1
มีผัวเป็นทนาย ให้ตายเสียยังจะดีกว่า
เหตุการณ์แสนสยิวกิ้วระหว่างร้อยรักกับพันรบผ่านพ้นไปได้ไม่ถึงห้านาที ร้อยรักก็เห็นผ่านหน้าต่างห้องตนว่ามารดากำลังเปิดประตูรั้วเหล็กเข้ามาในบ้าน ท่านถือถุงกับข้าวจนเต็มไม้เต็มมือ และดูเหมือนว่าจะซื้อฝักบัวอาบน้ำมาด้วย
หญิงสาวรีบลงไปหาสาวโบฮีเมียนร่างเล็ก ที่หน้าตาอ่อนกว่าวัยเสียจนไม่บอกก็ไม่รู้ว่าห้าสิบสองแล้ว พลางเรียกเสียงใส “แม่!”
แรมใจหันมองคนที่มาขัดจังหวะการเดินเข้าห้องครัวของตน ก่อนจะค่อน “อะไร เสียงดังโวยวายทำไมลูก”
“ทำไมแม่ไม่บอกรักก่อนว่าน้องรบจะมาอยู่กับเรา”
แรมใจยิ้มเผล่ แกล้งยักไหล่ใส่ลูกสาว “ก็เซอร์ไพรส์ไงจ๊ะลูกจ๋า...”
“แม่รู้ไหมคะว่าการเซอร์ไพรส์ของแม่มันทำให้...”
“ทำให้อะไรเหรอ”
ร้อยรักค้อนใส่มารดาตน อยากจะโพล่งบอกนักว่าทำให้เธอได้เจองูใหญ่ของพันรบยังไงเล่า!
“มาช่วยแม่แกะกับข้าวหน่อยเร็ว แม่ไปซื้อของอร่อยๆ มาเพียบเลย”
คนเป็นลูกสาวกลอกตากับการทำมึนตีเนียนของมารดา ก่อนจะถอนใจ แล้วเดินตามมารดาเข้าไปในครัว เห็นอาหารสารพัดเมนูเข้าก็นึกขำระคนหมั่นไส้ เลยเย้าไป “แหม...คุณแรมใจขา ไม่ค่อยเห่อลูกชายเพื่อนเลยนะคะ เตรียมการต้อนรับดี๊ดีอะ...ว่าแต่ เห่อน้องรบเบอร์นี้ แล้วทำไมไม่โชว์ฝีมือทำอาหารต้อนรับน้องรบเองเลยล่ะฮ้า”
แรมใจมองค้อนลูกสาวจอมทะเล้นที่ก็รู้อยู่ว่าเสน่ห์ปลายจวักของเธอนั้นว่างเปล่าขนาดไหน และการไร้ความสามารถทางด้านนี้ก็ถูกส่งต่อไปให้ร้อยรักเต็มๆ สองสาวเลยทำอาหารห่วยกันทั้งคู่ จนต้องให้ท้องไส้พึ่งพาแกงถุงตลอดศก
ขณะที่ช่วยกันแกะอาหารเพื่อเทใส่ถ้วยจาน แรมใจก็เล่าเรื่องพันรบให้ร้อยรักฟังไปด้วย...
หลังจากเหตุการณ์สูญเสียในครั้งนั้น ด้วยความที่ชอบการสื่อสารด้วยวิธีแบบดั้งเดิม แรมใจเลยคอยติดต่อกับผู้ปกครองของพันรบและตัวเขาทางจดหมายอยู่สม่ำเสมอ คอยเล่าเรื่องพี่รักของน้องรบที่สนุกสนานกับการเจริญวัยจนลืมสนใจน้องไป คอยส่งรูปพี่รักคนสวยไปให้ดูอยู่เป็นนาน
ครั้นถึงช่วงที่เทคโนโลยีโซเชียลมีเดียเข้ามามีบทบาทต่อชีวิตมนุษย์ แรมใจก็ชี้ช่องทางการติดต่อลูกสาวให้พันรบได้ทราบ แต่พันรบก็ไม่เคยมายุ่งอะไรกับร้อยรักเลย และติดต่อแรมใจทางโทรศัพท์กับจดหมายเหมือนเดิม
จนมาห่างๆ กันบ้างก็เมื่อช่วงที่พันรบเรียนในระดับชั้นมัธยมศึกษา ด้วยผู้ปกครองของเขามีเหตุให้ย้ายบ้านไปอยู่ต่างอำเภอ
กระทั่งเมื่อช่วงสองเดือนก่อน แรมใจไปเที่ยวเชียงใหม่คนเดียวตามประสาคนรักอิสระ และได้แวะไปเยี่ยมพันรบ เลยได้รู้ว่าลูกชายของเพื่อนรักกำลังจะเรียนจบคณะนิติศาสตร์แล้ว เธอเลยออกปากว่าจะช่วยพันรบโดยการฝากให้ทำงานกับอดีตสามี และบอกให้พันรบมาอยู่กับตนด้วยก็ได้...
