5

ตอนที่ 5



เขมวันต์เองก็แปลกใจไม่แพ้เดหลีเหมือนกัน เมื่อจู่ๆ ก็มีมือเรียวขาวผ่องทาเล็บสีแดงแปร๊ดของใครบางคนเอื้อมมาวางแปะลงบนแขนของเขา พอหันไปมองนายแพทย์หนุ่มก็ถึงกับขมวดคิ้วคิดอยู่หลายวินาทีก่อนจะอุทานออกมาเบาๆ

เวียนนา!

เจ้าของชื่อพยักหน้า พร้อมออกแรงบีบแขนเขาแน่นขึ้นคล้ายจะพิสูจน์ แล้วพึมพำ คุณจริงๆ ด้วย

เขมวันต์ทำหน้าบึ้ง นึกอยากปัดมือขาวผ่องของหญิงสาวออกในทันที

ใช่ผมเอง เขาตอบเสียงเรียบเย็น และนึกถึงเวียนนาตอนที่ฝ่ายนั้นใช้ชื่อเดหลีมาแอบอ้างไปพร้อมๆ กัน

เหตุการณ์นั้นผ่านมานานแล้ว นานเท่ากับอายุลูกสาวของเขานี่ละ

ตอนนั้นคนตรงหน้ายังเป็นสาวน้อยอายุไม่เต็มยี่สิบปีดี และไม่ได้ผ่านปลายเข็มศัลยแพทย์หรือมีดหมอกรีด เฉือนใบหน้า จึงมีส่วนละม้ายคล้ายคลึงกับเดหลีอยู่มากจนเขาเข้าใจผิด คบหากันจนเลยเถิด ทำให้อีกฝ่ายกลายมาเป็นแม่ของลูกในที่สุด 

แต่เวียนนาในวันนี้กลับไม่หลงเหลือแม้แต่เสี้ยวเงาของเดหลีอยู่บนดวงหน้าเลย และไม่เหมือนเมื่อครั้งก่อนที่เขาเจอกับเธอด้วย

หญิงสาวทำตัวสมกับฉายาไฮโซพันหน้าที่ได้รับจริงๆ

ริมฝีปากเธออวบอิ่มกว่าเดิม ใบหน้าเรียวแหลมจนเป็นรูปตัววี ส่วนหางตาทั้งสองข้างก็เฉียงชี้ไปที่ขมับมากกว่าเก่า มองแล้วรู้สึกเหมือนกำลังจ้องเข้าไปในดวงตาของนักแสดงสาวจากฮอลลีวูด อย่าง แองเจลินา โจลี ตอนสวมบทบาทเป็น มาเลฟิเซนต์ ในภาพยนตร์ที่มีชื่อแบบไทยๆ ว่า กำเนิดนางฟ้าปีศาจ ก็ไม่ปาน

ชายหนุ่มได้แต่ลอบส่ายหน้า ฝ่ายนั้นอาจจะสวยในสายตาคนอื่น แต่ไม่ใช่สำหรับเขา

ยิ่งเวียนนาทำศัลยกรรมใบหน้ามากเท่าไร ความสวยสดก็ยิ่งหดหายมากขึ้นเท่านั้น แต่นี่ไม่ใช่เรื่องที่จะปริปากบอกกันได้ตรงๆ ชายหนุ่มเลยได้แต่นิ่ง และรอดูทีท่าหญิงสาวไปพลางๆ

คุณมาได้ยังไงเวียนนาถามอย่างสงสัย

ผมมากับคุณเดย์

เขมวันต์ตอบสั้นๆ ทำให้อีกฝ่ายหรี่ตาลงแล้วมองมาด้วยสายตาค้นคว้าอึดใจหนึ่ง ก่อนตัดสินใจบอกเสียงแผ่ว

ฉันว่าเราควรต้องคุยกันแล้วละพูดจบหญิงสาวก็ไม่รอช้า เธอจิกเล็บที่ต้นแขนเขาแน่น พร้อมออกแรงลากเขมวันต์ไปจากตรงนั้น โดยไม่สนใจว่าเขาจะเต็มใจหรือไม่

ชายหนุ่มตั้งใจจะปฏิเสธในตอนแรก แต่จู่ๆ ก็รู้สึกเหมือนมีใครกำลังมองมา

อดไม่ได้ที่จะเหลียวมองหาต้นเหตุ แต่กลับพบสายตาของเดหลีที่เหลือบมาพอดี คิ้วโก่งเรียวที่กันไว้อย่างสวยงามได้รูปข้างหนึ่งของนักธุรกิจสาวเลิกขึ้นน้อยๆ เป็นเชิงถามอย่างอยากรู้ระคนสงสัย ไม่ใช่เพราะความหึงหวง และไม่มีทีท่าจะเดินเข้ามากั้นกลางระหว่างเขากับเวียนนา

เขมวันต์จึงรู้สึกหงุดหงิดขึ้นมาเป็นกำลัง เหมือนผิดหวังที่หญิงสาวเพิกเฉยกับเหตุการณ์ครั้งนี้

ชายหนุ่มจึงตัดสินใจเดินคู่ไปกับเวียนนาเงียบๆ แล้วพบว่าฝ่ายนั้นพาไปขึ้นลิฟต์ ทว่าไม่ได้ตรงไปยังชั้นบนสุดซึ่งเป็นห้องบอลรูมขนาดใหญ่สำหรับจัดงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสในค่ำคืนนี้ กลับเลือกหยุดตรงชั้นซึ่งเป็นที่ตั้งของห้องอาหารกึ่งผับแทน

คงเป็นเพราะตอนนี้ยังหัวค่ำอยู่มาก ห้องอาหารแห่งนี้จึงไม่มีแขกเหรื่อมาใช้บริการ บริกรในร้านก็ดูจะคุ้นเคยกับเวียนนาไม่น้อย เพราะหลังจากช่วยเลื่อนเก้าอี้ให้หญิงสาวพร้อมกับวางเมนูปกแข็งอาบมันทิ้งไว้ก็เดินจากไปทันที

เมื่ออยู่ด้วยกันตามลำพังแล้ว เขมวันต์ก็เอ่ยปากถามอีกฝ่ายตรงๆ โดยไม่รั้งรอ คุณจะคุยอะไร

น้ำเสียงของเขาเย็นชาแฝงด้วยความกระด้างจัดจนตัวเองยังรู้สึกได้ เวียนนาเลยหลุบเปลือกตาลงคล้ายชั่งใจ

แพขนตาหนายาวแลดูคล้ายปีกผีเสื้อราตรี ยามทาบทับลงบนโหนกแก้มสีกุหลาบที่ตกแต่งมาอย่างประณีต แต่กลับไม่ทำให้เขมวันต์รู้สึกหวั่นไหวอย่างที่ควรจะเป็น

ถ่านไฟร้อนแรงที่เคยก่อเพลิงรักระหว่างเขากับเธอโรยเชื้อไปหมดแล้ว และไม่เหลือกระทั่งเศษขี้เถ้าให้หวนนึกถึง ดังนั้นเมื่อได้ยินคำถามของอีกฝ่ายที่เอ่ยขึ้นว่า

