10

ตอนที่ 10


เสียงกระแทกกระทั้นจากการเปิดประตูทำให้หอมนวลสะดุ้งเฮือก เธอลนลานรีบหยิบผ้าเช็ดตัวแล้วสาวเท้าไปยังทิศทางของห้องน้ำ แต่ขาคงสั้นเกินไป เพราะทุกครั้งที่พยายามเดินหนีคนตัวโต ไม่เคยมีครั้งไหนหนีรอดได้เลยสักครั้ง 

                มือใหญ่คว้าต้นแขนเธอไว้ได้แล้วกระชากอย่างแรงจนร่างบอบบางปะทะเข้ากับแผงอกกว้าง ดวงตาเกรี้ยวกราดจ้องลึกประหนึ่งไฟร้อนแรงพร้อมเผาผลาญทุกสรรพสิ่ง น่าแปลกที่เธอรักเขาและหวาดกลัวไปพร้อมกัน จึงไม่รู้เลยว่าเธอควรหนีหรือยอมตายอยู่ในอ้อมกอดของเขาดี

                “เธอคิดอะไร”

                น้ำเสียงทุ้มต่ำปลุกคนเพ้อพกให้ตื่นจากภวังค์ ตอนนั้นเองที่หอมนวลรู้สึกเจ็บ ทั้งที่ก่อนหน้านี้ไม่รู้ตัวด้วยซ้ำว่าต้นแขนเล็กกำลังถูกบีบสุดแรง

                 “หอมเจ็บนะคะ ปล่อยเดี๋ยวนี้ ทำตัวเป็นผู้ชายป่าเถื่อนไปได้”

                เขมราชยิ้มเยาะให้แก่คำต่อว่าของคนมีความผิดติดตัว ถ้าเขาบีบให้เธอแหลกคามือได้เขาคงทำไปนานแล้ว

                “ผู้หญิงอย่างเธอ โดนแค่นี้ยังน้อยไป”

                “ผู้หญิงอย่างหอมเป็นผู้หญิงแบบไหนเหรอคะ”

                “ก็เป็นผู้หญิงที่อยากได้ผู้ชายมากจนถึงขั้นหักหลังทุกคน ไม่สิ เธอคงไม่อยากได้แค่ตัวฉันหรอก เธออยากได้สมบัติฉันมากกว่า จริงมั้ย” เขมราชคิดแบบนั้นจริงๆ แม้ไม่อยากคิด เพราะถ้าจะมีใครสักคนบนโลกนี้หักหลังเขาหรือหวังผลประโยชน์จากทรัพย์สินเงินทองของเขาจริงๆ เขาขอให้หอมนวลเป็นคนสุดท้ายที่ทำแบบนั้น

                แต่ในเมื่อคนคนนั้นคือหอมนวลเข้าแล้วจริงๆ เขมราชก็ไม่คิดว่าเธอจะรักเขา ไม่มีสัญญาณอะไรบอกเลยสักนิดว่าเธอรักเขา เหตุผลของการกระทำอันเลวร้ายของหญิงสาวตามคำบอกเล่าของจันทร์นรีช่างเป็นเหตุผลที่น่ากลัว จริงอยู่ว่าจันทร์นรีเป็นผู้หญิงสวยและมีบุคลิกโดดเด่น ไม่แปลกที่ใครๆ ก็อยากเป็นเหมือนเธอ แต่การทำลายชีวิตเธอเพื่อหวังเป็นเหมือนเธอ เป็นเรื่องที่เห็นแก่ตัวเกินไป

                 “อีกข้อ ก็คือเธอหวังอยากเป็นเหมือนลูกจันทร์”

                คนถูกต่อว่างุนงง ตั้งแต่เกิดเรื่อง เขมราชสรรหาคำมากล่าวหาเธอได้เจ็บแสบที่ทำให้เธอจุกจนพูดไม่ออก แต่ละคำล้วนแสดงให้เห็นถึงความโกรธเกลียดที่มีต่อเธอ ข้อหาโกหกเขาเรื่องจันทร์นรี