“โห งั้นแม่ก็ตกลงกับน้องรบมาตั้งนานแล้วสิคะเนี่ย นี่เตรียมเซอร์ไพรส์รักตั้งแต่ตอนนั้นเลยใช่ไหม”
แรมใจหัวเราะ “ใช่ ก็แม่อยากรู้ว่าเราจะจำน้องได้ไหม แล้วนี่เจอกันยังไง”
“ก็...กลับมาถึงก็เจอเลย น้องนั่งอยู่แถวโซฟากลางบ้านพอดีน่ะค่ะ” ร้อยรักตัดสินใจโกหกไป ไม่กล้าบอกความจริงหรอกว่ากลับมาเจอพันรบในสภาพไหน
“พรุ่งนี้ว่างหรือเปล่า เดี๋ยวพาน้องรบไปเจอพ่อกันนะ”
“รักไม่ไปได้ไหมคะแม่” ดวงหน้าสวยจัดงอง้ำ บ่นอุบ “ไม่อยากไปเจอพ่อเลยอะ”
“เอาน่า...ไปเป็นเพื่อนแม่หน่อย แม่จะได้มีตัวหาร ไม่โดนบ่นคนเดียว”
ร้อยรักขำคิก ก่อนจะลอบสังเกตแววตาของแม่ยามเอ่ยถึงพ่อ...ด้วยนึกสงสัยนักว่า แม่ยังรักพ่ออยู่ไหม
ท่านทั้งสองหย่ากันตั้งแต่ร้อยรักอายุได้แปดขวบ โดยมีสาเหตุว่า ‘อยู่ด้วยกันไม่ได้ เพราะทัศนคติไม่ตรงกัน’
พ่อเธอเป็นทนายสุดเจ๋ง แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นผู้ชายที่เคร่งเครียดกับทุกอย่างในชีวิต ทุกสิ่งต้องดีพร้อม ซึ่งถ้าพ่อดีพร้อมอยู่คนเดียวก็คงไม่สร้างความอึดอัดให้ใคร แต่พ่อดันอยากให้แม่ดีพร้อมด้วย
ส่วนแม่นั้นเป็นคุณครูสอนวาดรูปในโรงเรียนสอนศิลปะชื่อดัง นิสัยก็ช่างแตกต่างกับพ่อโดยสิ้นเชิง ด้วยแม่เป็นพวกเรียบง่ายสบายๆ ไว้ก่อน ไม่ค่อยจริงจังกับอะไรเลย
เพราะทัศนคติที่ต่างกัน พออยู่กันไปเรื่อยๆ ความสัมพันธ์ก็เริ่มแย่ไปทุกทาง เพราะพ่อเริ่มวางอำนาจว่าตัวเองเป็นสามี เป็นหัวหน้าครอบครัว และบังคับให้แม่ทำแบบนั้นแบบนี้ อยากให้แม่เป็นดังใจที่ตนต้องการ
พออีกคนตึงเกินไป อีกคนหย่อนเกินไป ชีวิตคู่เลยถึงทางตัน
ในตอนนั้นร้อยรักเลือกที่จะอยู่กับแม่ เพราะเธอเองก็นิสัยค่อนไปทางแม่ และไม่ชอบชีวิตที่ถูกควบคุม ซึ่งแน่นอนว่าถ้าเธอเลือกไปอยู่กับพ่อ เธอคงไร้ซึ่งอิสรภาพทางความคิด ไม่มีโอกาสแม้แต่จะชี้ชะตาทางเดินของตัวเอง เธอเลยสบายใจที่จะอยู่กับแม่มากกว่าพ่อ เพราะอึดอัดกับความดีพร้อมของพ่อนั่นเอง
แต่ว่านะ...ขนาดไม่ได้อยู่ด้วยกัน พ่อก็ยังจ้องจะมาเจ้ากี้เจ้าการบังคับเธออยู่เรื่อย
ความสัมพันธ์ของร้อยรักกับพ่อเลยไม่ค่อยจะดีนัก มาแย่หนักก็เมื่อคราที่ร้อยรักขัดคำสั่ง ไม่ยอมเลือกเรียนนิติศาสตร์ตามที่ท่านบงการ แถมยังต่อต้านสาขาวิชาความรู้ทางด้านนี้แบบสุดๆ
หลังจากนั้นเธอกับพ่อก็เลยเป็นคู่พ่อลูกที่ไม่เคยคุยกันดีๆ ได้ถึงห้าประโยคสักที ด้วยเหตุนี้เธอเลยรู้สึกหน่ายใจทุกครั้งที่ได้เจอพ่อ
“ว่าไง ตกลงไปกับแม่นะ” แรมใจถามย้ำอีก
“ก็...เฮ้อ” ร้อยรักถอนใจเฮือกใหญ่ “ก็ได้ค่ะแม่ รักจะไปกับแม่และน้องรบด้วย แต่ถ้ารักโดนพ่อบ่น แม่ต้องช่วยรักด้วยนะคะ”
“ได้ แม่จะขัดตาแก่เอง”
คนเป็นลูกอมยิ้มกับสรรพนามที่แม่เรียกพ่อ ก่อนเอ่ยถึงพ่อต่อ “รักว่าพ่อต้องบ่นเรื่องงานของรักแน่เลย งานสไตลิสต์มันจะมั่นคงเหรอ อย่างนั้นอย่างนี้...เผลอๆ จะบ่นเรื่องนั้นด้วย เรื่องทนายรุ่นน้องของพ่อที่มาชอบรัก แล้วโดนรักเชิดใส่ไงแม่ จำได้ไหมคะ”
