13

ตอนที่ 12


เพราะงานแต่งงานสายฟ้าแลบ ที่นอกจากจะช็อสะเทือนวงการเซเลบริตี้ไฮโซและเป็นที่น่าจับตามองมากที่สุดแห่งปีแล้ว ยังดูเหมือนว่าจะเป็นงานด่วนงานรีบที่สุดแห่งปีด้วยนี้กำลังใกล้เข้ามาถึง คนในบ้านวิ่งวุ่นกันยกใหญ่ทั้งเรื่องการเตรียมงาน เตรียมชุด เตรียมเรือนหอ ทุกอย่างจะต้องพร้อมในเวลาอันจำกัด

แม้ว่างานนี้จะทั้งใหญ่ ทั้งหนักและคาดการณ์ดูแล้วว่าไม่มีทางจะทัน แต่สุดท้ายก็ยังเสร็จตามกำหนดการจนได้ จนช่อผกาที่เห็นทุกอย่างมาตั้งแต่ต้น ถึงกับต้องกะพริบตาปริบๆ เข้าใจแล้ว ที่เขาว่า เงินบันดาลได้ทุกอย่าง มันเป็นอย่างนี้นี่เอง

แน่นอนว่าคนที่ดูตื่นเต้นและดีใจจนเก็บอาการไว้ไม่อยู่ ก็คงหนีไม่พ้น คุณย่าพริ้มเพราที่สามารถทำตามความตั้งใจ จับหลานชายแฝดสามให้เข้าประตูวิวาห์ได้สำเร็จ แม้จะยังแค่หนึ่งคนก็ตาม แต่ก็นับว่าเป็นสัญญาณที่ดีไม่น้อย แล้วนี่ยิ่งเป็นงานแต่งงานของหลานชายคนโปรดด้วยแล้ว คุณย่ายิ่งปลาบปลื้ม ชื่นบานไปกันใหญ่ ส่วนคนที่ดูจะไร้อารมณ์ ไม่แสดงอาการยินดียินร้ายกับงานแต่งงานครั้งนี้มากที่สุด ก็คงจะเป็นใครไม่ได้อีกเช่นกันนอกจาก...หลานชายคนโปรดของคุณย่านั่นแหละ

เจ้าบ่าวตัวดีที่ยังคงทำงานจนถึงวินาทีสุดท้ายก่อนจะถึงวันงาน แถมยังไม่มีอาการตื่นเต้นใดๆ ฉายอยู่บนใบหน้าเขาเลยด้วยซ้ำ คนที่ดูจะตื่นเต้นดีใจและตั้งหน้าตั้งตารอคอยให้วันนี้มาถึงดูจะเป็น...แฝดน้องคนเล็กเสียมากกว่า นักธุรกิจหนุ่มเจ้าแผนการที่เริงร่ายิ่งกว่าปลากระดี่ได้น้ำ ไม่รู้เป็นเพราะเปอร์เซ็นต์การถูกจับคลุมถุงชนที่คาดว่าจะต่ำลง หรือเป็นเพราะว่าหญิงสาวที่คุณย่าตั้งใจจะจับคู่ให้แฝดพี่ กำลังจะเป็นอิสระกันแน่

คนตัวสูงที่กำลังเดินลงบันไดมาจากชั้นสองอยู่ในเสื้อเชิ้ตสีขาวที่มักจะถูกสวมใส่ดังเช่นทุกวัน ทว่าเสื้อกั๊กสูทสีน้ำตาลอ่อนที่สวมทับบวกกับหูกระต่ายสีชมพูหวานแหววนั้นทำให้เขาดูแปลกตาไป ชายหนุ่มกำลังเดินก้มหน้าก้มตาเช็กอีเมลจากโทรศัพท์มือถือ แม้ว่าวันนี้จะเป็นวันหยุดก็ตาม แต่สำหรับผู้บริหารอย่างเขา งานยังคงอยู่ในหัวสมองตลอดเวลาไม่ว่าจะเป็นวันทำงานหรือไม่ก็ตาม

คุณธาม เดินไปกดไปแบบนั้น เดี๋ยวก็ตกบันไดเอาหรอกค่ะเสียงนมผันที่กำลังดูแลความเรียบร้อยอยู่ที่โถงของบ้านเอ่ยทักขึ้น

ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นมองตามเสียง หากแต่สิ่งที่วิ่งเข้ากระแทกสายตาของเขากลับไม่ใช่ภาพของต้นเสียง ทว่าเป็น...สาวน้อยที่ยืนเป็นผู้ช่วยอยู่ข้างๆ นั่นต่างหาก

คนตัวเล็กที่ปกติเธอจะอยู่ในชุดที่สุดแสนจะธรรมดากับใบหน้าหมดจดไร้เครื่องสำอาง หากตอนนี้ชุดเดรสกระโปรงสั้นเหนือเข่าสีชมพูอ่อนกับการแต่งหน้าบางๆ พร้อมกับผมยาวที่ถูกถักเปียสานกันไปมานั้น กำลังทำให้ขาของคนที่มองมาหยุดชะงัก

ธามมองไปยังยายเด็กกะโปโลที่ตอนนี้ภาพที่เขาเห็นกำลังย้ำชัดว่าที่จริงแล้วเธอก็ไม่ได้...กะโปโลสักหน่อย เธอเป็นสาว...สาวสวยอย่างที่คุณย่าบอกจริงๆ ด้วย เขาจำได้ว่า วันแรกที่ได้พบกับเธอ เธอก็ดูสวย สวยจนเขารู้สึกวูบวาบ แต่มันก็ไม่เหมือนกับตอนนี้ วันนั้นเธอสวยแบบนักร้องสาวที่ดึงดูดสายตาของลูกค้าชายคนหนึ่ง แต่วันนี้...เธอดูสมวัย เธอดูน่ารัก ไม่มากไป ไม่น้อยไป ดูมีเสน่ห์ในแบบที่เป็นตัวเอง

ชายหนุ่มแอบลอบยิ้มในใจ ก่อนจะเดินตามหัวใจเข้าไปหาเป้าหมาย แต่ยังไม่ทันที่เขาจะได้เอ่ยอะไร เสียงนมผันก็พูดแทรกขึ้นเสียก่อน