                แต่คำว่า ‘อยากเป็นเหมือนลูกจันทร์’ เพิ่งเคยออกจากปากเขาเป็นครั้งแรก เธอถูกเพิ่มข้อหาเข้าให้แล้ว 

                “หอมเปล่าค่ะ”

                เขมราชคลายมือที่บีบต้นแขนหญิงสาวลง ทว่ายังไม่ยอมปล่อยมืออีกข้างที่โอบเอวบางไว้แน่น ดิ้นอย่างไรก็ดิ้นไม่หลุด

                “ถ้าเปล่าก็แสดงว่าอยากได้เงิน ฉันน่าจะเอะใจตั้งแต่เธอขอเงินฉันไปคราวก่อน เป็นแสนเลยนะ จำได้ไหม”

                “เอ๊ะ! คุณเขม มันคนละเรื่องกันนะคะ นี่ใจคอคุณเขมจะขุดทุกเรื่องมาว่าหอมเลยหรือยังไง แล้วก็ปล่อยหอมด้วย ใกล้แบบนี้ใครจะไปคุยกันรู้เรื่อง” หอมนวลแกะมือคนใจร้ายออกจากเอวบาง แต่ยิ่งพยายามมือนั้นก็รัดแน่นขึ้นทุกทีๆ

                “ปล่อยนะคะ หอมจะไปหยิบเงินที่เหลือมาคืนคุณ แล้วถ้าคุณอยากได้ทั้งหมด หอมก็หามาคืนให้ได้”

                “ฉันไม่เอา แต่ขอเป็นอย่างอื่นแทน เช่นนอนกับฉันสักคืนสองคืน”

                เขาขอแต่ไม่ได้รอให้เธอให้

                หอมนวลลอยหวือจากพื้นขึ้นมาอยู่ในอ้อมแขนของคนเอาแต่ใจอย่างรวดเร็ว ตระหนกตกใจเมื่อเขาโยนเธอลงบนเตียงกว้าง แรงกระแทกทำให้เธอจุกจนร้องไม่ออก

                เขมราชถอดเสื้อทิ้งไปอีกทาง ท่อนบนเปลือยเปล่าโถมเข้าใส่ร่างที่สั่นระริก

                “แบบนี้ก็ดีเหมือนกันนะ เหมือนได้นอนกับนักกีฬาสาว ว่าแต่เธอจะเป็นนักกีฬาประเภทไหนดีล่ะ ฉันจะได้จินตนาการต่อ” 

                ลำแขนเต็มไปด้วยมัดกล้ามกักร่างหอมนวลไว้ไม่ให้หนี เขาส่งริมฝีปากร้อนระอุไปที่แก้มนวลใสจากนั้นค่อยๆ ลุกลามมายังเรียวปากอวบอิ่ม

                หอมนวลรู้สึกว่ากำลังถูกดูดวิญญาณ เพราะเรี่ยวแรงที่มีอยู่น้อยนิดหดหายไปในพริบตา เธอแทบหมดลมหายใจใต้ร่างเขา และคงกลายเป็นร่างไร้วิญญาณ มีความรู้สึกเดียวนั่นคือความวาบหวามในเรือนกายจากรสจูบเร่าร้อน มือเล็กดันแผงอกไว้ราวกับเป็นหน้าที่ แต่เรี่ยวแรงที่ส่งไปแทบไม่หลงเหลือจนเหมือนว่าเธอแค่วางมือนั้นไว้เฉยๆ

                เขมราชสับสนในตัวเองไม่น้อย เขาคิดว่าไม่ได้หลงเธอ เพียงแต่อยากจูบไม่รู้เบื่อ เป็นความปรารถนาของชายหนุ่มที่มีต่อหญิงสาวทุกคนตามสัญชาตญาณ ไม่ได้หลงใหลอะไรเป็นพิเศษ เขามั่นใจ ดังนั้นจึงจูบต่อไปโดยไม่คิดหักห้ามใจอะไรอีก