“จำได้สิ เราเล่นเมินจนเขาเสียความมั่นใจไปเลยนี่”
ร้อยรักหัวเราะคิก จ้อต่ออย่างเมามัน “พ่อนี่บ่นรักใหญ่ ทำไม เขาไม่ดีตรงไหน การงานก็ดี อะไรก็ดี เฮอะ...มีพ่อเป็นทนายคนเดียวก็พอแล้ว รักจะไม่ยอมมีผัวเป็นทนายด้วยเด็ดขาด!”
“เรานี่นะ...ไม่ชอบทนายขนาดนี้เลยเหรอ” แรมใจบ่นพลางส่ายหน้าอ่อนใจกับการตั้งแง่ของแม่ลูกสาวตัวดี
แม้จะชอบคุยกิ๊กกั๊กกับผู้ชายเพียงใด แต่ถ้าเป็นคนในสายอาชีพเดียวกันกับรวี ลูกก็มักจะเชิดใส่อย่างนี้เสมอ ซึ่งนี่ก็คงเป็นอคติส่วนตัวอันเกิดจากความรู้สึกที่ต่อต้านพ่อนั่นเอง
“มีผัวเป็นทนาย ให้รักตายเสียยังจะดีกว่า!”
ร้อยรักประกาศก้องจนดังไปทั่วห้องครัว...โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าวาจาของเธอทำให้คนที่อยากเป็นทนายกัดฟันด้วยความหงุดหงิดเพียงใด
แม่ลูกแกะสุดสวย ช่างปากดีนัก
พันรบจะทำให้เธอกลืนน้ำลายตัวเอง แล้วเปลี่ยนประโยคนั้นใหม่เป็นว่า...‘ถ้าไม่ได้ผัวเป็นทนาย รักขอตายดีกว่า’
เขาจะทำให้เธอรู้ซึ้งว่า...เกลียดอะไร จะได้อย่างนั้น
ดวงตาคมกล้ามองร่างบางด้วยความมุ่งมาดในตัวเธออย่างเต็มเปี่ยม พลางคิดว่าตนยืนแอบฟังอยู่หน้าห้องครัวเพื่อเก็บข้อมูลได้นานพอดู สมควรที่จะเลิกแอบฟังเสียที เขาเลยปรับสีหน้าให้ใสซื่อที่สุด แล้วเดินเข้าไปหาสองแม่ลูก ส่งเสียงนุ่มหูทักไป
“โห กับข้าวเยอะแยะเลยครับป้าแรม”
แรมใจหันมาหา “ตารบของป้า มาแล้วเหรอลูก มาๆ กินข้าวกัน”
“แหม...ตารบของป้า”
แรมใจมองค้อนลูกสาวที่เย้ากัน “ไม่ต้องมาล้อแม่เลย ก็แม่เอ็นดูตารบนี่ ว่าแต่เราเถอะ จะกินข้าวกับแม่กับน้องไหม”
“ไม่ละแม่ รักยังอิ่มส้มตำอยู่เลย”
แรมใจพยักหน้ารับ ก่อนจะส่งสายตาให้พันรบนั่งลงที่โต๊ะอาหาร แล้วลงมือจัดการมื้อเย็นที่เลยเวลาอันควรรับประทานมานานแล้ว ส่วนร้อยรักก็ไม่ได้ไปไหน ยังนั่งอยู่กับทั้งคู่ด้วย
ในระหว่างนั้น บรรดากิ๊กกั๊กของร้อยรักก็ส่งข้อความมาจีบให้เธอได้ขำคิกคักและหน้าบานเริงร่า จนมารดาอดที่จะค่อนเสียไม่ได้
“คุยๆ อยู่นั่น แต่ก็ไม่จริงจังกับใครสักที”
ถึงจะบ่นไป แต่แรมใจก็ไม่ได้ห้ามปราม ด้วยแม้ลูกสาวจะคุยกับผู้ชายสักกี่คน ลูกก็ระวังตัวเป็นอย่างดี ไม่มีเปลืองเนื้อเปลืองตัวกับใครเลย
“รบอย่าไปเลียนแบบพี่รักนะลูก”
พันรบหัวเราะแหะ ส่ายหน้าเบาๆ “ผมไม่ชอบยุ่งกับผู้หญิงหรอกครับ ตั้งแต่เกิดมาผมยังไม่เคยมีแฟนเลย”
ร้อยรักตาโต ห่อปากกับความโสดของพันรบ แต่ก็ไม่ได้แปลกใจเท่าไร ด้วยลุคของน้องนั้นก็ดูเป็นผู้ชายที่ชอบเรียนหนังสือมากกว่าที่จะมาสนใจเพศตรงข้าม
เธอหัวเราะคิกคัก ก่อนจะตอบกลับ “พี่ก็ไม่มีน้า พี่ถือคติ มีกิ๊กนับร้อย แต่โนบอยเฟรนด์ค่า!”
