12
ตอนนี้แสงตะวันลับขอบฟ้าไปแล้ว แต่เจ้านายของอังเดรยังไม่ยอมก้าวออกจากห้อง ด้วยความเป็นห่วงบวกกับข่าวด่วนจากนายท่านบ้านใหญ่ ทำให้ชายหนุ่มก้าวเข้ามาในห้องนี้ทั้งที่รู้ว่าเสี่ยง
“เจ้านายจะไม่ตามไปหรือครับ” อังเดรเอ่ยถามเพราะเห็นเหตุการณ์เมื่อช่วงเที่ยง แล้วเขาก็ได้รับนัยน์ตาเข้มปนเคืองทันทีที่ถามจบ
“ตามทำไม เดี๋ยวทางโน้นก็รีบเอามาส่ง เพราะอยากจะได้ฉันเป็นลูกเขย” ชายหนุ่มเอ่ยเสียงเข้ม
“ครับ ผมก็คิดว่าจะเป็นเช่นนั้น แต่ว่าตอนนี้เจ้านายกำลังจะมีปัญหาใหญ่ครับ คุณเอเดียน่ามามอสโก และเข้าไปพักที่บ้านคุณท่านแล้ว ท่านทั้งสองให้ผมมาเรียนถามเจ้านายว่าจะทำยังไงต่อ”
“ไม่เห็นต้องทำอะไร เอเดียน่าเป็นเพื่อนฉัน จะมาเยี่ยมเยือนกันบ้างก็ไม่เห็นแปลก” ชายหนุ่มตอบอย่างไม่ยี่หระ จะต้องสนใจทำไม
“เหรอครับ แต่ว่า...คุณเอเดียน่าคงไม่พอใจเท่าไหร่นะครับ กับข่าวลือที่ว่าเจ้านายจะแต่งงานกับคุณนาตาชา ปีเตอร์ไปบ้านนายท่านพอดี เลยเอามาเล่าให้ฟัง” คนรู้เรื่องรีบอธิบาย เมื่อเห็นเจ้านายขมวดคิ้ว
“นี่ละนิสัยผู้หญิง!” คนพาลกล่าวหาไปเรื่อย “ไปบ้านคุณพ่อคุณแม่ อยากรู้เหมือนกัน ถ้าฉันควงเอเดียน่ารอบมอสโก คนที่ควรหึงฉันจะเกิดอาการบ้างมั้ย”
อังเดรพยายามอย่างสูงมากในการกัดกระพุ้งแก้ม กลัวว่าถ้าหลุดขำไปตอนนี้ตนได้ตกงานแน่
ลูกน้องคนสนิทของคีริลล์รู้มานานแล้วว่าเจ้านายพอใจนางแบบสาว นาถลัดดา เพชรจำรัส เพียรหาทางชิดใกล้หลายวิธี และคนที่เวลามีค่าเช่นคีริลล์จะยอมเสียเวลาไปเปล่าๆ โดยไม่หวังผลเชียวหรือ แล้วยิ่งเรื่องราวพันพัวจนออกหัวออกก้อยแบบนี้ คิดหรือว่าเจ้านายของอังเดรจะหยุดแค่นี้
โบริสแปลกใจไม่น้อยเมื่อลูกสาวคนโตเข้ามาขอคุยด้วย ท่าทางจริงจังดูผิดแปลกจนคนเป็นพ่อแอบกังวล แววตาหม่นเศร้าที่เจ้าตัวพยายามซ่อน โบริสมองเห็น แต่เลือกจะเงียบเพื่อฟังอีกฝ่ายเอ่ยก่อน
“คุณ...พ่อคะ” น้ำลายเหนียวหนืดถูกกลืนลงคอ คำว่า ‘พ่อ’ น้อยครั้งนักที่จะได้ยินจากนาถลัดดา แต่วันนี้หญิงสาวยอมแพ้ทุกอย่างแล้ว เพียงแค่หนีจากอสูรไร้หัวใจได้ เธอยอมทำทุกอย่าง แม้แต่ยอมแพ้น้องสาวต่างแม่ เธอก็ยอม
