2
น้ำจิ้มสูตรพิเศษ
ด้วยสัญชาตญาณของมดงาน ต่อให้มึนหัวโลกหมุนเพราะโซจูดีกรีแรง ร่างกายแม้นวาดก็ยังรู้สึกตัวตามอาทิตย์ส่องแสง อกกว้างขาวจั๊วะปรากฏอยู่ตรงหน้าทันทีที่เธอลืมตาตื่น ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าเธอนอนซบหนุ่มแดนโสมมาตลอดทั้งคืน ความหนักหน่วงทุกข์เศร้าเพราะคนสนิทล้มป่วย บรรเทาเบาลงจนแม้นวาดก็ยังงวยงง กายเปล่าเปลือยกอดกันอยู่นี้ก็ไม่มีราคะมาเจือปน เธอแน่ใจว่าตัวเองหลับพับไปพร้อมความเมามาย พลันตาโตขุ่นคลั่กด้วยความเสียดาย ผ่านราตรีสุดท้ายโดยที่ไม่ได้สอดประสานรวมร่าง ขาดทุนมาก!
“นี่ก็รินให้ไม่หยุด แทนที่จะห้ามกันบ้าง!” โวยอย่างเข่นเขี้ยวหงุดหงิด ขว้างค้อนมึนตึงมอง ‘นี่’ ที่ก็เพิ่ง ‘ตื่น’ เพราะอกสล้างเหมาะมือนุ่มเนียน แม้นวาดก้าวขาลงจากเตียงทั้งความโป๊อล่างฉ่าง เดินไปคว้าผ้าขนหนูขาวสะอาดบนโซฟาริมหน้าต่าง คลี่กางพันตัวไว้
“เมื่อคืนฉันพูดอะไรกับคุณบ้าง...”
ถึงจะประคองสติสัมปชัญญะพอรู้ตน ว่าคงหลุดปากบอกอะไรๆ ไปไม่มากก็น้อย ทว่าแม้นวาดก็ยังอยากถามเขา มือสาละวนหายางมามัดผมบลอนด์ชมพูยุ่งเหยิงเป็นทรงหางม้า
“คุณพูดเยอะเลยละ นินทาแชรโบลเกาหลีเสียเยอะเลยด้วย...” รามัญกระตุกยิ้ม ค่อยๆ ยันตัวนั่งพิงพนัก มองต้นคอน่าดอมดมของแม่ค้าสาว
แม้นวาดกำลังเอามือกุมหัวย้อนหาความทรงจำ ก่อนจะรำพันถึงว่าที่เจ้าบ่าว เหมือนว่าเธอจะวิจารณ์...
‘จับพลัดจับผลูเป็นสะใภ้ไฮโซไทย ยังง่ายกว่าเป็นสะใภ้แชรโบลเกาหลีอีก ของไทยอาจมีกำแพงชนชั้น แต่เกาหลี มีทั้งกำแพงชนชั้น กำแพงชนชาติ ยังไงเขาก็เอาคนของเขาก่อน’
นึกออกแล้วก็หน้าปูเลี่ยนทันควัน พลางประสานตากับพลเมืองแดนโสมอย่างเก้อกระดาก หากเขานินทาสยามเมืองยิ้มบ้าง แม้นวาดก็คงวางหน้าไม่ถูกเช่นกัน
“ทำไมคุณถึงสนใจเกาหลีนักล่ะ อินจากซีรีส์เหรอ”
เธอส่ายหัว เอี้ยวตัวหันมาหาเขา “ไม่เชิง ฉันสนใจตั้งแต่เด็กแล้ว...”
