1

ข่าวฉาวและการพบกันของสองเรา

บทที่ ๑
ข่าวฉาวและการพบกันของสองเรา 

 

ดราก้อนกำลังใช้คีย์การ์ดเปิดประตูห้องพัก แต่ยังไม่ทันจะเข้าห้อง เสียงผิวปากเรียกจากห้องสวีตที่อยู่ข้างๆ ก็ดังขึ้น เขาหันไปมองและพบว่าลี่หงกวักมือเรียก นักร้องหนุ่มเดินเข้าห้องนั้นแทน 

เขากลับกรุงเทพฯ ช้าเพราะต้องช่วยเฉินห่าวจัดการกับคนป่วย นึกไม่ถึงเลยว่าผู้จัดการหนุ่มดักรออยู่ก่อนแล้ว 

“มีอะไร ฉันบอกแล้วไงว่ามีธุระ” คนมีชนักรีบแก้ตัว เพราะกลัวว่าผู้จัดการหนุ่มจะถาม 

ลี่หงโต้กลับทันควัน “นายไปไหนมา เมื่อคืนนี้ไม่ได้กลับมานอนโรงแรมใช่ไหม”

ดราก้อนกำลังนึกคำแก้ตัวดีๆ ระหว่างเขาแอบออกไปเที่ยวหรือไปวิ่งออกกำลังกายตอนเช้าดี แต่ชุดที่สวมอยู่ซึ่งเป็นชุดเดิมกับเมื่อคืนก็ค้านข้ออ้างนั้น

“อย่าโกหกฉันว่าออกไปเที่ยวหรือไม่ก็ออกไปจ็อกกิงเด็ดขาด ฉันนั่งส่องประตูนายมาตั้งแต่เช้ามืดแล้ว นายไม่ได้กลับมานอนที่นี่ ใช่ไหม สารภาพมา”

“เออ รู้แล้วจะถามอีกทำไมวะ หรือว่าเมื่อคืนสองสาวนั่นกวนใจนาย”

“ใช่ แต่ไม่ใช่อย่างที่นายคิด แต่เพราะไอ้นี่ต่างหาก”

ลี่หงยื่นมือถือส่งให้ดราก้อนดู ภาพข่าวที่ปรากฏอยู่หน้าฟีดเด่นหราคือรูปของดราก้อนกับสองสาวตรงที่จอดรถ แต่เนื้อข่าวที่ใส่สีตีไข่จนดูเหมือนนิยายเรตอาร์ต่างหากที่ทำให้เจ้าของเรื่องกัดกรามแน่น 

“เฮ้ย ฉันไม่ได้ค้างคืนกับพวกหล่อน สาบานได้”

“ฉันรู้ ในคลิปก็เห็นๆ อยู่ว่านายสะบัดแขนจากสองคนนั่น”

“มีคลิปลงด้วยหรือ ทุเรศที่สุด นี่มันแอบถ่ายฉันหรือ”

ลี่หงกดคลิปให้ดู 

ดราก้อนเบือนหน้าหนี เขากระแทกตัวลงบนโซฟา เสยผมแรงๆ ด้วยความหงุดหงิด นับตั้งแต่ก้าวเข้าสู่วงการ ชายหนุ่มต้องรับมือกับข่าวฉาวนับครั้งไม่ถ้วน แต่พักหลังบ่อยขึ้น นั่นก็เพราะนักข่าวคู่อริคนหนึ่ง

“นายไปอาบน้ำอาบท่าก่อน ฉันกำลังหาทางลบข่าวบ้าๆ นี่ออกจากเว็บ”

“นายทำได้งั้นหรือ”

“ไม่ลองก็ไม่รู้ แต่กว่าฉันจะตื่นมาเห็นข่าวก็ตีห้าครึ่งแล้ว ฉันโทร. หาคนอื่นแต่ยังไม่มีใครรับสายสักราย ข่าวนี้โพสต์ตอนเที่ยงคืน แสดงว่าไอ้นักข่าวนั่นคงมาแอบดักถ่ายคลิปนายแล้วส่งให้ บ.ก. พอไฟเขียวก็รีบโพสต์เลย หวังว่าแฟนคลับในฮ่องกงคงตื่นสายกันนะ”

“แล้วถ้าไม่เป็นอย่างนั้นล่ะ”

“ตำแหน่งพรีเซนเตอร์ของนายต้องมีปัญหาแน่”

“ขนาดนั้นเลยหรือ” ดราก้อนหน้าซีด นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขามีข่าวฉาว แต่พออ่านความคิดเห็นด้านล่างแล้วเริ่มใจไม่ดี เนื้อหาข่าวใส่สีตีไข่จนเกินกว่าเหตุและมุ่งไปทางชู้สาว ทำนองว่าเขาคั่วผู้หญิงพร้อมกันถึงสองคน

 “ฉันอาจคิดมากไปเองก็ได้ นายรีบไปอาบน้ำก่อนเถอะ แล้วห้ามลงไปไหนทั้งนั้น เรายังไม่อยากรับมือกับนักข่าวตอนนี้ ฉันจะสั่งอาหารขึ้นมาให้บนห้องเอง”

“เออ รู้น่า มีรูปแบบนี้ออกไป ใครหน้าไหนจะมีอารมณ์ไปกินอาหารเช้าข้างล่างวะ”

“เชื่อใจฉันริว ฉันจะช่วยจัดการเรื่องวุ่นๆ ให้นายเอง รับรองว่าฉันจะเล่นงานไอ้คนที่ทำให้นายมีข่าวฉาวให้สาสม”

 

ร่างเพรียวบนเตียงเขวี้ยงแท็บเล็ตลงกับพื้นเพื่อระบายอารมณ์ หยางอิงไม่รู้ว่าทำไมต้องโกรธ รู้แต่ว่าตั้งแต่เห็นรูปในคอลัมน์กอสซิป ความรื่นรมย์ตอนเช้าก็หายวับไปในพริบตา 

