2

ตอนที่ 2


 2

 

ทันทีที่รถยุโรปคันหรู จอดเทียบบริเวณทางเข้าหน้าตึกใหญ่ ใจกลางกรุงเทพมหานคร ซึ่งด้านหน้าตึกมีตัวอักษรขนาดใหญ่ติดเอาไว้ว่า ‘โภคินอภิวัฒน์’ กฤตนัย หรือที่บริษัทเรียกว่าท่านประธานก็เดินตรงไปยังลิฟต์สำหรับผู้บริหารทันที พร้อมกับผู้ติดตามอีกสองคน

“พนา เตชินกลับมาจากลอนดอนหรือยัง” ท่านประธานเอ่ยถามมือขวาคนสนิท

“กลับเข้าออฟฟิศวันนี้วันแรกครับนาย”

“อืม ถ้าเตชินสะดวกให้มาพบฉันด้วย” กฤตนัยเอ่ยขณะตรวจทานความถูกต้องของเอกสารก่อนที่จะลงนาม และเมื่อจดปลายปากกาลงนามในเอกสารดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มก็เงยหน้าขึ้นมองคนสนิททั้งสอง “แต่เช้านี้ฉันไม่มีนัดอะไรนี่ งั้นฉันเดินไปหาท่านทนายใหญ่เองดีกว่า” พูดพลางลุกขึ้นเดินออกจากห้อง มุ่งตรงไปยังห้องทำงานของผู้ที่เป็นทั้งเพื่อนรักและทนายคู่ใจ

...

“สวัสดีครับคุณใบบัว ยินดีต้อนรับสู่บริษัทโภคินอภิวัฒน์อย่างเป็นทางการนะครับ ผมดีใจจริงๆ ที่ได้เลขานุการฝีมือดีแบบคุณมาร่วมงานด้วย” เตชิน เพื่อนสนิทของกฤตนัย ทนายมือหนึ่งผู้ซึ่งรับผิดชอบดูแลงานทางด้านกฎหมายให้บริษัทโภคินอภิวัฒน์ กล่าวกับเลขานุการส่วนตัวคนใหม่ที่มาเริ่มงานวันนี้เป็นวันแรก

“บัวเองก็ต้องขอบคุณคุณเตชินมากเลยนะคะที่ให้โอกาสบัว” ใบบัว บัวบูชา อินทิรารัตน์ เลขานุการสาวสวยเอ่ยตอบพร้อมกับยกมือไหว้อย่างนอบน้อม

“คุณใบบัวคือเลขาฯ คนแรกของผมเลยนะครับ พอคิดอยากจะมีผู้ช่วยส่วนตัว คุณอาก็ส่งเลขาฯ มือหนึ่งมาให้พอดิบพอดี”

“คุณอาของคุณเตชินท่านเมตตาบัวมากค่ะ ก่อนจะย้ายไปประจำที่ยุโรป ท่านก็ยังหาเจ้านายที่ใจดีให้บัวได้ร่วมงานด้วย แต่บัวเองไม่มีความรู้ในเรื่องกฎหมายสักเท่าไหร่ คงต้องรบกวนคุณเตชินชี้แนะบัวด้วยนะคะ”

“ความจริงผมมีทีมกฎหมายที่คอยช่วยดูแลงานด้านเอกสารต่างๆ อยู่ร่วมสิบคน ผมอยากให้คุณใบบัวดูแลตารางนัดและจัดการเรื่องส่วนตัวให้ผมมากกว่าครับ”

“ได้ค่ะ บัวจะทำให้ดีที่สุด”

พึ่บ!