ทึ่งมากด้วยที่เกาหลีใต้พลิกฟื้นจากประเทศยากจนสู่ประเทศพัฒนาแล้ว และหนึ่งในแรงผลักดันนั้น ก็คือการเห็นแก่ประเทศเป็นสำคัญ ความเป็นชาตินิยมนั่นแหละ
“ปู่ฉันพูดให้ฟังทุกวัน ว่าเกาหลีเมื่อก่อนเป็นยังไง คนลำบากกันแค่ไหน แกโม้นับครั้งไม่ถ้วนว่าเคยไปช่วยรบในสงครามเกาหลี เคยช่วยชีวิตคนเกาหลีเอาไว้คนนึงด้วย”
พอเล่าแล้วก็จะหัวเราะทีเล่นทีจริง จนดูเหมือนชายชราสร้างเรื่องชวนฮา แถมป้าข้างบ้านยังพร่ำขัด ว่าอย่าไปเชื่อมาก แกขาพิการเดินกะเผลกเพราะอุบัติเหตุทางรถยนต์ต่างหาก
“คนเกาหลีที่ว่าเป็นใครล่ะ เผื่อผมจะรู้จัก”
ตัดสินก่อนแล้วว่าเขาถามไปอย่างนั้น แม้นวาดเลยทำเฉยไม่หือไม่อือ เห็นสมควรด้วยว่าการซื้อขายของเราควรเสร็จสิ้นสักที
“ว่าที่สามีคุณล่ะ เขาไม่ว่าอะไรจริงๆ เหรอ ยินดีจะให้เจ้าสาวหาความสุขใส่ตัวก่อนแต่งงาน เป็นเจ้าบ่าวที่ใจกว้างดีนะ”
ฟังยังไงก็ไม่ใช่คำชม แม้นวาดรู้สึกได้ว่าเสียงเขากระด้างแกมเยาะชอบกล
“ค่ะ เขารู้ตัวว่าให้ความสุขฉันไม่ได้ เขาเลยเปิดโอกาสให้ฉันได้ลองอะไรใหม่ๆ เราตกลงกันได้”
โบ้ยไปว่าเธอกับคนป่วยมีความสัมพันธ์แบบเปิด Open relationship ปล่อยให้คู่ของตัวมีอิสระทางกาย จับเค้าจากคำพูดมินโฮ เดาว่าเธอคงยังไม่ได้เผย ว่าเธอจะแต่งงานกับคนสนิทเพราะห่วงทรัพย์สิน และอยากให้เงินทองที่จะงอกเงยต่อจากนี้ กลายเป็นสินสมรสที่แม้นวาดเป็นเจ้าของร่วม
“ต่อให้เขาหายป่วย เขาก็ให้ความสุขกับคุณแบบที่ผมให้ไม่ได้ พวกคุณไม่ได้แต่งงานกันเพราะความรัก ถ้าเขารักคุณจริง เขาคงลุกมาชกหน้าผมไปแล้ว”
ไม่หรอก ผิดถนัดเลย ถ้านังตุ๊ดลุกมาได้ มันคงอยากหอมแก้มคุณมากกว่า แม้นวาดอยากจะโพล่งบอกนัก ทว่าก็ต้องข่มจิตข่มใจ ไม่ควรสนทนากันไปมากกว่านี้
“ฉันโอนเงินให้คุณแล้วนะ ถึงเมื่อคืนจะไม่ได้ทำอะไรกัน แต่ฉันก็ยินดีจะจ่ายเต็มจำนวน”
กล้าได้กล้าเสียตามประสาแม่ค้าเงินล้าน เล่นใหญ่ใจโตเป็นนิตย์ แม้นวาดไม่มีบิดพลิ้ว ตกลงกันไว้ว่าคืนละหกหลัก เธอก็เต็มใจจะชำระแบบไม่ขาดสักหน่วย
“เดี๋ยว!”
แต่แทนที่มินโฮจะพอใจ เขากลับส่งเสียงเข้ม รั้งแขนเธอไว้ ไม่ปล่อยให้เธอไปชะล้างร่างกาย
“คุณเขี้ยวมากไม่ใช่เหรอ ทำไมยอมขาดทุนง่ายๆ ล่ะ เมื่อคืนผมยังไม่ได้เสียเหงื่อเพื่อคุณสักหยด!”
เล่นคำศัพท์แสงให้มดแดงสาวครั่นเนื้อครั่นตัววูบวาบ เธอดึงแขนกลับมา ท่องในใจว่าจ่ายแล้วต้องจบ จ่ายแล้วต้องจบสิยะหล่อน!
