6

บทที่ 6


เสียงโทรศัพท์กรีดร้องดังก้องปลุกให้ปีย์วราให้งัวเงียตื่นจากนิทรา หญิงสาวขยับแขนขา ใช้มือป่ายปัดควานหาโทรศัพท์ที่วางเอาไว้ข้างกายเพื่อรับสายจากผู้ที่โทร.เข้ามา

“ปีย์ตื่นหรือยังนี่ พี่เองนะ”

“พี่เอกเองหรือคะ มีอะไรหรือเปล่า”

“ตอนนี้พี่มายืนรออยู่ข้างล่าง อยากจะมาเยี่ยมน้องพัฟ ปีย์สะดวกให้พี่ขึ้นไปหาที่ห้องไหม”

“พี่เอกรอสักครู่นะคะ พอดีปีย์เพิ่งตื่น”

“นี่พี่โทร.มาปลุกปีย์หรือ ขอโทษที”

“ไม่หรอกค่ะ อีกสักครู่นาฬิกาก็จะปลุกอยู่พอดี ขอเวลาให้ปีย์สัก 5-10 นาทีนะคะ”

หญิงสาวขยับลุกขึ้นจากเบาะนอนที่วางอยู่กับพื้นด้วยท่าทางเกียจคร้านแล้วบิดตัวไปมาซ้ายขวา ส่งยิ้มให้ลูกชายสุดที่รักที่ตื่นขึ้นมาก่อนและกำลังเล่นอยู่ภายในคอกซึ่งทำจากท่อพีวีซีสีฟ้าซึ่งต่อขึ้นมาโดยเอกชัย เพื่อป้องกันไม่ให้น้องพัฟคลานไปทั่วห้องได้ในยามที่ปีย์วรานอนหลับพักผ่อน หญิงสาวขยับลุกขึ้นก่อนจะรีบหยิบจับจัดแจงทำความสะอาดห้องแบบลวกๆ เพื่อต้อนรับเอกชัยผู้ซึ่งเป็นพี่เขยของเธอ

เมื่อครบ 10 นาทีตามเวลาที่หญิงสาวบอก เสียงเคาะประตูห้องของเธอก็ดังขึ้น ปีย์วราหันไปดูความเรียบร้อยของห้องตนเองและของน้องพัฟอีกหนก่อนจะเดินไปที่ประตูห้องและเปิดรับเอกชัยด้วยรอยยิ้มที่คุ้นเคย

“สวัสดีค่ะพี่เอก”

เอกชัยคือชายหนุ่มรูปร่างหน้าตาธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษน่าดึงดูดสายตาหรือความสนใจใดๆ แถมฐานะก็ปานกลาง เพราะฉะนั้นตอนที่ดวงหทัยบอกว่าจะแต่งงานกับเอกชัยปีย์วรายังค่อนข้างประหลาดใจเพราะเห็นว่าคบหากันได้ไม่นาน แต่พอปีย์วรารู้ว่าเอกชัยเป็นนายทหารอากาศถึงเข้าใจและร้องอ๋อในใจทันที ดวงหทัยพี่สาวเธอใฝ่ฝันมาตั้งแต่สมัยแตกเนื้อสาวว่าอยากมีแฟนเป็นนายทหาร อยากให้ใครๆ เรียกเธอว่าคุณนาย หรือไม่ก็แต่งงานกับคนรวยมีฐานะ มีที่ทางมากมาย ขับรถเบนส์มีบ้านหรูๆ  

ช่างเป็นบุญของพี่สาวเธอเหลือเกินเพราะดูๆ ด้วยสายตาแล้วเอกชัยนั้นรักดวงหทัยแบบไม่ลืมหูลืมตาถึงขั้นเรียกว่าหลงเลยก็ว่าได้ ดวงหทัยว่าอย่างไรเอกชัยก็ว่าตามไปเสียทุกอย่าง แถมพี่เขยของเธอเป็นคนดีมีน้ำใจและขยันขันแข็งขนาดเปิดอู่ซ่อมรถและเครื่องยนต์เป็นของตนเองได้โดยไม่ต้องยื่นกู้หรือหยิบยืมเงินใครมาเสียด้วย ฝีมือการซ่อมเครื่องยนต์ก็ไม่เป็นสองรองใครเลื่องลือจนมีลูกค้าประจำมากมาย จากอู่ขนาดกลางในตอนแรก ตอนนี้ขยับขยายกลายเป็นอู่ซ่อมรถยนต์ขนาดใหญ่มีชื่อเสียงจนบริษัทต่างผูกขาดทำสัญญาให้ดูแลและซ่อมรถให้ สร้างเนื้อสร้างตัวขึ้นมาในเวลาเพียง 2 ปีเท่านั้น

...ช่วงที่ดวงหทัยคบหากับเอกชัยนั้น ปีย์วราเองก็ไม่มีกะจิตกะใจจะมาสนใจอะไรกับใครเท่าไหร่ เพราะเธอกำลังอยู่ในห้วงทุกข์แสนทุกข์ กินน้ำตาต่างข้าวเพราะมารดามาเสียชีวิตไปอย่างกะทันหัน ซ้ำคนรักมาหายหน้าไป แถมยังตั้งท้องขึ้นมาโดยที่ยังเรียนไม่จบ ในช่วงเวลาหัวเลี้ยวหัวต่อที่เธอมีแต่ความทุกข์นั้นพอดี ทำเอาปีย์วราเสียใจจนแทบไม่เป็นผู้เป็นคน ไม่ได้มองหรือสนใจใครทั้งสิ้น