คนเป็นแม่ส่ายหน้าเมื่อเห็นความลั้ลลาของลูกสาว ส่วนพันรบนั้นยิ้มบางเสมือนว่าขันคติของร้อยรัก
ทว่า...แท้จริงแล้วเขากำลังกรุ่นโกรธจนแน่นอก
เดี๋ยวเถอะ...อีกไม่นานหรอก จะทำให้ไม่เหลือกิ๊กเลยสักคน!
แรมใจเลือกร้านอาหารไทยสไตล์ฟิวชันบรรยากาศร่มรื่นสบายๆ เป็นสถานที่นัดหมายกับรวี กลุ่มของเธอมาถึงที่ร้านตั้งแต่ช่วงเที่ยง และเลือกที่จะนั่งด้านนอกเพื่อจะได้ใกล้ชิดกับต้นไม้ใบหญ้า
ประมาณเที่ยงครึ่ง...รวีก็มาถึง เขานั่งลงข้างพันรบ นั่นทำให้พันรบได้เห็นหน้าเขาชัดๆ และถึงบางอ้อเลยว่าร้อยรักสวยได้ใครมา
ชายวัยกลางคนนั้นยังคงหนุ่มฟ้อหล่อเฟี้ยว แม้จะสวมชุดลำลองธรรมดาๆ แต่ก็ดูดีเหลือเกิน...หน้าตาดีจัดกันทั้งพ่อทั้งลูกเลย
พอยกมือไหว้ทักทายกันเรียบร้อยแล้ว รวีก็เริ่มถามกึ่งบ่นร้อยรักอย่างที่หญิงสาวพูดเมื่อวานเป๊ะ แต่พันรบก็พอจะมองออกว่านี่คือการแสดงความเป็นห่วงของคนเป็นพ่อ ในขณะที่คนเป็นลูกสาวนั้นก็มีอคติสูงปรี๊ด เลยพานหน่ายใจไปเสียหมด
“ลูกควรมีอะไรเป็นหลักเป็นฐานบ้างได้แล้วนะรัก งานสไตลิสต์ที่ลูกทำมันจะมั่นคงเหรอ มาทำงานกับพ่อไหม เดี๋ยวพ่อหาให้”
ร้อยรักถอนใจ “รักจบด้านแฟชั่นมานะคะ จะให้รักไปทำอะไรที่สำนักทนายความของพ่อเหรอ”
“ก็...เป็นเลขาฯ พ่อก็ได้”
หญิงสาวกลอกตาอย่างเบื่อหน่าย “นิมิตตำแหน่งขึ้นมาเพื่อลูกสาวชัดๆ ทำไมพ่อไม่เชื่อใจในเส้นทางที่รักเลือกบ้างเลย”
รวีถอนใจ ทำท่าฮึดฮัดเมื่อลูกสาวขัดใจตน แล้วบ่นต่อ “จะให้พ่อเชื่อใจไปได้ยังไง ก็ดูสิ มันจะมีอะไรมั่นคงได้บ้าง รักนี่ดื้อจริงๆ ดื้อเหมือนแม่ไม่มีผิด พ่อให้ออกจากงานมาอยู่บ้านเฉยๆ ก็ไม่ยอม ดื้อจะทำงานเป็นครูสอนวาดรูปงกๆ ไปทำไมนักก็ไม่รู้”
ร้อยรักกำลังจะอ้าปากเถียงต่อ ทว่านัยน์ตาขุ่นคลั่กและแรงบีบจากมือแม่ที่ส่งผ่านมายังมือเธอก็ทำให้เธอหุบปากลงเสียก่อน ด้วยสัมผัสได้ว่าแม่กำลังโกรธพ่อเข้าเสียแล้ว
แม่คงจะฉุนที่พ่อพูดถึงงานของท่านด้วยน้ำเสียงที่ไม่ดี ด้วยแม่เองก็รักในงานของแม่ เหมือนกับที่เธอก็รักในงานของเธอ
สองคนแม่ลูกแค่อยากให้พ่อเคารพในเส้นทางที่ตนเลือก มันอาจจะเหนื่อย ได้เงินไม่เยอะเท่ากับที่พ่อได้ แต่ก็มีความสุข
“เลิกบ่นลูกได้แล้ววี”
น้ำเสียงเรียบนิ่งของแรมใจทำรวีชะงักกึก หน้าเจื่อนเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับเสียงอ่อย “วีหวังดีกับลูกนะแรม รักนี่ดื้อเหมือนแรมไม่มีผิด ไม่เคยจะฟังกันเลย”
“แล้ววีล่ะ เคยฟังใครบ้างไหม วีคนเดิมของแรมหายไปไหน คนที่คบกันตั้งแต่สมัยมหาวิทยาลัย วีคนที่ชื่นชมในงานของแรม วีคนที่ตื่นเต้นทุกครั้งที่แรมวาดรูปเขา...วีคนนั้นตายจากโลกนี้ไปแล้วเหรอ!”
