บทที่ 2
คืนส่งตัวเข้าห้องหอ
ไม่มีใครรู้ว่าพลอยชมพูมาสวมรอยเป็นเจ้าสาวจวบจนจบพิธีแต่งงาน บ่าวสาวถูกส่งตัวเข้าห้องหอ นั่นก็คือห้องหนึ่งในโรงแรมที่จัดงานพิธีของทั้งคู่ ญาติฝ่ายบ่าวสาวพากันออกไปแล้ว และคุณหญิงรัตนยังไม่วายหันมากำชับเธอว่าห้ามก่อเรื่องและล้มงานเกี่ยวดองของทั้งสองตระกูลนี้เป็นอันขาด
แล้วจะให้พลอยชมพูทำเช่นไร เมื่อสุดท้ายแล้วเจ้าบ่าวของเธอก็ต้องรู้ว่าเธอไม่ใช่พี่เพชร เจ้าสาวของเขา
“ถอดผ้าคลุมตลกๆ นั่นออกได้แล้ว” เจ้าของเสียงทุ้มสั่งโดยทันทีที่อยู่กันสองต่อสอง พลอยชมพูยังคงลังเล “ถ้าเธอไม่ถอด ฉันจะถอดให้เอง”
เพียงเท่านั้นหญิงสาวก็ถอดผ้าคลุมหน้าออกโดยเร็ว
นัยน์ตาหวานกวาดมองโดยรอบ สูทเจ้าบ่าวพาดไว้บนเก้าอี้ข้างเตียง ชายหนุ่มร่างกำยำกำลังปลดกระดุมแขนเสื้อเชิ้ตของเขา มัดกล้ามอัดแน่นอยู่ภายใต้เสื้อขาวจนพลอยชมพูเกรงว่ามันจะปริออกมา
ด้วยวัยสามสิบเจ็ดที่ผ่านผู้หญิงมามาก ทำให้ธีระพัฒน์ไม่ยี่หระกับการแต่งงานเสียเท่าไรนัก เขาจบเมืองนอก ใช้ชีวิตเมืองนอกตั้งแต่เด็กๆ เรื่องผู้หญิงนี่จัดว่าช่ำชอง โดยเฉพาะเมื่อกลับมาถึงเมืองไทย ด้วยหน้าตาที่จัดว่าหล่อสไตล์เอเชีย ผิวขาว หุ่นดี ส่วนสูงเหยียบร้อยแปดสิบเกินมาตรฐานชายไทย ทำให้บรรดาผู้หญิงเข้ามาถวายตัวเป็นของเล่นให้เขาเลือกมากหน้าหลายตา เมื่อเที่ยวเล่นได้สักระยะ เขาก็เริ่มคิดจะทำธุรกิจเป็นของตนเอง ใบหน้าที่ดูเด็กทำให้ธีระพัฒน์ตัดสินใจไว้เคราน้อยๆ เพื่อให้ดูดุขึ้น และมันยิ่งเพิ่มเสน่ห์ รวมถึงความคมคายให้เขาอีกเท่าตัว
ธีระพัฒน์ถอดชุดอันเทอะทะออก เหลือเพียงเชิ้ตขาวหลุดลุ่ยและผมหยักศกที่ถูกยีจนยุ่งเหยิงตามสไตล์ของเขา ดวงตาสีดำดุตวัดมองเจ้าสาวหน้าตาจิ้มลิ้มที่นั่งห่อตัวราวกับลูกนกน้อย
เธอไม่ใช่เพชรน้ำหนึ่งที่พ่อเขาบังคับให้เขาแต่งงานด้วย โดยข่มขู่ว่าจะยึดธุรกิจรับออกแบบภายในของเขาคืนทั้งหมด ถ้าธีระพัฒน์ไม่ยอมรับการแต่งงานนี้ ชายหนุ่มไม่ชอบผู้หญิงจัดจ้านอย่างเพชรน้ำหนึ่งเสียเท่าไรนัก แต่เขารู้สึกถูกตาต้องใจใครอีกคนมากกว่า
“น้องพลอยสินะ”
นัยน์ตาหวานเบิกโต ริมฝีปากสีกุหลาบแย้มยิ้มก้ำกึ่งยินดีระคนตกใจ
“พี่ธีร์...จำพลอยได้ด้วยเหรอคะ”
“ทำไมจะจำไม่ได้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ ที่คอยวิ่งตามแม่ฉันตลอดการเตรียมงานแต่งงานน่าเบื่อนี่” ชายหนุ่มสบถ พลอยชมพูสะดุ้ง “ว่าแต่น้องพลอยทำไมมาอยู่ในชุดเจ้าสาวได้ พี่สาวเธอล่ะ”
พลอยชมพูไม่ตอบ เธอตอบไม่ได้ ถ้าตระกูลภคเวชกุลรู้ว่าพี่เพชรหนีการแต่งงาน งานวิวาห์นี้จะล่มทันที
ยังเหลือการจดทะเบียนสมรสในวันพรุ่งนี้ พลอยชมพูก็ได้แต่หวังว่าเพชรน้ำหนึ่งจะกลับมาทัน
“ว่าไง” ธีระพัฒน์เอ่ยถามซ้ำเมื่อยังไม่ได้คำตอบ
เจ้าสาวคนงามก้มหน้างุด เอ่ยอู้อี้
“พี่เพชรปวดท้องกะทันหันค่ะ ยืนไม่ไหว ก็เลยให้พลอยมาแทน”
“ให้มาแต่งงานแทน?”