คุณธามหันมาหานมนี่เลยหญิงชราวัยหกสิบกว่าเอื้อมมือไปดึงให้คู่สนทนาหันมาหา มือเหี่ยวย่นที่บอกประสบการณ์การทำงานยกขึ้นจัดความเรียบร้อยให้กับร่างสูงราวกับกำลังดูแลหลานชายแท้ๆ ของตัวเอง ไม่เอาแขนเสื้อแบบนี้นะคะคุณธาม วันนี้นมขอให้เรียบร้อยหน่อย ซนเป็นลิงเป็นค่างไม่ได้เด็ดขาดนะคะ

โห่ นมก็พูดไปโน่น ผมเคยเป็นลิงเป็นค่างที่ไหน พูดซะเสียหมดธามเอ่ยเถียงพลางชำเลืองไปย่นคิ้วปรามสาวตัวเล็กที่กำลังยืนกลั้นยิ้ม

แบบนี้สิ หล่อกว่าตั้งเยอะ วันนี้หล่อกว่าทุกวันเลยนะคะคุณธาม

   “หล่อกว่าทุกวันอะไรล่ะ ชุดบ้าอะไรก็ไม่รู้ หูกระต่ายชมพูเนี่ยใครมันคิด ตุ๊ดชิบเป๋ง นี่ถ้าไม่ติดว่าไอ้หมอมันมีเพื่อนน้อยนะ ผมไม่ยอมเป็นให้หรอกนะ เพื่อนเจ้าบ่าวบ้าบอเนี่ย

ช่อผกาเผลอระบายยิ้มขึ้นบนใบหน้า กินผึ้งแต่เช้าเลย ตาหมีเอ๊ย

   “ไม่เอาค่ะไม่เอา วันนี้วันมงคล อย่าเพิ่งหงุดหงิด สีชมพูมันเป็นธีมของงาน ดูซิ หนูช่อยังใส่สีชมพูเหมือนกันเลย เข้ากันดีออก

หมีขี้บ่นถึงกับกระตุก เพราะประโยคสุดท้าย ก่อนจะถามออกไปอย่างมีความหวังเหรอ เข้ากันเหรอ เข้ากันเหรอนม

เข้าสิคะคำเน้นย้ำของนมผัน ทำเอาคนฟังฉีกยิ้มกว้าง สองแขนรวบขึ้นกอดอก แล้วยืดตัวขึ้นอย่างผ่าเผย ลูกโป่งแห่งความสุขถูกเป่าลมให้พองขึ้นอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะโดนนมผัน

เดี๋ยวไปที่งานเขาก็ชมพูเหมือนกันหมด เข้ากันทั้งงานเลยค่ะคุณธาม” ...เจาะลูกโป่งให้เหี่ยวลงในทันที

ชายร่างสูงที่จู่ๆ ก็รู้สึกหน้าชาขึ้นมาอย่างไร้เหตุผล จึงตัดสินใจจบบทสนทนาอันสะเทือนใจลงแค่นั้น แล้วหันไปไล่สายตาสำรวจคนตัวเล็กที่ฟังยืนอยู่แทน

ชุดเดรสแขนสั้นกระโปรงพลิ้วไหวระดับด้วยลูกไม้สีอ่อนที่เข้ากันดีกับกำไลมุกสีขาวที่ข้อมือบางของเธอ เห็นแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่าใครเป็นคนสรรหาชุดให้สาวน้อยคนนี้ มันช่างงดงามเข้ากับเธอได้ดีอย่างหาที่ติไม่ได้ มันดีเสียจน...เขายากจะละสายตาจากเธอไปได้ เขามั่นใจว่าเธอต้องสวยโดดเด่นไม่แพ้เซเลบริตี้สาวคนไหนในงาน และกำลังมั่นใจว่า...เธอต้องดึงดูดสายตาหนุ่มๆ ในงานไม่แพ้พวกเธอเหล่านั้นด้วยเช่นกัน

เด็กนี่ต้องไปงานด้วยเหรอนม แล้วไปเอาชุดนี้มาจากไหนหมีหวงก้างเริ่มออกอาการ

ต้องไปสิคะ หนูช่อก็ต้องไปดูแลคุณย่า

 “ผมดูแลก็ได้ ไม่ต้องให้ไปหรอก อยู่บ้าน อยู่บ้านเลย ไม่ต้องไปหรอก

ช่อผกาหันมองนมผันเพราะไม่รู้ว่าเธอควรจะทำตามคำสั่งเขาไหม จู่ๆ ก็มาสั่งไม่ให้ไป...คนอะไรแกล้งกันได้ทุกเรื่องจริงๆ

ไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวคุณธามก็ไปกับเพื่อน อยู่ติดที่ติดทางได้ที่ไหนกัน ให้หนูช่อไปนั่นแหละค่ะดีแล้ว

คนไม่ได้ดั่งใจสะบัดลมหายใจ ก่อนจะหันไปแขวะสาวน้อยเดรสชมพูที่เอาแต่ยืนเงียบ

แล้วใครให้แต่งหน้าเนี่ย ใครให้แต่งหน้า หา?”