 “คิดยังไงคะถึงมาเยี่ยมปีย์กับลูกได้วันนี้”

เอกชัยทำสีหน้าครุ่นคิดอยู่เพียงนิด ก่อนจะส่งยิ้มให้หญิงสาวที่ยืนตรงหน้าด้วยท่าทางที่ฝืนเต็มที “พี่มีเรื่องจะคุยกับปีย์ ขอเข้าไปข้างในหน่อยได้ไหม”

“เชิญสิคะ ทำไมวันนี้มีพิธีรีตองจัง ทำเหมือนไม่เคยมาไปได้ แล้วพี่หทัยสบายดีไหมคะ” หญิงสาวเดินนำเอกชัยเข้ามาในห้อง

“ก็คงสบายดีในแบบของเขานั่นแหละ” เอกชัยเดินตรงเข้าไปหาน้องพัฟทันที ตัวเขาเองนั้นอยากจะมีลูกทันทีหลังแต่งงาน แต่ดวงหทัยกลับผัดผ่อนบอกว่ายังไม่พร้อม เพราะฉะนั้นตอนที่น้องพัฟเกิดมาเขาจึงค่อนข้างเอ็นดูเด็กชายมากเป็นพิเศษ

“ทำไมคะ มีอะไรหรือเปล่า หรือจะเป็นเรื่องเดิมๆ อีก”

“ก็เรื่องเดิมๆ นั่นแหละปีย์เอ๊ย ปีย์ก็รู้ว่าหทัยชอบอะไรๆ เกี่ยวกับงานสังคม ไปช่วยคุณนายคนนั้นคนนี้ทำงานของสมาคมแม่บ้าน เขาอยากยกระดับตนเองให้ขึ้นไปเท่ากับพวกคุณหญิงคุณนายพวกนั้น ให้คนนับถือและเกรงใจเขา”

“พี่เอกยังคิดเรื่องนี้อยู่อีกหรือคะ พี่เอกดีกว่าใครๆ ตั้งหลายคน ดีกว่านายทหารพวกนั้นเสียอีก แถมฐานะก็มั่นคง มีบ้านมีรถ ใครๆ ก็นับถือพี่ทั้งนั้นที่มาได้จนถึงจุดนี้ พี่เอกควรภูมิใจนะคะ เพราะว่าในวันนี้พี่มีอะไรๆ มากกว่าพวกนายทหารที่จบจากโรงเรียนหลักหลายคนเสียอีก”

“แต่หทัยเขาไม่ได้คิดแบบนั้นนี่ปีย์ ทุกวันนี้พี่ยังแปลกใจไม่หาย อยากรู้ว่าเพราะอะไรหทัยเขาถึงยอมแต่งงานกับพี่”

“เพราะความดีของอย่างไรเล่าคะ แถมพี่เอกก็เป็นถึงนายทหารชั้นสัญญาบัตรหน้าที่การงานมั่นคง”

“ใช่พี่เป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตรก็จริง แต่ไม่ได้จบมาจากโรงเรียนนายเรืออากาศนี่ปีย์ พี่ใช้วุฒิปริญญาสอบเทียบขึ้นมา ศักดิ์ศรีเกียรติยศมันสู้นายทหารจากโรงเรียนหลักไม่ได้ เฮ้อ…พูดเรื่องนี้ทีไรพี่ไม่สบายใจทุกที เราอย่าพูดเรื่องนี้เลยนะ พี่เริ่มเหนื่อยใจกับมันแล้ว พูดยังไงก็ไม่จบสักที พูดยังไงพี่ก็เป็นดั่งใจของหทัยเขาไม่ได้”

“ถ้าพี่หทัยเขาจะโง่ยึดติดกับเรื่องที่ว่าจบมาจากโรงเรียนนายเรืออากาศหรือไม่ได้จบมาจากโรงเรียนนายเรืออากาศแค่นั้น พี่เอกก็ปล่อยพี่หทัยเขาไปเถอะค่ะ ถ้าเขาจะโง่มองไม่เห็นสิ่งที่พี่เอกทำให้เขาในวันนี้ ทำให้เขามีเงินใช้โดยไม่ต้องออกไปทำงานทำการให้เหน็ดเหนื่อยสักนิด ทำให้เขามีรถเก๋งขับเชิดหน้าชูตาไปไหนก็ไม่อายใครๆ ในขณะที่คุณนายบางบ้านยังขี่มอร์เตอร์ไซด์ตากแดดจนหน้าขึ้นฝ้าอยู่เลย”

“แต่ปีย์ก็อย่าลืมนะ ว่าที่พี่มีทุกอย่างในวันนี้ได้ก็เพราะเงินทุนของหทัย ถ้าหทัยเขาไม่เอาเงินเก็บก้อนนั้นมาให้พี่เปิดอู่ พี่ก็คงไม่มีวันนี้”

