6

ตอนที่ 6


 

6

เดนนิสนอนพลิกตัวไปมาในความมืด เป็นครั้งแรกที่เขาเข้านอนเร็วขนาดนี้ เขาคอยเงี่ยหูฟังเสียงเคลื่อนไหวของคนภายนอกเป็นนานก็ไม่เห็นเธอจะเข้ามานอน และเขาจะไม่รอแม้สักวินาที ชายหนุ่มผุดลุกขึ้นจากที่นอน เปิดประตูออกมาภายนอก มีเพียงความมืดที่ปกคลุมไปทั่วพื้นที่ มีเพียงแสงไฟจากระเบียงด้านนอกเท่านั้นที่ส่องเข้ามาพอให้มองเห็นภายในห้อง ชายหนุ่มกวาดตาไปทั่วห้องนั่งเล่นเขาเห็นร่างเพรียวของเจนซุกอยู่ที่โซฟาตัวยาว เดนนิสจัดการช้อนตัวหญิงสาวที่มักกวนอารมณ์เขาให้ขุ่นมัว ร่างที่กำลังหลับสนิทสะดุ้งสุดตัวเมื่อรู้สึกว่าตัวลอยสูงขึ้น

“ว้าย!” หญิงสาวร้องเสียงดัง ผวาคว้าลำคอคนที่อุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด

“ปล่อยฉันลงเถอะค่ะ” เจนขอร้องเมื่อใจเธอหวิวๆ กลัวตกลงมา และรู้สึกไม่คุ้นเคยกับความแนบชิดระหว่างเพศตรงข้าม ร่างกายเดนนิสแข็งๆ ไม่นุ่มสักนิด แต่ก็น่าแปลกที่มันทำให้เธอรู้สึกถึงความอบอุ่น

“เตียงก็มี ทำไมไม่นอน” เขาบ่นหลังจากวางเธอลงบนเตียงอีกฝั่ง แต่หญิงสาวที่เขาเพิ่งวางเธอลงกลับนั่งตัวตรงไม่ยอมนอน

“ให้ฉันไปนอนข้างนอกเถอะนะคะ” เธอขอร้องเขาเสียงอ่อย รู้สึกไม่ปลอดภัยนักหากต้องอยู่ร่วมห้องกับเขา

“จะนอนดีๆ หรือจะให้ทำอะไรก่อนถึงจะนอนได้” เดนนิสขู่เมื่อหญิงสาวทำท่าจะพยศอีก

สิ้นคำถามเจนก็ล้มตัวลงนอนอย่างง่ายดาย ไม่มีเสียงโต้เถียงให้เขาได้รำคาญอีก

เวลาผ่านไปนานกี่ชั่วโมงหรือแค่กี่นาทีเจนไม่รู้ เธอรู้แต่เพียงว่าเธออึดอัด หญิงสาวขยับตัวจนติดกับเตียงอีกฝั่ง นอนตะแคงหันหลังให้เขาจนจะเป็นตะคริว เธอจึงค่อยๆ ขยับพลิกตัวมานอนหงายช้าๆ กลัวคนข้างๆ จะตื่น การพลิกตัวครั้งหนึ่งสร้างความระทึกขวัญให้เธออย่างล้นเหลือ ตัวเธอยังระบมอยู่จึงไม่อยากจะทำตัวรบกวนจนเขาต้องหันมาจัดการกับเธออย่างที่บอกเมื่อครู่

เจนพยายามถ่างตากะว่าใกล้เช้าจะลุกจากเตียงทันที แต่ความเครียดและความอ่อนล้าของร่างกายทำให้เธอหลับไปในเวลาไม่นาน ส่วนคนที่เหมือนกับนอนหลับกลับค่อยๆ ลืมตาเมื่อรู้สึกว่าหญิงสาวข้างๆ หลับสนิท

