1

แพ้หมอ

1

แพ้หมอ


เราทุกคนต่างอยากเป็น ‘ใครคนนั้น’ ของ ‘ใครสักคน’

    เป็นคนสุดท้ายที่เขาคิดถึงก่อนเข้านอน

เป็นคนแรกที่เขาอยากเจอหน้าเมื่อตื่น

    เป็นคนที่ทำให้โลกของเขาสดใส

    เป็นคนที่เขาขาดไม่ได้

    และเป็นคนที่เขาจะไม่มีวันปล่อยมือไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม

    ม่านมุกนั่งเพ้อตามประสาคนโสดหลังจากดูซีรีส์เกาหลีจบตอน

เธออยากจะเป็นคนสำคัญของใครสักคน...แต่ดูเหมือนว่ามีความรักทีไรก็มักจะต้องลงท้ายด้วยความผิดหวังอยู่ร่ำไป

ตั้งแต่มีความรักครั้งแรกตอนอยู่ ม. 3 จนถึงตอนนี้ที่อายุยี่สิบหก ผู้ชายทั้งเก้าคนที่เธอตกหลุมรักล้วนเป็นหมอ แต่มีเพียงสองคนเท่านั้นที่พัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นเป็นแฟนกัน และมันก็จบลงด้วยการที่เธอโดนนอกใจทั้งสองครั้ง

ปาดน้ำตาแป๊บ

นอกนั้นก็คือนก นก และนก แต่นกครั้งไหนก็ไม่น่าเจ็บใจเท่าครั้งล่าสุด เพราะคนที่สอยผู้ชายที่เธอชอบไปก็คือ ‘เพื่อนสนิท’นั่นเอง

เมื่อก่อนแก๊ง ‘สายแซ่บ’ ของม่านมุกมีกันสี่คนคือ พัชนี มทิรา ตุลยา และเธอ

หญิงสาวรู้จักกับพัชนีและมทิรามาตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมต้น ก่อนที่ตุลยาจะเข้ามาสนิทกับพวกเธอทีหลังตอนเรียนมหาวิทยาลัย 

เวลามีเรื่องอะไรม่านมุกและเพื่อนๆ จะเล่าให้กันฟังเสมอ เรียกได้ว่าเวลามีความสุขก็ยิ้มและหัวเราะไปด้วยกัน ส่วนเวลามีความทุกข์ ทุกคนก็จะคอยอยู่เคียงข้างเป็นกำลังใจให้กัน ไม่ปล่อยให้เพื่อนสู้อย่างเดียวดาย 

หลังจากเรียนจบ เธอและเพื่อนๆ แยกย้ายกันไปทำงานคนละที่ พัชนีเป็นเออีของเอเจนซีโฆษณา มทิราเป็นเลขาฯ ของผู้บริหาร ตุลยาทำงานโรงแรม ส่วนม่านมุกเป็นคนเดียวที่ไม่ได้ทำงานประจำ 

อาชีพของเธอคือการเป็นบิวตีบล็อกเกอร์รีวิวเครื่องสำอาง แชร์เทคนิคการแต่งหน้าและการแต่งตัว ความรู้ด้านความสวยความงาม รวมทั้งไลฟ์สไตล์อื่นๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่ม่านมุกชอบและมีความสุขที่ได้ทำ 

ปัจจุบันมีคนติดตามช่องของเธอมากกว่าแปดแสนคน ทำให้หญิงสาวมีรายได้เดือนหนึ่งๆ ถึงหลักแสนเลยทีเดียว

แม้ว่าหลังจากต่างคนต่างทำงาน ม่านมุกและเพื่อนๆ จะไม่ได้เจอกันบ่อยเหมือนสมัยเรียน แต่ความเป็นเพื่อนก็ยังแน่นแฟ้นไม่เปลี่ยน พวกเธอจะนัดกินข้าวกันเสมอเมื่อมีเวลาว่างเพื่ออัปเดตชีวิตของแต่ละคน โดยเฉพาะเรื่องความรัก เพราะฉะนั้นเวลาใครกำลังแอบปิ๊งปั๊งผู้ชายคนไหนอยู่ หรือมีผู้ชายมาจีบ ก็ต้องมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังด้วย เพื่อจะได้ช่วยกันสกรีนผู้ชายให้เพื่อน