“ปีย์เข้าใจค่ะพี่เอก แต่ในความคิดของปีย์ ถึงพี่เอกไม่ได้เงินก้อนนั้นมา ปีย์ว่าพี่เอกก็มาถึงจุดนี้ได้ แต่อาจจะช้าหน่อย” ปีย์วรามองไปที่เอกชัยซึ่งก้มลงไปอุ้มน้องพัฟขึ้นจากคอกกั้นมาไว้ในอ้อมกอด พร้อมหอมซ้ายหอมขวาแสดงอาการคิดถึงอย่างเห็นได้ชัด

เอกชัยมองไปรอบๆ ห้องที่ปีย์วราพักอาศัยอยู่เมื่อเห็นความคับแคบจนรู้สึกอึดอัดแทน “ย้ายไปอยู่กับพี่ไม่ดีกว่าหรือ”

ปีย์วราส่ายหน้าไวเหมือนเช่นทุกครั้ง ก่อนจะทำเป็นหยิบจับสิ่งของต่างๆ ไปเรื่อยๆ “ปีย์ไม่อยากได้ยินคำบ่นจากพี่หทัย”

“เขาบ่นก็เพราะรักและห่วงปีย์”

หญิงสาวส่งยิ้มเหมือนรู้กันให้เอกชัย “บางครั้งปีย์ก็สงสัย ว่าพี่หทัยรักปีย์จริงไหม”

จะด้วยเพราะอะไรก็แล้วแต่ ปีย์วรายังไม่สามารถปลงใจกับสิ่งที่ดวงหทัยทำลงไป จนไม่สามารถฝืนใจทนอยู่กับพี่สาวได้อีกต่อไป

 “พี่คงไม่พูดขอโทษแทนหทัยหรอกนะปีย์ เพราะพี่พูดมาหลายหนแล้ว”

“ปีย์เข้าใจค่ะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของพี่หทัยทั้งหมด ผู้ชายคนนั้นเขาเองก็ไม่ได้หนักแน่นพอ... โดนพี่หทัยต่อว่าหน่อยก็พาลทิ้งปีย์ไป” หญิงสาวหันมาส่งยิ้มนัยน์ตาเศร้าให้พี่เขย “จริงๆ พี่เอกก็ไม่น่าพูดเรื่องนี้ขึ้นมาอีกนะคะเพราะมันผ่านมานานแล้ว นานจนปีย์เริ่มทำใจที่จะอยู่กับมันได้ในระดับหนึ่งแล้ว”

เอกชัยทำสีหน้าหนักใจยิ่งขึ้นกว่าเดิม “ที่พี่มาก็เพราะเรื่องนี้แหละปีย์ ผู้ชายคนนั้นเขากลับมาแล้ว”

ร่างบางที่กำลังหยิบฉวยข้าวของต่างๆ ขึ้นจากพื้น นิ่งชะงักไปแทบจะทันที ไม่กล้าบอกเอกชัยไปตามตรงว่าเธอและปวิมเจอหน้ากันมาแล้ว “พี่เอกรู้ได้ไงคะ” หญิงสาวเอ่ยถามเสียงเบาราวกับเสียงกระซิบด้วยความประหลาดใจและขมขื่นใจไปพร้อมกัน

“พี่กับเขาย้ายกลับมาที่นี่พร้อมกัน และด้วยความบังเอิญหรือยังไงก็ไม่รู้ เราอยู่ฝูงบินเดียวกัน”

“อย่างนั้นหรือคะ” หญิงสาวตอบรับเบาๆ ยืนนิ่งหากสายตาดูเลื่อนลอยเหมือนจมอยู่ในความคิดของตนเอง

“พี่อยากให้ปีย์ไปคุยกับเขาให้เข้าใจ ไปกับพี่ก็ได้ พี่จะช่วยพูดให้”

“จำเป็นด้วยหรือคะ ในวันที่ปีย์พยายามจะคุยกับเขา พยายามจะโทร.หาเขา เขาปฏิเสธปีย์ทุกทาง แถมทิ้งกันไปโดยไม่ลาด้วยซ้ำไป แล้ววันนี้เขาจะฟังปีย์หรือคะพี่เอก”

“ถ้าปีย์ไม่กล้าที่จะไปพูดเอง พี่ไปพูดให้เอาไหม” เอกชัยเสนอด้วยความหวังดี เขาทนเห็นปีย์วราตรอมใจมานานเป็นแรมปี นึกอยากจะทำอะไรหลายๆ อย่างแต่ก็ไม่กล้าเพราะทั้งดวงหทัยและปีย์วราห้ามเอาไว้ เขาเคยคิดแม้กระทั่งจะบุกไปหาครอบครัวของฝ่ายชาย แต่ด้วยความขี้ขลาดของเขาเองเรื่องทั้งหมดจึงล่วงเลยมาจนถึงป่านนี้

ปีย์วราส่ายศีรษะ พยายามฝืนกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลรินออกมาจากดวงตาจนริมฝีปากสั่น สองมือบีบจับของที่ถือไว้อยู่ในมือแน่น “ปล่อยมันไปเถอะค่ะ อีกอย่าง ปีย์ก็ไม่อยากให้เขารู้เรื่องลูกด้วย”

“แต่เขาเป็นพ่อ เขามีสิทธิ์ที่จะรู้เรื่องลูกไม่ใช่หรือปีย์”

ปีย์วรายิ้มเย็น “ถ้าเขาอคติไม่เชื่อว่าน้องพัฟเป็นลูกของเขามันก็ดีไปนะคะ แต่ถ้าเกิดเขาเชื่อขึ้นมาว่าน้องพัฟเป็นลูกของเขา แล้วเขาต้องการจะเอาน้องพัฟไปเลี้ยงดูเอง พี่เอกจะให้ปีย์ทำยังไงคะ พี่ก็รู้ว่าเราไม่มีปัญญาสู้รบตบมือกับฝ่ายนั้นหรอก ปล่อยให้ทุกอย่างมันเงียบไปเถอะนะคะ ปีย์ขอร้อง

“แต่ปีย์….”