“...ค่ะ”
“เธอเนี่ยโกหกไม่เก่งเลยนะน้องพลอย” เสียงหัวเราะหึในลำคอทำเอาหญิงสาวอยากจะร้องไห้ ธีระพัฒน์ที่แอบมองหญิงสาวคนนี้มาระยะใหญ่ก็พอจะรู้ว่าเธอนั้นหัวอ่อนเสียจนน่าแกล้ง
ในเมื่อเสนอตัวเข้ามาให้เขาแกล้ง แกล้งเสียหน่อยจะเป็นไร…
“แล้วจะเอายังไงต่อ ตอนนี้เป็นคืนส่งตัวเข้าห้องหอ เธอมาเข้างานแต่งงานแทนพี่ แล้วจะเข้าห้องหอแทนพี่เธอด้วยหรือเปล่า”
“พี่ธีร์!” พลอยชมพูเบิกตาโต
“มาสิ ฉันพร้อมแล้ว เราจะเริ่มจากตรงไหนกันก่อนดีล่ะ บนเตียง บนโซฟา หรือจะที่ห้องน้ำดี?”
เย้าแหย่เพียงเท่านั้น ใบหน้าหวานก็แดงก่ำราวกับถูกเพลิงร้อนเผา พวงแก้มแดงระเรื่อดั่งลูกเชอร์รี พลอยชมพูยืนบิดกระโปรงเจ้าสาวเสียจนธีระพัฒน์เกรงว่ามันจะขาดคามือเธอไปเสียก่อน
“พลอยแค่…มาแทนให้พิธีดำเนินต่อไปได้ ไม่ให้งานขาดตอน ไม่ได้จะมาเป็นเจ้าสาวแทน ถ้ายังไงพี่ธีร์รอพี่เพชรดีกว่านะคะ” พลอยชมพูต่อรองอ้อมแอ้ม กิริยาขวยเขินนั้นยิ่งทำให้ธีระพัฒน์อยากแกล้งยิ่งขึ้นไปอีก
“ฉันถือว่าคืนเข้าหอก็เป็นอีกหนึ่งพิธีนะ แล้วทีนี้จะทำยังไงดีล่ะ”
ธีระพัฒน์ปลดกระดุมเสื้อเชิ้ต พลอยชมพูมองตามมือขาว เมื่อกระดุมเม็ดที่สามถูกปลด ผิวขาวพร้อมกับร่องอกของชายหนุ่มก็ทำเอาพลอยชมพูที่ไม่เคยผ่านผู้ชายมาก่อนหน้าร้อนผ่าว เธอรีบเบือนหน้าหลบ แต่เหมือนเป็นการตัดสินใจที่ผิดพลาด เมื่อรู้ตัวอีกที เงาของร่างใหญ่ก็เข้ามาประชิดเสียแล้ว
“พี่ธีร์อย่าทำอะไรพลอยนะ! พลอยขอ” หญิงสาวร้องพร้อมยกสองแขนขึ้นกัน แต่ธีระพัฒน์ไม่ปล่อยให้นกน้อยของเขาได้บินอย่างอิสระตามใจ ชายหนุ่มก้าวเข้าไปใกล้จนพลอยชมพูต้องก้าวถอยหลัง เมื่อชายกระโปรงเจ้าสาวชนกับผนัง พลอยชมพูก็หมดทางหนี ชายหนุ่มจึงกักเธอไว้ด้วยแขนอันแข็งแรงทั้งสอง
“พี่ธีร์...” เสียงหวานสั่นระริกราวเจ้าตัวจะร้องไห้ ธีระพัฒน์ใจอ่อนยามเมื่อเห็นดวงตาสีน้ำตาลคู่นั้นเอ่อนองด้วยน้ำใสแจ๋ว เธอหวาดกลัวเขาอย่างเห็นได้ชัด
“หันหลังมา” ธีระพัฒน์เอ่ยเสียงเข้ม แต่พลอยชมพูยิ่งดันตัวเองแนบกับผนังห้อง “จะหันมาดีๆ หรือจะต้องให้พี่ใช้กำลัง”
เพียงเท่านั้นร่างเล็กๆ ก็รีบหมุนร้อยแปดสิบองศาจนกระโปรงเจ้าสาวบานฟูฟ่อง ธีระพัฒน์กลั้นเสียงหัวเราะ เขาจับร่างเล็กๆ ให้อยู่นิ่ง และค้นหาอะไรบางอย่างบนชุดเจ้าสาวของเธอ