“มีอะไรรึ ดูท่าทางหนูเครียดมากเลยนะแนนนี่” เขาเอ่ยน้ำเสียงอาทร ชายสูงวัยอยากจะยกมือลูบไล้ศีรษะกลมทุยของบุตรสาว แต่ไม่มีแรงยก ได้แต่นอนมอง
“หนูอยากให้คุณพ่อยกเลิกสัญญาแต่งงานระหว่างสองครอบครัว”
โบริสเบิกตากว้าง ก่อนจะถอนใจยาวยามเห็นดวงตาบุตรสาวคลอน้ำตาวาว นาถลัดดากำลังฝืนไม่ให้หยดน้ำนั่นไหลออกมา แต่แค่มันคลอ คนเป็นพ่อก็เจ็บลึก ตั้งแต่เล็กจนโต เขาไม่เคยดูแลเธออย่างที่พ่อควรดูแลลูก เอาแต่ผลักไส ลูกแรงมาเขาก็แรงกลับ จนสุดท้ายเธอก็หนีไปอยู่ที่อื่น หากวันนี้เขาไม่ป่วยหนัก นาถลัดดาคงไม่ลดทิฐิกลับมาดูแลพ่อ แต่แทนที่เขาจะหยุดทำร้ายลูกสาว ยังเออออยอมให้บุตรสาวคนโตแต่งงานกับคีริลล์ทั้งที่ไม่ได้ถามไถ่ความสมัครใจ กู่ก้องดีใจเพียงแค่ได้ยินว่าลูกสาวคนโตจะมีสามีคอยดูแล
“ทำไมรึ หรือเรื่องที่คีริลล์เล่าให้พ่อฟังมันไม่ใช่เรื่องจริง”
“แค่บางส่วนที่เป็นเรื่องจริงค่ะ หนูกับเขารู้จักกันจริง แต่...หนูไม่ได้รักเขา และเขาก็ไม่ได้รักหนู”
‘รักหนู’ ความทรงจำบางอย่างสะกิดใจคนฟังจนต้องลอบกลืนน้ำลาย
“เล่าความจริงทุกอย่างให้พ่อฟังได้ไหมแนนนี่ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นระหว่างหนูกับคีริลล์ อย่าปกปิด” โบริสขอฟังเรื่องราวทั้งหมดก่อนจะตัดสินใจว่าควรจัดการเรื่องนี้อย่างไร
นาถลัดดาถอนใจยาวแล้วเหลือบมองอิวานอฟซึ่งนั่งอยู่บนโซฟาตัวยาวด้านหลัง ริมฝีปากบางเม้มแน่นขณะหันมาสบตาคนเป็นพ่อ
“แนนนี่เคยเจอคีริลล์ตอนเป็นนางแบบค่ะ เขาพยายามยื่นข้อเสนอให้แนนนี่เป็นคู่นอนของเขา แนนนี่พยายามหนีมาตลอด แต่ไม่รู้เป็นเพราะนิสัยอยากเอาชนะของเขา หรือเพราะแนนนี่ต่างจากผู้หญิงคนอื่นที่เขาเคยเจอ ทำให้เขา...ตามตอแยไม่หยุดยั้ง แนนนี่ระวังตัวเรื่องนี้มาตลอด แต่สุดท้ายมันก็พลาด แนนนี่ตกเป็นของเขา แต่ไม่ใช่เพราะเต็มใจ ขอไม่เล่ารายละเอียดนะคะ เขาไม่รู้มาก่อนว่าแนนนี่คือ นาตาชา ยูราซอค
“หลังเกิดเหตุการณ์นั้น แนนนี่ตามพี่เอียนไปเมืองไทย หวังให้เขาเลิกตามวุ่นวายเสียที และคิดว่าความอยากในตัวแนนนี่น่าจะจบเพียงแค่เขาได้ทุกอย่างสมใจ แล้วเราสองคนก็มาเจอกันอีกเมื่อวันก่อน เขาคงไม่อยากแต่งงานกับโรนี่ถึงรวบรัดเป็นแนนนี่แทนน้อง ส่วนแนนนี่ก็...อยากเอาชนะโรนี่ อยากให้โรนี่รู้สึกเจ็บบ้าง ยอมสมอ้างไปก่อน แต่ว่า...ตอนนี้แนนนี่คิดดีแล้ว แนนนี่ไม่อยากแต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก พ่อน่าจะรู้ดี หากแนนนี่แต่งงานกับคนที่ไม่ได้รัก สุดท้ายแล้วแนนนี่จะเป็นยังไง แม่คือตัวอย่างที่ดีค่ะ”