เดนนิสค่อยๆ ขยับเข้าไปใกล้คนที่นอนขดตัวอยู่ข้างๆ มองเสี้ยวหน้ายามหลับของเธอจากแสงไฟด้านนอกที่ตกกระทบเข้ามาพลางยิ้มเอ็นดู เขาชอบใบหน้าสวยแต่เศร้าของเธอ ยิ่งเวลาเธอร้องไห้น้ำตาเจียนหยดเพราะเขา เขากลับยิ่งชอบ นี่เขาคงจะเป็นคนโรคจิตแล้วจริงๆ เดนนิสคิดในใจ หรือเพราะเธอไม่เคยยิ้มให้เขา เขาถึงไม่รู้ว่าชอบรอยยิ้มของเธอหรือเปล่า

เดนนิสหยุดมือที่ไล้ตามผิวนวลเนียนนั้นเมื่อเธอเริ่มขยับตัว ใช้จังหวะนี้ดึงเธอให้มาอยู่ในอ้อมแขนเขา กลิ่นแชมพูหอมกรุ่นตามเส้นผมดำสนิททำให้เดนนิสอดที่จะสูดดมมันไม่ได้ ชายหนุ่มใช้มือเรียวลูบผมเธอเบาๆ คล้ายขับกล่อม จับแขนเรียวเสลานั้นให้โอบรอบเอวตัวเอง ส่วนมืออีกข้างเขาก็ช้อนเข้าไปที่ใต้คอเธอ อุทิศท่อนแขนแข็งแรงต่างหมอน แต่พอนอนไปสักพักคนตัวเล็กก็ดิ้นขลุกขลักเพราะความอึดอัด เขาจึงต้องปล่อยเธอให้นอนในท่าที่สบายที่สุด

 

เจนสะดุ้งตื่นเมื่อรู้สึกว่ากำลังถูกตัวอะไรไต่แถวหน้าอก แต่แล้วก็ต้องตกใจยิ่งกว่าโดนแมลงมีพิษที่ไหนทำร้ายเมื่อสบเข้ากับดวงตาสีฟ้าอ่อนจางเข้าจังๆ รอยยิ้มปรากฏบนใบหน้าคนที่กำลังเพลิดเพลินกับสัมผัสวาบหวาม ชายหนุ่มเจ้าของห้องฟอนเฟ้นก้อนเนื้อแน่นพอดีมือเอาไว้ เคล้นหนักสลับเบาจนคนที่นอนตัวแข็งอยู่หน้าร้อนผ่าว

“ปะ ปล่อยเถอะค่ะ” เจนขอร้อง พยายามคู้ตัวหลบมือไม้ที่เข้ามายุ่มย่ามตามตัว แต่ดูเหมือนคนทำจะไม่ใส่ใจ เพราะนอกจากจะไม่ปล่อยมือจากหน้าอกเธอแล้ว เขายังพลิกร่างสูงใหญ่มาทาบทับกดเธอเอาไว้แน่น และจัดการเลิกเสื้อยืดตัวเก่าของหญิงสาวขึ้น

เจนคว้าหมับเข้าที่มือเขาทันทีที่เขาเปิดชายเสื้อเธอขึ้น หนุ่มเจ้าสำราญไม่ยอมแพ้ ใช้กำลังที่มากกว่ารวบข้อมือเรียวมาไว้ในอุ้งมือและจัดการกับเสื้อยืดตัวบางได้สำเร็จ แล้วก็ต้องถอนใจซ้ำเมื่อพบชุดชั้นในที่เธอสวมเอาไว้อีกชั้น แต่มีหรือเขาจะปล่อยให้มันมาเป็นอุปสรรค เดนนิสจัดการปราการตัวจิ๋วนั้นได้ในพริบตา เพียงเท่านี้ผิวนวลลออตาของหญิงสาวก็ปรากฏต่อหน้าเขา

“คุณเดนนิสคะ ปล่อยฉันเถอะ” เจนขอร้องเสียงอ่อน หว่านล้อมให้เขายอมปล่อยเธอไป

“เดี๋ยวปล่อย” คนที่เหนือกว่าตกปากรับคำ เขาปล่อยมือที่พันธนาการเธอไว้แล้วหันมาซุกใบหน้าคมสูดกลิ่นหอมเฉพาะตัวจากบัวคู่งาม มือเรียวเล็กของหญิงสาวดันศีรษะที่ปกคลุมด้วยผมหนาสีทองแดงเอาไว้อย่างห้ามปราม เมื่อไม่ได้ผลเธอก็ละมือจากศีรษะเขาขึ้นมาปกปิดความงามอร่ามตาตรงหน้าเอาไว้เสียเลย