“พี่ธีร์จะทำอะไรคะ” กลัวก็กลัว หวาดก็หวาด แต่ก็ทำได้แต่เพียงถาม เพราะถ้าธีระพัฒน์ใช้กำลังจริง พลอยชมพูคงสู้แรงเขาไม่ได้แน่ ทางที่ดีต้องหาทางพูดจากับเขาให้รู้เรื่อง
“ก็ถอดชุดเจ้าสาวของเธอน่ะสิ”
“อย่านะคะพี่ธีร์ พลอยขอเถอะนะคะ เดี๋ยวพี่เพชรก็คงจะมา พี่ธีร์รอพี่เพชรเถอะนะคะ” เสียงนั้นอู้อี้ละล่ำละลักจนน่าสงสาร แต่คนชอบแกล้งก็แสร้งตีหน้าขึงขังพร้อมกับทำเสียงดุ
“อยู่นิ่งๆ ตอนนี้เธอเป็นเจ้าสาวของฉัน ฉันสั่งอะไรเธอก็ต้องทำตาม ไม่งั้นเธอจะไม่มีทางเห็นลายเซ็นของฉันบนใบทะเบียนสมรสวันพรุ่งนี้แน่”
เจ้าสาวตัวปลอมยืนแข็งยิ่งกว่ารูปสลักหิน ธีระพัฒน์กลั้นหัวเราะ ขำก็ขำ เอ็นดูก็เอ็นดู เขาจับไหล่เล็กๆ ให้อยู่กับที่ ขยุกขยิกอยู่กับเสื้อเธอไม่นาน สักพักซิปของชุดเจ้าสาวก็ถูกรูดลง
พลอยชมพูตะครุบชุดโดยอัตโนมัติ แต่เพราะมันพอดีสัดส่วนจึงไม่ได้ลงไปกองอยู่ที่พื้น แต่หัวใจของหญิงสาวนี่สิ หล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มแล้ว
“เอาละ...”
พลอยชมพูสะดุ้งเฮือกเมื่อนิ้วอุ่นแตะเบาๆ ที่ผิวของเธอ ธีระพัฒน์ขมวดคิ้ว
โถ แม่ขวัญอ่อน เขายังไม่ทันจะได้ทำอะไร ยังกลัวเขาถึงขนาดนี้ ถ้าเขาเกิดนึกจะซุกซนขึ้นมา…เธอจะไม่ร้องไห้และแหกปากให้คนช่วยเลยหรือ
“พี่ช่วยรูดซิปลงให้แล้ว เธอไปอาบน้ำแล้วถอดชุดนี่เสียทีเถอะ เห็นแล้วพี่อึดอัดแทน ในห้องน้ำน่าจะมีชุดให้เปลี่ยนอยู่”
พลอยชมพูตวัดตามองธีระพัฒน์ด้วยรอยยิ้มหวาน ดวงตาของเธอเป็นประกายระยับเมื่อธีระพัฒน์ไม่ได้คิดจะรังแกเธอ
“พี่จะนับหนึ่งถึงสาม ถ้าน้องพลอยยังไม่ไป พี่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าให้น้องพลอยตรงนี้แหละ”
ร่างเล็กรีบกุลีกุจอหายลับไปหลังประตูห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ธีระพัฒน์ทิ้งตัวลงนั่งบนเตียง เขาถอนหายใจหนัก นี่เขาได้เจ้าสาวแบบไหนมากันนะ
เดิมทีเป็นเพชรน้ำหนึ่งที่ก็ดูจะผ่านโลกมากมาย ธีระพัฒน์ตั้งใจว่าจะมาจัดเจ้าสาวของเขาให้หนำใจที่บังอาจมาช่วงชิงชีวิตโสดของเขาไป แต่พอเจ้าสาวของเขาเปลี่ยนร่างเป็นพลอยชมพูในคืนส่งตัวเช่นนี้ ธีระพัฒน์ก็ถึงกับทำอะไรไม่ถูก
ยิ่งเจ้าธีร์น้อยเริ่มตื่นตัวจากการอ้อนวอนสุดน่ารักพร้อมน้ำตาของเจ้าสาวไร้เดียงสาคนนี้
ไม่ได้ปลดปล่อยมานาน แต่ก็ไม่อยากรังแกเด็ก...