“พอเถอะค่ะพี่เอก พี่เอกปล่อยเรื่องนี้ให้มันผ่านไปเถอะนะคะ ถือว่าเห็นแก่ปีย์และลูก ตอนนี้ปีย์กับลูกก็อยู่สุขสบายดีตามอัตภาพแล้ว อย่าให้มีอะไรมาทำให้ปีย์กับลูกไม่สบายใจเลยนะคะ”

“ก็สุดแล้วแต่ปีย์แล้วกัน” เอกชัยถอนหายใจยาวด้วยความหนักใจ มองดูน้องเมียเดินหลบไปอยู่อีกฟากของห้อง เรื่องนี้เป็นเสมือนตราบาปที่เกาะกินใจเขามานาน ถึงแม้เขาจะไม่มีส่วนรู้เห็นกับการกระทำของภรรยาแต่มันก็เป็นสิ่งที่เขาควรจะรับผิดชอบด้วยเช่นกัน

ภายในห้องเล็กๆ แห่งนั้นเงียบงัน มีเพียงเสียงหัวเราะของเด็กชายตัวอ้วนกลมที่กำลังหยอกเย้ากับผู้เป็นลุงในขณะที่มารดาของเด็กชายหลบเข้าไปยืนเช็ดน้ำตาอยู่ภายในห้องครัวเล็กๆ

                เสียงกรีดร้องของโทรศัพท์ทำให้ปีย์วราต้องรีบปาดเช็ดน้ำตาออกจากใบหน้าก่อนจะเดินมาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมารับสาย

                “ว่าไงบี มีอะไรหรือถึงได้โทร.หาเรา”

                “สวัสดีจ้าปีย์ วันนี้ตัวเองไม่ต้องไปเข้าเวรแล้วนะ”

                คิ้วบางขมวดเข้าหากันด้วยความสงสัยและประหลาดใจทันที “ทำไมล่ะ เกิดอะไรขึ้นบี”

                “ปีย์อย่าโกรธเรานะ เราขอโทษด้วยที่ทำอะไรลงไปโดยพลการ แต่คืนนี้เราหาจ้างเวรให้ปีย์แล้ว เรามีธุระที่สำคัญมากๆ และเราอยากจะให้ปีย์ไปเป็นเพื่อนเราหน่อย”

                แม้จะไม่พอใจในการกระทำของบราลีแต่ปีย์วราก็พูดไม่ออก “แบบนี้คุณเพลินพิศไม่ว่าเราเอาหรือ ที่ไม่ได้ไปขอแลกเวรด้วยตัวเอง แล้วมันธุระสำคัญขนาดไหนบีถึงต้องแลกเวรจ้างเวรให้เราขนาดนี้”

“สำคัญสิปีย์ สำคัญกับเรามากๆ เลย  เดี๋ยวเอาไว้เจอกันก่อนนะแล้วเราค่อยเล่าให้ปีย์ฟัง ได้ไหม พูดตอนนี้มันไม่สะดวกเอาเป็นว่าปีย์แต่งตัวรอเราเลยนะ เดี๋ยวเราจะขับรถไปรับปีย์ที่อพาร์ตเมนต์ ส่วนน้องพัฟปกติปีย์ก็จ้างป้าข้างห้องดูแลอยู่แล้วใช่ไหม ”

“ใช่ ทำไมหรือ”

“ฝากป้าข้างห้องช่วยเลี้ยงน้องพัฟไปก่อนนะ เดี๋ยวค่าดูแลตรงนี้เราออกให้เอง ส่วนปีย์ก็ไปธุระกับเราแป๊บเดียว เดี๋ยวก็ได้กลับมาแล้ว นะ นะ ช่วยเราหน่อย อย่างน้อยคืนนี้ปีย์ก็ไม่ต้องไปทำงาน แถมยังได้เงินค่าเวรปกติ วันรุ่งขึ้นก็ได้หยุดอีก สบายจะตาย” บราลีพูดอีกไม่กี่คำ ก่อนจะวางสายไปโดยไม่บอกไม่กล่าวสักคำ ท่าทางร้อนรนผิดวิสัยจนทำให้ปีย์วราเข้าใจว่าบราลีคงเดือดร้อนและต้องการความช่วยเหลือจริงๆ

“มีอะไรหรือเปล่าปีย์” เอกชัยเอ่ยถามเมื่อเห็นสีหน้ายุ่งยุ่งของปีย์วรา

“เพื่อนปีย์โทร.มาค่ะ เขาอยากให้ปีย์ช่วยไปทำธุระกับเขา

“แล้วไม่ไปทำงานหรือไง”

“เพื่อนคนนี้เขาแลกเวรให้ปีย์แล้วค่ะ”