เรื่องยายเดย์...คุณยังไม่หายคลั่งยายเดย์อีกหรือ

เขมวันต์เลยคลี่ยิ้มนิดๆ เผยรอยยิ้มกระด้างที่ไม่เคยเลยไปถึงดวงตา

คุณจะถามผมทำไม ในเมื่อคุณเองก็น่าจะรู้ดีกว่าใคร

ใช่ฉันรู้ และรู้ดีกว่าคุณด้วย ว่าจริงๆ แล้วคนที่คุณคลั่งไคล้ในตอนนั้น เป็นฉัน

เธอแย้งขึ้นทันควัน ทำให้เขาอดไม่ได้ที่จะเปล่งเสียงหัวเราะต่ำๆ ออกมาอย่างดูแคลน

ที่ผมทำให้คุณเข้าใจแบบนั้นก็เพราะคิดว่าคุณคือเธอ และไม่คิดว่าจะมีใครหน้าไหน มัน บ้าพอ ที่จะปลอมตัวเป็นญาติสนิทของตัวเอง แค่เพราะอยากแย่งผู้ชายคนหนึ่งไปเป็นของตัวเอง มิหนำซ้ำยังกล้าปล่อยตัวเองจนท้องอย่างที่คุณทำ

ชายหนุ่มตอบห้วนๆ ไม่คิดรักษาน้ำใจคนฟังแม้แต่คำเดียว พอพูดจบเลยเห็นอีกฝ่ายจ้องมองกลับมาด้วยสายตาถมึงทึง

ฉันก็ไม่ได้อยากจะท้องกับคุณนักหรอก ทั้งหมดนั่นมันก็แค่อุบัติเหตุ อีกอย่าง คุณเป็นถึงหมอสูติฯ ทำไมไม่รู้จักคุมกำเนิด มาโทษฉันได้ยังไง

ตอนนั้นผมยังไม่ได้เรียนสูติฯ เป็นแค่นักศึกษาแพทย์เท่านั้น

จะเรียนหรือไม่เรียนก็ไม่ต่างกันหรอก คุณเป็นหมอ ต้องรู้เรื่องพวกนี้ดีกว่าเด็กไม่ประสาอย่างฉันอยู่แล้ว

เท่าที่จำได้ คุณก็ใช่ว่าจะไม่ประสานักหรอกเขาย้อนตอบ ขณะที่ดวงตาวาววับด้วยความโกรธ

ใบหน้าของคู่สนทนาแดงยิ่งกว่าเก่า แต่ไม่วายถลึงตาใส่ด้วยความขัดเคือง

คุณมันไม่เป็นสุภาพบุรุษ

ผมก็ไม่เคยคิดจะเป็นสุภาพบุรุษชายหนุ่มย้อนไม่ไว้หน้าแล้วมองอีกฝ่ายอย่างรำคาญระคนหงุดหงิด และไม่คิดรักษามรรยาท ถ้าคุณแค่อยากจะถามผมเรื่องคุณเดย์ก็ได้คำตอบไปหมดแล้ว” 

เดี๋ยว!ในที่สุดคู่สนทนาก็ยอมเปิดปาก และมองมาด้วยสายตาที่อ่อนลงกว่าเดิม ฉันอยากถามเรื่อง...ลูกด้วย

ถามไปทำไมเขาเอ่ยอย่างมะนาวไม่มีน้ำ

ยังไงฉันก็เป็นแม่ ถามถึงลูกไม่ได้หรือ

ได้ แต่คุณถามช้าไปสิบกว่าปี มาถึงตอนนี้ก็ไม่จำเป็นแล้ว

ไม่มีคำว่าสายเกินไปสำหรับคนที่รู้สำนึก ฉันอยากได้โอกาส ขอแค่คุณให้อภัย

คู่สนทนาตอบเร็วปรื๋อ เหมือนนกแก้วนกขุนทองที่ท่องจำบทมา ทำให้เขาอุทานออกมาอย่างไม่เชื่อหู

โอ้โห!...ชายหนุ่มมองคนตรงหน้าด้วยสายตาทึ่งจัดอย่างแท้จริง คุณไปเข้าคอร์สอบรมจิตวิทยา หรือพัฒนาทักษะการพูดที่ไหนมา รู้ไหมว่า...ถ้าผมโง่กว่านี้อีกนิด ใจอ่อนกว่านี้อีกหน่อย ผมจะเชื่อคุณแล้วนะ

มาร์ค!

เวียนนาร้องกรี๊ดออกมาอย่างลืมตัว และทำท่าเหมือนจะพุ่งเข้ามาบีบคอเขา แต่เขมวันต์จ้องตาอีกฝ่ายเขม็ง พร้อมส่ายหน้าเป็นเชิงปรามช้าๆ

ไม่เอาน่ะ คุณอย่ามาทะเลาะกับผมที่นี่เลย คุณเป็นคนมีชื่อเสียง เป็นญาติกับเจ้าสาว เป็นอัศวฤทธา บอกเลยนะว่ายังไงคุณก็เสียทั้งขึ้นทั้งล่อง ส่วนผมน่ะ ไม่มีอะไรจะเสียแน่ๆ เพราะไม่มีใครรู้จักผมที่นี่

ก็ไม่แน่หรอกเธอเค้นเสียงตอบ ขณะที่เขายิ้มหยัน

แน่สิ ก็ขนาดชื่อผม คุณยังเรียกผิดอยู่เลย

ตอนนี้เขาเปลี่ยนจากนักศึกษาแพทย์มาเป็นนายแพทย์หนุ่มเต็มตัว ทั้งยังเลิกเล่นดนตรีตามผับ บาร์ไปนานโข แต่ดูเหมือนเวียนนายังคงฝังใจกับชื่อ ซึ่งแผลงมาจากนามสกุลของเขาไม่เปลี่ยน

จะบอกว่าเธอไม่เคยรู้จักตัวตนของเขาเลยสักนิดก็ไม่ผิดนักหรอก

ก็ฉันรู้จักคุณในชื่อนั้น ไม่ให้เรียกมาร์ค แล้วจะให้เรียกว่าอะไร

เข้ม...ผมชื่อเข้ม เขมวันต์

โอเค...คุณเข้ม...ในที่สุดเธอก็ยอมแพ้ และมองมาคล้ายจะอ้อนวอนอีกครั้ง ฉันรู้ว่าฉันทำไม่ถูกกับพวกคุณพ่อลูก แต่ยังไงฉันก็เป็นแม่ของแก คุณไม่คิดจะให้ฉันได้มีโอกาสเจอลูกบ้างหรือ

ไม่

คุณจะกีดกันฉันกับลูกแบบนี้ไม่ได้นะ

ทำไมจะไม่ได้ ในเมื่อคุณไม่เคยได้ชื่อว่าเป็นแม่ของหนูนิด ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือสังคม แกเป็นลูกของผมคนเดียว

ถ้าคุณไม่ได้ความจำเสื่อม ก็น่าจะจำได้ว่า ฉันเคยพยายามแสดงความรับผิดชอบในตัวลูกแล้วเมื่อปีก่อน

ด้วยการจ้างแก๊งรถตู้มาลักพาตัวแกไปน่ะหรือ

ชายหนุ่มถามเสียงเยาะ ทำให้คนถูกถามมองมาด้วยสายตาเจ็บปวดเหมือนถูกจี้แผลลึกตรงกลางใจ แต่เขมวันต์กลับไม่มีแม้แต่ความสงสารให้

เวียนนาไม่ควรริเริ่มเรื่องนี้ก่อน ทั้งๆ ที่เขาเคยตกลงกับเธอไปแล้ว

เธอไม่มีสิทธิ์กลับมายุ่มย่ามกับลูกสาวของเขาอีกแล้ว

และเขมวันต์ก็ตั้งใจเต็มที่ เพื่อปกป้องหัวใจอันละเอียดอ่อนและบอบบางของเด็กหญิง เพราะไม่ต้องการให้คนที่ได้ชื่อว่าแม่บังเกิดเกล้าของแกทำร้าย จึงไม่ลังเลเลยที่จะเสริมต่อไปด้วยน้ำเสียงเฉียบขาด