ย่าเอง” เสียงคำตอบที่ผ่ากลางเข้ามาก็ทำเอาคนถามถึงกับสะดุ้ง ทำไมตาธาม มีปัญหาอะไร

ก็...ไม่มีหรอก แค่เห็นว่าเป็นเด็กเป็นเล็ก แต่งหน้ามากไปมันไม่ดี เดี๋ยวหน้าแก่ ก็แค่นั้นหลานชายตัวแสบเสียงอ่อนลง เมื่อประมุขของบ้านเสียงแข็งใส่

ถ้าไม่มีปัญหาก็ดี ไปกันได้แล้ว เดี๋ยวก็สายกันหมด ย่าต้องไปดูพี่เราที่โรงแรมด้วย ไม่รู้ว่าแต่งตัวเรียบร้อยแล้วรึยัง แล้วเราจะเอารถไปอีกคันใช่ไหมตาธาม รีบตามาล่ะ อย่าเถลไถล ย่ารออยู่ ป่ะ เราไปกันนมผัน หนูช่อ

ค่ะคุณย่า

ในขณะที่สองหญิงชราเดินนำออกไปก่อน และคนตัวเล็กกำลังจะเดินตาม มือหนาของอีกคนก็เข้ามารั้งต้นแขนของเธอเอาไว้

ไปทำงานนะ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอแอบอู้งานไปหว่านเสน่ห์ผู้ชายคนไหนที่งานแต่งล่ะ ไม่อย่างนั้น...กลับมาบ้านฉันเล่นเธอหนักแน่

ช่อผกาขมวดคิ้วแน่นมองคนพูด ก่อนจะสะบัดให้ท่อนแขนของเธอหลุดออกจากการควบคุม

บ้า”

ชายหนุ่มแน่นิ่งไปชั่วขณะ เพราะคำพูดสุดท้ายที่ถูกส่งเข้ากระแทกเต็มหน้า ธามยืนมองคนตัวเล็กที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามคุณย่าไปขึ้นรถ แขนกำยำยกขึ้นเท้าสะเอว ก่อนจะพ่นลมหายใจ

โห่ เดี๋ยวนี้ไม่กลัวเลย เสียการคุมอำนาจหมด ทำไงดีวะเนี่ย

 

ห้องบอลรูมของโรงแรมหกดาวที่ตั้งตระหง่านอยู่ใจกลางย่านธุรกิจ อันเป็นหนึ่งในโรงแรมที่ถูกพูดถึงในอันดับต้นๆ ของกิจการในเครืออัครากรุ๊ป พิธีแต่งงานถูกรันให้ไหลลื่นไปตามคิวที่บริษัทออร์แกไนเซอร์วางเอาไว้ได้อย่างไม่ขาดตกบกพร่อง ความชื่นมื่นเบ่งบานอยู่บนใบหน้าของผู้ร่วมงานมาตั้งแต่ช่วงเช้า อันเริ่มจากพิธีสงฆ์ ขบวนขันหมาก กั้นประตูเงินประตูทอง พิธีสู่ขอและนับสินสอด จนล่วงเลยมาถึงพิธีรดน้ำสังข์ที่เริ่มมีความชุลมุนเกิดขึ้นเล็กน้อยเพราะแขกในงานต้องทยอยกันออกมารดน้ำให้คู่บ่าวสาว

เพื่อนเจ้าบ่าวสองคนที่ความสนใจไม่ได้อยู่ในขั้นตอนใดๆ ของพิธีการที่กำลังดำเนินอยู่ขณะนี้เลย หากแต่กำลังสอดส่ายสายตาไปกับสิ่งยั่วยวนใจอันสวยงามที่เดินอยู่เต็มงานต่างหาก

โหย สมเป็นงานแต่งไฮโซเกล็ดดาว เซเลบริตี้ที่พ่วงตำแหน่งนางแบบชื่อดังจริงๆ เลยว่ะ มีแต่ขายาวๆ หน้าเก๋ๆ เดินกันให้ว่อนไปทั่วงาน ไม่รู้จะมองคนไหนก่อนดีเลยเนี่ยชินกฤตว่าโดยไม่ละสายตาไปจากของสวยๆ งามๆ ที่เขาว่า แกเล็งคนไหนวะไอ้ธาม

มันจำเป็นต้องมีดอกไม้เยอะขนาดนี้เลยเหรอวะ ถ้าฉันเป็นพวกแพ้เกสรดอกไม้ ฉันต้องตายคางานนี้แหงๆ

ทนายความหนุ่มหันขวับไปหาเพื่อนทันทีเพราะคำตอบที่ไม่อยากจะเชื่อหู และภาพที่เขาเห็นคือแคซาโนวาหนุ่มกำลังเงยหน้าขึ้นมองดอกไม้ที่เรียกว่ายกทั้งสวน แล้วเอามาห้อยอยู่บนเพดานในห้องนี้เลยก็ว่าได้ ทนายชินกะพริบตาปริบๆ ดูเหมือนว่าของสวยๆ งามๆ ของเขาจะไม่เหมือนกับของคู่สนทนาเสียแล้ว

แกดูอะไรของแกวะไอ้ธาม

คนที่ถูกสะกิดละความสนใจจากดอกไม้แล้วหันมาเพื่อน หา? อะไรนะ

แกดูอะไรของแก เดี๋ยวนี้ไม่ชมหญิง แต่เปลี่ยนมาเป็นสายชมดอกไม้แทนแล้ว?”

ก็นางแบบพวกนี้ฉันเจอบ่อยไป เวลาไปงานแฟชั่นที่เขาเชิญธามตอบไปส่งๆ มันไม่ได้เป็นเพราะเขาเจอพวกเธอบ่อยจนหมดความน่าสนใจอย่างที่พูดหรอก แต่เป็นเพราะผู้หญิงทั้งงาน ไม่มีใครโดดเด่นจับใจเขามากไปว่า สาวน้อยผมเปียที่นั่งอยู่ข้างคุณย่าที่โซฟาด้านหน้าสุดโน่นเลย

เฮ้ยๆๆๆ ธามๆๆ ผู้หญิงคนนั้นใครวะเสียงคำถามที่ฟังดูกระตือรือร้นจนเกิดเหตุทำให้ชายหนุ่มต้องละจากความคิด แล้วหันมาสนใจเพื่อน

คนไหน

ก็คนตัวเล็กๆ ที่นั่งข้างคุณย่านั่นไง ญาติแกเหรอวะ ไม่เคยเห็นเลย

คำบอกตำแหน่งที่ทำให้คนถูกถามถึงกับสะดุดกึก ดูเหมือนคนในดวงใจของเขาจะดึงดูดสายตาชายหนุ่มในงานมากเกินไปเสียแล้ว

ธามเหลือบตาไปมา ครุ่นคิดอย่างลังเลใจว่าเขาควรจะบอกเพื่อนไปว่าอย่างไรดี เพราะดูจากสีหน้าของคนถามแล้ว คงไม่ได้ถามเล่นๆ เสียด้วย