หญิงสาวเล่าเสียงเครือ แต่ฝืนเก็บกักน้ำตาไว้ได้ตลอด บ่งบอกถึงความเข้มแข็ง ซึ่งแม้แต่โบริสยังนับถือจิตใจที่เด็ดเดี่ยวของบุตรสาว
“หนูต้องการอะไรบ้าง ให้พ่อจัดการเรื่องนี้ยังไง ลองบอกมาหน่อยสิ” หัวอกคนเป็นพ่อเจ็บหน่วงไม่น้อยเมื่อรู้ว่าลูกสาวถูกชายหนุ่มที่ตนเห็นว่าเป็นคนดีพร่าสวาท แต่นาถลัดดานิสัยเหมือนแม่ หากเขาบังคับให้แต่งงานกับคีริลล์ ผู้ชายที่สมบูรณ์แบบเรื่องหน้าที่การงาน เหมาะสมจะเป็นสามีของผู้หญิงสักคน อีกไม่นานคงเกิดเรื่องเศร้า เพราะต่างคนต่างไม่มีความรักให้กัน แม้แต่เขาซึ่งมีความรักให้ลัดดาเต็มเปี่ยม แต่เป็นรักข้างเดียว คาดหวังว่าการครอบครองร่างกายจะทำให้ได้ใจของเธอมาด้วยนั้น สุดท้ายแล้วเขาก็ทำร้ายผู้หญิงที่รักสุดหัวใจอย่างเลือดเย็น
“หนูจะเข้ามาศึกษางานกับพี่เอียนและรับหน้าที่ต่อจากคุณพ่อ แต่ว่า...หนูขอให้คุณพ่อยกเลิกสัญญาระหว่างสองครอบครัว หรือหากว่าทางนั้นไม่ยกเลิก ก็ขอให้เขารับโรนี่เป็นภรรยาแทน”
“คิดดีแล้วใช่ไหม ทำใจได้ใช่ไหม หากวันข้างหน้าเห็นภาพหวานของคีริลล์กับผู้หญิงคนอื่น”
ไม่ต้องคิดมาก นาถลัดดารีบพยักหน้าทันที ทั้งที่รู้ว่าตัวเองทำใจยอมรับเรื่องนั้นไม่ได้ง่ายๆ แน่ แต่หากว่าเธอเริ่มทำใจยอมรับเสียตั้งแต่ตอนนี้ อีกไม่นานหรอก ทุกอย่างจะเป็นแค่ความทรงจำที่ผ่านมาเท่านั้น
“เรื่องที่พูดกับพ่อวันนี้ ขอให้เป็นความลับ ส่วนเรื่องคีริลล์ พ่อจะพูดกับเขาเอง หากแอนตันอยากรักษาสัญญา คงมีเพียงโรนี่เท่านั้นที่เขามีสิทธิ์เลือกเป็นสะใภ้ แต่หากไม่ยอมรับโรนี่ สัญญานี้พ่อจะทำให้มันเป็นโมฆะเอง ไม่ต้องห่วง พ่ออาจเคยทำผิดพลาดในอดีต แต่ต่อไปนี้พ่อจะแก้ไขให้มันดีขึ้น เริ่มเข้าไปศึกษางานกับเอียนตั้งแต่พรุ่งนี้ พ่อออกจากโรงพยาบาลเมื่อไหร่จะติวเข้มเราเอง” แค่รู้ว่าลูกสาวยอมรับช่วงดูแลบริษัท ต่อให้ต้องแลกกับอะไร โบริสก็ยอมตามใจ
“ผมอยากให้คุณลุงคุยกับป้าคริสตี้ด้วยนะครับ” อิวานอฟเอ่ยขึ้นหลังจากนั่งเงียบมานาน