แต่เด็กมันก็น่ารังแกเหลือเกินนี่
นานเสียจนเจ้าบ่าวหมาดๆ แทบจะหลับคาเตียง เจ้าสาวของเขาก็ยังไม่ยอมออกมาจากห้องน้ำ ธีระพัฒน์จึงต้องไปเคาะประตูเรียก
“ทำอะไรอยู่น่ะ นี่มันจะชั่วโมงนึงแล้ว พี่ให้เธอเข้าไปอาบน้ำนะไม่ใช่นั่งหลับ” ชายหนุ่มบอกแกมดุ
“เอ่อ...พี่ธีร์คะ ไม่ทราบว่าข้างนอกพอจะมีชุดอะไรให้พลอยเปลี่ยนได้ไหมคะ” เสียงหวานอ้อมแอ้มดังกลับมา ดูเหมือนว่าเธอจะอยู่แค่หน้าประตูห้องน้ำนี่เอง
ธีระพัฒน์หันมองรอบกาย
“ไม่มี ทำไม ในห้องน้ำไม่มีชุดให้เธอเปลี่ยนหรอกเหรอ” ถามกลับพลางสงสัย คนอีกฝั่งเงียบไปจนเขาต้องเคาะเรียก
“ผู้ใหญ่ถามก็ต้องตอบสิ มาเงียบใส่แบบนี้ใช้ได้ที่ไหนกัน”
“คือว่ามันก็มี แต่ว่า…”
“แต่ว่าอะไร”
ไม่มีคำตอบ เสียงคนหลังบานประตูขยับกายขยุกขยิกก็ดังขึ้น พลอยชมพูปลดกลอนบานประตู เป็นจังหวะเดียวกับที่ธีระพัฒน์เปิดผลัวะเข้าไป
ร่างบอบบางในชุดคลุมอาบน้ำสะดุ้งเฮือก เธอรีบกระชับชุดปิดบังผิวขาวๆ ไว้ แต่ด้วยความที่เป็นชุดคลุมอาบน้ำ เรียวขาสวยจนเกือบจะถึงขาอ่อนก็ออกมาวับแวมให้ชายหนุ่มเห็นอยู่ดี
ธีระพัฒน์ใจเต้นรัว ฮอร์โมนลูกผู้ชายพลุ่งพล่าน เจ้าธีร์น้อยก็ผงาดเอาเสียดื้อๆ ไม่คิดเลยว่าชุดลำลองที่ทางโรงแรมเตรียมให้นั้นจะ ‘เฉพาะ’ กับคืนส่งตัวเข้าห้องหอเหลือเกิน
ยุบหนอ พองหนอ ข่มใจไว้หนอ…
ความเงียบทำให้หญิงสาวยิ่งใจไม่ดี พลอยชมพูอายแสนอาย เธออยากจะแทรกแผ่นดินหนีเมื่อมีผู้ชายมาเห็นเธอในสภาพเช่นนี้ เมื่อธีระพัฒน์เอาแต่จ้องเธอและไม่ยอมพูดอะไร เธอก็หวั่นใจ หญิงสาวเลื่อนประตูหมายจะปิด แต่มือใหญ่มาขวางไว้เสียก่อน
“จะทำอะไร”
ธีระพัฒน์กลืนน้ำลายเหนียวหนืดลงคอและเอ่ยออกมาได้ในที่สุด พลอยชมพูได้แต่ยิ้มเจื่อนรับสีหน้าดุๆ ของเขา
“พลอยว่าชุดนี้มันดูไม่ค่อยเหมาะ ถ้ายังไงพลอยเปลี่ยนกลับไปใส่ชุดแต่งงานดีกว่า”
ชายหนุ่มเหลือบไปมองชุดที่แขวนเอาไว้ มันทั้งยาว พอง หนา และหนัก ไม่มีทางที่เธอจะสบายตัวเวลาใส่มัน
“ไม่เป็นไร ชุดนี้นั่นแหละ” ชายหนุ่มบอกปัด พลางดึงร่างเล็กให้ก้าวออกมาจากห้องน้ำ ธีระพัฒน์กดตัวหญิงสาวให้นั่งลงบนเตียงและทิ้งตัวนั่งเคียงข้าง
ความเงียบโรยลงมาอีกพักใหญ่ บรรยากาศที่กระอักกระอ่วนเช่นนี้ พลอยชมพูก็ไม่รู้ว่าควรจะวางตัวเช่นไรกับสามีคนอื่นที่เธอมานั่งอยู่ในห้องหอแทน ส่วนธีระพัฒน์นั้น ตอนแรกเขาตั้งใจจะคุยเรื่องงานแต่งงานครั้งนี้กับตระกูลจิตรมงคลให้รู้เรื่อง ทว่าขาอ่อนขาวเนียนและเนินอกที่เผยอออกมาโอ้อวดวับๆ แวบๆ โดยเจ้าตัวไม่ได้ตั้งใจก็ทำเอาสมาธิของเขาเตลิดไปหมด