ไม่ใช่ญาติหรอก เป็นผู้ช่วยพยาบาลที่มาดูแลคุณย่าที่บ้านน่ะ เพิ่งเข้ามาทำงานได้สัก...สองเดือนได้ละมั้ง

เฮ้ย  มีของดีอยู่ในบ้านขนาดนี้ ทำไมไม่บอกกันบ้างวะ โคตรน่ารักเลย

ผู้บริหารหนุ่มเหล่ตามมองคนพูดที่กำลังมองหญิงสาวคนนั้นอย่างไม่วางตา ก่อนจะหันหน้าหนีออกนอกวงสนทนาอย่างเคืองๆ แต่ชินกฤตก็ไม่วาย สะกิดให้เขาหันกลับมา

ชื่ออะไรวะธาม

เด็กคุณย่า คุณย่าหวงมาก แกอย่าไปยุ่งเลยหมีที่กำลังจะกินผึ้งรีบกันท่า เมื่อรับรู้ถึงความจริงจังของเพื่อนที่เริ่มพุ่งสูงขึ้น

คุณย่าแกรู้จักฉันดี เห็นฉันมาตั้งแต่เด็กๆ ท่านเอ็นดูฉันจะตาย ถ้าฉันชอบ เชื่อดิ คุณย่าแกไม่ว่าหรอกธามใช้ลิ้นดุนกระพุ้งแก้มด้วยความหงุดหงิดที่ก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ ตกลงชื่ออะไรบอกมาเร็วดิวะ

คนถูกกระตุ้นพ่นลมหายใจออกมาเต็มแรง ชื่อชะ...ชายหนุ่มหยุดคำพูดเอาไว้ เมื่อความคิดหนึ่งพุ่งเข้าแทรก ก่อนจะอมยิ้มเล็กๆ พลางชำเลืองมองเพื่อนที่ยังมองผู้หญิงคนนั้นอยู่ ไม่ยอมย้ายสายตาไปไหน ชะ...ช้าง ชื่อช้าง

หา?” ชินกฤตหันกลับมาหาคนพูด ผู้หญิงอะไรชื่อช้างวะ

ก็ผู้หญิงที่...เมื่อก่อนไม่ได้เป็นผู้หญิงไง

ไม่จริงอ้ะ  เอวบางร่างน้อยขนาดนี้ จะใช่เหรอ แกอย่ามาอำน่ะไอ้ธาม

อำอะไรล่ะ นี่น้องๆ ตรีชฎาเลยนะครับ

เฮ้ย ?ทนายชินร้องอุทานซ้ำด้วยตาที่เบิกโตอย่างไม่อยากจะเชื่อหู ก่อนอีกคนจะพยักหน้ายืนยันอย่างหนักแน่

จริง”

โหย เสียดายว่ะคนผิดหวังถอนหายใจอย่างคอตก พร้อมกับที่คนเจ้าเล่ห์พยายามกลั้นยิ้มอย่างสุดตัว ตีหน้าสลดแล้วตวัดแขนรอบบ่าเพื่อนซี้ราวกับจะให้กำลังใจ

อืม เสียดายเนาะ แต่ตัดใจเหอะ อย่าไปยุ่งเลย โลกมันโหดร้ายกว่าที่แกคิดเยอะ...เฮ้อ”  

คนตัวเล็กขอแยกตัวออกมาเมื่อเห็นว่าพิธีต่างๆ เริ่มเรียบร้อย การมีโอกาสได้เข้าร่วมเป็นแขกในงานแต่งงานแบบไทยครั้งแรกของเธอ ช่างเป็นอะไรที่น่าตื่นตาตื่นใจสุดๆ ดอกไม้นานาชนิดที่ประดับตกแต่งเอาไว้ทั่วงาน ทั้งสวยทั้งหอมอย่างกับเดินอยู่ในสรวงสวรรค์แหนะ

คนตัวสูงแอบมองหญิงสาวที่เดินไปถ่ายรูปตรงนั้นทีตรงนี้ที เขาเลื่อนสายตาตามการเปลี่ยนตำแหน่งของเธอด้วยใบหน้าเปื้อนรอยยิ้ม จนกระทั่งเธอเปิดประตูบานโตแล้วเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงไป ชายหนุ่มรีบวางแก้วเครื่องดื่มในมือลง แล้วกุลีกุจอตามเธอออกไปอย่างไม่ลังเล

อ้าว เข้าห้องน้ำหรอกเหรอธามตอบคำถามในใจออกมาพึมพำ ก่อนจะเอนตัวพิงกำแพงด้านหนึ่งของทางเดินไปห้องน้ำ แล้วยกสมาร์ตโฟนขึ้นกดเล่นเพื่อฆ่าเวลา...เอ่อ...ไม่ได้รอใครนะ ไม่ได้รอ

ไม่นานนัก คนที่เขา...ไม่ได้รอก็เดินออกมาจากห้องน้ำ คนตัวบางสะดุดกับเงาสะท้อนของตัวเองบนกระจกบานใหญ่หน้าห้องน้ำ แล้วก็เพิ่งคิดได้ว่านี่ก็เป็นครั้งแรกเหมือนกันที่เธอได้มีโอกาสได้แต่งตัวสวยๆ แบบนี้ ช่อผกายิ้มให้กับสาวน้อยชุดชมพูในกระจกเงา มือเรียวล้วงเอาสมาร์ตโฟนเครื่องเล็กในกระเป๋าถือขึ้นมา ก่อนจะยื่นออกไปสุดแขน พยายามจะถ่ายภาพตัวเองให้เห็นได้มากที่สุด

คนตัวสูงที่ยืนห่างออกไปไม่มากยิ้มระคนหัวเราะให้กับท่าทางอันน่ารักของเธอ ก่อนขายาวจะสาวเท้าเข้าไปหาโดยไม่ต้องรอให้สมองสั่ง