“ตายแล้วคุณหนู ทำไมโยนของแบบนี้คะ ประเดี๋ยวหน้าจอก็แตกพอดี” แม่บ้านอาวุโสผลักประตูเข้ามาและเกือบจะโดนแท็บเล็ตตกใส่เท้าจึงอุทาน โชคดีที่ห้องนี้ปูพรม หน้าจอจึงไม่เป็นรอย

หญิงสาวหน้างอง้ำ จิกเล็บเรียวสวยเข้ากับมือตัวเอง “ป้าคะ อิงบอกแล้วไงว่าถ้าจะเข้าห้องต้องเคาะประตูก่อน”

แม่บ้านร่างอวบส่ายหน้า ย่อตัวเก็บแท็บเล็ตส่งคืนให้ อมยิ้มน้อยๆ แบบที่เคยทำประจำ 

“ป้าขอโทษค่ะ ลืมไป คิดว่าคุณหนูยังเด็ก ตอนเล็กๆ มีแต่ร้องให้ป้าฟางมานอนเป็นเพื่อน”

น้ำเสียงเปี่ยมด้วยความเอ็นดูแถมคนพูดยังไม่หงุดหงิด หยางอิงจึงรู้สึกผิด หล่อนลุกจากเตียงและเดินมากอดเอวอย่างประจบ ซบหน้าลงบนบ่า 

“ขอโทษค่ะ อิงโมโหเกินไปหน่อย”

“ใครกันคะที่ทำให้คุณหนูของป้าหน้าหงิกแต่เช้า หรือว่าเป็นเพราะข่าวของนักร้องคนนี้”

ลี่ฟางหยิบมือถือตนขึ้นมา หน้าจอมีข่าวดราก้อนเปิดค้างอยู่ คลิปวิดีโอสั้นๆ ที่ปาปารัซซีนำมาลงเรียกยอดวิวได้เป็นล้านๆ ลี่ฟางเองก็ได้ดูคลิปนี้ด้วย แม้หล่อนจะอายุหกสิบปีแล้วแต่ก็ทันสมัย หล่อนมีแอกเคานต์เฟซบุ๊ก อีกทั้งในกรุ๊ปไลน์ย่อยยังมีคนส่งคลิปมาให้ดูแทบทุกกรุ๊ป

หยางอิงหน้าบูด หัวข้อข่าววันนี้มีแต่เรื่องดราก้อนแทบทุกฟีด เพราะนักร้องหนุ่มกำลังดัง มีทั้งงานโฆษณา งานอีเวนต์ พรีเซนเตอร์สินค้า แต่ที่หยางอิงโกรธที่สุดก็คือเขากำลังจะทำโพรเจกต์ร่วมกับหล่อนแต่ดันมามีข่าวฉาว ชายหนุ่มไม่ควรเอาความมักมากมาทำให้งานเสีย 

“ป้าอย่าพูดถึงเขาได้ไหมคะ อิงไม่อยากได้ยิน ยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห”

ใช่! หยางอิงเกลียดดราก้อน เพราะเขาเคยปรามาสหล่อนด้วยคำพูดอันแสบเจ็บแสบ 

‘ผมไม่ชอบทำงานกับเด็ก ยิ่งเป็นเด็กผู้หญิงด้วยแล้วน่าเบื่อ งอแง เอาแต่ใจ น่ารำคาญ’

แม้จะไม่ได้ยินถ้อยคำเหล่านี้ด้วยตัวเอง แต่หยางอิงก็นึกหน้าชายหนุ่มออกว่าใบหน้าคงสุดแสนจะเย่อหยิ่ง ดราก้อนหลงตัวเอง คิดว่าตนเป็นศูนย์กลางของจักรวาล สมัยเรียนเขาคือรุ่นพี่สุดฮอตของโรงเรียน ทั้งคู่เรียนที่เดียวกัน ดราก้อนต่อต้านทุกคน ยิ่งคนสนใจเขาก็ยิ่งทำตัวเหมือนไม่เห็นหัวคนอื่น แค่นึกถึงนัยน์ตาคมแสนยียวน หยางอิงก็อยากจะควักลูกตาคู่นั้นออกมาเสียให้รู้แล้วรู้รอด แต่ติดที่ว่าหล่อนไม่อยากติดคุกข้อหาทำร้ายร่างกาย ทำไมเขาต้องดูถูกหล่อนทั้งที่ไม่เคยร่วมงานกันด้วย 

“แต่ป้าได้ยินว่าเขาต้องร้องเพลงคู่กับคุณหนูไม่ใช่หรือคะ แล้วทำไมไม่ดีต่อกันไว้”

“ป้าจะให้อิงทำดีกับผู้ชายคนนั้นน่ะหรือ ฝันไปเถอะ คนอะไร ทั้งขี้อวดแถมยังเจ้าชู้อีกต่างหาก”

คลิปที่ถูกปล่อยออกมาเป็นตอนที่หญิงสาวสองคนยื้อยุดผู้ชายคนเดียวกัน แทบไม่ต้องเดาเลยว่าดราก้อนคงจะควงสองสาวไปท่องราตรีต่อเป็นแน่ คลิปถูกตัดออกไปแถมยังเบลอหน้าไว้ แต่ภาพสุดท้ายคือรูปของชายหนุ่มเดินออกมาจากห้องในสภาพอิดโรย หยางอิงจำสองสาวได้ว่าเป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชันไฮนั่นเอง 

“แหม คุณหนูคะ บางทีเรื่องจริงอาจไม่เป็นแบบที่เราเห็นก็ได้ ปาปารัซซีเดี๋ยวนี้ขยันสร้างข่าวจะตาย”

“แต่อิงมั่นใจว่าผู้ชายคนนี้ไม่ใช่คนดี”

ดราก้อนมักมีภาพหลุดกับผู้หญิงออกมาเสมอ และทุกครั้งก็เป็นนักข่าวคนเดิม หลายคนบอกว่าบรรณาธิการกับนักข่าวไม่ชอบดราก้อนเป็นการส่วนตัวจึงลงรูปและข่าวเชิงชู้สาว แต่หยางอิงเชื่อสนิทใจว่าเขาคือเพลย์บอยตัวเอ้ที่คอยพร่าพรหมจรรย์สาวๆ 