“ก็ใช่ ฉันเขี้ยวมาก แต่การซื้อขายก็อย่างนี้แหละ บางทีก็ต้องยอมเข้าเนื้อขาดทุนบ้าง”
“แต่ในบริบทนี้ผมคือพ่อค้า และผมก็มีจรรยาบรรณพอ ไม่ฟันกำไรเกินควร”
ตาคมวาววับว่าอยากจะเสียเหงื่อชดเชยให้แม้นวาดอีกหลายหยด พ่อค้าแดนโสมกระตุกร่างอ้อนแอ้นมารัดรึง ปากขบกัดซอกคอ มือไล้ต้นขากลมกลึง ก่อนจะแตะเข้าจุดยุทธศาสตร์ของสามเหลี่ยมทองคำ ปรุงน้ำจิ้มสัญชาติไทยจากปลายนิ้ว จะทำให้เธอวาบหวิวจนอยากลองน้ำจิ้มสูตรพิเศษจากหนุ่มเกาหลี รามัญยินดีจะมอบเป็นของสมนาคุณ จะรังสรรค์มันอย่างพิถีพิถัน รับรองว่าสาวสยามจะต้องถูกปาก คล่องคอ!
“ขอต่อ? เขาน่ะเหรอ ขอบริการหล่อนต่อ!”
คนป่วยตาโตตื่นเต้น สังขารร่อแร่มีแรงกระปรี้กระเปร่า เลือดสูบฉีดเพราะข่าวใหม่จากคู่หู พระลอแดนโสมยังอยู่เป็นเซ็กซ์ทอยมีชีวิตให้แม้นวาด รสสวาทของเขาคงจะตราตรึงมาก ยายผมชมพูถึงได้ติดใจ คว้าข้อเสนอจากมินโฮไว้ ยังปู้ยี่ปู้ยำเขาไม่สาแก่ใจ
“เออ เหมือนเขารู้ว่าฉันทำอสังหาฯ ให้เช่าด้วย เลยขอห้องพักเป็นค่าแรง”
ส่วนเงินแสนหกหลักนั้น เขาว่าตามแต่ใจแม้นวาด จากไม่ขัดอะไรที่แม่ค้าสาวปล่อยผ่าน ไม่คิดจะสืบค้นประวัติของเขา คราวนี้กาไชยชักกังขา คนป่วยเห็นควรให้แม้นวาดรู้เขารู้เราบ้าง
“ฉันว่าเขาแปลกๆ นะมดแดง เขาดูจนเสียเมื่อไหร่ล่ะ ท่าทางผู้ลากมากดีมากด้วย เหมือนเซจาของโชซอนเลยนะ”
เปรียบเปรยว่าเขาเป็นดั่งรัชทายาทในยุคที่คาบสมุทรเกาหลียังไม่ถูกญี่ปุ่นเข้ายึดครอง และถ้าจะให้สอดคล้องกับคอนเซปต์ยอดนิยมของซีรีส์ ก็คงไม่พ้นว่าเขาอาจจะเป็น...
“ทายาทแชรโบล ถ้าเขาเป็นทายาทแชรโบลล่ะมดแดง” คนป่วยแกล้งสันนิษฐานขำๆ รู้ทันว่าถ้าเป็นแม้นวาด ยายผมชมพูคงไม่มัวโกรธขึ้ง
“ก็ดีสิคะ อีมดแดงจะเกาะหนึบเลยละค่ะ”
ไอ้เรื่องจะตัดพ้อมึนตึง ทำไมคุณต้องโกหกฉันด้วยคะ แม้นวาดไม่มีทางทำ แถมยังจะเกาะหนึบดังปากว่า พลันหัวเราะร่วนกันทั้งคู่ ด้วยมันออกจะเพ้อเจ้ออยู่สักหน่อย
“ถ้าไม่ใช่แชรโบล ก็คงเป็นฆาตกรต่อเนื่อง”
ตามคอนเซปต์ยอดนิยมรองลงมา คนป่วยแกล้งสันนิษฐานขำๆ อีก ทว่าเมื่อสบตากัน ทั้งคู่ก็เกิดอาการชะงักค้าง หน้าเจื่อน ต่างฝ่ายต่างรู้สึกว่าหนุ่มแดนโสมหล่อแบบหลอนๆ อยู่เหมือนกัน
“อะไรของแกนังตุ๊ด จากโรแมนติกกลายเป็นสยองขวัญ!”