“แรม...”
“ก็เพราะว่าวีเป็นอย่างนี้นี่แหละ เราเลยอยู่ด้วยกันไม่ได้!”
รวีหน้าซีดเป็นไก่ต้ม ร้อยรักเองก็ตกใจที่แม่ระเบิดอารมณ์ขึ้นมา เธอบีบมือท่านเบาๆ เพื่อให้ท่านใจเย็นลง
“แม่ไปเดินเล่นก่อนนะรัก ไม่อยากอยู่ตรงนี้แล้ว แม่เหม็นหน้าคน” แรมใจลุกออกจากโต๊ะ ก่อนไปก็สะบัดหน้าใส่ ‘คน’ จนเขาหน้าจ๋อย
ส่วนร้อยรักก็มองพ่อด้วยความสงสาร แม้จะหน่ายใจกับท่านเพียงใด แต่ร้อยรักก็รักพ่อมาก เธอส่งสายตาให้กำลังใจพ่อ ก่อนจะลุกตามแม่ไป
ด้านพันรบก็วิเคราะห์สถานการณ์ทุกอย่าง ทั้งจากข้อมูลที่ได้แอบฟัง ทั้งจากแววตาที่รวีและแรมใจมองกัน ชายหนุ่มก็ขอเคาะสมมุติฐานขึ้นมาว่า...นี่คือแววตาของคนรักกันชัดๆ
ซึ่งถ้าอยากรู้ว่าถูกต้องหรือไม่ ก็คงต้องพิสูจน์หาคำตอบเสียหน่อยแล้ว
ดวงหน้าละอ่อนใสมีรอยยิ้มมุมปากอย่างเจ้าเล่ห์ ก่อนจะแกล้งพูดลอยๆ เพื่อปล่อยหมัดเด็ดใส่รวี “คุณลุงครับ...คุณลุงยังรักป้าแรมอยู่ใช่ไหมครับ”
รวีหันขวับมาหาพันรบ ทำหน้าตื่นตกใจจนพันรบยิ้มขัน ก่อนจะพิสูจน์ต่อโดยการแกล้งพูดอีก “ผู้ชายเรา...เสียงอ่อนเสียงหวานกับผู้หญิงที่เรารักเท่านั้นแหละครับ ผมพูดถูกไหม”
ถูก...รวีตอบคำถามนั้นในใจ แต่ไม่ได้เอ่ยออกไป ด้วยคิดว่าตนไม่จำเป็นต้องเผยความรู้สึกของตัวเองให้เด็กนี่ฟัง
“ให้ผมช่วยไหมครับ”
“ช่วย?” รวีขมวดคิ้วสงสัย “ช่วยอะไร”
“ช่วยให้คุณลุงได้กลับมาแต่งงานกับป้าแรมอีกครั้ง...แต่ผมไม่ได้ช่วยฟรีๆ นะครับ ไม่ได้เป็นคนดีขนาดนั้น”
ชายวัยกลางคนชะงักเมื่อได้ยินถ้อยคำตรงไปตรงมาที่ออกมาจากปากพันรบ และหรี่ตาประเมินคนรุ่นลูก เอ่ยถามอย่างต้องการจะหยั่งเชิง “แล้วรบต้องการอะไรเป็นสิ่งตอบแทน”
“ผมต้องการ...” พันรบแกล้งลากเสียงให้คนแก่กว่าลุ้น แล้วค่อยเฉลยออกไปว่า “...พี่รักครับ”
“หมายความว่ายังไงวะ นี่แกคิดจะงาบลูกฉันเหรอ!”