ถ้าเป็นเรื่องนั้นละก็ ผมจำได้ และหนูนิดก็จำได้เหมือนกัน ดังนั้น ก่อนจะมาเรียกร้องขอความเห็นใจจากผม คุณควรจะไปถามลูกก่อนว่าลูกอยากให้คุณเป็นแม่แกไหม

ฉันถามแน่ฝ่ายนั้นตอบกลับเสียงเข้มอย่างไม่ยอมแพ้ แล้วถ้าลูกยอมรับฉัน คุณก็ควรเลิกคลั่งยายเดย์เสียที

ความรู้สึกที่ผมมีต่อคุณเดย์เกี่ยวกับเรื่องนี้ยังไงไม่ทราบ

เพราะยายเดย์เป็นญาติสนิทของฉัน เป็นเหมือนน้องสาวแท้ๆ ของฉัน

คำพูดนั้นหนักแน่นเสียจนเขาอดหัวเราะออกมาไม่ได้

เสียงหัวเราะที่มีแต่กระแสเหยียดหยามเจืออยู่ หาใช่ความขบขันอย่างที่ควรเป็น

ขนาดเห็นว่าคุณเดย์เป็นน้องสาวแท้ๆ คุณยังกล้าสวมรอยเป็นเธอจนผมเข้าใจผิด และทำให้ผมเชื่อว่าเธอเป็นแม่ของหนูนิด ทั้งที่เธอไม่รู้เรื่องรู้ราวด้วยเลย ถามจริงๆ คุณทำลงไปได้ยังไง ไม่รู้สึกสงสารคุณเดย์บ้างหรือ

คุณ...คุณจะมาโทษว่าเป็นความผิดของฉันฝ่ายเดียวได้ยังไงกัน ตอนนั้นถ้าคุณไม่หน้ามืดตามัวไปกับเดหลี และมีความยับยั้งชั่งใจเสียบ้าง ฉันก็คงไม่ท้องเด็กนั่น

เขมวันต์เม้มปากจนเป็นเส้นตรง และมองคนตรงหน้าด้วยสายตาลุกวาวเพราะความโกรธ

เธอจะด่าว่าเขาขาดสติ ไม่มีความยั้งคิด หรืองี่เง่าอย่างไรก็ได้ แต่...

อย่าเรียกหนูนิดว่า เด็กนั่น!เขาเอ่ยเสียงกระด้าง พร้อมชะโงกหน้าเข้าไปหาเวียนนาด้วยทีท่าคุกคามอย่างเปิดเผย กล้ามเนื้อทุกส่วนเขม็งตึงเตรียมพร้อมฟาดฟันกับอีกฝ่ายเต็มที่

คนถูกขู่เบิกตากว้างด้วยความตกใจ น้ำเสียงแข็งกร้าวเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นตะกุกตะกักในทันที คุณจะทำอะไรฉัน

ยังไม่ได้คิด แต่รับรองว่าคุณไม่มีวันชอบแน่ๆ และจะต้องเสียใจที่ไม่เชื่อผมวันนี้

อันธพาล! คุณเป็นหมอนะ มาข่มขู่คนแบบนี้ได้ยังไงเวียนนาร้องเสียงหลง ขณะที่เขมวันต์แสยะยิ้มโหดร้าย

หมอก็คน เจอคนดีก็ดีด้วย เจอคนชั่วก็ร้ายตอบเขาตอบเสียงเข้ม เพราะไม่เห็นประโยชน์ที่จะพูดกับคนที่ไม่เข้าใจกัน และไม่เคยพูดภาษาเดียวกันตั้งแต่ต้น ก่อนจะเน้นย้ำกับอีกฝ่าย แล้วจำไว้ด้วยว่า ถ้าคุณไม่เลิกเข้ามายุ่มย่ามในชีวิตผมกับลูกหรือคุณเดย์ คุณเจอดีแน่

ถึงฉันไม่ยุ่ง คนอื่นก็ต้องเข้ามายุ่งอยู่แล้ว ถามจริงๆ คุณไม่ละอายใจบ้างหรือที่คิดทำตัวเป็นพระยาเทครัว เป็นผัวพี่ แล้วเป็นกิ๊กน้อง

ดูเหมือนเวียนนาจะตั้งหลักได้ในที่สุด เพราะเธอย้อนมาอย่างเจ็บแสบ ทำให้เขารู้สึกเหมือนถูกตีแสกหน้าจนต้องยืนนิ่งขึงอยู่ชั่วขณะ

เขมวันต์ไม่เคยคิดเรื่องนี้มาก่อน เพราะไม่ใส่ใจในตัวเวียนนาอีกแล้ว

เธอไม่เคยได้ชื่อว่าเมีย หรือแม่ของลูก เป็นแค่คนที่คบหากันผ่านๆ บนเส้นทางแห่งความคะนองเท่านั้น และทั้งหมดก็เป็นเพราะความเข้าใจผิด

ถ้าเขารู้ตั้งแต่ตอนนั้นว่าอีกฝ่ายไม่ใช่เดหลี เรื่องบ้าๆ พวกนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น

และยิ่งมาทบทวนดู เขาไม่เคยรู้สึกอะไรกับเธอเลย นอกจากความเบื่อหน่ายอิดหนาระอาใจ  

ทุกครั้งที่เจอกันก็เหมือนประสาทสัมผัสหยุดทำงานไปดื้อๆ เวียนนาคือฝุ่นธุลีที่บังเอิญผ่านเข้ามาในชีวิตเขาอย่างแท้จริง

ชายหนุ่มจ้องตาอีกฝ่ายนิ่งลึกและเอ่ยอย่างชัดถ้อยชัดคำในนาทีต่อมา

ไม่ ผมไม่เคยเป็นผัวคุณ และคุณก็ไม่ได้เป็นเมียผม ส่วนคุณเดย์ก็ไม่ใช่กิ๊ก แต่ผมจริงจังกับเธอ จริงจังมาตลอดตั้งแต่เมื่อสิบกว่าปีก่อน จนถึงตอนนี้ ผมคิดถึงคุณเดย์คนเดียวเท่านั้น ไม่ใช่คุณ...เวียนนาเขาตั้งใจเน้นที่ชื่อเธอเป็นพิเศษ ทำให้หญิงสาวโกรธจนตัวสั่น

แล้วคุณรู้ไหมว่าถ้าเรื่องนี้หลุดออกไปถึงหูคนข้างนอกจะเป็นยังไง ยายเดย์จะต้องตกเป็นข่าว อายคนเขาไปทั้งบ้านทั้งเมือง

งั้นก็เอาสิ ถ้าคุณคิดจะให้ข่าวมั่วๆ พวกนี้กับนักข่าวก็เอาเลย ผมก็จะได้เล่าให้พวกเขาฟังเหมือนกันว่าคุณเคยทำอะไรไว้บ้าง เคยแอบอ้างชื่อคุณเดย์เอาไปทำเสียหายยังไง ส่วนเรื่องหนูนิด ผมบอกไว้เลยนะว่าถ้าคุณยังอยากให้ลูกมีความนับถือในฐานะแม่ละก็ ห้ามยุ่งกับแกเด็ดขาด เพราะข้อดีอย่างเดียวของคุณที่ผมนึกออก คือการที่คุณตัดสินใจทิ้งแกไป ไม่อย่างนั้นผมคงเสียใจไปจนตายที่ปล่อยให้คุณเลี้ยงลูกของผม

คุณ!เวียนนาตัวสั่นเทิ้มด้วยความโกรธ ใบหน้าซีดเผือดเหมือนคนใกล้จะเป็นลมเมื่อได้ยินเช่นนั้น