    ตอนนั้นม่านมุกกำลังวางแผนจะจีบหมอคนหนึ่ง เธอเล่าให้เพื่อนๆ ฟังว่าเขาเป็นหมออยู่ที่โรงพยาบาลไหน แผนกอะไร พร้อมเปิดอินสตาแกรมคุณหมอให้ทุกคนดู สามสาวต่างก็เอาใจช่วยให้เธอคว้าหัวใจเขามาครองได้สำเร็จ แต่ม่านมุกไม่ได้รู้เลยว่าเพื่อนคนหนึ่งแอบไปอ่อยหมอคนนั้นลับหลังเธอ จนได้หมอมาเป็นแฟน ซึ่งเพื่อนคนที่ว่าก็คือ ‘ตุลยา’

    ม่านมุกรู้ว่าการมีคู่แข่งหัวใจเป็นเรื่องปกติ แต่การที่ตุลยารู้ว่าเธอชอบผู้ชายคนนั้นแล้วยังไปอ่อยเขา มันไม่ใช่สิ่งที่คนเป็นเพื่อนทำกันหรือเปล่า เธอยอมรับเรื่องแบบนี้ไม่ได้ พัชนีและมทิราก็เช่นกัน ความเป็นเพื่อนระหว่างพวกเธอและตุลยาจึงสิ้นสุดลงเพียงเท่านั้น แต่ดูเหมือนตุลยาก็ไม่ได้แคร์ และไม่ได้รู้สึกละอายใจกับการกระทำของตัวเองเลยสักนิด เพราะหลังจากนั้นก็ยังอัปรูปคู่กับหมอลงอินสตาแกรมราวกับจะเยาะเย้ยเธอ 

    เฮ้อ จบดรามาดีกว่าเนอะ เรื่องมันผ่านไปตั้งสองปีละ ตอนนี้ชีวิตเธอแฮปปีดี และก็มี ‘เป้าหมายใหม่’ แล้วด้วย

    ม่านมุกยิ้มหวานเมื่อคิดมาถึงตรงนี้

    “ป่านนี้หมอปรินซ์จะทำอะไรอยู่น้า”

    ตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลเมื่อวานนี้ เธอก็เอาแต่คิดถึงหมอปรินซ์ ไม่ว่าจะทำอะไร ใบหน้าของเขาก็ลอยเข้ามาในความคิดตลอด

    ไม่รู้เหมือนกันนะว่าเขาจะหวั่นไหวกับเธอบ้างหรือเปล่า

    ‘แต่สวยระดับมิสยูนิเวิร์สอย่างเรา หมอปรินซ์ต้องแอบหวั่นไหวบ้างแหละน่า’

    ม่านมุกอวยตัวเองอย่างไม่เคอะเขิน อย่าลืมสิว่าเธอเป็นบิวตีบล็อกเกอร์ ถ้าไม่สวยเป๊ะปัง คนจะติดตามเยอะขนาดนี้เหรอคะ 

    ติ๊ง!

เสียงเตือนจากแอปพลิเคชันไลน์ดังขึ้น เมื่อม่านมุกหยิบสมาร์ตโฟนมาดูก็พบว่าพัชนีที่ส่งข้อความเข้ามาในกรุ๊ปไลน์ของแก๊ง ‘สายแซ่บ’


    Pat : สาวๆ เย็นนี้ว่างไหม ไปร้านลาบจ่าโฮมกัน

    Manmook : เอาดิ กำลังอยากกินอะไรแซ่บๆ อยู่พอดี

    Milk : ไปค่าาา

    Pat : โอเค งั้นเจอกันทุ่มนึงนะ


“ว้าย นั่นหมอเดย์ ยังสตาฟฟ์ออร์โธฯ นี่นา

“เออ จริงด้วย” 

“หล่อ ตี๋ สูง ขาว เร้าใจเว่อร์ อยากได้เป็นแฟนจัง”

“แต่พวกหมอออร์โธฯ เจ้าชู้นะ”

“มันก็ไม่ทุกคนไหม ฉันว่าหมอเดย์ไม่ใช่ผู้ชายอย่างนั้นหรอก”

“แต่ฉันว่าหล่อๆ แบบนี้เจ้าชู้ชัวร์”

“เบาๆ สิแก เดี๋ยวเขาได้ยิน”

“ไม่ได้ยินหรอกน่า”