“ก็ท่าทางเขาลึกลับปานนั้น เกิดเขาเป็นคนหล่อแต่จิต ฆ่าปาดคอแกล่ะ!”
เพราะในขณะที่เขารู้จักเธอ แต่เธอกลับไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลย คนป่วยเริ่มห่วงแม้นวาดในข้อนี้ ตนผิดหรือเปล่านี่ที่สนับสนุนให้แม้นวาดร่านแบบไม่สนโลก
“ไม่ พอเลยนะนังตุ๊ด อย่ามาพูดให้ฉันระแวง”
ปัดตกเพื่อความสบายใจในการร่วมเตียง แม้จะรู้ว่าคนป่วยหวังดี แต่แม้นวาดก็ไม่ขอฟังเสียงทัดทาน เธอรีบออกจากโรงพยาบาล ก่อนที่อีกฝ่ายจะเอ่ยอะไรก็ตามที่ทำให้เธอคลางแคลง
ล้มลุกคลุกคลานแค่ไหนก็ผ่านมาได้ แกคงไม่ซวยขนาดมากินไส้กรอกของฆาตกรหรอกมดแดง แม่ค้าสาวพร่ำท่องขณะขับรถสปอร์ตสีเดียวกับชื่อตัว เครื่องยนต์เร่งแรงพาเธอถึงจุดหมายได้ในเวลาไม่นานนัก
‘แม้นวาดเพลส’ อะพาร์ตเมนต์ให้เช่าสำหรับนักศึกษาและคนวัยทำงาน ‘พี่ปิ๋ม’ สาวใหญ่ผู้จัดการ ยิ้มแย้มต้อนรับทันทีที่เห็นกัน ร่างอวบผิวขาวจากเชื้อสายจีนเดินมากระซิบบอก
“น้องมดแดงคะ พี่เปิดห้องให้เขาแล้วนะ”
รายงานเท่าที่ควรจะเอ่ย พี่ปิ๋มฉลาดพอจะไม่ถาม ว่า ‘เขา’ เป็นใคร ไม่ยุ่งเรื่องของเจ้านาย มองตามร่างอ้อนแอ้นเพียงแวบเดียว เห็นเลขแสดงชั้นลิฟต์ ก็พอรู้แล้วว่าอะไรเป็นอะไร เจ้านายของสาวใหญ่เองก็รู้นิสัยใจคอกันดี พี่ปิ๋มคงไม่เอาไปโพนทะนาบอกใคร ว่าเธอกำลังทำตนไม่ต่างจากเสี่ยเปิดห้องให้อีหนู เลี้ยงดูเซ็กซ์ทอยส่วนตัว ทว่าหลังจากเคาะประตูเรียกหาหนุ่มเกาหลี เธอก็ต้องตาโปนตื่นตระหนก เพราะมือเขาเปรอะเปื้อนไปด้วยของเหลวสีก่ำคล้ายเลือด
“คุณ...นี่คุณ...” ตะกุกตะกักฉับพลัน สมองแม้นวาดยังคิดวนอยู่กับความสยองขวัญ แทบจะหลุดกรี๊ดลั่น
“เป็นอะไรมดแดง ตกใจทำไม”
ชายหนุ่มดึงแขนเธอเข้าห้อง พยักพเยิดให้เธอมองกิมจิผักกาดขาวในชามแก้วใส ทำเอาคนตีตนไปก่อนไข้หน้าม้าน แก้เก้อด้วยการล้างแขนข้างที่ถูกเขาแตะ ผงะเบี่ยงหน้าหลบไม่ทัน เมื่อจู่ๆ เขาก็ตักกิมจิมาป้อนถึงปาก
“ลองชิมดูสิ”
ร่างสูงล่ำรุกคืบเบียดกระแซะ ส่งยิ้มมุมปากหยอกว่ารสมือเขาปลอดภัย ซอสสำเร็จรูปที่ใช้ก็มาจากร้านสะดวกซื้อ ไม่มีน้ำจิ้มสูตรพิเศษของเขามาเจือปนแต่อย่างใด
“เป็นไง อร่อยไหม”
ตาคมวาวจ้องรอคำตอบจากสาวไทย เมื่อเธออ้าปากชิมผักดองแดนโสมจนได้ ก่อนจะฉุนจัดหงุดหงิด เพราะสาวไทยเสนอให้เขาหารายได้จากมัน
“วันๆ คุณคิดแต่เรื่องหาเงินเหรอไง”
ไม่เอะใจเลยใช่ไหม ว่าคนเขาอุตส่าห์ตั้งใจทำให้เธอรับประทานแต่เพียงผู้เดียว ไม่พูดสักคำว่าอร่อย แล้วยังจะกล้าดี ยกกิมจิของเขาให้คนอื่น!