เขมวันต์ไม่สนใจ เขาไม่ใช่คนใจดี และไม่ได้เป็นสุภาพบุรุษทุกกระเบียดนิ้ว ซ้ำยังถือคติว่า ใครดีก็ดีด้วย ใครร้ายก็ต้องตอบแทน

เพราะเหตุนี้พอพูดจบ เขมวันต์ก็ก้าวออกจากร้านอาหารกึ่งผับแห่งนี้อย่างไม่รั้งรอ

ชายหนุ่มพบว่าที่หน้าร้านมีร่างสูงระหงของเดหลียืนอยู่ เธอพลิกดูเมนูอาหารที่วางไว้ด้านหน้าไปเรื่อยๆ เหมือนกำลังฆ่าเวลา พอได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาดังขึ้น หญิงสาวก็คลี่ยิ้มบางๆ ส่งให้

รอยยิ้มที่ทำให้หัวใจเขาอบอุ่น

แต่...คำพูดที่หลุดจากขอบปากสีสด กลับทำให้หัวใจชายหนุ่มหล่นวูบ

ทำไมเสร็จธุระเร็วจังเลยคะ ฉันกำลังคิดว่าจะสั่งเครื่องดื่มสักแก้ว แล้วเข้าไปนั่งร่วมวงกับพวกคุณอยู่เชียว

สั่งมาดื่ม หรือมาสาดหน้าผมกับเวียนนา

เขาถาม พร้อมแอบตั้งความหวังว่าเธอจะตอบประการหลัง ทว่าหญิงสาวกลับมองมาด้วยสายตาตำหนิติเตียน

ฉันจะเอาเหล้าแก้วตั้งเกือบสามร้อยไปสาดหน้าคนทำไมคะ สู้สาดลงท้องไม่ดีกว่าหรือ ไม่เปลืองด้วย

เงินสามร้อย สำหรับคนอย่าง เดหลี อัศวฤทธา มีความหมายด้วยหรือ

แหม...ถึงฉันจะเป็นลูกเศรษฐี แต่ก็เห็นค่าของเงินนะคะ

เธอตอบเสียงสดใส แต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกแปลกๆ ระหว่างผิดหวังกับหงุดหงิด

ถ้าเธอแสดงอาการหึงหวงออกมาให้เห็นสักนิด เขมวันต์คงรู้สึกดีกว่านี้...

 

ความที่มัวแต่สนใจความรู้สึกของคนข้างๆ ทำให้ชายหนุ่มไม่ได้คิดจะเหลียวไปมองคนที่เดินจากมา เขาจึงไม่ทันเห็นสีหน้าที่ฉายชัดถึงความไม่สบายใจของเวียนนา และอากัปกิริยาสะดุ้งโหยงที่เกิดจากเสียงกริ่งเรียกเข้าโทรศัพท์มือถือของเธอซึ่งดังขึ้นในนาทีต่อมา

หญิงสาวลังเลอยู่อึดใจหนึ่งก่อนจะรับสายนั้น

เธอจะบอกคนที่โทร. มาอย่างไรดีว่าภารกิจครั้งนี้ล้มเหลวเสียแล้ว เพราะนอกจากเวียนนาจะหาทางกลับไปเป็นครอบครัวเดียวกับเขมวันต์และบุตรสาววัยรุ่นไม่ได้แล้ว ยังพบว่าเขายังคงปักใจอยู่กับเดหลีอย่างเหนียวแน่นไม่เปลี่ยนแปลง

สิบกว่าปีก่อนเขมวันต์เคยคลั่งไคล้เดหลีอย่างไร ตอนนี้เขาก็เป็นแบบนั้น หรืออาจจะเป็นยิ่งกว่า

ขณะที่เดหลีเองก็ไม่ใช่คนที่ใครจะต่อกรด้วยได้ง่ายๆ

ที่สำคัญ ญาติสาวของเธอคนนี้ไม่เคยแสดงความสนใจในตัวชายหนุ่มคนไหนมากเท่ากับที่แสดงออกกับเขมวันต์

เวียนนาพูดได้แค่ว่า...ศึกครั้งนี้ช่างใหญ่หลวงนัก!

 

งานแต่งงานของคนอัศวฤทธานั้น เรียกได้ว่าเป็นแหล่งรวมบุคคลที่มีชื่อเสียงในสังคมทุกด้านไว้อย่างพร้อมพรัก เพราะลำพังลูกหลานของตระกูลก็แตกหน่อแตกกอออกไปหลายสาย ดังนั้นพอก้าวเข้าไปในงาน เขมวันต์กับเดหลีและวนิษาก็ต้องใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมง กว่าจะแหวกวงล้อมของญาติมิตรเข้าไปทำความเคารพบิดามารดาของเดหลีได้ จากนั้นหญิงสาวก็พาเขากับลูกไปพบกับคุณตาแท้ๆ ของเด็กหญิง กับลุงป้า และน้าๆ ที่เป็นพี่น้องของเวียนนา เพื่อให้วนิษาได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับครอบครัวทางฝ่ายแม่ ก่อนที่จะปลีกตัวจากไปอย่างมีมรรยาท

เขมวันต์ยืนเป็นกำลังใจให้ลูกสาว จนเห็นว่าเด็กหญิงเริ่มหายเครียดและเพลิดเพลินกับการตอบคำถามของผู้เป็นตา เขาจึงเดินเลี่ยงออกมาบ้าง

ยอมรับว่าอึดอัดกับบรรยากาศรอบตัวพิกล

ให้ตายเถอะ! เขาไม่มีวันชินกับงานเลี้ยงที่ต้องสวมหน้ากากเข้าหากัน แล้วปั้นคำหวานเยินยอไม่จบไม่สิ้นแบบนี้

นายแพทย์หนุ่มบอกตัวเองพร้อมถอนหายใจยาว แล้วสอดส่ายสายตามองหาเดหลีไปพลางๆ

เธอยืนอยู่ข้างนักการเมืองหนุ่มอนาคตไกลที่คุ้นหน้าคุ้นตาไม่น้อย ในขณะที่ฝ่ายชายกำลังคุยอย่างออกรส หญิงสาวกลับปกปิดรอยเอือมระอาในดวงตาไม่มิด เขาจึงชูแก้วเครื่องดื่มในมือขึ้นเป็นเชิงล้อเลียน จึงได้เห็นประกายเจิดจ้าในดวงตาหงส์คู่งามแวบหนึ่ง ก่อนเปลี่ยนเป็นวิงวอนขอร้อง คล้ายอยากให้เขาเข้าไปช่วยลากเธอออกจากการสนทนาที่แสนจะน่าเบื่อ

เขมวันต์ยินดีทำตามที่เดหลีขอร้อง หากไม่มีร่างเล็กอวบอิ่มในชุดราตรีสีส้มอมชมพูเหมือนกลีบดอกไม้ของใครบางคนก้าวเข้ามาขวางทางไว้ ทั้งยังร้องเรียกชื่อเขาอย่างดีใจเสียอีก

พี่เข้ม...นี่ผิงตาไม่ฝาดใช่ไหมคะ พี่เข้มจริงๆ ด้วย

ไม่ใช่แต่คนทักที่แปลกใจ เขาเองก็แปลกใจเช่นกัน เพราะแม้ในงานเลี้ยงฉลองมงคลสมรสค่ำคืนนี้ จะมีทั้งนักธุรกิจระดับพันล้าน นักการเมืองที่คุ้นหน้าคุ้นตาบนหน้าหนังสือพิมพ์ นายตำรวจ ทหารระดับสูง และดารา นักร้องที่มีชื่อเสียง แต่ก็นึกไม่ถึงว่าจะมีบุคคลในวงการแพทย์มาร่วมด้วย