สองพยาบาลสาวจบใหม่ที่เพิ่งเข้ามาทำงานที่โรงพยาบาลนี้เป็นวันที่สองหยุดคุยกันชั่วคราวเมื่อชายหนุ่มรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อกาวน์สั้นที่พวกเธอเอ่ยถึงกำลังเดินมาทางนี้

    ผู้ชายคนนั้นก็คือ นายแพทย์ดุลยวัต ภัทรไพศาลสกุล ยังสตาฟฟ์ ของแผนกออร์โธปิดิกส์ หรือแผนกที่ให้บริการตรวจรักษาโรคเกี่ยวกับกระดูก ข้อ กล้ามเนื้อ เส้นเอ็น และเส้นประสาทนั่นเอง

    เป็นที่รู้กันดีว่าแผนกออร์โธปิดิกส์เป็นแผนกที่มีหมอผู้ชายมากที่สุด แต่ที่สำคัญไปกว่านั้นก็คือเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของหมอผู้ชายแผนกนี้หน้าตาดีมากกก

    ดุลยวัตก็เป็นหนึ่งในเก้าสิบเปอร์เซ็นต์นั้น ความหล่อของเขาเป็นที่พูดถึงตั้งแต่เข้ามาเป็นเรสซิเดนต์ปีแรก คนไข้ ญาติคนไข้ พยาบาล หรือแม้แต่หมอด้วยกันต่างอยากจับจองเป็นเจ้าของหัวใจเขาทั้งนั้น แต่ดูเหมือนว่าเจ้าตัวจะหวงความโสดอยู่ไม่ใช่น้อย เพราะจนถึงตอนนี้ดุลยวัตก็ยังไม่มีสาวข้างกาย

เมื่อวานนี้พี่พยาบาลที่วอร์ดเอารูปดุลยวัตให้พวกเธอดู และบอกว่านี่คือหมอที่หล่อที่สุดในโรงพยาบาลนี้ ในรูปว่าเขาหล่อมากแล้ว แต่ตัวจริงหล่อกว่าสิบเท่าเห็นจะได้

    “อ้าว เดย์ เย็นนี้ลงเวรแล้วไปไหนหรือเปล่า” หมออีกคนที่หน้าตาดีไม่แพ้กันเอ่ยทักดุลยวัตระหว่างทาง

    “ยังไม่มีแพลนเลยพี่ธรรศ” เจ้าของเสียงทุ้มห้าวตอบ

    “กูกับไอ้ไกด์จะไปร้านลาบจ่าโฮม สนใจปะ”

    “เอาดิพี่ ไม่ได้ไปนานละ”


ร้านลาบจ่าโฮมเป็นร้านอาหารอีสานสไตล์คันทรีที่ตั้งอยู่แถวพระรามเก้า การตกแต่งร้านให้บรรยากาศความเป็นอีสานขนานแท้ ลูกค้าเลือกที่นั่งได้ทั้งโซนเอาต์ดอร์ อินดอร์ หรือจะเป็นห้องคาราโอเกะส่วนตัวทางร้านก็มีให้บริการเช่นกัน ม่านมุกและเพื่อนๆ เลือกห้องคาราโอเกะขนาดเล็กสำหรับสามถึงห้าคนเหมือนทุกครั้งที่มาที่นี่

    บิวตีบล็อกเกอร์สาวอยู่ในชุดเสื้อเอวลอยแขนตุ๊กตาสีขาว ที่แมตช์กับสกินนียีนสีน้ำเงินและรองเท้าส้นสูงสีครีมได้อย่างลงตัว ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนมัดดังโงะสองข้างแบบแบ๊วๆ ซนๆ แต่งหน้าสไตล์สดใส และคอมพลีตลุคด้วยสร้อยข้อมือกับต่างหูน่ารักๆ 

    ส่วนพัชนีและมทิราอยู่ในชุดทำงานแบบสาวออฟฟิศ เพราะพอเลิกงานทั้งคู่ก็ตรงมาที่ร้านทันที

    “รับอะไรดีคะ” เด็กเสิร์ฟสาวถามพลางถือสมุดฉีกและปากการอจดออร์เดอร์

    “เอาตำปูปลาร้าจ้ะ ขอแซ่บๆ เลยนะ แล้วก็หมูแดดเดียวกับไส้อ่อนทอดกระเทียมจ้ะ” พัชนีสั่งเป็นคนแรก