เสียงเปิดประตูห้องทำงานของเตชินดังขึ้น เจ้าของห้องหยุดบทสนทนาชั่วคราวพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองไปบริเวณประตูห้องทำงานที่ถูกเปิดออกอย่างกะทันหันโดยไม่มีใครส่งสัญญาณใดๆ ล่วงหน้า และนั่นก็ทำให้บัวบูชาหันไปมองตามด้วยอีกคน

“โอ้โห มาไม่ต้องเคาะห้องขออนุญาตกันเลยนะครับ ท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่” เตชินลุกขึ้นยืน ยกมือขึ้นกอดอก เลิกคิ้วทักทายผู้มาใหม่

แทนที่ท่านประธานผู้ยิ่งใหญ่จะตอบคำถามเจ้าของห้อง สายตาเจ้ากรรมก็พลันมาหยุดอยู่ตรงใบหน้าหวานของหญิงสาวอีกคนที่อยู่ในห้อง วินาทีที่กฤตนัยประสานสายตากับหญิงสาวใบหน้าหวานก็คล้ายกับตกอยู่ในภวังค์จนแทบลืมหายใจ ใบหน้านวลเนียน ตากลมโต ปากนิด จมูกหน่อย ช่างดูงดงามมีเสน่ห์กว่าผู้หญิงคนใดที่เคยพบมา

“คือ...จะจ้องเลขาฯ กระผมอีกนานไหมครับท่านประธาน” เป็นหน้าที่ของเตชินที่ต้องปลุกเพื่อนรักให้ออกจากภวังค์

“อืม ก็ที่นี่บริษัทฉัน ฉันมีสิทธิ์จะเดินเข้านอกออกในได้ทุกที่ทุกเวลา หรือคุณทนายจะบอกว่าไม่ใช่” พอตั้งสติได้แล้วกฤตนัยก็ยักไหล่สวนกลับคำถามของเพื่อนรักแบบยียวนไม่แพ้กัน

“งั้นคุณใบบัวไปพักที่โต๊ะทำงานหน้าห้องก่อนดีกว่า มีเอกสารที่ผมเตรียมไว้วางอยู่บนโต๊ะ คุณลองศึกษารายละเอียดงานคร่าวๆ ดูก่อน มีอะไรไม่เข้าใจตรงไหนก็มาถามผมได้เลยนะครับ ไม่ต้องเกรงใจ” เตชินละสายตาจากผู้มาใหม่ เพื่อกลับมาสนทนากับหญิงสาวตรงหน้าอีกครั้ง ก่อนที่จะผายมือไปยังชายหนุ่มผู้ที่ยังยืนโด่อยู่ที่หน้าประตู เพื่อแนะนำท่านประธานบริหารอย่างเป็นทางการ

“ผู้ชายที่เสียมารยาท เอ๊ย ที่ถือวิสาสะเข้ามาในห้องโดยไม่เคาะประตูคือ คุณกฤตนัย ประธานบริหารบริษัทโภคินอภิวัฒน์ครับ”

บัวบูชาลุกขึ้นยืนก่อนที่จะประนมมือไหว้กฤตนัยอย่างนอบน้อมพร้อมกับส่งรอยยิ้มหวานจับใจไปให้ และนั่นก็ยิ่งทำให้กระแสโลหิตในสี่ห้องหัวใจของท่านประธานบริหารสูบฉีดระรัวเร็วกว่าที่เคยเป็น ชายหนุ่มตาค้าง ไม่อาจละสายตาจากความงามตรงหน้าแม้แต่น้อย

“ส่วนนี่คุณบัวบูชา เลขานุการส่วนตัวของฉันเอง” จากนั้นเจ้านายสายตรงจึงหันมาแนะนำเลขานุการคนใหม่อย่างเป็นทางการเช่นกัน

“ยะ...ยินดีต้อนรับครับคุณบัวบูชา” กฤตนัยเอ่ยต้อนรับด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง น้ำเสียงนุ่มทุ้มอย่างเก็บอาการ

“สวัสดีค่ะคุณกฤตนัย ดิฉันขอฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะคะ” บัวบูชาค้อมศีรษะลงเล็กน้อยก่อนหันไปพูดกับเจ้านาย