“ได้ ลุงจะจัดการเรื่องนี้เอง บางทีหูตาที่ลุงปิดไว้คงถึงเวลาเปิดเสียที ตามแอนตันมาพบลุงด้วยนะเอียน”
โบริสเอ่ยแล้วหลับตาอย่างเหนื่อยล้า ทำไมทุกอย่างมันถึงเป็นแบบนี้ หรือนี่คือเวรกรรมที่เขาทำไว้
แอนตันกับแอมมาเรียทำหน้าไม่ถูกเมื่อเห็นภาพเอเดียน่าโผเข้าไปซบอกบุตรชายคนโต ซึ่งกำลังจะแต่งงานกับลูกสาวเพื่อนรัก และดูเหมือนลูกชายพวกเขาจะไม่ปฏิเสธอ้อมแขนของหญิงสาว กอดตอบอย่างแนบแน่นจนคนเป็นพ่อเป็นแม่ต้องเบือนหน้าไปมองทางอื่น
“เดียน่าว่าจะขอพักกับคีริลล์สักระยะน่ะค่ะ อีกไม่นานจะมีงานแฟชั่นโชว์ที่นี่ ไม่อยากนอนค้างโรงแรม”
เอเดียน่ามาที่นี่เพราะภาพถ่ายของคีริลล์กับนางแบบสาวคนนั้น แต่โชคดีที่ทางทีมงานของดีไซเนอร์สัญชาติรัสเซียโทร. ติดต่อเชิญเธอมาร่วมงานเปิดตัวห้องเสื้อของเขาที่มอสโก หญิงสาวจึงใช้ข้ออ้างนี้บอกคีริลล์ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มรู้สึกว่าเธอกำลังตามติด
“เหรอครับ” คนมีแผนขานรับ แฟชั่นโชว์งั้นรึ
“มีอะไรหรือเปล่าคะ หรือว่าตอนนี้คีริลล์ติดใจนางแบบคนไหนอีก...” เอเดียน่าแกล้งถาม หัวใจสาวกำลังเต้นรัวขณะรอคำตอบ อยากรู้ว่าชายหนุ่มจะเอ่ยถึงนางแบบเอเชียคนนั้นไหม
“ไม่ค่อยติดใจนางแบบ แต่ติดใจเจ้าของแบรนด์เสื้อผ้า” เขาตอบพร้อมหัวเราะร่า ยิ่งหันไปเห็นมารดาค้อนยิ่งขำหนัก หัวเราะจนตัวงอ
“คุณแม่เป็นอะไรหรือเปล่าครับ” ชายหนุ่มแซ็ว
“เปล่า เชิญตามสบายนะเอเดียน่า ฉันขอไปข้างนอกก่อน ว่าไงคะคุณ คุยธุระเสร็จหรือยัง” แอมมาเรียเอ่ยถามสามีที่เดินออกไปคุยโทรศัพท์ข้างนอก ซึ่งสีหน้าก่อนหน้ากับตอนนี้แตกต่างกันชัดเจน
“เสร็จแล้ว โบริสให้เอียนโทร. มาบอกว่าอยากพบ คุณไปกับผมด้วย” แอนตันพูดกับภรรยา แต่มองจ้องบุตรชายตัวดี นี่คงไปทำเรื่องอะไรไว้ โบริสถึงได้โทร. เรียกเขาไปพบแบบนี้
“ผมไปด้วยสิครับ” คนมีแผนเอ่ยขึ้น ซึ่งสร้างความแปลกใจให้แก่พ่อแม่ไม่น้อย
“แล้วแขกของลูกล่ะ” แอมมาเรียก้มกระซิบถาม
“ก็ไปด้วยกันสิครับ เอเดียน่า คุณไม่มีธุระที่ไหนใช่ไหม พอดีเพื่อนสนิทพ่อผมป่วยหนัก ท่านสองคนจะไปเยี่ยม คุณจะไปด้วยไหม” คีริลล์มั่นใจว่านาถลัดดาต้องอยู่ที่โรงพยาบาลแน่นอน