เอกชัยพยักหน้ารับ ก่อนจะถามต่อเหมือนนึกขึ้นได้ “แล้วน้องพัฟล่ะ”

“เห็นว่าไปไม่นานนะคะ ปีย์คงฝากป้ายุพาเลี้ยงไว้เหมือนเดิม แล้วก็จะรีบกลับมา”

“เอาแบบนี้ไหม” เอกชัยเสนอ “เย็นนี้พี่ว่างพี่จะดูแลน้องพัฟให้ ปิย์จะได้ไปทำธุระกับเพื่อนได้อย่างสบายใจ”

ปีย์วราทำสีหน้าลังเลอยู่เพียงนิดก่อนจะพยักหน้า “แบบนั้นก็ดีค่ะ ไม่รบกวนพี่เอกใช่ไหมคะ”

“จะรบกวนได้ยังไงกัน พี่เป็นคนอาสาปีเอง” เอกชัยหันไปส่งยิ้มให้น้องพัฟ “ไอ้เสือ คืนนี้อยู่กับลุงนะลูกนะ ห้ามดื้อห้ามซน ห้ามงอแง แม่จ๋าเขาไปธุระ เข้าใจไหม”

น้องพัฟหัวเราะชอบใจ เมื่อเอกชัยอุ้มเด็กชายขึ้นมาไว้ในวงแขน “หม่ำๆ”

“อะไรกันไอ้เสือ ร้องหม่ำหม่ำซะแล้ว กินจนอ้วนเป็นกระปุกตั้งฉ่าย อีกหน่อยมันจะเดินไม่ไหวเอานะลูก”

เพราะคำศัพท์สัพยอกของเอกชัยทำให้ปีวราถึงกับหลุดหัวเราะออกมาด้วยความชอบใจ น้องพัฟรูปร่างอวบอ้วน แขนขาตันเป็นข้อเหมือนอย่างที่เอกชัยพูดไม่มีผิด

“ก่อนไปเดี๋ยวปีย์จะเตรียมข้าวตุ๋น แล้วก็อุ่นนมไว้ให้นะคะ พี่เอกจะได้ไม่ต้องวุ่นวายทำเอง”

เอกชัยพยักหน้ารับก่อนขยับยืนโดยที่มีน้องพัฟอยู่ในอ้อมแขน “พี่จะพาน้องพัฟไปเดินเล่นแถวนี้ ปีย์จะได้ทำธุระส่วนตัวได้ถนัด เดี๋ยวอีกสัก 20 นาทีพี่จะกลับขึ้นมา ตอนนั้นปีย์คงแต่งตัวเสร็จแล้วมั้ง” ชายหนุ่มเดินไปที่ประตูและส่งยิ้มให้น้องเมียก่อนจะเปิดประตูและเดินออกไป

“ขอบคุณค่ะพี่เอก”

ปีย์วรารีบเดินเข้าไปในครัวเพื่อจัดการทำข้าวตุ๋นของน้องพัฟรวมทั้งยังเตรียมผักผลไม้แช่เย็นไว้ให้ลูกชายกัดแทะยามคันเหงือก  แม้เธอจะยังแคลงใจกับธุระของบราลี  แต่ปีย์วราก็จัดการอาบน้ำแต่งตัวเพื่อเตรียมรอไปทำธุระกับบราลีเพื่อนรักคนเดียวของเธอในตอนนี้

หญิงสาวเตรียมพร้อมอยู่ในชุดเสื้อและกระโปรงติดกันอย่างง่ายๆ นั่งลงบนเก้าอี้เหล็กดัดบริเวณชั้นล่างของอพาร์ตเมนต์ที่เธออาศัยอยู่เพื่อรอบราลี มอเตอร์ไซค์สีแดงคันใหญ่สภาพเก่าที่จอดอยู่หน้าอพาร์ตเมนต์ทำให้หญิงสาวอดนึกไปถึงความทรงจำแต่หนหลังขึ้นไม่ได้

                          

หญิงสาวร่างบางในชุดเสื้อยืดกางเกงยีนส์เข้ารูปแหงนคอตั้งบ่า มองอาคารพักสี่ชั้นที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนจะหันกลับไปหาคนขับรถส่งของ ปีย์วรายอมลงทุนเอาสินค้ามาส่งให้ตามคำของของชายหนุ่มนิรนามก็เพราะมูลค่าของคอมมิชชั่นที่เธอได้รับมาเมื่อเช้านี้ มันมากพอที่จะจ่ายค่าเทอมให้เธอทั้งเทอมเลยทีเดียว

“รอเดี๋ยวนะคะพี่ หนูกำลังโทร.ตามให้คนที่สั่งของ ให้เขาลงมาเอา” ปีย์วราหันไปบอกคนขับรถที่ทำสีหน้าบอกบุญไม่รับ

“เร็วหน่อยละกัน ต้องไปส่งของอีกหลายที่”

“ค่ะๆๆๆ” หญิงสาวกดโทรศัพท์ระบบปุ่มกดมือเป็นระวิง แต่ไม่ว่ากดโทร. ไปกี่ครั้ง เจ้าของเบอร์โทรศัพท์กลับไม่รับสายเธอสักนิด ปีย์วราหันไปตามเสียงสบถของคนขับรถ ก่อนที่จะเห็นว่าคนขับรถเริ่มยกลังที่บรรจุเบียร์ลงมาวางที่พื้นถนน “รออีกนิดสิคะพี่ หนูกำลังติดต่อกับคนสั่งของอยู่”