    “เอาคอหมูย่าง ต้มแซ่บเนื้อเปื่อย แล้วก็ยำปลาดุกฟูจ้ะ” มทิราสั่งเพิ่มอีกสามเมนู

    “แล้วก็ตำไทยกุ้งสุก ลาบหมู ซุบหน่อไม้ด้วยจ้ะ” ม่านมุกสั่งปิดท้าย

    “พี่รับเป็นข้าวเหนียวหรือข้าวสวยคะ”

    ม่านมุกหันไปถามพัชนีและมทิรา ทุกคนตอบว่าเอาข้าวเหนียวหมด จึงสั่งข้าวเหนียวหนึ่งกระติบ ซึ่งพอดีสำหรับสามคน

    “มีตำปูปลาร้าหนึ่ง หมูแดดเดียวหนึ่ง ไส้อ่อนทอดกระเทียมหนึ่ง...” พนักงานของร้านทวนออร์เดอร์ที่พวกเธอสั่งอีกรอบ 

    “ตามนั้นจ้ะ” ม่านมุกยกมือขึ้นทำท่าโอเค

“เอ่อ พี่คะ พี่คือพี่ม่านมุกช่องไอ แอม ม่านมุกหรือเปล่าคะ” เด็กเสิร์ฟสาวถามด้วยน้ำเสียงไม่แน่ใจ

    “ใช่จ้ะ น้องติดตามช่องพี่ด้วยเหรอ” รอยยิ้มสดใสพราวไปทั่วใบหน้าจิ้มลิ้มของบิวตีบล็อกเกอร์สาว

    เมื่อรู้ว่าเธอคือม่านมุกตัวจริง เจ้าตัวก็เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “กรี๊ดดด! หนูชอบพี่มากเลย ตัวจริงพี่สวยกว่าในคลิปอีก หนูขอเซลฟีกับพี่ได้ไหมคะ” 

    “ได้เลยจ้า มา! พี่ถ่ายให้” หญิงสาวยื่นมือขอโทรศัพท์มือถือของอีกฝ่าย

    “ขอบคุณค่า เดี๋ยวหนูจะโพสต์อวดเพื่อนว่าเจอพี่ม่านมุกตัวจริง”

    หลังจากเซลฟีเสร็จ ม่านมุกก็ให้เด็กเสิร์ฟสาวเช็กรูปก่อน

    “โอเคไหม ถ้าไม่โอเค พี่ถ่ายให้ใหม่”

    “โอเคค่ะพี่ พี่สวยมากกก ขอบคุณมากๆ เลยนะคะ” ฝ่ายนั้นยกมือไหว้ม่านมุก รอยยิ้มปลาบปลื้มยังคงพราวอยู่ทั่วใบหน้าของเจ้าตัว

    “จ้า ฝากติดตามช่องพี่ไปนานๆ นะ”

    “แน่นอนค่ะ เดี๋ยวหนูรีบเอาออร์เดอร์ไปให้แม่ครัวก่อนนะคะ” เด็กเสิร์ฟสาวเดินออกไปพร้อมสีหน้าดีใจ

    “แหมมม มีแฟนคลับทุกที่ไม่เว้นร้านลาบเลยนะยะเพื่อนฉัน” พัชนีทำเสียงหมั่นไส้ แต่จริงๆ ภูมิใจแทนเพื่อนที่ทำสิ่งที่ตัวเองรักจนประสบความสำเร็จ

    “คนสวยก็งี้แหละค่ะ” บิวตีบล็อกเกอร์สาวยิ้มปลื้ม

    “มั่นหน้าให้ร้อยเลยค่ะอีมุก” มทิรามองแรงเพื่อน

    “ก็พูดความจริง”

    “ค่าาา” เลขาฯ สาวลากเสียงยาวอย่างหมั่นไส้

    “เรื่องอวยตัวเองต้องยกให้มัน”

    สาวๆ แซวกันไปแซวกันมา 

“นี่ มาร้องคาราโอเกะระหว่างรออาหารกันดีกว่า เพื่อนอยากแดนซ์แล้ว” มทิราชวน

“มา! อยากแดนซ์แล้วเหมือนกัน” เออีสาวคว้าไมโครโฟนลุกขึ้นยืน และผายมือไปยังม่านมุก “เชิญคีย์เพลงค่ะเพื่อน”

“ฉันตลอด” แม้จะบ่น แต่ม่านมุกก็เดินไปคีย์เพลงให้เพื่อน

ถ้าคิดว่าพวกเธอจะร้องเพลงของเกิร์ลกรุ๊ปชื่อดังอย่าง Blackpink Twice IZ*ONE หรือ Red Velvet แล้วละก็ ม่านมุกบอกได้เลยว่า...คุณคิดผิด

เพราะแก๊งสายแซ่บอย่างพวกเธอต้อง...