“เขาทำอะไรให้คุณหนูโกรธหรือคะ ป้าไม่เคยเห็นคุณหนูพูดถึงใครแบบนี้”

“อิงเกลียดหมอนั่น เอะอะก็หาว่าอิงเด็ก อิงงอแง อิงเกลียดที่สุด”

 “นี่คุณหนูเคยเจอกับดราก้อนแล้วหรือคะ”

 “เคยสิคะ อิงจำขึ้นใจเลย ตอนนั้นอิงน่าจะชกหน้าผู้ชายคนนั้นเสียด้วยซ้ำ”

 สมัยนั้นหล่อนยังเป็นเด็กกะโปโลตัวเล็กๆ ผิวคล้ำฟันหลอ แต่ดันสะเออะไปแอบชอบรุ่นพี่ หล่อนไปต่อคิวมอบการ์ดวันวาเลนไทน์ให้ แต่ถูกชายหนุ่มโยนการ์ดที่ตั้งใจทำมาทั้งคืนลงถังขยะแถมยังมองด้วยสายตารังเกียจ หลังจากนั้นทั้งสองก็พบกันแบบผ่านๆ อีกหลายครั้งโดยที่ดราก้อนจำหล่อนไม่ได้เลยสักนิด เขาไม่เคยเห็นหัวหล่อนด้วยซ้ำ

 “ตายแล้วคุณหนู นี่ใครสอนให้ก้าวร้าวแบบนี้ ไม่เอาค่ะ ไม่น่ารักเลย เราเป็นเด็ก เขาอายุมากกว่าคุณหนูต้องเรียกเขาว่าพี่ถึงจะถูก”

 “อิงไม่เรียก อิงเกลียด”

“คุณหนู ไม่เอานะคะ” ลี่ฟางเอ็ด สีหน้าเครียด

“ป้าฟางคะ นี่ป้าไม่รักอิงแล้วหรือ ทำไมต้องไปเข้าข้างคนนอกด้วย คอยดูนะ ถ้าเจอ อิงจะชกหน้าเขาให้หงายไปเลย”

 ลี่ฟางเลี้ยงดูหยางอิงมาตั้งแต่เกิดเพราะมารดาเสียชีวิต หยางอิงจึงรักอีกฝ่ายเหมือนแม่แท้ๆ ยิ่งเหวินลู่ชิงไม่เคยมีเวลาให้ เขาทำแต่งาน นอกเวลางานก็เปลี่ยนคู่นอนไม่เว้นแต่ละวัน เพื่อชดเชยให้ลูกสาว หยางอิงจึงเปรียบเสมือนเจ้าหญิงของบ้าน ทุกคนล้วนแต่ตามใจหล่อน 

 “ไม่เอานะคะ เป็นสาวเป็นนางจะชกหน้าผู้ชายได้ยังไง คนอื่นได้ยินจะคิดว่าป้าเลี้ยงคุณหนูไม่ดี เราเลิกพูดเรื่องนี้กันดีกว่าป้าจะขึ้นมาบอกคุณหนูว่าคุณพ่อรออยู่ที่ห้องอาหารเช้า อยากให้คุณหนูลงไปพบ”

 “ป๊ามาถึงบ้านแล้วหรือคะ ตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมอิงไม่รู้”

 “ค่ะ ตั้งแต่เมื่อคืนนี้ และก็สั่งให้ป้าทำของโปรดของคุณหนูไว้เต็มโต๊ะด้วย ป้าให้เวลาสิบห้านาทีพอไหมคะ เดี๋ยวคุณท่านจะรอนานเกินไป”

 “เหลือเฟือค่ะ เดี๋ยวอิงอาบน้ำเสร็จแล้วจะรีบตามลงไป”

 ร่างบางที่เคยหน้าบูดบึ้งกระโดดแผล็วลงจากเตียงและวิ่งเข้าห้องน้ำ ทิ้งให้ลี่ฟางมองตาม 

ภาพถ่ายของหยางอิงวางเรียงกันตรงหัวนอน นับตั้งแต่วัยแบเบาะจนถึงวันเด็กและตอนโต ไม่นึกเลยว่าเด็กหญิงที่เคยนั่งกอดตุ๊กตาร้องไห้รอให้พ่อกลับบ้าน บัดนี้โตเป็นสาวแล้วแถมยังสวยมากอีกด้วย หยางอิงได้ความสวย ใบหน้างดงามผุดผาดจากผู้เป็นแม่ อีกทั้งยังได้ความเฉลียวฉลาดทันคนจากบิดาไปเต็มๆ แต่ใครจะนึกว่าเด็กสาวเลือกเส้นทางที่ต่างจากบิดาอย่างสุดขั้ว เพราะแทนที่จะสนใจธุรกิจกลับเลือกไปประกวดร้องเพลงแทน 

ลี่ฟางหยิบรูปคุณผู้หญิงของบ้านขึ้นมาดู 

 “น่าเสียดาย ถ้าคุณผู้หญิงได้เห็นคงภูมิใจ ตอนนี้คุณหนูอิงทั้งสวยและน่ารัก”

 สายตาคนในภาพถ่ายมองกลับมา แววตาหม่นเศร้าคล้ายกับมีความนัยใจบางอย่าง ลี่ฟางลูบกระจกด้านหน้ารูปถ่าย ขอบตาแดงก่ำ 

 “คุณผู้หญิงไม่ต้องห่วงนะคะ ดิฉันจะดูแลคุณหนูอย่างที่ดีที่สุด ไม่ให้คุณหนูต้องพบกับความเสียใจเหมือนคุณผู้หญิง ดิฉันสัญญา”

 

 ชายร่างหนาที่นั่งตรงหัวโต๊ะแม้จะอายุหกสิบปีแล้ว แต่ความสง่าไม่ได้ลดน้อยลงเลย ทั่วฮ่องกงไม่มีใครไม่รู้จักเหวินลู่ชิง เขาคือนักธุรกิจ มหาเศรษฐี และมาเฟียในคนเดียวกัน เหวินลู่ชิงมีหุ้นในบริษัทโทรคมนาคมทั้งในฮ่องกงและเมืองไทย เขาร่วมทุนกับบริษัทเอเวอร์แกรนด์กรุ๊ปเปิดตัวแอปพลิเคชันไฮที่จัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่