“ไปค่ะ” ตอนนี้คีริลล์ไปไหน เธอขอตามไปด้วย เฝ้าระวังไม่ให้ชายหนุ่มแวะไปหานาถลัดดา ซึ่งตอนนี้ไม่รู้อยู่ส่วนไหนของมอสโก
แอนตันส่ายหน้าอย่างระอา แววตาลูกชายมีบางอย่างซ่อนอยู่ ไม่รู้ว่าวางแผนอะไรไว้อีกหรือเปล่า
ทั้งสี่เดินทางมาถึงหน้าห้องพักพิเศษระดับวีไอพีของโรงพยาบาลเอกชนชื่อดังกลางกรุงมอสโก พ่อแม่ของคีริลล์ค่อนข้างกังวลแต่คนเป็นลูกยิ้มร่า พูดจาหยอกเย้ากับเอเดียน่าตลอดทาง สร้างความหนักใจให้แก่คนเป็นพ่อที่กำลังจะเข้าพบเพื่อนรัก ซึ่งต่อไปจะเป็นพ่อตาของคีริลล์
“สวัสดี อาการเป็นยังไงบ้าง” แอนตันก้าวเข้ามาในห้องพักคนป่วย เอ่ยทักพร้อมยิ้มกว้าง แต่ใบหน้าที่เบือนมาทางเขาไม่มีรอยยิ้ม เมื่อหันไปทางคีริลล์ก็ยิ่งบูดบึ้ง
“ดีขึ้นมากแล้วละ อีกไม่กี่วันคงออกจากโรงพยาบาลได้”
“แสดงว่าพยาบาลพิเศษดูแลดี แล้วหนูแนนนี่ไปไหนล่ะคะ” แม่ของคีริลล์ลองหยั่งเชิงถามหาว่าที่ลูกสะใภ้
“ไปทำงานกับเอียน แล้วนั่นใครล่ะ” โบริสพยักพเยิดไปทางเอเดียน่าซึ่งยืนชิดร่างสูงของคีริลล์
“อ้อ...เพื่อนของคีริลล์น่ะ” แอนตันงงว่าจะแนะนำเอเดียน่าในแบบไหน เพราะไม่รู้ว่าตอนนี้ลูกชายวางหญิงสาวไว้ในฐานะใด
“คงเป็นเพื่อนสนิทสินะ” โบริสพูดเสียงเรียบ และยิ้มให้เอเดียน่าเมื่อเธอทักทาย
“คุณลุงป่วยเป็นอะไรหรือคะ” เอเดียน่าเพิ่งจะรู้ว่าเพื่อนสนิทของบิดาคีริลล์คือประธานบริษัทโกลพรอมกรุ๊ป บริษัทยักษ์ใหญ่ติดหนึ่งในห้าของรัสเซีย มูลค่าทรัพย์สินหลายหมื่นล้านรูเบิล
“มะเร็ง แต่ผ่าตัดเรียบร้อยแล้ว” น้ำเสียงคนป่วยยังคงแฝงความเมตตาเมื่อพูดกับเอเดียน่า
แต่พอหันไปทางคีริลล์ ชายหนุ่มก็จับพลังได้ว่า แววตาของโบริสวันนี้ไม่เหมือนวันก่อน ค่อนข้างจะดุดันจนเขาแปลกใจ หรือแม่ลูกสาวมาฟ้องอะไร ไม่หรอก นาถลัดดาไม่กล้าเล่าเรื่องราวแต่หนหลังให้พ่อตัวเองฟังแน่นอน เพราะนั่นจะทำให้เธอต้องติดบ่วงวิวาห์ พ่อคนไหนบ้างเล่าจะยอมให้ลูกสาวเปื้อนราคี
ฝ่ายโบริสมองท่าทางสนิทสนมของสองหนุ่มสาว ถ้าลูกสาวมาเห็นภาพนี้จะเสียใจแค่ไหน คีริลล์อาจเป็นผู้ชายเก่ง พร้อมจะเป็นผู้นำครอบครัว แต่ข่าวคาวของเขาที่ไม่ควรมองข้ามคือ ‘เจ้าชู้ เพลย์บอย’
“เป็นคนรักของคีริลล์รึ” คำถามของโบริสสร้างความแปลกใจให้แก่ครอบครัวแอนตัน โดยเฉพาะคีริลล์นั้นเริ่มรู้สึกแล้วว่าสายตาของโบริสไม่เหมือนเดิมแน่นอน