พันรบยิ้มกริ่มใส่คนที่หวงลูกสาวจนสติหลุด คุมวาจาและอารมณ์ไม่อยู่ ก่อนยืนยันอีกที “ครับ ผมจะงาบพี่รัก ผมวางแผนมานานแล้วด้วย”
“ไอ้เด็กเวร!”
ดวงตารวีวาวโรจน์ ก่อนกระชากคอเสื้อพันรบ เงื้อหมัดหมายจะจัดการปากคนหนุ่มสักที แต่สุดท้ายเขาก็ต้องลดมือลง เพราะวาจาที่พันรบเอ่ยถัดมา
“ผมรักพี่รักครับ รักมาตั้งแต่เด็ก เป็นรักครั้งแรกที่ผมตั้งใจว่าจะให้เป็นรักครั้งสุดท้ายด้วย”
น้ำเสียงหนักแน่นจริงจังของคนหนุ่มทำรวีอึ้งจัด พอสบตากันอย่างลูกผู้ชาย ก็ยิ่งรู้ชัดว่าเด็กนี่...ไม่ได้พูดเล่น
“ผมจะช่วยให้คุณลุงกับป้าแรมได้กลับมาแต่งงานแล้วอยู่ด้วยกันอีก จะช่วยให้ความสัมพันธ์ของพี่รักกับคุณลุงดีขึ้นด้วย เชื่อมือผมนะครับ ผมทำได้แน่นอน”
ความมั่นใจที่พันรบแสดงออกมาผ่านคำพูดและแววตาทำเอารวีกลืนน้ำลายดังเอื๊อก สัมผัสได้ว่าหมอนี่ฉลาดและร้ายกาจนัก แต่คงเพราะความหน้าละอ่อน ดูไร้พิษภัย เลยอาจจะทำให้ใครๆ ประมาท เผลอคิดไปว่ามันใสซื่อ
“ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับคุณพ่อตา”
ยังไม่ได้เป็นโว้ย!
ออกซิเจนจากต้นไม้ในสวนของร้านอาหารช่วยทำให้มารดาสดชื่นและคลายความโกรธที่มีต่อบิดาลงจนหายในที่สุด ร้อยรักแสนจะโล่งอกโล่งใจ เธอกอดแขนอ้อนคนที่เดินเคียงกันแล้วชวนคุย
“แม่ขา...เมื่อกี้แม่โวยจนพ่อจ๋อยเลยอะ”
แรมใจหัวเราะ “สงสัยเพราะแม่โดนจี้จุดพอดีมั้งลูก เลยปรี๊ดไปหน่อย”
ร้อยรักยิ้มบาง นิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนจะตัดสินใจถาม “แม่...รักขอถามตรงๆ ได้ไหมคะ แม่ยังรักพ่ออยู่ใช่ไหม”
แรมใจชะงักกึก หยุดเดินโดยพลัน แล้วหันหน้ามาสบตาลูกสาว ยอมรับตามตรง “จ้ะ แม่ยังรักพ่ออยู่ แต่รักอย่างเดียวมันไม่พอให้ชีวิตคู่ดำเนินไปหรอกนะลูก แม่รักพ่อมากก็จริง แต่แม่ก็รักงานแม่ รักชีวิตแม่ด้วย...”