ธีระพัฒน์พยายามบังคับสายตาตนเองให้หันออกจากเนินอกของเธอเสียที เขาไม่ใช่คนหื่นกามหรือมักมาก แต่มีของดีมาเตะตาถึงขนาดนี้ ไม่มองก็เสียชาติความเป็นชายล่ะ
แต่นั่นเด็ก…พลอยชมพูห่างจากเขาร่วมสิบสามปีได้ ถ้าเพื่อนๆ เขารู้มีหวังโดนแซวไปสามบ้านแปดบ้าน
“น้องพลอยนั่งรอไปก่อน ถ้าง่วงก็นอนไปก่อนก็ได้ พี่จะไปอาบน้ำ แต่ห้ามหนีกลับไปนะ ถ้าไม่อยากให้การแต่งงานครั้งนี้เป็นโมฆะก็อยู่ในห้องนี้กับพี่จนถึงเช้า”
เมื่อไม่อาจห้ามสัญชาตญาณผู้ชายได้ ร่างสูงก็ลุกพรวดพราดและเดินหนีห่างจากเจ้าสาวที่ปล่อยฟีโรโมนยั่วยวนเขาโดยเจ้าตัวไม่รู้สึกตัวเลยสักนิดว่า ตนเองตอนนี้เหมือนเนื้ออันโอชะที่พร้อมเสิร์ฟต่อหน้าหมาป่าหิวกระหาย
ธีระพัฒน์เปิดน้ำจากฝักบัวรดหัว ดวงตาดำขลับก้มมองเจ้าธีร์น้อยที่ผงาดและสั่นระริกราวกับจะอ้อนวอน…
ยิ่งหมาป่าที่อดมาเป็นสัปดาห์อย่างเขา เธอจะรอดพ้นไปได้อย่างไร
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องน้ำทำเอาชายหนุ่มที่กำลังห้ามปรามอารมณ์ของตัวเองชะงัก เมื่อเสียงเคาะประตูดังขึ้นอีกรอบ มือยาวก็เอื้อมไปหยิบผ้าขนหนูมาพันปกปิดความเป็นชายที่เริ่มอ่อนตัวลงแล้วเอาไว้
“มีอะไร”
“ขอพลอยเข้าไปหน่อยได้มั้ยคะ”
ยังไม่ทันที่ธีระพัฒน์จะอนุญาต ประตูเลื่อนก็ขยับออกพร้อมกับร่างแน่งน้อยที่ยังสวมเพียงแค่ชุดคลุมอาบน้ำตัวสั้นจิ๋ว โชคดีที่ธีระพัฒน์นุ่งผ้าเช็ดตัวเรียบร้อยแล้ว ไม่เช่นนั้นเธอได้เห็นของใหญ่โตของเขาอย่างแน่นอน
“เข้ามาทำไม มีอะไร” ชายหนุ่มดุ พลอยชมพูเงยหน้าจะตอบ แต่เมื่อดวงตาหวานเหลือบเห็นมัดกล้ามที่เรียงตัวแน่นเธอก็รีบก้มหน้างุดพร้อมกับใบหน้าที่เริ่มแดงซ่าน
“ขอโทษค่ะ เห็นเสียงน้ำเงียบไป พลอยนึกว่าพี่ธีร์จะอาบน้ำเสร็จแล้ว งั้นพลอยขอตัวไปรอข้างนอกก่อนนะคะ” หญิงสาวรีบหันหลังกลับ ทว่าคนตัวใหญ่นึกมันเขี้ยวจึงคว้าแขนของเธอเอาไว้ คนตัวน้อยถูกดึงจนถลาเข้ามาแนบกาย ความเย็นจากกายของชายหนุ่มทำเอาพลอยชมพูอยากร้องประท้วง ทว่าเมื่อหันไปชนกับหัวนมน้ำตาลอมชมพูหญิงสาวก็รีบก้มหน้างุด แล้วเมื่อมองต่ำก็เผลอนึกจินตนาการไปถึงอะไรบางอย่างที่ควรจะซ่อนอยู่ใต้ผ้าเช็ดตัว
“พลอยไปก่อนนะคะ”
พลอยชมพูทำท่าจะวิ่งหนีไป ธีระพัฒน์รีบเอาแขนแข็งแรงของเขาโอบรอบตัวหญิงสาวเอาไว้ แผ่นหลังของพลอยชมพูอิงแอบเข้ากับร่างอันเปียกปอนของชายหนุ่ม ศีรษะของหญิงสาวสูงแค่อกของเขาเองมั้ง
ยิ่งดิ้นยิ่งน่าแกล้ง
“เข้ามาแล้วคิดว่าจะออกไปได้ง่ายๆ เหรอ หืม?”