 “นั่งก่อนสิ พ่อให้ป้าฟางเตรียมของโปรดลูกเอาไว้เยอะเชียว”

 หยางอิงเพิ่งอาบน้ำเสร็จ สวมเสื้อยืดกับกางเกงยีนรัดรูปเผยให้เห็นรูปร่างสมส่วนของวัยสาว หล่อนกำลังจะอายุยี่สิบในอีกไม่ถึงสองสัปดาห์ข้างหน้า 

 “วันนี้แปลก ทำไมป๊าว่างมากินข้าวเช้ากับอิงได้”

 “พูดแบบนี้แสดงว่าไม่คิดถึงป๊าเลยงั้นสิ”

 “คิดถึง แต่อิงรู้ว่าป๊างานยุ่งมาก” หยางอิงเน้นคำ ข่าวคู่ควงคนล่าสุดที่เป็นดาราสาวสุดเซ็กซี่ตีพิมพ์ในหนังสือแท็บลอยด์หลายฉบับ แม้จะบอกตัวเองว่านี่คือเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่มีฐานะแต่ก็อดน้อยใจไม่ได้ ดูเหมือนบิดามีเวลาให้แก่ผู้หญิงพวกนั้นมากกว่าหล่อน

 “ยุ่งแค่ไหนป๊าก็มีเวลาให้อิงเสมอ แต่ที่ป๊าหายไปเพราะไปหาของชิ้นนี้มาให้ลูกอิงต่างหาก”

 ถุงกระดาษสีส้มอันเป็นเอกลักษณ์ หยางอิงมองของที่ถูกนำออกมาจากกล่องและพบว่าคือกระเป๋าแบรนด์ดัง พอเปิดกล่องและดึงกระเป๋าออกมาก็พบว่าคือรุ่นที่หายากมากๆ เพราะเป็นลิมิเต็ดอิดิชัน ลวดลายบนกระเป๋าสื่อความหมายจากเฟลกชิปของแบรนด์ซึ่งมีลักษณะคล้ายบานหน้าต่างของร้านนั่นเอง ความพิเศษคือหนังห้าชนิดที่ผสมผสานอยู่บนกระเป๋าใบเดียวและเทคนิคสามมิติ

 “ป๊า นี่ป๊าได้มายังไงคะ”

 “ก็เพื่อลูก ป๊าก็ต้องหาทางสอยมันมาจนได้นั่นละ”

 หยางอิงโผเข้ากอดบิดา หอมแก้มเขาฟอดใหญ่ เหวินลู่ชิงโอบเอวบุตรสาวเอาไว้ เขารักหล่อนมากที่สุด สำหรับคนอื่นเหวินลู่ชิงคือมาเฟียอันตราย เขาโหดร้ายและพร้อมจะจัดการกับคู่แข่งได้ในพริบตา เขาเคยตกเป็นผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าคนตายแต่อำนาจเงินก็ทำให้หลุดพ้น แต่สำหรับลูกสาว เขาคือพ่อใจดี เอาใจทุกอย่าง 

 “แต่มันแพงมากนะคะ อิงไม่เอาดีกว่า”

 “อ้าว ไหงงั้น จู่ๆ จะมาเทป๊าแบบนี้ไม่ได้นะ ป๊าหมดไปตั้งเท่าไหร่รู้ไหม”

 “ป๊าเอาไปขายต่อสิคะ ไม่เห็นยาก กระเป๋ารุ่นนี้ราคาในตลาดหลายล้าน ขายตอนนี้รับรองมีคนซื้อแน่ๆ” หยางอิงแกล้งพูดทั้งที่ความจริงตัวเองอยากได้กระเป๋าใบนี้มานานมากแล้ว หล่อนเปรยกับลี่ฟางตั้งแต่เห็นภาพโฆษณาทางเว็บไซต์ แต่รู้ว่าใช่จะหามาได้ง่ายๆ 

 “ป๊าไม่ได้ให้อิงฟรีๆ เสียหน่อย แต่ป๊าจะหักเงินเดือนหนู”              เหวินลู่ชิงแกล้งแหย่ 

หยางอิงเบิกตากว้างมองบิดาพร้อมกับทุบแขนเขาเบาๆ “ป๊าก็ อิงไม่ได้มีเงินเยอะแบบนั้นสักหน่อย”

 “แบบนี้ก็ไม่ได้ แบบนั้นก็ไม่ได้ สรุปว่าจะให้ป๊าเอากระเป๋าไปคืนร้านงั้นหรือ ป๊ายังเข้าใจว่าอิงอยากได้กระเป๋าใบนี้มาก เห็นติดรูปไว้ในห้องนอน”

 หยางอิงเบิกตากว้างมองบิดา แม้เขาจะไม่ค่อยอยู่บ้านแต่กลับใส่ใจหล่อน

 “ป้าลี่ฟางบอกป๊าหรือคะ”

 “ใช่ ป๊าถึงได้บอกคนของป๊าว่าจะต้องซื้อกระเป๋าใบนี้มาให้ได้ เพื่อเป็นของขวัญวันเกิดให้อิงในวันครบรอบยี่สิบปี”

 “ป๊าจำวันเกิดอิงได้”

 “เรื่องของอิงป๊าจำได้ทุกอย่างนั่นละลูกรัก อิงเหมือนแม่มากๆ ยิ่งเวลาที่ดวงตาเป็นประกายแบบนี้”

แม้เหวินลู่ชิงจะเหี้ยมโหด แต่เขาไม่เคยลืมภรรยาซึ่งเป็นรักแรก หล่อนคือผู้หญิงคนเดียวที่เขาไม่เคยลืม แม้ที่ผ่านมาเขาจะมีคู่นอนมามาก แต่ไม่เคยมีใครแทนที่หล่อนได้เลย 

 “อิงก็คิดถึงแม่”

 “บอกป๊าหน่อยสิว่าชอบของขวัญชิ้นนี้ไหม”