“เจน” เดนนิสเรียกชื่อเธอคล้ายคำราม ดวงตาทรงอำนาจมองสบกับดวงตาสีน้ำตาลตื่นๆ นั้นอย่างคุกคาม แต่หญิงสาวยังคงไม่ลดมือที่ยกขึ้นปิดบังความงามตรงหน้าเอาไว้

ใช่ว่าเธอจะยอมให้เขารังแกได้ซ้ำๆ เห็นเธอไม่มีแรงสู้ คิดจะทำอย่างไรก็ได้อย่างนั้นหรือ หญิงสาวจึงยังคงปกปิดตัวเองเอาไว้ไม่ยอมให้ชายหนุ่มได้ชื่นชมร่างกายเธอได้ง่ายๆ

เดนนิสละสายตาจากทรวงอกงามที่เจ้าตัวปิดบังไว้อย่างหวงแหน เขาหยัดตัวสูงขึ้นและเลือกที่จะจุมพิตเธอรับอรุณแทน ริมฝีปากสีสดสัมผัสความอ่อนนุ่มชุ่มชื้นของริมฝีปากอิ่มสวย ลิ้นเรียวไล้วนไปตามริมฝีปากล่างเธอไปมา หยอกเย้าหลอกล่อให้หญิงสาวหลงกลกับสัมผัสอ่อนหวาน ไม่นานคนไร้เล่ห์เหลี่ยมก็ยอมเผยอริมฝีปากให้คนเจ้าเล่ห์ได้เข้าไปดูดกลืนความหอมหวานอุ่นร้อนสมใจ

หญิงสาวหายใจติดขัดเมื่อเดนนิสทวีความเร่าร้อนของจุมพิตสูบวิญญาณ เธอจำได้เพียงเลือนรางว่ามือเธอถูกแกะออกอย่างง่ายดาย ในที่สุดใบหน้าคมก็ซุกไซ้ไปที่เป้าหมายเดิมที่เขาตั้งใจแต่แรก จนแล้วจนรอดเจนก็ไม่อาจต้านทานการหลอกล่อของชายหนุ่มได้เลย หญิงสาวได้แต่ทอดถอนใจอย่างปลงๆ เมื่อถูกชักจูงให้หลงไปในวังวนเสน่หา ริมฝีปากร้อนร้ายนั้นยังดูดกลืนเธอด้วยจังหวะรัวเร็วส่วนมือเขาก็ลูบไล้เคล้นคลึงไปตามร่างกายเธอทุกสัดส่วน

“อย่าค่ะ” เสียงเล็กๆ ของตัวเองที่หญิงสาวไม่คุ้นเคยดังขึ้นห้าม เมื่อกลุ่มผมสีทองแดงนั้นเคลื่อนต่ำลงอย่างน่าใจหาย แต่เสียงห้ามปรามหวานแผ่วนั้นคงเหมือนคำเชิญชวนเสียมากกว่า เพราะสิ้นเสียงเธอไม่นาน หญิงสาวก็ต้องเผชิญกับความวาบหวามในแบบที่เธอไม่คุ้นเคย ลิ้นสากระคายของเดนนิสยังทำหน้าที่ได้ดีเช่นเดิม เขาแตะลิ้นอ่อนนุ่มนั้นไปตามกลีบดอกไม้งามที่เบ่งบานอย่างเชื่องช้า ความอุ่นร้อนชุ่มชื้นของลิ้นชายหนุ่มสร้างความเสียวกระสันให้เจนอย่างที่สุด

หญิงสาวหอบหายใจเป็นจังหวะกระชั้นทุกครั้งที่เขาไล้วนปลายลิ้นกับกลีบดอกไม้แสนหวาน เสียงครางแผ่วๆ ของเจ้าตัวยิ่งกระตุ้นให้ชายหนุ่มแสดงฝีมือมากขึ้น คราวนี้เขาใช้เพียงปลายลิ้นแตะเกสรดอกไม้งามหนักบ้างเบาบ้างจนร่างแน่งน้อยนั้นบิดตัวไปมา ประกอบกับเสียงครางเล็กๆ ที่ดังขึ้นทุกครั้งที่เขาสัมผัสเธอ เมื่อเขาคิดว่าปรนเปรอเธอจนพอแล้ว เดนนิสก็ละจากดอกไม้ฉ่ำเยิ้มนั้นขึ้นมาทาบทับร่างหนาแนบกับร่างเล็กที่นอนอ่อนระทวยอยู่บนฟูก