“เอ่อ...ค่ะ” หญิงสาวตอบกระมิดกระเมี้ยน ช้อนตามองคีริลล์อย่างมีความหมาย
ทว่าชายหนุ่มกลับไม่ยิ้มตอบ หรือจะเรียกได้ว่ายิ้มไม่ออกแล้วสำหรับตอนนี้
“ก็ดีแล้วละ ที่พามาให้เห็นกันแบบนี้ ทางฉันจะได้ไม่รู้สึกผิดมากนัก”
“นายหมายความว่าไง” แอนตันเริ่มยืนไม่นิ่ง ขยับเท้าเข้าไปใกล้เตียงเพื่อนรักอีกนิด
“ฉันลองมาคิดๆ ดูแล้ว เรื่องแต่งงานระหว่างสองครอบครัวอาจช่วยกระชับความสัมพันธ์ของสองตระกูล แต่ใครจะมั่นใจได้เล่าว่าลูกของเราสองคนจะมีความสุขกับการแต่งงานที่ผู้ใหญ่เลือกให้” โบริสมองแอนตันนิ่ง
“แต่ว่า...” แอนตันพยายามจะแย้ง
“หยุดและฟังฉันก่อน ฉันพูดกับนายวันนั้นเพราะกลัวและกังวลว่าตัวเองจะตายเพราะโรคร้าย และลูกๆ จะไม่มีใครดูแล ถึงได้ขอร้องให้นายรักษาสัญญา แล้วลูกชายนายก็ตอบตกลงจะแต่งงานกับนาตาชาต่อหน้าฉัน ทุกอย่างเหมือนจะลงล็อกนะแอนตัน แต่ว่า...แนนนี่ยังไม่อยากแต่งงานตอนนี้ ลูกสาวฉันอยากจะเรียนรู้โลกกว้าง อยากได้สามีที่ตัวเองเลือกด้วยหัวใจและสมองของตัวเอง”
‘เลือกด้วยหัวใจและสมองของตัวเองรึ’ คนฟังนึกมันเขี้ยว ยืนขบฟันแน่นขณะฟังพ่อของหญิงสาวพูด
“แล้วเรื่องบริษัทของนายล่ะ มันไม่ใช่แค่พันธสัญญาระหว่างเรานะ”
แอนตันรู้ว่าทำไมโบริสต้องการให้คีริลล์แต่งงานกับลูกสาวตัวเอง มันไม่ใช่แค่เรื่องกระชับความสัมพันธ์ แต่ยังมีเรื่องบริษัทเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย และเรื่องหลังใหญ่กว่าเรื่องแรกเสียอีก
“เรื่องนั้นไม่ต้องห่วง ตอนนี้แนนนี่เข้าไปเรียนรู้งานกับเอียนแล้ว และฉันค่อนข้างมั่นใจว่าลูกสาวฉันคนนี้จะพาบริษัทก้าวเดินต่อได้”
“แต่ว่า...” แอนตันยังไม่หยุดค้าน
“พอเถอะแอนตัน ฉันเรียกนายมาเพื่อบอกเรื่องนี้ละ คีริลล์จะได้หมดพันธะเสียที สบายใจได้นะคีริลล์ ลูกสาวลุงคนนี้เขาแกร่งเหมือนแม่เขา ผู้หญิงบางคนเราครอบครองร่างกายเขาได้ แต่เราครอบครองจิตใจเขาไม่ได้หรอก”
สันหลังของคีริลล์ร้อนวาบเมื่อได้ยินประโยคเหมือนสอนนั่น พ่อของนาถลัดดาต้องรู้เรื่องบางอย่าง หรือจะเป็นอิวานอฟที่มาพูดให้พ่อของนางแบบสาวเปลี่ยนใจ แต่ถึงครอบครัวนี้จะเปลี่ยนใจก็ใช่ว่าเขาจะต้องเปลี่ยนตามนี่นา