                “อื้อ” หอมนวลรู้สึกเหมือนจะขาดใจตาย เธอจึงเบี่ยงหน้าหลบริมฝีปากกระด้างเพื่อหายใจ แต่กลายเป็นเปิดโอกาสให้เขาได้สัมผัสส่วนอื่นของร่างกายอย่างช่วยไม่ได้

                ร่างบางเริ่มกระตุกเมื่อมือหยาบล้วงเข้าไปใต้เสื้อกีฬาของเธอ และโดยไม่ทันได้ห้ามปราม มือนั้นก็ฉวยโอกาสครอบครองความอวบใต้บราเซียร์สีเข้มโดยไม่ขออนุญาตสักคำ

                “คุณเขมอย่าค่ะ”

                เขมราชถอนริมฝีปากที่กำลังประทับลำคอระหง ดวงตาสีสนิมมองใบหน้าหวานด้วยท่าทางจริงจัง

                “ทำไม ถ้าจะพูดในฐานะผัว ฉันก็มีสิทธิ์นะ และถ้าจะพูดในฐานะคนที่ให้เงิน ฉันก็มีสิทธิ์”

                พูดจบคนที่อ้างสถานะก็ก้มลงจูบซอกคอขาวนวลอย่างถือสิทธิ์ เสื้อโปโลของหอมนวลถูกเลิกขึ้นจนถึงหน้าอก เผยให้เห็นผิวเนื้อนวลเนียนจนเขมราชแทบคลั่งตายเพราะความเป็นชายที่ตื่นตัวจนถึงขีดสุด  

                หอมนวลหายใจหอบ เหนื่อยกับการสะกดกลั้นอารมณ์ไม่ให้หวั่นไหว อดทนอย่างถึงที่สุดเพื่อไม่ให้ความปรารถนาที่อยู่ภายใต้จิตสำนึกถูกปลุกขึ้นมาให้อับอายแก่ชายที่คิดดูถูกเธอทุกขณะ ทว่าเขาก็ไม่เปิดโอกาสให้เธอได้ต่อสู้เลยสักวินาที ปลายลิ้นเรียวแทรกเข้าไปในโพรงปาก เธอใช้ลิ้นดันสิ่งแปลกปลอมออกไป แต่กลับกลายเป็นว่ายิ่งให้ความร่วมมือแก่เขาในการจุดไฟพิศวาสให้ลุกโชน

                เขมราชใจเต้นรัวกับท่าทีใสซื่อที่หอมนวลแสดงได้อย่างแนบเนียนจนเหมือนจริง ทำราวกับเป็นหญิงแรกรุ่นไม่เคยต้องมือชายใดมาก่อน

                แม้รู้แก่ใจว่าเธอแสร้งทำ แต่เขาก็ยังอยากลิ้มลอง ร่างแข็งแกร่งของชายหนุ่มปวดร้าวไปทั้งตัว รู้สึกทรมานกับการอดทนต่อสิ่งยั่วยวนตรงหน้า ซึ่งเขาไม่ควรอดทนอีกต่อไป กายกำยำผละจากร่างขาวนวลเพื่อจัดการกับอาภรณ์ที่เหลือของตัวเอง หอมนวลถดกายถอยหนีทันที แต่ถูกเขาคว้าข้อเท้าเอาไว้ได้ทัน

                “อย่าคิดหนีให้เหนื่อย เธอไม่มีทางหนีฉันไปได้”

                “อย่าทำแบบนี้ค่ะ ถ้าคุณเขมไม่รักหอม”

                “ต้องรักด้วยเหรอ ฉันจำได้ว่าครั้งแรกที่เรามีอะไรกัน ฉันก็ไม่ได้รักเธอ เธอยังยอมเลย”

                คนถูกย้อนหน้าแดงจัด ทั้งโกรธทั้งอาย ถ้าเขมราชเผยให้เห็นถึงความปากเสียของเขาตั้งแต่แรก เธอคงไม่รักเขาเด็ดขาด