“อยากรอก็รอไปเถอะ เห็นของในรถไหม ผมต้องไปอีกตั้งกี่ที่ มัวรอแบบนี้ก็ไม่ต้องทำมาหากินกันพอดี” คนขับรถพูดไปก็ขนลังเบียร์ไป จนกระทั่งครบตามจำนวนที่ระบุ ก็ปิดประตูหลังรถเสียงดังสนั่นเหมือนเป็นการแสดงความไม่พอใจให้หญิงสาวหน้าหวานได้รู้

ปีย์วรายืนมองรถส่งของที่แล่นห่างออกไปด้วยอาการตกตะลึง ปากอิ่มอ้าค้างพูดไม่ออกกับการกระทำของพนักงานส่งของบริษัทนี้ ก่อนจะหันหลังกลับมาดูลังเบียร์ที่วางกองพะเนินอยู่กับพื้น หรือว่าเธอจะต้องเป็นคนที่ยกลังพวกนี้ขึ้นไปส่งให้ชายคนนั้นเอง ขณะที่กำลังปวดหัวคิดไม่ออกอยู่นั่นเองโทรศัพท์ที่ถืออยู่ในมือก็ส่งเสียงร้องดังขึ้นหญิงสาวรีบกดรับสายทันที

“สวัสดีค่ะ คุณคะ ของที่คุณสั่งฉันเอามาส่งแล้วค่ะ ตอนนี้รออยู่ข้างล่างคุณช่วยลงมารับไปทีได้ไหมคะ” หญิงสาวละล่ำละลักบอกด้วยความยินดีที่ในที่สุดก็สามารถติดต่อเขาได้เสียที

“โอเคครับ รออยู่ตรงนั้นแหละ เดี๋ยวผมลงไป เมื่อครู่ต้องขอโทษด้วย ผมกำลังอาบน้ำอยู่เลยไม่ได้ยินเสียงโทรศัพท์ที่คุณโทร.มา”

ทันทีที่พูดจบเขาก็วางสายไป  หญิงสาวหันกลับมาดูลังบรรจุเบียร์เกือบ 30 ลังที่วางอยู่กับพื้นด้วยสีหน้าหวาดหวั่น กลัวเหลือเกินว่าจะต้องเป็นคนแบกลังพวกนี้ขึ้นไปส่งให้เขาเองทั้งหมด

และไม่นานเกินรอปีย์วราก็เห็นชายหนุ่มคนเดิมกับที่เธอเจอในผับคืนนั้นก้าวลงมาจากแฟลต หากแต่วันนี้หน้าตาของเขาดูผ่องใสไร้หนวดเครา การแต่งเนื้อแต่งตัวก็เหมือนชายวัยรุ่นทั่วๆ ไปคือเสื้อยืดกางเกงยีนส์ แถมยีนส์ของเขาก็ซีดเก่ามีรอยขาดตรงเข่าเป็นหย่อมๆ เสียด้วย ส่วนรองเท้าก็เป็นรองเท้าแตะหูคีบธรรมดาๆ แม้ว่าการแต่งกายเขาจะธรรมดาแสนธรรมดาเพียงใด แต่ในสายตาของปีย์วราแล้วมันกลับชวนมองน่าดูพิกล ยิ่งเห็นรอยยิ้มสดใสที่เขาส่งมาให้กับเธอก็ทำเอาใจสาวสั่นไหวถึงกับเก้อเขิน รีบหันหน้าเมินหนีหลบสายตาทันที

“อย่าบอกนะว่าคุณขนของพวกนี้มาเอง”

สีหน้าและน้ำเสียงประหลาดใจของเขาทำให้ปีย์วราจำเป็นต้องหันมาสบตากับเขา และอดไม่ได้ต้องหลุดหัวเราะออกมา นี่เขานึกว่าเธอเดอะฮัทยักษ์ทรงพลังหรืออย่างไรกัน

“ปะ เปล่าค่ะ ตอนแรกมีรถส่งของมาส่งด้วย แต่เขารอคุณไม่ไหวเขาก็เลยยกลังลงมาวางที่พื้นให้แล้วก็ไป”

“แล้วใครจะช่วยคุณยกของขึ้นไปส่งให้ผมล่ะ หรือจะให้ผมขนเอง”

คำถามนี้ทำเอาปีย์วราหน้าซีดเผือดลงทันใด ตามปกติแล้วลูกค้าไม่ต้องมายกของเอง จะมีคนส่งของช่วยยกให้ แต่นี่คนขับรถหนีไปแล้ว นี่เธอจะต้องยกของส่งขึ้นไปให้เขาหรือ...