“เห็นไหมว่ามันดีแค่ไหนเจน อย่าฝืนเลย ปล่อยตัวปล่อยใจตามสบายแล้วคุณจะพบกับความสุข” ชายหนุ่มกระซิบบอกเจ้าของใบหน้าแดงก่ำที่หลบสายตาเขา

“ไม่ ฉันไม่ได้อยากเป็นแบบนี้” เสียงเล็กๆ นั้นแย้งเขาขึ้นมาทั้งที่ตัวอ่อนจนจะหลอมละลาย

“แน่ใจนะว่าไม่อยาก” ชายหนุ่มถามที่ริมหูพร้อมกับใช้ลิ้นตวัดที่ใบหูของหญิงสาวจนเธอขนลุกซู่ ไม่ได้สนใจแรงขัดขืนอันน้อยนิดของเจนอีก

เขาจัดการยกตัวหญิงสาวขึ้นนั่งคร่อมบนตัก จับท้ายทอยเธอ บังคับให้ใบหน้าแหงนเงยขึ้นมองหน้าเขา พลางขยับโยกคลึงกลางกายไปมาเชื่องช้า บางครั้งเขาก็จับสะโพกเธอกดลงบนตักนิ่งๆ แต่ความคับแน่นนั้นสร้างความหฤหรรษ์ให้หญิงสาวอย่างที่สุด

“ไหนว่าไม่อยากไง” เดนนิสล้อเมื่อคนตัวเล็กบนตักเขาเริ่มขยับตัวเป็นจังหวะขึ้นลง

หญิงสาวไม่ตอบ เธอเบือนหน้าหนีและซบหน้าลงที่ไหล่เขาข้างหนึ่งก่อนจะฝังคมเขี้ยวเข้าไปที่ไหล่เขาเต็มแรง

“โอ๊ย!” เดนนิสร้อง ไม่นึกว่าจะถูกฝังเขี้ยวลงทีเผลอ เขาจึงล้มตัวลงนอน จับสะโพกหญิงสาวตรึงเอาไว้แน่น ดวงตาสีฟ้าอ่อนจ้องมองคนที่นั่งอยู่กลางร่างอย่างท้าทาย ไม่ยอมให้หญิงสาวขยับร่างกายแม้แต่น้อย เป็นเขาเองที่เป็นฝ่ายเพิ่มแรงกดย้ำคับแน่นอย่างต้องการจะทรมานเธอ

ใบหน้างามแดงก่ำเมื่อรู้สึกถึงความคับแน่นแสนทรมานนั้น เธออยากให้เขาทำอะไรสักอย่าง อยากให้เขาขยับเข้าออกเป็นจังหวะลึกล้ำ เพราะตอนนี้ภายในกายเธอกำลังเรียกร้องอะไรที่มากกว่าที่เป็นอยู่

“ขอผมสิสาวน้อย” เดนนิสบอกหญิงสาวที่อยู่ไม่เป็นสุขบนตัวเขา เล็บเธอจิกบนหน้าท้องเขาจนเป็นรอยถลอกแสบๆ คันๆ แต่ดูเหมือนเจ้าตัวจะยังปากแข็งอยู่ เขาจึงขยับตัวเล็กน้อยแล้วหยุด