                “คนบ้า หอมเกลียดคุณเขม” น้ำตาร่วงทันที หมดคำพูดทุกคำ วันนั้นเธอเจ็บปวดแค่ไหนเขาไม่เคยรับรู้ เธออดทนไม่ให้ตัวเองร้องไห้ออกมา เพราะห่วงว่าเขาจะรู้สึกผิดและกล่าวโทษตัวเอง แต่สิ่งที่เขาคิดกลับเป็นการดูถูกเหยียดหยามเธออย่างร้ายแรง

                “เธอจะเกลียดฉันมันก็เรื่องของเธอ ฉันไม่สนใจ ฉันทำตามหน้าที่ด้วยการจดทะเบียนกับเธอ เป็นผัวเธอตามกฎหมาย เธอก็แค่ทำหน้าที่เมีย หรือถ้าเธออยากเล่นบทนางบำเรอ ฉันก็จะคิดตามราคาที่ฉันจ่ายเธอไป”

                หอมนวลสูดลมหายใจลึกระงับอารมณ์โกรธที่คุกรุ่นภายในไม่ให้ระเบิดออกมา

                “ถ้าตามฐานะสามีภรรยา แค่ทะเบียนสมรสคงไม่พอ ถ้าหากคุณเขมไม่ได้คิดอะไรกับหอม ก็คิดตามจำนวนเงินที่คุณเขมให้หอมเถอะค่ะ หอมยังรู้สึกยินดีมากกว่า”

                “ได้...” เขมราชยังใช้แขนกักร่างบางไว้หลวมๆ ให้เธออยู่ใต้อาณัติเขา “เงินหนึ่งแสนบาท ฉันให้ครั้งละหมื่นแล้วกัน ราคาเท่ากับเลานจ์หรูเลยนะ เธอจะจ่ายฉันหมดวันนี้เลยก็ได้ ฉันไหว” ริมฝีปากหยักกระตุกยิ้ม

                เป็นรอยยิ้มของฆาตกรโรคจิตไม่ผิดเพี้ยน ดวงตากลมโตไหวระริก กลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็นเมื่อคิดตามคำพูดเขา

                “ตะ แต่หอมใช้เงินคุณเขมไปไม่ถึงแสนนี่คะ” เธอพยายามอย่างยิ่งที่จะบังคับเสียงไม่ให้สั่น 

                “ใช้ไปเท่าไหร่”

                “หอมขอไปหยิบเงินที่เหลือมานับก่อนได้ไหมคะ”

                เขมราชแทบพ่นลมหายใจออกมาอย่างสุดเซ็ง เอาเถอะ ถึงเธอจะยื้อเวลาไปอีกก็คงไม่รอดพ้นคืนนี้ไปได้ เขายอมถอนตัวออกจากร่างนุ่มนิ่มอย่างตายใจ

                ทันทีที่เป็นอิสระ หอมนวลรีบจัดการเสื้อผ้าให้อยู่ในสภาพเรียบร้อยแล้วกระโดดลงจากเตียงทันที เธอหมุนตัวไปหยิบเงินในลิ้นชักซึ่งอยู่ห่างออกไปหลายก้าว

                เขมราชยังนอนนิ่งอยู่บนเตียง สายตาจับจ้องทุกการกระทำไม่วางตา

                สามหมื่นสองพัน...

                หอมนวลเบิกตากว้าง เธอใช้เงินไปเกือบเจ็ดหมื่น นั่นเป็นจำนวนเงินที่มากที่สุดเท่าที่เคยใช้มา ผีห่าอะไรดลใจให้เธอกล้าใช้เงินมากเพียงนี้ คงเป็นผีที่ชื่อว่าศักดิ์ศรีกระมัง

                เขมราชมองท่าทีตื่นตระหนกของหอมนวลแล้วถึงกับเผลอยิ้ม เธอมีสิ่งพิเศษที่เป็นอาวุธร้าย นั่นคือความน่ารัก ซึ่งเขาต้องระมัดระวังตัวเป็นพิเศษไม่ให้เผลอใจ