โดยเฉพาะหญิงสาวร่างเล็กอวบ หน้าตาสะสวยอ่อนหวานที่คลี่ยิ้มหวานส่งให้เขาอย่าง แพทย์หญิง เพียงขวัญ หรือหมอขนมผิง คนนี้

ผิงมาได้ยังไง

ผิงเป็นหมอผิวหนังประจำตัวคุณซิดนีย์ค่ะ ก่อนแต่งงานเธอไปเข้าคอร์สรักษาผิวหน้าที่คลินิก เธอเลยชวนผิงมางานแต่งงานด้วย แล้วพี่เข้มล่ะคะหญิงสาวเอ่ยถาม พร้อมเอียงหน้ามองด้วยความสนใจ

พี่มากับหนูนิด

ชายหนุ่มตอบเลี่ยงไปในรูปนั้น ยังไม่พร้อมจะเปิดเผยเรื่องความเกี่ยวข้องของตนเองกับคนอัศวฤทธาออกไป ไม่อยากได้ชื่อว่าโหนกระแสคนรวย หรือโดนเข้าใจผิดว่าอยากฉกฉวยโอกาสจากการได้ชื่อว่าเป็นญาติกับตระกูลมหาเศรษฐี นอกจากนี้ ยังไม่คิดว่าทางนั้นจะอยากนับญาติกับหมอจนๆ อย่างเขาด้วย

ด้านเพียงขวัญเองก็ดูเหมือนจะไม่ติดใจกับคำตอบกำกวมของเขา เพราะหญิงสาวถามต่อว่า

แล้วนี่หนูนิดอยู่ไหนคะ” 

ชายหนุ่มเหลียวมองหาบุตรสาวอีกครั้ง แต่เขากลับเห็นเดหลีแทน พร้อมกับพบว่าดวงตาหงส์ของนักธุรกิจสาวคล้ายมีเปลวเพลิงลุกโชนอยู่ เขมวันต์จึงเลิกคิ้วขึ้นนิดหนึ่งอย่างแปลกใจ

เธอกำลังหึงเขากับเพียงขวัญ แต่กลับเห็นเวียนนาเป็นอากาศธาตุอย่างนั้นหรือ

ชายหนุ่มทำหน้านิ่วอย่างไม่อยากเชื่อ และเห็นนักธุรกิจสาวกะพริบตานิดหนึ่ง คล้ายไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ไฟในดวงตาของเธอหายไปแล้ว เหลือเพียงสายตาที่พราวระยับสะท้อนกับโคมไฟคริสตัลช่อใหญ่ที่แขวนอยู่เหนือศีรษะแทน

แสงสะท้อนจากคริสตัลคงทำให้เขาเข้าใจผิด เขมวันต์คิดพร้อมกับหันมาสบตากับเพียงขวัญอีกครั้ง

ผิงอยากเจอหลาน ไม่เห็นกันตั้งนานแล้วหญิงสาวบอก

บางทีผิงอาจจะเห็นหลานแล้วก็ได้ แต่ไม่รู้ว่าเป็นแก ช่วงสองสามปีนี้ หนูนิดโตขึ้นจนผิดหูผิดตา

ลูกสาวเป็นสาวแล้ว ดูท่าคงสวยด้วย พี่เข้มต้องไว้หนวดแล้วละหญิงสาวกระเซ้า ทำให้เขาอดยิ้มให้ไม่ได้

แต่นาทีนั้นชายหนุ่มกลับรู้สึกถึงขนอ่อนๆ ตรงบริเวณต้นคอที่จู่ๆ ก็ลุกชันขึ้นเหมือนมีใครบางคนกำลังจ้องมาด้วยความเกรี้ยวกราด พอเหลียวมองหาก็เห็นเดหลียืนหันหน้ามา แต่ไม่ได้มองมาที่เขา กลับก้มหน้าง่วนอยู่กับเครื่องดื่มในมือแทน

ผิงพูดอะไรผิดไปหรือเปล่าคะ

ไม่ ผิงไม่ได้ผิด แต่พี่อาจเข้าใจอะไรผิดเขาตอบพึมพำ

พี่เข้มเข้าใจอะไรผิดคะแพทย์หญิงสาวสวยขมวดคิ้ว

ช่างเถอะชายหนุ่มตัดบท

ความที่ไม่ใช่คนช่างพูด ถามคำ บางทีตอบแค่ครึ่งคำด้วยซ้ำ คนถามเองก็รู้จักเขามานาน ทั้งยังเกี่ยวโยงกันหลายชั้น ทั้งพี่ชายของเธอที่เป็นเพื่อนเรียนร่วมรุ่นกับเขา และการที่เขากับเธอเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องร่วมสถาบันกันมา จากนั้นพอเรียนจบ เพียงขวัญก็กลับมาทำงานใช้ทุนให้แก่โรงพยาบาลใหญ่ประจำอำเภอบ้านเกิดของพวกเขา ทั้งคู่เลยมีโอกาสได้เจอกันบ่อยกว่าปกติ 

เขมวันต์ยอมรับว่าสนิทสนมกับรุ่นน้องสาวสวยคนนี้ค่อนข้างมาก

เพียงขวัญเองก็เป็นคนร่าเริงแจ่มใส รู้จักคนไม่น้อย ทั้งรุ่นตัวเอง รุ่นน้อง รุ่นพี่ กล่าวได้ว่าเธอเหมือนเฟซบุ๊กเคลื่อนที่ที่คอยอัปเดตข่าวคราวของคนรู้จักในแวดวงเดียวกันให้เขมวันต์ฟังได้อย่างสนุกสนาน เพราะช่วงหลังๆ มานี้ชายหนุ่มแทบไม่ได้พบปะสังสรรค์กับเพื่อนฝูงเท่าไรนัก ด้วยงานที่ทำนั้นเรียกได้ว่าหนักหนาสาหัส ขณะที่หน้าที่ความเป็นพ่อก็ดึงเวลาว่างของเขาไปเกือบหมด ยิ่งช่วงนี้คู่หูที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่ชั้นประถมจนถึงมหาวิทยาลัยเดินทางไปศึกษาต่อที่ต่างประเทศ จึงทำให้เขาห่างเหินจากเพื่อนๆ ไปโดยปริยาย

ทั้งคู่สนทนากันอย่างออกรสได้ไม่เกินห้านาที อาการขนลุกเหมือนถูกจ้องมองก็เกิดขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ไม่ใช่ที่หลังคออย่างเดียวแล้ว แต่ลามมาที่ท่อนแขนด้วย

ชายหนุ่มไม่อาจยืนคุยกับเพียงขวัญต่อไปได้ เขาพึมพำขอตัวจากอีกฝ่ายแล้วหันไปมองหาเดหลี เชื่อว่าเธอคือคนที่สร้างความรู้สึกนี้ให้ แต่จู่ๆ ก็พบว่านายเด็กฝึกงานนั่นเดินตัดหน้าเข้าไปหาคนรักของเขา พร้อมเอ่ยอะไรบางอย่างกับเธอเสียก่อน

ไม่รู้ว่าหมอนั่นพูดเบาจนเกินไป หรือเสียงในห้องนี้ดังเกินไปกันแน่ เขาเลยไม่ได้ยินประโยคพวกนั้นแม้แต่คำเดียว จะเห็นก็แต่รอยยิ้มของผู้ชนะจางๆ บนใบหน้าขาวราวหยกสลักของคันฉัตร ตอนที่ฝ่ายนั้นแตะข้อศอกเดหลีแล้วพาเธอเดินจากไปต่อหน้าต่อตา

ไอ้ลูกหมา...มันหยามเขาชัดๆ!