ถ่ายให้เอาไหมเขาเอ่ยถามคนตัวเล็ก ก่อนจะกดยิ้มมุมปากส่งให้ตามไปด้วย

ช่อผกามองคู่สนทนาของเธอกลับด้วยใบหน้าที่เจือความฉงนเล็กน้อย จู่ๆ ผู้ชายที่เพิ่งจะโวยวายใส่เธอยกใหญ่เมื่อตอนจะออกจากบ้าน ก็เข้ามาพูดดีด้วย คงไม่ได้มีแผนจะแก้แค้นเรื่องที่เธอเคยทำไว้หรอกใช่ไหม

มาดิ อยากถ่ายให้เห็นเต็มตัวไม่ใช่เหรอ เดี๋ยวฉันถ่ายให้ธามเอ่ยซ้ำกับคนตรงหน้าอีกครั้ง มือหนาถือวิสาสะเอื้อมไปคว้าเอามือถือมาจากคนที่ยังยืนงงอยู่ ก่อนจะถอยให้ห่างจากเธอพอที่จะสามารถเก็บภาพหญิงสาวให้เข้าเฟรมได้หมด

ยิ้มด้วยดิ จะเอาหน้าเอ๋อๆ แบบนี้เหรอ

คุณธาม  ไม่ได้เอ๋อซะหน่อยคนที่ดูเหมือนสติเริ่มเข้าที่ว่าพลางหัวเราะอย่างเขินๆ

ธามหัวเราะเคล้าตามไป แล้วกดชัตเตอร์เก็บภาพคนชุดชมพูที่ยืนยิ้มหวานจนเขาอดฉีกยิ้มกว้างไปด้วยไม่ได้ แต่เพียงไม่กี่ครั้งที่เขากดบันทึกภาพ ความขัดใจบางอย่างก็ผูกคิ้วหนาเข้าหากัน

นี่มันมือถือรุ่นไหนกัน กล้องเบลอขนาดนี้ ถ่ายคนให้เป็นผีได้เลยนะ

คุณธาม  ว่าอีกแล้ว เอาคืนมาเลยคนตัวเล็กพุ่งตัวเข้ามาคว้าเอาอุปกรณ์ไฮเทคที่กำลังถูกใครบางคนวิจารณ์ให้กลับไปอยู่ในการครอบครอง ก่อนจะขว้างค้อนตามมาให้เบาๆ แต่คนที่ถูกค้อนตีหัวกลับยิ้ม

ใช้เครื่องฉันถ่ายดีกว่ามา เดี๋ยวส่งให้

ช่อผกาที่กำลังเลื่อนดูภาพที่ถูกถ่ายไว้หันมองคนพูดที่ยกสมาร์ตโฟนรุ่นใหม่ล่าสุดของเขาขึ้นมา

ชัดกว่าเยอะเลยนะไม่ว่าเปล่า เขาลั่นชัตเตอร์ใส่คนที่ไม่ได้ตั้งตัว แล้วหันหน้าจอไปให้เธอดู นี่ไง เก็บความเอ๋อได้ชัดทุกเม็ดเลย

คุณธาม...สาวน้อยเอ่ยยานคาง เพราะถูกเขาแกล้งอีกจนได้ ลบด้วยนะ

ไปๆ ไปยืนที่เดิมเร็ว เดี๋ยวถ่ายให้ เร็วดิ

แม้ว่าช่อผกาจะอมยิ้มมองคนพูดอย่างหวาดระแวงหน่อยๆ แต่ก็ยอมทำตามที่เขาบอกอย่างว่าง่าย

  “อืม...ม ลองบิดตัวไปทางซ้ายนิดนึงดิ๊

   “แบบนี้พอไหมคะสัญลักษณ์โอเคถูกชูให้กับหญิงสาว ก่อนยิ้มแฉ่งของเธอจะถูกส่งกลับมา

ทีนี้ลองหมุนเร็วๆ ดิ๊ ให้กระโปรงมันพลิ้วๆ เครื่องนี้มันจับได้นะ เดี๋ยวฉันจะลองถ่ายให้

จริงเหรอคะคนตัวเล็กตาโต งั้นเอาละนะ นึง สอง ซั่ม”

เฮ้ย  พอๆๆ หยุดๆหญิงสาวหยุดหมุนแล้วหันมาขมวดคิ้วให้กับเขาแทน ไม่เอาแล้วๆ มันพลิ้วไป เห็นขึ้นไปถึงต้นขาโน่น ลิงจะออกมาอยู่แล้ว หยุด หยุดเลย

อะไรของคุณช่อผกาเอ่ยระคนหัวเราะเพราะท่าทางโวยวายแปลกๆ ของเขา เธออดยอมรับไม่ได้ ว่าเวลาผีไม่สิงแบบนี้ เขาดูน่ารักจนเธอเก็บยิ้มไว้ไม่อยู่เลยจริงๆ

ฉันถ่ายใกล้ๆ ให้บ้างดีกว่าเขาว่าพร้อมกับเดิมตรงเข้าไปหา แล้วเริ่มถ่ายภาพให้เธออีกครั้ง

การถ่ายภาพที่ช่อผกาไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปแค่ไหน ถ่ายไปเท่าไหร่ มีใครมองอยู่ไหม จะรู้แต่เพียงว่า...เธอมั่นใจว่ารูปที่เขาถ่ายให้...ไม่มีรูปไหนที่เธอไม่ยิ้ม

ไหนคุณธาม ฉันขอดูบ้างสิคะคนตัวเล็กว่า ก่อนจะกึ่งเดินกึ่งวิ่งเข้ามาหาร่างสูงที่กำลังเลื่อนดูภาพถ่ายฝีมือเขาอยู่ และทันทีที่เธอเดินเข้าไปใกล้

ไอ้เหม่งเอ๊ย”คนตัวสูงว่าพร้อมกับใช้นิ้วชี้ตีเบาๆ ที่หน้าผากของเธอ

หื้อคนไม่ทันได้ตั้งตัวรีบถอยหลังหนี มือบางยกขึ้นปกป้องจุดที่ถูกโจมตีเอาไว้ทันที ไม่เหม่งซะหน่อยเธอขว้างค้อนตามไปให้เขาซ้ำ

ไม่เหม่งอะไรดูนี่ คนตัวสูงโน้มตัวลง แล้วเลื่อนภาพที่เขาถ่ายให้เธอดู ว๊าย...เหม่งจ๋าเลยเนี่ยมือหนายกขึ้นจับศีรษะคนตัวเล็กโยกไปมา