                หอมนวลไม่ต่างจากหญิงชราผู้น่าสงสารที่ขายแอปเปิลอาบยาพิษ เผลอกินเข้าไปเมื่อไร เป็นต้องตายอย่างน่าสังเวช

                ครั้งนี้เขามั่นใจ ไม่ว่าอย่างไรเธอก็เสร็จเขาแน่ในคืนนี้

                ทว่าเขมราชคิดผิดถนัด เมื่อลูกหนี้วางเงินบนตู้หนังสือ แล้วหมุนตัววิ่งเข้าห้องน้ำไปอย่างรวดเร็ว ราชสีห์รีบกระโจนลงจากเตียงเพื่อคว้าตัวลูกแกะจอมเจ้าเล่ห์ แต่ดูเหมือนว่าเหยื่อจะรวดเร็วกว่าผู้ล่า เธอปิดประตูห้องน้ำแล้วกดล็อกทันที

                “เปิดประตูเดี๋ยวนี้” เขมราชทุบประตู

                “ไม่ค่ะ หอมกลัว”

                “แสบนักนะ เธอคิดว่าจะหลบอยู่ในนั้นได้นานสักแค่ไหนกัน ออกมาเมื่อไหร่ฉันจะคิดทบต้นทบดอกเลยคอยดู”

                เขมราชโมโหจนแทบบ้า เขาอยากพังประตูเข้าไปเอาร่างของผู้หญิงเจ้ามารยามาลงโทษให้สาแก่ใจ ซึ่งทำได้ไม่ยากเลยหากคิดจะทำ แต่ไม่ เขามีบทลงโทษที่หนักกว่ารออยู่แล้ว

                พ่อเลี้ยงหนุ่มสะกดกลั้นอารมณ์แล้วล้มตัวนอนบนเตียง เพื่อรอหมูในอวยออกจากที่นิรภัย

                เวลานั้น...เขาจะจัดการเธอให้หลาบจำไปจนวันตาย

 

                แสงอาทิตย์ยามเช้าปลุกพ่อเลี้ยงหนุ่มให้ตื่นจากนิทรา เขาขยับตัวอย่างยากลำบาก เพราะความล้าที่สะสมจากเมื่อคืนทำให้ลืมตาแทบไม่ขึ้น กว่าจะปรับสายตาได้ก็ต้องใช้เวลาหลายนาที

                บนเตียงเดียวกันมีร่างเล็กสวมชุดลายหมีน้อยน่ารักนอนขดอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกับเขา ผมยาวสยายหล่นลงมาปิดบังใบหน้าเกือบครึ่ง หากเป็นเวลาปกติเขาคงเอื้อมมือไปปัดให้โดยไม่ต้องคิด แต่เวลานี้ นอกจากไม่ต้องการแตะต้องกายเธอแล้ว ยังไม่อยากใช้อากาศร่วมหายใจด้วยแม้แต่วินาทีเดียว

                “คนประเภทไหนกัน นอนเตียงเดียวกับผู้ชายที่ตัวเองกลัวได้” เขมราชคิดว่าหอมนวลคงกลัวเขาจนไม่กล้าอยู่ร่วมห้องด้วยแล้ว แต่ไหงยายผู้หญิงจอมมารยาถึงได้มานอนคุดคู้ ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นอยู่แบบนี้  

                พ่อเลี้ยงหนุ่มยกมือขึ้นลูบใบหน้าอย่างคนที่เครียดจัด สามวันนับตั้งแต่เกิดเรื่องเขาใช้สมองหนักมากกับหญิงสาวข้างกาย หากเขาจูงมือเธอไปหย่าเสียเดี๋ยวนี้และตัดญาติขาดมิตรไม่ต้องเห็นหน้ากันอีก ทุกอย่างคงไม่ยุ่งยากอย่างที่เป็น แต่เขากลับยอมรับข้อสัญญางี่เง่าของแม่เลี้ยงมณีแดงหน้าตาเฉยจนกลายเป็นปัญหายืดเยื้อเรื้อรังไม่รู้ว่าจุดจบอยู่ตรงไหน  