 หยางอิงยื่นหน้ามาหอมแก้มบิดาพร้อมกับโผเข้ากอด เหวินลู่ชิงลูบผมลูกสาวแล้วยิ้ม

 “ชอบค่ะ อิงชอบมากๆ ขอบคุณป๊ามากๆ นะคะ แต่ถ้าจะให้ดีวันนี้ป๊าห้ามไปทำงาน ต้องอยู่บ้านกับอิง”

 “ป๊ากำลังคิดอยากจะอู้งานอยู่พอเลย ดีเหมือนกัน ได้อยู่บ้านกับลูกสาว”

 “ป๊าสัญญาแล้วนะคะ”

 “แน่นอน ขอป๊าเคลียร์เอกสารในห้องสมุดแป๊บเดียว แล้วเราสองคนจะได้อยู่ด้วยกันทั้งวัน”

 “ห้ามผิดสัญญานะคะ อิงให้ป๊าทำงานแค่ชั่วโมงเดียว เวลาที่เหลือวันนี้ทั้งวันต้องเป็นของอิงเท่านั้น”         ร่างเพรียวเอียงหน้ามาซบไหล่และกอดเอวบิดาไว้แน่น 

เหวินลู่ชิงหัวเราะร่วน ลูบศีรษะลูกสาวอย่างเอ็นดู สองพ่อลูกหัวเราะอย่างชื่นมื่น เขามองลูกสาวซึ่งเปรียบเสมือนแก้วตาดวงใจ คนอย่างเหวินลู่ชิงจะไม่ยอมให้ใครมาทำให้ลูกสาวเสียใจอย่างเด็ดขาด

 

 มื้ออาหารเช้าวันนี้เป็นไปอย่างชื่นมื่น เหวินลู่ชิงทำตามคำสัญญาที่ให้ไว้แก่ลูกสาวนั่นก็คือทุ่มเวลาให้อย่างเต็มที่ เขาเข้าไปเคลียร์เอกสารในห้องทำงานแค่ชั่วโมงเดียว หลังจากนั้นสองพ่อลูกก็นั่งเล่นเกมเพลย์สเตชันด้วยกัน เหวินลู่ชิงยังคงทำตัววัยรุ่น เพื่อลดช่องว่างระหว่างวัย แต่ในช่วงบ่ายที่ลูกสาวเข้าไปซ้อมเต้นในสตูดิโอ เขาก็ได้มีเวลาส่วนตัว

 ชายร่างหนานั่งอยู่หน้าจอ กดปุ่มเฟซไทม์ไปยังไลน์ของลูกน้องคนสนิท รออยู่ไม่นานภาพของอีกฝ่ายก็ปรากฏขึ้น 

 “เรื่องที่ฉันสั่งได้ความว่ายังไงบ้าง”

 สิ่งที่ทำให้เหวินลู่ชิงหงุดหงิดมากในวันนี้คือข่าวกอสซิปที่ปรากฏในหน้าหนังสือพิมพ์แทบทุกฉบับ เนื้อข่าวทำให้พ่อที่หวงลูกสาวนั่งแทบไม่ติด 

 “ผมพยายามติดต่อต้นสังกัดแล้ว แต่เขาบอกว่าเปลี่ยนไม่ได้”

 “ทำไมจะไม่ได้ พวกมันไม่รู้หรือว่าฉันเป็นใคร!” เหวินลู่ชิงตวาดลั่น เขาคือพ่อที่หวงลูกสาวประดุจจงอางหวงไข่ ยิ่งรู้ว่าดราก้อนเป็นหนุ่มเจ้าชู้จะมาใกล้ชิดลูกสาวก็ยอมไม่ได้ 

 “โธ่ นายครับ ทางเราเซ็นสัญญาไปแล้ว จู่ๆ จะให้เปลี่ยนตัวนักร้องได้ยังไง”

 “ทำไมจะเปลี่ยนไม่ได้ อย่าลืมสิว่ามันก็เป็นลูกจ้างบริษัทเราเหมือนกัน แล้วงานนี้ฉันก็เป็นสปอนเซอร์ใหญ่ ฉันสั่งอะไรก็ต้องเป็นไปตามนั้น”

 “แต่ดราก้อนดังมาก หากได้ประกบกับคุณหนูอิง รับรองว่าดังเป็นพลุแตก”

 “แต่หยางอิงไม่จำเป็นต้องอาศัยมัน” เขาเน้นคำ พาดหัวข่าวเมื่อเช้ายังจำติดตา

 “แต่นี่คือโอกาสทองเลยนะครับ”

 ชื่อเสียงของดราก้อนกำลังหอมหวนติดลมบน แค่มีข่าวแพล็มออกไป ยอดติดตามในอินสตาแกรมของทั้งคู่ก็พุ่งขึ้นเกือบสองเท่า

“ฉันไม่สน ทำยังไงก็ได้ให้มันกระเด็นออกไป ไม่เห็นหรือว่ามันควงผู้หญิงพร้อมกันสองคน ขืนให้หยางอิงใกล้ชิดมันละก็”

 “แต่คุณหนูเป็นคนฉลาด คงไม่หลงกลใครง่ายๆ หรอก”

 “ถึงอย่างนั้นฉันไม่อยากเสี่ยงให้ลูกสาวต้องอยู่ใกล้ชิดไอ้ผู้ชายชีกอพรรค์นั้น แกไปจัดการตามที่สั่ง ถ้ามันมีปัญหานักละก็ จัดการให้ไอ้ดราก้อนมันร้องเพลงไม่ได้ไปตลอดชีวิตเลยก็ยิ่งดี”

 “จะดีหรือครับนาย มันจะกระทบพรีเซนเตอร์แอปพลิเคชันไฮนะครับ ผมว่าใจเย็นๆ ก่อนเถอะ เอาเป็นว่าผมจะลองคุยกับทางต้นสังกัดให้เปลี่ยนตัวนักร้องคู่ อาจจะลองเสนอคนอื่นที่ไม่มีข่าวฉาวก่อน ประเด็นนี้อาจจะพอทำให้เปลี่ยนใจได้”