“แหงละ ไม่มีเงินแล้วจะอยู่ยังไง ความสุขส่วนใหญ่ต้องใช้เงินแลกมา”
แน่นอน แม้นวาดหมายถึงคนตรงหน้าด้วย เธออาจนิยามแทนใครไม่ได้ ว่ามีเงินแล้วจะมีความสุขไหม แต่เธอมั่นใจ ว่าถ้าไม่มีเงิน ทุกข์ภัยจะมาเยือนแน่ๆ
“ฉันน่ะเคยจนมาก ทุนก้อนแรกของฉันคือเงินเดือนคนพิการของปู่ เราต้องเลือกระหว่างซื้อข้าวสาร ซื้อไข่มาตุนเป็นอาหารอีกหลายมื้อ กับสู้หลังชนฝา ซื้อของมาขาย”
และผลจากการเดิมพันหมดหน้าตักก็ทำให้แม้นวาดประสบความสำเร็จมาจนถึงตอนนี้ เธอบอกให้มินโฮฟังอย่างไม่นึกอายอะไร ด้วยก็เคยเผยประสบการณ์เยาว์วัยผ่านการค้าทางออนไลน์มาแล้วหลายครั้ง
“ได้กำไรเท่าตัวจากเงินนั้น ฉันดีใจมาก ตอนนี้ใครๆ อาจจะเรียกฉันว่าเศรษฐินีเงินล้าน แต่ฉันยังไม่ดีใจเท่าวันนั้นเลย คุณเชื่อไหม”
รามัญเงียบงัน ไม่ตอบคำถาม ตาคมกริบจ้องเธอนิ่งนาน
“มินโฮ ที่เราทำอยู่ คนไทยเรียกว่าแอบแซ่บ คุณรู้ไหม”
หรือถ้าจะให้แปลตรงตัวก็ชู้ทางกาย รามัญตอบคำถามเธอด้วยจุมพิตประกบปาก ลิ้นร้อนกระหวัดหาความหวานมาตัดรสเผ็ดของโคชูจัง ยอมรับสถานะเร้นลับว่าเราอาจจะต้องหลบซ่อน กินกันแบบแอบๆ แต่ถ้าเรื่องความแซ่บ รามัญแซ่บแบบเปิดเผย ไม่เคยแอบ!
ชิดเชื้อแนบเนื้อกับสาวสยามไม่ห่าง ฝนตกฟ้าร้องกลางดึก เป็นใจให้เขาสร้างสถานการณ์วูบหวาม พาเธอท่องทะยาน ล่องลอยสู่ประตูสวรรค์ กายสูงล่ำพร่ำนัวเนีย กดจมูกหอมรอยสักบนแผ่นหลังหญิงสาว แดนโสมขาวเองก็มีอนุสาวรีย์นกฟีนิกซ์อยู่เช่นกัน
เกาหลีใต้ของเราเปี่ยมด้วยความมาดมั่น จะฝ่าฟันกับทุกโพยภัย มุ่งสร้างความยิ่งใหญ่เกรียงไกร
“ตอนเด็กฉันเคยหยุดหายใจไปแป๊บนึง ทุกคนคิดว่าฉันตาย แต่ฉันก็ไม่ตาย...”