                ความปวดหัวแล่นมาเป็นริ้วๆ เมื่อความคิดต่อต้านกันอยู่ภายใน ใจหนึ่งอยากปล่อยเลยตามเลยกับสิ่งที่เกิดขึ้น อีกใจก็สงสารจันทร์นรีผู้ต้องรับความทุกข์แสนสาหัสโดยไม่คาดคิด

                หากเขาปล่อยให้คนผิดใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แล้วมองคนที่ตัวเองรักต้องเจ็บปวด เขาคงเป็นผู้ชายใจหมาเต็มที

                หอมนวลขยับตัวเหมือนรับรู้ถึงภัยที่กำลังมาเยือน หญิงสาวบิดกายไล่ความง่วงงุนอย่างยากลำบากเพราะฤทธิ์แอลกอฮอล์บวกกับเพิ่งได้นอนไม่ถึงสามชั่วโมง เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นช้าๆ ภาพแรกที่เห็นคือผู้ชายใจร้ายที่ทำให้เธอต้องหลบอยู่ในห้องน้ำนานนับชั่วโมง และเวลานี้เขากำลังมองเธอเหมือนราชสีห์จ้องเหยื่อก่อนฆ่าอย่างเลือดเย็น

                “คุณเขม” หอมนวลร้องเสียงหลง ผวาลุกอย่างรวดเร็ว กระโดดลงจากเตียงแล้วถอยจนชิดผนัง หยิบหมอนติดมือมาด้วยหวังเป็นเกราะช่วยกำบัง

                “ฉันไม่ใช่ผี เธอจะกลัวฉันทำไม”

                ‘ไม่ใช่ผี แต่เป็นปีศาจจอมหื่น’ หอมนวลคิดในใจ

                “ฉันไม่ได้พิศวาสเธอขนาดนั้นหรอกนะ ถึงฉันหื่น แต่ฉันก็เลือก”

                หอมนวลอ้าปากค้างกับคำตอบเขา แต่เหตุใดเขาจึงตอบเหมือนกับอ่านความคิดเธอได้ “เมื่อกี้หอมพูดออกไปเหรอคะ”

                เขมราชพ่นลมหายใจออกมา เหลือบมองเพดานอย่างสะกดกลั้นอารมณ์

                “เลิกพูดไร้สาระ แล้วรีบอาบน้ำแต่งตัว เธอต้องไปทำหน้าที่เมีย”

                “หน้าที่เมียอะไรอีกคะ”

                “เมื่อวานเธอเบี้ยวฉันนะ”

                เขมราชดุจนคนที่เชิดหน้าหาเรื่องรีบก้มหลบแทบไม่ทัน เขามองท่าทีหวาดหวั่นโดยไม่รู้สึกสงสารเพราะรู้ดีว่าหญิงสาวฤทธิ์เยอะ เผ็ดเหมือนพริกขี้หนูที่ซ่อนอยู่ในไอศกรีมสตรอว์เบอร์รี

                หวานเย็นแต่เผ็ดร้อน

                เธอแสบจนเวลานี้เขาเริ่มสงสารตัวเองมากกว่าแล้ว

                “ให้หอมทำงานแบบใช้แรงงานเถอะนะคะคุณเขม ถ้าทำแบบเมื่อคืน หอมคิดว่า...” หอมนวลกลอกตาไปมา ไม่กล้าพูดสิ่งที่คิดออกไป

                “คนเป็นเมีย ต้องเก่งทั้งเรื่องบนเตียงและเรื่องในครัว เป็นเมียพ่อเลี้ยงเขมราช นอกจากสองอย่างนี้แล้ว เธอต้องเลี้ยงวัวเก่งด้วย”                         

                เขมราชไม่รอให้หอมนวลได้ตอบหรือถามอะไรอีก เขาเดินหายเข้าห้องน้ำไป ทิ้งให้คนเป็นเมียยืนนิ่ง ใช้สมองที่สภาพไม่เต็มร้อยครุ่นคิดถึงชะตากรรมของตัวเองเพียงลำพัง

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น