“แม่...” ร้อยรักเรียกขานเสียงพร่า ใจสั่นไหวไปด้วยความสงสารมารดา
“พ่ออาจจะคิดว่าพ่อดูแลแม่ได้ ทำไมแม่ต้องไปเป็นครูสอนวาดรูปงกๆ แต่พ่อคงลืมไปเลยว่าแม่รักในสิ่งที่ทำแค่ไหน ลืมไปเลยว่าเขาหลงรักแม่เพราะแม่เป็นแบบนี้” มุมปากแรมใจแย้มออก ทั้งสุขและทุกข์ในคราวเดียวกัน “ตอนที่ได้รู้จักกัน พ่อเขาเป็นหนุ่มเนื้อหอมของมหาวิทยาลัยเลยนะ หนูน่ะเสน่ห์แรงเจ้าชู้เหมือนพ่อเขานี่แหละ รู้ตัวไหม”
“หือ...พ่อนี่เหรอคะ เจ้าชู้!” ปากได้รูปเอ่ยอย่างประหลาดใจ ด้วยตั้งแต่เติบโตมา ร้อยรักยังไม่เคยเห็นพ่อมีปัญหาเรื่องผู้หญิงเลยสักครั้ง แม้กระทั่งทุกวันนี้ที่เลิกกับแม่แล้ว พ่อก็ยังไม่มีใครเลย
“ใช่ พ่อรักเจ้าชู้มาก กิ๊กเขาแต่ละคนสวยๆ โดดเด่น เป็นดาวคณะทั้งนั้น”
“ว้าว...งั้นแม่ก็พิชิตใจหนุ่มฮอตสิคะเนี่ย”
แรมใจยิ้มบางเมื่อเห็นปฏิกิริยาตื่นเต้นของลูกสาว “ใช่ คนงงกันหมด ที่พ่อมาจีบแม่ เพราะแม่ไม่สวย ไม่โดดเด่นอะไรเลย”
“ใครว่า...แม่แรมของหนูน่ารักจิ้มลิ้มจะตายไป” ร้อยรักเอ่ยเสียงหวาน เวลาอยากอ้อนแม่ เธอจะชอบแทนตัวเองว่า ‘หนู’ เสมอ
“พ่อเขาเคยบอกตอนที่จีบแม่ว่า เขาหลงรักในตัวตนของแม่ รักที่แม่มุ่งมั่นกับสิ่งที่แม่ทำ แต่พอเวลาผ่านไปก็มีปัจจัยต่างๆ มาเปลี่ยนความคิดพ่อ สุดท้ายพ่อก็ให้แม่ทอดทิ้งงานศิลปะที่แม่รัก”
แรมใจหน้าหมองลง และนึกย้อนไปถึงวันที่รวีโพล่งว่าเธอ...
‘วีบอกว่าวีดูแลแรมได้ ทำไมแรมต้องดื้อไปทำงานด้วย วีอยากให้แรมดูแลวี เลี้ยงลูกอยู่บ้าน เลิกเป็นครูสอนวาดรูปได้แล้ว!’
“พ่อเขาคงมีภาพฝันว่าเมียเขาควรจะต้องเป็นแบบนั้นแบบนี้...แต่พอดีว่าแม่ไม่ได้เป็นแบบนั้น และผู้หญิงแต่ละคนก็มีความต้องการไม่เหมือนกัน ในมุมของพ่อ เขาอาจจะคิดว่า เขาจะดูแลแม่เอง นั่นคือสิ่งที่เขาจะให้แม่ แต่ในมุมของแม่ แม่ไม่อยากให้พ่อมาดูแล แม่ต้องการความเข้าใจมากกว่า”
แรมใจเอ่ยเสียงสั่นพลางลูบไล้ใบหน้าสวยจัดของลูกสาว ก่อนจะถาม “ถ้ารักมีแฟน แล้วแฟนไม่อยากให้รักเป็นสไตลิสต์ ไม่ให้อิสระในการใช้ชีวิตของรัก หนูจะโอเคไหมลูก”
คนโดนถามส่ายหน้าหวือ “ไม่โอเคค่ะ หนูรักเสื้อผ้า ชอบแต่งตัว ชอบครีเอตลุคให้ใครๆ ถ้าผู้ชายของหนูมาบอกให้หนูเลิกทำ หนูก็คงเลิกกับเขาแทน”
“คำตอบสมกับเป็นลูกแม่ ได้แม่มาเต็มๆ เลยนะเรา” แรมใจหัวเราะร่วน ก่อนบอก “แม่ก็ด้วย พอพ่อเขาเริ่มบงการแม่ อยากให้แม่เป็นภรรยาที่ดีพร้อมในแบบที่เขาคิด ทีนี้มันเลยกลายเป็นว่า...รักของพ่อทำให้แม่อึดอัด ไม่มีความสุข อยู่กันไปก็รังแต่จะทำให้ทุกข์ เลยแยกกันดีกว่า”
ร้อยรักน้ำตาคลอ ทั้งสงสารและเข้าใจมารดาอย่างที่สุด เพราะความเป็นห่วงของพ่อก็ทำให้เธออึดอัด ไม่มีความสุขเช่นกัน...
