เหมือนกัน แล้วนี่แกเป็นไงบ้าง”

“ฉันสบายดี เสียใจด้วยนะกับเรื่องที่เกิดขึ้น”

“ขอบคุณแกมากเลยนะ”

จิรณัฐบีบไหล่เพื่อนสนิทอย่างให้กำลังใจ แล้วจึงหันไปทางหญิงวัยกลางคนที่ใบหน้าซูบผอมลงไปอย่างเห็นได้ชัด

“จีเสียใจด้วยนะคะคุณป้า”

“ขอบใจมากนะลูก”

นักนิติวิทยาศาสตร์สาวสวมกอดหญิงวัยกลางคนอย่างห่วงใยก่อนจะช่วยประคองอีกฝ่ายให้ทรุดลงนั่งบนเก้าอี้

“จีขออนุญาตเป็นตัวแทนของทีมนิติเวชและทีมสืบสวนอธิบายหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่ได้จากการตรวจสอบวัตถุพยานและชันสูตรพลิกศพน้องเพลงนะคะ” ร่างบางพูดพลางขยับหน้าจอคอมพิวเตอร์ไปทางญาติของผู้เสียชีวิต ซึ่งเธอเลือกแสดงเฉพาะภาพที่คัดกรองมาแล้วว่าสำคัญกับรูปคดี เพราะไม่อยากให้แพรวไพลินและสวรรยารู้สึกสะเทือนใจไปมากกว่านี้ 

“ปกติแล้ว เราจะตรวจสอบวัตถุพยานที่อยู่ในที่เกิดเหตุ รวมทั้งสถานที่อื่นๆ ที่อาจมีหลักฐานเพิ่มเติม เช่น บ้านหรือที่ทำงาน ในกรณีของน้องเพลงที่ทางตำรวจคาดการณ์เบื้องต้นว่าเป็นการฆ่าตัวตาย เราไม่พบจดหมายลาตาย และไม่พบประวัติการรักษาอาการป่วยทางจิตค่ะ”

“งั้นก็แปลว่าเพลงไม่ได้ฆ่าตัวตายใช่ไหมลูก”

“จีเกรงว่าเรายังสรุปแบบนั้นไม่ได้ค่ะคุณป้า” จิรณัฐตอบสวรรยาด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน “การเสียชีวิตของน้องเพลงอาจเป็นการฆ่าตัวตาย อุบัติเหตุ หรืออาจเป็นการฆาตกรรมก็ได้ค่ะ ซึ่งจะเป็นสาเหตุไหน จะต้องพิจารณาจากประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์หรือว่าหลักฐานอื่นๆ ร่วมด้วย เพียงแต่หลักฐานทั้งหมดที่มีอยู่ตอนนี้ ยังบอกไม่ได้ว่าน้องตกลงมาจากอาคารได้ยังไงค่ะ”

สีหน้าของญาติผู้เสียชีวิตหม่นลงไปอย่างเห็นได้ชัดกับคำตอบของจิรณัฐ ก่อนที่แพรวไพลินจะถามต่อ

“แล้วสภาพศพล่ะ บอกอะไรได้บ้างไหม”

“นอกจากที่อวัยวะส่วนใหญ่เสียหายเนื่องจากการกระแทกแล้ว พวกเราพบร่องรอยการถูกทำร้ายบนร่างกายของน้องเพลงค่ะ มีรอยฟกช้ำบริเวณข้อมือและต้นแขน รวมทั้งยังพบเนื้อเยื่อของบุคคลอื่นติดอยู่ที่ซอกเล็บของน้องด้วย ซึ่งเมื่อลองเทียบตัวอย่างดีเอ็นเอกับผู้ต้องสงสัยในฐานข้อมูลของกรมตำรวจแล้ว ยังไม่ตรงกับข้อมูลที่มีอยู่ค่ะ”

ดวงตาของแพรวไพลินทอประกายกร้าว มั่นใจว่าเพลงรักไม่มีทางฆ่าตัวตายอย่างแน่นอน และการพบดีเอ็นเอของบุคคลอื่นบนร่างกายของลูกพี่ลูกน้อง ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจเป็นการฆาตกรรม