“หมายความว่าไง คุณกลับรัสเซียเพื่อมาเข้าพิธีแต่งงานกับคนที่พ่อแม่เลือกให้หรือคะ” เอเดียน่าที่หลุดจากภวังค์กระซิบถาม แต่เสียงนั้นก็ยังดังไปถึงหูโบริส
“นั่นมันก่อนหน้านี้ ตอนนี้ไม่มีคนที่พ่อแม่เลือกให้แล้ว มีแต่คนที่คีริลล์จะเลือกเอง ขอบใจนายมากแอนตัน ขอบใจที่ยอมทำเพื่อฉันทุกอย่าง”
โบริสยิ้มให้เพื่อนรักอย่างจริงใจ ไม่ว่ารุ่นลูกจะผิดพลาดอย่างไร แต่คนที่อาวุโสแล้วเข้าใจโลก และละวางบางเรื่องที่จะบั่นทอนความสัมพันธ์ที่ดีกับคนดีๆ เช่นแอนตัน
แอมมาเรียยืนเม้มปากแล้วถลึงตาใส่บุตรชายคนโตที่ส่งสายตาขอความช่วยเหลือมา ยิ่งเห็นท่าทางเอเดียน่าเกาะติดลูกชายแจ นางยิ่งปวดหัว
คีริลล์โกรธตัวต้นเหตุจนอยากจะจับมาฟาดก้นงอนงามนั่นให้นั่งไม่ได้ไปสักสามสี่วัน หรือไม่ก็จับไปขังทำลูกสักหนึ่งสัปดาห์
‘ทำลูก’
รอยยิ้มร้ายผุดขึ้นบนมุมปาก หน้าหงอยเมื่อครู่เปลี่ยนเป็นอมยิ้มเหมือนมีกลเล่ห์ที่จะพลิกตลบแผนการของคนอยากหนี
‘คิดจะหนีผมรึนาตาชา’
“ฮัดเช้ย! ฮัดเช้ย!” เสียงจามถี่ๆ ดังมาจากหลังเก้าอี้ประธานบริษัทโกลพรอม
เลขาฯ ส่วนตัวของท่านประธานเงยหน้ามองแล้วรีบวิ่งไปหยิบกล่องทิชชูมาส่งให้ท่านประธานฝึกหัด
“จะไม่สบายหรือเปล่าคะคุณแนนนี่” เลขาฯ ของโบริสเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง
“ไม่มั้งคะ คงเพราะเปลี่ยนที่อยู่ เปลี่ยนอากาศ ร่างกายเลยประท้วงนิดหน่อย”
คนตอบยิ้มเซียวให้เลขาฯ สาว อาการป่วยวันนี้คงมีผลมาจากเมื่อวันก่อน ร่างกายเธอต้องรับศึกหนักเมื่ออสูรร้ายไม่ยอมหยุดตักตวง นาถลัดดารู้สึกมึนหัวมาตั้งแต่วันนั้น แต่ที่จามถี่วันนี้ อาจเป็นเพราะฝุ่นในห้องมากกว่า
“พักบ้างนะคะ เรายังต้องเหนื่อยกันอีกนาน”
นาถลัดดายิ้มให้เลขาฯ ของบิดา ซึ่งผ่านการคัดกรองและแนะนำนิสัยใจคอจากอิวานอฟมาแล้ว แพตติเซียไว้ใจได้มาก และที่สำคัญ รู้ข้อมูลทั้งเชิงลึกเชิงตื้นในบริษัท แม้แต่เรื่องของภรรยาประธานบริษัท แพตติเซียยังรู้
“ค่ะ ไม่ต้องห่วงนะคะ แนนนี่อึดพอตัว”
“แล้วงานเดินแบบล่ะคะ เมื่อก่อนแพตตี้เป็นแฟนคลับนาถลัดดา” เลขาฯ สาวชวนคุยหลังจากส่งเอกสารปึกใหญ่ซึ่งประทับตราลับหน้าซองให้หญิงสาว