“พี่ธีร์…ปล่อยพลอยนะคะ”
“แล้วน้องพลอยจะเข้ามาทำไม พี่บอกให้นั่งรออยู่บนเตียงไม่ใช่หรือไง” ธีระพัฒน์แกล้งกระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นอีกทำให้คนตัวเล็กไม่อาจหนีไปไหนได้ ความอุ่นจากตัวเธอทำเอาเขาไม่อยากปล่อยให้ไปไหน
“ไหนว่ายังไง เข้ามาทำไม ถ้าน้องพลอยไม่ตอบ พี่ก็จะไม่ปล่อย จะกอดอยู่แบบนี้จนกว่าเราจะคุยกันรู้เรื่อง”
“พลอยคันหัวค่ะ...ฉีดสเปรย์ไว้ทั้งวันเหนียวและแข็งไปหมด...พลอยอยากสระผมมาก แต่ว่าพลอยมองไม่เห็นกิ๊บติดผม เลยว่าจะเข้ามาให้พี่ธีร์ช่วยดูให้” พลอยชมพูตะกุกตะกัก
ชายหนุ่มขมวดคิ้วหนา แปลกใจในคำตอบ ก่อนจะจับคนตัวน้อยให้หันหน้ากลับมาสบตากัน
ดวงตาสีน้ำตาลใสแจ๋วเบิกกว้างอย่างตกใจ ก่อนจะรีบก้มหน้างุดด้วยความเขินอาย เธอยกมือขึ้นเกาหัวแกรกๆ พอที่จะทำให้ธีระพัฒน์มองเห็นกิ๊บติดผมนับร้อยตัวที่เรียงรายอยู่บนผมเปียที่จับเกล้าไว้อย่างเก๋ไก๋
ไม่ได้กะจะเข้ามายั่วเขาจริงๆ รึเนี่ย
ธีระพัฒน์จ้องมองร่างเล็กในอ้อมกอดราวกับต้องการมองทะลุให้เห็นถึงคำตอบที่เธออาจซ่อนอยู่ แต่ร่างกายที่เบี่ยงไปมาและสองแขนเล็กที่ยันหน้าอกเขาเอาไว้ให้ห่างตัวนั้นพอจะทำให้เขาเชื่อได้
แต่เขาควรจะทำเช่นไรกับเสือที่เริ่มตื่นแล้วนี่ดี
“ถ้าอย่างนั้นก็หันหลังมา เดี๋ยวพี่เอาออกให้”
“ขอบคุณค่ะ!” เจ้าของเสียงเล็กดีใจ
ธีระพัฒน์คลายอ้อมกอดออก พลอยชมพูหยุดยืนอยู่หน้ากระจก เธอพยายามเอื้อมหยิบกิ๊บติดผมออกทั้งที่มองไม่เห็น ชายหนุ่มเคลื่อนตัวตามไปและจับมือของหญิงสาวให้หยุดนิ่ง
“ไม่ต้อง พี่บอกว่าจะช่วยก็คือช่วย” คนตัวโตทำเสียงดุ ทว่าหญิงสาวกลับวางมือลงแต่โดยดีและส่งยิ้มหวานให้เขาผ่านทางกระจกแทนคำขอบคุณ
ธีระพัฒน์งกๆ เงิ่นๆ อยู่หลังศีรษะที่เต็มไปด้วยกิ๊บสีน้ำตาลเข้มที่กลืนไปกับผมของเธอจนแทบแยกไม่ออก ตั้งแต่เกิดมาจนอายุสามสิบเจ็ด เขาไม่เคยต้องมาทำอะไรแบบนี้ อย่างมากก็แค่ปลดตะขอเสื้อในกับช่วยถอดกางเกงในให้ผู้หญิงก็แค่นั้น....
แต่ไม่มีอะไรที่เหลือบ่ากว่าแรงที่ธีระพัฒน์จะทำได้ กิ๊บติดผมถูกนำออกอย่างบรรจงทีละตัว ทีละตัว จนกองอยู่ข้างอ่างล้างมือนับสิบตัว เมื่อเริ่มเข้าใจแนวของการปัก ธีระพัฒน์ก็เหลือสมาธิมากพอจะไปสนใจอย่างอื่น
ภาพในกระจกสะท้อนตัวเขาที่ยืนซ้อนอยู่หลังผู้หญิงร่างเล็กที่เอาแต่ก้มหน้างุดและไม่มองเข้าไปในกระจก เปิดโอกาสให้ชายหนุ่มได้สำรวจเธอไปทุกสัดส่วน ใบหน้าขาวแดงระเรื่อ สวย หวาน น่ารัก ผ้าคลุมอาบน้ำที่พาดผ่านเนินอกน้อยๆ ที่ไม่น่าจะเกินคัปบี แต่มันกลับเร้าอารมณ์ของธีระพัฒน์ได้มากกว่าเห็นหน้าอกคัปดีแบบเต็มๆ เสียอีก ยิ่งได้เห็นภาพของตัวเองยืนตรงตำแหน่งนี้ สมองก็พลันคิดจินตนาการเตลิดไปไกล เจ้าธีร์น้อยก็ถึงกับผงาดจนเจ้าตัวกลัวว่าความขึงขังของมันจะดุนดันผ้าเช็ดตัวที่นุ่งไว้ให้หลุดออก
“เอ้า เสร็จแล้ว”