เสียงหัวเราะทุ้มนุ่มที่ได้ยินทำให้หญิงสาวต้องเงยหน้าขึ้นไปมองชายหนุ่มร่างสูงที่ยืนอยู่ตรงหน้า ยิ่งเขายิ้มแบบนี้ยิ่งดูมีเสน่ห์ทำเอาคนมองถึงกับตะลึงไปจนเขายักคิ้วใส่ ถึงได้รู้สึกตัวว่าเผลอจ้องหน้าอีกฝ่ายอยู่ ทำเอาเก้อเขินหน้าร้อนเห่อขึ้นมาทันใด

“นี่คุณกำลังคิดว่าผมจะใจดำ ให้คุณยกของขึ้นไปส่งผมที่ห้องจริงๆ หรือไง”

“ค่ะ” หญิงสาวรับคำแบบพาซื่อ ทำเอาอีกฝ่ายดูขบขัน หัวเราะดังยิ่งกว่าเดิม “นี่คุณหัวเราะอะไรล่ะ ฉันไม่ใช่ตัวตลกนะ”

ชายหนุ่มหัวเราะอย่างอารมณ์ดีก่อนที่เขาจะเดินผละห่างออกไปและโทรศัพท์พูดคุยกับใครบางคน ระหว่างนั้นหญิงสาวก็มองไปรอบๆ ตัว เธอไม่เคยเข้ามาในค่ายทหารหรือกองบินแห่งนี้เลย จึงค่อนข้างรู้สึกว่าทุกสิ่งทุกอย่างมันแปลกหูแปลกตาไปหมด ไม่เหมือนกับในตลาดหรือในเมืองที่เธออาศัยอยู่ อาจเพราะขนาดของพื้นที่ภายในที่กว้างใหญ่ เต็มไปด้วยต้นไม้สารพัด

“อุ๊ย!” ผู้หญิงสาวร้องอย่างตกใจเมื่ออยู่ๆ ข้อมือของเธอก็ถูกจับและถูกลากให้เดินไปพร้อมๆ กับร่างสูงใหญ่ ห่างออกจากลังเบียร์มากขึ้น ไกลขึ้นจนเธอเริ่มกังวล

“คุณคะ แล้วของที่ฉันมาส่งล่ะ” หญิงสาวหันหน้าหันหลังอย่างเป็นกังวล แต่ร่างสูงที่กำลังจับจูงมือเธออยู่นั้นก็ไม่ได้หยุดเดินหรือชะลอฝีเท้าลงสักนิด เขาพาเธอเดินไปถึงที่จอดรถซึ่งสร้างในลักษณะเป็นเพิงหมาแหงนทำจากวัสดุค่อนข้างแข็งแรง ในนั้นมีรถยนต์และมอเตอร์ไซค์จอดเรียงรายกันอยู่เต็มไปหมด

“เคยนั่งมอเตอร์ไซค์หรือเปล่า”

หญิงสาวพยักหน้าหงึกหงักก่อนจะตอบว่า “เคยค่ะ”

“ดี...งั้นสวมนี่ซะ”

ทันทีที่ชายหนุ่มพูดจบ หมวกกันน็อกสีดำอันใหญ่ก็ถูกสวมลงมาบนศีรษะของหญิงสาว ปีย์วราเหลือบตามองชายหนุ่มที่กำลังจับปรับหมวกกันน็อกให้เข้าที่พร้อมกับจัดปรับสายรัดที่ปลายคางให้เข้าล็อก จนหลายครั้งปลายนิ้วแข็งแรงสัมผัสถูกแก้มและปลายคางของหญิงสาวด้วยท่าทางอ่อนโยน และเพราะรอยยิ้มกริ่มบนใบหน้าของชายหนุ่มที่เห็นอยู่ตรงหน้า ทำให้หญิงสาวถึงกับต้องหลบสายตาก้มต่ำจ้องมองได้แค่บริเวณแผ่นอกกว้างที่แม้จะอยู่ภายใต้เสื้อยืดแสนธรรมดาๆ แต่ก็ดูหนั่นแน่นเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อแข็งแรงเยี่ยงชายหนุ่มสุขภาพดีที่ดูแลตนเองและออกกำลังกายเป็นประจำ ไม่ได้ผอมเกร็งเหมือนเด็กวัยรุ่นรุ่นเดียวกับเธอ 

“คุณคะ แล้วลังเบียร์ล่ะคะ จะทิ้งไว้แบบนั้นหรือไง ไม่กลัวหายหรือคะ ละ...แล้วคุณจะพาฉันไปไหน”

“ผมชื่อจริงชื่อว่าปวิมครับ เรียกง่ายๆ ว่าพี่พายก็ได้ แล้วคุณก็ไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับของพวกนั้นด้วย เดี๋ยวจะมีคนมาจัดการมันเอง ส่วนคุณ ผมก็จะไปส่งคุณไง หรือว่าคุณจะเดินออกจากกองบินนี้เอง” ร่างสูงใหญ่ตวัดขาขึ้นคร่อมรถมอเตอร์ไซค์สีแดงคันใหญ่สภาพเก่าตรงหน้าก่อนจะหยิบหมวกกันน็อก ที่ทั้งสีและลักษณะเหมือนใบที่เธอสวมอยู่ขึ้นมาสวมบนศีรษะของตน

ชายหนุ่มหันมาเลิกคิ้วทำตาโตใส่หญิงสาวที่ยังยืนนิ่งอยู่ข้างรถมอเตอร์ไซค์มองเขาด้วยแววตาที่แสดงความงงงันเหมือนไม่เข้าใจในสิ่งที่เขาพูด ลักษณะรูปลักษณ์ภายนอกของหญิงสาวในวันนี้ช่างผิดกับหญิงสาวที่เขาเห็นในผับเมื่อคืนอย่างสิ้นเชิง คงมีสิ่งเดียวเท่านั้นที่เหมือนกันนั่นก็คือแววตาใสซื่อไร้เดียงสาเท่านั้นกระมังที่ไม่ได้เปลี่ยนไป