“ที่บอกว่าดีเอ็นเอที่พบไม่ตรงกับฐานข้อมูลของกรมตำรวจหมายความว่ายังไงเหรอลูก”

“แสดงว่าดีเอ็นเอนั้นไม่ใช่ของผู้ต้องสงสัย หรือผู้ต้องหาที่เคยมีประวัติก่ออาชญากรรมค่ะคุณป้า”

“งั้นแสดงว่าคนที่ทำร้ายเพลงอาจเป็นใครก็ได้สินะ”

จิรณัฐพยักหน้ารับคำถามของเพื่อนสนิทก่อนจะสรุป

“ตรงนั้นไม่มีกล้องวงจรปิด ไม่มีใครเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ดังนั้นเราจึงไม่สามารถสรุปสาเหตุการตกลงมาจากอาคารของน้องเพลงได้ค่ะ”

แพรวไพลินเม้มริมฝีปาก อย่างน้อยตอนนี้ก็ไม่ได้มืดแปดด้านเสียทีเดียว หากเธอเข้าถึงบุคคลที่ใกล้ชิดกับเพลงรักแล้วสืบข้อมูลจากพวกเขาได้ ก็อาจจะรู้ว่าเหตุผลอะไรที่ทำให้ลูกพี่ลูกน้องขึ้นไปบนดาดฟ้าของอาคารแล้วตกลงมา

เธอไม่เชื่อหรอกว่าน้องจะฆ่าตัวตาย

“ขอบคุณมากนะแก”

จิรณัฐพยักหน้าพลางโอบไหล่เพื่อนอย่างห่วงใย เธอพูดคุยกับแพรวไพลินอยู่สักพักก่อนจะพนมมือไหว้ลาสวรรยา แล้วขอตัวออกจากห้องประชุมเพื่อให้เพื่อนสนิทและป้าได้ใช้เวลาอยู่ด้วยกัน หลังจากที่ประตูห้องปิดลงแล้ว สวรรยาก็โผเข้ากอดหลานสาวแล้วปล่อยโฮออกมาอย่างสุดกลั้น

แพรวไพลินเม้มริมฝีปาก ยิ่งเห็นหยาดน้ำตาของป้า หัวใจของเธอก็ปวดร้าวตามไปด้วย สามีของสวรรยาเสียชีวิตด้วยโรคร้ายหลังจากที่เพลงรักเกิดได้ไม่นาน ทำให้ต้องกลายเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยว พอพ่อของแพรวไพลินจากไป ป้าก็มารับเธอกับพลอยพรรณไปอยู่ด้วยกัน สวรรยาดูแลและให้ความรักกับพวกเธอไม่ต่างจากแม่แท้ๆ อีกคน สามสาวจึงสนิทสนมกันราวกับเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน

“ทำยังไงดี...ทำไมต้องเกิดเรื่องแบบนี้กับเพลงด้วย”

เสื้อของแพรวไพลินเปียกชุ่มไปด้วยน้ำตาของผู้เป็นป้า แม้ตอนนี้สวรรยาจะทำใจได้บ้างแล้ว แต่ทุกครั้งที่มีใครพูดถึงเพลงรัก อีกฝ่ายก็จะร้องไห้โฮออกมาแบบนี้ มือเล็กลูบหลังคนในอ้อมแขนเบาๆ ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า

“ป้าไม่ต้องกังวลนะคะ แพรวจะหาความจริงให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเพลงกันแน่!”


 

[1] การเสียชีวิตโดยผิดธรรมชาติ ได้แก่ (1) ฆ่าตัวตาย (2) ถูกผู้อื่นทำให้ตาย (3) ถูกสัตว์ทำร้ายตาย (4) ตายโดยอุบัติเหตุ (5) ตายโดยยังมิปรากฏเหตุ ซึ่งจะต้องได้รับการชันสูตรพลิกศพโดยแพทย์นิติเวชเพื่อยืนยันสาเหตุการตาย

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น