ชายหนุ่มกัดฟันกรอดด้วยความโมโห ขบฟันแรงกว่าเดิม เมื่อมือขาวสะอาดของฝ่ายชายแตะอยู่ที่เอวของหญิงสาวเพื่อรุนหลังให้ฝ่ายนั้นเดินไปด้วยกัน เขาตั้งใจจะไปคว้าต้นแขนเรียวของเธอมาให้ได้ แต่ยังไม่ทันได้ยื่นมือไป ใครบางคนเซถลาเข้าไปแทรกกลางระหว่างคนทั้งสองเสียแล้ว

 

ว้าย!

อุ๊ย!

เสียงอุทานประสานกันที่ดังขึ้น ทำให้แขกเหรื่อเริ่มหันมามอง

ตัวต้นเหตุเลยยิ้มแหย ก่อนจะพึมพำคำขอโทษออกมา ความอ่อนเยาว์ของเด็กหญิงกับรอยยิ้มสดใสบนใบหน้า ทำให้ไม่มีใครติดใจสงสัยจ้องมองต่อ

จะมีก็แต่เดหลีเท่านั้นที่อยู่ใกล้จนเห็นแววขี้โกงในดวงตาเด็กหญิง ตอนฝ่ายนั้นเหลือบมามองพร้อมออกแรงดัน หรือจริงๆ ควรบอกว่าผลักเพื่อให้ร่างระหงของเธอโอนเอียงไปทางเขมวันต์ ส่วนตัวเองก็ก้าวไปยืนข้างคันฉัตรเสียเอง ทั้งยังบอกเสียงแจ่มใส

เห็นว่าพ่อมีเรื่องจะคุยกับพี่เดย์ใช่ไหมคะ พี่เดย์อยู่นี่แล้วไงคะพูดจบเด็กหญิงก็หันไปจับแขนคันฉัตรอย่างสนิทสนมพร้อมกับเขย่าแรงๆ พี่ฉัตรคะ หนูนิดหิวแล้ว ไปหาอะไรกินกันเถอะค่ะ

พูดจบวนิษาก็ไม่รอฟังคำตอบจากชายหนุ่มรุ่นพี่ เธอลากแขนเขาให้เดินไปด้วยจนสำเร็จ เขมวันต์เลยได้แต่มองตามอย่างอ่อนใจระคนไม่ชอบใจนัก

เดหลีที่จับตามองอยู่เลยเอ่ยออกมาเสียงเรียบกึ่งเย็นชาจนรู้สึกได้

ฉันคิดว่าคืนนี้คุณจะไม่ว่างคุยกับฉันเสียอีก

คุณหึงหรือ” 

คำถามตรงๆ ไม่อ้อมค้อมของชายหนุ่มทำให้ดวงหน้าของคนถูกถามร้อนผ่าวขึ้นเล็กน้อยเมื่อถูกจับได้ หญิงสาวนึกขอบคุณเครื่องสำอางที่ฉาบฉายอยู่ในใจ เพราะไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายคงเห็นว่าใบหน้าของเธอกำลังแดงก่ำด้วยความเขินอายระคนขัดใจ

แต่ความที่สวมหน้ากากออกงานสังคมมานักต่อนัก ทำให้หญิงสาวสามารถบังคับน้ำเสียงให้นิ่งได้ในที่สุด พร้อมกับทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ตอนยิ้มใส่ตาคมคู่นั้น

ทำไมฉันต้องหึงคุณด้วย

เพราะคุณอาจจะกำลังหึงผมกับผิงเขาตอบพร้อมมองมาอย่างใคร่รู้

เดหลีเชิดหน้าขึ้น เหลวไหล ฉันจะไปหึงคุณกับผู้หญิงคนนั้นทำไม

งั้นก็ดีแล้ว เพราะผิงเป็นรุ่นน้องผม

รุ่นน้อง?”

ใช่ เธอเป็นหมอเหมือนผมเขาตอบเรียบๆ ขณะที่เธอยิ่งฟังก็ยิ่งขัดใจ

ขนมผิง!...

ชื่อก็น่ากิน หน้าตาก็น่ารัก มิหนำซ้ำยังเป็นหมอและเป็นรุ่นน้อง

แต่ที่แย่ที่สุดก็คือ...หมอคนนั้นอายุน้อยกว่าเธอแน่ๆ!

คืนนี้จะมีอะไรแย่ไปกว่านี้ไหมนะ

ทั้งเห็นเขาอยู่กับเมียเก่า แล้วยังมียายหมอชื่อน่ากินนี่โผล่มาจากไหนก็ไม่รู้ ซ้ำเธอยังถูกผูกติดกับคันฉัตรอย่างหาทางเลี่ยงไม่ได้

เรื่องหมอขนมผิง ขนมเปี๊ยะอะไรนั่น เธอพอจะเข้าใจอยู่หรอกว่าเป็นเหตุบังเอิญ แต่การที่เวียนนาโผล่มางานในคืนนี้ ทั้งๆ ที่ระยะหลังมานี้ค่อนข้างจะเก็บเนื้อเก็บตัว ไม่ออกมาพบปะญาติพี่น้องสักเท่าไร และการที่คันฉัตรเดินเข้ามาในชีวิตกะทันหันช่วงบ่ายนี้

จะต้องเป็นการจัดฉากแน่ๆ...มิหนำซ้ำยังเป็นฝีมือของคนที่เธอไม่อาจโต้แย้งได้เสียด้วย

ศกุนตลา!

ความคิดนี้ทำให้เดหลีโมโหจนสาดเครื่องดื่มที่อยู่ในมือลงคอไปรวดเดียวหมดแก้ว แต่ยังไม่ทันได้คว้าแก้วต่อไป มือคล้ำใหญ่ของคนตรงหน้าก็เอื้อมมาจับข้อมือเธอไว้แน่น

คุณเป็นญาติผู้ใหญ่ของฝ่ายหญิงไม่ใช่หรือ ดื่มแค่เป็นพิธีก็พอ เมาขึ้นมาจะน่าเกลียด

หญิงสาวฟังแล้วเจ็บจี๊ดไปถึงขั้วปอด

ญาติผู้ใหญ่!

ฉันเป็น ญาติของเจ้าสาว แล้วทำไมจะเมาไม่ได้ฮึหญิงสาวเจตนาเน้นย้ำคำว่าญาติเท่านั้น

คิ้วหนาของอีกฝ่ายเลิกขึ้นเล็กน้อยคล้ายแปลกใจแกมขบขันกับท่าทางตีรวนของเธอ ทำให้เดหลียิ่งหงุดหงิดมากขึ้นไปกว่าเดิม

หรือต้องเป็นแขกของเจ้าสาวถึงเมาได้

หญิงสาวเจตนาแขวะแขกที่เขาเพิ่งคุยด้วยเมื่อครู่ เพราะเห็นว่าคุณหมอคนนั้นก็กำลังจิบแชมเปญสีทองที่มีฟองผุดพรายอยู่พอดี แต่เขมวันต์กลับไม่เข้าใจถึงความนัยที่เธอซ่อนไว้ ดวงตาของคนตรงหน้าทอประกายระยับด้วยความขบขันที่เพิ่มขึ้น แต่ใบหน้ายังเรียบเฉยเหมือนเดิม

คุณเมาแล้วจริงๆ หรือ

เดหลีอยากตอบว่าไม่เมา แต่พอเห็นร่างเล็กอวบอิ่มในชุดสีส้มอมชมพูบานพลิ้วจากหางตา ซึ่งกำลังเดินใกล้เข้ามา เธอจึงตัดสินใจเมาดิบในนาทีนั้น