ช่อผกากลั้นยิ้มอมความเคอะเขิน ชำเลืองขึ้นค้อนสายตาใส่คนขี้แซ็ว ไม่เอาแล้วค่ะ ฉันกลับไปหาคุณย่าดีกว่า ส่งรูปมาให้ด้วยนะ

ธามพยักหน้าที่ยังไม่อาจหุบยิ้ม ครับ

และทันทีคนตัวเล็กคล้อยหลังเดินห่างออกไปได้ไม่กี่ก้าว

เหม่ง”

สาวน้อยร่างบางหันขวับไปย่นคิ้วให้ตาหมีที่ตะโกนไล่หลังมา ใครอนุญาตให้เรียกแบบนั้นกัน...บอกแล้วไงว่าไม่เหม่งเสียหน่อย

จะแกล้งอะไรอีกคุณธาม

คนถูกดักคอหัวเราะเบาๆ ให้กับคำถาม

ลุกนั่งระวังกระโปรงด้วย

คำตอบที่เป็นเพียงประโยคสั้นๆ แต่กลับทำเอาคนตัวเล็กถึงกับรู้สึกวาบไปทั้งตัวอย่างน่าประหลาด ช่อผกานิ่งมองเจ้าของรอยยิ้มบางๆ ที่ส่งตามมาให้ ก่อนจะรีบตอบกลับไป ก่อนที่ความเขินอายที่ไม่ควรมี จะเผยให้อีกคนรับรู้ไปมากกว่านี้

อื้ม รู้แล้วน่า

คนตัวเล็กรีบหันหน้าไปทางเดิม แล้วก้าวฉับๆ กลับเข้าห้องจัดเลี้ยงไป เมื่อแน่ใจว่าเธอพ้นจากสายตาของตาหมีตัวร้ายแล้ว มือบางยกขึ้นแนบอก รับรู้แรงเต้นของหัวใจที่เพิ่มขึ้นอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างบางแน่นิ่งไปชั่วขณะราวกับกำลังทบทวนกับสิ่งที่เกิดขึ้น ก่อนสาวเจ้าจะกัดฟันแน่น แล้วสูดลมหายใจเข้าลึกสุดปอด

อย่าหวั่นไหวกับเขาเด็ดขาดนะช่อ นั่นน่ะ แคซาโนวาตัวพ่อเลย

 

งานมงคลสมรสที่มีขึ้นตั้งแต่ช่วงเช้าลากยาวมาจนถึงพิธีฉลองในช่วงค่ำนี้กำลังจะสิ้นสุด เมื่อแขกผู้ใหญ่เริ่มทยอยกันกลับ จึงเป็นเวลาที่เจ้าภาพอย่างคุณย่าพริ้มเพราต้องขอตัวกลับบ้าง แม้ว่าจะเหน็ดเหนื่อยมาตลอดทั้งวัน ทว่าท่านยังคงยิ้มแย้ม ความสุขฉายอยู่บนใบหน้าจนผู้คนที่พบเห็นรับรู้ได้อย่างชัดเจน

ตาธามหญิงชราที่เพิ่งเดินออกจากห้องจัดเลี้ยงมาพร้อมกับแม่บ้านคนสนิท และสาวน้อยผู้ดูแล เอ่ยเรียกหลานชายตัวแสบที่กำลังยืนเอามือล้วงกระเป๋าคุยกับเพื่อนของเขาอยู่ห่างออกไปไม่มาก หลานชายขานรับ แล้วเดินเข้าไปหา

ย่าจะกลับแล้วนะ เราจะอยู่งานรอบดึกต่อใช่ไหม

เขาเรียกว่า อาฟเตอร์ปาร์ตี้ครับคุณย่า งานรอบดึกอะไรล่ะ

ก็นั่นแหละ ถ้าเป็นไปได้ก็กลับไปนอนที่บ้านนะ แล้วอย่าเมาให้มันมากนักล่ะ ขับรถกลับบ้านมันอันตราย ถ้าไม่ไหวก็เรียกแท็กซี่เลย เข้าใจไหม

คุณย่าก็พูดไป ผมเคยเมาขนาดนั้นที่ไหนกัน

แล้วไอ้หมาที่มันชอบนอนตายอยู่ชั้นล่างนั่นมันใคร

สองคนที่ยืนข้างๆ คุณย่าแอบอมยิ้ม

โห่ คุณย่าครับ นี่หลานชายนะ ให้เป็นหมาเลยเหรอ

ก็มันสมควรไหมล่ะคุณย่าพริ้มเพราส่งสายตาตำหนิหลานชายลอดแว่น

ช่อผกายืนมองท่าทางของคนตรงหน้า แล้วก็อดรู้สึกแปลกๆ ในใจไม่ได้ เมื่อตอนเช้า เขาเข้ามาคุยกับเธออย่างสนิทสนม แต่พออยู่ต่อหน้าคุณย่า...เขาไม่ชายตามองเธอเลยสักนิด 

งั้น เดี๋ยวผมเดินไปส่งคุณย่าที่รถดีกว่าเมื่อโดนว่ามากๆ เข้า แฝดเล็กของย่าก็รีบงัดลูกอ้อนขึ้นมาเอาใจ แต่ดูเหมือนมันจะไม่ได้ผลเท่าไร เพราะระดับคุณย่าพริ้มเพราแล้ว มีหรือที่จะตามไม่ทัน

ไม่ต้องทำมาเป็นเอาใจย่าเลย เชิญคุยกับสาวๆ ของแกไปเถอะ แล้วอย่าทำอะไรให้เป็นข่าวครึกโครมอีกล่ะคนหลานพยักหน้ารับด้วยรอยยิ้มแห้งๆ ก่อนจะย่าหันไปเอ่ยกับคนข้างตัว

งั้นเรากลับกันเถอะ นมผัน หนูช่อ” 