 ที่ผ่านมาเหวินลู่ชิงพยายามใช้คอนเนกชันทุกอย่างทำให้ดราก้อนกระเด็นออกไปจากชีวิตลูกสาว แต่ติดที่อีกฝ่ายมีคะแนนนิยมสูงลิบทำให้จัดการลำบาก

 “จะทำอะไรก็ไปทำ แต่วันมะรืนนี้หยางอิงต้องเข้าประชุม ฉันหวังว่าจะได้ยินข่าวดีว่ามันไม่อยู่ที่นั่นแล้ว”

 “ครับนาย ผมจะทำให้เต็มที่ นายรอฟังก็แล้วกัน”

 เหวินลู่ชิงกดตัดสาย เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้ ใบหน้าหงุดหงิดไม่ต่างจากเดิม เขามองไปยังห้องซ้อมที่อยู่ติดกัน ห้องนี้เขาลงทุนสร้างขึ้นเพื่อให้ลูกสาวได้มีสตูดิโอส่วนตัวภายในบ้าน ผนังห้องเก็บเสียงอย่างดี ผนังด้านหนึ่งเป็นกระจกมองเข้าไปจะมองเห็นในห้องอย่างชัดเจน ภาพลูกสาวที่สวมชุดเสื้อยืดกางเกงยีนกำลังซ้อมเต้นอย่างเอาจริงเอาจัง มองจากมุมนี้หยางอิงเหมือนอดีตภรรยาของเขามาก ใบหน้างดงามราวกับนางฟ้า เหวินลู่ชิงรักลูกสาวมาก อะไรที่เป็นความสุขไม่เคยขัด แต่ครั้งนี้พอรู้ว่าจะต้องทำงานกับดราก้อนก็ยิ่งหงุดหงิด

เขาไม่ไว้ใจหมอนั่น บางทีถ้าพึ่งลูกน้องไม่ได้ เขาอาจจะต้องลงมือเอง ดราก้อนจะไม่มีทางได้อยู่ใกล้หยางอิง และถ้าจำเป็นเขาก็พร้อมจะจัดการชายหนุ่มให้หายไปจากโลกใบนี้ และหาพรีเซนเตอร์คนใหม่มาเสียบแทน

 

 ดราก้อนเขี่ยอาหารเช้าในจานไปมา เขาไม่รู้สึกอยากอาหารเลยแม้แต่น้อย ตลอดทั้งวันลี่หงเคร่งเครียด ผู้จัดการหนุ่มคุยโทรศัพท์ไม่รู้กี่สายเพื่อจัดการให้คลิปดังกล่าวถูกลบออกไป ดราก้อนหวังว่าต้นสังกัดจะยังไม่เห็นข่าวนั้น แต่โชคร้ายก็คือบรรณาธิการส่งรูปพร้อมคลิปให้บริษัทต้นสังกัดเสียเอง 

“นักข่าวคนนี้มันตามจิกนายไม่เลิก ไม่รู้จะแค้นฝังหุ่นอะไรนักหนา”

 คลิปถูกตัดต่อมาแค่บางส่วน สิ่งที่ดราก้อนเล่าคือโต้เถียงกับสองสาวและลงเอยด้วยการขี่มอเตอร์ไซค์หนีไป แต่ภาพเหล่านั้นกลับทำให้เกิดความเข้าใจไปในทางตรงกันข้ามเพราะตัดมาแค่การยื้อยุดแขนกัน คนในสังคมจึงแปลความว่าดราก้อนคั่วผู้หญิงพร้อมกันสองคน แถมยังมีการตัดต่อให้ภาพจากกล้องวงจรปิดของโรงแรมซึ่งเป็นรูปชายสองหญิงหนึ่งถูกเบลอทำให้คนคิดว่าสุดท้ายแล้วดราก้อนควงทั้งสองคนเข้าไปในโรงแรม ลี่หงรีบติดต่อเส้นสายของตนเพื่อลบรูป แต่เนื่องจากข่าวถูกแชร์ออกไปเป็นวงกว้าง แถมหนังสือก็วางแผงตั้งแต่เช้ามืด เขาต้องรับโทรศัพท์สลับกับการแก้ข่าวว่าเกิดอะไรขึ้น

 “ช่างมันเถอะ หมอนี่มันหูผีจมูกมด มันคงตามฉันมาเมืองไทย”

 “ทำไมไอ้ตงเฟยถึงได้เกลียดนายนัก”

 เขารู้จักตงเฟยดี ตอนนั้นดราก้อนเพิ่งได้ตำแหน่งใหม่ๆ ตงเฟยมาดักสัมภาษณ์ขณะที่เขากับมารดากำลังออกไปรับประทานอาหารนอกบ้านด้วยกัน ท่าทางคุกคาม พยายามจะถ่ายรูปเขาร่วมกับแม่เพื่อไปพาดหัวข่าวทำให้ดราก้อนโมโหจนเผลอตอกหน้าไป ทำให้นักข่าวไม่พอใจมาก ยิ่งเขาบังเอิญรู้มาว่าตงเฟยชอบหลอกแบล็กเมล์นักศึกษาจึงยื่นมือเข้าไปช่วย หลังจากนั้นทั้งสองก็กลายเป็นศัตรูมาตลอด

 “เราจะฟ้องมัน เล่นลงรูปแบบนี้ทำให้ภาพลักษณ์นายเสียหายหมด”

 “อย่าไปยุ่งกับมันเลยน่า แค่นี้ขี้ปะติ๋ว”

 “ได้ไงดราก้อน นี่มันส่งผลต่องานใหญ่ของนายเลยนะ” ลี่หงโพล่งออกไปอย่างลืมตัวก่อนเงียบเสียง ดราก้อนจึงรู้ว่าผู้จัดการกำลังปิดบังบางอย่างอยู่ 

 “นะ นายหมายความว่ายังไง”

 “เอ่อ ปละ เปล่า”

“ไม่จริง บอกฉันมาลี่หง ฉันอยากรู้”

ผู้จัดการหนุ่มหน้าซีด จำต้องเอ่ยตอบ 

“เอ่อ คือว่าเมื่อครู่นี้ทางต้นสังกัดโทร. มาจะขอยกเลิก”