ปีย์วราก้าวขาขึ้นรถอย่างเก้ๆ กังๆ เพราะไม่กล้าจับตัวชายหนุ่มที่นั่งคร่อมรถมอเตอร์ไซค์อยู่ก่อนเลยทำให้การขึ้นรถมอเตอร์ไซค์ครั้งนี้ดูทุลักทุเลพอสมควร แล้วเธอรู้สึกเหมือนจะแว่วได้ยินเสียงหัวเราะในลำคอจากคนที่นั่งนิ่งรออยู่ก่อน ยิ่งทำให้รนลานเข้าไปกันใหญ่ มือไม้ก็เกะกะไม่รู้จะวางไว้ตรงไหน

พอหญิงสาวขึ้นนั่งจนเรียบร้อยแล้ว สองมือใหญ่ของชายหนุ่มก็เอื้อมมาข้างหลังดึงข้อมือของหญิงสาวทั้งสองมือไปกอดรัดที่บั้นเอวของเขาเอาไว้อย่าถือสิทธิ์ ปีย์วรารีบขืนตัวออกทันที ใจเต้นโครมครามจนกลัวว่ามันจะดังออกมาให้เขาได้ยิน และนี่ก็เป็นครั้งแรกที่เธอใกล้ชิดบุรุษเพศขนาดนี้ ลำตัวของเขานั้นหนั่นแน่นแข็งแรงเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อจนเธอรู้สึกได้

“อย่าดื้อสิ ถ้าคุณไม่กอดผมเอาไว้แบบนี้รับรองโค้งหน้าคุณได้ลงไปนอนกลิ้งอยู่บนพื้นถนนแน่ๆ กอดผมแน่นๆ นะ กอดได้ ผมให้กอด ไม่หวงตัว อ้อ...แล้วอีกอย่างที่คุณควรรู้ ผมยังไม่มีแฟน…แต่สงสัยว่ากำลังจะมีในวันนี้...”

หญิงสาวกัดริมฝีปากตนเองเอาไว้แน่นทำเป็นไม่เข้าในความนัยจากคำพูดของเขา ความรู้สึกตอนนี้ทั้งประหม่าทั้งเขินอาย หายใจก็แทบไม่ออกเมื่อร่างกายของเธอสัมผัสใกล้ชิดกับแผ่นหลังกว้างชวนซบ มันใกล้ชิดจนเธอได้กลิ่นตัวของเขา มันไม่ใช่กลิ่นสาบแต่เป็นกลิ่นสะอาดของผู้ชายแท้ๆ ที่ทำเอาร่างกายระทวย ใจหวิวจนนึกอยากจะซบหน้าลงไปแนบกับแผ่นหลังกว้าง แต่เธอก็ทำไม่ได้ หญิงสาวขืนทำตัวแข็งขยับออกห่างจากร่างสูงใช้เพียงสองมือจับเสื้อเขาไว้เท่านั้น

“เอ้า ตามใจนะ นั่งแบบนี้ถ้าตกรถไปก้นพังลงไปนอนกลิ้งวัดพื้นถนน อย่าหาว่าผมไม่เตือนนะ”

หญิงสาวสะดุ้งโหยงทันทีที่รถสตาร์ทเสียงดังกระหึ่ม เสียงมันไม่ได้ดังแสบแก้วหูเหมือนรถมอเตอร์ไซค์แต่งเครื่องยนต์ที่วิ่งยามดึกยามดื่มบนท้องถนนในเวลาค่ำคืน หากมันทุ้มแต่กระหึมอยู่ในที

รถมอเตอร์ไซค์คันใหญ่ออกตัวกระชากกระชั้นจนหญิงสาวแทบจะผงะหงายหลัง ด้วยความตกใจทำให้ปีย์วราร้องออกมาก่อนจะสวมกอดเข้าที่บั้นเอวของอีกฝ่ายแน่นพร้อมทั้งหลับตาปี๋แทบจะทันที ไม่กล้าเงยหน้าหรือลืมตาขึ้นมามองดูเมื่อรับรู้ถึงกระแสลมที่เข้ามาปะทะใบหน้า แม้จะไม่ได้ลืมตาขึ้นมาดูแต่ก็รู้ว่าชายหนุ่มขับมอเตอร์ไซค์ด้วยความเร็วพอสมควร ไม่นานร่างบางก็เอนซบลงไปบนแผ่นหลังกว้างที่ก่อให้เกิดความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาดที่เธอไม่สามารถอธิบายออกมาเป็นคำพูดได้ รู้สึกเพียงแค่ว่าชอบและอยากอยู่อย่างนี้ เป็นเช่นนี้ตลอดไป

เธอเป็นผู้หญิงใจง่ายหรือเปล่านะ ปีย์วราถามตนเองเมื่อรู้สึกว่ากำลังมีจิตปฏิพัทธ์ต่อชายหนุ่มที่เธอกำลังกอดซบอยู่ในเวลานี้… 


 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น