“เดนนิส ได้โปรด อย่าหยุด ฉันไม่ไหวแล้ว” เสียงเล็กหวานดังขึ้นให้ชายหนุ่มได้ชื่นใจ

สิ้นคำขอ คนใจดีก็ผ่อนแรงที่เกาะกุมสะโพกงอนงาม ช่วยหญิงสาวขยับสะโพกไปมาเป็นจังหวะขึ้นลง จากนั้นก็ปล่อยให้เธอควบขยับตามแต่ใจต้องการ เมื่อหญิงสาวจัดการเขาจนพอใจแล้ว เดนนิสก็โอบอุ้มร่างเล็กมาอยู่ที่ปลายเตียง จัดเธอให้อยู่ในท่าคุกเข่า เปิดเผยความงามร้อนชื้นแก่สายตาเขา เดนนิสลูบไล้ไปตามรอยแยกชื้นฉ่ำ สัมผัสแผ่วเบาขึ้นลงอย่างต้องการที่จะยั่ว แต่ในที่สุดเป็นตัวเขาเองที่ทนไม่ไหวจึงตัดสินใจสอดแทรกความแข็งแกร่งลงไปในความคับแน่นชุ่มชื้น

“อา” เสียงห้าวทุ้มครางออกมาอย่างสุขสม ชายหนุ่มขยับสะโพกสอบเข้าหาช่องทางรักอ่อนนุ่มตามจังหวะที่ใจปรารถนา ไม่นานนักเขาก็กระตุกแรงๆ พร้อมกับทรุดตัวซวนซบไปบนร่างเล็กที่อยู่ด้านล่าง

 

เจนขยับออกห่างเมื่อเดนนิสปล่อยเธอให้เป็นอิสระ เขาหอบหายใจราวกับคนที่ไปวิ่งแข่งมา หญิงสาวพยุงตัวลุกขึ้นจัดการสวมเสื้อผ้าที่ถูกทิ้งไว้ไม่เป็นทาง ความรู้สึกที่เกิดขึ้นมันแย่จนยากจะบรรยาย เขาทำให้เธอรู้สึกเหมือนเป็นผู้หญิงมักมากที่เรียกร้องโหยหาการปรนเปรอจากเขา เธอเองก็ทำตัวราวกับผู้หญิงไร้ค่าที่หาญกล้าเอ่ยปากขอในสิ่งที่น่าอาย สิ่งนี้เองที่บั่นทอนกัดกินเธอมากกว่าการกระทำรุนแรงจาบจ้วงของเดนนิสเสียอีก

หญิงสาวลุกขึ้นเดินเข้าห้องน้ำ เปิดน้ำอุ่นๆ ทำความสะอาดร่างกายอันน่ารังเกียจของตัวเองแรงๆ ใช้มือและเล็บถูตัวจนเป็นรอยแดง ฟอกสบู่ถูตัวอยู่เป็นนานกว่าจะออกจากห้องน้ำ เมื่อออกมาคนที่เพิ่งตักตวงความสุขจากร่างเธอยังนอนหลับอยู่ เธอจึงเบือนหน้าหนี และเลี่ยงออกมาแต่งตัวที่ด้านนอก

เจนนั่งมองคลื่นทะเลที่ซัดเข้าหาฝั่ง ครุ่นคิดถึงทางเอาตัวรอดจากวังวนอันน่ารังเกียจนี้ ทางเดียวที่เธอจะไปจากเขาได้ก็คือพิสูจน์ให้ได้ว่าใครเป็นคนแอบมาใช้คอมพิวเตอร์เธอ และใครที่ส่งรูปพวกนั้นให้นักข่าว แถมยังจงใจไม่ลบภาพเหล่านั้นออกจากคอมพิวเตอร์คล้ายจงใจ ไม่ทันไรประตูหน้าห้องก็ถูกเคาะ เจนลุกจากระเบียงไปเปิดประตูให้พนักงานรูมเซอร์วิสเข็นรถที่มีอาหารเช้าชุดใหญ่เข้ามา หญิงสาวกล่าวขอบคุณพนักงานและส่งยิ้มให้เขาเล็กน้อย