เลยนำสัญลักษณ์ของการคืนชีพนั้นมาประดับผิวกาย เปรียบเป็นเครื่องเตือนใจให้แม้นวาดได้โอกาสมีชีวิตใหม่แล้ว ไม่ว่าจะพบพานกับอุปสรรคใด แม้นวาดจะฮึดสู้กับมันทุกอย่าง
ร่างอ้อนแอ้นพลิกตัวนอนตะแคง ตายาวรีสบตาคมวาว ปล่อยให้เขากอดตระกองคลอเคลีย มือลูบไล้เอวบาง ข้อสันนิษฐานพิลึกพิลั่นว่าเขาเป็นฆาตกรต่อเนื่องถูกปัดตกไป ถ้าบอกว่าจะฆ่าเธอด้วยไฟพิศวาสน่ะ อาจจะใช่ เขาช่างร้อนเร่าทนทาน
“ฉันไม่ใช่คนเกิดมารวย แต่ต้องสู้ถึงจะรวย ฉันไม่เคยอิจฉาคนที่พ่อแม่หาไว้ให้ แต่รำคาญเวลาคนรวยหน้าไหนก็ตาม สาระแนมาสั่งสอนชาวบ้านว่าให้พอใจกับความจน...”
ทั้งที่ตัวเองไม่เคยจน ไม่เคยลำบาก ยิ่งไปกว่านั้น เจ้าสัวไทยบางตระกูลนั่นแหละ สักแต่จะกดราคาสินค้าทางการเกษตร ทำให้ชาวบ้านรายได้ต่ำ ทั้งที่พวกเขาสมควรจะได้มากกว่านั้น ก่อนจะอยู่แบบพอประมาณได้ มันต้องพอกินอิ่มท้องก่อนไหมล่ะ
“ถ้ากรุงโซลของคุณมีพันจีฮา บ้านใต้ดิน กรุงเทพฯ ของฉันก็มีสลัม ชุมชนแออัด....”
แม้นวาดไม่เคยปกปิดว่าเคยเป็นเด็กสลัมมาก่อน ไม่ลืมพื้นเพว่าเคยกินนอนท่ามกลางน้ำครำ ตอนนี้หลานสาวมีเงินพอจะสร้างคฤหาสน์หรูหรา ปู่โมกข์ของเธอก็ไม่ยอมย้ายออกมาอยู่ดี
‘ปู่ไม่ไป แกอย่ามาเจ้ากี้เจ้าการกับปู่นะมดแดง’
ชายชราเสียงแข็งหนักแน่น รั้นจนเธอเหนื่อยจะเจรจา จำต้องใจอ่อนปล่อยให้ปู่ทำตามความปรารถนา เพราะแม้จะต่างคนต่างอยู่ แต่ปู่ก็ไม่เคยห่างเหิน
‘แกไม่ได้ตั้งกล้องขายของมาหลายวันแล้วนะมดแดง เป็นอะไรหรือเปล่า’
ชายชรานั่นเอง แฟนตัวยงของแม่ค้าสาว ทว่าแม้นวาดก็ยังไม่กล้าเล่าว่ากาไชยล้มป่วยฉับพลัน แต่ครั้นจะค้าขายทั้งสภาวะอย่างนี้ ก็กลัวตัวเองจะผิดปกติจนเผลอหงอยเหงาอึมครึมกลางอากาศ แม้นวาดเลยต้องกราบกรานขออภัย คุณลูกค้าคะ คุณลูกค้าขา มดแดงขอพักจิตพักใจอีกแป๊บแล้วจะกลับไปแรงฤทธิ์สุดเจิดเหมือนเดิมแน่นอน
“แล้วคุณไม่อยากรู้บ้างเหรอ ว่าทำไมผมมาอยู่ไทยแบบนี้” รามัญลองหยั่งเชิงถาม กระชับวงแขนเมื่อเธอเงียบ รอฟังเขาบอกเอง
“ผมทะเลาะกับเจ้านาย โดนเขาไล่ออกจากงาน เครียดๆ เลยมาพักผ่อนที่ไทย...” มาเยือนผืนแผ่นดินขวานทอง บ้านเกิดของแม่... “โชคดีได้มาเจอคุณ ให้งานผมทำ”
เรือนกายสูงล่ำยกทาบทับร่างอ้อนแอ้น หมายมาดว่าจะเสียเหงื่อออกแรงทำงานเป็นรอบที่ห้าของค่ำคืนนี้