พลอยชมพูหมุนตัวกลับมาเมื่อผมของเธอปล่อยสยายลงไปถึงบั้นเอว ผมของเธอหยักศกน้อยๆ ไม่ต่างจากเขา แถมยังหนาจนล้อมกรอบหน้าเล็กๆ ให้ดูเล็กยิ่งขึ้นไปอีก หญิงสาวยกมือสางผมยุ่งเหยิงให้เข้าที่ ท่าทางเขินอายที่จะให้ธีระพัฒน์มาเห็นเธอในสภาพดูไม่ได้เช่นนี้ แต่คงไม่คิดเลยว่าการเสยผมที่ยุ่งนิดๆ ในชุดคลุมอาบน้ำจะเซ็กซี่ขยี้ใจชายหนุ่มโดยไม่รู้ตัว
เป็นธีระพัฒน์ที่ต้องหันหน้าเข้าหาอ่างล้างมือเพื่อซ่อนอะไรบางอย่างให้พ้นจากสายตาเธอ
กลัวจะโดนเด็กเรียกตาแก่ลามกเข้าเสียก่อน
เมื่อมีระยะห่างระหว่างเธอกับเขา ดูเหมือนพลอยชมพูจะคลายความเขินอายลงไปได้บ้าง คนตัวเล็กจ้องหน้าเขาอีกพักใหญ่ก่อนจะเอ่ยขึ้นบ้าง
“พี่ธีร์อาบน้ำเสร็จแล้วใช่ไหมคะ งั้นพี่ธีร์ออกไปก่อนได้ไหมคะ พลอยว่าจะสระผม” ไล่เสร็จก็ส่งยิ้มไร้เดียงสาราวกับจะขอบคุณ ธีระพัฒน์สบถก่อนจะยอมเดินออกมาแต่โดยดี นัยน์ตาคมหลุบลงมองเจ้าธีร์น้อยด้วยความลำบากใจ จะกดก็ไม่ลง จะเอาออกก็ไม่ได้ ใช้เขาแล้วก็ไล่เขาออกมาเสียดื้อๆ
ถ้าไม่ติดว่าเธอยังเป็นเด็ก เขานี่แหละจะสั่งสอนเสียให้เข็ด
คิดแล้วก็ได้แต่เข่นเขี้ยวอยู่ในใจ รอคนตัวเล็กออกมาโดนลงโทษให้สาสมกับที่ปล่อยให้เขาทรมาน
พลอยชมพูเดินออกมาด้วยชุดคลุมอาบน้ำตัวเดิม พร้อมกับผมหนาที่เริ่มแห้งหมาดๆ เพราะเธอใช้เวลาไปเกือบยี่สิบนาทีในการนั่งเป่าผมในห้องน้ำ หญิงสาวฮัมเพลงอย่างสบายใจ ทว่าเมื่อเห็นร่างสูงใหญ่ที่เอนตัวกึ่งนั่งกึ่งนอนรออยู่บนเตียงก็นึกขึ้นได้ว่ามีเขาอยู่ด้วย
เกือบลืมไปเสียสนิท
“พี่ธีร์...ยังไม่นอนอีกเหรอคะ” สาวน้อยถามอ้อมแอ้ม เธอพยายามมองหาที่อยู่ของตัวเอง แต่ก็ไม่รู้ว่าจะเอาตัวเองไปอยู่ตรงไหนดี เธอจะต้องอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี้กับเขาไปจนถึงเช้าเชียวหรือ
“ทำไมสระผมนาน” เสียงเข้มนั้นดุ ความไม่พอใจฉายชัด
“พลอยเป่าผมด้วย กว่าจะแห้งมันก็นาน”
“ถ้างั้นก็มานอนได้แล้ว พี่ง่วงแล้ว” ว่าแล้วก็ตบลงที่ว่างข้างตัวเอง พลอยชมพูมองที่ตรงนั้นแล้วเอาแต่ยืนนิ่ง “มาสิ อย่าบอกนะว่าน้องพลอยคิดจะยืนอยู่ตรงนั้นทั้งคืน”
สุดท้ายพลอยชมพูก็ตัดสินใจหย่อนก้นลงนั่งแค่เพียงขอบเตียง แต่มีหรือที่จะรอดพ้นจากธีระพัฒน์ได้
ชายหนุ่มคว้าเอวของเธอและรั้งมาใกล้แล้วกดร่างเล็กให้นอนราบลงกับเตียง เขายกตัวขึ้นและโน้มตัวเข้าหาเธอ
“พี่ธีร์…อย่าทำอะไรพลอยนะ” พลอยชมพูนอนตัวแข็งเป็นหิน เงาดำของคนตัวโตทาบทับลงมา
“สรุปว่าน้องพลอยจะรับผิดชอบอย่างไรกับคืนส่งตัวเข้าห้องหอของพี่”
พลอยชมพูสะดุ้ง ทันทีที่ได้รับคำถามเธอก็เตรียมตัวจะหนี แต่แขนของธีระพัฒน์นั้นวางกันไว้อยู่แล้ว ตอนนี้หญิงสาวอยู่ภายใต้การควบคุมของชายหนุ่มโดยสมบูรณ์
“พลอยไม่ใช่เจ้าสาวของพี่ พี่ธีร์รอพี่เพชรดีกว่านะคะ พลอยว่าเดี๋ยวพรุ่งนี้พี่เพชรก็คงมา”
“คืนส่งตัวเข้าห้องหอของพี่มันคืนนี้ไม่ใช่พรุ่งนี้” ธีระพัฒน์แย้ง “บอกมา จะรับผิดชอบยังไง”
เมื่อหญิงสาวยังคงเงียบ ชายหนุ่มก็ใช้ไม้เด็ดโดยโน้มตัวลงไปใกล้จนลมหายใจของเขาเป่ารดพวงแก้มนวลขึ้นสี