“อาทิตย์หน้าค่ะ มีงานเดินแบบ รับไว้ก่อนจะเข้ามาทำงานที่นี่ ไม่อยากยกเลิกให้เสียเครดิต เลยขอคุณพ่อทำเป็นครั้งสุดท้าย”
หญิงสาวตอบพร้อมก้มหน้าอ่านเอกสารต่อ ตอนนี้เธอเอ่ยถึงบิดาด้วยคำว่าพ่อได้เต็มปาก เรื่องราวที่เคยขุ่นข้องหมองใจถูกสะสางไปบ้างในบางเรื่อง
หลังเธอเล่าเหตุผลที่ไม่อยากแต่งงานกับคีริลล์ บิดาได้เอ่ยสอนบางอย่าง และเน้นตรงที่ว่าท่านรู้สึกผิดต่อมารดาของเธอมาตลอด ผิดที่คิดว่าการครอบครองทางกายจะทำให้แม่ของเธอรักท่านได้บ้าง น้ำเสียงของท่านเหมือนโหยหาความรักจากแม่ของเธอ ซึ่งนาถลัดดารู้ดีว่าแม่รักพ่อมากแค่ไหน แต่เพราะไม่เคยได้เห็นภาพตอนท่านทั้งสองอยู่ด้วยกัน จึงไม่รู้ว่าพ่อแม่พูดคุยหรือแสดงความรู้สึกเช่นไรยามอยู่ต่อหน้ากันและกัน
“ในห้องนี้เสร็จแล้ว แพตตี้ขอไปดูข้างนอกนะคะ ถ้าคุณแนนนี่ต้องการอะไรเพิ่มบอกได้เลยนะคะ”
เลขาฯ สาวเอ่ยขอตัว ปล่อยให้ประธานฝึกหัดนั่งอ่านเอกสารและเทียบเคียงข้อมูลต่างๆ เพื่อหาความผิดปกติบางอย่าง และเริ่มเจอตอบ้างในบางจุด นี่สินะ ความชะล่าใจของโจรร้ายที่แฝงมาในภาพชายผู้ใจดี
ติ๊ด...ติ๊ด...เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น
หญิงสาวหยิบมาดู เป็นเบอร์ที่ไม่ได้บันทึกไว้ในเครื่อง ซึ่งอาจเป็นผู้จ้างงานที่ได้เบอร์โทรศัพท์มือถือของเธอมาจากเพื่อนนางแบบ
“สวัสดีค่ะ นาถลัดดาพูดค่ะ” หญิงสาวกรอกเสียงหวาน แต่แทบจะตัดสายทิ้ง หากไม่ได้ยินคำขู่
“ถ้าคุณวางสาย ผมบุกไปถึงบริษัทแน่”
คีริลล์คำรามลั่น กลับจากเยี่ยมโบริส เขาก็รีบไปส่งเอเดียน่าที่บ้านพ่อแม่ และขอตัวโดยอ้างว่ามีประชุมสำคัญ แต่พอมาถึงบริษัทสิ่งที่ชายหนุ่มทำคือโทร. หาผู้หญิงหัวดื้อ
“มีอะไร” เธอถามเสียงแข็ง ทำไมเขาไม่หยุดรังควานสักที นี่คงจะรู้เรื่องที่เธอยกเลิกสัญญาแล้วสินะ
“ออกมาพบผมข้างนอกเดี๋ยวนี้” เขาสั่ง และต้องการให้เธอทำตามด้วย
“ฉันไม่ว่าง มีงานต้องทำ หรือถึงว่างก็ไม่ไปพบคุณเด็ดขาด”
ตู๊ด...ตู๊ด...
คีริลล์รู้สึกเหมือนจะได้ยินเสียงของแตก ชายหนุ่มลองก้มมองจึงรู้ว่าตัวเองขว้างเจ้าตุ๊กตาหมีเซรามิกของฝากจากออสเตรเลียแตกไปเสียแล้ว ส่วนปลายสายก็ตัดการติดต่อ แต่คิดหรือว่าแค่นี้จะหยุดเขาได้
ความคิดเห็น |
---|