“งั้นบัวขอตัวก่อนนะคะคุณเตชิน” เมื่อเจ้านายพยักหน้าอนุญาตแล้ว เลขาฯ หน้าใหม่จึงเดินค้อมตัวผ่านท่านประธานออกไป โดยมีสายตาอีกสองคู่มองตามหลัง จนกระทั่งเธอปิดประตูห้องทำงานลง

“ไอ้คุณใหญ่ครับ มองตามคอแทบหักเลยนะครับ”

“พูดมากว่ะไอ้ชิน แกมีอะไรจะคุยกับฉันหรือเปล่า” กฤตนัยรีบเปลี่ยนเรื่องอย่างรวดเร็วเมื่อรู้ตัวว่ากำลังถูกคนรู้เยอะจับผิด

“อ้าว ไอ้ท่านประธาน แกเดินมาหาฉันถึงห้องทำงานเพื่อมาถามว่ามีอะไรจะคุยด้วยไหมเนี่ยนะ เออ ดีจริงวุ้ยผู้บริหารที่นี่ใส่ใจงานดีจริงๆ ” เตชินส่ายหน้าอย่างปลงๆ ก่อนที่จะทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิมอีกรอบ

“แล้ว แล้ว แกมีเลขาฯ ตั้งแต่เมื่อไหร่วะชิน” คนแสร้งทำน้ำเสียงปกติเพื่อปกปิดความตื่นเต้นเอ่ยถาม

“ใบบัวเคยเป็นซูเปอร์เลขาฯ ของคุณอาฉัน พอดีตอนนี้ท่านย้ายไปอยู่ยุโรปแล้ว ใจจริงคุณอาก็อยากให้ใบบัวตามไปทำงานที่นั่นด้วย แต่เธอปฏิเสธเพราะไม่อยากไปอยู่ไกลบ้าน เธอเป็นห่วงครอบครัวเลยขออยู่ที่นี่ต่อ” เตชินตอบคำถามพร้อมกับลอบจับผิดอาการของเพื่อนสนิทไปด้วย

“พอคุณอารู้ว่าฉันกำลังหาเลขาฯ อยู่ ท่านก็เลยแนะนำฉันให้เจอกับเธอ แล้วเธอก็ช่ำชองงานด้านเลขาฯ จริงๆ ว่ะ ละเอียด รอบคอบ สวย น่ารัก น่าทะนุถนอม”

“อืม ได้คนมีฝีมือมาช่วยงานก็ดีแล้ว” กฤตนัยพยักหน้ารับทราบ

“แค่นี้ใช่ไหมที่แกอยากรู้” เตชินถามหน้าตาย

“อืม” และคนตอบก็พยักหน้ารับอย่างง่ายดายเช่นกัน ลืมสิ้นว่าที่เดินมาถึงนี่ด้วยเหตุผลใด

“งั้นถ้าหากท่านประธานไม่มีธุระอะไรสำคัญแล้ว กระผมเตชิน ผู้ช่วยรองประธานบริหารฝ่ายกฎหมายและบริหารกลาง ขออนุญาตทำงานทำการก่อนนะครับ ไม่ได้เข้าออฟฟิศมาสองอาทิตย์ เอกสารสูงท่วมหัวแล้วว่ะ” เจ้าของห้องเชิญแขกไม่ได้รับเชิญออกจากห้องอย่างสุภาพทันทีที่สบโอกาส

คนถูกเชิญออกจากห้องไหวไหล่น้อยๆ ก่อนที่จะเดินกลับห้องทำงานของตนเอง โดยไม่ลืมหันกลับไปมองยังหน้าห้องทำงานของเตชินอีกรอบ และหญิงสาวที่นั่งอยู่หน้าห้องก็ส่งยิ้มพิมพ์ใจกลับมาให้ พร้อมกับค้อมศีรษะลงอย่างน่าเอ็นดู รอยยิ้มหวานๆ ทำให้โลกของเสือที่จำศีลมาสามสิบหกปีหยุดหมุนทันควัน

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น