“เดี๋ยวก่อน เดี๋ยว!” แม้นวาดร้องห้าม เบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากเขา รู้สึกถึงความแฉะชุ่มกลางตัว พลันรีบวิ่งเข้าห้องน้ำทั้งความโป๊เปลือย แสงจากดวงไฟส่องให้เธอเห็นเลือดแดง
“เป็นอะไรหรือเปล่า...” ชายหนุ่มตามมา ทันเห็นความชุ่มฉ่ำสีสดนั้น เขาหลุบตาเลี่ยงไม่มอง ไม่ทำให้บรรยากาศระหว่างเราอิหลักอิเหลื่อ
“เอ่อ...คุณมินโฮ คุณช่วยหยิบของในลิ้นชักหัวเตียงให้ฉันหน่อยได้ไหม”
หญิงสาวยิ้มเจื่อนเหนียมอาย ไม่นึกเหมือนกันว่าจะเป็นประจำเดือนต่อหน้าเขา ขาก้าวมายืนหลบมุมชิดผนัง แขนยื่นออกไปนอกประตู รอเพียงครู่เดียว กางเกงชิ้นเล็กและผ้าอนามัยก็มาส่งถึงมือ เธอเร่งรีบจัดการธุระด้วยความว่องไว สูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วเดินกระดากปิดอกสล้างออกมาหาหนุ่มแดนโสม ย่นคิ้วตงิดๆ เมื่อเห็นว่ามินโฮกำลังหน้าตึงถมึงทึง ร่างสูงสวมเพียงกุงเกงลิงสีดำ ในมือเขาถือของใช้ส่วนตั๊วส่วนตัว (ทางเพศ) ที่เธอไม่เคยให้ใครเห็น!
“มดแดง นี่คุณ...”
ตาคมวาวจ้องดวงหน้ากระอักกระอ่วน ขาย่างสามขุมคาดคั้นหญิงสาว แม้นวาดใช้มันบำบัดความใคร่อย่างนั้นใช่ไหม
“อย่าทำอะไรพี่แท่งนะ!”
ร่างอ้อนแอ้นร้องป่าวปกป้อง ‘ไส้กรอกปลอม’ จากความขุ่นเคืองของรามัญ ชายหนุ่มกัดฟันกรอดเพราะนามที่สุดแสนจะสนิทสนมนั่น
“คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องเขา พี่แท่งเขาอยู่กับฉันมานาน เขามาก่อนคุณ!”
คนมาทีหลังโกรธจนตัวสั่น ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมตนถึงได้โกรธเพียงนี้
“อย่าบอกนะว่าที่ผ่านมา คุณฝึกประสบการณ์กับไอ้เวรนี่!”
พลันนึกรู้ทันควัน ยามล่วงล้ำเข้าหาความเป็นหญิงของแม้นวาดคราแรก เชิงชายของเขาบอกชัดว่าเธอผ่านการใช้งานมาพอควร ท่าทางเธอก็ช่ำชอง ทว่าก็มีบางช่วงบางตอนที่เธอยังขาดทักษะ เป็นความกร้านบนความอยากรู้อยากลอง
“แล้วไง ฉันควบคุมพี่แท่งได้ จะช้า จะเร็ว อยู่ที่มือฉัน!”
“กับพี่มินโฮ คุณก็ควบคุมได้ อยากให้ผมช้าหรือเร็วก็สั่งมา!”
แม้นวาดหน้าม้านวูบวาบ ไม่เคยคิดจะเรียกเขาว่าพี่คะ โอปป้าขา แต่พอเขาแทนตัวเช่นนั้นก่อน มันกลับหวิวซ่านอย่างน่าประหลาด
“อย่านะ นั่นคุณจะทำอะไร!”
ตื่นตระหนกเหลอหลาเมื่อเขาง้างแขน ไม่ฟังคำท้วง ฟาดเซ็กซ์ทอยชมพูอ่อนลงกับพื้น พี่แท่งของมดแดงหักสะบั้น ขาดเป็นสองท่อน!
“ตอนนี้คุณมีของจริงแล้ว คุณไม่จำเป็นต้องพึ่งพามันอีกต่อไป!”
ความคิดเห็น |
---|