ลี่หงเสียงอ่อย ลำพังเรื่องเงินเขาไม่ห่วงเพราะสัญญาที่เซ็นไว้ครอบคลุม แต่ที่ลี่หงเสียดายคือโอกาสในโพรเจกต์ใหญ่ต่างหาก เขาพยายามต่อรองและสัญญาว่าจะหาหลักฐานมาแก้ต่าง แต่ต้นสังกัดดูอึกอักเหมือนมีบางอย่างซ่อนอยู่

 “แค่มีรูปกับผู้หญิงเนี่ยนะ แล้วสองคนนี้ก็เป็นพรีเซนเตอร์ของแอปพลิเคชันไฮด้วย ทำอย่างกับว่าฉันฉุดพวกหล่อนไปข่มขืนงั้นละ ถ้าอย่างนั้นไม่แจ้งความจับฉันเข้าคุกไปเลยล่ะ”

 “ฉันเข้าใจทุกอย่างว่านายไม่เคยยุ่งเกี่ยวกับสองคนนั่น แต่ต้นสังกัดไม่คิดอย่างนั้น พวกเขาคิดว่านายทำให้ชื่อเสียงบริษัทเสียหาย”

“แต่ฉันไม่เคยนอนกับพวกหล่อน นายก็รู้”

“รู้สิ ฉันรู้ดีกว่าใครเพื่อน แต่ฉันสงสัยว่าคงมีใครสักคนเหม็นขี้หน้านาย ปกติต้นสังกัดไม่เคยจุกจิกเรื่องพวกนี้มันก็แค่ข่าว ยิ่งมีข่าว คนก็ยิ่งสนใจนายมากขึ้น เป็นการสร้างกระแสด้วยซ้ำ แต่คราวนี้ถึงกับจะเปลี่ยนตัวพรีเซนเตอร์ ฉันว่ามันแปลก”

“นายคิดว่ามีคนบีบให้ฉันออกงั้นหรือ”

“ทำนองนั้น แต่ไม่ต้องกลัวนะ ฉันแอบปล่อยข่าวในทวิตเตอร์แล้ว ประเดี๋ยวกองทัพแฟนคลับของนายก็คงออกมาโวยวายเอง คิดจะปลดนายออกก็ต้องรับมือกับแฟนคลับเป็นกองทัพของนาย คราวนี้ถึงแม้ต้นสังกัดอยากเปลี่ยนแต่ก็คงต้านกระแสสังคมไม่ได้”

 ดราก้อนมีฐานแฟนคลับที่เหนียวแน่นมาก มียอดแฟนคลับเป็นล้านคนที่สนับสนุน ดังนั้นพอมีข่าวลือว่าจะเปลี่ยนตัวนักร้อง แฟนคลับคงไม่ยอมแน่ ต้นสังกัดที่ต้องพึ่งพลังสนับสนุนของแฟนคลับคงไม่ยอมสูญเสียเงินจำนวนนี้ไป

 “ไอ้คนคนนั้นเป็นใคร”

 “ฉันไม่รู้ ก็แค่เดา ไม่คนพ่อก็คนลูก”

“หรือว่าหยางอิงไม่อยากร่วมงานกับฉัน”

ดราก้อนหน้าบึ้ง ตอนแรกที่รู้ว่าจะต้องร่วมงานกับหยางอิง เขาหงุดหงิดสุดขีด นอกจากเป็นผู้หญิงแล้วหล่อนยังเด็กมาก กิตติศัพท์ความเรื่องมากของหล่อนเล่าลือไปทั่ววงการ ชายหนุ่มต้องการคนที่เป็นมืออาชีพ ดังนั้นเขาจึงปรามาสหล่อนโดยผ่านคนใกล้ตัวไปหลายครั้ง

 “เป็นไปได้ เธอก็เลยขอให้พ่อช่วย”

 “นี่มันเรื่องงี่เง่าที่สุดในศตวรรษเลยนะ ถ้ากลัวนักทำไมไม่ลาออกไปเองล่ะ ไม่ได้ ฉันไม่ยอม เรื่องอะไรจะมายึดงานฉัน”

 โพรเจกต์นี้คือโพรเจกต์พิเศษของทางค่าย ซึ่งจะทำเงินรายได้ให้ดราก้อนมหาศาล นอกจากนั้นยังเป็นโอกาสที่เขาจะได้โกอินเตอร์มากกว่าเดิม เนื่องจากทางค่ายมีแผนจะจับคู่เขากับนักร้องวัยรุ่นของอีกหลายประเทศ

 “ฉันจะกลับฮ่องกงไปคุยกับเด็กคนนั้นเดี๋ยวนี้”

 “เฮ้ย แกจะไปหาหยางอิงเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า มีหวังโดนพ่อหล่อนแพ่นกบาลแน่ เผลอๆ อาจได้กินลูกปืนเป็นอาหารเช้า” ลี่หงโพล่งออกมาเสียงหลง 

 “ใช่ ฉันจะไม่ยอมให้ยายลูกคุณหนูเอาแต่ใจตัวเองมาทำให้เสียงานหรอก คอยดูนะ”

 “นายจะทำยังไง”

 “ฉันก็จะไปคุยกับเธอสองต่อสองน่ะสิ”

 แม้ว่าวิธีนี้จะเสี่ยง แต่ลี่หงก็รู้ดีว่าเหวินลู่ชิงรักลูกสาวมาก หากหยางอิงยอมทำงานต่อ ผู้เป็นพ่อก็ปฏิเสธไม่ได้ เท่าที่เขารู้มา หญิงสาวถือดีว่าตนมีความสามารถ หากบีบให้นักร้องสาวมาลงสนามเพื่อแข่งก็อาจจะสำเร็จ

“นายรู้หรือว่าหยางอิงอยู่ที่ไหน พ่อหล่อนคุมแจขนาดนั้น แล้วจะพบตัวต่อตัวโดยไม่มีบอดีการ์ดได้ไง”

 “รู้สิ แล้วฉันก็มีวิธีด้วย นายช่วยเลื่อนตั๋วกลับฮ่องกงให้เร็วที่สุด ฉันต้องการพบหยางอิงก่อนการประชุมอาทิตย์หน้า”