“แพทค่ะ แพทค่ะ หนูชื่อแพท มากับมิลค์ แล้วก็มากับมุก”

“มิลค์ค่ะ มิลค์ค่ะ หนูชื่อมิลค์ มากับแพท แล้วก็มากับมุก”

“มุกค่ะ มุกค่ะ หนูชื่อมุก มากับมิลค์ แล้วก็มากับแพท”

“ลัล ลั้ล ลา ลัล ลัล ลั้ล ลา มา ม้า มา ม้า มา มาออกมาเต้น”

สามสาวแดนซ์สุดเหวี่ยงไปกับเพลง “Super วาเลนไทน์” ของศิลปินวง Super วาเลนไทน์ โดยใส่ชื่อเล่นตัวเองแทนชื่อศิลปินต้นฉบับ จากนั้นก็ต่อด้วยเพลงลูกทุ่งจังหวะสนุกสนานอีกสามเพลงรวด ก่อนจะมานั่งพักเหนื่อยกันบนโซฟา

“นี่พวกแกไปเก็บกดอะไรกันมา เต้นแรงกว่าเจน นุ่น โบว์รวมกันอีก” พัชนีแซวเพื่อนๆ ที่สะบัดหัวกันแบบไม่กลัวหัวจะหลุด

“ก็เพื่อนเครียดนี่คะ ทำงานมาทั้งอาทิตย์ไม่ได้ปลดปล่อยเลย วันนี้ขอหน่อยเถอะ” เลขาฯ สาวว่าพลางยกมือขึ้นมาโบกลมเข้าหน้า

“แกก็ไม่แพ้กันหรอกไอ้แพท” ม่านมุกยิ้มขัน นี่ถ้าพัชนีเอวเคล็ดขึ้นมาเธอจะไม่แปลกใจเลย

“จริงเหรอ นี่ว่าเบาๆ เองนะ” เออีสาวทำหน้าแบ๊ว

“จ้าาา”/“จ้าาาา” ม่านมุกและมทิรากลอกตาพร้อมกันโดยไม่ได้นัดหมาย

“แหม อย่าหมั่นไส้เพื่อนเลย ก็งานมันเครียดนี่นา ถ้าไม่ปลดปล่อยบ้างเดี๋ยวเป็นบ้าค่ะ” พัชนีว่า

เมื่ออาหารที่สั่งไว้มาเสิร์ฟ สาวๆ ก็กินไปเมาท์มอยไป โดยมีเพลงหมอลำคลอ ทำให้ได้บรรยากาศเหมือนกำลังนั่งจกส้มตำอยู่ที่เถียงนาน้อยยังไงยังงั้น

“นี่ ฉันไม่เข้าใจเลยว่าทำไมแก๊งเรายังโสด ทั้งที่แต่ละคนก็สวยแซ่บขนาดนี้” พัชนีเปิดประเด็น

“โสดอย่างมีคุณภาพ ก็ยังดีกว่ามีแฟนห่วยๆ นะยะ” มทิราที่กำลังปั้นข้าวเหนียวออกความเห็น

“ใช่ โสดไม่ได้แปลว่าไม่มีใครเอาสักหน่อย เราก็แค่อยากเลือกสิ่งที่ดีที่สุดให้กับตัวเอง” ม่านมุกอมยิ้มเมื่อนึกถึง ‘สิ่งที่ดีที่สุด’ ที่เธอเลือกแล้ว 

“ยิ้มแบบนี้คือ?” พัชนีหรี่ตามองเพื่อน

“นั่นสิ เมาท์มาค่ะอีมุก” เลขาฯ สาวทำหน้าอยากรู้อยากเห็น

“ก็...” ม่านมุกยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ “ฉันชอบหมอคนนึงอยู่แหละ”

“หมออีกแล้วเหรอ!/หมออีกแล้วเหรอ!” พัชนีและมทิราโพล่งขึ้นมาพร้อมกัน

รีวิวผู้อ่าน

0 ผู้รีวิว

จัดเรียงตาม

ความคิดเห็น