ใครบอกฉันเมากัน...แค่ไวน์สองสามแก้วเอง

หญิงสาวโบกมือไปมา พร้อมตั้งใจทำให้ตัวเองโงนเงนตามไปด้วย เลยเห็นคนตรงหน้ามองมาด้วยสายตาขบขัน ก่อนรั้งให้เธอเอนซบลงไปบนบ่ากว้าง แล้วพาเดินออกไปเสียจากบริเวณห้องบอลรูมที่จัดงาน

อื้อ คุณจะพาฉันไปไหนเดหลีขัดขืนเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพราะบ่าของเขมวันต์ทั้งกว้างและอุ่นสบาย

ได้เอนหัวพิงไหล่เขาแบบนี้ ดีเหลือเกิน

ไปรับลมเย็นๆ คุณจะได้สดชื่นขึ้น เผื่อว่าจะหายเมาดิบสักที

เอ๊ะ!หญิงสาวผงกศีรษะขึ้นมองตาเขียว ทำให้คนพูดหัวเราะออกมาเบาๆ

เสียงห้าวทุ้มเหมือนระฆังใบโตที่ไม่ค่อยได้ยินบ่อยนักทำให้เดหลีเงียบ แล้วฟังอย่างตั้งใจเพื่อเก็บเสียงนี้ไว้ในความทรงจำ

แต่เขมวันต์ไม่ใช่คนที่ขยันหัวเราะหรือชอบโปรยยิ้ม ดังนั้นหัวเราะได้อึดใจหนึ่ง เขาก็เงียบไป ทว่ายังดีที่มือใหญ่ข้างนั้นไม่ยอมปล่อยจากเอวคอดที่โอบอยู่

เดหลีอิงซบอีกฝ่ายอยู่อย่างนั้น ขณะก้าวเดินตามเขาไปเงียบๆ เดาว่าชายหนุ่มคงจะพาออกไปที่ระเบียงด้านนอก พร้อมกับมั่นใจว่าจะต้องมีสายตานับร้อยคู่จ้องมองมา และหลังจากนี้ไป คงมีแต่คำถามให้ศกุนตลาต้องปวดเศียรเวียนเกล้า ว่าบุตรสาวคนโตของท่านไปสนิทสนมกับลูกเขยนอกกฎหมายของยูนานตั้งแต่เมื่อไร

แต่ในเมื่อแม่วางแผนเล่นงานเธอหนักถึงเพียงนี้ ถ้าไม่ตอบโต้กลับไปบ้างก็ไม่ใช่เดหลีคนนี้แล้ว

 

ภาพชายหนุ่มกับหญิงสาวที่โอบเอวกันเดินออกไปนอกห้องจัดงานเลี้ยง ทำให้วนิษายิ้มกริ่ม เพราะรอโอกาสนี้มานานแล้ว แต่ไม่รู้ว่าเขมวันต์หายไปอยู่ไหนมา พอเธอคุยกับคุณตายูนานจบ หันมาพ่อก็หายไปแล้ว มิหนำซ้ำยังมีคนพูดแว่วๆ มาให้เข้าหูอีกว่า เวียนนา หรือแม่ผู้ให้กำเนิดก็มางานนี้ด้วย

เด็กหญิงเลยตัดสินใจชิ่ง...หรือจะพูดอย่างสุภาพว่า ขอ-ปลีก-ตัว ออกมาก่อน

จริงอยู่...เธอรู้ว่าการมางานคืนนี้กับเดหลีมีโอกาสสูงที่จะได้เจอกับเวียนนา แต่ก็ไม่คิดว่าจะต้องเผชิญหน้ากับผู้ให้กำเนิดตามลำพัง โดยไม่มีเขมวันต์หรือเดหลีอยู่ด้วย

แต่อยู่อย่างนี้ก็ไม่รู้ว่าจะหนีไปซ่อนตัวที่ไหน

ระหว่างลังเลอยู่นั่นเอง ก็หันมาเห็นเดหลีกับคันฉัตรเข้าพอดี ในตอนแรกตั้งใจจะเข้าไปหาว่าที่แม่ใหม่เพื่อยึดเป็นที่พึ่ง แต่พอเห็นเขมวันต์ปรากฏตัวขึ้น เด็กหญิงเลยตัดสินใจกันท่าคันฉัตรออกไปจนพ้นทาง

เขาเองก็รู้ตัวและคงเกลียดหน้าเธอเป็นกำลัง เพราะหน้าหล่อเหลาบึ้งตึงจนดูเผินๆ แล้วเหมือนมีเขี้ยวงอกออกมาตรงมุมปาก เด็กหญิงเลยกลืนน้ำลายเอื๊อกใหญ่ ทำใจดีสู้เสือ ตั้งใจจะถอยไปจากฝ่ายนั้นอย่างเงียบๆ และคิดว่าท่ามกลางผู้คนมากมายในงาน ชายหนุ่มคงไม่กล้าทำอะไรเธอแน่ๆ แต่ในที่สุดวนิษาก็หยุดชะงักเสียกลางคัน เมื่อพบว่ามีใครคนหนึ่งกำลังมองมา

หนูนิด!ฝ่ายนั้นเรียกชื่อเธอคล้ายไม่แน่ใจ ทำให้วนิษาขมวดคิ้ว

ไม่คิดว่าเคยเจอผู้หญิงคนนี้มาก่อน และเมื่อพยายามนึกภาพเครือญาติที่เดหลีเอามาให้ดูเมื่อครู่ ก็จำไม่ได้ว่ามีภาพของผู้หญิงคนนี้ปรากฏอยู่ด้วย

เครื่องหมายคำถามอันโตจึงปรากฏบนใบหน้าเธอ

สาวใหญ่ตรงหน้าเลยรีบละล่ำละลักออกมา นี่แม่ไง หนูนิด

แม่!

เด็กหญิงใจหายวาบ ไม่คิดว่าเวียนนาจะกล้าเข้ามาหา เพราะครั้งที่มางานแต่งงานของอัครานั้น ถ้าเขมวันต์ไม่อยู่ดูแลเธอ ก็ยังมีกวยจั๊บคอยเป็นโล่คุ้มภัยให้เสมอ ด้านเวียนนาเองก็ไม่กล้าเดินเข้ามาหาแบบนี้ ด้วยยังมีชนักเล่มโตปักหลังอยู่

แต่เหมือนพอเวลาผ่านไป ฝ่ายนั้นก็ลืมวีรกรรมเก่าๆ ที่เคยทำไว้เสียแล้ว ซ้ำยังมีความกล้าและกระตือรือร้นในการทักทายเธอมากขึ้น

ทว่าวนิษาโตเกินกว่าจะโหยหาอ้อมอกคนเป็นแม่แล้ว โดยเฉพาะแม่ที่ทิ้งเธอไปตั้งแต่แรกเกิด ซ้ำยังทำท่าจะมาลักพาตัวเธอไปจากพ่อเมื่อไม่นานมานี้เสียอีก

เด็กหญิงเลยถอยกรูดไปหาคนรู้จักที่อยู่ใกล้ที่สุดคนเดียวในตอนนั้น ใบหน้าเครียดขึงของคันฉัตรมีรอยแปลกใจปรากฏอยู่ตอนเขาเค้นเสียงเย็นชาถามออกมา