            

ชายหนุ่มเปิดประตูเข้าไปในห้องนอนของตน และก็พบว่าใครอีกคนนั่งรออยู่ก่อนแล้ว เขาไม่แปลกใจเพราะปกติเฉินห่าวไปไหนมาไหนโดยไม่บอกล่วงหน้าอยู่แล้ว การที่จู่ๆ โผล่มาในห้องจึงไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมาย เคราะห์ดีลี่หงเพิ่งแยกตัวกลับห้องเพื่อเก็บข้าวของเตรียมตัวเดินทางกลับก่อนกำหนด

 “ไม่เปิดไฟอีกแล้ว เดี๋ยวผมก็หัวใจวายตายกันพอดี”

 “ยังหนุ่มอยู่จะหัวใจวายตายได้ยังไง อ่อนแอเกินไปหรือเปล่า”

 ดราก้อนไม่เหมือนเด็กหนุ่มในวัยเดียวกันที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในโรงเรียน ยามว่างคนตรงหน้าก็สอนให้ชกมวย ยิงปืน ฟันดาบ รวมถึงศิลปะป้องกันตัวแขนงต่างๆ เหตุการณ์ที่อำเภอสวนผึ้งคือการออกภาคสนามของชายหนุ่ม ก่อนแยกกันเขากับเฉินห่าวช่วยกันส่งไทกะให้ถึงมือหญิงสาวคนหนึ่ง พวกเขาซุ่มรออยู่นอกบ้านรอจนอีกฝ่ายขึ้นรถไปเรียบร้อย แต่ที่แย่ก็คือเขายังไม่ได้รับคำชมเลยแต่แม้คำเดียว

 “ดุผมอีกแล้ว ผมเป็นศิษย์เอกของคุณ อย่างน้อยน่าจะชมกันบ้าง”

 “ยังเร็วเกินไปที่จะชม คุณยังต้องพิสูจน์ตัวเองอีกหลายเรื่อง”

 ดราก้อนยักไหล่

“แต่งานที่ผ่านมาผมทำได้ดีออก”

“แค่ช่วยพยาบาลคนป่วย ดีตรงไหน”

 “แต่เขาอาการหนักมากนะ แต่สุดท้ายก็รอด แถมเรายังส่งเขากลับบ้านได้อีกต่างหาก” ชายหนุ่มโอ่ คนป่วยอาการหนัก เพ้อตลอดเวลาแถมยังไข้ขึ้นสูง แต่เพราะเฉินห่าวมีความรู้ทางการแพทย์จึงช่วยให้ไทกะรอดชีวิต

 “เขายังไม่ปลอดภัยหรอก ตราบใดที่พวกมันยังตามล่าเขา”

 “ชอบพูดมีลับลมคมในจัง สรุปว่าเขาปลอดภัยหรือยังกันแน่”

 “อย่ารู้เลย นี่ไม่ใช่เรื่องของคุณ เอานี่ไป งานนี้สำคัญมาก คุณต้องเอาทรัมป์ไดรฟ์นี้กลับฮ่องกง”             

ชายหนุ่มรับไป หรี่ตามองก่อนจะถาม “ข้างในคืออะไร”

“เอาไว้ถึงบ้านค่อยเปิดดู จำเอาไว้ ห้ามเปิดในคอมพิวเตอร์ที่เชื่อมต่อวายฟายเด็ดขาด ข้อมูลด้านในเป็นความลับ”

“โห ฟังดูน่าตื่นเต้น เหมือนหนังสายลับเลย น่าสนุก” ชายหนุ่มพูดด้วยน้ำเสียงทะเล้น นัยน์ตาคู่นั้นเป็นประกาย 

 “ทำเป็นเล่นอยู่เรื่อย อย่างนี้จะทำงานใหญ่ได้ยังไง”

 “ได้หรือไม่ได้ผมก็ทำมาแล้ว สำเร็จเสียด้วย แค่เรื่องทรัมป์ไดรฟ์สบายหายห่วง ผมจะพาเจ้าหญิงกลับถึงบ้านอย่างปลอดภัย”

เขาสอดทรัมป์ไดรฟ์ไว้ในกระเป๋าเสื้อ ตบเบาๆ พร้อมยักคิ้ว เฉินห่าวเป็นฝ่ายเดินตามมากำชับสีหน้าเคร่งเครียด 

 “รักษาของชิ้นนี้ให้ดีเท่าชีวิต นี่ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ”

 “ไม่ต้องห่วงน่า ผมทำตามที่คุณสอนทุกอย่าง” ชายหนุ่มลากเสียง 

มือหนาเอื้อมมาแตะบ่า อาจารย์มีสีหน้าเคร่งเครียด 

 “ถ้าเกิดอะไรขึ้นละก็จำคำผมเอาไว้ คุณต้องไม่ลังเล เพราะมันคือจุดอ่อน”

 ชายหนุ่มสั่นศีรษะ “บ่นเป็นคนแก่อีกแล้ว บอกแล้วไงว่าผมยังไม่พร้อมจะฆ่าคน ไม่เข้าใจหรือ”

“ผมไม่ได้บอกให้คุณฆ่า แต่ถ้าถึงเวลาต้องป้องกันตัว คุณต้องไม่ลังเล”

 ชายหนุ่มมองอาจารย์ที่มีสีหน้าเคร่งเครียดกว่าเดิม นับตั้งแต่รู้จักกันมา นอกจากสอนศิลปะป้องกันตัวแล้ว อาจารย์ยังสอนการดำรงชีวิตอีกด้วย เขารักและเคารพอาจารย์ประดุจญาติผู้ใหญ่ แม้ว่าหลายครั้งจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ท่านทำก็ตาม 

 “ผมรับปาก เชื่อเถอะ ผมเอาตัวรอดได้”

 “เอาไว้ทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ผมจะติดต่อคุณเอง เข้าใจไหม”

มือหนาตบบ่าบีบเบาๆ นัยน์ตาสีฟางมองชายหนุ่มด้วยความมั่นใจ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น