เจนมองอาหารเช้าหน้าตาน่ารับประทานตรงหน้า แต่เธอกลับไม่มีความอยากอาหารเลย จึงทิ้งอาหารเช้าไว้ที่เดิม กลับไปนั่งมองเหม่อที่ทะเลตรงหน้าใหม่ แม้ทิวทัศน์เบื้องหน้าจะงดงาม แต่ใจเธอกลับไม่ได้รู้สึกสดชื่นไปด้วยเลยแม้แต่น้อย อยู่ดีๆ น้ำตาก็ไหลออกมาด้วยความคับแค้นใจ ทั้งโกรธเขาและโกรธตัวเองที่ใจง่ายเสียเหลือเกิน เจนหลับตาฟังเสียงคลื่นทะเลที่กระทบฝั่ง ลมเย็นพัดเข้ามากระทบใบหน้า ผมยาวดำพลิ้วไปตามสายลม สักพักเธอก็ล้มตัวลงนอนบนพื้น ไม่ได้สนใจเสียงย่ำเท้าหนักๆ ของชายหนุ่มที่เดินเข้ามาใกล้

“เจน” เดนนิสเรียกแต่หญิงสาวก็ยังไม่ขยับ ชายหนุ่มจึงชะโงกหน้าเข้าไปดูใกล้ๆ เห็นเธอหลับตาแต่กลับมีน้ำตาไหลอาบสองแก้ม เขาไม่รู้จะรับมือกับเธออย่างไรจึงทรุดตัวลงนอนซ้อนหลังเธอ โน้มใบหน้าเข้าไปจูบซับหยดน้ำตาที่แก้ม หญิงสาวจึงลืมตาขึ้นช้าๆ มองเขาด้วยแววตาเฉยเมยและหลับตาลงอย่างเก่า

“เป็นอะไร” ชายหนุ่มถาม ไม่เคยคิดว่าเขาจะทำเสียงอาทรใครได้เท่านี้

“ไม่มีอะไรค่ะ” หญิงสาวเอียงหน้าหลบและพยุงตัวเองให้ลุกขึ้น

“เจน” เขายื้อแขนเธอไว้เมื่อเธอกำลังจะเดินหนี มือใหญ่ออกแรงกระตุกเพียงเบาๆ ร่างบางก็เซลงมาเกยบนตักเขา

“ทำไมคุณชอบร้องไห้เวลาอยู่กับผมนักนะ” ชายหนุ่มเปรยออกมามากกว่าจะอยากได้คำตอบจริงจัง

“ฉันไม่อยากเป็นของเล่นของใคร” หญิงสาวไม่อยากตกอยู่ในสถานภาพเช่นนี้ มนุษย์ทุกคนย่อมรักอิสระและอยากมีสิทธิเสรีภาพ

“ทำไม เป็นของเล่นผมมันเป็นยังไง คุณจะดังไม่รู้ตัวรู้หรือเปล่า เสื้อผ้าข้าวของคุณอยากได้แบบไหนผมมีให้หมด แค่คุณยอมตามใจผมเท่านั้น” ชายหนุ่มเสนอ เขามองไม่เห็นข้อเสียตรงไหน เธอมีแต่ได้กับได้ทั้งนั้น ฝ่ายที่เสียน่าจะเป็นเขามากกว่า และเดนนิสคิดว่าคงไม่มีผู้หญิงสติดีคนไหนปฏิเสธข้อเสนอนี้นอกจากหญิงสาวที่นั่งแนบตักเขาตรงนี้

“ฉันไม่อยากได้อะไรจากคุณทั้งนั้น ปล่อยฉันไปเถอะนะคะ” หญิงสาวขอร้อง แหงนหน้ามองคนที่เอาคางเกยศีรษะเธอไว้ด้วยแววตาน่าสงสาร

“คุณไม่กลัวเพื่อนคุณจะฟ้องคุณเหรอ” เขากระซิบถาม อดใจไม่ไหวต้องก้มลงจูบเธอเร็วๆ ทีหนึ่ง

“กลัวค่ะ แต่ฉันก็ไม่สบายใจที่เป็นอยู่แบบนี้ ฉันเป็นห่วงแม่ ไม่อยากให้ท่านไม่สบายใจ” หญิงสาวสารภาพถึงความไม่สบายใจที่หนักอึ้งในใจเธอตอนนี้