คิดจะทำอะไรอีกยายตัวดี แม่เธอมาโน่นแล้วไม่ใช่หรือ ไปหาแม่เธอไป๊

เขาคงได้ยินที่เวียนนาเรียกเธออยู่เหมือนกัน จึงได้ตั้งหน้าตั้งตาผลักไสแบบนี้ เด็กหญิงเลยทำหน้าคว่ำใส่ แล้วกำท่อนแขนหนาหมับอย่างเจตนาไม่ยอมปล่อย ทั้งยังกึ่งลากกึ่งจูงเขาให้เดินไปด้วยกัน หวังใช้อีกฝ่ายเป็นเกราะกั้นระหว่างตนเองกับผู้ให้กำเนิด เพราะมั่นใจว่าเวียนนาคงไม่กล้าบุ่มบ่ามเข้ามาเมื่อมีบุคคลที่สามอยู่ด้วย ขณะเดียวกันก็ไม่ลืมที่จะเค้นเสียงกระซิบออกไป

ไม่ ไปก็โง่สิ อยู่ตรงนี้กับคุณนี่ละดีแล้ว จะได้คอยเป็นกระดูกขวางคอ ไม่ให้คุณไปขวางทางรักระหว่างพ่อกับพี่เดย์

เธอนี่พิลึกเด็ก พ่อเธอมีคุณเวียนนาเป็นเมียอยู่แล้ว ทำไมถึงคิดส่งคุณเดหลีใส่พานประเคนให้เขาอีกเสียงห้าวขัดขึ้นอย่างไม่เกรงใจ ทำให้เด็กหญิงถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างไม่เกรงกลัว

คุณไม่รู้เรื่องในบ้านหนูอย่ามาพูดดีเลย แล้วคุณล่ะ เห็นๆ อยู่ว่าพี่เดย์มีพ่ออยู่แล้ว ทำไมยังกล้าเอาตัวเองใส่พานประเคนให้พี่เดย์อีก คิดว่าพี่เดย์จะชอบหนุ่มละอ่อน หน้าตากรุบกริบ เหมือนโอปป้าเกาหลีอย่างคุณหรือไง แหวะ จะบอกให้นะ ว่าพี่เดย์น่ะชอบผู้ชายมาดเข้มอย่างพ่อเข้มของหนูที่สุดในโลก รับรองว่า พี่เดย์ไม่ชายตาดูคุณให้เสียสายตาหรอก

มาดเข้มหรือมาดกรรมกรกันแน่เขาย้อน

มาดกรรมกร ก็ดีกว่ามาดโอปป้าไก่อ่อนอย่างคุณ

เด็กหญิงตอกกลับอย่างไม่เกรงกลัว แม้คนตรงหน้าจะมองมาด้วยสายตาเกรี้ยวกราด

วนิษาโตมาในบ้านที่มีผู้ชายหน้าโหดอย่างเขมวันต์เป็นพ่อ และมีบรรดาพี่ๆ ลุงๆ อาๆ อย่างหนุ่มๆ ตระกูลเส้นบ้านมั่นโมลีของกวยจั๊บเป็นเพื่อนเล่น จึงมีภูมิคุ้มกันพวกผู้ชายมาดเข้มดีกว่าคนอื่นๆ

เด็กหญิงเลยไม่ใช่แค่ยืนจ้องสบตากับคันฉัตรอย่างไม่สะทกสะท้าน แต่เธอยังยักคิ้วให้เขาด้วย

ชายหนุ่มจึงกัดฟันกรอด เด็กบ้า ปล่อยแขนฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ

อย่าทำสะดิ้งไปหน่อยเลย รับรองหนูปล่อยแน่

คนถูกหาว่าสะดิ้งตัวสั่น เธอ!

อ๊ะ ใจเย็นๆ คุณน้า โกรธขนาดนี้เดี๋ยวก็เส้นเลือดในสมองแตกหรอก พ่อเข้มน่ะเป็นหมอสูติฯ นะ ไม่ใช่หมอศัลย์ ต่อให้ช่วยคุณได้ก็ไม่ใช่หมอเฉพาะทาง คุณอาจจะไม่รอด

เธอ!

นี่คุณลงอ่างบ่อยจนมีนิสัยติดอ่างหรือไง พูดเป็นอยู่แค่คำเดียว

วนิษาลอยหน้าถามแล้วปล่อยแขนอีกฝ่ายปุบปับ เพราะเห็นว่าเวียนนาไม่ได้ตามมาแล้ว เพราะฝ่ายนั้นต้องหยุดคุยกับแม่ของเดหลีที่เดินเข้ามาทักทายด้วย คันฉัตรจึงไม่ใช่ตัวเลือกของเธออีกต่อไป และคำถามที่แกล้งเอ่ยออกไปเมื่อครู่คงทำให้ชายหนุ่มเดือดดาลไม่น้อย เพราะเขาทำท่าจะย่างสามขุมเข้ามาหา

ยายเด็กแก่แดด เธอพูดอะไรของเธอฮึ เป็นเด็กเป็นเล็ก พูดจาแต่ละคำฟังแทบไม่ได้ แล้วเรื่องลงอ่างอะไรนี่ไปรู้มาจากไหน พ่อเธอทำบ่อยหรือไง

อย่ามาว่าพ่อหนูนะ หนูไม่ใช่กบในกะลานะคุณคันจัด จะได้ไม่รู้จักเรื่องพวกนี้

เด็กหญิงอยากเอาชนะจึงแข็งใจเถียง ทำปากเก่งไปอย่างนั้นเอง ทั้งๆ ที่รู้ว่ากำลังทำไม่ถูก แต่ขณะเดียวกันก็นึกขอบคุณบรรดาหนุ่มๆ ตระกูลเส้นไปด้วย ที่พวกเขาชอบสุมหัวกันคุยไม่ระวังปาก เพราะคิดว่าวนิษาเป็นเด็กไม่ประสา

หารู้ไม่ว่าเด็กไม่ประสานี่ละที่คอยเก็บเกี่ยวความทรงจำไว้ได้มากและแม่นยำกว่าผู้ใหญ่วัยเจริญพันธุ์เสียอีก โดยเฉพาะเรื่องรักๆ ลับๆ พวกนี้

เด็กบ้า ฉันบอกแล้วใช่ไหมว่าให้เรียกฉันว่าอะไรฝ่ายนั้นเอ่ยเสียงกร้าว ทำให้คนถูกขู่ถอยหลังกรูด

อ๊ะๆ อย่าทำอะไรหนูนะ เว้นแต่คุณอยากโดนหาว่ารังแกเด็กเธอรีบขู่

อีกฝ่ายจึงหยุดกึกเพราะรู้สึกตัวในนาทีนั้น เด็กหญิงรู้สึกเป็นต่อขึ้นจนอดไม่ได้ที่จะแกล้งกลับด้วยการร้องบอกออกไปเสียงดังอย่างต้องการประจาน

ก็ถ้าคุณไม่ลงอ่างบ่อยๆ ก็ไม่ต้องอายซี้ แบบนี้มีพิรุธรู้ไหมคุณ...พี่...คันจัด” 

พูดจบก็เห็นคันฉัตรหน้าแดงจัดและเส้นเลือดตรงขมับเต้นริกๆ เขาคงอยากบีบคอเธอเป็นกำลัง

ยืนอยู่ใกล้เขาก็โง่แล้ว!

โชคดีที่อัครากับเกี้ยมอี๋อุ้มลูกแฝดชายหญิงเดินควงคู่กันผ่านมาพอดี เด็กหญิงเลยได้โอกาสเผ่นพรวดจากไปหาหญิงสาวที่เธอนับถือเหมือนเป็นพี่สาวแท้ๆ และเคยอยากให้มาเป็นแม่ใหม่เมื่อนานมาแล้ว พร้อมกับร้องทักครอบครัวของฝ่ายนั้นเสียงใส

พี่อี๋ ทำไมเพิ่งมา รู้ไหมหนูนิดคิดถึงยายเส้นจันท์กับตาหนมจีนจะตายอยู่แล้ว

 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น