ทันทีที่คุณย่าคล้อยหลัง มือหนาก็คว้าเอาต้นแขนของสาวน้อยชุดชมพูเอาไว้ สาวร่างบางสะดุ้ง ก่อนจะหันไปหาคนตัวสูงโดยอัตโนมัติ

เดี๋ยวส่งรูปให้นะคนตัวเล็กนิ่งมองเสี้ยววินาที ก่อนจะพยักหน้ารับด้วยหัวใจเต้นแรง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะยังตกใจไม่หาย หรือเป็นเพราะดวงตาคมที่กดลงมาที่ดวงตาของเธอกันแน่

ฝากบอกฝนให้หน่อยว่าไม่ต้องล็อกบ้านนะ ฉันไม่ได้เอากุญแจบ้านมา ตอนแรกคิดว่าจะไม่กลับบ้านน่ะ

ค่ะเธอเอ่ยสั้นๆ แต่เขากลับกดรอยยิ้มเบาๆ ที่มุมปาก ตามมาให้

รีบนอนนะ วันนี้เหนื่อยมาทั้งวันแล้ว

ช่อผการีบหลบสายตาเมื่อรู้สึกว่าหัวใจดวงน้อยกำลังเต้นแรงว่าเดิม

ค่ะ ฉันไปก่อนนะคะ เดี๋ยวคุณย่าจะรอคนตัวเล็กว่า ก่อนจะรีบจ้ำอ้าวหนีจากสถานการณ์ที่เธอเริ่มรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยต่อหัวใจ แต่พอเดินห่างออกมาไม่เท่าไร แล้วหันกลับไป คนตัวสูงก็ยืนส่งยิ้มบางๆ ให้ มองเธอเดินออกไปจนสุดสายตา

เพราะเขาเป็นแคซาโนวาหรือเปล่านะ เขาถึงได้รู้ว่าต้องทำยังไงถึงจะเขย่าหัวใจผู้หญิงได้ ช่อผกานั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกรถ แล้วปล่อยให้เหตุการณ์ต่างๆ ของวันนี้วิ่งวนอยู่ในหัวของเธอ คำถามที่หาคำตอบไม่ได้ เริ่มก่อตัวขึ้นเรื่อยๆ จนเจ้าตัวต้องถอนหายใจเพื่อปลดปล่อย และตอนนั้นเอง สมาร์ตโฟนเครื่องเล็กในกระเป๋าก็ร้องทักขึ้น มือบางหยิบขึ้นดู แล้วก็พบว่าคนที่สร้างคำถามกวนหัวใจกำลังเข้าคุกคามใจดวงน้อยของเธออีกครั้ง 

ดูเหมือนว่า รูปถ่ายเมื่อตอนงานช่วงเช้าจะถูกส่งผ่านแอพลิเคชั่นยอดฮิตมาให้เธอ สาวร่างบางยิ้มจางๆ แล้วเปิดดู แต่คิ้วโก่งได้รูปก็ต้องย่นเข้าหากันอย่างไม่ได้ตั้งใจ เพราะอะไรน่ะเหรอ ก็ตอนถ่าย ถ่ายไปตั้งหลายรูป แต่ตอนส่งมาให้ ไหงส่งมาให้แค่รูปเดียว แถมยัง...

ใครอนุญาตให้คุณเติมหู เติมหนวดแมวให้ฉันไม่ทราบ’ หญิงสาวพิมพ์ตอบกลับแกมดุ หากใบหน้าของเธออมยิ้ม

ลองแอพ’ คนที่เปิดอ่านอย่างรวดเร็วตอบกลับ

ไม่อนุญาตให้ลองแอพกับรูปฉันค่ะ

รูปเธอ แต่ฉันถ่าย อยู่ในเครื่องฉัน มันเป็นของฉันดิ ต้องขออนุญาตด้วยเหรอ’ 

คนอ่านเม้มปากเพื่อกลั้นยิ้ม

ตามมารยาทแล้วคิดว่าต้องขอนะคะ

อ้าว ไอ้ธามคนไม่มีมารยาทเหรอเนี่ย เอาไงดีล่ะทีนี้ ติ๊กต๊อกๆ

ไถ่โทษด้วยการส่งรูปทั้งหมดมาให้ฉันค่ะ

 ‘หูย โทษหนักจัง’ 

ช่อผกาย่นจมูกใส่หน้าจอโทรศัพท์ หมั่นไส้ชั้นเชิงของใครบางคนจริงๆ อย่าให้มีรูปบ้างนะ จะเอาคืนให้เข็ดเลย 

แล้วก็เหมือนโชคเข้าข้าง หญิงสาวพลันนึกบางอย่างขึ้นได้ เรียวปากบางฉีกยิ้ม ก่อนจะปิดแอพลิเคชั่นสนทนาลง แล้วเปิดเว็บค้นหาขึ้นมาแทน 

คนดังแบบนี้ ต้องมีรูปเขาในอินเทอร์เน็ตบ้างล่ะ

หลังจากไล่สายตาผ่านเนื้อหาข่าวมากมายที่ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นการกล่าวถึงกิตติศัพท์ความเจ้าชู้ เปลี่ยนผู้หญิงเป็นว่าเล่นของเขา สุดท้ายเธอก็ได้ภาพถ่ายที่เธอคิดว่าน่าจะเหมาะแก่การแก้แค้นครั้งนี้มากที่สุด คนตัวเล็กเปิดรูปภาพในแอพลิเคชั่นบนสมาร์ตโฟนของเธอ ก่อนจะจัดการเติมหน้าตาให้พ่อเพลย์บอยรูปหล่อ ได้หล่อมากขึ้นกว่าเดิม จนอดคิดไม่ได้ว่าถ้าเธอแอบปล่อยภาพนี้ลงบนโลกโซเซียล พรุ่งนี้อาจจะมีข่าวให้เธอได้นั่งขำท้องคัดท้องแข็งก็เป็นได้

ช่อผกากดส่งภาพที่เธอเติมแต่งไปให้คู่สนทนาคนเมื่อครู่ และก็เพียงไม่กี่วินาทีหลังจากนั้น

อะไร ฉันเป็นหมีเหรอ ใครๆ ก็เรียกฉันว่าเสือธาม ให้เป็นหมีได้ไง อ่อนว่ะ เสียชื่อหมด