“ถ้าน้องพลอยไม่ตอบ พี่ก็จะเลือกทำตามใจพี่นะ”
“หมอนข้าง!” พลอยชมพูโผล่งออกมาเสียดื้อๆ เธอหลับตาปี๋ “พลอยจะเป็นหมอนข้างให้พี่ธีร์ค่ะคืนนี้”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า”
สองตาที่ปิดแน่นค่อยๆ เปิดออกเมื่อได้ยินเสียงหัวเราะเหมือนจะขาดใจตาย คนหน้าดุกำลังหัวเราะจนริมฝีปากบึ้งตึงยิ้มได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของเขาทำให้ธีระพัฒน์ดูน่าคบหามากขึ้น พลอยชมพูเผลอมองรอยยิ้มของเขาอย่างเพลินๆ รู้ตัวอีกทีดวงตาที่เคยดุก็ส่งแววตาระยับมาให้
“หมอนข้างที่นอนตัวแข็งแบบนี้น่ะเหรอ พี่กอดแล้วจะไปนอนหลับได้ยังไงกัน”
“แต่พลอยจะเป็นหมอนข้างที่ดี ไม่หือไม่อือ ไม่ดื้อไม่ซน จะอยู่นิ่งๆ แต่พี่ธีร์ต้องสัญญาว่าจะไม่ทำอะไรพลอยและรอพี่เพชรแทนนะคะ”
ธีระพัฒน์หลุดขำยายตัวเล็กที่เสนอตัวเป็นหมอนข้างให้ผู้ชายเพื่อเอาตัวรอดจากการข่มเหง
“ก็ได้ หมอนข้างก็หมอนข้าง แต่น้องพลอยต้องทำตัวให้นิ่มกว่านี้หน่อย บอกไว้ก่อนนะว่าหมอนข้างที่บ้านพี่น่ะนิ่มมาก กอดปุ๊บหลับสนิทเลย”
ชายหนุ่มทิ้งตัวลงนอนข้างกัน พลอยชมพูถอนหายใจเสียงดัง เธอพยายามผ่อนคลายแต่ก็เผลอเกร็งตัวทุกครั้งที่แขนหนักที่พาด ‘หมอนข้าง’ ขยับ เสียงหัวเราะเบาๆ มาจากคนข้างกายก่อนเขาจะตัดสินใจดึงเธอให้นอนหันหลังเข้าหาตัวเขาเอง
“พี่นอนกอดหมอนข้างท่านี้”
“หมอนข้างพี่ธีร์มีด้านด้วยเหรอคะ พี่ธีร์ถึงได้รู้ว่าด้านไหนคือด้านหน้าด้านหลัง” พลอยชมพูบ่นอุบ และพยายามเอาแขนกันไม่ให้เขาได้กอดเธอตรงๆ ที่สำคัญที่สุด เพื่อกันไม่ให้เขารู้สึกถึงเสียงหัวใจที่เต้นตึ้กตั้กอย่างรุนแรงทุกครั้งที่เขาเข้าใกล้
“มีสิ หมอนข้างพี่เป็นตุ๊กตายาง ไซซ์ประมาณน้องพลอยเลยนี่แหละ”
เมื่อได้ยิน พลอยชมพูก็ถึงกับตระหนกและขยับตัวออกห่าง ธีระพัฒน์หัวเราะลั่น แล้วหญิงสาวก็รู้สึกตัวว่าเธอโดนอำเข้าให้อีกแล้ว
“พี่ธีร์ชอบแกล้งน้อง!” คนเสียงหวานต่อว่าพลางนอนนิ่งให้เขากอดแทนหมอนข้างอย่างที่รับปากไว้ ธีระพัฒน์ยิ้มและไม่ต่อปากต่อคำ เขากระชับอ้อมกอดให้แน่นขึ้นพร้อมกับขยับราวจะหามุมนอน พลอยชมพูเกร็งไปทั้งตัว แต่เมื่อได้ยินเสียงลมหายใจสม่ำเสมอของเขา เธอก็เริ่มคลายความกังวล
หลับแล้วเหรอ
สงสัยแต่ก็ไม่กล้าหันกลับไปมอง เพราะเกรงจะปะทะกับหน้าของเขาในระยะใกล้ แขนของธีระพัฒน์ที่กอดอยู่เริ่มทิ้งน้ำหนักลงมาเต็มๆ เมื่อเธอคลายความเกร็งลง มันให้ความรู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด หญิงสาวหลับตาลง และเผลอหลับไปเพราะความเหนื่อยอ่อนจากงานแต่งงานที่วุ่นวายตลอดทั้งวัน
ธีระพัฒน์ยังไม่หลับ เขาแกล้งทำเป็นหลับเพื่อให้คนในอ้อมกอดคลายความกังวล และเขาจะไปหลับลงได้อย่างไรในเมื่อสัมผัสจากตัวเธอทั้งนุ่ม ทั้งหอมกลิ่นสบู่อ่อนๆ และอบอุ่นมากถึงเพียงนี้ สองแขนที่ไม่เคยโอบกอดผู้หญิงคนใดอย่างรักใคร่กลับอยากทะนุถนอมร่างเล็กที่ขยับเข้ามาจับจองพื้นที่ในหัวใจของเขาโดยไม่รู้ตัว
ความคิดเห็น |
---|