แม่ท้องเธอตั้งแต่อายุสิบหก อนาคตท่านดับลงเมื่อมีเธอ แต่แม่เลือกที่จะไม่ทำแท้ง ทนตากหน้าอุ้มท้องทั้งที่หาพ่อของลูกไม่ได้ เมื่อโตขึ้นเจนจึงถูกป้าพูดกรอกหูบ่อยๆ ว่าให้ดูแม่เป็นตัวอย่างว่าผลของการใจง่ายมันเป็นอย่างไร น่าอับอายแค่ไหน แม่เองก็คอยเตือนเธอเสมอถึงความน่ากลัวของการตั้งครรภ์ในวัยรุ่น จนกระทั่งทุกวันนี้เจนยังไม่กล้าแม้แต่มีแฟน แม้แม่เคยบอกว่าท่านอนุญาตแล้วก็ตาม แต่ลึกๆ ในใจเจนก็ยังกลัวว่าจะทำให้แม่ผิดหวังและเสียใจ

“อันนั้นมันก็ปัญหาของคุณ” ชายหนุ่มตอบอย่างเลือดเย็น

เมื่อได้ฟังคำตอบเจนจึงเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาตัดพ้อ พยายามดันตัวออกจากอ้อมแขนที่กักเธอเอาไว้

“ผมไม่สนว่าคุณจะจัดการเรื่องพวกนี้ยังไง สำหรับผม แค่คุณมาเป็นคนของผมก็พอ” ประโยคอันเห็นแก่ตัวถูกเอ่ยออกมาอย่างไม่สนใจท่าทีผิดหวังเสียใจของเธอสักนิด

เมื่อนาทีก่อนเขายังทำท่าราวกับจะงอนง้อเธออยู่เลย แต่มาตอนนี้เขากลับพูดจาแย่ๆ ใส่โดยไม่สนใจว่าเธอจะเจ็บปวดหรืออึดอัดขนาดไหน นี่สินะ เดนนิส แลงส์ลีย์ ตัวจริง ผู้ชายเอาแต่ใจที่ไม่สนใจว่าคนอื่นจะรู้สึกอย่างไร ขอให้ตัวเขาได้ในสิ่งที่ต้องการเป็นพอ

“ไม่มีข้อแม้ ถ้าคุณบอกว่าไม่ ก็เตรียมตัวโดนฟ้องและเตรียมใจเอาไว้ว่ายังไงครอบครัวคุณต้องรู้เรื่องนี้แน่นอน แต่ถ้าคุณยอมผมรับรองว่าครอบครัวคุณจะไม่มีทางรู้เรื่องของเราแน่นอน” เดนนิสเสนอ สบช่องว่างที่เจนเปิดเผยจุดอ่อนให้เขาทราบโดยไม่รู้ตัว

“ฉันไม่มีทางเลือกเลยใช่ไหม” เธอถามเขาด้วยใจปวดร้าว ทางเลือกที่เขาเสนอมาล้วนแล้วแต่เป็นทางตันทั้งนั้น นี่หรือคือข้อเสนอของเขา ช่างน่าขัน หญิงสาวยันตัวขึ้นจากอ้อมแขน รู้สึกตัวเองเป็นผู้หญิงโง่เง่าที่ถูกเขาหลอกเพียงเพราะคำว่าทางเลือก

“ปล่อยฉัน คนใจร้าย” เจนยังดิ้นรน เสียใจกับคำพูดเอาแต่ใจของเขายิ่งนัก หญิงสาวยืนขึ้นสำเร็จแล้วเดินหนีเขาเข้าห้องไป ไม่อาจทนมองหน้าเขาได้อีกแม้แต่วินาทีเดียว เธอเดินหลบออกมายังส่วนนั่งเล่น ไม่สนใจอาหารเช้าที่เริ่มเย็นชืด

เดนนิสเดินตามเข้ามาช้าๆ ไม่สนใจท่าทางกระฟัดกระเฟียดของหญิงสาว ปล่อยเธอไปสักพักเดี๋ยวคงคิดได้เอง ชายหนุ่มจึงลงมือจัดการมื้อเช้าเงียบๆ แว่วเสียงสะอื้นสะท้อนออกมาจากห้องน้ำด้านนอกให้ได้ยิน แต่เขาไม่คิดจะง้องอนอะไรเธอให้มากไปกว่านี้ เพราะจะกลายเป็นว่าตัวเขาเองที่จะเป็นของเล่นของเธอ

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น