หมีขี้บ่นเถอะ เหมาะกับคุณที่สุดแล้ว

ใครขี้บ่นกัน เดี๋ยวเหอะ กลับบ้านไปจะดีดให้เหม่งแตกเลย’ 

ช่อผกาแอบลอบยิ้มให้กับคำคาดโทษ 

แล้วนี่ถึงบ้านรึยัง’ 

เพิ่งถึงค่ะ ส่งรูปมาได้แล้วคุณ อย่าลีลา’ หญิงสาวส่งข้อความให้เขา ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลงกระเป๋า เพื่อทำหน้าที่ประคองคุณย่าเดินเข้าบ้าน 

หนูช่อไปพักผ่อนเถอะจ้ะ เดี๋ยวที่เหลือนมดูแลคุณย่าเองนมผันเอ่ยด้วยยิ้มที่บอกถึงความใจดี เมื่อสาวร่างบางพาคุณย่ามาถึงหน้าห้อง

ถ้าอย่างนั้นเจอกันพรุ่งนี้นะคะคุณย่า นมผัน ราตรีสวัสดิ์ค่ะยิ้มหวานของเธอถูกส่งให้กับสองหญิงชราปิดท้ายการสนทนา 

ช่อผกาหอบความเมื่อยล้ากลับเข้าห้อง กระเป๋าถือของเธอถูกวางลงบนเตียงนอน แล้วเริ่มต้นเวลาส่วนตัวของเธอด้วยการอาบน้ำ ชำระล้างร่างกายให้สบายตัวก่อนละกัน วิ่งวุ่นตลอดทั้งวันแบบนี้ หลับสบายถึงเช้าแน่ๆ

ไม่นานนัก คนตัวเล็กในชุดนอนก็ทิ้งตัวลงบนเตียงขนาดใหญ่ที่แสนจะนุ่มสบาย ผ้าห่มหอมฟุ้งถูกดึงขึ้นคลุมตัวเธอเอาไว้ มือเรียวเอื้อมไปหยิบรีโมตเครื่องปรับอากาศเพื่อเพิ่มอุณหภูมิให้อุ่นขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะเปลี่ยนไปล้วงโทรศัพท์มือถือออกจากกระเป๋าถือใบเล็กขึ้นมา หมายจะเช็กการเซ็ตเวลาของนาฬิกาปลุกให้แน่ใจอีกรอบ แต่แล้วข้อความจาก ‘ตาหมีขี้บ่น’ ที่ถูกส่งเข้ามา ก็ดึงความสนใจจากเธอไปเสียก่อน 

นิ้วเรียวเล็กกดปลดล็อก เพื่อเข้าอ่านข้อความ ก่อนสิ่งที่เขาส่งมาจะทำให้ใบหน้าสวยค่อยๆ ผลิยิ้ม 

ภาพที่เขาถ่ายให้กับเธอถูกส่งมาให้ยกอัลบัม คนตัวเล็กหัวเราะออกมาเบาๆ แล้วรีบกดเปิดดู เธอเลื่อนดูไปทีละภาพ เป็นอย่างที่เธอคิดเอาไว้จริงๆ ไม่มีภาพไหนเลยที่เธอไม่ยิ้ม ใบหน้าของเธอบ่งบอกถึงความสุขที่เอ่อล้นออกมา จนเจ้าตัวที่มองอยู่ยังอดประหลาดใจไม่ได้ 

ตอนนั้นเรายิ้มแก้มปริขนาดนี้เลยเหรอเนี่ยช่อผกาเอ่ยลอยๆ โดยไม่ละสายตาจากภาพถ่ายเหล่านั้น

มือบางยกขึ้นนวดแก้มใสเบาๆ เพื่อคลายอาการเกร็ง ก่อนที่เธอจะรู้สึกได้ว่า...ไม่ใช่แค่ตอนนั้นหรอกที่เธอยิ้มจนแก้มปริ ตอนนี้เหมือนกัน แค่คิดถึงเหตุการณ์ตอนนั้น...ยิ้มก็ฉีกกว้างเสียจนแก้มจะแตกเอาให้ได้

ช่อผกากดปิดการแสดงภาพลง แล้วย้อนกลับมาที่ห้องสนทนาหลัก สาวร่างเล็กกะพริบตาปริบๆ ก่อนจะหลับตาลง แล้วพ่นลมหายใจยาวจนหมดปอด พยายามอย่างยิ่งที่จะควบคุมอัตราเร่งของหัวใจที่จู่ๆ ก็พุ่งสูงขึ้นมากะทันหัน 

ใจเย็นๆ ช่อ ใจเย็นๆ 

หญิงสาวบอกตัวเองซ้ำๆ แล้วค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้น เมื่อเริ่มแน่ใจว่าหัวใจตัวเองกลับมาอยู่ในระดับปกติแล้ว เธอก้มหน้าลงหมายจะออกจากแอพลิเคชั่นสนทนา แต่ในจังหวะนั้นเอง สายตาของเธอก็พลันไปสะดุดกับชื่ออัลบัมรูปที่เขาตั้งเอาไว้

“thru my eyes...”

(ผ่านสายตาของผม)

ช่อผกาอ่านข้อความด้วยเสียงแผ่วเบาราวกับกระซิบ ก่อนจะแน่นิ่งไปชั่วขณะ

ทันทีที่เธอได้สติ คนตัวเล็กรีบโยนสมาร์ตโฟนไปอีกด้านหนึ่งของเตียง ให้ไปอยู่ห่างๆ ตัว ราวกับว่ามันเป็นตัวอันตรายที่ทำให้หัวใจของเธอเต้นระส่ำอย่างไม่เป็นจังหวะอีกครั้ง มือเรียวเล็กคว้าเอาหมอนใบโตข้างตัวขึ้นมากอดเอาไว้แน่น ก่อนจะมุดหน้าลงไประบายความเขินอายที่ไม่อาจจะต้านทานเอาไว้ได้ไหว

โอ๊ย...ย ตาหมี เล่นอะไรแบบนี้เนี่ย บ้าจริง
 

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น