เมื่อเห็นว่าสองสาวกำลังเดินกลับมาที่โต๊ะ พันรบและรวีเลยยุติการเจรจา ‘ข้อตกลงลับ’ ไว้แต่เพียงเท่านี้ก่อน แล้วพันรบก็เริ่มใช้ความละอ่อนใสน่าเอ็นดูของตนทำให้บรรยากาศดีขึ้น โดยการชักชวนให้สองสาวรับประทานอาหารที่มาเสิร์ฟพอดี
รวีคอยเอาใจอดีตภรรยาโดยการตักอาหารให้เธอจนเต็มจาน คอยรินน้ำเปล่าให้โดยที่ไม่ต้องรอให้พนักงานในร้านมาบริการ
“แหม พ่อคะ เอาใจแม่น่าดูเลยนะ” ร้อยรักเย้า
“ทำไม น้อยใจเหรอเรา อะ พ่อเอาใจหนูด้วยก็ได้”
ว่าอย่างนั้นแล้ว รวีก็ตักอาหารให้ลูกสาวบ้าง จนร้อยรักหน้าม้าน อดที่จะเขินเสียไม่ได้ อาจเพราะเธอกับพ่อไม่ค่อยมีช่วงเวลาดีๆ ต่อกันสักเท่าไร บทจะมีขึ้นมาก็รักใคร่กันจนเหมือนคนไม่เคยเถียงกัน
“แรม...วีขอโทษนะ”
แม้จะใจอ่อนไปแล้ว แต่แรมใจก็ทำฟอร์มถาม “ขอโทษเรื่องอะไรมิทราบ”
“ขอโทษที่พูดถึงงานแรมแบบนั้น”
“รู้ว่าตัวเองผิดบ้างก็ดี” ค่อนจนอดีตสามีหน้าเจื่อนแล้วก็สั่งเสียงแข็ง “ดูแลรบให้ดีๆ นะ อย่าให้ใครมาเล่นเล่ห์กับรบ อย่าให้รบไปเสียเหลี่ยมใครได้ล่ะ รู้ไหม”
รวีพยักหน้ารับ แต่ในใจนั้นหมั่นไส้พันรบนักที่ได้รับความห่วงใยจากอดีตภรรยาของตน...เด็กนี่เหรอจะเสี่ยเหลี่ยมใคร มีแต่จะไปทำให้ใครเขาเสียเหลี่ยมสิไม่ว่า
มือใหญ่ของพันรบกำพวงมาลัยรถยนต์ด้วยแรงที่เพิ่มขึ้นตามความหงุดหงิดที่กำลังเกิดขึ้นกับตนเอง พอเหลือบมองคนที่นั่งหน้าคู่กันก็ยิ่งหมั่นไส้...จะคุยกับผู้ชายทำไมนักหนาก็ไม่รู้
ไอ้คนที่โทร. มาก็ไม่รู้จักวางสักที ไม่มีธุระอย่างอื่นต้องไปทำบ้างเหรอวะ!
“พรุ่งนี้เหรอคะ...อืม รักก็ว่างอยู่นะ ดินเนอร์เหรอ...อืม...”
“แค็กๆ!”
ร้อยรักสะดุ้งเฮือก หันมองคนขับที่จู่ๆ ก็ไอแค็กๆ ขึ้นมา ก่อนจะเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง “น้องรบเป็นอะไรหรือเปล่า”
“นั่นสิ เป็นอะไรหรือเปล่าลูก” แรมใจที่นั่งเบาะหลังก็ถามเช่นกัน
“เปล่าครับพี่รัก ป้าแรม พอดีผม...สำลักน้ำลายนิดหน่อยครับ” พันรบหัวเราะแหะ แล้วออดอ้อนพี่สาวร่วมโลก “พี่รักครับ...ผมอยากปรึกษาเรื่องเสื้อผ้าที่จะใส่ไปทำงานกับคุณลุงอะครับ”
“ปรึกษาตอนนี้เลยเหรอ”
“ครับ ผมอยากคุยตอนนี้เลย นะครับ คุยกับผมตอนนี้เลยนะ”
ร้อยรักชั่งใจอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะเอ่ยกับคนปลายสาย “รักขอวางสายก่อนนะคะ พอดีมีธุระต้องคุยกับน้องชายนิดหน่อยค่ะ”
พอหญิงสาวกดวางสาย พันรบก็ยิ้มกริ่มอย่างสมใจที่ทำให้เธอหยุดคุยกับ (ไอ้) ผู้ชายอีกคนได้
และเมื่อเธอเจื้อยแจ้วแนะนำว่ารูปร่างอย่างเขาต้องแต่งตัวอย่างไรถึงจะดูดี เขาก็เริ่มจินตนาการภาพอนาคตที่มีเธอมาจัดแจงเสื้อผ้าให้กันในทุกเช้าก่อนไปทำงาน เขาคงจะมีความสุขสุดๆ
ปากได้รูปที่กำลังเอ่ยถึงแบรนด์เสื้อผ้าต่างๆ นั้นก็น่าจุ๊บนัก มันอวบอิ่มเต่งตึงจนเขาชักจะอดใจไม่ไหวแล้ว
คอยดูเถอะ แม่ลูกแกะแสนสวย...ทำตัวเจ้าชู้ หวงชีวิตอิสระนักใช่ไหม พันรบจะทำลายความโสดของเธอให้ย่อยยับ จะขย้ำจนหนำใจ ผูกมัดเธอไว้ทุกทาง ไม่ว่าจะทางกายและทางใจ ให้สมกับที่เฝ้ารักเฝ้ารอมาหลายปี!
ความคิดเห็น |
---|